Jump to content


paper punch

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 08:59
-----

#603108 ,,,,,ขอขอบคุณท่านอภิสิทธิ์ที่ใช้หนี้ imf ให้เเก่ประเทศไทยค่ะ

โดย phoebus on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 07:23

 ขอขอบคุณท่านชวลิตทีก่อหนี้ imf ให้เเก่ประเทศไทยค่ะ

 

 ขอขอบคุณท่านทักษิณที่ปู้ยี่ปู้ัยำประเทศไทยต่อค่ะ

 

:D  :D  :D  :D  :D  :D  :D 




#602324 อยากเชิญชวนเพื่อนเสรีไทย ดู ANTARTICA ซีรีส์เชิดชูกำลังใจและกอบกู้ประเทศชาติท...

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:33

"ญี่ปุ่นไม่ต้องการสงคราม หรือพลังทางเศรษฐกิจ
สิ่งที่ต้องการที่สุดตอนนี้.....ญี่ปุ่นจำเป็นต้องมีความฝัน..."

1360942561-jS9GfgUmnN-o.jpg

 

เพิ่งฉายตอนแรกไปเมื่อคืนนี้   ฉายทุกพฤหัสและศุกร์ 4 ทุ่มครึ่งครับ

http://pantip.com/to...51225/comment24

http://asianwiki.com...nkyoku_Tairiku)

 

1360946359-4679952110-o.jpg

 

คือผมเล่าไม่ถูกนะครับ  บอกได้คำเดียวว่าแค่ตอนแรกก็ "ตื้นตัน"

ผมดูแล้วนึกถึงประเทศไทยอย่างบอกไม่ถูก  เพราะเราอยู่ในสภาพบอบช้ำมาก แทบจะเหมือนญี่ปุ่นตอนแพ้สงคราม

และถ้าหากสิ่งที่พรรคพวกของทักษิณกำลังทำกับประเทศเราเกิดทำได้จริงขึ้นมา  

เราคงอยู่ใสภาพย่อยยับเหมือนญี่ปุ่นยุคหลังแพ้สงครามแน่นอน ที่กลายเป็นประเทศซึ่งประชาชนสิ้นเนื้อประดาตัว  

แบกรับความอัปยศและย่อยยับที่ประชาชนไม่ได้เป็นผู้ก่อแต่ต้องมารับเคราะห์แทนการตัดสินใจผิดพลาดของรัฐบาล

ถอยหลังกลับไปสู่สภาพของ "ประเทศขี้แพ้" และอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี ไร้อนาคต และไร้ความหวัง

 

 

แต่....มีผู้ชายคนหนึ่งเชื่อว่า "ญี่ปุ่นยังมีความฝัน"  และด้วยความฝันที่ร่วมกันของคนทั้งชาติ จะช่วย "หลอมรวมหัวใจของคนญี่ปุ่นเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง"

 

* เรื่องจริงของทีมสำรวจแอนตาร์กติกาชุดนี้ เป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังเรื่อง 8 Below ครับ

eight-below.jpg




#602218 Takbai effect ผลลัพท์ที่คงค้างมาตั้งแต่ยุคทักษิณ

โดย sigree on 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:06

155220_555969444413177_366644414_n.jpg

 

ผมเองก็คือส่วนหนึ่งจากผลครั้งนั้น  และยอมรับว่าจะเหตุการณ์ที่ตากใบทำให้ผมเริ่มงานเขียนด้านการเมืองและไม่เอาทักษิณ

 

เหตุการณ์ครั้งนั้นยังสงผลกระทบจนปัจจุบันต่อหลายคน หลายส่วนในปัญหาชายแดนใต้




#601611 เพราะนโยบายกำปั้นเหล็กแบบบ้าๆ จึงนำมาซึ่งหยดเลือดและหยาดน้ำตาที่ไม่สิ้นสุด

โดย พอล คุง on 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 19:32

คนที่สมควรตายที่สุด คือ แม้ว 

 

น่าจะไปจัดการกับแม้วมากกว่า

 

การยิงผู้บริสิทธิ์ ไม่ใช่หนทางที่จะทำให้ความแค้น ความโกรธ มันหายไป

 

แต่กลับทำให้มันแค้นมากยิ่งขึ้น 




#601609 เพราะนโยบายกำปั้นเหล็กแบบบ้าๆ จึงนำมาซึ่งหยดเลือดและหยาดน้ำตาที่ไม่สิ้นสุด

โดย marrykate on 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 19:31

ตรงกับที่คุณอังคณา นีละไพจิตรพูดไว้

 

