ธรรมรักษา

เขามาขอ ขอนะ ขอเข้าพบคุณอภิสิทธิ์ และคุณสุเทพ
ถ้าพบแบบลับๆ แล้วไปแถ รับรองเสียทั้งบนเวที ทั้งปชป.
เมื่อขึ้นเวทีแล้ว มันเป็นเรื่องของเขาแล้ว
จะแท้ จะเทียม เขาต้องพิสูจน์เอง

โอเค.....อย่างไรก็ดีขอร้องแกนนำเวทีราชดำเนิน คุณสุเทพ คุณอภิสิทธิ์และทุกๆท่าน กรุณาระมัดระวังตัวเสมอ อย่าประมาทนะ

คนที่เข้าตาจนแล้วหน่ะ ทำสิ่งที่ไม่คาดฝันได้เสมอ

เช้านี้ไปธุระแถวสาธร น่ารักอ่ะ พนักงานเค้าผูกริบบิ้นธงชาติ บ้างก็ผูกข้อมือ บ้างก็ผูกผม

http://www.unicef.or...ines_70872.html  อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่

"วันนี้มีการกล่าวหาว่า ผมทำผิดกฎหมายอาญา จึงขอให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปสุมหัว แจ้งความดำเนินคดีได้เลย และแจ้งให้ถูกจะไม่หนีไปไหน ถ้าแจ้งไม่ถูกจะแจ้งกลับ เพราะจะสู้ด้วยกฎหมาย ตั้งแต่ต่อสู้เคยพาประชาชนไปทำผิดที่ไหน แค่มาเดินแล้วมานั่งที่ถนนราชดำเนิน ลุกขึ้นวิจารณ์รัฐบาล ทำผิดตรงไหน มีกฎหมายที่ไม่ให้คนไทย เจ้าของประเทศตำหนิวิจารณ์การทำงานที่เลวทรามของรัฐบาล ขอให้นายธาริต และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ นำตำรวจมาสลายการชุมนุม และผมจะดำเนินคดีกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เพราะมีทนายความเป็นร้อยคน ทั้งอดีตอัยการและผู้พิพากษา" นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า พวกเราถูกข่มขู่มามากแล้ว วันนี้จะไม่ยอมให้ขู่อีกต่อไป ไม่ยอมก้มหัวให้อธรรม ตนยืดมั่นในคำพูดว่า จะไม่นำประชาชนไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย โดยเด็ดขาด เพราะสู้อย่างเสรีชน และขอบอกให้พวกนายจตุพร พรมหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้รู้ว่าคนดีเขาสู้ก้นอย่างนี้ และถ้ารัฐบาลนี้ยุบสภา ตนประกาศเลยว่า จะไม่ลงสมัคร ส.ส.อีกต่อไป จะได้หายสงสัยกันเสียทีที่บิดเบือนว่า นำมวลชนล้มรัฐบาลเพื่อหวังตำแหน่งหน้าที่ ส่วนการที่นายตัน ภาสกรนที ออกมาระบุถึงการชุมนุม ทั้งที่ไม่เคยไปด่าว่านายตัน ซึ่งจะเชียร์รัฐบาล โดยไม่ให้พนักงานหยุดงานก็เรื่องของนายตัน ส่วนเราจะไม่ซื้อน้ำของนายตันกินอีกต่อไป ก็เป็นสิทธิของเรา

"ใครทำอารยะขัดขืนได้ก็ขอขอบคุณ ทำไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องออกมาด่ากัน แต่น่ายินดีว่า มีบริษัทห้างร้านจำนวนมาก เห็นด้วยที่จะหยุดงาน คนเหล่านี้เป็นคนดี ไม่ใช่คนซ่าอย่างนายตัน ไม่ได้ออกมาแสดงตัว จึงขอให้นายกรัฐมนตรีตระหนักว่า คนดีทั้งประเทศได้แสดงอาการแข็งข้อ โดยการหยุดงานทั้งประเทศ แต่การทำให้ประชาชนเดือดร้อน เช่น ตัดไฟ ตัดน้ำ เราไม่ทำ แต่จะตัดเฉพาะสถานที่ราชการ เพราะค้างค่าไฟอยู่" นายสุเทพ กล่าว

