Jump to content


Delta_PCP

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 18 ธันวาคม 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2557 22:13
-----

#981899 กปปส. ควรพูดเรื่องปฏิรูปให้มากกว่านี้ไหม

โดย whiskypeak on 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 01:18

จริงๆ ในรายการสรยุทธ์ที่ สุขุม vs สมบัติ เค้าก็เหมือนจะบอกอยู่นะ

 

ว่า กปปส. มีหน้าที่แค่ทำให้เกิด แต่แนวทางและวิธีของการปฏิรูปเป็นของ

 

ประชาชนที่จะคิดต่อ (ประชาชนในที่นี้คือตัวแทนอาชีพ 300 + กปปส.เลือก 100)

 

ส่วนเรื่องจะส่งต่อไปให้ประชาชนตัวจริงทั้งประเทศลงประชามติลงความเห็นเหมือนรัฐธรรมนูญ 50 หรือเปล่า

 

อันนี้ไม่รู้ แต่คงไม่เกิด เพราะประชาชนสำหรับกปปส. คือพวกฉลาดเท่านั้น ควายแดงไม่เกี่ยว ขอแหนบนิดนึงคงไม่ว่ากัน

 

ถ้าไม่เหน็บตอนท้าย..สามบรรทัดแรกของคุณจะหล่อมว๊ากกกกก... :D  :D




#981770 กปปส. ควรพูดเรื่องปฏิรูปให้มากกว่านี้ไหม

โดย RED MORON on 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 22:35

เข้าใจว่าแม้วและพวกพ้องมันชั่ว แต่อภิปรายความชั่วของมันตลอดก็ไม่ดีนะครับ น่าจะพูดเรื่องปฏิรูปให้มากกว่านี้ เพราะบางคนก็ไม่แน่ใจว่าจะปฏิรูปไปทำไม และจะทำอย่างไร เห็นวันที่เดินขบวนใหญ่มีแจกเอกสารเกี่ยวกับการปฏิรูป แต่หลังจากนั้นก็หายๆไป 

 

เพื่อนผมบางคน ไม่ได้มีเวลาสนใจข่าวสาร ก็ไม่เข้าใจถึงการชุมนุมและทางออกโดยการปฏิรูป (+ คิดว่าชุมนุมทำให้รถติดและเศรษฐกิจตกต่ำ โดยไม่สนใจสาเหตุของการชุมนุม) มันยากมากที่จะทำให้คนที่ไม่สนใจข่าวสารมาเข้าใจการชุมนุมและการปฏิรูป

 

ถ้าคนไม่สนใจข่าวสารเลย ขึ้นรถไฟฟ้าวันนี้ก็จะเห็นข่าวสปริงนิวส์กากๆ "รัฐมนตรีกระทรวงวิทย์ฯ - ผู้ชุมนุมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด" แล้วก็จะคิดว่าผู้ชุมนุมไม่ดี ทำให้รถติด เศรษฐกิจตกต่ำ คนตาย คนเจ็บ + เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

 

กปปส. ควรจะพูดเรื่องปฏิรูปให้มากกว่านี้ไหม เพื่อนๆเห็นว่าอย่างไรครับ 




#979748 ประชาชนมือเปล่าๆ..ไม่มีอาวุธแม้แต่หมวกกันน็อค..มึงยังทำกันถึงขนาดนี้ !!

โดย Et tu Brute? on 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 17:54

ผมว่า ปชช คงต้องเอาอาวุธส่วนตัว ออกไปแล้วล่ะ ยิ่งถ้ามืด คงต้องเฝ้าระวัง และ ถ้าให้ดี ถ้าคิดจะสู้ คงต้องใช้วิธีแบบกองโจร เข้าไปแอบซุ่มยิง เอาต้องคืนบ้าง พวกตะกวดที่มาจะฝ่อไปเอง เป็นอะไร ตายไป สูญเสีย ใครจะช่วยนอกจากครอบครัวของตนเอง ผมเชื่อเลย ถ้าทำแบบนี้ พวกเราจะมีชัย

 

 

มีชัยแบบนี้จะมีความหมายอะไรครับ

ถ้าใช้ความรุนแรงเข้าต่อสู้ มันก็ไม่ต่างกับที่เสื้อแดงทำ

ต่อไปมันก็เอามาอ้างใช้ความรุนแรงกันไปมา ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ

กลายเป็นสงครามกลางเมืองไม่รู้จักจบจักสิ้น

 

ผมเชื่อว่า ถ้าจะชนะได้จริงๆ จบได้จริงๆ 

ชัยชนะที่แท้จริง ต้องได้มาอย่างชอบธรรม ไม่ใช่การปล้นด้วยกำลัง เหมือนที่ผ่านๆมา




#978329 หรือกระแสลมจะเปลี่ยนทิศ

โดย Abraxas on 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 22:12

อยากให้เพื่อนๆ ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทยในปี ๒๕๐๐ เพื่อเป็นแนวทางว่าเราจะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์ได้หรือไม่  ทุกท่านจะให้คำตอบแก่ตัวเองได้ มาดูกัน

