Jump to content


chaidan

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2557 07:53
-----

#1194364 ยินดีตอนรับคร๊าบบบบบบ....

โดย chaidan on 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 - 20:17

เหมือนได้เจอเพื่อนเก่า :)




#1194361 คิดถึง เวปบอร์ด เสรีไทย สภากาแฟ อย่างแรง

โดย chaidan on 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 - 20:16

สวัสดีครับ :)




#1193694 พระพุทธศาสนา คือ อะไร?

โดย chaidan on 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:51

 

 

คุณ chaidan กำลัง พูดถึง ทุกข-เวทนา-สังขาร ตะนิ่นตาญี เข้าใจ ถูกไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี

 

 

 

ฟังเทศน์หลวงพ่อเลยครับ 

:)




#1193673 พระพุทธศาสนา คือ อะไร?

โดย chaidan on 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:40

ปฏิจจสมุปบาท

จำเขามาครับ :)




#1192750 สนับสนุนโครงการ 2 ล้านล้าน

โดย chaidan on 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 08:07

เชื่อว่า เดียว แดง จะขุด ดร่าม่า ทางลูกรัง มาเล่นอีกแน่ๆ ขอร้าาาาบบบบบบ

:lol:




#1192698 สนับสนุนโครงการ 2 ล้านล้าน

โดย chaidan on 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 06:00

ถ้าไม่กู้นอกระบบ กับทบทวนเส้นทางรถไฟความเร็วสูงไปต่อกับจีนทางหนองคาย อันนี้ผมเห็นด้วยนะครับ

 

ปล.

ฝันอยากให้รถไฟไปถึงทุกจังหวัด
ฝันอยากให้มีการปฎิรูปองค์กรรถไฟ
ฝันอยากให้รถไฟสายใกล้ๆเดินทางระหว่างอำเภอ
เปิดสัมปทานให้เอกชนร่วมลงทุน




#1191178 คสช.สั่ง ปรับบอร์ดรัฐวิสาหกิจใหม่ เพื่อความเหมาะสม

โดย chaidan on 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:01

a40f3f5cd82f072f22868f866270e4f8.jpg

 

คสช.สั่ง ปรับบอร์ดรัฐวิสาหกิจใหม่ เพื่อความเหมาะสม

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ รมว.คลังเปิดเผยว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ได้ให้นโยบายแก่กระทรวงการคลังให้ไปปรับเปลี่ยนคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีบุคคลที่สามารถเข้ามาเป็นคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง โดยไม่ทราบสาเหตุและเหตุผล ส่วนการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น เห็นว่าการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการของบริษัทต้องเป็นอำนาจของผู้ถือหุ้น ซึ่งแม้ว่ากระทรวงการคลัง จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ต้องมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นทั้งหมดด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับสัญญาณจากคสช. ให้ปรับเปลี่ยน กรรมการ ปตท. โดยในวันที่31พ.ค พล.อ.อ.ประจิน จะเรียกผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทั้งหมดไปหารือ รวมถึงได้ให้ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่เป็นผู้ดูแลกำกับรัฐวิสาหกิจทั้งหมด ให้เข้าร่วมประชุมด้วย มีรายงานว่า คสช.ได้สั่งให้กระทรวงการคลังทำรายละเอียดผู้ที่เป็นคณะกรรมการในรัฐวิสากิจทั้งหมดทุกแห่ง โดยให้ระบุว่ากรรมการแต่ละคนเป็นใคร ถูกแต่งตั้งจากรัฐบาลไหน หรือใครเป็นผู้แต่งตั้ง เข้าไปเป็นกรรมการ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ส่งรายละเอียดทั้งหมดให้ คสช. เรียบร้อยแล้ว ในการประชุมผู้บริหารทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ทั้งรัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น พล.อ.อ.ประจิน ได้กล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องการปรับเปลี่ยน โยกย้ายตำแหน่งว่า คงจะปรับเปลี่ยนโยกย้ายเฉพาะในตำแหน่งเท่าที่จำเป็น ทั้งตำแหน่งกรรมการ ที่ปรึกษา และเบอร์หนึ่งขององค์กร โดยย้ำว่าการปรับเปลี่ยนตำแหน่งครั้งนี้จะทำเท่าที่จำเป็น




#1190412 ที่ปรึกษา คสช.ชุดนี้-มันมีอยู่จริงไหมครับ ทางเนชั่น เอามาลงข่าวว่า มีการแต่ง...

