Jump to content


chaidan

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2557 07:53
-----

Topics I've Started

คสช.สั่ง ปรับบอร์ดรัฐวิสาหกิจใหม่ เพื่อความเหมาะสม

28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:01

a40f3f5cd82f072f22868f866270e4f8.jpg

 

คสช.สั่ง ปรับบอร์ดรัฐวิสาหกิจใหม่ เพื่อความเหมาะสม

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ รมว.คลังเปิดเผยว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ได้ให้นโยบายแก่กระทรวงการคลังให้ไปปรับเปลี่ยนคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีบุคคลที่สามารถเข้ามาเป็นคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง โดยไม่ทราบสาเหตุและเหตุผล ส่วนการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น เห็นว่าการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการของบริษัทต้องเป็นอำนาจของผู้ถือหุ้น ซึ่งแม้ว่ากระทรวงการคลัง จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ต้องมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นทั้งหมดด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับสัญญาณจากคสช. ให้ปรับเปลี่ยน กรรมการ ปตท. โดยในวันที่31พ.ค พล.อ.อ.ประจิน จะเรียกผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทั้งหมดไปหารือ รวมถึงได้ให้ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่เป็นผู้ดูแลกำกับรัฐวิสาหกิจทั้งหมด ให้เข้าร่วมประชุมด้วย มีรายงานว่า คสช.ได้สั่งให้กระทรวงการคลังทำรายละเอียดผู้ที่เป็นคณะกรรมการในรัฐวิสากิจทั้งหมดทุกแห่ง โดยให้ระบุว่ากรรมการแต่ละคนเป็นใคร ถูกแต่งตั้งจากรัฐบาลไหน หรือใครเป็นผู้แต่งตั้ง เข้าไปเป็นกรรมการ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ส่งรายละเอียดทั้งหมดให้ คสช. เรียบร้อยแล้ว ในการประชุมผู้บริหารทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ทั้งรัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น พล.อ.อ.ประจิน ได้กล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องการปรับเปลี่ยน โยกย้ายตำแหน่งว่า คงจะปรับเปลี่ยนโยกย้ายเฉพาะในตำแหน่งเท่าที่จำเป็น ทั้งตำแหน่งกรรมการ ที่ปรึกษา และเบอร์หนึ่งขององค์กร โดยย้ำว่าการปรับเปลี่ยนตำแหน่งครั้งนี้จะทำเท่าที่จำเป็น


อคส.โต้คลังสต็อกข้าวไม่หาย

27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 17:34

อคส.โต้คลังสต็อกข้าวไม่หาย

news_img_584946_1.jpg

 

องค์การคลังสินค้า ยืนยัน สต็อกข้าวรัฐบาลในโกดังไม่หาย แปลกใจแจงข้อมูลต่อเนื่อง พร้อมแจงอีกรอบรอผู้บริหารเปิดทาง

นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวจากผลการตรวจสอบรายงานข้าวของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีสินค้าเกษตรของกระทรวงการคลังที่ระบุตามข้อมูลในเอกสารว่า ปริมาณข้าวในสต็อกของรัฐบาลสูญหายไปเกือบ 3 ล้านตัน และยังไม่มีคำตอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ชัดเจน ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนในฐานะผู้ปฏิบัติและตรวจสอบข้อมูล พร้อมทั้งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบสต็อกข้าวที่มีการระบุในช่วงกลางปี 2556 ข้าวสูญหายไป 3 ล้านตัน และเรื่องดังกล่าวได้ชี้แจงทำความเข้าใจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ไปหลายครั้งและหลายรอบแล้ว