สาเหตุของการรัฐประหารสืบเนื่องจากความแตกแยกกันระหว่างกลุ่มทหาร ที่นำโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบก กับ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ ที่ค้ำอำนาจของรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม

การเลือกตั้งทั่วไปที่เกิดขึ้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ไม่อาจทำให้ประชาชนยอมรับในผลได้ เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่นับได้ว่ามีการโกงกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ ใช้เครื่องบินโปรยใบปลิวโจมตีฝ่ายตรงข้าม ข่มขู่ชาวบ้าน ประชาชน ให้เลือกแต่ผู้สมัครของพรรคเสรีมนังคศิลา ของรัฐบาล หรือ การเวียนเทียนมาลงคะแนน การสลับหีบบัตร การแอบหย่อนบัตรคะแนนเถื่อนเข้าไปในหีบ และต้องใช้เวลานับคะแนนกันนานถึง 7 วัน ด้วยกัน ผลการเลือกตั้ง พรรคเสรีมนังคศิลา ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้เสียงข้างมาก ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคฝ่ายค้านคู่แข่งได้เพียง 2 ที่นั่ง เท่านั้นในจังหวัดพระนคร และธนบุรี และทั่วประเทศได้เพียง 30 ที่นั่ง

2 มีนาคม นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและประชาชนร่วมกันเดินขบวนประท้วงการเลือกตั้ง มีการลดธงเหลือแค่ครึ่งเสาเป็นการไว้อาลัย และเรียกร้องให้ พล.อ.ท.มุนี มหาสันทนะ เวชยันต์รังสฤษฎ์ ซึ่งเป็น ส.ส.สังกัดพรรคเสรีมนังคศิลา ลาออกจากตำแหน่งอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จอมพล ป. นายกรัฐมนตรี สั่งประกาศภาวะฉุกเฉิน และแต่งตั้งให้ จอมพลสฤษดิ์ เป็นผู้ปราบปรามการชุมนุม แต่เมื่อฝูงชนเดินทางมาถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์แล้ว จอมพลสฤษดิ์กลับเป็นผู้นำเดินขบวน พาฝูงชนข้ามสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยกล่าวว่า ทหารจะไม่มีวันทำร้ายประชาชน และเมื่อถึงหน้าทำเนียบรัฐบาลได้เป็นผู้เปิดประตูทำเนียบ นำพาประชาชนเข้าพบ จอมพล ป. พิบูลสงคราม จนกระทั่งจอมพล ป. ต้องลงมาเจรจาด้วยตนเองที่บันไดหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อได้เจรจากันแล้ว จึงได้ข้อสรุปว่า จอมพล ป. ยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ชอบมาพากลและจะจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ จึงได้พูดผ่านโทรโข่งขอให้ผู้ชุมนุมสลายตัวไปอย่างสงบ และขอให้อัญเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาตามปกติ ซึ่งก็ได้เป็นไปตามอย่างที่ จอมพลสฤษดิ์ ร้องขอทุกประการ ซึ่งการเดินขบวนประท้วงครั้งนี้นับเป็นการชุมนุมทางการเมืองเป็นครั้งแรกของประชาชนชาวไทยนับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา

ในส่วนของ จอมพลสฤษดิ์ ที่ได้มีท่าทีเช่นนี้ นับว่าได้สร้างความนิยมขึ้นอย่างมากในหมู่ประชาชน แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ท้าทายอำนาจจอมพล ป. เพราะหลังจากนี้ จอมพลสฤษดิ์ยังได้ประกาศด้วยตนเองผ่านทางวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเป็นนัยทิ้งท้ายโดยกล่าวถึงผู้ชุมนุมที่ผ่านมาว่า "แล้วพบกันใหม่ เมื่อชาติต้องการ" จึงทำให้มีความแตกแยกและหวาดระแวงกันเองระหว่าง ฝ่ายทหารที่สนับสนุน จอมพลสฤษดิ์ และฝ่ายทหารและตำรวจที่สนับสนุน จอมพล ป.

สภาพโดยทั่วไปแล้วในเวลานั้น บ้านเมืองตกอยู่ในภาวะของความวุ่นวาย นักเลง อันธพาล อาละวาดป่วนเมืองราวกับไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งนี้ เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า ที่เหล่าอันธพาลสามารถกระทำการได้โดยได้ใจนั้น เป็นเพราะมีตำรวจ โดย พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจให้การสนับสนุนอยู่ และจากนั้นมา ทหารและตำรวจก็เกิดความแตกแยกกัน โดยไฮปาร์คโจมตีกันบนลังสบู่ที่ท้องสนามหลวงสลับกันวันต่อวัน ในบางครั้ง ทหารชั้นประทวนก็ยกพวกล้อมสถานีตำรวจจนเกิดเหตุทำร้ายร่างกายตำรวจบ้าง แต่ก็ไม่เกิดเหตุรุนแรงมากไปกว่านั้น