นอกจากนี้ ในวันที่ 15 พ.ย.จะประเมินว่า อารยะขัดขืนได้ผลอย่างไร ซึ่งกรณีเสียภาษี ตนไม่ได้บอกว่าไม่ต้องเสีย แต่ให้ชะลอเสียภาษีช้าๆ เพื่อให้รัฐบาลไปไม่เป็น เพราะเงินภาษีไปผลาญในโครงการจำนำข้าวหมดแล้ว ซึ่งตนจะประกาศ ยกระดับการต่อสู้ในวันที่ 13 พ.ย.อีกครั้ง และขอให้พี่น้องประชาชนมาร่วมชุมนุมในวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. ให้มากกว่าที่ผ่านๆมา เพราะจะมีการประกาศมาตรการยกระดับ เป็นขั้นเป็นตอนในการต่อสู้กับรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ขอแสดงความชื่นชมคุณสุเทพ สุดยอดไปเลย .........เพื่อบ้านเมืองของเรา

วรากรณ์ สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
12 พฤศจิกายน 2556

อยู่มาจนแก่ป่านนี้ยังไม่เคยเห็นปรากฏการณ์การประท้วงของประชาชนครั้งใดในประเทศนี้ที่ยิ่งใหญ่และกว้างขวางดังที่เกิดขึ้นในกว่าหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา น่าสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
...............
มันเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้ในปัจจุบันรัฐบาลหวาดหวั่น ตัวสั่นงันงกเกรงว่าการประท้วงร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมจะกลายเป็นการขับไล่รัฐบาลและ “ระบบทักษิณ” ไป ปรากฏการณ์นี้มีสาเหตุมาจากไม่น้อยกว่า 3 เรื่องดังต่อไปนี้

เรื่องแรก มนุษย์ทุกผู้นามโดยธรรมชาติมีความตระหนักว่าอะไรคือความถูกต้องด้วยกันทั้งนั้น มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันออกไป ในเรื่องนี้เมื่อเข้าใจเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ก็รู้ได้ทันทีว่ามันไม่ถูกต้องอย่างฉกรรจ์เพราะ

(ก) มันเป็นการนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดทุจริตคอรัปชั่น ฉ้อราษฏร์บังหลวง หรือโกงบ้านเมืองอย่างกว้างขวางอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย กล่าวคือไม่เพียง นิรโทษกรรมแก่ผู้ทำความผิดเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมืองเท่านั้น หากยังครอบคลุมไปถึงผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และรวมทั้งองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการเรื่องกล่าวหาก่อนหน้านี้และเรื่องมันต่อเนื่องมาด้วย โดยย้อนให้ไปถึงวันที่ 1 มกราคม 2547 ดังนั้นช่วงเวลาของนิรโทษกรรมคือ 1 มกราคม 2547 ถึง 8 สิงหาคม 2556

.....อุแม่เจ้า.....นอกจากนิรโทษผู้ชุมนุมแล้ว ยังรวมไปถึงนิรโทษการถูกกระทำจากองค์กร (มิได้นิรโทษการกระทำของบุคคล) ที่ตั้งขึ้นหลัง 19 กันยายน 2549 และองค์กรอื่น ๆ ที่ดำเนินการเรื่องไว้ก่อนหน้าจนมีเรื่องสืบเนื่องต่อมาให้องค์กรจัดตั้งหลังรัฐประหารเดินเรื่องต่อด้วย

พูดง่าย ๆ ก็คือทุกเรื่องที่ ปปช. กกต. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ฯลฯ ดำเนินการ ให้ผู้ถูกดำเนินคดีได้รับนิรโทษกรรมหมดทุกคน ถ้าสืบสวนอยู่ก็ให้เลิก ถ้าค้างอยู่ในศาลก็ให้ศาลพิพากษายกฟ้อง (กฎหมายฉบับนี้ไป สั่งศาล) ถ้าติดคุกอยู่ก็ให้ปล่อยทันที

