หลงฮู้เช็ง

นอกเหนือไปจากความดื้อด้านดึงดันของคณะกรรมการ ที่เอื้อให้บทกวีผิดกติกาชิ้นนี้  ที่มีถึง 14 บท กับอีกสองวรรค  ทั้งๆ ที่กติกา

ระบุไว้ว่าให้มีได้ไม่เกินสิบสองบท   แต่คณะกรรมการกลับดื้อตาใส  เถียงว่าไม่ยึดรูปแบบฉันทลักษณ์  ทั้งๆ ที่บทกวีชิ้นนี้ผิดกติกา

ไม่ใช่ฉันทลักษณ์แต่ประการใด   และไม่ควรจะได้รับอนุญาตให้เข้ารอบตั้งแต่ต้นแล้ว  ยังอุตส่าห์ยัดเยียดผลงานเข้าไปประชุมกัน

ได้ตั้้งสองครั้งสามครั้ง  ด้านกันแท้ๆ  มิหนำซ้ำยังอวยกันเองเสียราวกับว่าบทกวีชิ้นนี้มันเลิศเลอเสียเต็มประดา  ทั้งๆ ที่ไม่ต้องถึงระดับกวี  

เอาแค่คนไทยอ่านหนังสือแตก อ่านบทกวีนี้จบก็จะรู้ทันทีว่ามันห่วยแตกราวกับกวียังเรียนไม่จบระดับมัธยมศึกษา ยังอุตส่าห์แค่นให้รางวัลกันได้  

เริ่มอ่านบทแรก  กวีก็วางตำแหน่งคำไม่เป็นในวรรคสอง แทนที่จะใช้สุดต่ำเตี้ย  กลับไปใช้คำว่าต่ำเตี้ยสุด อ่านแล้วสะดุดตั้งแต่แรกเริ่ม

เหมือนออกรถเข้าเกียร์หนึ่งแล้วกระตุกตะกุกตะกัก   บทต่อมาวรรคสอง "สัจธรรมธรรมดาอย่าสับสน"  แปลว่าอะไร?  บทกวี 

วรรคนี้ เหมือนจะเติมมาให้ครบคล้องจอง จับใจความอะไรไม่ได้  เนื้อหาสาระ ไม่สอดคล้องกับวรรคอื่นๆ ในบทสักนิดเดียว

บทที่สามวรรคแรก กวีก็กลอนพาไปอีก  เรื่องมันเศร้าพิกลคนที่รัก .. คำว่าคนที่รัก หมายถึงใคร? หมายถึงคนนอกกระดานหรือ

อ่านแล้วยังคลุมเครือต้องตีความ กวีไม่สามารถเน้นแยกเด่นชัดให้ผู้อ่านเข้าใจชัดเจนได้ในคำที่ตัวเองยกมาได้ จึงกลายเป็น

เสมือนจะยกคำมาดุ่ยๆ ให้สัมผัสกับคำว่าพิกลแค่นั้น  ยิ่งไปกว่านั้น  กวียังสับสน ว่าการออกนอกกระดาน นั้นมันเหนื่อยกว่า

หรือมันสบายกว่ากันแน่  บทเดียวกันแท้ๆ วรรคที่สอง กวีบอกว่านอกกระดานนั้นเหนื่อยนัก  แต่พอวรรคที่สี่ มาตั้งคำถามเสียแล้ว

ว่าเอาตัวออกนอกกระดานได้อย่างไร  เปิดตำราเล่มไหน  หรือกวีจะประชดประชันว่าการเอาตัวออกนอกกระดานนั้นมันเป็นการ

ปลีกตัว ปล่อยให้เบี้ยที่อยู่ในกระดานตายซับตายซ้อนศพถมกัน  ...อนึ่ง คำว่าศพคนตาย ที่กวีหยิบยกมาใช้ ก็แสดงให้เห็น

ว่ากวีไม่มีความแตกฉานด้านภาษาไทยแต่อย่างไร  สิ่งมีชีวิตเมื่อสิ้นชีวิต ร่างที่หลงเหลือก็กลายเป็นซาก จะศพสัตว์ ศพคน

