โดย
on 21 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:24
วันนี้ได้ติดตามการแสดงของน้องๆโรงเรียนใต้ต้นไม้กันป่าวคะ??
น่ารักไหมคะ??
พี่ตั๊นขอปรบมือดังๆให้น้องๆคนเก่งของพี่ตั๊นทุกๆคนเลยค่ะ เก่งจริงๆ ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักทุกๆคน ขอบคุณที่มีโรงเรียนใต้ต้นไม้ที่ทำให้พี่มีโอกาสได้เจอกับน้องๆทุกคนค่ะ
น่ารักกกกกกกก 
โดย
on 21 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 03:40
ทำไมเขาถึงเป็น hero เหรอ สำหรับผมน่ะ
.................
ถ้า... ไม่มีเขาวันนั้น ก็จะมีคนตายอย่างแน่นอน ผมไม่รู้นะ ว่าเขามาจากไหน แต่ว่าในนาทีที่วิกฤติ เขาออกมาปกป้องประชาชน ไม่ต้องรอคำสั่งใครทหารตำรวจ อย่าลืมว่า ก่อนที่เขาจะหยิบปืน ก่อนที่จะยิง เขาต้องรู้อยู่แล้วว่า เขาทำผิดกฏหมาย แล้วท้ายสุดฝ่ายตรงข้ามก็ไม่มีใครเป็นอะไร แล้วท้ายสุด..วันนั้นเขาทำเพื่อใคร เขาปกป้องใคร แค่นั้นผมก็ok แล้ว
โดย
on 21 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 08:14
ตอนที่ 1
ไม่มีแกนนำ ไม่มีอะไรซับซ้อน ที่ต้องทำให้ลุกขึ้นมา
..... เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ที่โรงพยาบาลมหาสารคาม ภาพถ่ายมุมสูงจากตึกภายในโรงพยาบาล ได้ถูกส่งมาที่เฟสบุ๊ตของผมทางข้อความส่วนตัว โดยนายแพทย์หญิงท่านหนึ่ง พร้อมข้อความขอความช่วยเหลือ เมื่อพบว่ามีคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งประมาณ 30 คน ได้ขับรถวนเวียนรอบโรงพยาบาลมหาสารคาม พร้อมกับตะโกนด่าทอเหล่าพยาบาลและหมอด้วยความหยาบคาย
" ท่าน สจ. มาช่วยพวกเราด้วย พวกเราบางคนกลัวจนร้องไห้ก็มี. "
ไวเท่าความคิด ผมกระโดดขึ้นรถยนต์ส่วนตัวพร้อมกับลูกน้องอีก 2 คน พุ่งตรงไปยังที่เกิดเหตุ และ ก่อนไปผมโพสต์บนเฟสบุ๊คบอกว่าจะไปช่วยคุณหมอและนางพยาบาล !
เมื่อไปถึง ... ก็มองเห็นพยาบาลและหมอหลายคนอยู่ตามหน้าต่างบนตึกสูง หลายคนโบกไม้โบกมือให้ผม
ผมลงไปยืนกลางสะพานด้านข้างโรงพยาบาล เพื่อรอพวกเสื้อแดงอยู่ที่นั่น ดูซิว่า พวกเสื้อแดงจะทำอะไรผม
บอกตรงๆ ... ไม่ได้มีความกลัวสักนิดในหัวใจ !!
ไม่รู้จะกลัวอะไร ... คนที่จะไต่เต้ามาเป็นรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกจังหวัดได้ ก็คงมีที่มาก็คงไม่ธรรมดาหรอกครับ...