(ข) ดูเผิน ๆ ช่วงเวลาที่ครอบคลุมก็คือ 9 ปี คือจาก 1 มกราคม 2547 ถึง 8 สิงหาคม 2556 แต่หากดูให้ดี ๆ อาจย้อนถึง 18-19 ปีก็ได้ เพราะเรื่องที่ ปปช. หรือองค์กรอื่นซึ่งตั้งขึ้นก่อนรัฐประหาร 2549 ดำเนินการสอบสวนกล่าวหา อาจค้างย้อนหลังไปถึง 9-10 ปีก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อรวมกับ 9 ปี ผลก็อาจเป็นการนิรโทษความผิดที่เกิดขึ้นเมื่อ 18-19 ปีก่อน ที่น่าสังเกตก็คือเรื่องที่ถูกกล่าวหาในช่วง 2547-2549 ก็คือที่ดินรัชดา คดีกรือเซะ ตากใบ ฯลฯ และคดีใหญ่ ๆ อีก 24 คดีที่ คตส. ทำและมอบให้ ปปช. ดำเนินการต่อก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย

เรื่องที่ถูกสอบสวนโดยองค์กรที่ตั้งขึ้นหลังรัฐประหาร เพียง ปปช. นั้นมีรวม 25,331 คดี (เป็นคดีของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูง 400 คดี เป็นคดีของเจ้าหน้าที่ทั่วไป 24,931 คดี ในจำนวนนี้มีคดีทุจริตที่ชี้มูลความผิดแล้ว 666 คดี) คดีเหล่านี้หลุดหมดทั้งสิ้น ถ้ารวมคดี กกต. และองค์กรอื่น ๆ อีกก็อาจถึง 4,000-5,000 คดี คดีทั้งหมดนี้เป็นคดีทุจริตเกือบทั้งสิ้น

ที่อัศจรรย์ก์คือกฎหมายังลากยาวลงมาถึง 8 สิงหาคม 2556 ซึ่งทำให้ครอบคลุมไปถึงคดีทุจริตจำนำข้าว โครงการน้ำ (โครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้านบาท? ที่อาจเกิดขึ้นแล้วด้วยทั้งที่ยังไม่มีงบประมาณ) และทุกข้อกล่าวหาทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาลนี้ทั้งหมด (น่าจะคลุมไปถึงวันเลือกตั้งครั้งหน้าเสียเลย) ซึ่งองค์กรเหล่านี้กำลังดำเนินการอยู่ซึ่งหมายความว่าจะได้รับนิรโทษกรรมทั้งหมดด้วย

นิรโทษกรรมหมายถึงพ้นผิดและไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับการกระทำความผิดดังที่ถูกกล่าวหาเลย (น่าสงสารคนสุจริตที่ไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ความผิดเพราะได้รับนิรโทษกรรมแบบเหมาเรือบรรทุกน้ำมันเสียก่อน) ดังนั้นจึงลงเลือกตั้งได้ ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ได้เหมือนคนอื่น ๆ)

เรื่องสอง ผู้ชุมนุมมาเพราะความโกรธที่ถูก “ตบหน้า” โดยผู้ชำเรา 300 กว่าคน โกรธที่คนเหล่านี้ไม่เห็นหัว ไม่รู้สึกเกรงใจเจ้าของประเทศตัวจริง เห็นเขาเป็น “คนกินแกลบ” เห็นเขาเป็นควายที่จะสนตะพายทำอะไรก็ได้เพราะมีเสียงข้างมากในสภา และโกรธ ๆ ๆ ๆ ผู้สั่งการ

เรื่องสาม ผู้ชุมนุมรู้สึกว่ามัน “มากไป” หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือมันเกินเลยความพอดีไปมาก ดังเช่นมาตรา 6 เขียนไว้ชัดเจนว่า “การดำเนินการใด ๆ ตาม พ.ร.บ. นี้ ไม่เป็นการตัดสิทธิของบุคคล.....ในการเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่ง”