โดย chaidan on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:53

gkaa6badb69ei7k9g7e9i.jpg

 

คสช.ตั้ง'สมคิด-ปรีดิยาธร-ณรงค์ชัย'ปรึกษาศก.

 

คสช.ตั้ง6ที่ปรึกษา ทั้งอดีตนายทหารและรองนายกรัฐมนตรีช่วยดูแลงานความมั่นคง 'สมคิด-ปรีดิยาธร-ณรงค์ชัย'ดูแลเศรษฐกิจ

 

              27พ.ค.2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาจำนวน 6 คนประกอบด้วย 1.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานที่ปรึกษา 2.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก ดูแลด้านความมั่นคง 3.ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านต่างประเทศ  4.ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านเศรษฐกิจ 5.นายณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ ดูแลด้านเศรษฐกิจ 6.ดร.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านกฎหมายยุติธรรม


ย้ำความสัมพันธ์การค้าไทย-ญี่ปุ่น


              พ.อ.(หญิง) ศิริจันทร์ นาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เชิญหอการค้าญี่ปุ่น (เจซีซ๊) และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ซึ่งประกอบไปด้วยตัวแทนนักธุรกิจญี่ปุ่นในประเทศเข้าหารือ โดยมีตัวแทนจากภาคเอกชนเข้าประชุม เช่น บริษัท โตชิบาไทยแลนด์ จำกัด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด บริษัท มิตซุย สุมิโตโม จำกัด เป็นต้น โดยมีนายอิสระ ว่องกุศลกิจ สภาหอการค้าไทยเข้าร่วมประชุมด้วย
    
              พ.อ.(หญิง) ศิริจันทร์ กล่าวว่าหัวหน้า คสช.ได้ชี้แจงสถานการณ์และความจำเป็นในการเข้าควบคุมอำนาจการบริหารราชการผ่านดินเพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศให้นักธุรกิจญี่ปุ่นทราบ รวมทั้งให้ความมั่นใจว่าความสัมพันทางการทูต การค้าการลงทุนต่างๆระหว่างไทยกับญี่ปุ่นจะยังคงดำเนินการต่อไปได้ตามเดิมยกเว้นความร่วมมือใหม่ๆอาจจะต้องมีการหารือกันเพิ่มเติม รวมทั้งให้ความมั่นใจกับนักลงทุนญี่ปุ่นด้วยว่าจะให้การปกป้องผลประโยชน์ของประเทศญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทย
    
              ทั้งนี้ตัวแทนของหอการค้าญี่ปุ่นได้แสดงความคิดเห็นว่าอยากจะให้ คสช.ช่วยผลักดันโครงการแก้ปัญหาอุทกภัยที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 ให้ต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ขอให้ส่งเสริมอุตสาหกรรมหลักที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเครื่องอุปโภคและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งหัวหน้า คสช.ได้มอบหมายให้หน่วยงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการต่อ
    
              สำหรับประเด็นเศรษฐกิจอื่นๆในภาพรวมเช่นการจัดทำงบประมาณ การส่งเสริมการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หัวหน้า คสช.ได้มอบหมายพล.อ.อ.ประจิน จั่นตรอง รองหัวหน้า คสช.ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจเป็นผู้รับผิดชอบ โดยในวันที่ 26 พ.ค.พล.อ.อ.ประจินได้มอบนโยบายให้กับหน่วยงานเศรษฐกิจในสังกัดของกระทรวงการคลังแล้ว  