" อย่าให้ใครทำอันตราย พวกหมอและพยาบาลได้ " นั่นคือคำสั่งของผมที่กระซิบสั่งลูกน้อง
ยืนรออยู่ไม่ถึง 10 นาที .... ผมก็แปลกใจว่า เริ่มมีใครที่ผมไม่รู้จักแขวนธงชาติผูกนกหวีด เริ่มเดินทะยอยมายืนเคียงข้างผม จาก 1 คน เป็น 2 3 4 5 และในที่สุดก็เกือบ 300 คน .... ก่อนที่เราจะถูกคนเสื้อแดงบุกเข้ามาตี และ เหยียบธงชาติของเรา
ในวันนั้น ...ผมและพวกเขายืนผงาดท้าท้ายอำนาจของทักษิณอยู่ที่ริมคลองสมถวิล นั่นจึงเป็นประวัติศาสตร์ที่ประชาชนส่วนหนึ่งได้ลุกขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกันท่ามกลางอันตรายจากเสื้อแดงในวันนั้น เป็นการลุกขึ้นมาอย่างมิได้นัดหมายเป็นทางการ
จากวันนั้น จนมาถึงวันนี้ มันจึงไม่มีอะไรซับซ้อน
เพราะมันแค่คนส่วนหนึ่งในดงแดงได้ประกาศตัวว่า พวกเขามิใช่คนเสื้อแดง และ มิใช่ขี้ข้าของทักษิณ เท่านั้นเอง
ตอนที่ 2
อย่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อย่าเหยียบธงชาติ อย่าทำอีก ขอเตือน
วันรุ่งขึ้น(29 พย.) จากเหตุการณ์ที่ผมบุกไปช่วยคุณหมอและนางพยาบาล โดยมีประชาชนมาร่วมด้วยโดยมิได้นัดหมายเป็นทางการ ภาพนี้ก็ถูกเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ และ โทรทัศน์เกือบทุกช่อง
เพจต่างๆในโซเชียลแชร์ออกนับแสนวิวทั่วประเทศ
เป็นภาพเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงบุกเข้ามาทำร้ายผู้หญิงสูงอายุท่านหนึ่งของเราโดยใช้ด้ามธงแดงฟาด โดยมีผมกระโดดเอาร่างเข้าไปขวางไว้
เหตุการณ์ชุลมุนอยู่เกือบ 5 นาที โดยที่ผมมิได้โต้ตอบแต่อย่างใด เพราะพี่น้องท่านเสื้อแดงท่านนั้นก็เป็นผู้หญิง แต่เธอก็ไม่ยอมและกระชากป้ายธงชาติของเราลงมากระทืบ
เรื่องราวเหล่านี้ ผมเก็บบันทึกไว้ เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองท่านใด ดำเนินคดี ... แต่เรื่องนี้คดียังไม่หมดอายุความ อีกทั้งผมพยายามเอาความดี เอาความ Passive เข้าต่อสู้ เพราะเห็นเป็นคนไทยด้วยกัน อาจพลั้งเผลอไม่เจตนา
นี่คือข้อต่อรองที่ผมได้แสดงไว้ว่า หากวันใดที่ท่านปล่อยคนเสื้อแดงเข้ามาทำร้ายพวกเราอีก ... จะมีคนดำเนินคดีเรื่องนี้ และ จะมีเจ้าหน้าที่หลายคนที่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่...นี่ขอเตือนจริงๆ
เรื่องนี้ ไม่ใช่ไม่สมควรดำเนินคดี แต่สมควรดำเนินคดีเป็นที่สุด แต่ในสถานการณ์การต่อสู้ ที่ต้องใช้ทั้งสมองและความดี ไม่ใช้ความมุทะลุ ใช้อารมณ์ ทุกอย่างมีจังหวะและเวลา
ตอนที่ 3
วันนั้นพวกเราหลายคนไม่รู้จักผม
.....อีกไม่กี่นาทีต่อมาของเหตุการณ์ในวันนั้น ... นี่จึงเป็นการเผชิญหน้าระหว่างผมกับแกนนำเสื้อแดงมหาสารคามครั้งแรก ซึ่งเป็นเลขาของคุณขวัญชัย ไพรพนา
....ท่านแกนนำก็รู้สึกจะตกอกตกใจอยู่บ้างที่เห็นผมยืนอยู่ตรงนั้น เพราะท่านรู้ดีว่าผมเป็นใคร
....ท่านเห็นผมก็ชะงักก่อนจะเดินเข้ามาบอกผมว่าห้ามไม่ทันในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะล่าถอยออกไปท่ามกลางเสียงฮึ่มฮ่ำของลูกน้องทั้งหลายของท่าน
....ผมกล่าวคำขอบคุณ เพราะอันที่จริงก็รู้จักท่านแกนนำดี ถิอว่าเป็นรุ่นพี่คนหนึ่งในวงการ
ขออนุญาตแปะครับ บังเอิญในเฟซ สจ ตั้ม แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ทางการเมืองไม่ได้มีแค่ในกรุงเทพ
ขอบคุณพี่น้องร่วมอุดมการณ์ทุกท่านที่ร่วมปิดทองหลังพระ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นข่าวก็ตาม