เรียกว่าพ้นผิดจากการทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวงยังไม่พอ พ.ร.บ.ยังเปิดช่องไว้อ้าซ่าอย่างชัดเจนให้คืนเงินที่โกงมาแก่ผู้โกงอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าเงินกี่หมื่นล้านที่มีการยึดมา เงินสดกี่สิบล้านซึ่งเป็นคดีที่คนกว่าสิบคนเข้าไปขนในบ้านจนปลัดกระทรวงใหญ่แห่งหนึ่งถูกยึดทรัพย์ก็ต้องคืนเขาไปทั้งหมดด้วย.....พร้อมกับดอกเบี้ย

นอกจากนี้เงินที่ ก.ก.ต. เรียกเก็บจากการต้องจัดเลือกตั้งใหม่เพราะคนสมัครรับเลือกตั้งโกงก็ต้องคืนเขาพร้อมกับการพ้นผิดอีกด้วย คนโกงเลือกตั้งที่ กกต. ลงโทษจะเป็นผู้บริสุทธิ์ทันที เช่นเดียวกับคดีของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินก็ต้องคืนเงินเขาและปล่อยตัวเขาให้เดินยิ้มกลับบ้านอย่างเท่ ๆ อีกด้วย บรรดาคดีต่าง ๆ ที่มีการสอบสวนอยู่ก็ต้องเลิกไปทั้งหมด

อุแม่เจ้า.....มันช่างเป็นสวรรค์ของคนโกงอะไรเช่นนี้

เขียนแค่นี้ก็เกิดอารมณ์ ของขึ้นแล้ว สิ่งต่าง ๆ ที่สอนลูกสอนเยาวชนว่าการทุจริตเป็นเรื่องชั่วร้ายก็ไม่จริงเสียแล้ว เพราะมันพ้นผิดกันได้เสมอ ผิดเป็นถูกได้ถ้ามีเสียงในสภามากพอที่จะ “ข่มขืน” ร่าง พ.ร.บ. ฉบับใดก็ได้

หาก พ.ร.บ. ฉบับนี้มีผลบังคับใช้รับรองได้ว่าคนต่างชาติต้องตะลึงกับนวตกรรมชิ้นใหม่ของโลกที่มั่นใจว่ายังไม่มีที่ใดในโลกที่นิรโทษกรรมคนโกงบ้านเมืองแถมคืนเงินที่โกงมา ทั้งหมดนี้เป็นอาหารเมนูหลัก ส่วนนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมตัวเล็ก ๆ นั้นมันเป็นน้ำจิ้ม

ที่น่าสงสัยก็คือเนื้อหาที่วิปริตพิกลพิการใน พ.ร.บ. ฉบับนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร.....ทั้งหมดนี้เป็นไปเพียงเพื่อการพรางตา เพราะของจริงที่ต้องการนิรโทษมันหลบอยู่ข้างในอย่างพยายามทำให้เนียน ๆ ?

คุณวราภรณ์ แจงรายละเอียดแจ่มแจ๋วไปเรยย ขอบพระคุณท่านมาก  ช่ายเรยยได้ยินมาว่าคดีที่อยู่ในมือปปช.ตอนนี้ก็จะได้รับผลไปด้วย ข้าราชการบางท่านจึงเฉยๆไม่ต่อต้านพรบ.นี้ เผื่อส้มหล่น

ไม่ไหวแล้ว ไม่งั้นอนาคตลูกหลานจะเป็นอย่างไรกัน

เห็นด้วยกับคุณสุเทพและแกนนำปชป.

