New CanThai_16401

สำหรับผมการตีความเรื่องภูมิคุ้มกันนั้น ผมยึดหลักที่มีอยู่แล้วคือ
๑ การคาดการณ์สถานการณ์ในอนาคต
๒ ผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์เหล่านั้น
๓ การเตรียมมาตรการรองรับ

ไม่ว่ามาตรการไดๆ ที่สอดคล้องกับหลักการสามข้อนี้( ซึ่งรวมถึงการบริหารความเสี่ยงด้วย ) ผมถือว่าเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันได้ครับ

แหม สรุปดี จนผมอายเลย
เป็น จขกท ซะเปล่า เหมือนทำการบ้านน้อยกว่าเลย 55555

ดีครับ มองได้ครอบคลุมดี และสามารถหาคำจำกัดความได้

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวปรัชญา สามารถตีความให้เหมาะกับตัวเอง ครอบครัว ธุรกิจ ชุมชน ประเทศชาติ ไม่มีสูตรสำเร็จ ต้องปรับใช้ให้เหมาะสม
...
...
เมื่อมองการพัฒนาในภาพรวมของประเทศชาติ ท่านให้มองทั้งเรื่อง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมเพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างสมดุลและพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงนั่นคือความยั่งยืนของการพัฒนา

คำว่า สมดุล ก็เป็นคำที่ผมคิดว่าใช่อีกคำหนึ่ง
ที่ผมใช้คำว่า ระบบต้องมีการโคจรได้อย่างต่อเนื่อง
คือ หากมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น ย่อมต้องมีผลกระทบตามมา
และการจัดการผลกระทบต่างๆเหล่านั้น คือสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป

แน่นอน จะคิดทำการใดขึ้นมา ต้องรู้จักประมาณตนในส่วนหนึ่ง
แต่ถ้ามีความต้องการมาก เกินไป จนเกิดภาวะขาดแคลน
สิ่งที่ผู้บริหารประเทศต้องทำคือ เสริมปัจจัยไม่ให้ขาดแคลน
มิใช่ให้ประชาชน อยู่อย่าง อดอยาก
(คำว่า อดอยากนี้ แปลว่า "อด ความอยาก" คือ ลดความอยากลง แล้วจะพอเพียง)
ถ้าเป็นลักษณะนี้ คือ "ผิด" แนวทาง เศรษฐกิจพอเพียงครับ

หลายคนบอกว่า นำ ศก พอเพียงมาใช้ จะได้ไม่ต้องลงทุนมาก
นั่นก็ ผิด อีกครับ ^^
ศก พอเพียงคือ ลงทุนให้คุ้มค่า มิใช่ลงทุนแต่น้อยๆ ความหมายต่างกันเยอะฮะ

 

 

"ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียง จึงประกอบด้วยคุณสมบัติ ดังนี้ 

1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ 
2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ อย่างรอบคอบ 
3. ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต"

.......

ทำมวยเลือกข้างมาหลายเดือน เอามาเตือนความจำ สื่อขี้ข้าสรรหาเรื่องราวมาเลียทุกวิถีทางที่จะสร้างชัยชนะให้นายเงิน

ฉบับล่าสุด...ในฐานะสื่อการเมืองคุณภาพ ไม่กล้าแม้จะลงปก "ผู้ชนะ"

รากศัพท์หรือความหมายของคำว่า "สื่อ" มาจากภาษาอังกฤษ ที่ใช้คำว่า Mass Media แปลว่า "สื่อสารมวลชน"

ไม่ใช่แค่ Media ที่แปลว่าสื่อส่วนตัว หรือ เครื่องมือในการสื่อสารเท่านั้น

สื่อสารมวลชนก็เปรียบเสมือนคนกลาง ตัวกลางที่พร้อมจะเป็นผู้ตัดสินหรือรายงานผลผู้แพ้ผู้ชนะจากผลที่ออกมา

บางทีบางตำแหน่งเค้ายกให้เป็น "กรรมการ"

ถ้ากรรมการมวยบนเวทีเห็นว่า นักมวยฝ่ายตนโดนน็อคลงนอนแผ่หราหมดราคา ไม่สมราคาคุย ราคาโปรโมท

แทนที่กรรมการจะยกมือชูมือให้"ผู้ชนะ" แต่กรรมการดันมุดเชือกเวทีหนีลงมาก่อนที่จะชูมือให้กับ "ผู้ชนะ"

กรรมการขี้หมาแบบนี้ ยังมีความชอบธรรมที่จะทำหน้าที่ "กรรมการ" อยู่อีกหรือ?

ตั้งแต่เติบโตมาจนเลยหลัก 60 กม.ก็เพิ่งเห็นครานี้ สื่อทำหน้าที่เสมือนลงแข่งขันซะเอง

บรรเลงบรรลัย ไล่ก็ไม่เลิก แถมหาน้ำใจนักกีฬายังไม่เจอ แล้วจะยังเสนอหน้าเรียกตัวเองว่า "สื่อคุณภาพ" อยู่อีกหรือ?

ขณะที่สื่ออีกค่าย ฉายภาพสังคมได้ตรงตามเวลาที่ควรจะเป็น ถูกที่ถูกเวลา...ไม่ว่ากัน



แต่เอาเถิด แคนไทรายสัปดาห์ให้ชื่อปกสัปดาห์นี้...ว่า....