 ป.ป.ช.มีมติสอบ"นิวัฒน์ธำรง-ยรรยง"ทุจริตจำนำข้าว


              เมื่อเวลา 16.00 น. นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญากรณีกล่าวหานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวโดยเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการตามที่มีอำนาจหน้าที่ ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงจากการไต่สวนว่า การปิดบัญชีของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ของกระทรวงการคลัง ในครั้งที่ 3 มีผลขาดทุนเป็นจำนวนสูงถึง 3.3 แสนล้านบาท และยังมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปริมาณข้าวจำนวน 2.98 ล้านตัน ที่ไม่สามารถนำเข้ามาสู่กระบวนการปิดบัญชีของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีดังกล่าวได้ เนื่องจากยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจำนวนข้าวดังกล่าวมีอยู่จริงหรือไม่

              นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า เมื่อพิจารณาประกอบกับข้อเท็จจริงตามรายงานข่าวของสื่อมวลชนกรณีผลการประชุมของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง ปรากฏว่า คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีนายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้ตรวจสอบผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในช่วง 2 ปีกว่า (2554/2555, 2555/2556, 2556/2557) พบว่ามีผลขาดทุนสูงขึ้นกว่าเท่าตัว หรือขาดทุนกว่า 5 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาขายต่ำกว่าราคาต้นทุน 1.5 หมื่นบาทต่อตัน โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้คำนวณต้นทุนข้าวเปลือกที่แปรสภาพเป็นข้าวสารไว้เฉลี่ยที่ราคา 2.3 หมื่นบาทต่อตัน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวไปที่ราคา 1.2-1.4 หมื่นบาทต่อตัน และเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการได้ขายข้าวไปด้วยราคาเพียงตันละ 8 พันบาทเท่านั้น ทำให้มีส่วนต่างราคาขายกับราคาต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งทำให้โครงการรับจำนำข้าวขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบว่าข้าวสารหายไปจากสต๊อกอีกราว 2.8 ล้านตัน โดยปรากฏว่าในสต๊อกไม่มีข้าวอยู่จริง เป็นแค่ตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น และยังพบว่ามีข้าวเสื่อมคุณภาพอีกจำนวนมากที่ยังรอให้เซอร์เวเยอร์ตีราคา ซึ่งหากมีการตีราคาแล้ว คาดว่าจะทำให้ผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวจะเพิ่มมากกว่า 5 แสนล้านบาท

              นายสรรเสริญ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติให้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในประเด็นเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงที่อยู่ในความรับผิดชอบของนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยในชั้นนี้ให้ไต่สวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง จำนวน 4 ราย ได้แก่ 1.นายสมชาติ สร้อยทอง​ อธิบดีกรมการค้าภายใน 2.นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง 3.นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง และ 4.ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ผู้แทน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังเห็นควรให้ขยายผลในเรื่องดังกล่าว โดยจะดำเนินการตรวจสอบรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เกี่ยวข้องในโครงการดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ต่อไป




#1190277 อคส.โต้คลังสต็อกข้าวไม่หาย

โดย chaidan on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 17:34

อคส.โต้คลังสต็อกข้าวไม่หาย

news_img_584946_1.jpg

 

องค์การคลังสินค้า ยืนยัน สต็อกข้าวรัฐบาลในโกดังไม่หาย แปลกใจแจงข้อมูลต่อเนื่อง พร้อมแจงอีกรอบรอผู้บริหารเปิดทาง

นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวจากผลการตรวจสอบรายงานข้าวของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีสินค้าเกษตรของกระทรวงการคลังที่ระบุตามข้อมูลในเอกสารว่า ปริมาณข้าวในสต็อกของรัฐบาลสูญหายไปเกือบ 3 ล้านตัน และยังไม่มีคำตอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ชัดเจน ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนในฐานะผู้ปฏิบัติและตรวจสอบข้อมูล พร้อมทั้งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบสต็อกข้าวที่มีการระบุในช่วงกลางปี 2556 ข้าวสูญหายไป 3 ล้านตัน และเรื่องดังกล่าวได้ชี้แจงทำความเข้าใจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ไปหลายครั้งและหลายรอบแล้ว

