คนเล็กของเล่นใหญ่

ทนายความของบริษัทชื่อดังในสหรัฐชี้รัฐประหารเป็นประโยชน์ต่อคนไทยเชื่อกองทัพจะคืนอำนาจให้เมื่อถึงเวลา


โจ เซฟ ครีทซ์ ที่ปรึกษาทางกฎหมายจาก “ครีทซ์ แอนด์ เซเรบิน” บริษัทกฎหมายชื่อดังแห่ง ซานฟรานซิสโก ได้ส่งจดหมายถึง จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า ในฐานะของพลเมืองสหรัฐผู้มีสิทธิในการเลือกตั้ง และมีความสัมพันธ์ทางครอบครัวและเศรษฐกิจกับประเทศไทยอย่างเหนียวแน่น ขอเรียกร้องให้ แคร์รีหยุดแทรกแซงกับสถานการณ์ทางการเมืองในไทย

ครีทซ์ ได้อ้างกฎหมายของสหรัฐ มาตรา 22 USC 8422((iii) ที่ระบุถึงการระงับความช่วยเหลือทางการทหารแก่ประเทศที่ทหารโค่นล้มอำนาจ รัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี ครีทซ์ แสดงทัศนะว่า กฎหมายดังกล่าวไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันในไทยเพราะรัฐบาลที่มาจากการ เลือกตั้งของไทยได้ถูกปลดออกไปแล้วก่อนหน้าที่จะเกิดการรัฐประหาร

ที่ ปรึกษาทางกฎหมายผู้นี้ยังแสดงทัศนะว่า การทำรัฐประหารจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทย ทั้งคนจนและคนรวย คนเมืองและคนชนบท และย้ำว่า อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนเลวร้าย หากสหรัฐยังคงสนับสนุนทักษิณต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งประเทศได้

“เป็นที่แน่ชัดแล้ว ว่า ทักษิณ ชินวัตรและครอบครัว รวมถึงพรรคเพื่อไทย ขาดการสนับสนุนจากคนไทยแล้ว สหรัฐควรตระหนักว่า ทักษิณ เป็นขโมย นักการเมืองที่เห็นแก่ได้ ซื้อเสียง ฆาตกร และเป็นผู้มีอิทธิพลที่ใจแคบ นี่ไม่ใช่การพูดเกินจริงและหากทางสหรัฐยังคงเข้าข้างกลุ่มที่สนับสนุนอดีต นายกรัฐมนตรี ทักษิณ จะเป็นการทำให้คนไทยซึ่งนิยมชมชอบสหรัฐ อาจหันมาต่อต้านและเกลียดชังแทน” ครีทซ์ ระบุในจดหมาย พร้อมย้ำว่า การกระทำของแคร์รีครั้งนี้จะก่อให้เกิดผลเสียต่อสหรัฐ

จดหมายระบุต่อ ไว้ว่าสหรัฐต้องไม่เข้าแทรกแซงกิจการภายในออกประเทศไทย และเชื่อว่าในท้ายที่สุด กองทัพจะคืนอำนาจให้กับประชาชนเองเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

“แคร์รี และ คริสตีย์ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย จะต้องหยุดการวิจารณ์การเมืองไทย และปล่อยให้ประเทศไทยจัดการกับปัญหาของตนเอง นอกจากนี้ ไม่ว่าสหรัฐจะเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ ท้ายที่สุดแล้วกองทัพไทยจะคืนอำนาจให้กับพลเรือนเอง แต่ต้องรอให้ถึงสถานการณ์และเวลาที่เหมาะสมเสียก่อน ไม่ใช่การบงการจากสหรัฐ”

ลองพิจารณากันดูนะครับ

ที่สำคัญ แหวนของมอรอนวงนี้ที่เรียกว่าอำนาจ จะเปลี่ยนบิ๊กตู่ไปเหมือนบิ๊กจ๊อด หรือบิ๊กสุหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ เพราะส่วนตัวมีความคิดเสมอว่า ใครก็ตามที่เข้ามาได้ลิ้มรสอำนาจ ไม่มีทางที่จะกลับออกไปเหมือนตอนที่จะเข้ามา