14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิด 60 ปี ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เข้าอวยพรวันเกิดและนำลูกสุนัขตัวหนึ่งมอบให้เป็นของขวัญ พร้อมกล่าวว่าจะจงรักภักดีต่อจอมพล ป. เช่นเดียวกับสุนัขตัวนี้ เพื่อเป็นการสยบความขัดแย้ง

15 กันยายน จอมพล ป. หลังกลับจากเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยสีหน้าไม่สู้ดี เมื่อมีสื่อมวลชน โดยนายทองใบ ทองเปาด์ ได้ถามว่า มีความขัดแย้งกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจริงหรือไม่ เพราะก่อนหน้านั้นในงานฉลองกึ่งพุทธกาล และงานวิสาขบูชา ที่ทางรัฐบาลได้จัดเป็นงานครั้งใหญ่ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มิได้เสด็จมา จึงทำให้มีการวิจารณ์ไปทั่วว่า รัฐบาลมีความขัดแย้งกับทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ทางจอมพล ป. ได้ปฏิเสธและไม่ขอตอบคำถามต่อ และได้รีบขึ้นรถยนต์จากไป ต่อมาทางด้าน จอมพลสฤษดิ์ และคณะนายทหารในบังคับบัญชา ได้มีแถลงการณ์ขอให้ จอมพล ป. ลาออก และ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด ซึ่งหลังจากแถลงการณ์อันนี้ออกมาแล้ว มีรายงานที่เชื่อถือได้ว่า สมาชิกพรรคเสรีมนังคศิลาเสนอให้ จอมพล ป. จัดการอย่างเด็ดขาดกับ จอมพลสฤษดิ์ และกลุ่มทหารในวันพรุ่งนี้ เท่ากับเป็นการบีบบังคับให้ จอมพลสฤษดิ์ ตัดสินใจอย่างแน่นอนในการทำรัฐประหารเพื่อเป็นการตัดหน้า

การรัฐประหารเกิดขึ้นในเวลา 18.00 น. ของวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 พล.ท.ประภาส จารุเสถียร แม่ทัพภาคที่ 1 ใช้รถถัง รถหุ้มเกราะและกำลังพล กระจายกำลังออกยึดจุดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ เช่น หอประชุมกองทัพบก ที่ถนนราชดำเนินนอก เป็นต้น ในส่วนของ กองบัญชาการตำรวจกองปราบ ที่สามยอด ซึ่งเป็นที่บัญชาการของ พล.ต.อ.เผ่า ได้รับคำสั่งให้ยึดให้ได้ภายใน 120 นาที ก็สามารถยึดได้โดยเรียบร้อย โดย ร.ท.เชาว์ ดีสุวรรณ ในขณะที่ พล.จ.กฤษณ์ สีวะรา รองแม่ทัพภาคที่ 1 พ.ท.เอิบ แสงฤทธิ์ พ.ต.เรืองศักดิ์ ชุมะสุวรรณ พ.อ.เอื้อม จิรพงษ์ และ ร.อ.ทวิช เปล่งวิทยา ได้นำกำลังกระทำยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า "เข้าตีรังแตน" โดยนำกองกำลังทหารราบที่ 1 พัน 3 บุกเข้าไปยึดวังปารุสกวัน ซึ่งเป็นกองบัญชาการตำรวจนครบาล จากนั้นจึงติดตามด้วยกองกำลังรถถัง ในขณะที่กองทัพเรือ พล.ร.อ.หลวงชำนาญอรรถยุทธ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งวิทยุเรียกเรือรบ 2 ลำ ยึดท่าวาสุกรี และส่งกำลังส่วนหนึ่งยึดบริเวณหน้าวัดราชาธิวาส เพื่อประสานงานยึดอำนาจ จนกระทั่งการยึดอำนาจผ่านไปอย่างเรียบร้อย

ขณะที่ฝ่าย จอมพล ป. พิบูลสงคราม รู้ล่วงหน้าก่อนเพียงไม่กี่นาที จึงตัดสินใจหลบหนีโดยไม่ต่อสู้ โดยเดินทางไปโดยรถยนต์ประจำตัวนายกรัฐมนตรียี่ห้อฟอร์ด รุ่นธันเดอร์เบิร์ด พร้อมกับคนติดตามเพียง 3 คน เท่านั้นคือ นายฉาย วิโรจน์ศิริ เลขานุการส่วนตัว พ.ต.อ.ชุมพล โลหะชาละ นายตำรวจติดตามตัว และ พ.ท.บุลศักดิ์ วรรณมาศ ทั้งหมดได้หลบหนีไปทางจังหวัดตราด และว่าจ้างเรือประมงลำหนึ่งเดินทางไปที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา ก่อนลงเรือ จอมพล ป. ได้ให้ พ.ท.บุลศักดิ์ นำรถไปคืนสำนักนายกรัฐมนตรี และเข้าพบหัวหน้าคณะปฏิวัติ คือ พล.อ.สฤษดิ์ ว่า ทั้ง 3 ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ขออย่าได้ติดตามไปเลย

