Jump to content


อิ่มอร่อย

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 25 ธันวาคม 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2556 20:53
-----

Posts I've Made

In Topic: ศาสนาศรีอาริย์

6 เมษายน พ.ศ. 2556 - 15:10

คือการอธิบายคุณธรรมของตัวเอง คือเราทำเช่นไรได้เช่นไร นี้คือการอธิบาย ถึงที่มาที่ไปอุบายการปฎิบัติ ทำไมครูบาอาจารย์บอกว่าลูกศิษย์ตถาคตเหมือนแต่ก็ยังสอนแตกต่างกันในแง่อุบาย เพราะท่านปฎิบัติคนล่ะแนว ทำเช่นไร ได้ผลเช่นไรถึงสอนเช่นนั้น การอธิบายด้วยคุณธรรมของเรานี้แหละเพราะเราผ่านมาเรารับรู้ข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้มันอธิบายได้ชัดเจน คุณธรรมที่เรามีคือข้อเท็จจริงที่ต้องพูดเพราะเรารู้เรื่องพวกนี้ดีที่สุด ส่วนจะต้องรู้จักกันยาวนานแค่ไหน อันนี้ผมว่าไม่สำคัญ เรื่องธรรมทานเห็นคนยากไร้ตรงหน้าเรามีเราให้แค่นั้นเอง

ผมว่าไม่ไกลหรอกครับ เพราะคำพูดว่า "เขาอาจ" มันออกแง่ดีได้แง่ร้ายได้ เพราะมันออกได้ทั้งดีทั้งร้ายถึงต้องระมัดระวัง คือระวังไว้ดีกว่าไม่ระวัง จะวัดอะไรก็วัดไปครับคนธรรมดาเช่นเราๆท่านๆมันไม่เท่าไรหรอก แต่กับพระรัตนตรัยน่ะรุนแรง และผมก็เห็นด้วยกับคุณที่บอกว่า "เขาวัดระดับเพื่อป้องกันตัว" ข้อนี้ผมเห็นด้วยครับว่าชัดเจน เจอคนแปลกหน้ามาจากไหนไม่รู้วัดมันก่อนเลยเจ๋งไม่เจ๋ง เพราะกลไกลนี้เป็นปกติของพวกที่มีอุปนิสัย วิตกกังวล เพราะจริตเขาเป็น วิตกจริต ส่วนเรื่องปรามาสอะไรเนี้ย ผมไม่อยากถือเป็นทุกข์ครับ หนักเฉยๆ จะมาเจ็บปวดเพราะคำพูดคนอื่น และผมก็ไม่คิดว่าใครปรามาสเพราะผมคิดในแง่ดีว่า เขาตักเขาเตือน

เรื่องเมตตานี้ ผมใช้ในแง่ความหมายรวมๆแบบเข้าใจง่าย แต่ถ้าจะอธิบายลงย่อยๆผมมีเมตตาให้เบื้องต้นเพราะไม่รู็จักไม่เห็นข้อเสียเขาแล้วกรุณาให้คุณwatหลังจากเขาตอบเขาคำถามผมและอ่านความเห็นของเขาผ่านสายตาในบ้างกระทู้ แต่มุทิตาไม่มีเพราะยังไม่เห็นความสำเร็จที่ควรยินดี และไม่ต้องถึงมุทิตาผมก็วางอุเบกขากับตัวเองเพราะยิ่งพูดคุณwatยิ่งกลับกลอกบอกจะอัปเปหิ ก็กลับมาตอบมาอ่าน มันห้ามความคิด ความสงสัย ความวิตกกังวลไม่ได้หรอก มันจะเป็นจะตายกับโลกธรรม8จนต้องผิดคำพูดขนาดนั้นเลย ที่คุณศึกษามาทั้งหมดมันช่วยให้คุณเห็นโลกตามข้อเท็จจริงบ้างมั๊ย  ที่คุณเอาเรื่องพุทธวัจจะอะไรมาอธิบาย ผมอ่านตั้งแต่สมัยที่พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โดนวัดหนองป่าพงมติตัดสาขาเมื้อ2-3ปีก่อนแล้ว ไม่ต้องยกประกอบหรอกครับไม่ใช่ว่าผมไม่ศึกษา  ทุกคนก็คิดเสมอแหละครับว่าตัวเองถือเพชร แล้วเพชรที่ถือในมือ มันช่วยอะไรคุณบ้าง? แค่สติก่อนจะพิมพ์ก่อนจะพูดยังไม่ไ่ด้เลย กับคำพูดตัวเองพูดไปยังรักษาไม่ไ่ด้เลย พิจรณาใหม่เถอะครับ ความเมตตามันไม่ทำร้ายใครหรอกครับ น้ำร้อนปลามันเป็นน้ำเย็นตะหากที่ปลามันตาย ปรามคนผิดดีกว่าไปเออออด้วย ส่วนเรื่องจะหยุดให้ความเมตตา มันเป็นอารมณ์ปกติครับ ผมมองเห็นเป็นมิตรหมด โดยส่วนตัวผมชอบคนตำหนิ ยิ่งแรงๆยิ่งชอบ กิเลศและความผิดที่เราไม่เห็นเมื้อมีคนเห็นคนแนะนำ ขอแรงๆเลยครับ ผมก็เข้าใจน่ะครับว่าคนไม่เหมือนกัน และก็เชื่อคุณterบางคนแนะนำไม่ได้เยอะแยะมากกกก 