ผมรู้จักอยู่ท่านหนึ่ง ที่เคยใส่แหวนนี้ แล้วก็ุถอดออกอย่างสบายๆครับ

ท่านชื่อ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์

ด้วยการเอ่ยประโยคสั้นๆ เพียงประโยคเดียวว่า

ผมพอแล้ว

 

 

 

บริบทที่คล้ายๆกัน

 

ใครยังจำปี 49 ได้มั้ยครับ เริ่มที่สนธิลิ้ม จบที่สนธิบัง 

 

มา่ปี 57 เริ่มที่สุเทพ จบที่ประยุทธ์ 

 

แต่สิ่งที่แตกต่างคือ สนธิลิ้ม มีความเกี่ยวข้องกับทักสินก่อนที่จะแตกคอกันภายหลัง ส่วนสนธิบังมาเป็นขี้ข้าทักสินภายหลังการรัฐประหาร

 

แต่คู่ สุเทพ + ประยุทธ์ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับระบอบทักสินเลย

 

และที่สำคัญที่สุด คือวิธีการ การปฏิบัติ คู่หลังเรียกว่าได้ใจประชาชนเต็มๆ ไม่มีสักชอตเลยที่ทำออกมาแล้วถูกด่า หรือถูกวิจารณ์ว่าไม่เข้าท่า

 

แต่คู่แรกนี่ทำอะไรก็ไม่สุดสักอย่าง แป๊ะลิ้มนั้นโหนเจ้า ดึงสถาบันลงมาจนเปรอะไปหมด จนทำให้สถาบันถูกโจมตีไม่หยุดหย่อนในทุกวันนี้ (ผมน่ะเคยคิดว่าแกรับงานทักสินมาเพื่อล้มล้างสถาบันเลยด้วยซ้ำ) แล้วก็ผลักมิตรไปเป็นศัตรูเยอะแยะ ขนาด ดร.สมเกียรติแกยังรังเกียจ ไม่เอาด้วย ตอนนั้นผมก็มอง ดร.สมเกียรติในทางลบ แต่เมื่อเห็นแกออกมาเคลื่อนไหวกับ กปปส.แล้ว ผมเชื่อแกอย่างสนิทใจ ตอนนั้นแกพูดถึงแป๊ะลิ้มยังงัย้าง ต้องรีบกลับไปหามาดูเลยทีเดียว

 

ส่วนสนธิบัง รัฐประหารแล้วก็ไม่เด็ดขาด ทำอะไรไม่สุดสักอย่าง ผมไม่ตำหนิเรื่องรัฐบาลสุรยุทธ์ เพราะเมื่อเลือกให้เขามาเป็น นายกฯแล้ว บิ๊กบังก็ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายอะไรในสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นสนธิบัง มีอำนาจเพียงพอที่จะกวาดล้างระบอบทักสินได้ แต่ก็ไม่ทำ ก่อนที่จะตั้งรัฐบาลสุรยุทธ์ขึ้นมา

 

แต่ก็อย่างว่า ถ้ามองให้เป็นธรรมสักหน่อย ตอนนั้นก็คงไม่มีใครคิดว่าทักสินมันจะระยัมตำบอนขนาดนี้ ตอนนั้นยังไม่มีเสื้อแดง ยังไม่มีเหตุการณ์ปี 52 53 พวกระบอบทักสินชั่วๆก็ยังไม่แสดงตัวสุดๆขนาดนี้ ผมว่าถ้าลุงตู่ประยุทธ์ไปอยู่ตรงนั้นแทนบิ๊กบัง ก็คงทำไม่ต่างกันในตอนนั้น 

 

เพราะไม่มีใครคิดว่าทักสินมันจะดื้อด้านขนาดนี้ ปกติทั่วไปที่ผ่านๆมา การเมืองไทยเขารู้ว่าจุดไหนเขาแพ้ เขาก็จะหยุดสู้ จะไม่ยอมให้มีประชาชนตายหรือประเทศชาติเสียหายเด็ดขาด เจอทักสินนี่ พลิกตำราสู้กันไม่ทัน 