ขณะที่ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ยังมิได้หลบหนีไปเหมือนจอมพล ป. แต่ถูกควบคุมตัวเข้ากองบัญชาการคณะปฏิวัติ พร้อมกับกล่าวว่า "อั๊วมาแล้ว จะเอายังไงก็ว่ามา" แต่ในวันรุ่งขึ้น พล.ต.อ.เผ่า ก็ถูกบีบให้เดินทางออกนอกประเทศไป จนในที่สุด ก็เสียชีวิตที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปี พ.ศ. 2503

 การรัฐประหารในครั้งนี้ นับเป็นการรัฐประหารอีกครั้งที่ผลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยไปโดยสิ้นเชิง เพราะนับเป็นการขจัดฐานอำนาจเก่าของจอมพล ป. พิบูลสงคราม อย่างเด็ดขาด และหลังจากนั้น อำนาจทั้งหมดก็ตกอยู่ที่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ต่อมาก็ได้กระทำการรัฐประหารอีกครั้งในวันที่ 20 ตุลาคม ในปีต่อมา เมื่อไม่สามารถควบคุมความวุ่นวายในสภา ฯ ได้ และเป็นที่มาของการใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ตามรัฐธรรมนูญมาตราที่ 17 ที่มอบอำนาจให้นายกรัฐมนตรีสามารถส่งการให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่กระทำการเป็นปรปักษ์ต่อความมั่นคงของรัฐได้ทันที

ในส่วนของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม หลังจากหลบหนีไปทางกัมพูชาแล้ว ก็ลี้ภัยอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นจึงเดินทางไปบวชที่วัดไทยพุทธคยาประเทศอินเดีย อุปสมบท ณ วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2503 และขอลี้ภัยการเมืองเข้าประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง ณ ที่นั่น จอมพล ป. และครอบครัวได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากรัฐบาลญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นถือว่าจอมพล ป. มีบุญคุณต่อประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นผู้อนุมัติให้ทหารญี่ปุ่นสามารถยกพลเข้าสู่ประเทศไทยได้โดยง่ายดาย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ทหารญี่ปุ่นจำนวนมากมิต้องล้มตาย และจอมพล ป. ก็ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบ ๆ ที่บ้านพักย่านชานกรุงโตเกียว จนกระทั่งถึงแก่กรรม ในวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2507 ด้วยอายุ 67 ปี ต่อมา ครอบครัวได้ทำการฌาปนกิจที่นั่น และนำอัฐิกลับสู่ประเทศไทยในวันที่ 27 มิถุนายน ปีเดียวกัน ท่ามกลางพิธีรับจากกองทหารเกียรติยศจากทั้งกองทัพบกและกองทัพอากาศ  ตามนี้

http://th.wikipedia....ทศไทย_พ.ศ._2500

 

หักเหลี่ยมกันดี น่าเอามาสร้างเป็นหนังนะครับ 




#979083 .... กกต. ชุดนี้เตรียมเดินตามรอยรุ่นพี่

โดย พอล คุง on 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:52

 

อยากรู้เมื่อกันว่า กกต ชุดนี้ จะอยู่ตำแหน่งได้นานขนาดไหน

 

แล้วอยากรู้เมื่อกันว่า จะติดคุกยาวไหมมมมมมมมมมมมมมม

 

เพราะความผิดสำเร้จไปแล้วววววววววววววววววววววววววว

 

กกต. มันทำผิดอะไรหรอครับ

 

ผมไปต่างจังหวัดมา ไม่รู้เรื่องข่าวคราวกับเขาเลยครับ

 

 

อย่างแรกเลยครับ กกต เอื้ออำนวยให้พรรคการเมือง ข้าง รบ ในการรับสมัครการเลือกตั้ง โดยการลงชื่อในเวลาตี 3 ตี4 ซึ่งมันผิดวิสัยครับ

 

อย่างที่สอง กกต ก้อดึงดัน จะจัดการเลือกตั้งให้ได้ โดยการให้มีการจับฉลากเลือกตั้ง ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่า การจะเลือกตั้งได้ บ้านเมืองต้องสงบ มีคนเห็นด้วยกับการเืลือกตั้งครับ

 

อย่างที่สาม รู้อยู่ว่า อดีต สส บางคนมีคดีติดตัว อย่างบางคนติดคดี ที่มาของ สว ที่ศาล รธน แต่ก้อยังจะให้ อดีต สส บางคนลงรายชื่อสมัครรับเลือกตั้ง

 

แค่นี้ถือเป็นความผิดสำเร้จแล้วครับ




#978619 (พลีชีพ) เราจะไม่สนความถูกต้องของข้อมูลที่เอามาลงกันแล้วเหรอครับ

โดย Moo3storey on 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 05:24

ตอนนี้ผมมีความรู้สึกเดียวกันเลยกับเพื่อนข้างล่าง....จนคิดมา 2 วันแล้วว่าจะไม่เข้าเสรีไทยสักพักเพราะเรื่องนี้เหมือนกัน
V
V