In Topic: ศาสนาศรีอาริย์

4 เมษายน พ.ศ. 2556 - 09:24

1.ตอนแรกมั่นใจไม่มากหรอกครับเพราะเห็นลางๆจากการอ้างพุทธวัจจนะเยอะมากเพราะการอ้างคุณธรรมผู้อื่นเยอะไปแบบนี้มันแสดงถึงความไม่มีคุณธรรมในตัวเองพอที่จะกล้าพูดว่า เราปฎิบัติมาเช่นนี้ เราได้เช่นนี้ แม้ไม่ถึงอริยะบุุคลแต่ก็มีคุณธรรมประจำตัว หรือการใช้คำพูดสงสัยไม่กี่คำให้คนอื่นอธิบายเป็นหน้ากระดาษแถมภายหลังยังบอกด้วยว่าที่ถามแค่วัดว่าแค่ไหนเพราะตัวเองยึดมั่นในแนวทางปฎิบัติอยู่แล้ว จะถามคำถามนี้เพื่ออะไรที่เป็นเป็นประโยชน์กับตัวเองหรือเปล่า คำตอบคือไม่เป็นประโยชน์ นี้แหละครับแขนขาด เพราะข้อเสียใหญ่หลวงที่มีในตัวไม่เห็นแต่ไปเห็นสิ่งอื่นทำสิ่งอื่นแก้สิ่งอื่น

2.อาการแบบนี้เคยเป็นมาก่อนครับเพราะผมก็เป็นวิตกจริตเหมือนกันสมัยอ่านพระไตรปิฏกแต่ไม่ปฎิบัติ พวกอ่านเยอะรู้เยอะ เอาเข้าแต่ไม่เอาออก มันเลยพอกพูนเป็นตัวเราว่าเราถูกเสมอ แต่นี้มันอันตรายเกินไปมากเพราะลามปามไปเยอะ เช่น กรรมฐานคือฐานที่ตั้งแห่งการงาน เช่นการทำไร่ ทำนา ต่อไปเข้าจะไม่เข้าใจเหรอว่าพระกรรมฐานคือพระที่ มั่วแต่อยู่ในฐานที่ตั้งแห่งการทำงานเช่นพวกทำไรทำนา หรือที่บอกว่าเฉพาะพระสุปฎิปันโน อันนี้ก็หนัก เพราะปุถุชนเข้าใจกัลยาณปุถุชนไม่ไ่ด้หรอกครับ หรือกัลยาณปุถุชนก็ไม่เข้าใจอริยภูมิแน่นอน เพราะฉะนั้นหากไม่สุปฎิปันโนมีหรือจะเข้าใจสุปฎิปันโนด้วยกัน เหมือนบางคนศีล5ไม่ครบ ศีล8ไม่ได้ จะเข้าใจสุปฎิปันโนของพระสงฆ์ได้เช่นไร ตรงนี้แขนขาดแน่นอนครับ จะสุ่มเสี่ยงต่อการปรามาสพระรัตนไตรในพระสงฆ์เป็นอย่างมาก ผมแก้อาการพวกนี้ด้วยความสงบของใจและโอปนยิโกมากขึ้นรวมถึงการกำหนดข้อเขตวินัยของความคิด

3.ผมว่าความเมตตาไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้อื่นร้องขอ

 เรื่องครูบาอาจารย์น่ะครับตรงนี้เป็นเรื่องความเห็นทางโลก เช่นพ่อท่านลีท่านให้เปลือกของศาสนาเช่นพระเครื่องกับคนที่ไม่ทำตัวอยู่ในศาสนาเพราะท่านอยากให้ติดดี ดีกว่า ติดชั่ว นี้เป็นความเห็นของท่าน ส่วนหลวงพ่อชาหลวงตามหาบัว ท่านไม่สร้างไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น บางองค์จึงให้แต่แก่นอย่างเดียวก็มี แต่ท่านจะให้อะไรยังไงเป็นความเห็นของท่านเพียงแต่เจตนาท่านดี เข้าใจครับว่ากายกับจิตคนล่ะส่วน  แต่จะบอกว่าที่พูดออกมาทั้งหมดไม่ไ่ด้มาจากจิตคิดเลยเหรอครับ


In Topic: ศาสนาศรีอาริย์

2 เมษายน พ.ศ. 2556 - 09:26

ผมแย้งตรงนี้น่ะครับ เมื้อมีคนแขนขาดเดินมาถามหายาพารา คุณจะหยิบยาพาราให้เพื่อให้เขาคลายความต้องการในยาพาราหรือหยิบผ้าเข็มด้ายมาทำแผลให้เขา การถามแนวความคิดนี้แหละคือต้นเหตุแห่งการทะเลาะวิวาทเพราะย่อมค่อนข้างจะมีการเทียเคียงและยิ่งกล้าพูดว่าถามว่า แค่ไหน นี้แหละคือการเอาอัตตาตัวตนมาตั้งมาเตรียมวัด ไม่ใช่การพูดการถามแนวคิดจะพูดจะถามไมไ่ด้น่ะครับถ้าพร้อมจะถามพร้อมจะแก้ไข  แต่เพราะการให้ค่าตัวเองสูงตลอดจนลืมดูข้อผิดพลาดตัวเอง เหมือนอย่างที่คุณterตำหนิผมเรื่อง พูดถึงพระศรีอาริยะว่าไกลไปแต่ผมก็ยืนยันว่าไม่ไ่ด้สนับสนุน แต่ตัวคุณterยังใช้คำว่า มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล เหมือนกับคุณสอนผมให้รีบข้ามโคตรภูญาณซ่ะ แต่คุณเองยังปราธณาอะไรที่ยาวนานมากกว่าพระศรีอาริยะเสียด้วยซ้ำ  การพูดถึงศาสนาพุทธในมิติของ ประวัติศาสตร์ ศิลป ยาวกี่โยชน์ สูงกี่ศอก นานกี่กัล์ปจึงเป็นเพียงเปลือกเพราะแก่นของศาสนาพุทธอยู่ที่จิต เพราะจิตเป็นตัวทำให้เกิด การพูดถึงแก่นจึงเป็นการรักษาศาสนาพุทธให้ยาวนานที่สุด ผมพึ่งเห็นคุณนี้แหละครับที่ตำหนิคนสอนแนะแนวทางการปฎิบัติว่าไม่ถูกไม่สมควรจะแนะนำ 


In Topic: ศาสนาศรีอาริย์

30 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 07:24

คุณterครั้บ ผมไม่ได้ระบุเลยน่ะครับว่าเชิญชวนให้ไปรอพระศรีอาริยะสักนิด ผมอธิบายการบรรลุธรรมง่ายในสมัยนั้นแต่การจะไปเกิดกับพระศรีอารียะก็ต้องมีบุญวาสนากับท่าน คือต้องมีบารมีตามท่านมากพอสมควร และในบทอธิบายต่อมาก็ชัดเจนว่า เวไนยสัตว์บรรลุธรรมได้ทุกสมัย แล้วตรงไหนเชิญชวนคุณไปเกิดในยุคพระศรีอาริยะ ส่วนเรื่องสมถสมาธิที่สอนไป ผมย้ำครับว่าสอนไม่ไ่ด้คุยข่ม ผมเห็นจุดบกพร่องเห็นอัตตาที่ชัดเจนในคำพูดคำถามสาเหตุเนื่องจากการขาดสมาธิ เพราะอุปนิสัยเป็นวิตกจริต จึงแค่อ่านคิดและคิดไม่หยุดคิดซ้ำคิดซ้อนไม่ลงมือจึงไม่มีข้อเท็จจริง เพราะจิตกับความคิดไม่ใช่ตัวเดียวกัน จึงสามารถทำให้จิตเห็นความคิด เห็นการเกิด ดับ และหากตามเข้าไปจะเห็นช่องว่างของการเกิดดับยาวขึ้น จะเห็นว่าความคิดนี้มาจากข้อมูลของจิต มาจากการรับรู้ข้อมูล เช่นมีความคิดโกรธผมเพราะรับรู้ข้อมูลว่าผมตำหนิเขาเพราะอยากให้เขาเสียหน้าชี้จุดผิดพลาดต่อหน้าคนมากมาย แล้วต่อมาความคิดโกรธหายไปเพราะได้รับข้อมูลใหม่ว่าที่ผมแนะนำไปเป็นการสอนการชี้น้ำ สมถกรรมฐานอาณาปานสติมีความเป็นกลางสบายง่ายสำหรับคนเป็นน่ะครับลมหายใจเดียวก็ยาวเบาสบายได้และแก้ วิตกจริตโดยตรง ผมจึงเพิ่มคำบริกรรมพุทธโธเพราะเป็นพุทธานุสสติให้สมกับคำว่าพุทธวัจจะนะมากขึ้น และการที่เขาฟุ้งซ่านในความคิดยิ่งต้องใช้คำบริกรรรมตัวอย่างน่ะครับ เช่นตั้งใจภาวนา1ชัวโมงเราภาวนาพุทโธเราไม่เผลอเลย เราไม่ขาดเลยในคำภาวนา แบบนี้จิตจะพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ จนเป็นสมาธิจริง เป็นวิปัสนาจริง อัตตาตัวตนลดลงเรื่อยๆเพราะเห็นตามข้อเท็จจริง  ผมทำด้วยเมตตาน่ะครับสไตล์สอนของผมจี้ให้เห็นในจุดที่เขาไม่เห็นในจุดที่เขาคลุกคลีแต่เห็นเพียงคุณประโยชน์ผมจะชี้จุดเป็นโทษเป็นภัย สิ่งที่เห็นอาจไม่ไ่ด้เป็นอย่างที่คิด สิ่งที่คิดมาจากข้อมูลของจิต  การคุยข่มมีประโยชน์อันใดในโลกอินเตอร์เนท ชื่อเสียงแม้ในโลกจริงก็จอมปลอมพอแล้ว อกุศลในจิตแม้น้อยนิดก็ต้องพึ่งนะวัง แต่ธรรมทานที่มอบให้เป็นบุญกุศลติดตัวผู้ให้เป็นของกำนัลชั้นดีติดตัวผู้รับหากรับเอาไว้ ส่วนคำตำหนิผมก็รับไว้น่ะครับ


In Topic: ศาสนาศรีอาริย์

29 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:57

ลองถามดูแนวความคิดแค่นั้นแหละขอรับ... ว่าแค่ไหน... ฮี่ๆๆ ......อยากทราบว่าตรงนี้หมายถึงอะไร คำว่าแค่ไหนคือการวัดหรือเปล่า ใจเย็นๆน่า คุยเรื่องธรรมหัดยอมรับข้อเท็จจริงหน่อย พึ่งพูดไปหยกๆไม่กี่ข้อความทำเป็นลืม เฉลยเองนี้ครับว่าตัวเองเป็นไม้บรรทัดวัดคนอื่น เพราะคุณก็ยอมรับเองน่ะครับว่าถามดูแนวความคิดผมว่าแค่ไหน นี้ผมคุยด้วยเมตตาน่ะครับ ชี้ในจุดที่คุณมองไม่เห็นและทำเป็นลืม