รัฐบาลจากตระกูลชินวัตรนี้ยังเล่นเอาเถิดเจ้าล่อกับประชาชนอยู่

กรณีพรบ. ยังหน้าไหว้หลังหลอก ปลิ้นปล้อน จับได้ไล่ทัน ยังว่าไม่รู้ไม่ผิดถูกกลั่นแกล้งไปเรื่อย

ไม่อาย ดึงเกม ไม่ขอโทษ ยังดันทำป้ายประหลาดติดไปทั่ว 

ไว้ใจนิ่งนอนใจไม่ได้เลย

รัฐบาลนี้ได้ทำสิ่งไม่ดีหลายๆเรื่องมาแล้ว เรารู้เห็นกันอยู่ ทำไมจะทำอีกไม่ได้หล่ะ และเวลาใกล้หมดแล้วด้วย

และโดยเฉพาะเวลานี้รัฐบาลเห็นด้วยตาแล้วว่าพลังมหาประชาชนมากมายขนาดไหน ไม่ธรรมดาเลย

เผลออีกทีเมื่อไรเป็นโดนหนักกว่าผ่านพรบ.ตอนตีสี่แน่ๆ

มาตราการอารยะขัดขืนคือการเตือนพวกเราอย่าประมาท คอยจับตาดู ขณะเดียวกันเป็นการปรามรัฐบาลไปในตัว

เพื่อประเทศไทยของเรา....ช่วยกัน ช่วยกัน

     สมัยนี้สังคมผมว่าหาติดตามข่าวตาม โซเชียลเน็ตเวิร์ค โลกแห่งอินเตอร์เน็ท มากกว่าติดตามข่าวตามช่องต่างๆ ที่เป็นขี้ข้าเสนอข่าวไม่ครบถ้วนบิดเบื่อน ข่าวต่างๆ จนประชาชนเบื่อหน่ายและไม่อยากดูข่าวของพวกท่านอีกแล้ว สามารถติดตามได้ตาม โซเชียลฯต่างๆ ระวังพวกท่านจะกลายเป็นเหมื่อนเครื่องเล่น VDO ที่ตกยุค สังเกตุได้จากถึงข่าวไม่เคยนำเสนอผู้ชุมนุม แต่ทุกจุดกับมีผู้ชุมนุมนัดการทางโซเชียลฯต่างๆจนคนเป็น หมื่น เป็นแสน ทำให้รู้ว่าสื่อข่าวตามช่องต่างๆเริ่มไร้ค่า คนไม่จำเป็นต้องติดตามข่าวจากพวกท่านอีกแล้วระวัง ๆๆๆ

จริงด้วยช่ายเรย

ไม่ดูช่องต่างๆเหล่านี้นานแล้ว ดูแค่เวลามีข่าวในพระราชสำนัก

ช่องเหล่านี้มีแต่สิ่งไร้สาระนานแล้ว สิ่งดีๆมีประโยชน์ต่อสาธารณชนหาได้ยากจากช่องเหล่านี้

หรือไม่ก็จะมีตอนเวลาดึกๆใกล้เที่ยงคืนนู่น

และช่องเหล่านี้มีแต่โฆษณาชักชวนให้ดื่มกินเที่ยวใช้อะไรสักอย่างที่พ่อค้าเค้าต้องการขายอ่ะ

ใกล้เป็นเครื่องเล่นวีดีโอตกยุคดังท่านจขกท.ว่าไว้เข้าไปทุกที

ยิ่งในเวลานี้ด้วยแล้ว ยิ่งชัดว่าไม่ใช่สื่อสารเพื่อมวลชนแต่เป็นแหล่งโฆษณาตะหาก

ขอเคลียร์งานช่วงเช้าก่อน.....บ่ายๆมุ่งตรงราชดำเนิน

 

 

ไปด้วยเจ้านี่แหละ...คล่องตัวดี  

แน่มากๆ จอดมันหน้ายูเอ็นเรยยย

เมื่อวานผมมีโอกาสได้ขับรถสำรวจบรรยากาศวันสุกดิบไปรอบ ๆ เมืองกรุงเทพ

เห็นคนเสื้อแดงออกมารอรถตามปากซอย ด้วยอาการเลิกลั่กและกระมิดกระเมี้ยน ไม่ฮึกเหิมเหมือนเก่า

รถกระบะติดธงแดง ขนคนมาเต็มท้ายรถ ถึงจะมีอยู่บ้าง ก็น้อยลงไปมาก

 

สายตาคนบนท้องถนน มองคนใส่เสื่อแดง ด้วยความเดียดฉันท์

ราชประสงค์ เสื้อแดงน้อยจนเรียกได้ว่าหลวม ข่าวว่ามีรถมารับมวลชนเสื้อแดงไปเมืองทองต่อหน้าต่อตาหนูหริ่ง จนต้องกลืนเลือด
 

เสื้อแดงที่ขนกันมาที่เมืองทอง 80% มาจากต่างจังหวัด ด้วยรถบัสที่จัดโดย ส.ส. แดงเมืองกรุงที่เคยมาด้วยรถส่วนตัวแบบแรลลี่ น้อยลงไปราว 90%


คนเสื้อแดงแถวบ้านผม เงียบสนิท ไม่มีการเคลื่อนไหน ต่างทำมาหากินตามปรกติ ไม่ได้ออกไปร่วมชุมนุม


เมื่อการเมืองไทย จะถูกตัดสินด้วยคนที่อยู่กลาง ๆ ไม่มีสี ไม่มีข้าง แสดงว่าจุดจบของทักษิณ ชินวัตร มาถึงแล้วครับ

ช่ายเลย แถวบ้านเราแดงเพียบ ช่วงนี้หงอยซึมไม่ฮึกเหิมคึกคักอยากหาเรื่องเหมือนเก่าก่อน

เหมือนเริ่มกระดากไม่อยากแสดงตนว่าเป็นแดงอีกแร้ววว

หากเป็นเช่นภาพที่เราเห็นนี้ ก็ยินดีด้วยกับคุณเสื้อแดงทั้งหลาย อย่างน้อยก็ได้แสดงกรรมดีช่วยลดความวุ่นวายไปบ้างแล้ว

จะได้มีชีวิตที่ร่มเย็นสงบสุขขึ้น

สู้เพื่อบ้านเมืองของเรา

ผิดรุนแรงที่ อกตัญญูต่อบ้านเกิดเมืองนอน และพ่อหลวงของชาติ

ขอบคุณคุณ simba มากๆที่คอยรายงานเป็นระยะๆ

น่าจับตานะอย่าละเลย กลุ่มที่มาเมืองทองเมื่อวาน น่าจะมีพวกลึกลับเหลืออยู่แทรกซึมไปตามที่ต่างๆ

อย่าประมาท

ชอบคุณกรณ์ มีสาระตรงประเด็น เป็นผู้ดี เป็นหนึ่งในกลุ่มทรัพยากรบุคคลที่หาได้ยาก และควรรักษาไว้ให้ดีๆ

เวทีนี้มีหลากหลายสาระ และอารมณ์อยู่แล้ว เวลาให้ความรู้ก็ต้องคิดตามต้องนิ่งพอสมควรจึงใช้ความคิดอย่างมีเหตุผลได้

ไม่จำเป็นต้องสร้างอารมณ์ฮึกเหิมอื่นใด มันมีเยอะอยู่แล้ว

ฝากทีมงาน ทีมการ์ด ดูแลคุณสุเทพ คุณอภิสิทธิ์ คุณกรณ์ และแกนนำทุกท่านให้ดีๆด้วยนะนะ

คนขี้โกงกำลังเสียท่า เหมือนหมาบ้าถอยติดกำแพง มันกัดแหลกมั่วไป

และขอท่านแกนนำทุกท่านในเวลานี้ กรุณาระแวดระวังและคำนึงถึงความปลอดภัยตัวท่านเป็นหลักไว้บ่อยๆด้วยนะ

ขอบคุณทุกๆท่านที่ออกมาร่วมแรงร่วมใจกันในเวลาจำเป็นเยี่ยงนี้ โจรร้ายกำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยง

ช่วยกัน ช่วยกัน ขับไล่ผู้ร้ายไปจากบ้านเรา

ตำรวจไม่รู้จักหน้าที่อันควรพวกเนี่ยะ ก็ยกเข่งมันออกไปด้วยเรยนะนะ

เปลืองงบประมาณแผ่นดินที่เก็บจากภาษีประชาชน

กรุณาถนอมรักษาสุขภาพไว้ฉลองชัยชนะด้วยกันน้า