Jump to content


สมชัย พิชัย

Member Since 13 October 08
Offline Last Active 30 May 14 11:30
-----

#1191538 การยึดอำนาจครั้งนี้จะสูญเปล่า หากไม่มีการปฏิรูปกระจายอำนาจ

Posted by annykun on 28 May 2014 - 14:44

1. กระจายอำนาจ  จังหวัดจัดการตนเอง

2. ปฎิรูปองค์กรตำรวจ

3. คอรัปชั่น  เพิ่มโทษ  ไม่มีอายุความ

5. กฎหมายเลือกตั้ง  ว่าด้วยเรื่องประชานิยม  เอามาหาเสียง/ทำสั่วๆ  มั่วๆ  ไม่ได้อีกต่อไป

 

เอาแค่นี้ ผมก็ตายตาหลับแล้วครับ  ทำแค่นี้ก่อนแล้วรีบคืนอำนาจให้ประชาชนซะ  เรื่องอื่นค่อยว่ากันหลังเลือกตั้ง




#1191505 การยึดอำนาจครั้งนี้จะสูญเปล่า หากไม่มีการปฏิรูปกระจายอำนาจ

Posted by honglaksi on 28 May 2014 - 14:13

เห็นกระทู้นี้ต้องแวะมาสนับสนุน ยังไงก็ 1 ใน 5 ข้อ ของ กปปส คือการกระจายอำนาจ อ.จรัส,คุณพงพโยม ถ้ามีโอกาสอย่าลืมเตือน คสช ด้วยนะครับ แนวคิดเรื่อง จังหวัดจัดการตนเอง ช่วยกัน Present ให้ พลเอกประยุทธ ให้ท่านได้เข้าใจหลักการด้วย จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง และถ้าทำได้จะช่วยลดการจูงใจพวก ธุรกิจการเมือง มาข่มขืน ประเทศไทย ได้เยอะ และจะเป็นการสั่งสอน พวกที่รอประชานิยมอย่างเดียว ประเทศจะเป็นอย่างไรกูไม่เกี่ยว




#1191502 การยึดอำนาจครั้งนี้จะสูญเปล่า หากไม่มีการปฏิรูปกระจายอำนาจ

Posted by DarkSwan on 28 May 2014 - 14:09

ยังไม่ครบอาทิตย์เลยครับ ใจเย็นๆครับ แก้ไปทีละปม.....จับหลายหน้าเกิน เดี๋ยวจะได้แบบไม่ดีซักอย่าง

.

นั่นสิครับ ผมว่า ช่วงนี้ เป็นช่วงที่

1. สร้างผลงานให้ยอมรับด้วยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อย่างเช่น จ่ายเงินจำนำข้าว

2. ไล่ปราบปรามพวกมีอาวุธสงคราม ตัดท่อน้ำเลี้ยง ส่งกำลังพลสนับสนุนของฝ่ายแม้ว

3. เลือกตัวผู้เล่น ที่จะมาดำรงตำแหน่งต่างๆ ตรงนี้สำคัญ เพราะถ้าเลือกดี ก็จะทำให้กระบวนการด้านปฏิรูป รวมถึงการบริหาร ลื่นไหลไม่สะดุด

 

ต้องผ่านให้เรียบร้อยก่อน แหละครับ ตอนนี้คงทำอย่างอื่นไม่ได้

ต้องปักเสา ตั้งโครงให้ได้ก่อน




#1188856 I'm No.5... ชูวิด...

Posted by wat on 27 May 2014 - 07:45

10405481_894194503939809_1986340037808048849_n.png

 

:D   ดูต่อไป... ออกจากบ้าน AF คราวนี้จะเห่าอะไรอีก... เอิ๊กๆๆๆๆ




#1187426 ถึงคสช.

Posted by amplepoor on 26 May 2014 - 12:57

1 แจ้งบัญชีทรัพย์สินของคณะ คสช. ในทันที

2 เสนอแผนปฎิรูปประเทศภายใน 30 วัน นับจากวันยึดอำนาจ

3 ปรับโครงสร้างปปช. ให้สามารถสรุปคดีทั้งหมดส่งฟ้องได้ภายใน 1 ปี

 

4 ปฎิรูประบบยุติธรรมในทันที

 

5 แจ้งปัญหาวิกฤติของชาติทุกประเด็น และวิธีแก้ไข ภายใน 14 วัน
 




#1186797 หากไม่มีคำตอบที่ดี..........................วันนั้นผมจะไปร่วมด้วยครับ

Posted by ปุถุชน on 26 May 2014 - 06:59

Posted Today, 06:57 Puuchon Serithai shared Abhisit Vejjajiva's status.