เหตุการณ์มันเริ่มลุกลามมาตั้งแต่ตากใบ

 

อ่านแล้วก็ได้แต่เศร้าใจค่ะ 




#601566 เพราะนโยบายกำปั้นเหล็กแบบบ้าๆ จึงนำมาซึ่งหยดเลือดและหยาดน้ำตาที่ไม่สิ้นสุด

โดย Ricebeanoil on 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 19:01

บางคนอาจยังดีใจอยู่กับผลงานจากสมรภูมิบาเจาะ

แต่อยากให้พวกเราทุกคนหันกลับไปมองว่าผลของวันนี้ มันจากเหตุของวันวานหรือไม่

ขอนำเสนออีกมุมมองนึงครับ

 

*************************************************

 

รายงานพิเศษ มะรอโซ จันทราวดี : จากเหยื่อสู่ แกนนำ RKK

 

%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%

 

รายงานชิ้นนี้
เกิดขึ้นภายหลังจากการลงพื้นที่เพื่อรับฟังและบันทึกข้อเท็จจริงเหตุการณ์
รอบด้านจากการปะทะกันระหว่างกลุ่ม RKK ที่นำโดยนายมะรอโซ จันทราวดี
(ผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา และ พรก.ฉุกเฉินหลายคดี)
 กับเจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน  ประจำฐานปฏิบัติการทหารร้อยปืนเล็กที่ 2
หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 บ้านยือลอ หมู่ 3 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ
จ.นราธิวาสเมื่อเวลา ตี 1 ของวันที่ 13 กุมพาพันธ์ 2556
เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุในช่วงเย็นของวันเดียวกัน

 

%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%


    หากผู้อ่านรายงานชิ้นนี้ ที่ไม่รู้จักนายมะรอโซ จันทราวดี
ผู้เขียนแนะนำให้ไปค้นหาใน google แล้วพิมพ์ชื่อนี้ลงไป
จะพบข่าวการรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก
ส่วนใหญ่ก็มาจากการให้ข่าวของเจ้าหน้าที่รัฐเกือบทั้งหมด
พร้อมด้วยข่าวการก่อเหตุ ณ ที่ต่างๆ ตามด้วยหมายจับจำนวนมาก
ล่าสุดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคุณครูชลธี เจริญชล
อีกด้วยที่ได้เป็นข่าวในช่วงก่อนหน้านี้

 

    ปฐมเหตุของความคับแค้น


    นางเจ๊ะมะ เจ๊ะนิ อายุ 53 ปี ผู้เป็นแม่ได้เล่าว่า
หลังจากเหตุการณ์ประท้วงที่หน้า สภ.ตากใบ มะรอโซก็เปลี่ยนไปมาก
มะรอโซกลับมาเล่าเหตุการณ์ตากใบให้คนที่บ้านฟังว่า วันนั้นตนเองโดนซ้อนทับ
โดนถีบ มัดมือ ในรถบรรทุกของทหารที่จับตัวผู้ชุมนุมในคราวนั้น
โดยได้ขนผู้ชุมนุมไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี
ในขณะที่อยู่บนรถตัวเค้าเองพยายามดิ้นจนเชือกหลุดและได้ช่วยแก้หมัดที่ข้อ
มือให้เพื่อนคนอื่นๆ ที่อยู่บนรถคันเดียวกัน
โดยตลอดทางเค้าก็โดนถีบโดนเจ้าหน้าที่เอาปืนทุบที่ร่างกายของผู้ชุมนุมที่
อยู่บนรถตลอดทาง  มะรอโซได้บอกที่บ้านเสมอว่า
เค้ารู้สึกเจ็บปวดและแค้นใจมาก เพราะว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด

 

%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%


    "ตอนกลับมาจากที่ชุมนุมใหม่มะรอโซชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว ไม่เหมือนก่อนหน้านี้เลย"  นางเจ๊ะมะ เจ๊นิ ผู้เป็นแม่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับลูกชายของตนเอง


    ขณะที่พูดคุยกับแม่ของนายมะรอโซ สังเกตได้ว่า แม่ของนายมะรอโซ
ย้ำว่ารู้สึกผิดหวังกับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ที่ปฎิบัติต่อผู้ชุมนุมเหตุการณ์ตากใบในครั้งนั้นเป็นอย่างมากและได้ย้ำตลอด
ว่า นายมะรอโซเปลี่ยนไป กลายเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยได้คุยอะไรกับเค้า
ทั้งที่จริงก่อนหน้านั้นนายมะรอโซ เป็นคนขยันขันแข็ง มีอาชีพรับจ้างทั่วไป
ปลอกมะพร้าวขาย นำเสื้อผ้ามาขาย  ทำเรื่องการค้าขายเก่ง ฯลฯ
แต่เหตุการณ์ตากใบได้ทำให้นายมะรอโซกลายเป็นคนละคน