ก็ไม่ต้องไปเน้นว่าศพสัตว์ตาย ศพคนตาย .. วรรคสุดท้าย ศพเบี้ยที่ไร้ค่าสายตาคุณ ก็ผิดหลักภาษาไทยอีก เพราะมันไม่ได้

ความหมายอะไร เป็นคำนามซ้อนคำนาม หากใช้คำว่าศพเบี้ยที่ไร้ค่าในตาคุณ มันจึงจะมีความหมาย  

..  อ่านได้ไม่กี่บทเท่านี้ก็เพลียใจ  ในระดับปัญญาชนคนแดงเถือก  เลือกคัดจัดสรรมาแล้วแก้วกวี เพื่อรับรางวัลทรงเกียรติคุณ

พร้อมเงินสมนาคุณ  ยังจะห่วยแตกได้ปานนี้  แถมการตัดสินให้รางวัล ยังสะท้อนความเป็นประชาธิปไตยแบบกุมีอำนาจ กุจะ

ตัดสินจากผิดกติกาให้เป็นถูกกติกาใครจะมาว่าอะไร  ใครแย้งก็โดนไล่ให้ไปอยู่อีกฝั่งอีกฝ่าย มันช่าง 'แดง' ได้ถึงใจแท้ๆ 

เจ้าประคุณเอ๊ย !!!

จะแขวะยังไงก็แขวะ  ..แต่อย่ามาท้าอาจารย์ให้ประท้วงวิธีเดียวกับที่ตนเองทำเรื่องอากงก็แล้วกัน

คนเขาเป็นผู้ดีมีสกุล  ดูออกได้จากรัศมีใบหน้า  ไม่ใช่ไพร่สถุลที่ถ่อยเถื่อนไปทั้งหนังหน้าและ

หนังนมจนยู่ย้วยดำเหี่ยว สองข้างห้อยตุงดังถุงตะเคียว  ทำไมไม่จารร่ายยาวประวัติศาสตร์อากง

บนเต้าไปเลยล่ะ ยานอย่างนั้นลงข่าวหนังสือพิมพ์ได้ทั้งฉบับเชียว

หากฉลาดจริง คงจะสวนกลับมาได้ทันควันแล้วครับ  นี่รอจนเค้าถากไปจนแผลตกสะเก็ดแล้ว  

ไม่ทราบว่าลิ่วล้อเพิ่งคิดมุกออกมาได้หรือเป็นเพราะกว่าเธอว์จะท่องจำได้ ก็หมดเวลาไปนานโข  

http://www.thairath....tent/edu/369683

 

ไม่ใช่ทุกคนจะได้ใส่! 'อ.เมย์'แจงรูปชุด นศ. ให้เห็นคุณค่าชีวิตมหา'ลัย

 

 

จากกระแสเรื่องชุดนักศึกษา ที่เริ่มต้นจากโปสเตอร์หวือหวาของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คนหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อเรียกแทนตัวเองว่า “อั้ม เนโกะ” ต่อต้านการใส่เครื่องแบบ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางกันในสังคม

ล่าสุดบนโลกโซเชียลมีเดีย มีกระแสฮือฮาเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีผู้โพสต์รูปของหญิงสาว 2 คน สวมชุดนักศึกษาเต็มเครื่องแบบ พร้อมคำบรรยายใต้ภาพว่า “อาจารย์กุ้ง-อาจารย์เมย์” (ซ้าย-ขวา) อาจารย์สาขาประชาสัมพันธ์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นหลากหลายทั้ง นักศึกษาและอาจารย์

ล่าสุด ข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้ตรวจสอบจนทราบว่าหญิงสาวที่ปรากฎในภาพ คือ นางสาวประไพพิศ มุทิตาเจริญ หรืออาจารย์เมย์ และนางสาวญาณิศา บุญประสิทธิ์ หรืออาจารย์กุ้ง โดยทั้งคู่เป็นศิษย์ ที่ได้มีโอกาสกลับมาเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อาจารย์เมย์  จบปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต รุ่น 2533 เปิดใจกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถึงที่มาของภาพถ่ายดังกล่าวที่เข้ากับกระแสสังคมในขณะนี้อยู่พอดีว่า เป็นภาพที่ถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2556 ที่ผ่านมาแล้ว ในช่วงวันไหว้ครู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่คณะวารสารฯ จัดขึ้น