ทั้งนี้ อคส.ยืนยันข้าวที่ระบุว่าสูญหาย ได้ตรวจสอบแล้วไม่มีสูญหายไปจากคลังจัดเก็บข้าวแต่อย่างใด และหลายครั้งได้รายงานทำความเข้าใจ จึงไม่แน่ใจว่าข่าวที่ออกไปขณะนี้ต้องการให้เกิดความสับสนในระบบอย่างไร และเพื่อต้องการให้เกิดความสบายใจของทุกฝ่าย อคส.จะตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบและทบทวนตัวเลขปริมาณข้าวทั้งระบบอีกครั้งหนึ่ง และจะทำเรื่องเสนอให้นางศรีรัตน รัฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาเห็นชอบว่าจะให้ อคส. หรือกรมการค้าภายในดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชน ซึ่งหากผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ต้องการให้ อคส.ชี้แจงก็พร้อมที่จะทำความเข้าใจ

ดังนั้น ขอยืนยันจากข้อมูลที่มีการตรวจสอบและเก็บรวบรวมปริมาณข้าวในสต็อกของรัฐไม่เกิดการสูญหายตามที่เป็นข่าวขณะนี้อย่างแน่นอน




#1190007 คิดเห็นกันเยี่ยงไรกับสิ่งที่สรรพากรเสนอ คสช. ครับ ?

โดย chaidan on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:06

สรรพากรเสนอคสช. คงแวต7% อีก1ปี ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล20%ถาวร เพิ่มหัก′ค่าใช้จ่าย′จาก6หมื่นเป็น1.2แสน

 

สรรพากรเสนอคสช. คงแวต 7% อีก 1ปี ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 20% เป็นการถาวร เล็งลดภาษีมนุษย์เงินเดือนลงอีก จากสูงสุด35% พร้อมรื้อสิทธิประโยชน์ เพิ่มค่าลดหย่อนให้มากขึ้น อาทิเพิ่มการหักค่าใช้จ่ายจาก 60,000 บาท เป็น 120,000 บาท

 

นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในเรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)นั้น สรรพสากรเสนอไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้คงภาษี 7% จากเพดาน 10% ออกไปอีก 1 ปี โดยแวตมีกำหนดหมดอายุการลดถึง 30 กันยายน 2557 นอกจากนี้เสนอให้ออกพระราชกฤษฎีกาลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 20%  เป็นการถาวร ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ลดอัตราสูงสุด 35% และมีขั้นการเสียภาษี 7 ขั้นที่กำหนดไว้ถึง 31 ธันวาคม 2557  จะเสนอให้ต่ออายุออกปีอีก 1 ปี เพื่อจะให้มีเวลาปรับโครงสร้างใหม่และประกาศใช้อย่างถาวร


ทั้งนี้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นสรรพากรเห็นว่าควรลดลงจากอัตราสูงสุดจากปัจจุบันที่35%เนื่องจากมองว่าอัตราดังกล่าวยังไม่จูงใจ เมื่อเทียบกับประเทศสิงคโปร์ที่มีอัตราการจัดเก็บที่ต่ำกว่าไทย และผู้ที่ยื่นแบบส่วนใหญ่จะเสียภาษีให้รัฐ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาอัตราที่เหมาะสมเพื่อให้มีการเสียภาษีมากขึ้นจากปัจจุบันมีผู้เสียภาษีเพียง2ล้านรายจากผู้ยื่นแบบ10 ล้านราย รวมถึงจะเสนอให้ทบทวนสิทธิประโยชน์ลดหย่อนต่างๆ อาทิ การลดหย่อนกองทุนทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ( RMF)


นอกจากนี้ในเรื่องของการหักค่าใช้จ่ายภาษีปัจจุบันกำหนดให้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคนต่อปี เพิ่มเป็น 120,000 บาทต่อคนต่อปี โดยในส่วนที่เพิ่มอีก 6 หมื่นนั้นจะใช้ใบกำกับภาษีใช้ในการลดหย่อน ตรงนี้จะเป็นการทำให้คนเข้ามาในระบบภาษี และทำให้ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับรายจ่ายในปัจจุบันมากขึ้น




#1188789 ผมคิดว่าจะโทรไปแจ้ง คสช. ให้จัดการกับห้องราชดำเนินในพันทิพย์ครับ

โดย chaidan on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 06:55

ผมไม่เห็นด้วยที่จะปิด ...
เสีย มากกว่า ได้ ...
 