   

หลังจากนั้นไม่นานได้เกิดเรื่องใหญ่ในหมู่บ้านมีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถ
เจ้าหน้าที่ทหารที่ลาดตระเวนในหมู่บ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตทันที
10-11 คน ด้วยเหตุการณ์ในครั้งนั้น นายมะรอโซถูกศาลออกหมายจับในคดีข้างต้น
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นต้นมาชื่อของนายมะรอโซ
ก็เป็นที่ต้องการของเจ้าหน้าที่
ทำให้นายมะรอโซต้องหนีออกจากหมู่บ้านโดยทันที 
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ของอำเภอบาเจาะ
ชื่อของนายมะรอโซได้ถูกระบุชื่อเกือบทุกครั้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกกรณี
ไม่ว่าในฐานะผู้ปฎิบัติการเองหรือเป็นผู้สั่งการ !!!


    เพื่อไม่ปล่อยให้เหตุการณ์ผ่านไป
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจการกระทำของผู้ใช้ความรุนแรง
‪เพื่อจะเข้าใจวงจรการแก้แค้นและแสวงหาแนวทางใหม่ๆ ในการรับมือ
รวมทั้งตั้งคำถามว่า ยุทธการจิตวิทยาของเจ้าหน้าที่รัฐ
ยังมีช่องว่างอย่างไร ‪ หากจะตอบด้วยกรณีของนายมะรอโซ ช่องว่างที่ว่านี้
น่าจะเป็นเรื่องการไม่ทำความเข้าใจ ความรู้สึกถึงการไม่ได้รับความยุติธรรม
และเป็นเงื่อนไขที่มีนักรบรุ่นใหม่เกิดขึ้นอยู่เสมอ เพราะกรณีเช่นนี้
ไม่ใช่เป็นบาดแผลทางประวัติศาสตร์
หากแค่เพียงในรอบทศวรรษกลุ่มขบวนการสามารถผลิตผู้ใช้ความรุนแรงได้เป็นจำนวน
มาก และมีประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งในเชิงการต่อสู้กับกองกำลังของรัฐ


    ทั้งนี้
น่าสนใจว่าหากเป็นประสบการณ์ที่ประชาชนจำนวนมากมีส่วนร่วมทางการเมืองและ
เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ด้วยการประท้วง ชุมนุม
กดดันผู้มีอำนาจรัฐ ได้รับผลของการสลายชุมนุมเฉกเช่นเดียวกับเหตุการณ์ตากใบ
ความรู้สึกคับข้องใจ โกรธแค้น
และความรู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรมจะมีลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร
มีข้อถกเถียงอย่างไร
และจะสามารถนำไปสู่การสร้างแนวทางในการจัดการกับความรู้สึกที่ไม่ได้รับความ
ยุติธรรมได้อย่างไร

 

    ครอบครัวมะรอโซ

    การตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้ก็ได้ทำให้ครอบครัวของมะรอโซ
ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามและบุกค้นบ้านอยู่บ่อยครั้ง นางเจ๊ะมะ เจ๊ะนิ
ผู้เป็นแม่เล่าให้ฟังว่า
ตนเองยังเคยโดนจับข้อหามีกระสุนปืนวางอยู่บนกล่องน้ำตาลทรายในบ้าน
หลังจากเจ้าหน้ามาค้นบ้านทำให้แม่โดนจับไปที่ค่าย
แต่ขังได้ไม่นานก็ปล่อยตัวกลับมา  และน้องชายของนายมะรอโซก็โดนขังมาแล้ว 21
วัน ในข้อหาขว้างระเบิด แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดได้
ก็ต้องปล่อยตัวออกมา แม่ของนายมะรอโซ
วิเคราะห์ให้ฟังว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีต่อครอบครัวก็เพื่อต้อง
การบีบบังคับให้นายมะรอโซออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่รัฐ

 