 

“ในช่วงนั้น เราได้พูดคุยกันในคณะว่าจะหากิจกรรมอะไรดี เพื่อมาสร้างสีสันในวันครู ซึ่งได้มีการเสนอเรื่องของการให้อาจารย์ใส่ชุดนักศึกษา เนื่องจากว่าพวกเราที่เป็นอาจารย์ หลายคนก็เป็นศิษย์เก่าที่นี่ เวลาที่เรามองเห็นนักศึกษาใส่ชุดเครื่องแบบ รู้สึกว่าน่ารัก อาจารย์ในคณะประมาณ 4-5 คน จึงได้ตกลงกันว่าจะนัดกันใส่ชุดนักศึกษาเพื่อมาร่วมกิจกรรมพร้อมกับเด็กๆ ในวันไหว้ครู  เป็นเหมือนการลดช่องว่างระหว่างกัน และเป็นการสื่อสารรูปแบบหนึ่งที่จับต้องได้ ไม่ทำให้เด็กๆ คิดว่าเราเป็นอาจ๊ารย์-อาจารย์  โดยได้นำรูปลงแฟนเพจของคณะช่วงนั้นด้วย” 

หลังจากนั้นหลายเดือนผ่านไป  เมื่อมีกระแสเรื่องของชุดนักศึกษาของ “อั้ม เนโกะ” เกิดขึ้น ทำให้นึกถึงรูปที่ถ่ายไว้ในช่วงวันไหว้ครู จึงนำมาโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีนักศึกษานำไปแชร์ส่งต่อกัน  ซึ่งอาจารย์เมย์ยืนยันว่าสิ่งที่ทำมีเจตนาเป็นแง่บวก เป็นการโพสต์รูปแบบขำๆ ไม่ได้ตั้งเป็นแคมเปญรณรงค์การเมือง อย่างที่มีบางเพจบนโลกโซเชียลมีเดียนำรูปดังกล่าวไปตีความในมุมลบ

“หลังจากที่ได้ทราบข่าวเรื่อง อั้ม เนโกะ สำหรับตัวเองนะมองว่าเป็นการแสดงออกความเห็นส่วนตัว  ที่ทุกคนสามารถเห็นต่างกันได้ ไม่ใช่ เรื่องผิด-ถูก เพราะบางครั้งการจะใส่หรือไม่ใส่ชุดนักศึกษา หากจะต้องถึงขั้นบังคับกัน อาจารย์ก็ไม่เห็นด้วย คงต้องขึ้นกับความเหมาะสมด้วย เช่น บางวิชาที่เป็นกิจกรรม หากใส่ชุดนักศึกษาไปอาจจะไม่เอื้อต่อการเรียนการสอน"  

“แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ในฐานะที่ตัวเองเคยเป็นทั้งศิษย์เก่า และปัจจุบัน ก็เป็นทั้งรุ่นพี่และอาจารย์  สิ่งที่รู้สึกได้และอยากบอกกับรุ่นน้องคือ ชุดนักศึกษาเป็นชุดที่ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสได้ใส่ และคงจะไม่สามารถใส่ไปได้ทั้งชีวิต  ช่วงเวลา 4 ปี ในรั้วมหาวิทยาลัย มันเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำมากๆ  เพราะเมื่อพ้นจากสภาพการเป็นนักศึกษา เราก็จะไม่มีโอกาสได้ใส่เครื่องแบบนี้แล้ว"

 

“...ตอนสมัยตัวอาจารย์เอง  จำได้เลยว่าใส่ชุดนักศึกษามาเรียนทุกครั้ง เพราะรู้สึกว่าไม่ต้องคิดมากว่าเอ๊..วันนี้จะใส่ชุดอะไรไปเรียนดี  แต่ อาจจะด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป บางครั้งอาจจะทำให้บางคนรู้สึกว่าถูกบังคับ ก็เข้าใจนะคะ แต่ในแง่ของกาลเทศะ ครั้งหนึ่งเมื่อเรามาอยู่ในวัฒนธรรมบางอย่าง ก็ควรที่จะลองมีส่วนร่วมกับสิ่งดีๆ ที่เค้าทำกัน... อาทิตย์ละ 1-2 วัน ลองใส่บ้าง ก็น่าจะได้ความรู้สึกของการเป็นนักศึกษาเต็มที่ แต่ถ้าไปมองเรื่องสิทธิเสรีภาพ บางเรื่องมันก็คงไปไกล อาจจะทำให้เราทุกข์กับชีวิตเกินไป...”

