Jump to content

  2. → ดูประวัติผู้ใช้: Likes: montra

montra

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2557 23:14
-----

#1182070 "อี้ แทนคุณ" ประกาศต้านรัฐประหาร ลั่นท้าทายอำนาจเผด็จการ จะจับก็เชิญ

โดย Hilton(ปาล์มาลี) on 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:27

การประท้วงของกปปส  ถั่วเฉลี่ยมีคนตาย 3.5  และบาดเจ็บ 110 คน  ต่อเดือน ตลอด 6 เดือนที่มีการชุมนุม

อี้ แทนคุณ ได้อ่านบทความของการ์ด คปท ของคืนวันที่21 ที่ทุกคนรับทราบถึงการเข้าสลาย คปทด้วยอาวุธ ของตำรวจไหม

หรือได้อ่านโน๊คของ กบกางเกงในที่เขียนสั่งลาไว้ บางหรือไม่

บางที่ถ้าเราอยู่ในเหตุการณ์นั้น ช่วงตี 1 การปฎิวัติ ตอนตี  3  อาจจะได้ช่วยร้อยกว่าชีวิตนั้น

รวมถึงการเข้าจับคุม อาวุธสงครามหลายรายการ ที่เกิดขึ้นในหลายวันที่ฝานมา

ใครดำเนินการถ้าไม่ใช่ทหาร 

แล้วถามอี้หน่อย ในระบบการดูแลความสงบและความปลอยภัยของรัฐบาล โดย ศรส นั้นเป็นการปกป้องชีวิตของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยใช่ไหม 

ด้วยความอ่อนพรรษาทางการเมือง  การจะตอบคำถามเรื่องการไม่เห็นด้วยกับการปฎิวัติ ของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยนะ มันมีวิธิการตอบมากมาย  แต่ไม่ใช่การออกตัวแรงอย่างนี้ 

การกระทำของทหารในครั้งนี้ เราเรียกกันว่าปฎิวัติ เพราะมันยึดอำนาจของรัฐบาลมา แต่ปัจจุบันนี้มีรัฐบาลไหม ? เพราะการแต่งตั้งรองนายกรักษาการแทนนายก  จากนายกรักษาการที่ถูกตัดสินโดยศาลรัฐธรรมนูญว่าประพฤติไม่ชอบแล้ว (หัวขาดแล้ว) ชอบด้วยของกฎหมายไหมหรือไม่  และการที่รองนายก และรัฐมนตรีที่เหลือ ไม่ปฎิบัติโดยมารยาท  ที่จะลาออก เพราะหัวคือนายกได้ถูกปลดแล้ว  นี้คือการรักษาซึ่งระบอบประชาธิปไตยของอี้ใช่ไหม

ประชาธิปไตยมันไม่ใช่แค่ยึดตามกฎหมายเท่านั้น  มันต้องคำนึงถึงจริยธรรม หลักคุณงามความดี และประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม และสำคัญสุด คือผลประโยชน์ของส่วนรวมผ

ดังนั้นการกระทำของทหารในเบื้องต้นที่ อี้ว่าถูกนั้น (ประกาศกฎอัยการศึก) ก็เพื่อรักษาความสงบนั้น ทหารได้ทำเลยมาจนถึงการขอให้ทั้ง 7 ฝ่ายหาทางออกให้ประเทศ  แล้วเป็นไง  อี้ได้อ่านความเห็นที่หัวหน้าอภิสิทธิ์ได้ พูดในที่ประชุมไหม  ที่ว่าให้นักกการเมืองถอยออกมา แล้วไม่มีใครเชื่อ สุดท้ายก็โดน  บอกแล้ว

ทุกอย่างที่ทหารทำเป็นขั้นเป็นตอน  ที่น่าเครพาเสียด้วยซ่ำ

อย่ายึดติดกับความคิดที่ว่า เป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย จะสนับสนุนการปฎิวัติไม่ได้ (ใช้คำว่าการแก้ไขเปลี่ยนแปงสถานะการณ์ดีกว่า)  เพราะนั้นเป็นแค่วลี ของพวกฉวยโอกาสที่หลอกพวกโลกสวยให้เกลียดการปฎิวัติ  เพราะการปฎิวัติมันเป็นทางเดียวที่สามารถขัดขวางการทำมาหากินของมันได้เท่านั้น 