เห็นด้วยกับจขกท. ขอพักยกเหมือนกัน


มาเจอกระทู้นี้ ถึงได้รู้ว่าเริ่มมีคน "เหนื่อย" เรื่องเดียวกันนี้หลายคนทีเดียว
แปลว่าผมไม่ได้รู้สึกไปคนเดียวครับ


ถ้าคุณพ่อไอ้ตอม คิดว่าข้อมูลไหน ที่่คนในนี้เอามาลงแบบผิดๆ ก็ติเตียนกันได้ครับ ชี้แจงให้ทราบว่าข้อมูลมันไ่ม่จริง คนอื่นที่ไม่รู้เค้าจะได้รู้ด้วยว่ามันผิด ผมเชื่อว่าคนในนี้พร้อมจะแก้ไข และคงไม่นำข้อมูลผิดๆ นั้นไปส่งต่ออีกแน่นอน


บางทีเตือนแล้วก็ไม่แก้ครับ ไปตอบคำถามเรื่องอื่นๆซะ ไม่เข้ามาแก้ไขข้อมูล
หรือบางทีไม่กลับมาที่กระทู้ตัวเองเลยก็มี แบบเสื้อแดงเปีะ ตั้งทู้แล้วทิ้ง

หลังๆมานี้มันน่าโมโหจริงๆครับ หลายคนหน้ามืดตามัวคิดแต่จะเอาชนะอย่างเดียว แต่คิดจริงๆเหรอว่าจะชนะได้ภายในเวลาอันสั้น อารมณ์มวลชนตอนนี้มันไม่ต่างจากเสื้อแดงตอนปี53 คือถูกจุดติดเหมือนกัน แต่เผอิญของแกนนำแดงมันฮาร์ดคอร์มันมีเทเลือด บุกไปทุบรถ มีm79 มันเลยไม่มีเสื้อแดงที่งอแง มีแต่เสื้อแดงที่คอยแถให้แกนนำแทน

แต่ของกปปส.นี่มวลชนมันงอแงง้องแง้งกันครับ ทำไมกปปส.ไม่ทำอย่างนั้น ทำไมปชป.ไม่ทำอย่างนี้ ทำไมกำนันไม่บลาๆๆ แล้วก็มีการปล่อยข่าวปลุกระดมกันเอง ปล่อยข่าวเอาใจตัวเอง ทั้งๆที่กำนันก็พูดทุกวันๆว่ามันต้องใช้เวลาต้องสงบสันติอหิงสา ใช้ความถูกต้องเอาชนะความบิดเบือน แต่มวลชนตอนนี้มันไม่ฟังกันแล้วครับ มันจะบ้าบอเอาให้ได้ในวันสองวันอย่างเดียว


#978340 (พลีชีพ) เราจะไม่สนความถูกต้องของข้อมูลที่เอามาลงกันแล้วเหรอครับ

โดย Vekakav Vkkn on 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 22:28

ที่ติดเสรีไทยก็เพราะบทความอย่างนี้แหละครับ

จุด ยืน สวยงามมากครับ




#978338 (พลีชีพ) เราจะไม่สนความถูกต้องของข้อมูลที่เอามาลงกันแล้วเหรอครับ

โดย พ่อไอ้ตอม on 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 22:21

หนักนิดเบาหน่อยภาพจริงภาพล้อขำๆ ก็ว่ากันไป แต่เห็นช่วงไม่ก่ีวันนี้ มีปรากฏการณ์อย่างหนึ่ง

คือไม่สนความถูกต้องของข้อมูลที่เอามาลง ไม่ต้องสกรีน ข้อความไม่ตรงต้นทางก็ไม่ต้องเช็ค 

ถ้าเป็นพวกป่วนก็ไม่เท่าไร แจ้งลบ  แต่นี่หลังๆเป็นเราๆกันเอง

มีทั้งภาพเฟสปลอม ข่าวก็ดังว่ามันปลอมนะ ก็เอามาลง

บิดข้อความ เอามาผสมความเห็นส่วนตัวจน สื่อมาคนละเรื่อง 

ข่าวปล่อยเขาเล่าว่า  บางทีเป็นข่าวนานแล้วมาเสริมโน่นนั่นนี่

คือถ้าเข้าทางเราก็ลงเลย ลงแล้วคนต่อๆมาก็ไม่สนวิจารณ์ต่อๆไป
 
ช่วงสงครามไซเบอร์ข่าวเยอะไปหมด ถ้าเป็นไปได้ยูสเซ่อร์ทุกระดับถ้ารักปชต.จริงๆ
ช่วยสกรีนข้อมูลตัวเองก่อนลงจะดูดีกับเวปมาก
ถึงมันจะไม่ถึงแบบพวกเสื้อแดงไซเบอร์เขาทำ แต่หน้าที่ๆเราควรทำคือเอาความจริงมายัน
หรือไม่ก็ต้องไม่ทำเสียเอง
 
 
ช่วงนี้คงไม่เข้าเสรีไทยสักพัก รู้สึกว่าตัวเองเสพย์ข่าวเยอะเกินไปแล้ว เจอกันอีกทีหลังปีใหม่ครับ



#978564 ปกป้องอะไรกันแน่ ? - “นิติเรด-นักวิชาการแดง” ตั้งกลุ่มใหม่ “สมัชชาปกป้องประชา...