%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%


    สำหรับน้องชายของนายมะรอโซ ที่มีใบหน้าเหมือนกับพี่
ก็เคยโดนเจ้าหน้าที่ทหารจับในหมู่บ้านมาแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นนายมะรอโซ
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์วันหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้น้องชายหมอบลงกับ
พื้นและจะลั่นไกยิง แต่ผู้เป็นแม่ตะโกนออกมาว่านั้นคือน้องชายของนายมะรอโซ
ขณะที่ผู้เป็นแม่บอกให้ฟังและชี้นิ้วไปทางน้องชายของนายมะรอโซที่กำลังยืน
ละหมาดใกล้ๆ แล้วกล่าวเบาๆว่า "น้องชายของนายมะรอโซแกสติไม่ค่อยดี"
ทำไมต้องมาทำอย่างนี้อีก ส่วนรุสนีผู้เป็นภรรยากล่าวเสริมและย้ำว่า
น้องชายหน้าเหมือนพี่ชายจริงๆ สองคนพี่น้องหน้าเหมือนกันมาก


    นางเจ๊ะมะ เจ๊ะนิ ผู้เป็นแม่เล่าให้ฟังอย่างออกรสว่า
ทหารมาค้นที่บ้านบ่อยมาก หลังๆ นี้หากว่าฉันอยู่ ทหารจะไม่ค่อยเข้ามาในบ้าน
จะยืนอยู่หน้าบ้าน เพราะฉันจะด่าไม่หยุด จะด่าตลอด
ทำไมต้องมาค้นบ้านทุกวันด้วย แต่หากว่าฉันไม่อยู่ทหารก็จะเข้ามาในบ้าน
หากพิจารณาประสบการณ์ของครอบครัวนายมะรอโซ
ดูเหมือนว่าหน่วยงานเจ้าหน้าที่รัฐมาเยี่ยมบ่อยกว่าญาติมิตรซะอีก

 

    สำหรับการเสียชีวิตครั้งนี้ของนายมะ
รอโซ ผู้เป็นแม่รับได้ ไม่ได้กล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐ
เพราะเป็นการต่อสู้กันทั้งสองฝ่ายที่มีอาวุธ
แต่ก็เชื่อและมั่นใจว่าลูกของตนเองเป็นคนดี
แต่เหตุการณ์ตากใบต่างหากที่ทำให้ลูกเค้าต้องเปลี่ยนไปจนกระทั่งเสียชีวิต
ทั้งๆ ที่การชุมนุมวันนั้นมะรอโซแค่เดินทางผ่านไปยังเส้นทาง
ที่มีการชุมนุมเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาไปร่วมชุมนุมแต่อย่างใด

 

2013-02-13%2018_55_37.jpg


    ชีวิตรัก นักรบ


    ปี 2548 หลังจากเหตุการณ์ตากใบหนึ่งปีให้หลัง นายมะรอโซ
ก็ได้ตัดสินใจแต่งงานกับ รุสนี แมเราะ อายุ 25 ปี  ภรรยาของนายมะรอโซ
ได้เล่าว่า ก่อนตัดสินใจแต่งงานกับนายมะรอโซ
มะรอโซได้บอกกับตนแล้วว่าชีวิตของเค้าเป็นอย่างไร มะรอโซบอกว่า
ตนเองนั้นมีหมายจับอยู่หลายคดีและชีวิตต้องหลบๆ ซ่อนๆ
จะยอมแต่งงานกับเค้าไหม ? คำตอบของนางรุสนี ก็คือ
ได้ตอบตกลงแต่งงานและครองรัก ไม่ได้ครองเรือน ตลอดระยะ 7 ปีที่ผ่านมา...


    การดำเนินชีวิตคู่ของนายมะรอโซ ช่วงแรกๆก็ต้องไปใช้ชีวิตที่ประเทศมาเลเซีย
เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ไปได้ไม่นาน ก็กลับมาบ้าน
เพราะมาเลเซียก็ไม่สามารถทำงานเลี้ยงชีพได้ดีนัก
ประกอบกับไม่มีญาติพี่น้องอยู่ที่มาเลเซีย
ทำให้ทั้งสองต้องเดินทางกลับมาที่บาเจาะ บ้านเกิดอีกครั้ง
แต่สำหรับนายมะรอโซ แน่นอนไม่สามารถอยู่ที่บ้านได้
เพราะมีหน่วยทหารและเจ้าหน้าที่มาตรวจค้นที่บ้านเกือบทุกวันตลอดระยะเวลา 7
ปีที่ผ่านมา จนกระทั่ง เที่ยงคืนของวันที่ 13 กุมพาพันธ์
หลังจากที่มะรอโซเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ยังมาบุกค้นบ้านนายมะรอโซ


