Jump to content


b...

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 16 ตุลาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 11:34
*****

#258004 มันพูดในสภาด่า สส.ฝ่ายตรงข้ามว่า "ไอ้นี่...จบรามคำแหง โง่จริงๆ"...

โดย voodoo on 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 19:11

เป็ดไม่ได้จบราม แต่ได้รับปริญญาจากรามมา


#256844 โอ๊ค ออกอัลบั้มใหม่ ก๋วยเตี๋ยวถ้วยละ 3 บาท ที่เชียงใหม่ด้วยเน้อ

โดย irq5 on 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 15:54

ว๊าย......ขออภัย

เราก็นึกว่ามันด่าคนอื่น

จะลบออกได้ยังไงคะ ขอโทษอีกที

ไปกดแก้ไขเลยนะ


#255800 อ้าว! ทำไมคนแอ๊บกลางเยอะจัง

โดย chackrapbong on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 22:49

พรรคใหนทำเรื่องใหนเสื่อมเสีย ประนามไปเถอะ
เพื่อผลประโยชน์ตกกับประชาชน ส่วนใหญ๋

มันก็ทำพลาดกันทุกพรรค มากหรือน้อย ไปตามสถานการณ์
เพราะการเมืองเป็นเรื่องของการแย่งชิงอำนาจ

มัวแต่Post เอามัน อ่านเอาฮา ได้ like เยอะ เพราะถูกจริต
กับคนอ่าน ก็สนุกกันไป อีกไม่นานก็ลืม

ส่วนใครพิจารณา ตัดสินใจ ด้วยวิจารณญาณของตัวเอง
ที่จะเลือกพรรคที่ตัวเองชอบกว่า อันนี้เป็นสิทธิ ไม่ว่ากันอยู่แล้ว

ไม่มีประโยชน์หรอกครับคุณ TFEX ที่จะเอาเรื่องความเป็นกลาง
มาเล่น หรือมาเสนอ เพราะใน ที่สุด ไม่มีใครเป็นกลางในโลกความเป็นจริง
แม้ผู้ตอบแบบสอบถามเอง ก็ยังไม่รู้หรอก ที่ตอบว่าเป็นกลางนั้น ความจริง
คืออะไรกันแน่

ทุกคนเลือกข้างกันหมดแล้ว ต่างกันตรงแค่เลือกตอบ
อย่าให้คำพูดมาหลอกตัวเองเลย


#255632 "ธาริต"ชี้แจงเหตุสั่งไม่ฟ้อง"จตุพร"

โดย overtherainbow on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 21:12

ผมมีสามประเด็นในใจ ที่อยากถามทั้งนายธาริต และกลุ่มนิติราษฎร์(แต่คงไม่ได้ถาม) เพื่อนสมาชิกคนไหนตอบได้ช่วยตอบที

ประเด็นที่ 1. เรื่องอำนาจหน้าที่ของทหารสองหน่วยนี้คือ ทหารรักษาพระองค์ และทหารเสือราชินี ถูกกำจัดวงอยู่แคบตามที่ผู้ถูกกล่าวหาปราศรัยจริงหรือไม่? เพราะนายจตุพรพยายามพูดชักนำให้เข้าใจว่า ทหารสองหน่วยนี้เป็นมีภาพลักษณ์เป็นทหารของพระราชา การที่รัฐบาลเอากองกำลังสองหน่วยนี้มาปราบปรามม็อบ จึงทำให้ประชาชนมองแง่ลบกับสถาบัน และรัฐบาลเองนั่นแหล่ะทำร้ายสถาบัน แต่ที่ผมเข้าใจคือทหารทุกหน่วยขึ้นตรงต่อรัฐบาล อำนาจหน้ามีการแต่งตั้งและรับมอบหมายโดยรัฐบาล ผู้พูดย่อมเข้าใจประเด็นนี้ดี แต่กลับพูดไปอย่างนั้นเพื่อหวังผลทางการเมือง

ประเด็นที่ 2. ต่อเนื่องจากประเด็นที่ 1. การที่ผู้พูดเอาสถาบันมาเชื่อมโยงกับนักการเมืองที่ใช้อำนาจหน้าที่โดยชอบธรรม ย่างนี้เป็นการแอบอ้างสถาบันเพื่อทำลายกันทางการเมือง เหมือนที่นิติราษฏร์และกลุ่มที่ต้องการแก้ ม.112 ให้ความหมายหรือไม่ อย่างไร