แต่ให้เอา ทหาร ไปนั้งเฝ้าในห้องทำงาน Admin ดีกว่า 

คอยดูแลว่า ไม่ให้ ban คนเห็นต่าง หรือลบกระทู้ ความเห็นที่คิดค่าง

และก็ คอยจับดูพวก ร้อย login ที่คอยเข้ามาอ่วย พอแหล่ะ

 

หรือไม่ก็ให้ทหารเข้าไปเป้น admin แทนไปเลยง่ายดี 

อิอิ
:lol:


  • LST likes this


#1188781 ปปช.ชี้มูลบอร์ดกทค.ประมูล3จีส่อ'ฮั้ว'

โดย chaidan on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 06:48

news_img_584608_1.jpg

 

ปปช.ชี้มูลบอร์ดกทค.ประมูล3จีส่อ'ฮั้ว'

 

อนุ ปปช.ชี้มูลความผิดบอร์ดกทค. 4 คน จัดประมูล 3จี 2.1 กิกะเฮิรตซ์ปลายปี 2555 ส่อเค้าเอื้อประโยชน์เอกชนฮั้วราคากันเอง เหตุไม่เสนอราคาแข่งกันทำรัฐเสียหาย จัดประมูลให้ไลเซ่น 3 ใบเท่าจำนวนค่ายมือถือร่วมประมูล

รายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการป.ป.ช. สรุปผลสอบสวนกรณีจัดประมูลอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ หรือการประมูล 3จีของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2555 ว่า การประมูลครั้งดังกล่าวมีเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชน จนทำให้รัฐเสียหาย โดยหลังจากนี้จะนำผลชี้มูลความผิดดังกล่าวเข้าที่ประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่ เพื่อรับทราบต่อไป

ผลชี้มูลความผิดดังกล่าวมีผลตั้งแต่เดือนมี.ค.2557 โดยคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.)ทราบผลนี้ แต่ไม่เปิดเผยต่อที่ประชุมบอร์ด กทค. ขณะเดียวกัน บอร์ดกทค.ยังพยายามเร่งเปิดประมูลโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 4จีและเร่งประชาพิจารณ์ในต้นเดือน มิ.ย. 2557

โดยบอร์ด กทค.ที่อนุป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดคือ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร นายสุทธิพล ทวีชัยการ และนายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ ส่วนนายประวิทย์ ลีสถาพรวงศา ไม่ถูกชี้มูลความผิดเพราะไม่ได้ลงนามในมติจัดการประมูล 3จีดังกล่าว

สำหรับประเด็นการตรวจสอบการทุจริตการประมูล 3จี ตั้งแต่ปลายปี 2555 หลายฝ่ายได้สอบสวนเพราะราคาการประมูลที่ได้สูงกว่าราคาตั้งเพียงเล็กน้อย โดยกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เคยเรียกประชุมกรรมาธิการนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาแนวทางการตรวจสอบ และชะลอการออกใบอนุญาตประมูลคลื่นความถี่ 3จี หลังหลายฝ่ายท้วงติงการประมูลอาจเข้าข่ายการฮั้วประมูล

นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตส.ว.สรรหา ประธานอนุกรรมาธิการกฎหมายป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างความเป็นธรรมในสังคม ได้ทำหนังสือสรุปผลการศึกษาถึงการประมูล 3จี ของสำนักงานคณะกรรมการกสทช. สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค ผู้วิจัยของคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่าการประมูล 3 จีของกสทช. ซึ่งมีผู้ให้บริการรายใหญ่เพียง 3 รายเข้าร่วมการแข่งขัน อาจเป็นสิ่งที่ตั้งข้อสังเกตได้ว่า ผู้บริการทั้ง 3 ราย จะได้รับใบอนุญาตตั้งแต่ยังไม่ประมูล