ทั้งนี้ อคส.ยืนยันข้าวที่ระบุว่าสูญหาย ได้ตรวจสอบแล้วไม่มีสูญหายไปจากคลังจัดเก็บข้าวแต่อย่างใด และหลายครั้งได้รายงานทำความเข้าใจ จึงไม่แน่ใจว่าข่าวที่ออกไปขณะนี้ต้องการให้เกิดความสับสนในระบบอย่างไร และเพื่อต้องการให้เกิดความสบายใจของทุกฝ่าย อคส.จะตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบและทบทวนตัวเลขปริมาณข้าวทั้งระบบอีกครั้งหนึ่ง และจะทำเรื่องเสนอให้นางศรีรัตน รัฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาเห็นชอบว่าจะให้ อคส. หรือกรมการค้าภายในดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชน ซึ่งหากผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ต้องการให้ อคส.ชี้แจงก็พร้อมที่จะทำความเข้าใจ

ดังนั้น ขอยืนยันจากข้อมูลที่มีการตรวจสอบและเก็บรวบรวมปริมาณข้าวในสต็อกของรัฐไม่เกิดการสูญหายตามที่เป็นข่าวขณะนี้อย่างแน่นอน


คิดเห็นกันเยี่ยงไรกับสิ่งที่สรรพากรเสนอ คสช. ครับ ?

27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:06

สรรพากรเสนอคสช. คงแวต7% อีก1ปี ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล20%ถาวร เพิ่มหัก′ค่าใช้จ่าย′จาก6หมื่นเป็น1.2แสน

 

สรรพากรเสนอคสช. คงแวต 7% อีก 1ปี ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 20% เป็นการถาวร เล็งลดภาษีมนุษย์เงินเดือนลงอีก จากสูงสุด35% พร้อมรื้อสิทธิประโยชน์ เพิ่มค่าลดหย่อนให้มากขึ้น อาทิเพิ่มการหักค่าใช้จ่ายจาก 60,000 บาท เป็น 120,000 บาท

 

นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในเรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)นั้น สรรพสากรเสนอไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้คงภาษี 7% จากเพดาน 10% ออกไปอีก 1 ปี โดยแวตมีกำหนดหมดอายุการลดถึง 30 กันยายน 2557 นอกจากนี้เสนอให้ออกพระราชกฤษฎีกาลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 20%  เป็นการถาวร ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ลดอัตราสูงสุด 35% และมีขั้นการเสียภาษี 7 ขั้นที่กำหนดไว้ถึง 31 ธันวาคม 2557  จะเสนอให้ต่ออายุออกปีอีก 1 ปี เพื่อจะให้มีเวลาปรับโครงสร้างใหม่และประกาศใช้อย่างถาวร


ทั้งนี้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นสรรพากรเห็นว่าควรลดลงจากอัตราสูงสุดจากปัจจุบันที่35%เนื่องจากมองว่าอัตราดังกล่าวยังไม่จูงใจ เมื่อเทียบกับประเทศสิงคโปร์ที่มีอัตราการจัดเก็บที่ต่ำกว่าไทย และผู้ที่ยื่นแบบส่วนใหญ่จะเสียภาษีให้รัฐ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาอัตราที่เหมาะสมเพื่อให้มีการเสียภาษีมากขึ้นจากปัจจุบันมีผู้เสียภาษีเพียง2ล้านรายจากผู้ยื่นแบบ10 ล้านราย รวมถึงจะเสนอให้ทบทวนสิทธิประโยชน์ลดหย่อนต่างๆ อาทิ การลดหย่อนกองทุนทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ( RMF)


นอกจากนี้ในเรื่องของการหักค่าใช้จ่ายภาษีปัจจุบันกำหนดให้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคนต่อปี เพิ่มเป็น 120,000 บาทต่อคนต่อปี โดยในส่วนที่เพิ่มอีก 6 หมื่นนั้นจะใช้ใบกำกับภาษีใช้ในการลดหย่อน ตรงนี้จะเป็นการทำให้คนเข้ามาในระบบภาษี และทำให้ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับรายจ่ายในปัจจุบันมากขึ้น


มรดกคอร์รับชั่น...