    "เจ้าหน้าที่จะมาค้นบ้านเสมอและฝากบอกที่บ้านว่าให้บอกนายมะ
รอโซ ให้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ฉันก็เคยพูดกับเค้าว่าจะมอบตัวไหม
เค้าก็ตอบว่า เค้ามีหมายจับจำนวนมาก ถึงมอบตัวก็ไม่คุ
มและคงไม่มีโอกาสได้ออกมา"  รุสนี แมเราะกล่าวทิ้งท้าย


    ก่อนหน้านี้ประมาณ 5 วัน มีเจ้าหน้าที่ทหาร 4 คันรถ
มาบุกค้นที่บ้านถือว่าเป็นครั้งล่าสุดก่อนที่มะรอโซจะเสียชีวิต
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลังจากนายมะรอโซโดนเจ้าหน้าที่ตามล่าอย่างหนัก
เจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคนถึงขั้นกล่าวว่า


    "หากบาเจาะไม่มีมะรอโซ พื้นที่นี้จะสงบสุขทันที"


    และตลอดระยะเวลาตามล่าตัว บุกค้นบ้านนายมะรอโซอย่างหนัก
รุสนีก็ได้มีพยานรักกับนายมะรอโซ สองคน เด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบ
และเด็กผู้ชายอายุ 17 เดือน มะรอโซกลับมาเยี่ยมลูกเดือนละสามครั้ง
ครั้งล่าสุดนายมะรอโซได้มาเยี่ยมตอนกลางคืนของวันจันทร์ที่ 11 กุมพาพันธ์
สองคืนก่อนเกิดเหตุ ซึ่งครั้งนั้นอยู่ได้ไม่นานเท่าไร
แต่การติดต่อครั้งนั้นไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
การสื่อสารทางเสียงเกิดขึ้นเมื่อคืนวันเกิดเหตุเวลาประมาณสามทุ่ม


    "อาแบได้โทรมาคุย ฉันก็ถามว่าวันนี้จะกลับมาไหม อาแบบอกว่าคืนนี้มีงานนิดหน่อย และไม่แน่อาจจะกลับมาบ้าน

 

ทว่าเช้าตรู่วันรุ่งขึ้นรุสนีได้ยินเสียงโทรศัพท์ปลายสายจากทหารที่คุ้นเคย
กันดี ได้โทรมาบอกว่า นายมะรอโซอาจจะตายแล้ว และจะโทรมาบอกอีกครั้ง
หกโมงเช้ารุสนีก็ได้รับโทรศัพท์อีกครั้ง
ยืนยันว่านายมะรอโซได้เสียชีวิตแล้ว รุสนีได้เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาล
หากแต่ทว่าศพของนายมะรอโซ ยังไม่ได้รับอนุญาตให้รับกลับไป
เพราะว่ามีผู้ใหญ่ของเจ้าหน้าที่รัฐต้องการดูศพจำนวนมาก
ทำให้กว่าได้รับศพกลับบ้านก็ตอน 11 โมงแล้ว


    สำหรับบรรยากาศพิธีการฝังศพของนายมะ
รอโซ มีคนจำนวนมากมาร่วมงานศพและกล่าวสรรเสริญ
พร้อมทั้งอวยพรให้ศพของนายมะรอโซ แต่ในเย็นวันนั้นหลังจากงานศพของนายมะรอโซ
เด็กวัยรุ่นในหมู่บ้านก็โดนเจ้าหน้าที่รัฐจับไป 3 คน
หลังจากเจ้าหน้าที่มาปิดล้อมหมู่บ้านอีกครั้ง


    พิธีฝังศพก็เป็นไปในตามแบบฉบับของ
นักต่อสู้ ก็คือการไม่อาบน้ำศพและไม่ละหมาดศพ ฝังโดยทันที
และเป็นไปตามความต้องการของผู้ตายที่ได้กำชับภรรยาใว้ ก่อนหน้านี้

 

%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%


    รุสนีได้เล่าให้ฟังว่า มะรอโซเป็นคนที่เกรงใจคน
ไม่ยอมไปหลบซ่อนหรือขอนอนบ้านชาวบ้าน
เพราะเกรงว่าจะทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อน
มะรอโซก็จะผูกแปลนอนในป่าเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตัวเราก็สงสารเพราะแฟนเหนื่อยมาก
ต้องหลบๆ ซ่อนๆ แฟนทำงานหนักมากและมีความตั้งใจอย่างมาก


    มะรอโซเค้ามักย้ำกับภรรยาเสมอว่า อยากให้ลูกสาวเรียนศาสนาเยอะๆ
หากเป็นไปได้ อยากให้เรียนถึงต่างประเทศ
โดยจะให้ความสำคัญกับเรื่องของศาสนามากๆ
เพราะอยากให้ลูกทั้สองมีการศึกษาและเรียนสูงๆ เท่าที่ลูกจะเรียนได้