เมื่อศึกษารายละเอียดในรายงาน ยังพบว่า ผู้วิจัยได้ยกตัวอย่างไว้ว่า หากมีบริษัทเข้าร่วมประมูลเพียงแค่ 3 ราย กสทช. ต้องตั้งราคาไม่ต่ำกว่า 82% ของมูลค่าความถี่คลื่น 1 สล็อต แต่ กสทช. กลับตั้งราคาเริ่มต้นไว้เพียง 70% เท่านั้น

การนำเสนอข้อมูลของกรรมาธิการหลายคนที่เห็นตรงกันในเรื่องการประมูล 3 จีของ กสทช. ว่า อาจส่อเค้าฮั้วประมูลเกิดขึ้น ทำให้ที่ประชุมมีมติจะส่งข้อมูลของกรรมาธิการให้ป.ป.ช. ประกอบการพิจารณาในการดำเนินการกับคณะกรรมการกสทช. ซึ่งป.ป.ช.ได้พิจารณามาตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.2555

การประมูลคลื่นความถี่ 3จี เมื่อปี 2555 นั้น มีการจัดสรรคลื่นความถี่ 9 สล็อตๆ ละ 5 เมกะเฮิรตซ์ รวม 45 เมกะเฮิรตซ์ มีผู้ร่วมประมูล 3 ราย คือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) และบมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น ผลสรุปประมูลทั้ง 3 รายได้ใบอนุญาตเท่ากันที่ 3 ใบ รายละ 15 เมกะเฮิรตซ์ วงเงินรวมการประมูลอยู่ที่ 41,625 ล้านบาท มีผู้เคาะราคาใบอนุญาตราคาที่ 4,500 ล้านบาท จำนวน 6 สล็อต 4,725 ล้านบาท 1 สล็อต และ 4,950 ล้านบาท 2 สล็อต ถือเป็นวงเงินสูงสุด เท่ากับว่าการเคาะราคาแข่งกันเพิ่มขึ้นจากราคาตั้งต้นการประมูลที่ 4,500 ล้านบาท เพียง 3 สล็อตเท่านั้น

 

----------------------------------------------------

เสื้อแดงประชดว่าเลิก 3g ไปเถอะ ประเทศเกษตรกรรม ใช้ 2g ก็พอ

โธ่ถัง.... ใจคอจะสนับสนุน รัฐบาล คอรัปชั่น จนหยดสุดท้ายจริงๆเลยนะเนี้ย ...




#1185852 ชาวนาสุดดีใจ เตรียมใบประทวนรอ ธ.ก.ส. เรียกรับเงินค้างค่าจำนำข้าว

โดย chaidan on 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:10

กฎหมายห้ามก่อหนี้ผูกพันสำหรับรัฐบาลรักษาการณ์ครับ


#1182242 คำสั่ง คสช ให้รายงานตัว ฉบับ5!! แก๊งค์ต่อต้านสถาบัน โดนหมดทั้งยวง สมศ...

โดย chaidan on 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:47

อยากให้จ้าวลัทธิ จานผี โดนเรียกด้วยมั้งจัง...

 

จริงอยากให้ยึดเงินด้วย ผู้ทรงศีล ขอข้าวชาวบ้านกิน จะมีเงินไปทำไม...

 

:lol:




#1176743 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 6 เดือน "จตุพร" คดีหมิ่น "อภิสิทธิ์...

โดย chaidan on 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:01

news_img_583813_1.jpg

 

ส่วนที่นายจตุพร ปราศรัยว่านายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีสั่งปราบปรามและฆ่าประชาชน เห็นว่า เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีพยานหลักฐานยืนยัน เป็นการเจตนาใส่ความดูหมิ่นเกลียดชัง ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็น อุทธรณ์ของนายจตุพรฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท แต่เนื่องจากคู่ความเป็นนักการเมือง ฝ่ายตรงกันข้าม ความคิดเห็นไม่ตรงกันย่อมพูดกระทบกระทั่งกันบ้าง ซึ่งคำปราศรัยของนายจตุพร ก็ไม่ได้พูดให้นายอภิสิทธิ์เสียหายร้ายแรง โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี และให้นายจตุพร ลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวันเป็นเวลา 7 วัน