27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 07:47

คลังไล่บี้'วัฒนา'จ่าย5พันล้าน'คดีคลองด่าน'

jhfgedd67bk9e76eaj7ik.jpg

 

      ก.คลังส่ง 'คดีคลองด่าน' ถึงอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ จี้เรียกค่าเสียหายกว่า 2.1 หมื่นล้านไล่บี้ 'วัฒนา' 5 พันล้านกว่า 'ทายาทยิ่งพันธ์' 4.7 พันล้าน หวั่นหมดอายุความ

 

               จากปัญหาโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย จ.สมุทรปราการ หรือโครงการคลองด่าน ที่ดำเนินการโดยกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ตั้งแต่ปี 2538 รวมวงเงินงบประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท แต่ผ่านมาเกือบ 19 ปี โครงการยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ เนื่องจากถูกตรวจสอบปัญหาทุจริตในโครงการ ทั้งการจัดซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างไม่โปร่งใส การฉ้อโกงสัญญาโดยมีอดีตนักการเมืองชื่อดังของ จ.สมุทรปราการ คือ นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย และนายยิ่งพันธ์ มนะสิการ อดีต รมว.วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมสมัยนั้นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น

               รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน นายพงษ์ภานุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทน รมว.คลัง ทำหนังสือถึง นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เรื่องผลการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดกับนักการเมืองและข้าราชการของกรมควบ คุมมลพิษ กรมที่ดิน และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองด่าน รวม 14 ราย

               ประกอบด้วย นักการเมือง 2 ราย คือ นายวัฒนา อัศวเหม ในประเด็นการถูกเพิกถอนโฉนดที่ดินที่จัดซื้อเพื่อใช้ออกแบบโครงการดังกล่าว โดยมิชอบทำให้รัฐเสียเงิน 912 ล้านบาท จึงให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในอัตราร้อยละ 80 ของความเสียหาย คิดเป็นเงิน 729.6 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกรณีการจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโครงการได้กว่า 15,200 ล้านบาท จึงให้นายวัฒนารับผิดชอบใช้สินไหมทดแทนในอัตราร้อยละ 30 ของความเสียหาย หรือราว 4,500 ล้านบาท หรือรวมเงินที่ต้องจ่ายค่าสินไหมทั้งสิ้น 5,229 ล้านบาท

               สำหรับ นายยิ่งพันธ์ มนะสิการ อดีตรัฐมนตรีที่รับผิดชอบโครงการ แต่อาศัยการปฏิบัติหน้าที่ในการแสวงหาประโยชน์ ทำให้รัฐเสียหาย จึงให้ชดใช้สินไหมทดแทนเฉพาะส่วนในอัตราร้อยละ 25 ของความเสียหายจำนวน 15,200 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 4,770 ล้านบาท

               ส่วนอดีตข้าราชการระดับสูงจากกรมควบคุมมลพิษ 3 ราย คือ นายประกิต กิระวานิช อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ปี 2538-2540 นายศิริธัญญ์ ไพโรจน์บริบูรณ์ อดีตรองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ปี 2538-2540 และนางยุวรี อินนา อดีตผู้อำนวยการฝ่ายจัดการน้ำทิ้งเกษตรกรรม เกี่ยวข้องในกรณีการจัดซื้อที่ดินในโครงการทำให้รัฐเกิดความเสียหาย ให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้คนละ 1,044 ล้านบาท นอกจากนี้ข้าราชการทั้ง 3 รายดังกล่าวยังต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีการจ่ายเงินค่างวดงานให้แก่ผู้รับ เหมาที่รัฐจ่ายไปแล้วจำนวน 15,089 ล้านบาท และเงินกู้อีก 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

               ทั้งนี้ ให้จ่ายค่าสินไหมทดแทน ดังนี้ นายประกิตรับผิดชอบความเสียหายเฉพาะส่วนตนในอัตราร้อยละ 20 ของความเสียหาย หรือราว 3,040 ล้านบาท นายศิริธัญญ์ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนร้อยละ 10 ของความเสียหาย หรือราว 1,520 ล้านบาท ขณะที่นางยุวรีต้องจ่ายเงินค่าเสียหายร้อยละ 10 ของความเสียหาย หรือราว 1,520 ล้านบาท

               รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า คดีดังกล่าวยังมีเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน และอดีตประธานกรรมการบริหาร อบต.ที่ถูกให้รับผิดชอบจ่ายค่าสินไหมทดแทนอีก 4 ราย ได้แก่ นายณรงค์ ยอดศิรจินดา อดีตประธานกรรมการบริหาร อบต.คลองด่าน นายชะเอม ปูมิ้ม ประธานสภา อบต.คลองด่าน และนายบุญลือ โพธิอรุณ สมาชิก อบต.คลองด่าน ที่ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนในอัตราร้อยละ 5 ของความเสียหาย รายละ 760 ล้านบาท ส่วนนายกิตติชัย พิมพาภรณ์ อดีตข้าราชการกรมที่ดิน ที่เกี่ยวข้องกับการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ ให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนร้อยละ 20 ของจำนวนความเสียหาย 182 ล้านบาท

               ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษอีก 5 ราย ได้แก่ นายแคล้ว ทองสม นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย นายณรงค์ แก้วเศวตพันธุ์ นายชนินทร์ ทองธรรมชาติ และนายชานัน ติรณะรัต ในฐานะกรรมการ ซึ่งขณะนี้กรมควบคุมมลพิษยังไม่ได้มีคำสั่งให้จ่ายค่าสินไหมชดเชยตามที่ กระทรวงการคลังเสนอมา

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อรวมเงินค่าสินไหมทดแทนความเสียหายในคดีคลองด่าน ที่กระทรวงการคลังส่งเรื่องให้กรมควบคุมมลพิษทำหนังสือคำสั่งรวมกันเป็นเงิน ทั้งสิ้น 21,373 ล้านบาท โดยมีรายงานว่า นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้ลงนามในคำสั่งกรมควบคุมมลพิษส่งไปยังอดีตนักการเมือง และข้าราชการ รวม 14 ราย ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าจะหมดอายุความ สำหรับกรณีของนายยิ่งพันธ์ที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น อาจต้องให้ทายาทที่รับมรดกเป็นผู้รับผิดชอบแทน โดยผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์นายวิเชียร แต่ระบุว่ายังไม่พร้อมให้รายละเอียดในกรณีดังกล่าว

 

----------------------------------------------------------

2.1 หมื่นล้าน เอามาจ่ายช่วยชาวนาได้เยอะเลย ...


ปปช.ชี้มูลบอร์ดกทค.ประมูล3จีส่อ'ฮั้ว'

27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 06:48

news_img_584608_1.jpg

 

ปปช.ชี้มูลบอร์ดกทค.ประมูล3จีส่อ'ฮั้ว'

 

อนุ ปปช.ชี้มูลความผิดบอร์ดกทค. 4 คน จัดประมูล 3จี 2.1 กิกะเฮิรตซ์ปลายปี 2555 ส่อเค้าเอื้อประโยชน์เอกชนฮั้วราคากันเอง เหตุไม่เสนอราคาแข่งกันทำรัฐเสียหาย จัดประมูลให้ไลเซ่น 3 ใบเท่าจำนวนค่ายมือถือร่วมประมูล

รายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการป.ป.ช. สรุปผลสอบสวนกรณีจัดประมูลอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ หรือการประมูล 3จีของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2555 ว่า การประมูลครั้งดังกล่าวมีเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชน จนทำให้รัฐเสียหาย โดยหลังจากนี้จะนำผลชี้มูลความผิดดังกล่าวเข้าที่ประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่ เพื่อรับทราบต่อไป

ผลชี้มูลความผิดดังกล่าวมีผลตั้งแต่เดือนมี.ค.2557 โดยคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.)ทราบผลนี้ แต่ไม่เปิดเผยต่อที่ประชุมบอร์ด กทค. ขณะเดียวกัน บอร์ดกทค.ยังพยายามเร่งเปิดประมูลโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 4จีและเร่งประชาพิจารณ์ในต้นเดือน มิ.ย. 2557