 

ถึงเวลานี้ผมว่าเหมาะสมที่สุดแล้วที่จะกวาดล้างระบอบทักสิน ผมยังไม่ขอบคุณบิ๊กตู่นะครับ เพราะใจนึงผมก็ยังกลัวว่าบิ๊กตู่จะทำอะไรไม่สุดเหมือนเดิม ที่สำคัญ แหวนของมอรอนวงนี้ที่เรียกว่าอำนาจ จะเปลี่ยนบิ๊กตู่ไปเหมือนบิ๊กจ๊อด หรือบิ๊กสุหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ เพราะส่วนตัวมีความคิดเสมอว่า ใครก็ตามที่เข้ามาได้ลิ้มรสอำนาจ ไม่มีทางที่จะกลับออกไปเหมือนตอนที่จะเข้ามา 

 

ก็หวั่นไอ้ตัว "อำนาจ" นี่อยู่เหมือนกัน...

แต่ยังเชื่อว่าคนดีจะไม่มีวันหมดไปจากกรุงศรีอยุธยาฉันใด... 

ข้าก็ยังจะหวังอีกครั้งกับ บิ๊กตู่ ว่า คนนี้ล่ะ ใช่แล้ว... 555

 

สมเพชพวกปั้นนําเป็นตัวว่ะทุเรศสิ้นดีถ้าสนธิขี้ข้าแม้วจริงสนธิคงไม่ออกมาต้านแม้วแล้วตอนนั้นใครกล้าจะมาต้านแม้วไม่มีสนธิลิ้มก็ล้มแม้วไม่ได้หรอกแล้วไอ้พวกที่หาว่าสนธิบังเยี่ยวไม่สุดเพราะสนธิลิ้มเอ๊งก็ไปดูอดีตมั่งรายการเมืองไทยรายสัปดาห์พอเห็นว่้าไอ้สนธิบังกับขิงเน่าเยี่ยวไม่สุดสนธินี่แหละด่าสนธิบังและขิงเน้าเป็นคนแรกแล้วพวกปชปและส่าวกตอนนั้นไปมุดรูไหน

 

สมเพชเวทนาไอ้พวกเสี้ยมแบบอคติจังว่ะ

 

ผมดีใจมากเลยครับที่ได้รับเกียรติจากท่านพัด คนดังแห่งบอร์ดเสรีไทย เห็นหายกระบาลไปนาน แล้วมาโควทของผมเนี่ย ดีใจจริงๆครัช 

 

ขออภัยไลค์หมดเลยขอโควทแทนนะค่ะ

บิ๊กตู่ ดูอาการแล้ว ไม่ใช่คนเสพติดอำนาจค่ะ

- แกพูดประโยคขอโทษก่อน แล้วค่อยยึด แสดงว่า มีความเกรงใจในตำแหน่งหน้าที่ของผู้นำองค์กรคนอื่นๆ

- เป็นคนขี้รำคาญ ใครมากวนประสาทลองดีก็ด่าซะ เหมือนผู้บริหารระดับสูงทั่วไปที่ไม่ชอบให้ใครลูบคม สิ่งที่แกฟันโชะๆๆๆ ณ ตอนนี้ สะท้อนความรำคาญของแกต่อ คณะรัฐมนตรี+ขี้ข้าทักษิณสายข้าราชการที่สั่งสมแต่ปัญหาแก้อะไรไม่ได้ทั้งนั้น

- แต่ไม่ถือตัว เป็นพลเอกยังคุกเข่าไหว้หลวงปู่พุทธอิสระ ซึ่งทางโลกจบแค่ ป.4 ได้โดยไม่ขัดเขิน

- ไม่โรคจิตเหมือนเผด็จการทหารในอดีตหรือไอ้เหลี่ยม สังเกตจากสิ่งที่พูดออกมา มีแต่อยากให้สงบเรียบร้อย ให้คุยกัน เก็บทหารไว้ใช้ป้องกันประเทศเถอะ อย่าให้กรูต้องออกมาเลยนะ

- รักในหลวง ราชินี มากมาก...ส่วนตัวคิดว่า เกษียณแล้วบิ๊กตู่อาจได้เป็น องคมนตรี เพราะฝีมือ+วิสัยทัศน์+ความจงรักภักดีสุดยอดมาก (แกรบชนะเขมรสมัยพี่มาร์คเป็นนายก + วางแผนรบกับระบอบแม้วมาสามปี)

 

 

 

 

 

 

มีลูกหลานอย่าให้เข้าธรรมศาสตร์

เพราะ4ปีเรียนจบมันจะโดนล้างสมอง

ให้กลายเป็นควาย

 

อุ้ย สะดุ้งตกใจ 555

ส่วนตัวจบ มธ ไม่เคยคิดจะชอบหน้า PD สักวัน แล้วในนั้นดีมีอีกเยอะ อาจารย์ไม่ริเบอร่านก็มีเยอะ แต่ที่ไม่เข้าใจมหาลัยมาตลอดคือ ทำไมชอบให้พวกสถุนเอาชื่อเสียงมหาลัยมาใช้ในกิจกรรมการทางเมืองในทางเสียหาย เช่นอ้างว่าสานต่อแนวทาง PD หรือที่เจ็บปวดกว่านั้นคือสานต่อความเป็น มธ -*- ถ้ามีใครเป็นผู้ใหญ่ใน มธ อ่านแล้วผ่านเข้ามาเห็น ขอบอกว่าเสียใจมากๆ ที่ปล่อยให้คนเลวทรามในมหาลัยที่เป็นเพียงอาจารย์ ซึ่งก็เป็นคนสามัญๆ ตามระบบ ปชต คนหนึ่งนำชื่อ มธ. ที่มีคนนับแสนร่วมมีประวัติเกี่ยวข้องไปใช้เสียหาย เรื่องของ PD ตายไปแล้ว ถ้าแยกแยะความเป็นมหาลัยบูรณการไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยที่จะต้องเห็นมหาลัยตกต่ำราดดินถึงเพียงนี้ - การเมืองเน่า วิชาการต่ำตม -...ถ้าอยากจะเชิดชู PD และแนวคิด ปชต เพราะได้ชื่อว่าเป็น มธ. วันหลังยุบชื่อ ม. นี้แล้วไปตั้งม.  PD หรือ ริเบอร่านอะไร เลย แล้วเมริงหากินกันเอง ไม่ต้องใช้เงินหลวงมาเป็นค่าสนับสนุนให้เป็นเสนียดหรือแอบอ้างเพาะบ่มระบบคอมฯ ให้แปดเปื้อนแผ่นดิน...ของดีในแผ่นดินมีมากมาย ไม่รู้จักบูรณาการ มัวแต่จะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินเพื่อประโยชน์ของคนไม่กี่คน ไปดูสิมหาลัยอื่นเขาไปไหนต่อไหนแล้ว วิชาการควายๆ แดกไม่ได้ แต่ทำดีเพื่อพัฒนาบ้านเมริงแบบจับต้องเป็นรูปธรรมนั้นมันแดกได้

เอามาให้ดูแก้ขัดครับ เผื่อใครคิดถึงลุงกำนัน

(ฟังเพลงปลุกใจมากก็เครียด)

อย่าห่วงเลย แกได้พักผ่อนแล้ว หลังจากขึ้นเวทีปราศรัยกว่า 200 วันแทบไม่เว้น (ไม่รู้คนหนุ่มๆจะทำได้เหมือนแกรึเปล่า)

เหนื่อยกายก็เหนื่อย แต่เหนื่อยใจน่าจะหนักกว่า เพราะที่ผ่านมาต้องอาศัยงื่อนไขมากมาย และสุ่มเสี่ยงที่สุดในชีวิตก็ว่าได้

เมื่อสักครู่ เอาควา_ยไปกินน้ำเลยแวะแถวๆลากดำนา ไงตลาดควา_ย เมืองล่างอันเลื่องชื่อของประเทศจึงเป็นเยี่ยงนี้
จากที่เคยเป็นชุนชนควายเริงสำราญ แต่เวลานี้กลับได้ยินแต่เสียงควา_ยโดนเชีอด ร้องระทวยไปทั้งห้อง
บางตัวถึงขั้นสติแตก เป็นบ้าเป็นบอน้ำลายฟูมปากใครเอ่ยถึง หัวหน้าควา_ย ไม่ได้ถึงกับ ออกอาการควา_ยบ้าเลยทีเดียว
แต่น่าสงสารบางตัว นังปลอบใจตัวเองฝันถึงนายฮ้อยดูไบ อีกไม่นานคงจะมาทำบุญไถ่ชีวิตตน
เห็นแล้วอนาจใจ จริงๆ

*แก้คำผิดครับ

อ่านเม้มคุณแล้วนึกถึงคุณปูเพิ่งบ่นบนเฟสเลยคะ บัวเหล่าสุดท้ายสอนไม่ได้คงต้องปล่อยเป็นอาหารของเต่า-ปลาไป

ชื่นชมท่านประยุทธ์จัง  

วันเริ่มต้นการปฏิรูปประเทศไทย เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยของเรา ให้สมบูรณ์

ความตกต่ำของประเทศชาติอันเกิดจากระบอบการเมืองโดยเหล่าพวกนักการเมือง ผู้ทุจริตคอร์รัปชั่นและไร้คุณธรรมประชาธิปไตย ในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา กำลังจะผ่านไป และจะต้องไม่มีวันกลับมาอีก 

วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราคนไทยทุกคนจะต้องร่วมกันปฏิรูปประเทศ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยของเรา 

วันนี้ เป็นวันที่เราต้องเริ่มรวมหัวใจและสรรพกำลัง ความคิด ความรู้ ความสามารถ มุ่งมั่น สร้างประเทศไทยของเราใหม่ ให้ใหม่ทั้งหมดทุกมิติ ให้ยิ่งใหญ่ เจริญ มั่งคั่ง ยั่งยืน ไม่แพ้ชาติใดในโลก

ไม่ว่าเราจะมีส่วนร่วมกับ "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ-คสช" ในรูปแบบใดก็ตาม 

ทั้งช่วยสนับสนุนร่วมมือในการงานที่จะนำบ้านเมืองไปสู่ความเจริญ 

ทั้งช่วยคิด ตำหนิเตือน วิพากษ์ คัดค้านการใดที่ไม่เหมาะควร และ เสนอแนะแนวทางที่ดีกว่า

เรา ต้องพยายามหาโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมเคียงบ่าเคียงใหญ่กันทุกคนอย่างเสมอภาค กัน ในรูปแบบต่างๆ ให้ชาวโลกรู้ว่า เราคนไทยต้องการสร้างสังคมที่ดีกว่าเพื่อลูกหลานและอนาคตอันรุ่งเรืองของ “ราชอาณาจักรไทย”

ไม่เพียงแต่ว่าเราจะต้องปฏิรูปเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นสังคมประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเท่านั้น 

แต่เราต้องปฏิรูปประเทศไทยของเราในทุกด้าน ให้เป็นราชอาณาจักรที่พลเมืองทุกคนมีความสุขอย่างบริบูรณ์

สมเกียรติ อ่อนวิมล

23 พฤษภาคม 2557

 

เออมือเปล่าอ่ะจริง แต่เค้าก็บอกอยู่แล้วว่ากฏอัยการศึก ห้ามชุมนุมเกิน5คน พอโดนรวบและมาโวยวาย ถ้าไม่ทำผิดนอนดูTVอยู่กับบ้านเค้าจะไปจับทำแมวไรครับ มีคลิปปลากรอปตามไปดูไม่กล้าเอามาลง

Prachatai

17 นาทีที่แล้ว

 

19.10 นศ.จาก มธ. วอนทหารปล่อยตัว ผู้ที่ถูกจับตัว ก่อนจะถูกทหารปลักดันออกมาจากพื้นที่และจับเพิ่มเติม(ล่าสุดมี5คนแล้ว)

 

 

 

   สมน้ำหน้า