เราต้องเรียกร้องให้ คสช. มีความชัดเจนว่าเมื่อเหตุการณ์สงบ อะไรคือการปฏิรูปที่ คสช.จะผลักดันและประชาชนจะมีส่วนร่วมอย่างไร

หากไม่มีคำตอบที่ดี

และหากวันนั้นคนที่รักประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่รักระบอบที่ให้เสียงข้างมากทำอะไรก็ได้ รวมตัวกันโดย
ปราศจากผลประโยชน์กับกลุ่มใดๆ ไม่มีการแอบแฝงทำลายสถาบันหลักของชาติ ผลักดันข้อเสนอที่จะได้ประชาธิปไตยที่ดีกว่า

วันนั้นผมจะไปร่วมด้วยครับ.......


บางคนแชร์โดยตัดตอนข้อความอื่นๆ ทำให้ผู้อ่านไม่หมดข้อความที่โพสต์ไว้ อาจจะเข้าใจผิดได้....
จึงควรอ่านให้หมด และตั้งหลักตั้งสติคิดด้วยครับ.....
 
 
 

 
ทุกข์ของนักเสรีนิยมประชาธิปไตยไทย

ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้ส่งความห่วงใยมาถึงผมตั้งแต่มีการยึดอำนาจ ช่วงที่ถูกควบคุมตัวได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ด้วยดีตามสมควรครับ

ผมต้องขออภัยที่ไม่สามารถปกป้องประชาธิปไตยไว้ได้แต่ได้พยายามอย่างถึงที่สุดจนถึงวินาทีสุดท้า
ผมไม่ต้องการจะโทษใครอีก แต่หวังว่าคนที่ไม่เข้าใจผมในช่วงที่ผ่านมาจะเข้าใจผมดีขึ้น

ผมเป็นนักการเมืองอาชีพ เชื่อมั่นในระบบเสรีประชาธิปไตย
เมื่อ ใดที่นักการเมืองเอาประชาธิปไตยไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเองด้วยการทุจริต ใช้กลไกรัฐละเมิดสิทธิของฝ่ายตรงกันข้าม ไม่ยอมรับการตรวจสอบ ไม่แสดงความรับผิดชอบ นักการเมืองทุกคนก็กลายเป็นผู้ร้ายและสุดท้ายก็ถูกไล่ลงจากเวที


ผมจึงเข้าใจความสะใจของคนจำนวนไม่น้อย
แต่ผมก็เข้าใจความโกรธแค้นของคนอีกจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกัน

ผมรู้จักและเคยทำงานกับพลเอกประยุทธ์ ทราบว่าท่านมีความตั้งใจดีต่อบ้านเมือง แต่เส้นทางที่ท่านเลือกในภาวะที่เหมือนไม่มีทางเลือก เป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความยากลำบากและจะมีคำถามที่ต้องตอบมากมาย

แต่คำตอบสุดท้ายของท่านจะถูกตัดสินด้วยเกณฑ์ที่ว่า เมื่ออำนาจกลับคืนสู่ประชาชนแล้ว เรามีประชาธิปไตยที่ดีกว่าเดิมอย่างไร คุ้มค่ากับการจำกัดสิทธิและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นช่วงนี้หรือไม่

นั่นเป็นภาระที่หนักหน่วงของท่า


แต่ทุกข์ของผู้นิยมเสรีประชาธิปไตยไทยก็มีเหมือนกัน
เพราะเมื่อเราไม่สนับสนุนการรัฐประหาร
เรามีทางเลือกในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างไร


การรวมตัวต่อสู้ได้ปรากฏให้เห็นบ้างแล้ว
แต่การเคลื่อนไหวบางกรณีที่เกิดขึ้นยังผูกติดกับกลุ่มอำนาจเก่า
และอาจส่งผลเพียงแค่การทำให้ คสช. ต้องใช้มาตรการเข้มข้นมากขึ้น

หากนำไปสู่การลุกฮือและความรุนแรงก็ไม่มีอะไรจะยืนยันได้ว่าเราจะได้ ประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบอบที่ละเมิดหลักเสรีประชาธิปไตยเหมือนเดิม หรือกลับเข้าสู่ภาวะความขัดแย้ง ความไร้ระเบียบ แม้กระทั่งการนองเลือด

วันนี้สังคมจึงควรตั้งหลักตั้งสติ


ราต้องเรียกร้องให้ คสช. มีความชัดเจนว่าเมื่อเหตุการณ์สงบ อะไรคือการปฏิรูปที่ คสช.จะผลักดันและประชาชนจะมีส่วนร่วมอย่างไร

หากไม่มีคำตอบที่ดี
และหากวันนั้นคนที่รักประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่รักระบอบที่ให้เสียงข้างมากทำอะไรก็ได้ รวมตัวกันโดยปราศจากผลประโยชน์กับกลุ่มใดๆ ไม่มีการแอบแฝงทำลายสถาบันหลักของชาติ ผลักดันข้อเสนอที่จะได้ประชาธิปไตยที่ดีกว่า

วันนั้นผมจะไปร่วมด้วยครับ

 

 

 

 

สาธุชน สุจริตชนใช้วิจารณญาณของตนเอง ใช้หลักกาลามสูตรพิจารณาเอาเองครับ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