“ที่อยากฝากไว้ให้รุ่นน้องคือ ไม่อยากให้มองกลับไปแล้วรู้สึกเสียดายที่ไม่เคยได้ใส่ชุดนักศึกษาเลย เพราะเรามีเวลาแค่สั้นๆ เท่านั้น และคงจะไม่สามารถเรียกเวลานั้นกลับมาอีกได้...ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่บุคคลจะ คิดอย่างไร  แต่การทำให้ถูกตาม “กาละ” และ “เทศะ” น่าจะดีต่อตัวเราเองและสังคมที่เราเป็นส่วนหนึ่งด้วยค่ะ” อาจารย์เมย์กล่าวทิ้งท้าย

เปรียบเทียบกับอั้ม เนโกะ  ผู้ยังเรียนอยู่แค่ปีสอง .. อาจารย์แต่งชุดนี้เดินในมหาลัย ยังดูเป็นนักศึกษา กว่าอั้ม เนโกะ เสียอีก

 

 

 

คนมีเงินน้อย กินตามน้อย  คนมีเงินมาก ก็มีสิทธิเลือกกินได้มาก

 

คนตั้งใจเรียนเห็นความสำคัญของการศึกษา หรือคนที่ขยัน  มักจะมีทำอาชีพที่รายได้ดี ไม่เป็นปัญหาสังคม

 

คนไม่สนใจการเรียนไม่สนใจการศึกษา หรือพวกขี้เกียจ  มักมีอาชีพที่รายได้น้อย ส่วนใหญ่จะทำตัวเป็นปัญหาต่อสังคม (แต่คนดีๆก็มี ขึ้นอยู่กับการทำตัว)

 

อยากเป็นคนแบบไหนเราเลือกได้  จะได้ไม่ต้องมาอิจฉากันเวลาเห็นคนอื่นเค้ากินของดีๆ

 

 

แต่ทุกคนมี่สิทธิที่จะเริ่มกินอาหารราคาถูกไปจนราคาแพง ตามกำลังทรัพย์ของตน 

เพราะฉนั้นคนรวยคนมีตังค์เค้าจะกินจะดื่มอะไรมันเรื่องของเค้า 

เค้าตั้งใจเล่าเรียนมา หรือคนที่เค้าขยัน  ทำไมเค้าจะกินของแพงไม่ได้ นั่นคือรางวัลอันสุจริตของการทำดี 

เค้าให้รางวัลตัวเองด้วยเงินในกระเป๋าของเค้าเอง ผิดตรงไหน

ขอเพียงอย่าไปลักขโมยหรือโกงใครมา เท่านั้นเป็นพอ

 

ประเด็นคือ สิ่งที่คนมีสติเค้าคาดหวัง (ไม่ว่าจะคนรวยหรือคนจน) คือแค่ให้เงินที่เสียไปนั้นมันคุ้มกับสิ่งที่ได้รับกลับมาก็พอ  แต่ตอนนี้มันเหมือนจะไม่ใช่นะครับ

เราเผชิญกับค่าครองชีพอยู่ ใครไม่รู้สึกก็บ้าแล้ว

 

 

ผมกำลังบอกว่าค่าครองชีพมันสูงขึ้นตามเงินเฟ้อ รายได้อยู่แล้วครับ มันเป็นธรรมชาติของมัน

 

แต่ที่มันเป็นปัญหามากสำหรับคนไทยและหลายๆ ประเทศก็คือของฟุ่มเฟือยอย่างโทรศัพท์มือถือมันไปดูดซับกำลังซื้อของคนรายได้ต่ำรสนิยมสูงให้หายไป

 

หากเราสามารถทำให้คนเหล่านั้นหยุดใช้ของฟุ่มเฟือย กำลังซื้อของเขาก็จะกลับมา

ข้าวแกงราคา 40 บาทไม่ใช่ปัญหาเลย

 

ลองไปคิดดู

 

 

โถ ๆ ๆ ๆ ๆ คิดได้แค่นี้ก้อไปตายซะ ไอ้กากลี

 

ปัญหา คือ ของแพง แต่ รบ กลับ บอกว่า ของไม่แพง

 

แถมยังไม่ได้ช่วยทำให้ค่าครองชีพลดลง

 

ในทางกลับกัน กลับไปยิ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก

 

ไม่ว่าจะค่าทางด่วน ค่าแก๊ส ค่าไฟ 

 

ซึ่งมันต้องใช้ ต้องกิน 

 

ทางด่วนโอเค มันสำหรับคนรวย

 

แต่ค่าแก๊ส ค่าไฟ ละ ไหนจะค่าน้ำมันที่ขึ้นเอา ๆ 

 

ทำไม รบ ไม่ช่วยให้ค่าอะไรเล่านี้ลดลง ละว่ะ

 

แค่นี้คิดไม่ได้ก้อไปตายซะ ไอ้กากลี

 

 

 

พอลคุง

ที่เขาบอกว่าไม่แพงคือเมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยของคนทั้งประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นมาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ไม่ได้หมายความว่าราคาของมันไม่เปลี่ยนแปลงเลย

คุณจะให้เขาขายข้าวแกงราคา 30 บาทไปตลอดได้ยังไงครับ???? 

 

เศรษฐกิจมันโตขึ้น รายได้ (ค่าจ้าง) เพิ่มขึ้น สินค้าก็ต้องราคาสูงขึ้นไปด้วยเพื่อให้ทั้งสังคมมันเคลื่อนไปข้างหน้าพร้อมกัน ถูกต้องแล้วครับ

ปัจจุบันเงินเฟ้อของไทยเรียกว่าต่ำมากๆ แสดงให้เห้นว่าสินค้าราคาไม่ได้สูงขึ้นเกินกำลังซื้อของคนไทยเลย

แต่มันถูกดูดซับไปโดยโทรศัพท์มือถือ ค่าโทร ค่า 3G ฯลฯ 

 

มันจึงทำให้กำลังซื้อของคนไทยลดลงเกินกว่าที่มันควรจะเป็น

 

อย่าไปหลงประเด็น เรื่องกำลังซื้อน้อยขึ้นหรือลดลงเลยครับ   สิ่งที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ คือค่าครองชีพพื้นฐานที่ทะยานขึ้น

นับตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศ  จากข้าวแกงจานละยี่สิบห้า ขึ้นเป็นสี่สิบบาท  พุ่งพรวดขึ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลา

ไม่ถึงสองปี  สินค้าอุปโภคบริโภคตัวหลักๆ  สูงขึ้นทั้งนั้น  ทั้งนี้เพราะรัฐบาล ประกาศให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำพรวดเดียวเกือบเท่าตัว

โดยไม่ได้สนใจถึงผลกระทบที่ตามมาว่าจะมีใครตกงาน ใครเจ๊ง ใครล้มละลาย ฯลฯ  ทำไมประเทศอื่นๆ ในโลกนี้ เขาก็มีโทรศัพท์

มือถือ  มี 3G กันเกือบทุกประเทศแล้ว ประชาชนต้องมาอดทนกับค่าครองชีพที่พุ่งพรวดพราดอย่างนี้ไหม  

เป็นที่น่าสังเกต  ว่าคนที่มาบ่นเรื่องข้าวแกง 40 บาท นั้นเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนไปได้ คนพวกนี้

อยู่ในวัยทำงาน เสียภาษี ทั้งทางตรงและทางอ้อม  แต่ไหนแต่ไร  คนกลุ่มนี้ ไม่เอาเรื่องเอาราวกับความเป็นไปของประเทศ 