#1153355 ช่วยเติมให้หน่อยครับยังขาดอีกคน

โดย Bookmarks on 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:52

ถ้าหากว่า...กฤษฎีกาบอกให้ "ทักษิณไปติดคุก....หรือ ไปตายซะ" .....ทักษิณมันจะเชื่อไหมครับ.. ?? -_- -_-

ผมไม่เห็นว่าไอ่แม้วมันจะเชื่อกฤษฎีกาซะที่ไหน เพราะที่ดินวัด ที่มันเอาไปสร้างสนามกอล์ฟอัลไพน์ กฤษฎีกาบอกว่าต้องคืนให้วัด ไม่เห็นมันจะคืน 




#1153120 ช่วยเติมให้หน่อยครับยังขาดอีกคน

โดย Alkene on 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:36

2. กรณีตายายเก็บเห็ด ข้อหาที่ถูกฟ้องคือ ข้อหาร่วมกันบุกรุกและทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตรารัฐบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากบุคคลทั้งสองอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุและมีการวิ่งหลบหนีการจับกุมไปพร้อมกันกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันตัดไม้สัก 700 ต้น (จึงถูกตั้งข้อหาว่าเป็นตัวการร่วมกับขบวนการตัดไม้) อันเป็นความผิดตามพรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพรบ.ป่าไม้ พ.ศง2484
 
ข้อหาร่วมกันบุกรุกและทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต
          มาตรา 14 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพ ป่าสงวนแห่งชาติ 
 
โทษที่ศาลพิพาษาลงแก่จำเลยในข้อหานี้คือ 
          มาตรา 31 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หกเดือนถึงห้าปีและปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้าหมื่นบาท
           ในกรณีความผิดตามมาตรานี้ ถ้าได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่ หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่
           (1) ไม้สัก ไม้ยาง ไม้สนเขา หรือไม้หวงห้ามประเภท ข. ตาม กฎหมายว่าด้วยป่าไม้ หรือ
           (2) ไม้อื่นเป็นต้นหรือเป็นท่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่าง รวมกันเกินยี่สิบต้น หรือท่อน หรือรวมปริมาตรไม้เกินสี่ลูกบาศก์เมตร หรือ
           (3) ต้นน้ำลำธาร
           ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบห้าปี และ ปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท
 
ข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตรารัฐบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต 
         มาตรา 11 ผู้ใดทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้าม ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือได้รับสัมปทานตามความในพระราชบัญญัตินี้ และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงหรือในการอนุญาต
          มาตรา 54 ห้ามมิให้ผู้ใด ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น เว้นแต่จะกระทำภายในเขตที่ได้จำแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรม และรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาหรือโดยได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
 
โทษที่ศาลพิพาษาลงแก่จำเลยในข้อหานี้คือ 
         มาตรา 69 ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
              ในกรณีความผิดตามมาตรานี้ ถ้าไม้ที่มีไว้ในครอบครองเป็น
          (1) ไม้สัก ไม้ยาง หรือไม้หวงห้ามประเภท ข. หรือ
          (2) ไม้อื่นเป็นต้นหรือเป็นท่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างรวมกันเกินยี่สิบต้น หรือท่อน หรือรวมปริมาตรไม้เกินสี่ลูกบาศก์เมตร
ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองแสนบาท
       มาตรา 72 ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 54 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
             ในกรณีความผิดตามมาตรานี้ ถ้าได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท
         มาตรา 73 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 13 มาตรา 31 หรือมาตรา 48 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          ในกรณีความผิดตามมาตรานี้ ถ้าการกระทำผิดนั้นเกี่ยวกับ
       (1) ไม้สัก ไม้ยาง หรือไม้หวงห้ามประเภท ข. หรือ
       (2) ไม้อื่นเป็นต้นหรือเป็นท่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างรวมกันเกินยี่สิบต้น หรือท่อน หรือรวมปริมาตรไม้เกินสี่ลูกบาศก์เมตร หรือไม้ที่ได้แปรรูปแล้วรวมปริมาตรไม้เกินสองลูกบาศก์เมตร
         ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองแสนบาท
 
          ในกรณีนี้จำเลยทั้ง 2 คน เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจึงลงโทษทุกกระทงความผิด ข้อหาบุกรุก ศาลลงโทษจำคุก 11 ปี ส่วนข้อหาตัดไม้ ลงโทษจำคุก 19 ปี รวมจำคุก 30 ปี แต่เนื่องจากรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษคงเหลือ 15 ปี
 