โดย nomoreshin on 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 01:28

ตอนนี้คำว่าปกป้องประชาธิปไตย สำหรับเรา มันคือรูปแบบสุภาพของคำว่า เกลียดกำนัน รักทักษิณ หมิ่นราชวงศ์

 
อย่าเหมารวมแบบนั้นครับ

อ๋อ ก็แค่สำหรับเราน่ะค่ะ คงไม่ทุกท่านที่คิดแบบเราค่ะ
เราอาจคิดแค่คนเดียว ซึ่งก็ไม่เป็นไรมั้งคะ
คงไม่มีผลอะไรมากมาย ; ) จะให้คิดอย่างอื่นก็ยาก
เพราะส่วนใหญ่ที่อ้างประชาธิปไตยมากๆ ก็เบื้องลึกๆ จะเป็นอย่างที่กล่าวมาเสียมากค่ะ


#973309 เคยได้อ่าน หรือได้ยิน อจ.สมเกียรติ ขอโทษกำนันบ้างไหมครับ?

โดย kokkai on 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:11

 

แม้มีมวลชนหนุนมากขนาดนี้ แต่กำนันไม่เคยยุให้ม็อบใช้ความรุนแรง

 

อจ.น่าจะยอมรับได้แล้วมังครับ

 

attachicon.gif1.001.jpg

 

อันนี้รูปขวาจริงๆ เป็นภาพเมื่อปี 52 ที่สระแก้วครับ

 

 

งั้นขอโทษเพื่อนสมาชิกด้วย ที่แชร์มาโดยไม่รู้จริง :(




#969490 ปิดรับสมัครสมาชิกสรท.ก่อนดีมั้ย ปฏิรูปพร้อมๆกันไปเลย

โดย namtanbood on 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:22

ไม่เห็นด้วยครับ...

 

ให้เค้าเข้ามาเถอะุครับ ให้เค้าเข้ามาค้นหา "ความรู้"... ให้เค้ามาค้นหา "ความคิดเห็น"... ให้เค้ามาค้นหา "ความแตกต่าง"... ให้เค้ามาค้นหา "ความจริง"

 

ที่พวกเค้าอาจ "ไม่มี" หรือ "ไม่รู้" 

 

ผมว่ามันเป็น "บุญกุศล" ของพวกเราครับ

 

แม้ว่า "พวกเค้า" จะไม่ "รับ" ก็ตาม....  :) 

 

 

 

ลอปอ แล้วก็คงต้องขอพึ่งความช่วยเหลือจากมอด ซึ่งขออนุญาตอ้างว่า "มันคงเป็นหน้าที่" ที่จะ "พิจารณา"

 

พิมพ์อย่างนี้แล้ว "พวกเค้า" จะ "เข้าใจ" มั้ยเนี่ย.... :ph34r: 




#969578 อ้าวเร้วว.ใครว่างก็ไป ไม่ว่างก็ไม่ต้อง ไปดูเด๊ะว่าทำไมถึงได้กลัวการปฏิรูปก่อน...

โดย Novice on 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 15:10

 

 

 

                แนวทาง กปปส. มันเกิดไม่ได้หรอกครับ ถ้าไม่เห็นด้วยกันทุกฝ่าย..

 

      เอาง่ายๆ  ถ้าไล่นายกให้ หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้..  การตีความก็ไปคนละทิศละทาง

 

      สมมุติว่า ทูลเกล้า ขอนายก พระราชทาน แล้วเกิดอีกฝ่ายไม่เห็นด้วยไปยื่นฎีกา ต่อในหลวง..

 

      เห็นแย้งแค่นี้ก็ยุ่งแล้ว..

 

                  ขั้นแรก กปปส. ต้องหันมาคุยกันก่อนครับ ถ้าเห็นด้วยทุกฝ่าย ก็พอมีทางทำกันไปได้.. แต่ถ้าไม่คุย

 

      ก็ต้องมีคนเห็นต่างไป ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ดีความเสียเวลากันไปอีก...