ทำตัวเป็นมนุษย์เงินเดือน  ได้มา จ่ายไป ขาดวินัยในการออม  จับจ่ายตามกระแส คำว่าดัดจริตชน  ไม่น่าจะใช้ได้กับคนกลุ่มนี้เลย  

แต่น่าจะเป็นคนรุ่นก่อนหน้านี้มากกว่า  

ผมรู้สึกว่างานนี้โง่กันทั้งต้นน้ำจนถึงปลายน้ำนะ  โดนอภิสิทธิ์กรีดไปหนึ่งรอบแผลยังซิบๆ  ยังจะทำมีดบาดตัวเองเอง  

หรือจะเป็นเพราะ "ตั้งเจ็ดป่าช้า" ...

เลยทำให้อยู่ในทำเนียบไม่ค่อยได้

อย่างที่ป๋าหนก โพสต์ว่าไว้...   

 

ผีเจ็ดป่าช้า 1.png

เจ็ดป่าช้า .png

http://www.tnews.co....tml/news/69569/

 

นี่ถ้าเป็นผี "เรือยอร์ช" ล่ะ

ผมว่าเธอไม่น่าจะเป็นอย่างงี้หรอก...  

มนต์ดำ ไสยศาสตร์มืดเนี่ย  อย่าไปลบหลู่เชียวครับ  ..นี่่ยังดีว่าแค่เจอกระดูกผีเจ็ดป่าช้า  

หากเจอเสกคนเข้าท้องเมื่อไหร่  คงจะแก้อาถรรพ์กันเหงื่อตกแน่ 

คคห.ส่วนตัว  รับไม่ได้ ทั้งโง่ ทั้งโกง นั่นแหละครับ  เคยมีเพื่อนถาม ว่าทำไมประเทศยู

เลือก ญ.คนนี้มาเป็นนายกฯ แทนที่จะเลือกมาร์ค  .. ตอบมันอย่างเพลียๆ ว่ากรู--ก็ไม่รู้เหมือนกัน

ปล่อยตกไป น่าจะดีกว่าครับ  จากพฤติกรรมเขา ดูเหมือนจะเรียกร้องความสนใจไม่ว่าจะทางใด

ไม่พูดคุย ไม่เสวนา คว่ำบาตรเงียบๆ ทางการปะทะสังสรรค์  หากไม่ปรับตัว ก็บอยคอตตามเดิม

ขอให้ไปสู่สุคติครับ   โดยส่วนตัว ผมชอบฟังเพลงของสายัณห์ แต่ไม่ชื่นชมตัวของแกเท่าไหร่ตามที่ได้ยินข่าว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่แกไปว่ายอดรัก  น่าสงสารที่แกมาป่วยเป็นโรคนี้  จนถึงระยะสุดท้าย แกคงจะมีเวลา

ย้อนคิดถึงชีวิตที่ผ่านมาของตนเอง  ว่าเป็นอย่างไร  ก็ขออโหสิกรรม และขอจดจำเฉพาะผลงานเพลงเอาไว้

เป็นมรณนุสติหนึ่งก็แล้วกันครับ 

กระทู้นี้น่าจะเปลี่ยนชื่อหัวข้อกระทู้ เป็นวุฒิภาวะผู้ตั้งกระทู้ จะต้องตรงกว่านะ

นึกไว้ทุกนาที  ว่าหากไอ่จุดไม่ออกมาเล่นเรื่องนี้  หมาคงออกลูกเป็นควาย

ขอบใจ  ที่โลกยังหมุนในทิศทางเดิม 

แทนที่จะกระตุ้นให้คนใช้จ่าย สินค้าที่ผลิตในประเทศ เพื่อเงินตราจะไม่ไหลออก

ในขณะที่เศรษฐกิจในประเทศก็ย่ำแย่ตึงตัวเหลือเกินแล้ว  ดันไปกระตุ้นให้คนจับจ่าย

สินค้าฟุ่มเฟือยที่ผลิตจากต่างประเทศ  ไม่ทราบว่าคนคิดใช้อวัยวะส่วนไหนในการคิด 

 

ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน  ปชป. ทำได้เต็มที่แล้วล่ะครับ  ในเมื่อมวลชนบางกลุ่ม ยังตั้งเงื่อนไข ว่าปชป. ต้องลาออกยกพรรค