         ที่เป็นปัญหากันเพราะจำเลยทั้ง 2 คน (อายุ 51 ปี กับ 48 ปี ยังไม่น่าจะเรียกว่าตายายนะครับ) ไปเซ็นรับสารภาพ ทำให้กลายเป็นข้อเท็จจริงในชั้นศาล ศาลจึงต้องพิพากษาตามที่จำเลยรับ แต่ลดโทษให้เหลือครึ่งหนึ่งคือ จาก 30 ปี เหลือ 15 ปี 
 
       ส่วนเหตุที่ศาลไม่รอลงโทษอ้างตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2914/2524 อนึ่ง ตามที่ศาลอุทธรณ์เห็นควรให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1ไว้นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องตามที่โจทก์ฎีกาว่า การทำลายป่าสงวนแห่งชาติเป็นความผิดที่ร้ายแรงทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติอย่างใหญ่หลวงซึ่งไม่ควรรอการลงโทษให้จำเลย 
 



#1153079 ช่วยเติมให้หน่อยครับยังขาดอีกคน

โดย Alkene on 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:52

ขายซีดีเก่า ปัญหาคือเป็นซีดีเถื่อน ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย........  ถ้าจิตใจเป็นธรรม ก็คงรู้ว่าโทษนั้นเกินไป  ไม่โดนกับตัวไม่รู้สึก 

ขับรถชนคนตาย เหตุที่เกิด เป็น "ผู้เยาว์" และทำไปโดย "ประมาท" เป็นความผิดครั้งแรก ศาลย่อมเมตตา.......เมตตาก็ถูกต้องแล้ว  แต่ลงโทษเบาเกินไป เมตตาจนเกินไป เพราะนามสกุลหรือเปล่า  รอลงอาญา  บำเพ็ญประโยชน์แค่สองวัน  

สุรยุทธ์บุกพื้นที่ป่าสงวน มาจากการซื้อที่ดินจากชาวบ้าน ซึ่งไม่มีสิทธิ์ขาย และกฎหมายไม่ได้กำหนดโทษไว้.........นิยายสิ กฎหมายไม่ได้กำหนดบทลงโทษ  แบบนี้นายทุนก็ซื้อที่ป่าสงวนจากผู้บุกรุก พอโดนจับก็คืนที่ดิน   เอวังกับความคิดของคน  แล้วลองไปสืบดู คนบุกรุกที่ขายที่ให้ มีการลงโทษหรือไม่

 
1. กรณีขายซีดีเถื่อน เป็นความผิดที่มีแต่โทษปรับครับ ไม่มีโทษจำคุก คุณลองศึกษากฏหมายดูว่าข้อเท็จจริงในกรณีนี้เป็นอย่างไร
    มาตรา ๓๘ ห้ามผู้ใดประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายภาพยนตร์โดยทำเป็นธุรกิจหรือได้รับประโยชน์ตอบแทน เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน
             ใบอนุญาตนั้น ให้ออกสำหรับสถานที่ให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายภาพยนตร์แต่ละแห่ง
            การขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
 
ส่วนโทษที่ศาลลงแก่จำเลย
       มาตรา ๗๙ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๗ วรรคหนึ่ง มาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง หรือประกอบกิจการดังกล่าวในระหว่างถูกพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนอยู่
 
 จากข่าวจำเลยถูกศาลพิพาษาให้ปรับเป็นจำนวน สองแสนบาท ซึ่งเป็นอัตราโทษที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะลงได้กับความผิดในฐานนี้แล้ว (โทษปรับตั้งแต่สองแสนถึงหนึ่งล้านบาท) แล้วอย่างนี้จะว่าศาลไม่เป็นธรรม หรือว่าลงโทษเกินไปได้อย่างไรครับ เมื่อจำเลยรับสารภาพก็ลดโทษให้เหลือเพียงครึ่งเดียว เป็นค่าปรับหนึ่งแสนบาท
ส่วนที่มีการจำคุกเพราะจำเลยไม่มีเงินเสียค่าปรับจำนวนหนึ่งแสนบาท ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้ศาลก็ต้องสั่งให้กักขัง (ไม่ใช่จำคุก) แทนค่าปรับ
 
ปอ. มาตรา ๓๐ ในการกักขังแทนค่าปรับ ให้ถืออัตราสองร้อยบาทต่อหนึ่งวัน และ ไม่ว่าในกรณี ความผิดกระทงเดียว หรือ หลายกระทง ห้าม กักขัง เกินกำหนด หนึ่งปี เว้นแต่ ในกรณีที่ ศาลพิพากษา ให้ปรับตั้งแต่ แปดหมื่นบาทขึ้นไป ศาลจะสั่งให้ กักขังแทนค่าปรับ เป็นระยะเวลา เกิน หนึ่งปี แต่ ไม่เกิน สองปี ก็ได้
 