    มะรอโซเป็นที่รักครอบครัวมาก อยากให้ครอบครัวสบายและเป็นคนที่ตามใจลูกมากๆ
ลูกอยากได้อะไรก็พยายามหามาให้ มะรอโซเป็นคนที่รับผิดชอบสูงมากต่อครอบครัว
แม้ว่าชีวิตของเค้าเองจะลำบากก็ตาม เค้าได้วางแผนเรื่องครอบครัว
เรื่องเศรษฐกิจ การศึกษาของลูกๆ เพราะว่าต้องการให้ลูกเรียนสูงๆ
โดยเฉพาะทางด้านศาสนา


    หลังจากทราบข่าวจากทหารในพื้นที่ ที่ได้โทรมาบอกตอนเช้าว่า
นายมะรอโซ ได้เสียชีวิตแล้ว ก็เหมือนว่าภารกิจของนายมะรอโซ
เสร็จสิ้นแล้ว...


    รุสนีได้กล่าวว่า
เธอภูมิใจกับสามีอย่างมากที่ได้ทำหน้าที่ดูแลครอบครัวได้ดีเสมอมา
และการเสียชีวิตครั้งนี้เธอไม่เสียใจเลย เพราะภรรยาของนายสุไฮดี ตะเห
ผู้เป็นเพื่อนสนิทของนายมะรอโซ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ยิงตาย ก็ไม่เสียใจ


    คำถามสุดท้ายจากผู้เขียน นายมะรอโซทำเพื่ออะไร ?


    รุสนี ภรรยานายมะรอโซ  ก็รู้ๆ
กันอยู่แล้วว่าทำเพื่ออะไร ? 
พร้อมรอยยิ้มและคว้ามือไปจับตัวเด็กผู้หญิงที่กำลังนั่งเล่นซนอยู่ข้างๆ
กับของเล่นชิ้นใหม่

 

ที่มา : http://www.patanifor...php?news_id=119




#601511 ด่วน เสธหนั่น เสียชีิวิตแล้ว

โดย โจโฉ นายกตลอดกาล on 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:17

หดหู่จัง ที่หดหู่ เพราะรู้สึกว่าตัวเองก็คงใกล้ ไม่แพ้เขา

 

แต่อย่างน้อย ก็ยังมีโอกาสมากกว่าเขาที่จะหาความสุขในบั้นปลาย

 

ปล่อยวางทุกอย่างได้ หลายคนที่เดินบนทางนี้กว่าจะรุ้ตัวว่าควรวางมือ

 

มันก็สายไปแล้ว ลาลับ ลาแล้ว ลาขาด ลาจาก ขอให้ไปภพภูมิที่ดี

 

และ รู้จัก "พอ" ในชีวิตเสียที ในโลกหน้า

 

โจโฉ นายกตลอดกาล ถึงเพื่อนเก่าคนหนึ่ง




#600109 ภาพแห่งความรัก ในวันแห่งความรัก

โดย Et tu Brute? on 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:40

ทำไมดูเหมือนรูปตัดต่อครับ

 

ถ้าอ่านข้อความแล้วใช้สมองคิดจะเข้าใจครับ

 

มิน่าบุกปล้นเซเว่นมันเอาทุกอย่างยกเว้นหนังสือ  :P




#600069 รัฐบาลปูเอ๋อ มีแผนจ่ายคืนหนี้สิน ที่กู้มายังไง

โดย ปุถุชน on 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:10

สงสัยค่ะว่า รายได้ของรัฐได้ตามเป้าหรือเปล่า ในเมื่อลดภาษี นักลงทุนย้ายหนี ต้องนำไปโปะประชานิยม เช่น ภาษีรถคันแรกหลายหมื่นล้าน จำนำข้าวเน่าหลายแสนล้าน หายไปกับโครงการน้ำท่วมอีก 3 แสนกว่าล้าน คนตกงาน ข้าวของแพง เศรษฐกิจดิ่งลงเหว จะกู้ต่ออีก 2 ล้านล้าน ผลงานจะย่าง 2 ปีแล้ว ยังไม่มีเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่กล้าประกาศผลงานรัฐบาล ( มีแต่ผลงานห่วยๆ )

 

ตอนรัฐบาลคุณ อภิสิทธิ์เข้ามาเงินกองคลังเหลือแค่ไม่กี่หมื่นล้าน แต่บริหารจนมีเงินเก็บเข้ากองคลังมากกว่า 3 แสนล้านบาท ตอนนี้ปูผลาญจนเหลือไม่ถึงครึ่ง แถมเงินที่กู้จาก ธกส. ก็ได้จ่ายคืนแค่ประมาณ 1 ใน 6 ที่กู้ไป จนชาวนารับเงินล่าช้า 4-5 เดือน บางรายได้ถือแต่ใบประทวนก็มีเพราะเบิกไม่ได้ มีบางธนาคารเสี่ยงจะล้ม

 

ปูกลวงจะเอาเงินรายได้จากใหนจ่ายคืนหนี้ที่กู้มา ประชาชนคนไทยต้องเป็นหนี้เพิ่มอีกคนละเท่าไหร่กัน

 

 

 

น่าจะพูดถึง"วิกฤตต้มยำกุ้ง"ด้วย....

ทักษิณพูดไม่อายสุจริตชนว่า....

เขาเป็นคนใช้หนี้ IMF หมดสิ้น......ฮา

 

 

 

ทักษิณมาเป็นนายกรัฐมนตรีกี่เดือน สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศไทย

จนสามารถใช้หนี้สินได้.......ฮา

 

แต่คนรู้ทักทักษิณ รู้ดีว่าทักษิณไม่ได้เป็นคนใช้หนี้ IMF....

 

ทักษิณหลอกไพร่เสื้อแดง กลางสามโลก บัตรเติมเงิน....

และพวกโหวตโนให้"พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน"ได้......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




#599031 จ่ายเงินเยียวยาครอบครัวโจรใต้!!!..ความคิดวิปริตของรองนายกฯไทย

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:26

ครูตาย ไม่เคยเอ่ยถึงครู ....ทหารตำรวจตาย ไม่เคยออกปากจะช่วย

ทันทีที่โจรใต้ตายห่-าด้วยมือทหาร รีบแส่ประกาศก้องว่าจะจ่ายเงินเยียวยา

 

 

เกิดมาในยุคประเทศชาติปกครองด้วยคนกาลีบ้านกาลีเมือง เราต้องอดทนไปอีกนานสักแค่ไหน?




#599007 จ่ายเงินเยียวยาครอบครัวโจรใต้!!!..ความคิดวิปริตของรองนายกฯไทย

โดย สิงห์สนามซ้อม on 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:13

สรุปว่าโจรใต้เป็นคนของ เพื่อทุย ใช่ไหม ??

เพราะพวกควายแดง ที่มาตายตอนเผาบ้านเผาเมือง พวกเพื่อทุยก็จ่ายเงินให้ !!




#599496 ภาพแห่งความรัก ในวันแห่งความรัก

โดย เสรีไทไชโย on 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 20:57

ครับ เข้าใจแล้วครับ


#598663 สื่อต่างประเทศตีข่าว นโบายปูเอ๋อ โดยเฉพาะจำนำข้าว ทำไทยเสี่ยงล้มละลาย

โดย baboon on 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 10:35

ปชต คือการปกครองโดยคนส่วนใหญ่ที่จนและโง่

นี่ีเป็นคำพูดของนักคิดชาวกรีกสองพันกว่าปีมาแล้ว




#597102 หาก ผ่อน รถ คันแรกไม่ไหว........ร่วมคิดที

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 23:49

ถ้าเป็นรถซื้อปกติไม่ใช่โครงการนี้... รีบขายก่อนโดนยึดครับ เพราะยึดแล้วไม่คุ้มหนี้เอาเลย

ขายเองแม้จะขาดทุน แต่ขาดทุนน้อยกว่าขายทอดตลาดแน่นอนครับ

 

แต่เผอิญโครงการนี้มีเงื่อนไขแบบที่ท่าน Shart ว่า คือ "ห้ามขายต่อ"

ทางออกจากปัญหานี้ก็เหมือนปิดประตูตายไปเลย

 

ขอตอบทีละข้อเท่าที่พอทราบนะครับ


 

1 ขายต่อให้เต้นท์หรืออื่นๆ เพื่อเอาเงินมาล้างหนี้ หรือขายให้คนอื่นผ่อนต่อ

ทำได้หรือไม่  หากได้ทำอย่างไร  หากทำไม่ได้ทำไม

หากเขาเลือกทางนี้  อะไรคือสิ่งที่เขาจะเจอ


ไม่ได้ครับ  เพราะผิดเงื่อนไข

สิ่งที่ตามมาคือ

1. โดนเรียกภาษีคืน

2. เมื่อโดนเรียก "เงินที่ตัวเองไม่ได้รับ" แต่เป็น "เงินที่หักออกไปจากค่ารถ"

แปลว่า คุณต้องหาเงินจำนวนนั้นมาจ่ายคืนรัฐ  จะหาจากไหนครับ ถามจริง?


 

2 ปล่อยให้ ไฟแนนซ์ หรือ สถาบันการเงินยึด

หากเขาเลือกทางนี้  อะไรคือสิ่งที่เขาจะเจอ


1. โดนเรียกภาษีคืนเช่นกัน

 

2. มีหนี้คงเหลือจากการขายทอดตลาดอีกที่ต้องชำระ

เช่น ค่ารถ 600000 บาท ดาวน์ไป 100000 = กู้ 500000 + ดอก flat rate x ระยะเวลาผ่อน 5 ปี 6 ปีก็ว่ากันไป

สมมติดอก 5% ต่อปี ผ่อน 5 ปี = 500000*5*5 ปี = ดอกสำเร็จ 125000 บวกไปกับ 500000 = 625000

 

ขายทอดตลาด จะลดลง 50% จากราคาตลาด

รถมีค่าเสื่อมอยู่แล้ว จาก 500000  ถ้าขายให้คนอื่นอาจได้แค่ 400000 แต่ถ้าขายทอดตลาดอาจเหลือแค่ 250000

เงิน 250000 นำมาหักกับค่างวดที่ส่งไป ติ๊งต่างว่า 100000  ยอดหนี้ "625000" เหลือ 525000

ไม่พอโปะครับ  เท่ากับมีหนี้ค้างอีก 275000

 

ยังโชคร้ายไม่พอครับ  เพราะหนี้เหลือจากไฟแนนซ์ยึดมันไม่นิ่งสนิทแบบนั้น 

มันคิดดอกเบี้ยผิดนัด 15% ต่อปีด้วย ระหว่างที่เราขาดส่งงวดแรกถึงวันที่เราชำระหนี้เสร็จสิ้น

 

ขาดส่งงวดแรกวันที่เท่าไหร่ จนถึงวันที่เราชำระหนี้หมด ปิดบัญชีเมือ่ไหร่ 15% ถึงหยุดครับ

 

3. ประวัติเครดิตบูโรเสีย  กู้ที่ไหนอีกไม่ได้แล้ว  จนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น

 

4. ถ้ามีคนค้ำประกัน คนค้ำโดนข้อ 2-3 ด้วยครับ

 

มาเพิ่มข้อมูล 

ผมเพิ่งรู้ว่า "ต้องมีค่าเสื่อมสภาพรถ" "ค่าที่จอดรถ" "ค่าทนาย" "ค่าธรรมเียมทวงถาม" ฯลฯ อีกเยอะแยะที่ต้องจ่ายครับ

 

 

ไฟแนนซ์ หรือ สถาบันการเงินยึดรถมา  เมื่อเสร็จสิ้นเรื่องกับชายที่เสียรถ

1 รถที่ได้มานำไปขายต่อได้หรือไม่อย่างไร และมีกระบวนการนำไปขายอย่างไร

2 คนที่ได้รถมือสองจากโครงการนี้ต้องมีกระบวนการพิเศษหรือไม่อย่างไร

 

1. ไฟแนนซ์ยึดรถไปก็จะไปขายต่อครับ  เป็นการขายทอดตลาดแบบมีการประมูล

โดยช่วงที่เขายึดรถไปแล้ว  เขาจะมีหนังสือบอกเลิกสัญญามาครับ

ราคาขายทอดจะต่ำกว่าขายเองแน่นอน เพราะเขาจะมีการขาย 2 ครั้ง คือลดราคาครั้งแรก ขายไม่ออกก็ลดอีกครั้งที่ 2 ครับ

 

2. เรื่องรถขายทอดตลาด ผมไม่มีความรู้มาก  เรื่องบ้าน ผมจะรู้ดีกว่าครับ จึงตอบได้แบบงูๆปลาๆนะครับ

คือผู้รอซื้อก็ต้องไปสืบดูว่ามีการขายทอดตลาดที่ไหน

กรมบังคับคดีเขาจะติดป้ายไว้ให้เราดูครับ เล็งเลยว่าชอบคันไหน

แล้วไปจองที่นั่ง  ถึงเวลาก็ประมูลกัน




#596308 ชาวเสรีไทย... รับรู้ไว้.. ลูกค้าผวา!ไอแบงก์เจ๊ง - แห่ถอนเงินหมื่นล้าน

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 12:57

ตามไปอ่านเมนท์ในพันทิปแล้ว  แต่ละคน เมนท์ได้ปัญญาอ่อนเหมือนไม่ใช่คน