โดยบอร์ด กทค.ที่อนุป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดคือ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร นายสุทธิพล ทวีชัยการ และนายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ ส่วนนายประวิทย์ ลีสถาพรวงศา ไม่ถูกชี้มูลความผิดเพราะไม่ได้ลงนามในมติจัดการประมูล 3จีดังกล่าว

สำหรับประเด็นการตรวจสอบการทุจริตการประมูล 3จี ตั้งแต่ปลายปี 2555 หลายฝ่ายได้สอบสวนเพราะราคาการประมูลที่ได้สูงกว่าราคาตั้งเพียงเล็กน้อย โดยกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เคยเรียกประชุมกรรมาธิการนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาแนวทางการตรวจสอบ และชะลอการออกใบอนุญาตประมูลคลื่นความถี่ 3จี หลังหลายฝ่ายท้วงติงการประมูลอาจเข้าข่ายการฮั้วประมูล

นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตส.ว.สรรหา ประธานอนุกรรมาธิการกฎหมายป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างความเป็นธรรมในสังคม ได้ทำหนังสือสรุปผลการศึกษาถึงการประมูล 3จี ของสำนักงานคณะกรรมการกสทช. สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค ผู้วิจัยของคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่าการประมูล 3 จีของกสทช. ซึ่งมีผู้ให้บริการรายใหญ่เพียง 3 รายเข้าร่วมการแข่งขัน อาจเป็นสิ่งที่ตั้งข้อสังเกตได้ว่า ผู้บริการทั้ง 3 ราย จะได้รับใบอนุญาตตั้งแต่ยังไม่ประมูล

เมื่อศึกษารายละเอียดในรายงาน ยังพบว่า ผู้วิจัยได้ยกตัวอย่างไว้ว่า หากมีบริษัทเข้าร่วมประมูลเพียงแค่ 3 ราย กสทช. ต้องตั้งราคาไม่ต่ำกว่า 82% ของมูลค่าความถี่คลื่น 1 สล็อต แต่ กสทช. กลับตั้งราคาเริ่มต้นไว้เพียง 70% เท่านั้น

การนำเสนอข้อมูลของกรรมาธิการหลายคนที่เห็นตรงกันในเรื่องการประมูล 3 จีของ กสทช. ว่า อาจส่อเค้าฮั้วประมูลเกิดขึ้น ทำให้ที่ประชุมมีมติจะส่งข้อมูลของกรรมาธิการให้ป.ป.ช. ประกอบการพิจารณาในการดำเนินการกับคณะกรรมการกสทช. ซึ่งป.ป.ช.ได้พิจารณามาตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.2555

การประมูลคลื่นความถี่ 3จี เมื่อปี 2555 นั้น มีการจัดสรรคลื่นความถี่ 9 สล็อตๆ ละ 5 เมกะเฮิรตซ์ รวม 45 เมกะเฮิรตซ์ มีผู้ร่วมประมูล 3 ราย คือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) และบมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น ผลสรุปประมูลทั้ง 3 รายได้ใบอนุญาตเท่ากันที่ 3 ใบ รายละ 15 เมกะเฮิรตซ์ วงเงินรวมการประมูลอยู่ที่ 41,625 ล้านบาท มีผู้เคาะราคาใบอนุญาตราคาที่ 4,500 ล้านบาท จำนวน 6 สล็อต 4,725 ล้านบาท 1 สล็อต และ 4,950 ล้านบาท 2 สล็อต ถือเป็นวงเงินสูงสุด เท่ากับว่าการเคาะราคาแข่งกันเพิ่มขึ้นจากราคาตั้งต้นการประมูลที่ 4,500 ล้านบาท เพียง 3 สล็อตเท่านั้น

 

----------------------------------------------------

เสื้อแดงประชดว่าเลิก 3g ไปเถอะ ประเทศเกษตรกรรม ใช้ 2g ก็พอ

โธ่ถัง.... ใจคอจะสนับสนุน รัฐบาล คอรัปชั่น จนหยดสุดท้ายจริงๆเลยนะเนี้ย ...