 

                   ทางที่ง่ายที่สุดคือแก้มาตรา 291 หลังจาก เลือกตั้งแล้ว.. แต่ต้องคุยกันให้จบเสียก่อน

 

อันนี้ผมเคยถามบางท่านถึงมาตรา 291 เหมือนกันครับ

 

ว่าทำไมไม่ไปใช้ตรงนั้น มันจะได้ไม่มีปัญหา และมันจะเป็นประชาธิปไตยที่สวยงามที่สุด

 

โดยประชาชน และถูกต้องอย่างแท้จริง

 

ผมได้คำตอบกลับมาประมาณว่า นักการเมืองมันไม่ให้แก้

 

ผมก็เลยสงสัยต่อเหมือนกันว่า มันไม่ให้แก้ หรือกปปส.ไม่ยอมคุย กันแน่

 

ถ้ากดดันให้นักการเมืองลงสัตยาบัน แล้วสุดท้ายมันไม่ปฏิรูป

 

ผมว่ายังไงก็ต้องโดนแน่ๆอยู่แล้ว เผลอๆคนจะเยอะกว่านี้ด้วย

 

 

คือผมสงสัยครับ ว่าใช้มาตรา 291 รัฐธรรมนูญตอนนี้มันจะแก้ปัญหาอะไรได้ครับ เอาแค่ถ้ารัฐบาลมันอยากแก้อย่าง แต่ กกปส. อยากแก้อีกอย่างมันก็ไม่ต้องคุยกันต่อแล้วมั้งครับ แต่ละข้างอ้างความชอบธรรมกันทั้งนั้น

 

แล้วรัฐธรรมนูญมันไม่มีปัญหากับใครหรอก คนที่มีปัญหากับรัฐธรรมนูญมีแค่คนเดียวก็คือไอ้แม้วนั่นแหละ ที่เหลือนี่เขาเรียกเดือดร้อนแทน เจ็บแค้นแทน แล้วก็ไม่เห็นรัฐบาลมันอยากจะแก้มาตรามรดกเผด็จการ 309 ที่ลูกหาบรณรงค์กันเลย สงสัยคงพึ่งตั้งสติได้ ถ้ายกเลิกมาตรานี้ คนแรกที่จะโดนประหารชีวิตคือไอ้บังตัวปฏิวัติตอนนั้น

 

อ้อ แล้วไม่ต้องห่วงหรอกครับ การเรียกร้องให้จัดตั้งสภาประชาชนนี่แหละที่เรียกว่าการตั้งต้นเจรจากันแล้ว การเจรจาเขาต้องเริ่มจากเรียกร้องแบบสุด ๆๆๆ ฝั่งหนึ่ง แล้วค่อยต่อรองลดหลั่นกันลงมา แต่สิ่งที่รัฐบาลทำคือเฉย โยนแรงกดดันให้ผู้ชุมนุมไป กะว่าตัวเองตีชิ่งไปเรื่อย ๆ ได้ มันก็แค่นี้เอง

 

รัฐบาลมันไม่กลัวการปฏิรูปหรอกครับ แต่รัฐบาลมันกลัวปฏิรูปไม่ถูกใจไอ้แม้ว ทุกวันนี้ที่มันพยายามให้ สว. เป็นญาติกับ สส. ได้นี่ก็เป็นการปฏิรูปการเมืองแบบแม้ว ๆ แล้วครับ

 

 

ผมงงครับ เกี่ยวอะไรกับรัฐบาลหรอครับ ท่านก็ขอแก้เฉพาะที่ท่านจะเอาสิครับ จะไปฟังทำไมอีกฝั่ง

 

อีกฝั่งขออะไร ไม่ต้องให้มันทำครับ บอกไปเลยเราจะปฎิรูปไม่ใช่นักการเมือง ที่ผมจะบอกคือ ทำให้มันถูกต้องครับ 

 

ถ้ากปปส.จัดตั้งรัฐบาลกลางขึ้นมาได้ สิ่งที่แรกที่เค้าจะทำคืออะไรครับ คือ แก้รัฐธรรมนูญครับ

 

ไม่งั้นสภาประชาชน จะเอาอำนาจมาจากไหนครับท่าน ในรัฐธรรมนูญที่เป็นกฏหมายสูงสุดไม่มีครับสภาประชาชน

 

แล้วทีนี่จะบอกว่ารัฐธรรมนูญปัจจุบันไม่เป็นปัญหาสำหรับสภาประชาชน มันใช่จริงๆหรอครับ

 

 

ปล. ยกเว้นถ้าพวกท่านบอกว่าวิธีแก้ปกติ นักการเมืองชั่วมันขัดขวาง อันนี้ผมก็ว่าอะไรไม่ได้ครับ

เพราะก็คงเหลือแต่วิธีผิดกฏหมายหรือยอมเป็นกบฎกู้ชาตินั่นแหละ แค่สงสัยเฉยๆว่าได้ลองพูดคุยหรือยังเท่านั้นเอง

แต่บอกไปก็เท่านั้น เพราะสุเทพโดนข้อหากบฏไปแล้ว คงไม่ยอมลงหรอก ล่าสุดยื่นศาลฎีกาเพิ่งยกคำร้องไปที่ขอถอน

ขนาดสุเทพอ้างตามศาลรัฐธรรมนูญ ยังไงกันดีละครับเนี่ยกระบวนการยุติธรรมบ้านเรา ตีความไม่เหมือนกันแบบนี้

ถึงแม้นักการเมืองทุกคนมาลงสัตยาบัน ว่าแก้ตามกปปส.ทุกประการ สุเทพก็คงไม่ยอมอยู่ดี

 

 