#1186616 รับได้มั้ย..มี สส.ภาคละ 100 คน(แบบแบ่งเขต50 แบบบช.ร่ายชื่อ50) แบ่งเป็น 5 ภาค

Posted by puggi on 25 May 2014 - 23:52

เพิ่งอ่านข่าวมา อินเดีย เลือกตั้งใหญ่ สส ทั้งหมดหากจำไ่ม่ผิด ไม่เกิน 600 คน ทั้งที่ประชากรเค้า มากกว่า 1000 ล้านคน

 

 ไทย สส 480 คน กับประชากรไม่เกิน 70 ล้านคน  ผมว่าเยอะเกินไป

 

ต้องลด จำนวน สส ลง  เพราะไหน ๆ ก็จะเน้นท้องถิ่น ใครอยากบริหารท้องถิ่น ไปลง อบต อบจ สจ  ซะ จะได้สิ้นเรื่อง จัดระบบตรวจสอบดีๆ

 

กับพวกท้องถิ่น   




#1180920 หลังจากนี้...คิดกว่า เป้าหมายการปฏิรูปของ กปปส จะได้รับการสนองบ้างไหม

Posted by annykun on 23 May 2014 - 18:55

 

นักการเมืองมาจากการเลือกของคน

 

มัวแต่จะกันนักการเมือง ตรวจสอบนักการเมือง แต่คนเลือกเหมือนเดิม มันจะไปกันได้ยังไง หรือต้องเปลี่ยนที่คนเลือก

 

ผมว่าอย่างน้อยก็ช่วยกันให้ไม่เลือกคนอย่างจ่าประสาทเข้ามาได้ครับ -_-

 

ถ้าคนสุรินท์  อยากได้จ่าประสาทเป็นผู้นำ  ก็ช่างปะไร  ขอแค่อย่าให้ความบ้าของจ่าประสาท สร้างความเดือดร้อนมาถึงศรีสะเกษ(และจังหวัดอื่นๆ) ก็พอ




#1178882 รวมประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

Posted by RiDKuN_user on 22 May 2014 - 23:23

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557


 

เรื่องให้บุคคลมารายงานตัว

 

ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ประกาศเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตามประกาศฉบับที่ 1/2557 ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 16.30 น. แล้วนั้น เพื่อให้มาตรการรักษาความสงบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้ มารายงานตัว ณ กองบัญชาการรักษาความสงบแห่งชาติ (กองบังคับการ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์) ภายในวันที่ 22 พ.ค. 2557 ดังนี้

  1. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
  2. 
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา

  3. นายจาตุรนต์ ฉายแสง
  4. 
นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี

  5. นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล
  6. 
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ

  7. นายบุคคล ลิ้มแหลมทอง

  8. นางเบญจา หลุยเจริญ
  9. 
นายสมศักดิ์ ภูรีศรีศักดิ์

  10. นางปวีณา หงษ์สกุล

  11. พลเอกพฤณท์ สุวรรณทัต

  12. นายพ้อง ชีวานันท์

  13. นายยรรยง พวงราช

  14. นายวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์

  15. นายสนธยา คุณปลื้ม

  16. นายประดิษฐ สินธวณรงค์
  17. 
นายสรวงศ์ เทียนทอง

  18. นายประเสริฐ บุญชัยสุข


ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557

 

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ




#1178853 รวมประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

Posted by RiDKuN_user on 22 May 2014 - 23:11

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557

เรื่อง การควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ

 

ตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และพื้นที่ต่างๆ ของประเทศหลายๆ พื้นที่ เป็นผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มขยายตัว จนอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวมนั้น


เพื่อให้ สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทั่วทุกฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 16.30 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบ ดำเนินวิถีชีวิตและประกอบอาชีพต่อไปตามปกติ ให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบแบบแผนของทางราชการดังที่เคยปฏิบัติ


สำหรับ ข้าราชการทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่างๆ ที่มีอาวุธเพื่อใช้ในราชการของหน่วย ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังและอาวุธโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่เพียงผู้เดียว


สำหรับ คณะทูตานุทูต สถานกงสุล องค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งชาวต่างประเทศที่พำนักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะได้ให้ความคุ้มครอง และขอยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ยังเป็นไปตามปกติ ตามที่รัฐบาลชุดเดิมดำเนินการไว้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะยึดมั่นในความจงรักภักดี และจะปกป้องเทิดทูนดำรงรักษาไว้ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจประชาชนชาวไทย และทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง


ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557

 

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ




#1175082 ความพิการทางปัญญา ของคนล้มเจ้า

Posted by ทรงธรรม on 21 May 2014 - 10:48

ผม ขอเล่า เรื่องในอดีต นิดนึง

 

คือแต่ก่อน ผมยอมรับ ว่าผม หัว คอมมิวนิสต์นะ

 

เพราะครอบครัวผมจน ตั้งแต่ผมเกิด จนเดี๋ยวนี้เลย

 

เพราะผม เป็นคนไม่เก่งด้วย

 

 

ตอนผมวัยรุ่น ผมมีความคิด ค่อนข้างรุนแรงนะ

 

เห็นนักการเมืองโกง เห็น คนทำชั่ว ข่มขืน ปล้นฆ่า

 

ก็มักจะอยากให้ ฆ่า พวกนี้ ให้หมด

 

 

แล้วผม ก็คิดแบบคอมมิวนิสต์ คือ

 

เกลียดคนรวย อยากให้คนเท่าเทียมกัน

 

 

แต่ชีวิต ผม ที่ผ่านมา เรื่อย ๆ ที่ผมคิดว่า

 

คนจน น่าสงสาร คนจน ถูกเอาเปรียบ

 

ผมกลับได้ ค้นพบว่า บางครั้ง

 

คนจนก็ " ทำตัวเอง " คือผมมีญาติ ที่จน

 

มีเพื่อนที่จน ที่เค้า ไม่น่าจะจน

 

 

คือ อย่างญาติผม เค้าค้าขายนะ

 

ทำเลดีด้วย แต่เค้าติด การพนัน

 

ได้มาก็เอาไปเล่น แบบนี้ จะไม่จนได้ไง

 

 

หรือ เพื่อนที่เป็น ยาม ก็มีบางคน

 

หมดเงินที่อุตส่าห์ อดนอน ควบ 2 กะ

 

ไปกับ การตีสนุ้ก (ในวันที่ไม่เข้ากะ) และ แน่นอน

 

มีวางเดิมพันด้วย

 

 

แล้วก็ ถามว่า เรื่องการให้ความเคารพ

 

นั้นเกินไปไหม ผมเห็นว่า ถ้าจะบอกว่าเกิน

 

คุณครับ ผมเห็นคนไทยหลายคน

 

กราบไหว้ ต้นไม้ นะครับ ไม่แค่นั้น

 

เต่า งูหลาม หรือแม้แต่ ตัวเ-ี้ย

 

 

ก็จับมันมา ปะแป้ง แล้วก็ไหว้ ด้วยครับ

 

ไม่แค่นั้นนะ หลายคน ยังไปรัก ศรัทธา

 

เอากับ อาศรม หรือ เรือน ที่เป็นของ

 

พวก ทรงเจ้าเข้าผี นับถือกันจริง ๆ จัง ๆ

 

เอาเงินไปให้ ไปกู้มาก็มี หมดเนื้อ หมดตัว

 

เพื่อแลกกับ น้ำมนต์ ขวดเดียว

 

 

ยังมีอีกนะ ผมเห็น หลายคน

 

ก็ทุ่มเท ไปกับ เกจิ ที่ ให้หวย

 

ก็แกเล่นให้ คนโน้น คนนี้ ที่มาขอ

 

ไม่ซ้ำกัน มันก็ต้องถูก เข้าสักคน สิครับ

 

 

แล้วพอถูกนะ ก็ดังสิครับ

 

แหมเล่นไม่ยาก อะ

 

เกจิบางคน ก็อาศัย วจีไพเราะ

 

สำเนียงเสนาะ ฟังแล้ว รื่นรมย์

 

เทศแล้วน่าฟัง แต่เอาเข้าจริง

 

ก็มักเรียก เงินทำบุญ มากเกินกว่า

 

ที่อุบาสก อุบาสิกา จะเต็มใจให้

 

 

แต่เพราะเห็นแก่ ความศรัทธา ตามแบบ

 

ฉบับของแต่ละคน ก็เลย ให้อย่าง

 

หลอกตัวเองนิดหนึ่งว่า เพื่ออนาคต

 

ได้ไปสวรรค์นะ จานบิน มารับบ้างล่ะ

 

 

นี่ไง ความศรัทธา มีเต็มไปหมด

 

ถ้าเรามัวแต่คิดว่า ไม่ต้อง มีหรอก

 

ความศรัทธา ไม่ต้องมีหรอก ความแตกต่าง

 

 

คุณลองไปห้าม คนพวกนี้ สิ

 

เค้าได้รีบ ไล่คุณออกจากบ้าน ไม่ทัน

 

เหตุเพราะ เค้าคิดว่า พวกคุณ

 

คงเป็น ภูตผีปีศาจ ที่จะนำ ความหายนะ

 

มาให้เค้า เรื่องอะไร มากล่าวหา

 

ผู้วิเศษของเค้า แบบนี้

 

 

อย่าทำเพียงเพื่อ บอกว่า พวกคุณ

 

คือเสรีชน แต่จงยอมรับว่า

 

พวกคุณ ก็แค่คนกลุ่มหนึ่ง

 

ที่มีอคติ กับคน อีกกลุ่ม ก็แค่นั้น

 

 

ช่วยมองโลกให้กว้างหน่อย รับความเป็นจริง มากหน่อย

 

คุณจะไม่ต้อง คบคนอยู่แค่กลุ่มเล็ก ๆ แล้วมาตัดพ้อว่า

 

คนอื่นถูกล้างสมอง ไปกันหมด

 

ช่วยหัด ส่องกระจก ดูตัวเองด้วย




#1155316 ทำไมถึงมีคนสนับสนุนให้ทำแท้ง?

Posted by kanokporn on 7 May 2014 - 18:31

เรายังสงสัยอยู่ว่า ลูกที่อนุมัติให้คุณหมอถอดสายออกซิเจนพ่อ+แม่ตัวเอง เพราะไม่อยากให้ทรมาน อาจจะเข้าข่าย อนันตริยกรรม ด้วยล่ะ




#1155304 ทำไมถึงมีคนสนับสนุนให้ทำแท้ง?

Posted by winwin191 on 7 May 2014 - 18:25

หมอ รพ.ใหญ่ๆของรัฐ เดือนนึงก็ทำไปไม่รู้กี่ศพ(เฉพาะโดนข่มขืน) ทำเพราะเป็นหน้าที่อย่างนี้บาปไหม


#1155293 ทำไมถึงมีคนสนับสนุนให้ทำแท้ง?

Posted by หมาต๋า on 7 May 2014 - 18:21

ความเชื่อทางพุทธ ถ้าไปทำหรือมีส่วนร่วมสนับสนุน จะเป็นกรรมที่ทำให้ชีวิตเจอมรสุมเยอะมาก หากินไม่ขึ้น เขาว่างั้นกันนะ

คุณค่าของชีวิต ตอน 1 : การทำแท้งเป็นบาปหรือไม่ 
 
คุณตื่นนอนกลางดึก หูคุณแว่วเสียงบางอย่าง คุณรู้ว่าไม่ใช่เสียงพายุหิมะแน่ คุณลุกขึ้นจากเตียง คุณมองออกไปนอกหน้าต่าง ข้างนอกบ้านหิมะกำลังตกหนัก คุณเดินลงไปที่ชั้นล่าง คุณพบว่ามีชายแปลกหน้าคนหนึ่งนอนอยู่ในห้องรับแขก คุณถามเขาว่า "คุณเข้ามายังบ้านของฉันทำไม?" เขาตอบว่า "เพราะประตูเปิดอยู่"
 
คุณบอกเขาว่า "แต่นี่เป็นบ้านของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาในบ้านของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต" เขาตอบว่า "ก็บ้านของคุณอบอุ่นดี"
 
คุณบอกให้เขาออกไปจากบ้านคุณเสีย เขาบอกว่า "ผมออกไปไม่ได้หรอก ขืนออกไปตอนนี้ ผมก็หนาวตายข้างนอกนั่นสิ"
 
คุณบอกว่า "แต่ฉันมีสิทธิเป็นเจ้าของบ้านนี้" เขาตอบว่า "ผมก็มีสิทธิในการมีชีวิต ถ้าผมออกไปข้างนอกแล้วตาย คุณก็ต้องเข้าคุกเพราะฆ่าผมตายทางอ้อม"
 
 
เรื่องที่เล่ามานี้มิใช่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับใคร มันเป็นตัวอย่างที่นักวิวาทะปัญหาเรื่องการทำแท้งมักยกมาเปรียบเทียบ
 
เจ้าของครรภ์ (บ้าน) มีสิทธิ์ในร่างกายของตนเองจริงหรือไม่? มีเสรีภาพในการทำแท้งเด็กในท้อง (ไล่คนแปลกหน้าออกจากบ้าน) หรือไม่?
 
การทำแท้งเป็นประเด็นถกกันมานาน เป็นประเด็นร้อนในสังคมทั่วโลก บ่อยครั้งถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และเป็นเรื่องที่จะถกกันไปอีกนานแสนนาน ตราบที่ผู้หญิงตั้งท้องได้และไม่ทุกคนที่อยากมีลูก โดยสองค่ายความคิด : Pro-choice กับ Pro-life
 
Pro-choice เห็นว่ามนุษย์สมควรมีเสรีภาพในการเลือก หญิงเจ้าของครรภ์จึงมีสิทธิ์ตัดสินว่าจะอุ้มท้องหรือไม่ รัฐไม่มีสิทธิ์เหนือสิ่งที่เกิดในภายในมดลูกของหญิงคนนั้น
 
Pro-life เห็นว่าชีวิตมนุษย์แม้ในรูปของตัวอ่อนย่อมมีค่า เมื่อสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาแล้ว แม้ว่ามันอยู่ในรูปของตัวอ่อน ก็มีสิทธิที่จะอยู่ในโลกนี้ ไม่มีใครมีสิทธิที่จะทำลายมันโดยพลการ เพราะการทำลายตัวอ่อนก็คือฆาตกรรม
 
นี่จึงเป็นวิวาทะของสองซีกความคิดต่อสองสาระที่ต่างก็สำคัญต่อมนุษย์ ?: ชีวิตกับเสรีภาพ
 
 
 
ตัวเลขของการทำแท้งทั่วโลกในปัจจุบันคือประมาณ 46 ล้านครั้ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประเทศที่มีอัตราการทำแท้งสูงมากๆ มิใช่ประเทศเสรีนิยม หากเป็นประเทศสังคมนิยม เช่น รัสเซีย เวียดนาม ในตัวเลข 46 ล้านรายนี้ มีเพียง 26 ล้านรายที่ทำแท้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตัวเลขขององค์การสหประชาชาติชี้ว่า การทำแท้งกว่า 88 เปอร์เซ็นต์เกิดขึ้นก่อนตัวอ่อนอายุ 12 สัปดาห์
 
ไม่ว่าความเห็นของชาวโลกต่อเรื่องนี้เป็นอย่างไร ประวัติศาสตร์ของโลกก็บันทึกชัดว่า การทำแท้งในสมัยโบราณไม่เป็นเรื่องวุ่นวายเหมือนปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะผู้คนสมัยนั้นยังไม่รู้รายละเอียดของการปฏิสนธิ ยิ่งไม่รู้พัฒนาการของตัวอ่อนในแต่ละขั้น จวบจนเมื่อโลกประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์และเรารู้ว่า ชีวิตเกิดจากการผสมระหว่างอสุจิกับไข่ มุมมองเกี่ยวกับชีวิตก็เปลี่ยนไป ความคิดต่อต้านการทำแท้งขยายวงกว้างออกไป แต่ละสังคม แต่ละประเทศมีมุมมองต่างกัน และความเห็นเรื่องนี้แปรต่างกันไปตามความเชื่อ วิธีการใช้ชีวิต วัฒนธรรม ฯลฯ
 
ในศตวรรษที่ 19 ประเทศส่วนใหญ่ในโลกห้ามการทำแท้ง จนถึงศตวรรษที่ 20 หลายประเทศจึงเริ่มอนุญาตให้ทำแท้งได้โดยไม่มีบทลงโทษ ประเทศแรกๆ ที่อนุญาตการทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย ได้แก่ สหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2462) เยอรมนี (พ.ศ. 2478) สวีเดน (พ.ศ. 2481)
 
สำหรับทัศนคติการทำแท้งในประเทศไทยเป็นเรื่องค่อนข้างแปลก เพราะในสมัยโบราณเรามองว่าการทำแท้งเป็นเรื่องธรรมดา สังคมยอมรับการตัดสินใจของสตรีเป็นใหญ่ คนโบราณมองว่านี่เป็นสิทธิของหญิง การทำแท้งได้กลายเป็นสิ่ง 'ผิด' เมื่อกฎหมายไทยเดินตามหลังประเทศที่ 'ศิวิไลซ์' ทางตะวันตก
 
กฎหมายตราสามดวงของไทยโบราณไม่เอาผิดหญิงที่ทำให้ตัวเองแท้งลูก หมวดพระอัยการทาสในกฎหมายตราสามดวงมาตรา 94 แบ่งการตั้งครรภ์ออกเป็นสองช่วง ช่วงสามเดือนแรกเรียก 'เขตรักษาท้อง' ช่วงสามเดือนจนครบกำหนดเรียก 'ทศมาส' ทารกที่คลอดหรือแท้งในช่วงหลังนี้ ไม่ว่าเด็กที่คลอดจะรอดหรือตาย ให้ถือว่าเป็นการคลอดทั้งสิ้น 
 
 
 
นอกจากการทำแท้งเพราะความพลาดพลั้งแล้ว ยังมีการทำแท้งเพราะเพศของตัวอ่อนด้วย
 
ในบางประเทศเช่นจีน อินเดีย การทำแท้งตัวอ่อนเพศหญิงสูงกว่าชายหลายเท่า เพราะสังคมไม่นิยมทารกหญิง วัฒนธรรมของชาวจีนนิยมเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง เพราะเด็กชายจะเป็นผู้สืบแซ่ต่อไป การจบแซ่ที่รุ่นใดถือว่าเป็นเรื่องอัปมงคลของตระกูลนั้น ทว่าเมื่อพลเมืองจีนสูงถึงหลักพันล้าน ความจำเป็นที่ต้องควบคุมจำนวนประชากรจึงเกิดขึ้น โดยการออกนโยบาย 'ครอบครัวเดียว ลูกคนเดียว' ขณะที่ค่านิยมทารกเพศชายยังไม่หมดสิ้นไป จึงมีรายงานการทำแท้งไปจนถึงการฆ่าเด็กทารกหญิงที่เพิ่งเกิดเสมอๆ
 
ในประเทศอินเดีย บางพิธีกรรมทางความตายต้องใช้ญาติที่เป็นชายเท่านั้น ทำให้ทารกชายเป็นที่นิยมมากกว่า เทคโนโลยีการตรวจเพศในตัวอ่อนกลายเป็นดาบสองคม เมื่อคนใช้มันเพื่อจุดประสงค์ในการรู้เพศของตัวอ่อน และทำลายตัวอ่อนที่เป็นหญิง
 
โฆษณาในยุคทศวรรษ 1970-1980 ในอินเดียตีพิมพ์ว่า "ลงทุน 500 รูปี (เป็นค่าตรวจสอบเพศเด็ก) ในวันนี้ จะประหยัดเงินห้าหมื่นรูปี (ค่าสินสอดที่ฝ่ายหญิงให้ฝ่ายชาย) ภายหลัง" ตัวเลขบ่งว่าในช่วง ค.ศ. 1985-2005 ตัวอ่อนเพศหญิงถูกทำลายไปราวสิบล้านชีวิต จนในปี ค.ศ. 1994 รัฐบาลอินเดียต้องห้ามการตรวจเพศเด็กโดยสิ้นเชิง
 
เรื่องนี้ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือร้ายสำหรับหญิง เพราะมันกลายเป็นกรรมตามสนองครอบครัวที่นิยมเพศชาย นั่นคือเมื่อมีชายมาก หญิงน้อย ทำให้หญิงสามารถเลือกคู่ครองได้มากกว่าชาย! 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม เรื่องกฎหมายอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าบริบททางสังคมและศีลธรรม เพราะการทำแท้งก้าวไกลกว่า 'ผิดกฎหมาย-ถูกกฎหมาย' มันข้ามไปยังประเด็นของ บาป-ไม่บาป, ภาระสังคม, คุณค่าของชีวิต, ความรับผิดชอบของปัจเจกและสังคม ไปจนถึงขอบเขตของเสรีภาพ
 
มีคำถามมากมายในการถกเรื่องการทำแท้ง : การฆ่าทารกที่เกิดแล้วกับการทำลายตัวอ่อนต่างกันหรือไม่ ในเมื่อทั้งคู่ก็ยังไม่สามารถมีชีวิตรอดด้วยตัวเอง? การทำลายตัวอ่อนที่มีอายุสองเดือนกับสามเดือน สี่เดือน ห้าเดือน เจ็ดเดือน... ต่างกันอย่างไร? ที่จุดใดเราเรียกมันว่าเป็น 'ฆาตกรรม' ? รัฐใช้สิทธิอะไรในการห้ามหรืออนุญาตการทำแท้ง ในเมื่อรัฐธรรมนูญเน้นเรื่องเสรีภาพของมนุษย์? การบังคับให้หญิงอุ้มท้องทั้งที่ไม่ต้องการเด็กนั้นเป็นเรื่องแย่หรือดี? หากการทำแท้งตัวอ่อนที่เกิดจากการข่มขืนไม่ผิดหรือไม่บาป ทำไมการทำแท้งตัวอ่อนอื่นๆ จึงผิดหรือบาป? อะไรคือบรรทัดฐาน? ทำไมสังคมยอมรับการทำแท้งของหญิงที่ถูกข่มขืนและการทำแท้งตัวอ่อนเพื่อรักษา ชีวิตแม่ว่าไม่ผิด ไม่บาป ทั้งที่เป็นการทำลายชีวิตตัวอ่อนชนิดเดียวกัน? หรือเพราะแม่มีชีวิตก่อนจึงมีคุณค่ามากกว่า? เปรียบเทียบได้กับกรณีเมื่อเรือโดยสารล่ม คนที่ลงเรือชูชีพก่อนมีสิทธิ์รอดชีวิตมากกว่าคนที่มาทีหลัง?
 
การทำแท้งเป็นเรื่องผิดหรือไม่ บาปหรือไม่ เป็นคำถามที่อยู่ในพื้นที่สีเทา เพราะเราไม่สามารถหามาตรอะไรมาวัดว่า การกระทำหนึ่งถูกหรือผิด (ที่สำคัญคือ อะไรคือถูก? อะไรคือผิด?) หรือจะใช้มุมมองไหนเป็นหลัก มุมมองของแม่? ของหมอ? ของผู้รักษากฎหมาย? ของสังคม? ของศาสนา? ของธรรมชาติ?
 
ประเด็นการถกยังลามไปเชื่อมกับศาสนา บางศาสนาเช่นคริสต์นิกายคาทอลิกห้ามการคุมกำเนิด ในอีกหลายศาสนา การทำแท้งถูกตราว่าเป็นบาปมหันต์ ขณะที่ฝ่าย Pro-choice ชี้ว่า การปล่อยให้เด็กเกิดมาโดยไม่พร้อม ทำให้เด็กถูกทอดทิ้ง ไร้การศึกษา กระทั่งอดตาย อาจเป็นบาปมหันต์กว่า สถิติเด็กมีปัญหาเพราะเกิดมาโดยไม่พร้อมและเป็นภาระสังคมนั้นสูงขึ้นในทุก สังคม ในหลายกรณีแม่เด็กได้ 'คลอดแล้วเผ่น' ทิ้งเด็กไว้เป็นภาระต่อสังคม และทิ้งรอยบาดแผลในใจเด็กไปตลอดชีวิต
 
 
 
คาร์ล ซาแกน นักคิด นักเขียน นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ตั้งคำถามในหนังสือ Billions and Billions ว่า "อะไรคือความรับผิดชอบของเราต่อคนอื่นๆ ? สมควรเพียงใดที่เราจะยินยอมให้รัฐรุกล้ำเข้าในเรื่องส่วนตัวของชีวิตของเรา? ขอบเขตของเสรีภาพอยู่แค่ไหน? อะไรคือความหมายของความเป็นมนุษย์?"
 
คาร์ล ซาแกน ชี้ว่า 'ชีวิต' มิได้เกิดเมื่อมีการปฏิสนธิ หากแต่ย้อนหลังกลับไปตั้งแต่ต้นกำเนิดของชีวิต ทั้งนี้เพราะชีวิตเป็นสายโซ่ที่ไหลต่อเนื่องไม่ขาดตอนมาตั้งแต่กำเนิดโลก เมื่อหลายพันล้านปีก่อน มันเป็นห่วงโซ่ที่ย้อนเชื่อมไปยังต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์หลายแสนปีมา แล้ว ดังนั้นไข่และตัวสเปอร์มก็มีชีวิต และถ้าใช้ 'ชีวิต' เป็นมาตรวัด เราก็มีคำถามต่อไปว่า การสำเร็จความใคร่ของชายเป็นการฆาตกรรมหมู่หรือไม่? เช่นเดียวกับการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการปฏิสนธิ เพราะทุกครั้งที่มีการหลั่ง จะมีตัวสเปอร์มหลายร้อยล้านตัวที่ตายไปเพราะไม่ได้ปฏิสนธิ การใช้ยาคุมกำเนิดเป็นการฆ่าทางอ้อมหรือไม่? ฝันเปียกเป็นการฆ่าโดยไม่เจตนาหรือไม่? การมีประจำเดือนของสตรีซึ่งเป็นการทำลายไข่ เป็นการฆาตกรรมหรือไม่? เพราะทุกเดือนที่ไข่ไม่ได้รับการปฏิสนธิ ก็เท่ากับว่าไข่ใบนั้นถูกปล่อยให้ตายไป ตลอดทั้งชีวิตของแต่ละคน มีตัวสเปอร์มหรือไข่ตายไปนับไม่ถ้วน เหล่านี้คือ 'ชีวิต' ทั้งนั้นมิใช่หรือ?
 
มองในมุมของธรรมชาติ มีหลักฐานชัดเจนว่าธรรมชาติสร้างชีวิตมาเกินจำนวนเสมอ เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหาร เช่น จำนวนกวางในป่ามีมากพอที่หลังจากเป็นอาหารของสิงโตแล้ว ยังสืบเผ่าพันธุ์ต่อไปได้ จำนวนปลาแซลมอนในทะเลมีมากพอให้หลังจากเป็นอาหารแก่ฝูงหมีแล้ว ยังเหลือพอสืบสายพันธุ์ ฯลฯ เป็นเช่นนี้ทั้งบนแผ่นดิน บนท้องฟ้า ใต้ดิน ใต้น้ำ
 
คำถามคือ การรักษาชีวิตโดยไม่ดูตาม้าตาเรืออาจเป็นการทำลายสมดุลธรรมชาติหรือไม่ หากมนุษย์รักษาชีวิตจนวันหนึ่งประชากรล้นโลก และทำให้ห่วงโซ่อาหารของทั้งโลกถูกทำลาย ทำให้อาหารไม่พอจนคนตายเพราะอดอาหาร? 
 
(ยังมีต่อ) 
 
 
วินทร์ เลียววาริณ
 
www.winbookclub.com
 
26 เมษายน 2551 



#1123861 หลักคิดง่ายๆ พวกคุณกับนึกกันไม่ออก

Posted by templar on 2 April 2014 - 10:31

contra+6.jpg   contra+8.jpg

 

 

 

 

สูตรเกมส์คอนทร้า 30 ตัวตั้งแต่เริ่มเกมส์ให้กดปุ่มตามนี้
(สูตรใช้ได้ทั้ง Famicom และ Emu บนคอม)
   - ถ้าเล่น1คน  = ขึ้น ขี้น ลง ลง ซ็าย ขวา ซ็าย ขวา  B  A   Start
   - ถ้าเล่น2คน  = ขึ้น ขี้น ลง ลง ซ็าย ขวา ซ็าย ขวา  B  A   Select    Start

เมื่อกดสูตรได้สำเร็จเราจะมีตัวละครให้เล่นถึง 30 ตัวตั้งแต่เริ่มเกมส์ และถ้าเล่น 2 คน แล้วถ้าเกิดมีใครคนใดคนหนึ่งตัวละครหมดก็สามารถกด A

เพื่อขอยืมชีวิตของตัวละครอีกฝ่ายได้ด้วย การยืมชีวิตนี้สามารถกดใช้ได้เมื่อตัวละครอีกฝ่ายหมดและอีกคนมีตัวละครเหลือมากกว่า 1 ตัวขึ้นไปเท่านั้น

และสามารถใช้ได้แม้ไม่กดสุตร 30 ตัว

 

contra+2.jpg

 

เครดิต  :   http://www.gamesdotanews.com/