ยอมรับแต่กติกาที่เป็นประโยชน์กับตนเอง เช่น การเลือกตั้ง
แต่ไม่ยอมรับกติกาอื่นๆที่ตัดสินโดยศาล ทั้งๆที่ถูกผิดศาลท่านก็ว่าไปตามกฎหมายแท้ๆ
แล้วก็พาลด่าศาล ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาล
ประชาธิปไตยของ จขกท เป็นแบบนี้หรือครับ
สำหรับผม ต่อให้มันถูกเลือกมาจากคน 60 ล้าน ผมก็จะไล่มัน
ผมไม่แน่ใจว่า คห. นี้ คำว่า "ไม่ยอมรับ อำนาจ ศาล" หมายถึง กรณีใด นะครับ?
1) ถ้าหมายถึง กรณี ที่คุณทักษิณ ถูกตัดสินมูลความผิด เรื่องกรณีทุจริต คอรัปชั่น แล้วต้องหนีไปต่างประเทศ
- ข้อนี้ไม่ใช่ ประเด็น ที่ผมกำลังจะสื่อ นะครับ
แล้วความเห็นคุณต่อทักษิณกรณีนี้เป็นยังไงครับ
2) ถ้าหมายถึง กรณี ที่พรรคเพื่อไทย ไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ กรณีขอแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50
- อันนี้ ผมขอ ออก ความเห็นไว้ดังนี้
2.1) อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ เป็น 3 อำนาจที่ถ่วงดุลกันในระบอบประชาธิปไตยของบ้านเรา โดย มีประชาชน ผู้เป็น เจ้าของอำนาจอธิปไตย ที่แท้จริง
ถูกครับ
2.2) อำนาจนิติบัญญัติ มาจาก สส. และ สว. ถ้าถามว่ากรณีนี้ สส. และ สว. ได้ใช้ลงมติเห็นชอบให้แก้ร่างรัฐธรรมนูญนี้แล้ว แต่ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า เป็นการแก้ไขเพื่ออำนวยในการสร้างฐานอำนาจให้กับกลุ่มทุน (เช่น แก้ไขข้อจำกัดที่มาของ สว. ฯลฯ) แปลว่า ศาล ได้ใช้อำนาจของเขาในการ ถ่วงดุล แล้ว
คุณเข้าใจผิด ศาลตัดสินให้คุณผิดเพราะกระบวนการของคุณไม่ชอบด้วยกฏหมายครับ
2.3) การที่ พรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธ อำนาจศาล ผมเห็นว่า ก็ไม่ได้ผิด 100% นะครับ. ด้วยเหตุผลที่ว่า 3 สถาบันหลักนี้ ย่อมไม่มีใครใหญ่ไปกว่าใคร.
พท นี่เป็น3สถาบันหลักหรือครับ คุณกำลังไปผิดทางเลยนะครับ
2.4) แต่ทางออกที่แท้จริง ของปัญหานี้ (ซึ่งผมเห็นว่า ควรจะต้องบัญญัติไว้ในรัธรรมนูญ เลยด้วยซ้ำ) ว่า ...
"ถ้าเกิดกรณีสถาบันหลัก ผู้ที่เป็นตัวแทนในการใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย มีข้อขัดแย้งกันขึ้น ทางออกเดียวคือ จะต้องใช้ประชาธิปไตยทางตรง นั่นคือ ประชามติ ครับ"
แล้วทำไม พท ไม่กล้าทำล่ะครับ ง่ายดี
เท่าที่ผมดูนะ ณ ตอนนี้ ฝ่ายหนึ่งก็อ้างอำนาจนิติรัฐ นิติธรรม อ้างว่าอำนาจศาลผูกพันทุกองค์กร. ฝ่ายหนึ่งก็อ้างอำนาจนิติบัญญัติจากการเป็นผู้แทนของราษฎร.
ถ้าเรา (ประชาชน) รักความถูกต้อง ในระบอบครรลองประชาธิปไตยจริง ผมมองว่า ...
เราควรจะออกมาเรียกร้องให้มีการทำ ประชามติ กับกรณีดังกล่าว มากกว่าเถียงกันไปเถียงกันมา ว่าใครมีอำนาจมากกว่าใครนะครับ
ผมขอถามอีกครั้งครับ แล้วทำไม พท. ไม่ทำประชามติ
หรือเพราะเมื่อไม่มีนโยบายประชานิยมมาเกี่ยวคนจะไม่เลือกงั้นเหรอครับ
ขอตอบประเด็นเรื่อง
คุณเข้าใจผิด ศาลตัดสินให้คุณผิดเพราะกระบวนการของคุณไม่ชอบด้วยกฏหมายครับ
ผมตัดมาบางส่วนจาก http://www.manager.c...D=9560000144300
นอกจากนี้ การแก้ไขที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ได้มาจากการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว อันมีที่มาเหมือนกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงย่อมเป็นเสมือนสภาฯ เดียวกัน ไม่เกิดเป็นความแตกต่าง และเป็นอิสระซึ่งกันและกันของทั้ง 2 สภาฯ เป็นการทำลายลักษณะ และสาระสำคัญของระบบ 2 สภาฯ สูญสิ้นไป การแก้ไขที่มา และคุณสมบัติของสมาชิกวุฒิสภามีความเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมือง หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ ย่อมทำให้หลักการตรวจสอบ และถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกันของระบบ 2 สภาฯ ต้องสูญเสียไปอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ฝ่ายการเมืองสามารถควบคุมอำนาจเหนือรัฐสภาได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ปราศจากการตรวจสอบและถ่วงดุลซึ่งกันและกัน อันเป็นการกระทบต่อการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเปิดทางให้ผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินการครั้งนี้ ได้อำนาจในการตอบแทนต่อประเทศด้วยวิธีการที่ไม่เป็นไปตามวิธีที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้
นอกจากนี้ เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 11 และมาตรา 11 /1 ยังขัดต่อรัฐธรรมนูญ ในเรื่องกระบวนการตรากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาที่จะบัญญัติขึ้นใหม่ โดบรวบรัดให้มีการประกาศใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว โดยไม่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 141 ที่จะต้องส่งร่างกฎหมายดังกล่าว ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตรวจสอบความชอบของรัฐธรรมนูญเสียก่อน ซึ่งขัดกับการถ่วงดุลและคานอำนาจ อันเป็นหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทำให้ฝ่ายการเมืองสามารถออกกฎหมายได้ตามอำเภอใจ โดยอาศัยเสียงข้างมากจากการตรวจสอบ
อาศัยเหตุดังที่ได้วินิจฉัยมาแล้วข้างต้น จึงวินิจฉัยโดยมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 ว่า การดำเนินการพิจารณาและล้มมติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของผู้ถูกร้องทั้งหมดในคดีนี้ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบโดยกฎหมายรัฐธธรมนูญ โดยกฎหมายมาตรา 122 มาตรา 125 วรรค 1 และ วรรค 2 มาตรา 126 วรรค 3 มาตรา 291 และมาตรา 3 วรรค 2 และวินิจฉัยโดยมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ว่ามีเนื้อความเป็นสาระสำคัญขัดแย้งต่อหลักการพื้นฐานและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 อันเป็นการทำให้ผู้ที่ถูกร้องได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศด้วยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ฝ่าฝืนรัฐธธรมนูญมาตรา 68 วรรค 1