จึงจะมาเข้าร่วม ต่อต้านระบอบทักษิณ   การที่ปชป. ตั้งเงื่อนไข ว่ากลุ่มมวลชนที่เข้ามาร่วม  ต้องละลายพฤติกรรมกลุ่ม

ออกไปก่อน  ให้เป็นมวลชนเสรีชน  มันก็พอกันนั่นแหละ  

แล้วให้ ปชปเป็นรัฐบาลครับไม่เอาดีกว่าถ้า ปชปจะไม่ลาออกก็ได้แต่ ปชปต้องนํามวลชนเองทั้งหมดโดยไม่มีพันธมิตรหรือภาคประชาชนอื่นมาร่วมแต่ถ้าประชาชนจะมาร่วมแต่ใครจะไปก็ไปเถอะเป็นสิทธิ์และเอกสิทธิ์ ชัดไหม ครับหน้าด้านในสภาไม่มีไรดีขึ้นหรอก

 

 

รัฐสภาไทย  ระบบเลือกตั้งในตอนนี้หมดหวังที่จะพาชาติแล้วล้มสภาหยุดเลืิอกตั้ง 20ปีดีที่สุด

 

ตอนนี้เพื่อไทยและพรรคร่วมยังเป็นรัฐบาลอยู่ครับ  ต่อให้ ปชป. ลาออก  ก็ยังไม่ได้เป็นรัฐบาลอยู่ดี  จุดประสงค์ของการกำจัดระบอบทักษิณ มันไม่ใช่การล้มล้างรัฐบาล

แต่เป็นการต่อต้านความไม่ชอบธรรมในการใช้อำนาจธิปไตยคนหมู่มากมาเอ่ยอ้างเพื่อเอื้อให้คนบางกลุ่มได้รับประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรมต่อคนส่วนใหญ่ในสังคม  

จุดยืนของ พธม. คืออะไรกันแน่ครับ  ล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งขณะนี้ให้ล้มลงแล้วให้คนอื่นเข้ามาเป็นแทน  หรือล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย?

คุณภาพของ สส. ในสภา ก็สะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพของคนในสังคมรอบตัวคุณในขณะนี้เป็นเช่นไร

ก่อนที่คุณจะเครียด จะเกลียด ในการที่คนส่วนใหญ่แบ่งแยกความดีชั่วไม่ออก แยกแยะผลประโยชน์

ส่วนรวมไม่ออก สุดท้ายก็เลือกพรรคที่จะแจกอย่างเดียว คุณลองกวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวคุณ

ในขณะที่คุณออกไปข้างนอก  คุณเห็นบ้างไหมว่าคนส่วนใหญ่ในสังคม ชีวิตของเขาด้อยกว่าคุณเช่นไร

ในขณะที่คุณขับรถ เคลื่อนไปช้าๆ ตามสภาพการจราจร  คุณเห็นไหมว่ารถเมล์แต่ละคัน คนเป็นร้อย

กระจุกตัวอยู่ในนั้น แต่ละคนหน้าดำคร่ำเครียด เพื่อดำรงชีวิตให้พ้นไปวันๆ  คุณเห็นคนข้างถนนหรือเปล่า

ในร้อยคนที่เดินไปมา  มีกี่คน ที่เดินอย่างปลอดโปร่งเห็นโลกเป็นสีชมพู  ส่วนใหญ่เดินหน้าตาหมองคล้ำ

หมดสง่าราศรีแทบทั้งนั้น   คนเหล่านี้จะอยู่จะกินไปถึงมื้อหน้าหรือมื้อต่อไปไหม  ยังเป็นปัญหาใหญ่

สำหรับพวกเขาอยู่  คุณอาจจะท้อ หมดหวังกับการรุดหน้าของสังคม  แต่คนเหล่านี้ยังไม่ท้อหมดหวัง

กับการดำรงชีวิตอยู่ต่อไปนะครับ ลองกวาดสายตาดูใหม่รอบๆ ตัวคุณ  อาจจะมองเห็นอะไรที่คุณเคย

มองข้ามไป