เราชนะแล้ว...แม่จ๋า...( อย่ากลัวหมาเห่าไม่กัด)

มีเรื่องจะเล่าให้ลุงแคนฟังเล่นๆ แต่เรื่องนี้บอกไว้ก่อนนะครับว่ามันนานมาแล้ว

ผมเคยได้ยินจิ้งจกคุยกัน ที่ห้องบันเทิงเริงรมย ์ ชั้น 9 ที่มีไว้สำหรับพบปะกินเหล้าระหว่าง"สื่อ" กับ"นักการเมือง" ว่า ลูกชายไอ้ปื้ดไปยิงคนตายที่เอเลียนผับ ภูเก็ต สื่อต่างๆประโคมข่าวใหญ่โต ต่อมามีเงินโอนเข้าบัญชีอาจารย์ ข่าวลูกไอ้ปื้ดก็เลยหลุดจากหน้าหนังสือพิมพ์ 

คดีปรส. และสปก.4-01 ผมจำได้ไม่เคยลืม

ถามจริงๆนะ

 

เกิดทันเหรอ?หรือจำขี้ปากใครมา

 

หมู่นี้แดงหลายคนยังโง่ เชื่อว่านายชวนกู้ ไอเฮ็มเอฟ ทั้งๆที่คนกู้คือเชาวลิต

 

ถามจริงๆเกิดทันไหม  ถ้าทันผมจะถามรายละเอียด

สส.หลายคนของปชป.

 

ครอบครัวมีพื้นฐานเป็นคนรากหญ้า

 

แต่แปลก กลับไม่พยายามขบปัญหาของชาวรากหญ้าให้แตก

 

เพื่อรวบรวมเอามาเป็นนโยบาย

 

และสส.รากหญ้าหลายคนพลิกสถานะเป็นอำมาตย์แล้วก็ลอยพ้นไป

 

จนลืมปัญหาที่ตัวเองเคยเจอ

 

(ผมฟ้าอ่อนนะครับ  )

สาวกเอ่เอ้ทีวี ก็ปล่อยเค้าเถิด หนังม้วนเก่าฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นกากหนังไปแล้ว

เลือกตั้งเสร็จก็มีเวลาหายใจหายคอมาอ่านบ้าง คนที่จากไปก็มีทางเดินของตัวเองทั้งนั้น

ในโลกโซเชียลมีเดีย คนทำงานทำการคงหาเพื่อนคอเดียวกัน 100-200 คน ตั้งกลุ่มคุยกันทำกิจกรรมนอกเวลางานสนุกสนานกันไปก็หมดเวลาเล่นแล้ว

ไม่ต้องไปตั้งความหวังที่จะทำอะไรให้สังคมทั้งมวลตามใจตัวเองทั้งหมด

การแยกวงของคนในโซเชียลมีเดียมันเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว นิสัยคนไทยแท้ๆ เลยทีเดียวล่ะ

 

น้า..  เมื่อไหร่จะว่างช่วยกันเรียกแขกอีกครับ

 

เลือกตั้งเสร้จแล้ว ไม่มี'รัยทำ ช่วงนี้คันไม้คันมืออ่ะ

อันเก่าเพจโดนลบไปแล้ว เลยต้องสมัครตามเพจใหม่ครับ ไม่ได้ซีเรียสอะไร นานๆเข้ามาที

ตอนเลือกตั้งไปลุ้นให้เลือกพรรคที่เลวน้อยกว่า ทำนองเดียวกับชัย ราชวัตร กับ ส.ศิวลักษณ์

ทั้งในเพจและบล็อคในโอเคเนชั่น บล็อคเจ้าพระยา เลยไม่ค่อยได้เข้ามาเสวนา

อัพข่าวในเพจมันแชร์เร็ว ไม่ต้องเกรงใจสมาชิกอื่นๆด้วยครับ

 

 

 

ที่นี่...บางคนบอกว่าไม่ยอมเลือกพรรคเลวน้อยกว่า....

จะเลือกพรรคสอาดบริสุทธิ์เท่านั้น.....

 

แต่ยอมรับสภาพ ยอมรับการบริหารของพรรคการเมืองเลวกว่า พรรคการเมืองเลวที่สุด.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

สาวกปชป. ก็ดิ้นหน่อยเป็นธรรมดา

ผมแอบยิ้มสมาชิกขบวนการเสรีไทยรุ่นเก่าๆ แวะไปแอดที่เฟซบุ๊คเพิ่มขึ้นผิดหูผิดตา

เลยรู้ว่ามันมีส่วนจริงมาก ๆ

คุณ Canthai User อันเก่าหายไปไหนหรอครับ ทำไมมาสมัครใหม่ครับเนี้ย..

เข้ามาดูบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่ค่อยตอบ หลังสุดเพจเฟซบุ๊คโดนลบบ่อยๆ เลยต้องสมัครใหม่ อีกแระ

เซม เซม มีคนหลังไมค์ไปบอก ออกจากเพจขบวนการเสรีไทยเพราะโดนลบโดยหาคนรับผิดชอบไม่ได้

ก็คงเซมๆ เหมือนเดิม เดี๋ยวนี้ใครเป็นใครยังจำชื่อแทบไม่ได้เพราะไม่ค่อยได้เข้ามา

พวกบ้าพรรค บ้าพวกก็ยังเยอะเหมือนเดิม ถ้าสมาชิกก่อตั้งยังจำคำถามผมได้

ทำไมสีฟ้า ...หาคำตอบได้ในเว็บเก่าๆ ตัวแรก ๆ เว้นแต่ลบข้อมูลไปแล้ว

ภาคประชาชนตัวจริงเสียงจริงที่เป็นเสรีชนยังคงมตัวตนในสังคมเน็ตไม่เสื่อมคลาย

เพียงแต่ย้ายที่สิงสถิตย์ไปตามอารมณ์และความชื่นชอบ...ตถตา

 

 

สวัสดีครับ ลุงแคน หายหน้าหายตา หายเงียบไปเลยครับ