โดย
on 17 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:32
คุณกิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์..."เกิดมามีชีวิตเดียว..ขอทดแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง อย่างถึงที่สุด"
โดย
on 18 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 01:17
โดย
on 17 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 08:07
บ้านนี้เมืองนี้ จะล่มจม เพราะมีบิ๊กเหล่าทัพ ไร้ปัญญา ขี้ขลาด ตาขาว อย่างนี้ล่ะ
ปล่อยให้หญิงโฉดชายชั่ว ทั้งทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปู้ยี่ปู้ยำ ทำร้ายประเทศชาติ
ผู้คนบาดเจ็บล้มตาย ธุรกิจวอดวาย เพราะสัตว์เลือดเย็นตัวนี้ไปแล้วเท่าไหร่
เงินภาษีอากรของเราๆ ท่านๆ ถูกมันสองตัวนี้ และเหล่าขี้ข้าสุนัขรับใช้ที่หิวโซ โกงกินและล้างผลาญไปเป็นแสนล้านบาท
แต่คนที่มีอำนาจ กลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว ปล่อยให้สัตว์พวกนี้ กระทำการย่ำยีบีฑาประเทศชาติต่อไป
ลอยหน้าลอยตาออกสื่อ อ้างแต่คำว่า เป็นกลาง
ทุเรศ อุบาทว์ จริงๆ
ดิชั้นว่า ชั่วช้าอำมหิตกว่า สัตว์เลือดเย็นตัวผู้ตัวเมียสองตัวนี้เสียอีก
อนาถใจ และสมเพชอย่างที่สุด
ระบบการศึกษา และคุณธรรม จริยธรรม ของบ้านเรามันเสื่อมจริงๆ
โดย
on 17 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 00:14
ไม่ใช่แค่คนหล่อ คนสวย แต่เป็นคนดีด้วยอีกต่างหาก 
โดย
on 16 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:26
โดย
on 14 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:17
Now: 12 Women plotting to improve Thai rice farming
ตอนนี้: ผู้หญิง 12 คนกำลังวางโครงการพัฒนาการทำนาข้าวของไทย
สุภาพสตรี 12 ท่านสร้างกลุ่มระดับรากหญ้าขนาดเล็ก พวกเธอเรียกว่า ผูกปิ่นโตข้าว (pookpintokao) แนวคิดพื้นๆที่สง่างาม และข้ามอุปสรรคที่เกิดจากรัฐบาล ข้าวปลอดสาร (ข้าวออเกนิค)สามารถที่ให้ราคาสูงขึ้นโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมมาก แต่ชาวนาก็ไม่ต้องการที่จะเสื่ยงเรื่องรายได้ในการเปลี่ยน นอกจากนั้น ชาวนาจำนวนมากก็ไม่มีเงิน
ดังนั้นแนวคิดที่จะจับคู่ ครอบครัวคนกรุงเทพกับครอบครัวชาวนาเฉพาะราย โดยสัญญาว่าจะซื้อข้าวปลอดสาร และ พร้อมใจที่จะช่วยเหลือ พวกเธอยังเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนกรุงเทพกับ ชาวนาและทำลายกำแพงชนชั้นที่ขวางกั้นโดย การจับคู่ครอบครัวกับครอบครัว พวกเธอบอกว่าชาวนาบางคนจะไม่กินข้าวที่ตนเองปลูกเพราะสารเคมี ความคิดที่สง่างามของสุภาพสตรีเหล่านี้ตอบโจทย์ในทุกๆประเด็นด้วยโครงการ เพียงโครงการเดียว
ผมจะบอกให้พวกเค้าคอยดูคำถามและความเห็น ผมคนหนึ่งที่ปรารถนาให้พวกเธอเดินหน้ากับความคิดที่ยอดเยี่ยมนี้อย่างเต็มที่
ผูกปิ่นโตข้าว https://www.facebook.com/pookpintokao
Now: 12 Women plotting to improve Thai rice farming
A dozen ladies formed a tiny grassroots organization that they call Pouk Pin Toh Khao. The basic idea is elegant and bypasses government obstacles. Organic rice farming can fetch higher prices without so much damage to the environment. But farmers do not want to take the financial risk to transition. After all, many farmers are broke.
So the idea is to mate up Bangkok families with specific farmer families to guarantee buying the organic rice, and to help with compliance. They also believe this will bridge relations between Bangkokians and farmers and to break down class barriers by mating up family to family. They say that some farmers will not even eat their own rice due to chemicals, and so the rice farmers buy rice. The elegant idea from these ladies is to hit all of these issues with one program.
They cannot comment on my Facebook now because we still are in the meeting. I will ask the ladies to watch for any questions or comments. I for one wish them full steam ahead with this great idea.
Now:
โดย
on 14 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:15
โดย
on 14 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 17:29
17.06.น. ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว นายสาธิต เซกัล 1ในแกนนำ กปปส. หลังศรส.มีคำสั่งให้เนรเทศออกนอกประเทศ ข่าว @dekdue_03: #ExitTH
17.00น.ศาลแพ่งออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว"สาธิต เซกัล"ห้ามให้เจ้าหน้าที่ส่งตัวออกนอกราชอาณาจักร จนกว่าคดีจะถึงสิ้นสุดหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น @OHcrime_ThaiPBS:
เย้ เย้ !!!!
โดย
on 14 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 06:15
ลูกสาวผมเพิ่งกลับจากอังกฤษ ค่าเครื่องบินลอนดอน-ปารีส แบบโลว์คอส ถูกกว่ายูโรสตาร์นะครับ
รถไฟความเร็วสูงมันจะดีตรงที่ไม่ต้องเผื่อเวลาเยอะ ถึงสถานีก่อนครึ่งชั่วโมง หรือ 20 นาทีก็ยังไหว
แต่ขึ้นเครื่องบิน สนามบินอยู่ไกล แถมยังต้องไปก่อนเวลาอีก
นักท่องเที่ยวจึงมักใช้บริการ ยูโรสตาร์ กันมากครับ
เพราะเวลามันมีค่า เอาเวลาไปเที่ยวดีกว่าไปนั่งรอในสนามบิน
ดังนั้นรถไฟความเร็วสูงจุดเด่นเลยคือต้องเชื่อมต่อกับต่างประเทศ
ในยุโรปจะเรียกว่า Rail Pass ซื้อที่นึงขึ้นได้ไม่จำกัดตามวันที่กำหนด
( แบบ 3 วันค่าตั๋วก็ 2-30,000 บาทแล้ว)
ถ้าจะทำระบบรางก็ต้องเอาจุดเด่นของมันมาใช้ครับ จะมาทำแค่กรุงเทพ-เชียงใหม่อย่าทำเลย เจ๊งแน่
โดย
on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:02
โดย
on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:09
พร้อมอยู่แล้ว-รออยู่แล้ว เป่า นกหวีด ดังดัง เมื่อไหร่ ก็ ออกไปเจอกัน เมื่อนั้นแหละครับ
ตะนิ่นตาญี
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
เวลา ๒๐.๐๙ นาฬิกา
โดย
on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 01:43
นับถือจ้าของบ้านหลังนี้ ได้ใจไปเต็มๆ ไม่สนและแคร์ว่า ใครจะแดง ใครจะโลกสวย
แต่ฉันรักชาติของฉัน
(บ้านหลังนี้อยู่ย่านสำเพ็งค่ะ ใครผ่านไปเห็นแน่นอน เพราะธงไตรรงค์สวยๆ เด่นชัดมาก )
ภาพ : กปปส นนทบุรี
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net
Find content
ไม่ระบุ