ในกรณีดังว่านี้จำเลยถูกศาลพิพาษาให้ปรับสองแสนบาท จึงต้องเป็นไปตามวรรคท้าย คือมีโทษปรับเกินแปดหมื่นบาท ให้กักขังแทนค่าปรับเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 2 ปี
ทั้งหมดทั้งมวลผมว่าศาลท่านเมตตามากแล้วนะครับ เรื่องค่าปรับที่ลงโทษในอัตราต่ำสุด ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เพราะศาลตั้งตัดสินไปตามกฎหมายที่มีอยู่ครับ



#785465 เชื้อชั่ว.......ไม่เคยทิ้งแถว......

โดย ธงไชยคนเขียนโพย on 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 09:15

ปลูกฝังให้ลูกเป็นผลไม้พิษ ตามรอยพี่โอ้คขี้ยา




#778711 สงสัยมานานแล้ว เพิ่งได้ยินจากเพื่อนคนหนึ่ง...

โดย MuuSang on 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 22:17

เอาเข้าจริง พี่ๆ เสื้อแดงในนี้ ไม่กล้ายืนซดก๋วยเตี๋ยว

เอ๊ย  ยืนแลกหมัดกับเพื่อนๆ ในเรื่องอุดมคติทางการเมืองแบบตัวๆ

 

ผมก็ไม่กล้ายืนยันว่า สำนักงานที่ว่านี้อยู่ตรงไหน แต่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า

เด็กอายุไม่ถึงสามสิบ (จะว่าเด็กก็ไม่ถูก) มีรายได้งาม เนื่องจากประกอบอาชีพทางอินเตอร์เน็ต

โพสต์ข้อความชวนเชื่อทางการเมือง!!!!! ใครๆ ก็นึกไม่ถึงว่า ท่ามกลางความแตกแยกทางความคิด

แต่กลับเป็นช่วงที่สร้างรายได้มโหฬารให้กับพวกเขา (มัน)

สร้างความเกลียดชังโดยการสร้างวาทกรรม ฯลฯ

 

ขี้เกียจบรรยายแล้วหล่ะ

 

 

แต่เรื่องหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะเป็นกฏเข้มของพวกนั้นคือ ห้ามทะเลาะกับใครก็ตามที่มีแนวคิดตรงข้ามแบบตัวๆ

เพราะถ้าไม่งั้น สัญญารับงาน ต้องยุติ หมายถึงการสูญเสียรายได้ไปตลอดกาล

 

เพราะถ้าทะเลาะถึงขั้นฟ้องร้องต่อศาลแบบตัวต่อตัว มีหวังโดนสาวถึงสำนักงาน เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้ตามถึงตัวได้

สามารถเชื่อมโยงไปหาทีมงานได้ ยกกย๊วน

 

ดังนั้น สันนิษฐานไว้ก่อนว่า นักโพสต์ที่เชลียร์  และทำเฉยเมื่อเราต่อว่าแรงๆ หรือทำเหมือนดูไม่เห็น

มีโอกาสเกิน 80% ที่จะเป็น นักโพสต์รับจ้าง

 

 

 




#542079 คำผกา ประกาศก้องขาย...มีศักดิ์ศรีกว่าฆ่าคน

โดย ดอกปีบ on 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:09

แม่คำผกา แม่ศักดิ์ศรีดีการี่ชั้นสูง

ชอบทำตัวเป็นนัก Radical feminist วิพากษณ์วิจารณ์ด่าทอแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้า หรือผู้ใหญ่ที่คนเคารพนับถือทั่วบ้านทั่วเมือง
แต่พฤติกรรมของป้าน่าขยะแขยง เป็นคนไม่มีศีลธรรม ลูกเขาผัวใครก็เอาหมด :(
ตอนนี้ถึงป้าจะอยากขาย... คงไม่มีชายใดอยากได้หอยเน่าแถมนมยานย้วยหัวนมดำปี๋ของป้าหรอก หัดดูหนังหน้าและสารรูปตัวเองบ้างนะคะ :(


เข้าใจตั้งชื่อเนาะ "คำผกา" : คำ = ทอง ; ผกา = ดอกไม้
สรุปแล้วชื่อป้าก็คือ ดอกทอง นี่เอง