คือถ้าอ่านที่ย่อหน้าสามของผมก็น่าจะเข้าใจที่ผมอยากสื่อนะครับ ผมอาจจะผิดก็ได้ แต่ความเห็นผมคือคนอย่างสุเทพและชาวคณะไม่ได้ปัญญาอ่อนขนาดไม่รู้ว่าการจัดตั้งสภาประชาชนมันจะไม่ได้รับการยอมรับง่าย ๆ ซึ่งถ้าพูดตรง ๆ ผมคิดว่าสภาประชาชนคือกลยุทธในการเจรจาครั้งนี้เพื่อให้รัฐบาลยอมเจรจาด้วยว่าจะลดราวาศอกได้ขนาดได้ พื้นฐานการเจรจาต้องเริ่มจากข้อเสนอสูงสุด แล้วค่อย ๆ ต่อรองจนได้ข้อยุติครับ

 

วิธีการนี้ไอ้แม้วชอบใช้บ่อย ๆ เวลามันปล่อยข่าวว่าจะทำอะไรซักอย่างไง มันจะโยนหินถามทางมาก่อน ถ้าโดนต่อต้านมันก็จะลดดีกรีลง สุเทพก็เอาวิธีเดียวกันนี่มาใช้นั่นแหละ เพราะถ้าตามดูดี ๆ จะเห็นว่าข้อเสนอของสุเทพค่อย ๆ ลดดีกรีจากตอนแรกลงมาเรื่อย ๆ ตามลำดับเหมือนกัน ดังนั้นรัฐบาลมันก็เร่งเกมด้วยการบีบให้เลือกตั้ง แค่นี้เอง

 

เชื่อหรือไม่ลองดูต่อไปครับ ผมทำนายว่าสุดท้ายจะยอมรับได้ที่การตั้งรัฐบาลแห่งชาติร่วมกันทุกพรรค และจะมีการแก้กฏหมายเลือกตั้ง และระเบียบในรัฐสภา รวมถึงการแก้ไขที่มาของ สว. ให้ใกล้เคียงกับปี 40 โดยรัฐบาลแห่งชาติจะมีนายกมาจากพรรคเพื่อไทยที่ไม่ใช่พวกชินวัตร บางทีหวยอาจไปออกที่ไอ้อ๋อย 




#969048 ช่วงนี้แม้ว ปู ขี้ข้า ยกรัฐธรรมนูญและในหลวงใว้เหนือหัว ใครจะละเมิดมิได้

โดย kokkai on 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 09:51

1-fb19.jpg

 

http://www.tnews.co....ลังการ-!!!.html




#969262 อ้าวเร้วว.ใครว่างก็ไป ไม่ว่างก็ไม่ต้อง ไปดูเด๊ะว่าทำไมถึงได้กลัวการปฏิรูปก่อน...

โดย tigermao on 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:54

                แนวทาง กปปส. มันเกิดไม่ได้หรอกครับ ถ้าไม่เห็นด้วยกันทุกฝ่าย..

 

      เอาง่ายๆ  ถ้าไล่นายกให้ หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้..  การตีความก็ไปคนละทิศละทาง

 

      สมมุติว่า ทูลเกล้า ขอนายก พระราชทาน แล้วเกิดอีกฝ่ายไม่เห็นด้วยไปยื่นฎีกา ต่อในหลวง..

 

      เห็นแย้งแค่นี้ก็ยุ่งแล้ว..

 

                  ขั้นแรก กปปส. ต้องหันมาคุยกันก่อนครับ ถ้าเห็นด้วยทุกฝ่าย ก็พอมีทางทำกันไปได้.. แต่ถ้าไม่คุย

 

      ก็ต้องมีคนเห็นต่างไป ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ดีความเสียเวลากันไปอีก...

 

                   ทางที่ง่ายที่สุดคือแก้มาตรา 291 หลังจาก เลือกตั้งแล้ว.. แต่ต้องคุยกันให้จบเสียก่อน




#968604 สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ Vs สุขุม นวลสกุล [ตอน1] เจาะข่าวเด่น"สรยุทธ" 17 ธ....

โดย oneclick999 on 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 21:17

วันนี้ผมก็ดู แต่ผมเห็นด้วยกับ อาจารย์สุขุมในบางประเด็นคือ เราไม่ควรสร้างบรรทัดฐานที่ผิดให้กับสังคมที่ว่าเอาคนจำนวนมากมาแล้วไม่ปฏิบัติตามกรอบกติกาไรนั่นหน่ะ ลองคิดในมุมกลับกันว่า ถ้าในอีก 20 ปี ข้างหน้าลูกหลานเรามีสัก 20 ล้านคนมาเดินบนถนนเพื่อเรียกร้องระบอบ ปธน แล้วเดินตามแบบที่เราทำในวันนนี้จะเป็นยังไง ถ้าจะเอาตาม อ.สมบัติพูดว่าถ้ามาเยอะก็ทำได้ ผมคิดว่าแบบนี้อันตรายไป คำถามที่อยู่ในใจผมตอนนี้คือ เราน่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหม?