Jump to content


โลกสวยงาม

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2557 11:23
-----

#1071333 คำถามจาก"ตำรวจ"ถึง"นาย" จะต้องตายไปอีกกี่คน

โดย kritz on 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 23:15

อืมมม อ่านอารมณ์ผู้เขียนบทความแล้ว ผมว่าเขาอยู่ในอารมณ์ที่อยากจะสังหารปชช.มือเปล่านะครับ

โดยส่วนตัว ไม่เคยมีอคติกับตำรวจ แต่การที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุ จนมีเหตุให้เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย

ผมว่า(ถ้า)ตำรวจผู้เขียนบทความปราศจากอาวุธ เฉกเช่นเดียวกับ มวลชนกปปส.ตามภาพข่าว ก็ไม่เกิดความสูญเสีย

คุณก็ฟ้องคดีปิดถนน ปิดสถานที่ราชการ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานไป มันก็ไม่มีผู้ใดสูญเสีย

 

กลับไปถามจิตสำนึกของตัวพวกตำรวจเองเถิด วันนี้คุณยังกล้าประกาศให้คนไทยฟังอีกหรือไม่

"หน้าที่รักษาสันติราษฎร์" ยังเป็นของพวกคุณอย่างเต็มภาคภูมิกันอยู่?




#1060490 ข้องใจมากครับ ขอระบายหน่อย

โดย คนไทย916 on 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 22:43

ขอเกริ่นเล็กน้อยนะครับ ผมเป็นนิสิตมหาลัยชื่อดังกลางใจเมือง คณะที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศที่สาม (ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น)

สิ่งที่ผมข้องใจมากที่สุดคือทำไมนิสิตส่วนใหญ่ในคณะนี้ถึงชอบมีความคิดแปลกๆ ดัจริต และล้มเจ้ากันจังครับ

ทุกๆวันผมต้องได้ยินสักหัวข้อที่เกี่ยวกับเจ้าขึ้นมาอย่างน้อยหนึ่งเรื่อง

บ้างก็เรื่องความไม่เท่าเทียมทางวรรณะ, การปิดถนน, ม112 และอื่นๆอีกมากมาย

หลายเรื่องที่อยู่ในวิสัยที่ผมจะอธิบายได้ อาทิเช่นเรื่อง มาตรา 112 ผมก็อธิบายเปรียบเทียบตามที่ผมเข้าใจให้เพื่อนฟัง

แต่สุดท้ายเพื่อนผมหลายคนก็ยังเชื่อฝังหัวอยู่เหมือนเดิม 

 

ตอนเด็กๆที่บ้านผมก็ไม่ได้ปลูกฝังเรื่องความรักชาติอะไรมากมาย แต่ผมรู้ว่าพ่อแม่และปู่ย่าของผมรักในหลวงและราชินีมาก

ผมยังจำได้ดีตอนที่อาม่ายังสุขภาพดีอยู่ ทุกครั้งเวลาที่ถึงช่วงวันเกิดในหลวงหรือราชินี เมื่อไรก็ตามที่ในหลวงหรือราชินีเริ่มพูด 

อาม่าผมจะรีบมานั่งติดจอ (แบบติดจอจริงๆ) แล้วก็จะคอยให้พ่อผมแปลที่ในหลวงพูดให้ฟัง

ผมอาจจะซึมซึบเรื่องตรงนี้มาจากอาม่าก็ได้มั้งครับ ผมชอบฟังเวลาพ่อเล่าเรื่องอากงอาม่าอพยพมาจากเมืองจีนให้ฟัง

ผมรู้ดีว่าผมติดหนี้บุญคุณแผ่นดินนี้อยู่มาก บรรพบุรุษผมมาจากเมืองจีน หากไม่มีแผ่นดินนี้ ชีวิตผมก็ไม่รุ้ว่าจะไปอยู่ตรงไหน

มีกินมีใช้ มีโอากาสไปเรียนต่างประเทศ มีการศึกษา มีหน้ามีตาในสังคมก็เพราะแผ่นดินนี้

 

เรียนในคณะนี้มันก็มีข้อดีหลายๆอย่าง อย่างนึงก็คือเราได้มีโอกาสพิจรณาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้น

เช่น ความรักชาติ  

อาจารย์ที่สอนผมส่วนใหญ่มีความคิดเป็นไปในทางเสื้อแดงครับ ถึงแม้หลายคนจะอายเกินกว่าที่จะยอมรับความจริงข้อนั้น

แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดูออกได้ไม่ยาก อาจารย์หลายคนสอนให้สงสัยเรื่อง nationalism หรือ patriotism ซึ่งแปลคร่าวๆก็คงเป็นความรักชาติ(ชาตินิยม)นั่นเอง อาจารย์หลายคนพยายามเน้นย้ำว่าการรักชาตินั้นเป็นเรื่องที่ผิด เป็นสิ่งที่เราไม่ควรยึดถือ เพราะมันก็เป็นแค่ social norm จริงๆแล้วชาติมันก็เป็นแค่เรื่องของนามธรรม เส้นเขตแดนก็เป็นเรื่องที่มนุษย์เราสร้างมาเท่านั้น ไม่มีความหมายอะไรเลย ผมฟังแรกๆแล้วบอกตรงๆว่าอารมณ์เสียมาก ในใจนี่ค้านทุกคำพูดของอาจารย์ อยากจะตะโกนไปถามว่า มีชาติในบ้างในโลกที่สร้างขึ้นมาแล้วอยู่และเจริญไปข้างหน้าได้โดยปราศจากชาตินิยม? 

 

อีกเรื่องนึงคือเพื่อนผมของส่วนใหญ่ เมื่อได้เรียนหลายๆวิชาในคณะนี้แล้ว กลายเป้นคนไม่มีศาสนา ไม่นับถือราชวงศ์ และชอบตั้ง status โลกสวยว่าอยากให้ทุกคนเท่าเทียม หลายครั้งที่ผมมักจะถามกลับว่า นั่นมันไม่ใช่ประชาธิไตยแล้วนะ นั่นมันคอมมิวนิสต์ แต่หลายคนก็ยังจะอ้างเดิมๆ ลากแม่น้ำทั้งห้ามาให้เหตุผลกับตัวเอง แม้มันจะเหมือนแถก็ตาม

อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้อารมณ์เสียมากนั่นก็คือ คนพวกนี้ชอบดูถูกศาสนา ตัวผมเองนั้นศรัทธาในศาสนาพุทธมาก ผมเชื่อในพระพุทธเจ้า และหลักธรรมที่ท่านสอน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะไปดูถูกศาสนาของคนอื่นว่าด้อยหรือต่ำกว่าศาสนาพุทธ 

ที่มหาลัยผมมักจะมีชาวเกาหลีมาเผยแพร่ศาสนาคริสต์(ผมว่าหลายคนน่าจะเคยเจอ) เพื่อนผมหลายคนที่บอกว่าตัวเองเป็นพวกไม่นับถือศาสนา (atheist) มักจะชอบล้อเลียนคนที่เค้ามาเผยแพร่ศาสนา ไปด่าทอว่าเค้างมงายบ้าง ไปหาว่าเค้าบ้าบ้างก็มี

โดยเฉพาะศาสนาอิสลามนี่โดนหนักสุด ไปวิจารณ์วัฒนธรรมเค้าต่างๆนาๆ อาทิเช่นเรื่องผ้าโพกผัว (ผมไม่ทราบจริงๆว่าเรียกว่าอะไร) 

ว่ามันละเมิดนู่นนั่นนี่ พูดง่ายๆคือวิจารณ์โดยปราศจากความเข้าใจที่แท้จริง

 

เชื่อหรือไม่ครับว่าสิ่งที่ผมเล่ามานี้เป็นพฤติกรรมของคนกว่า 80% ในคณะนี้ หลายคนยังไม่รุ้ด้วยซ้ำว่าในหลวงท่านดีอย่างไร 

หลายคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชาติเราอยู่ในจุดวิกฤตแล้วแค่ไหน คน 80% นี้มัวแต่ตั้งสถานะใน social media โดยที่สุดท้ายแล้ว สังคมก็ไม่ได้อะไรจากมันเลย ผมว่ามันน่าเป็นห่วงมากนะครับ สำหรับผู้ใหญ่ยุคใหม่ที่กำลังจะมาถึง หลายคนบอกว่าผมเป็นพวก conservative แต่ผมคิดว่าผมมองโลกตามความเป็นจริงมากกว่า น่าเสียใจนะครับนิสิตที่นับได้ว่ามีมันสมองอันดับต้นๆของประเทศ แต่พูดถึงเรื่องศีลธรรมหรือหน้าที่พลเมืองแล้ว ยังสู้นักเรียนโรงเรียนช่างข้างๆไม่ได้เลยครับ 

 

สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมเขียนอาจจะยาวนิดนึง และอาจจะหาสาระไม่ได้ค่อยได้ แต่อย่างน้อยก็ขอบคุณพื้นที่นี้สำหรับที่ให้ผมได้ระบายออกบ้าง หวังว่าในอนาคตผมจะไม่ได้พบปะกับคนที่มีความคิดแบบนี้อีกเลย

 

ขอบคุณครับ

 

เส้นเขตแดนก็เป็นเรื่องที่มนุษย์เราสร้างมาเท่านั้น 

 

ผมฝากไปถาม อาจารย์ด้วยนะ ว่า บ้าน อาจารย์ อยู่ที่ไหน มีที่ดินที่มีโฉนดไหม   

แล้วถามว่า ถ้าผม  ย้ายหมุดปักเขตแดน ของอาจารย์ จะยอมหรือไม่ 

 

 

ตั้ง status โลกสวยว่าอยากให้ทุกคนเท่าเทียม 

 

บอกมันว่ามีเงินไหม ตอนนี้ไม่ีมีเลย เอามาแบ่งกันหน่อยดิ จะได้เท่าเีทียมกัน 

หรือเพือนไปบ้าน มีหลานหรือน้อง ลองให้เรียกเพื่อน คุณ ว่าไอ้... หรือลูบ หัวเพื่อนคุณเล่นได้ไหม  ว่าเขายอมไหม 

ถามยอมก็ให้มันโลกสวยไปเถอะครับ ไม่ใช่โลกสวยแต่ปาก




#1060468 ข้องใจมากครับ ขอระบายหน่อย

โดย bogdan on 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 22:26

ขอเกริ่นเล็กน้อยนะครับ ผมเป็นนิสิตมหาลัยชื่อดังกลางใจเมือง คณะที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศที่สาม (ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น)

สิ่งที่ผมข้องใจมากที่สุดคือทำไมนิสิตส่วนใหญ่ในคณะนี้ถึงชอบมีความคิดแปลกๆ ดัจริต และล้มเจ้ากันจังครับ

ทุกๆวันผมต้องได้ยินสักหัวข้อที่เกี่ยวกับเจ้าขึ้นมาอย่างน้อยหนึ่งเรื่อง

บ้างก็เรื่องความไม่เท่าเทียมทางวรรณะ, การปิดถนน, ม112 และอื่นๆอีกมากมาย

หลายเรื่องที่อยู่ในวิสัยที่ผมจะอธิบายได้ อาทิเช่นเรื่อง มาตรา 112 ผมก็อธิบายเปรียบเทียบตามที่ผมเข้าใจให้เพื่อนฟัง

แต่สุดท้ายเพื่อนผมหลายคนก็ยังเชื่อฝังหัวอยู่เหมือนเดิม 

 

ตอนเด็กๆที่บ้านผมก็ไม่ได้ปลูกฝังเรื่องความรักชาติอะไรมากมาย แต่ผมรู้ว่าพ่อแม่และปู่ย่าของผมรักในหลวงและราชินีมาก

ผมยังจำได้ดีตอนที่อาม่ายังสุขภาพดีอยู่ ทุกครั้งเวลาที่ถึงช่วงวันเกิดในหลวงหรือราชินี เมื่อไรก็ตามที่ในหลวงหรือราชินีเริ่มพูด 

อาม่าผมจะรีบมานั่งติดจอ (แบบติดจอจริงๆ) แล้วก็จะคอยให้พ่อผมแปลที่ในหลวงพูดให้ฟัง

ผมอาจจะซึมซึบเรื่องตรงนี้มาจากอาม่าก็ได้มั้งครับ ผมชอบฟังเวลาพ่อเล่าเรื่องอากงอาม่าอพยพมาจากเมืองจีนให้ฟัง

ผมรู้ดีว่าผมติดหนี้บุญคุณแผ่นดินนี้อยู่มาก บรรพบุรุษผมมาจากเมืองจีน หากไม่มีแผ่นดินนี้ ชีวิตผมก็ไม่รุ้ว่าจะไปอยู่ตรงไหน

มีกินมีใช้ มีโอากาสไปเรียนต่างประเทศ มีการศึกษา มีหน้ามีตาในสังคมก็เพราะแผ่นดินนี้

 

เรียนในคณะนี้มันก็มีข้อดีหลายๆอย่าง อย่างนึงก็คือเราได้มีโอกาสพิจรณาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้น

เช่น ความรักชาติ  

อาจารย์ที่สอนผมส่วนใหญ่มีความคิดเป็นไปในทางเสื้อแดงครับ ถึงแม้หลายคนจะอายเกินกว่าที่จะยอมรับความจริงข้อนั้น

แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดูออกได้ไม่ยาก อาจารย์หลายคนสอนให้สงสัยเรื่อง nationalism หรือ patriotism ซึ่งแปลคร่าวๆก็คงเป็นความรักชาติ(ชาตินิยม)นั่นเอง อาจารย์หลายคนพยายามเน้นย้ำว่าการรักชาตินั้นเป็นเรื่องที่ผิด เป็นสิ่งที่เราไม่ควรยึดถือ เพราะมันก็เป็นแค่ social norm จริงๆแล้วชาติมันก็เป็นแค่เรื่องของนามธรรม เส้นเขตแดนก็เป็นเรื่องที่มนุษย์เราสร้างมาเท่านั้น ไม่มีความหมายอะไรเลย ผมฟังแรกๆแล้วบอกตรงๆว่าอารมณ์เสียมาก ในใจนี่ค้านทุกคำพูดของอาจารย์ อยากจะตะโกนไปถามว่า มีชาติในบ้างในโลกที่สร้างขึ้นมาแล้วอยู่และเจริญไปข้างหน้าได้โดยปราศจากชาตินิยม? 

 

อีกเรื่องนึงคือเพื่อนผมของส่วนใหญ่ เมื่อได้เรียนหลายๆวิชาในคณะนี้แล้ว กลายเป้นคนไม่มีศาสนา ไม่นับถือราชวงศ์ และชอบตั้ง status โลกสวยว่าอยากให้ทุกคนเท่าเทียม หลายครั้งที่ผมมักจะถามกลับว่า นั่นมันไม่ใช่ประชาธิไตยแล้วนะ นั่นมันคอมมิวนิสต์ แต่หลายคนก็ยังจะอ้างเดิมๆ ลากแม่น้ำทั้งห้ามาให้เหตุผลกับตัวเอง แม้มันจะเหมือนแถก็ตาม

อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้อารมณ์เสียมากนั่นก็คือ คนพวกนี้ชอบดูถูกศาสนา ตัวผมเองนั้นศรัทธาในศาสนาพุทธมาก ผมเชื่อในพระพุทธเจ้า และหลักธรรมที่ท่านสอน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะไปดูถูกศาสนาของคนอื่นว่าด้อยหรือต่ำกว่าศาสนาพุทธ 

ที่มหาลัยผมมักจะมีชาวเกาหลีมาเผยแพร่ศาสนาคริสต์(ผมว่าหลายคนน่าจะเคยเจอ) เพื่อนผมหลายคนที่บอกว่าตัวเองเป็นพวกไม่นับถือศาสนา (atheist) มักจะชอบล้อเลียนคนที่เค้ามาเผยแพร่ศาสนา ไปด่าทอว่าเค้างมงายบ้าง ไปหาว่าเค้าบ้าบ้างก็มี

โดยเฉพาะศาสนาอิสลามนี่โดนหนักสุด ไปวิจารณ์วัฒนธรรมเค้าต่างๆนาๆ อาทิเช่นเรื่องผ้าโพกผัว (ผมไม่ทราบจริงๆว่าเรียกว่าอะไร) 

ว่ามันละเมิดนู่นนั่นนี่ พูดง่ายๆคือวิจารณ์โดยปราศจากความเข้าใจที่แท้จริง

 

เชื่อหรือไม่ครับว่าสิ่งที่ผมเล่ามานี้เป็นพฤติกรรมของคนกว่า 80% ในคณะนี้ หลายคนยังไม่รุ้ด้วยซ้ำว่าในหลวงท่านดีอย่างไร 

หลายคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชาติเราอยู่ในจุดวิกฤตแล้วแค่ไหน คน 80% นี้มัวแต่ตั้งสถานะใน social media โดยที่สุดท้ายแล้ว สังคมก็ไม่ได้อะไรจากมันเลย ผมว่ามันน่าเป็นห่วงมากนะครับ สำหรับผู้ใหญ่ยุคใหม่ที่กำลังจะมาถึง หลายคนบอกว่าผมเป็นพวก conservative แต่ผมคิดว่าผมมองโลกตามความเป็นจริงมากกว่า น่าเสียใจนะครับนิสิตที่นับได้ว่ามีมันสมองอันดับต้นๆของประเทศ แต่พูดถึงเรื่องศีลธรรมหรือหน้าที่พลเมืองแล้ว ยังสู้นักเรียนโรงเรียนช่างข้างๆไม่ได้เลยครับ 

 

สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมเขียนอาจจะยาวนิดนึง และอาจจะหาสาระไม่ได้ค่อยได้ แต่อย่างน้อยก็ขอบคุณพื้นที่นี้สำหรับที่ให้ผมได้ระบายออกบ้าง หวังว่าในอนาคตผมจะไม่ได้พบปะกับคนที่มีความคิดแบบนี้อีกเลย

 

ขอบคุณครับ




#1054776 ถ้าไม่มีแกนนำคอยรั้งใว้ ทั้งตำรวจทั้งรัฐบาลและขี้ข้า จะรู้ว่า นรกมีจริง

โดย kokkai on 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 21:47

เจออาวุธลับริดซี่หน่อยม้ายยยย 

 

 

เปิดตัวชุดจู่โจม DSI !!!!

 

 

หนังตลกหรือครับ  :P




#1048175 บอกตรงๆ ไม่ชอบเลยที่หลวงปู่พุทธอิสระมานำม็อบ

โดย kairyuramon on 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 13:20

ในฐานะแกนนำผมบอกเลยว่าท่านเป็นแกนนำที่อิงธรรมะที่สุดแล้ว มีการสวดมนต์ตอนเย็นทุกวัน เวทีที่ท่านดูแลท่านก็ไม่อนุญาตให้นักการเมืองขึ้นมาพูด

 

ทั้งการปราศรัยบนเวทีท่านก็กำชับหนักหนาว่าอย่าพูดข้อความอะไรที่ทำให้เกิดความเกลียดชัง อีกทั้งประเด็นการปฏิรูปท่านก็เน้นแบบชัดเจน

 

การกำกับควบคุมดูแลผู้ชุมนุมท่านก็ดูแลอย่างเต็มที่ตลอด ท่านเน้นความปลอดภัยของลูกหลานเป็นหลัก ทำให้จนบัดนี้ที่เวทีแจ้งวัฒนะก็ยังไม่มีผู้เสียชีวิตเลย

 

ถ้าในเชิงความรู้ความสามารถผมบอกเลยว่าท่านไม่ธรรมดา ประวัติการศึกษาทางโลกท่านจบไม่ถึงป.สี่ แต่มีความรู้มากมายกว้างขวาง ถ้าใครเคยฟังท่านตอบคำถาม

 

รวมทั้งประวัติของท่าน ว่าท่านเคยทำอะไรมาบ้าง หรือว่าลองไปสัมผัสท่านด้วยตัวเองที่ม็อบซักคืนสองคืน ท่านจะเข้าใจเจตนารมณ์ของท่านมากขึ้นครับ




#1048036 บอกตรงๆ ไม่ชอบเลยที่หลวงปู่พุทธอิสระมานำม็อบ

โดย กีรเต้ on 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 12:08

คงงดออกความเห็นในเรื่องนี้ ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร

 

แต่ให้ข้อคิดไว้ว่า

 

ในช่วงเวลานี้ ณ จุดที่อยู่นั้น จะหาใครมีบุญ - บารมี ที่จะนำคนได้เท่ากับหลวงพ่อ

 

ใครที่จะพูด คำเดียว แล้วทุกๆ คน ในที่นั้นรับฟังแล้วทำตาม

 

ในครั้งอดีต พระคุณเจ้าหลายๆ รูป ก็ได้เคยช่วยชาติบ้านเมืองกันมาแล้วทั้งนั้น

 

พระที่ช่วยบ้านเมือง ทำนุบำรุงศาสนาไปพร้อมกัน

 

กับพระที่นั่งงอมืองอเท้ามองดูความเสื่อมไปของศาสนา 

 

วันๆ รอแต่จะให้ญาติโยมและพระที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเอาลาภสักการะมาถวาย

 

ใครมีค่ามากกว่ากัน

 

อยากให้ท่านถอนตัวออกมา ก็ต้องหาคนที่มีค่าเท่ากัน ไปนำตรงนั้นแทน  แล้วใครจะนำ




#1047964 บอกตรงๆ ไม่ชอบเลยที่หลวงปู่พุทธอิสระมานำม็อบ

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:36

 พระสงฆ์พม่าจัดการประท้วงรัฐบาล-เรียกร้องให้ปล่อยนักโทษการเมือง

พระสงฆ์หนุ่ม 5 รูปที่เมืองมัณฑะเลย์จัดการประท้วงติดต่อกันเป็นวันที่สอง เรียกร้องให้ทางการพม่าปล่อยตัวนักโทษการเมือง และยุติการทำสงครามปราบปรามชนกลุ่มน้อย พร้อมจัดการล่ารายชื่อประชาชนเพื่อยื่นเสนอต่อประธานาธิบดีพม่า โดยที่ขณะนี้เจ้าหน้าที่รัฐบาลยังไม่เข้าห้ามปรามการชุมนุม มีเพียงพระผู้ใหญ่ที่พยายามห้ามเท่านั้น พระสงฆ์พม่าจัดการประท้วงเมื่อ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่เมืองมัณฑะเลย์ ที่มา: Irrawaddy/Mandalay Breeze หนังสือพิมพ์อิระวดี รายงานว่า พระสงฆ์หนุ่ม 5 รูปที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ได้ประท้วงรัฐบาลตั้งแต่วันอังคาร (15 พ.ย.) ที่ผ่านมา โดยการประท้วงดำเนินต่อกันมาจนถึงวันนี้ (16 พ.ย.) ขณะที่พระชั้นผู้ใหญ่พยยามห้ามปรามพระสงฆ์ไม่ให้ประท้วงภายในวัด ทั้งนี้การประท้วงเกิดขึ้นในอาคารบริเวณวัดมหาเมียตมุนี ซึ่งเป็นปูชนียสถานสำคัญของเมือง โดยพระสงฆ์ได้ใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวปราศรัย และเรียกร้องให้ทางการปล่อยตัวนักโทษการเมือง ยุติการใช้ทหารปราบปรามชนกลุ่มน้อย และเพิ่มขยายเสรีภาพในการแสดงออกในพม่า มากกว่านั้นพระสงฆ์ยังได้แขวนโปสเตอร์ที่กำแพงเป็นคำขวัญทางการเมืองเป็นภาษาอังกฤษและภาษาพม่า ขณะเดียวกันพระสงฆ์อาวุโสในวัดได้อ้างคำสั่งของทางการ และเรียกร้องให้พระสงฆ์หนุ่มยอมลงมาจากอาคาร ขณะที่ตั้งแต่ในช่วงเย็นวันอังคารพระสงฆ์หนุ่มที่จัดการประท้วงยอมทำตามข้อเรียกร้อง โดยย้ายการชุมนุมไปที่วัดแห่งอื่นและอยู่หน้าวัดด้งกล่าวเพื่อปักหลักประท้วง พระอูมากา หนึ่งในห้าพระสงฆ์ที่จัดการประท้วงบอกผู้สื่อข่าว \อิระวดี\" ว่า เมื่อเวลา 13.00 - 14.00 น. วันนี้ พวกเขาได้ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศข้อเสนอทางการเมืองอีกครั้ง เขากล่าวว่าพวกเขาจะประท้วงต่อไปจนกว่าจะมีการทำตามข้อเรียกร้อง ทั้งนี้มีประชาชนราว 500 คนยืนฟังการประท้วง มีคนจำนวนมากที่ลงชื่อท้ายข้อเรียกร้องของพระสงฆ์ซึ่งข้อเรียกร้องนี้จะยื่นต่อประธานาธิบดีเต็งเส่ง พระอูมากาบอกด้วยว่า พระสงฆ์ผู้ใหญ่ของวัดที่พวกเขาย้ายมาประท้วง ได้แจ้งว่าสิ่งที่พวกเขากระทำไม่อยู่ในวินัยสงฆ์ และเรียกร้องให้พวกเขาย้ายไปประท้วงที่อื่น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รัฐบาลในเมืองมัณฑะเลย์ยังไม่ได้กระทำการแทรกแซงใดๆ ต่อการประท้วง มีเพียงพระสงฆ์ผู้ใหญ่เท่านั้นที่ลงมาจัดการเรื่องนี้ ทั้งนี้อาจเป็นความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำรอยการประท้วงของพระสงฆ์เมื่อปี 2550 การประท้วงลุกลามหลังจากพระสงฆ์ที่เมืองป่าโคะกู่ในภาคกลางของพม่าเดินขบวนต่อต้านรัฐบาล การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลเสมือน \"รัฐบาลพลเรือน\" ของพม่าดำเนินการปฏิรูปทางเศรษฐกิจและทางการเมือง ในขณะเดียวกันก็ทำสงครามกับชนกลุ่มน้อยในรัฐคะฉิ่นและยังคงมีการควบคุมตัวนักโทษการเมือง" 

คริสตจักรคาทอลิกกับการต่อต้านรัฐบาลของ "อาโรโย่"

เป็นอีกครั้งที่ผู้นำศาสนาต้องทำหน้าที่เป็นผู้ชี้นำประชาชน     เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หัวหน้าบาทหลวง ออสการ์ ครูซ ซึ่งเป็นผู้นำทางศาสนาคนสำคัญของฟิลิปปินส์ แถลงข่าวว่า สภาประมุขแห่งบาทหลวงโรมันคาทอลิกฟิลิปปินส์ (CBCP: Catholic Bishop Conference of the Philippines) ขอร่วมภาวนาให้ประชาชนผู้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลเป็นไปอย่างสงบสันติ และขอให้ประชาชนออกมาแสดงพลัง เพื่อทวงถาม สัจจะ ความยุติธรรม และความรับผิดชอบ ต่อไป

ชาว คาทอลิกจำนวนมากออกมาร่วมชุมนุมตามโบสถ์เพื่อสวดภาวนาให้รัฐบาลแสดงความรับ ผิดชอบเรื่องคดีทุจริตซึ่งกำลังเป็นประเด็นถกเถียงอยู่ตอนนี้

ขณะเดียวกัน โบสถ์คาทอลิกหลายแห่งซึ่งเป็นเึครือข่ายของสภาประมุขฯ ได้ก่อตั้ง ศูนย์แห่งสัจจะ หรือ Truth Center ขึ้น เพื่อรับเรื่องจากประชาชนที่ต้องการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในคดีทุจริตใน โครงการสื่อสารของเจ้าหน้าที่รัฐบาล รวมถึงเรื่องเดือดร้อนต่างๆ ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการบริหารรัฐบาลของ ปธน.อาร์โรโยด้วย

การประกาศจุดยืนว่า ไม่ยอมเป็นพวกเดียวกับรัฐบาล ของสภาประมุขฯ ทำให้โฆษกรัฐบาลกล่าวเตือนว่า ขอบเขตของผู้นำศาสนาไม่ควรก้าวก่ายเรื่องการเมือง และไม่ควร บ่มเพาะความเกลียดชัง ลงไปในจิตใจประชาชน ซึ่งการออกโรงเตือนครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะรัฐบาลตระหนักดีว่าพลังประชาชนทั้ง 2 ครั้ง ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองฟิลิปปินส์ที่ผ่านมา บาทหลวงโรมันคาทอลิกมีบทบาทสำคัญในการโน้มน้าวใจให้ผู้ประชาชนออกมารวมตัว กันจนสามารถล้มรัฐบาลได้

สำหรับครั้งนี้ หัวหน้าบาทหลวงระดับอาวุโส เอนเจิล ลักดาเมโอ ได้ออกแถลงการณ์ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนออกมาแสดงพลังประชาชนครั้งใหม่ เพื่อ ชำระ ความทุจริตและอยุติธรรมในสังคม และประกาศยอมรับว่า การที่บาทหลวงคาทอลิก โน้มน้าวให้ประชาชนออกมาแสดงพลังในปี 2544 เพื่อขับไล่โจเซฟ เอสตราดา ลงจากตำแหน่ง เป็นผลให้ประธานาธิบดีคนใหม่ก้าวเข้าสู่รัฐบาล และกลับกลายเป็นว่า ประธานาธิบดีผู้นั้นเป็น ผู้นำที่ฉ้อฉลที่สุด สภาประมุขฯ จึงขอให้ ประชาชนเป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่มาสู่ฟิลิปปินส์ อีกครั้ง

หัวหน้าบาทหลวงลักดาเมโอไม่ได้จำเพาะเจาะจงเพียงแค่ ปธน.กลอเรีย แมคคาปากัล อาร์โรโย หรือ GMA เพียงลำพัง แต่รวมถึงกระบวนการทุจริตที่เชื่อมโยงไปถึง โฮเซ่ มิเกล อาร์โรโย สามีของเธอด้วย เขาจึงเรียกร้องให้ชาวฟิิลิปปินส์สนับสนุน โรดอลโฟ โลซาดา จูเนียร์ อดีตข้าราชการฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพยานสำคัญในคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลเรียกร้องสินบน และนายโลซาดา หรือ จุน ได้ให้การเพิ่มเติมด้วยว่า สามีของ ปธน.อาร์โรโยก็เกี่ยวข้องกับการติดสินก้อนมหึมานี้

หัวหน้าบาทหลวงลักดาเมโอกล่าวว่า โลซาดาคือผู้กล้าหาญ ที่ยอมเสี่ยงชีวิตของตนเพื่อเปิดโปงความชั่วร้าย คำกล่าวเช่นนี้มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ชาวคาทอลิกจำนวนมากออกมาเป็นแนวร่วม บนท้องถนนเพื่อกดดันให้รัฐบาลเร่งสะสางคดีนี้โดยเร็วที่สุด

 

คาทอลิกฟิลิปปินส์หนุนประชาชนให้ช่วยกันเปิดโปงรัฐบาลทุจริต
โดย เดลินิวส์ วัน จันทร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

บิ ชอปแห่งคริสตจักรโรมัน คาทอลิก ผู้ทรงอิทธิพลในฟิลิปปินส์ ประกาศสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐสองคน ซึ่งเปิดโปงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ การทุจริตอย่างมโหฬารในรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย พร้อมกันนั้น ยังเรียกร้องให้ประชาชนสนับสนุนความพยายามในการเปิดเผยข้อเท็จจริง

ทั้ง นี้ ในที่ประชุมของบิชอป คาทอลิกแห่งฟิลิปปินส์ ยกย่องนายโฮเซ เดอ เวเนเซีย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายรูดอลโฟ โลซาดา จูเนียร์ อดีตที่ปรึกษารัฐบาล ที่นำเรื่องราวการทุจริตในรัฐบาล มาเปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งเกี่ยวโยงถึงนายไมค์ อาร์โรโย สามีของประธานาธิบดีอาร์โรโย

ด้านอาร์คบิชอปแองเจล แลคดาเมโอ ผู้นำกลุ่มบิชอปฟิลิปปินส์ กล่าวถึงนายเดอ เวเนเซีย กับนายโลซาดาว่าเป็นบุคคลที่มีความกล้าหาญ ในการเปิดโปงการทุจริตและรับสินบนในกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล และว่า ฟิลิปปินส์ตกอยู่ในสภาวะการถูกครอบงำด้วยการทุจริตของผู้คนในรัฐบาลมาอย่าง ยาวนาน ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ประชาชนสนับสนุนความพยายามของคาทอลิก ในการเปิดเผยความจริงที่อยู่เบื้องหลังการทุจริต

อนึ่ง คริสตจักรโรมันคาทอลิก เป็นองค์กรที่มีอิทธิพลในฟิลิปปินส์ และมีส่วนสำคัญในการโค่นล้มอดีตผู้นำมาแล้วสองคนคือ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส กับโจเซฟ เอสตราดา.

*อยากให้ จข กท อ่านและพิจารณาให้ดีๆ ตราบใดที่ประชาชนในประเทศเดือดร้อน ทุกข์ยากจากรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม

 ฝ่ายศาสนจักรจะนิ่งดูดายได้อย่างไร เพราะศาสนจักร(ทุกศาสนา)จะดำรงคงอยู่ได้ต้องอาศัยศรัทธาประชาชนเป็นหลัก*

 

 




#1047916 บอกตรงๆ ไม่ชอบเลยที่หลวงปู่พุทธอิสระมานำม็อบ

โดย Moo3storey on 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:17

ผมว่าท่านก็ไม่ได้ทำเรื่องเสื่อมเสียอะไร จนถึง ณ วันนี้ท่านก็ยังไม่ได้ประพฤติตัวไปในทางที่ไม่ดี หรือนำม็อบออกนอกลู่นอกทาง

ส่วนตัวผมนับถือพระรูปนี้ก่อนที่ท่านจะมาร่วมกับกปปส.เสียอีก พอท่านมาร่วมกับกปปส.ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าท่านน่าเลื่อมใสมากขึ้น หรือน้อยลง เพราะผมก็แยกแยะได้อยู่ครับ ถ้าท่านจะประพฤติตนไม่เหมาะผมก็คงไม่เห็นด้วยนะครับ แต่กรณีนี้ผมเฉยๆจริงๆ

(เอาจริงๆค่านิยมที่ว่าพระต้องวางมาดเท่แบบพระๆ อยู่เฉยๆไม่ยุ่งอะไร มันเป็นค่านิยมครับ คือชาวบ้านคิดแบบนี้ แต่จริงๆมันไม่ใช่ หลายคนยังเข้าใจผิด คิดว่าปล่อยวางคือไม่ยุ่ง ไม่ใส่ใจอะไร)

ผมว่าเป็นการดีซะอีก ที่ท่านมานำม็อบให้ เพราะท่านก็ชี้ทางที่สันติอหิงสาให้ ที่เสียๆกันก็เป็นพวกที่ไม่ยอมเชื่อท่านทั้งนั้น ก็ทีไปฮาร์ดคอร์รื้อป้าย หรือเอาปืนเอาอาวุธมาสู้ ดันเย้วๆกันบอกว่าดี แต่ทีมีพระมามานำแบบสันติอหิงสา ดันทำเป็นรับไม่ได้กัน


#1046845 อาวุทธลับที่แข็งเเกร่งของพวกกู โฮะๆๆๆๆ อยากเอาออกมาใช้งานเร็วๆจริงๆ

โดย gass on 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 20:06

คุณมีอิทรราชของคุณ ผมมีป่าหวายของผม

 

จบนะ




#1045399 เมื่อวานนี้มีข่าวปฏิวัติลอยลม....

โดย arch_freeman on 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 23:55

ผมไม่รู้ว่าผู้กองปูเค็ม เอาข้อมูลความเสียหายจากฝ่ายโกตี๋ มาจากไหน  แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ฝ่ายอันธพาลเสื้อแดงกับตำรวจขี้ข้าเมื่อวานโดนไปหนักเหมือนกัน

 

1) อย่าลืมว่า ดวลปืนกันนานพอสมควร

2) ทหารเป็นคนเข้าไปเคลียรพื้นที่เป็นกลุ่มแรก ดังนั้นถ้าทหารจะเจอศพหรือเจอความเสียหายทหารจะทราบเป็นกลุ่มแรก

3) การดวลปืนสงบเพราะการล่าถอยของกองกำลังติดอาวุธฝั่งโกตี๋ล่าถอย

 

ตอนนี้ กองกำลังติดอาวุธของทักษิณ คงเปลี่ยนยุทธวิธีจากลุยมาทำร้ายกลุ่มมวลชน มารบแบบสงครามกองโจร ดักยิงและทำร้ายผู้ชุนนุม (ซึ่งคืนนี้ก็เริ่มประเดิมไปแล้ว) เพื่อทำให้เกิดสภาพความไม่ปลอดภัยในที่ชุนนม การตั้งด่านของตำรวจและทหารช่วยได้ระดับหนึ่งครับ แต่ไม่สามารถหยุดความสูญเสียได้

 

การตัดสินใจของ กปปส เพื่อยุบเวทีนั้น เป็นการตัดสินที่ถูกต้องแล้ว เพราะเวทีที่เหลืออยู่นั้น วิ่งถึงกันได้ และเป็นเครือข่ายถนนอยู่แล้ว

 

ดังนั้นยุทธการที่ดีที่สุดของกลุ่มนิรนามคือการ track ต้นตอไปถึงตัวการ ดังนั้นการข่าวต้องดี และต้องกำจัดตัดไฟเสียแต่ต้นลม

 

หลังจากนี้ เราจะไม่ค่อยเห็นแกนนำเสื้อแดง จะระวังตัวกันแจ และไม่ค่อยเปิดเผยว่าเดินทางไปที่ไหน รวมถึง รมต. คนสำคัญๆ ด้วยเช่นกัน และที่จะเล่นถึงชีวิตก็เฉพาะ แกนนำ และ นักการเมือง ที่จ้างคนมาทำร้ายประชาชน หรือ จ้างกองกำลังต่างชาติมาทำร้ายประชาชนเท่านั้น

 

เกมแบบนี้ จะดำเนินต่อไป จนมีการตัดสินของ ปปช. ถึงอนาคตของ นายกรัฐมนตรีในเรื่องการจำนำข้าว และการฟ้องให้เลือกตั้งที่ผ่านไปนั้นโมฆะ

 

เกิดภาวะสูญญากาศเมื่อไหร่ มวลมหาประชาชนก็จะเห็นแสงปฏิรูปร่ำไรๆๆๆ 

 

เร็วหรือ ช้า ขึ้นกับ ปปช. กกต. และ ศาล รธน.




#1004979 ขอส่งสารถึงคุณเสรี(วง)

โดย คุณนายนอกบ้าน on 13 มกราคม พ.ศ. 2557 - 21:33

เมื่อปี 52 พวกคุณพูดถึงความลำบากของคนป่วยที่โรงพยาบาลจุฬา แบบนี้หละ

ขอยืมรูปจากอีกกระทู้นะคะ

Attached Images

  • image.jpg



#1044502 สาธิตแอบไปลงคะแนน..ไหนว่า กปปส ต่อต้านการเลือกตั้งต้องปฏิรูปก่อน..รายงานจาก ช...

โดย อู๋ ฮานามิ on 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 17:42

ช่องแดงก็โดน ลวกต้ม ไปอีกรายหรือนี่  :lol:




#1043620 กปปส. ควรป้องกันตัวเองหรือไม่

โดย amplepoor on 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:38

เจ้านายผมไปทำงาน

ถ้าต้องเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย จะมีบอดี้การ์ดสองคันรถ

พี่ๆ 6 คนคอยดูแลความปลอดภัย

ทุกคนพกอาวุธปืน และมีใบอนุญาตถูกต้อง

 

ถามว่าในเมื่อการชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ กลายเป็นเรื่องถึงตาย

ถูกลอบทำร้ายอย่างต่อเนื่องโดยรัฐบาลไม่สามารถให้การคุ้มครองดูแลได้

 

เรามีสิทธิป้องกันตัวเองหรือไม่

 

กปปส. ที่ต้องดูแลมวลชนนับแสนในแต่ละวัน

จำเป็นต้องสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด

ชดเชยเกียร์ว่างของทหาร-ตำรวจและรัฐบาลหรือไม่

 

การชุมนุมยังไม่จบสิ้นในเร็ววัน

ถึงเวลาหรือยัง ที่การ์ดกปปส. จะเป็นมืออาชีพ ที่ยิงป้องกันได้ตามกฏหมาย




#1043335 “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ของเสื้อแดง vs “กรรม” ของชาติและประชาชน

โดย ศรอรชุน on 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 09:48

สิ่งศักดิ์สิทธิ์vsกรรม (3).JPG

 

กะจะไปล้อมยิงล้อมฆ่าเหมือนที่วัดศรีเอี่ยมอีก

ใครจะไปยอมให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ตายฟรีละครับ

ประชาชน ต่อสู้กับประชาชน ถ้าไอ้โกตี๋ ไม่เอาเสื้อแดงไปปะทะ 
ก็ไม่มีเหตุรุนแรง...

ประชาชนเสื้อแดงมี "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" คอยช่วยทำระยำ
มวลมหาประชาชนก็มี "กรรม" คอยตามล้างผลาญสิ่งศักดิ์สิทธิ์

"สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ทำร้าย ทำลาย สังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์
แต่ "กรรม" จะตามจองล้างจองผลาญเฉพาะ "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" เท่านั้น... 

 

ระวังไว้ให้ดี โดยเฉพาะไอ้ตัวที่อยู่เบื้องหลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่นแหละ ... :D  :D  :D 




#1041936 กปปส ก็มีกองกำลังติดอาวุธเหมือนกันนะ

โดย arun sound on 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 19:42

ถ้าผมมีปืน ผมก็ยิง แล้วจะทำไม??? พวกนี้ตายไปกี่คนแล้ว จับใครได้มั่ง ตำรวจทำอะไรได้มั่ง เห็นออกสื่อว่า อยากจะจัดการด้วยอาวุธไม่ไช่หรือ 

มาสิ

คราวนี้ พวกผมจะไม่อดทนอีกต่อไป

มึงยิงมาได้ พวกกูก็จะสวนไป จบมั๊ย

มวนชนไม่มีอาวุธ ไปมือเปล่า แล้วเป็นไง ตายแม่งแทบทุกวัน