#425549 คนรักในหลวงไม่ทอดทิ้งกัน ผมทำผ้าโพกหัวไปแจก วันที่ 25 นี้ ที่กองปราบ

โดย Can Thai on 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 22:46

ถ้าผมเจออาจจะถามหยาบคายกว่าคุณครู

เผลอๆ อาจมีคดีทะเลาะวิวาท ฮา


#251950 สั่งซื้อเสื้อเสรีไทยล็อตที่ ๓ ได้แล้วนะครับ

โดย G.Maniac on 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 09:49

ได้รับเสื้อแล้วนะครับ เมื่อวานนี้ ดีใจมากครับ / เสื้อสวยกว่าที่คิดไว้ด้วยครับ / ขอบคุณครับ

Posted Image Posted Image Posted Image Posted Image


#145562 อีกราย(ฮา)... “หมวดเจี๊ยบ” เล็งฟ้อง “ศิริโชค” กล่าวหาทำให้เสื่อมเสีย

โดย อิไซกูนิ on 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 14:55

“หมวดเจี๊ยบ” เล็งฟ้อง “ศิริโชค” กล่าวหาทำให้เสื่อมเสีย

Posted ImagePosted Image

รองโฆษกหญิง พท. โวย “ศิริโชค” กล่าวหาทำให้เสื่อมเสีย ย้ำยีศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง เตรียมส่งทนายฟ้องข้อหมหมิ่นประมาท

ที่พรรคเพื่อไทย วันนี้ (18 ก.พ.) ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัตร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากกรณีนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ จัดรายการผ่านทางช่องบลูสกาย ชาแนล มีเนื้อหาในทำนองที่ทำให้เสียศักดิ์ศรี โดยระบุว่าเมื่อครั้งที่ตนต้องลาออกจากการทำงานที่กองทัพบก เพราะว่าขาดงาน ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะการลาออกครั้งนั้น เพื่อไปศึกษาต่อ และนายศิริโชคยังได้พูดถึงครอบครัวของตนในทำนองเสียหายด้วย ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท ขณะนี้ตนได้ให้ทีมกฎหมายรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อฟ้องร้องนายศิริโชค ในข้อหาหมิ่นประมาท เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง เนื่องจากนายศิริโชค พูดจาพาดพิงถึงตนในทางเสียหาย และทำให้คนอื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้หญิงที่ไม่ดี

“ ดิฉันยอมรับว่า ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ที่ผ่านมาก็พบเจอทั้งเรื่องสมหวังและผิดหวัง จะเอาอะไรมากกับชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่เกิดมาเป็นเพียงลูกสาวคนขับแท็กซี่แถมยังกำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก แต่ก็พอใจในตัวเองและยอมรับความจริง ถ้าเลือกเกิดได้ก็ ก็ขอเลือกเกิดมาเป็นลูกสาวแท็กซี่คนจนอย่างนี้อีก แต่จะไม่ยอมเกิดเป็นผู้ชาย ที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงด้วยความเท็จ เป็นอันขาด และถึงแม้ตัวเองจะมาจากครอบครัวที่ยากจน แต่ก็ได้รับการสั่งสอน ไม่ให้เหยียบย่ำซ้ำเติมความโชคร้ายของคนอื่น เพราะในโลกนี้ ไม่มีใครที่มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ “ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว

http://www.manager.c...D=9550000022425


#111365 บาปของโกร่ง

โดย amplepoor on 21 มกราคม พ.ศ. 2555 - 20:00

เชื่อใหมว่า ตัวละครที่เข้ามาข่มขืนกระทำชำเราประเทศไทย
ตั้งแต่ยุคต้มยำกุ้ง ไม่ได้หนีหายไปใหนเลย
ยังวนเวียนแวะเข้ามาชำเราปู เอ้ย ชำเราประเทศอยู่ไม่ขาดระยะ

มีช่วงเดียวที่ต้องงดหื่น
ก็คือช่วงที่เด็กสองคนนั้นบริหารประเทศ

วิกฤติการณ์ทางการเงินของประเทศ มาจากผลงานของคนหน้าเดิม
จิ๋ว-แม้ว-ทนง ....แต่....แหม เราไม่น่าลืมบทบาทคนสำคัญ
ที่เป็นคนเริ่มต้นกระบวนการชำเราประเทศไทย
ก่อนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง









เขาคนนั้นชื่อโกร่งครับ


  1. ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด
  2. → ดูประวัติผู้ใช้: Likes: montra
  3. Privacy Policy
  4. กฎการใช้งานเว็บบอร์ด ·