ประเด็นที่ 3. เรื่องกระสุนพระราชทาน ข้อเท็จจริงที่ว่ายุทธโธปกรที่โดยทหารทั้งสองหน่วยคือทหารรักษาพระองค์และทหารเสือราชินี ถือว่าคือสิ่งของพระราชทานโดยธรรมเนียมปฏิบัติเป็นความจริงหรือไม่ ทำไมจงใจระบุเป็นอย่างนั้น และถ้าไม่เป็นความจริง เมื่อไหร่นายจตุพรจะมาสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน

...ผมฝากไว้เผื่อว่าจะสะกิดต่อมสงสัยของหลายๆ ท่าน และเป็นเชื้อความหวังว่าจะมีสักวันที่ผู้มีอำนาจในขณะนี้ได้ยิน และเชื่อมั่นในตัวข้าราชไทยทุกคน เพราะเชื่อว่าถึงแม้นอำนาจเปลี่ยน แต่ความจริงต้องไม่เปลี่ยน ขอให้ความจริงข้อนี้ย้ำเตือนใจท่านๆ ให้ทำไปอย่างถูกต้อง ขอให้นึกถึงวันที่พวกท่านเป็นข้าราชการตัวเล็กๆ ปลาซิวปลาสร้อย เมื่อวันนี้มีบุญบารมีเป็นใหญ่เป็นโตแล้ว จะยังไม่ลืมเลือนอดุมการณ์ของพวกท่านนะขอรับ


คดีนี้ เป็นความอัปยศมากที่สุดเท่าที่ได้มีคดีมา

คำถามนี้ คงไม่มีคำตอบค่ะ

เพราะปิดคดีไปแล้ว

ยังหวังอะไรได้อีก


#255692 "ธาริต"ชี้แจงเหตุสั่งไม่ฟ้อง"จตุพร"

โดย noslipme on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 21:47

ผมคิดว่าการพูด การเขียน การนำเสนอใดๆ หากเป็นความจริง ไม่สมควรผิดอยู่แล้วครับ
แต่ กฏหมายบางฉบับนั้น ได้ริดรอนสิทธิ และเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนไป


มนุษย์เกิดมาไม่ใส่เสื้อผ้า โตไปจะไม่ใส่เสื้อผ้า ก็ไม่น่าจะผิดใช่ไหมครับ
เป็นความจริงใช่ไหมครับที่มนุษย์ต้องสืบพันธ์ เป้นธรรมชาติเลยด้วยซ้ำ
ถ้าความจริงเหล่านี้จะถูกนำเสนอ ก็ไม่น่าจะมีกฏหมายบางฉบับ มาริดรอนสิทธิ เสรีภาพ

มนุษย์มีความรุนแรง ความโลภสารพัดกิเลสส่วนตน กฏหมายก็ไม่น่าจะมาจำกัดสิทธิเสรีภาพเหล่านั้นใช่ไหมครับ

ถ้าแบบนี้ กบฏแดงที่มาชุมนุมที่ราชประสงค์เมื่อปีก่อนโน้น เพราะถือในสิทธิเสรีภาพของตนเอง
จะโดนยิง โดนทำร้าย เพราะคนอื่นถือในสิทธิเสรีภาพของเขา ก็ไม่น่าจะผิดนะครับ
เป็นแบบนี้ก็ไม่น่าจะมีวีรชน มีคนดี คนชั่ว คนถูก คนผิด เพราะแต่ละคนก็ต่างทำไปตามสิทธิเสรีภาพของตัวเอง
เป้นความจริงกว่านะครับ ถ้าใครสามารถทำอะไรก็ได้ เท่าที่ตัวเองมีความสามารถ จะแบบไหนๆก็ตาม เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพ เป็นความจริง


#255560 ถามคุณล่าวิญญาณ

โดย แสนยานุภาพ on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 20:30

ผลงานที่ประจักแก่สายตา ...




คดีที่อยู่ในชั้นศาล 7 คดี


คดีหลีกเลี่ยงการเสียภาษีจากการซื้อขายหุ้น บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ( มหาชน ) โดยศาลอาญา พิพากษาให้จำคุกคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน คนละ 3 ปีและจำคุกนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน เป็นเวลา 2 ปี



คดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก ซึ่งอัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ร่วมกันเป็นจำเลย โดย พ.ต.ท. ทักษิณ ถูกยื่นฟ้องว่ากระทำผิด พ.ร.บ.ปปช. พ.ศ. 2542 และข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ส่วนคุณหญิงพจมาน มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด กรณีคุณหญิงพจมาน ซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษกจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 33 ไร่ มูลค่า 772 ล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้อขายที่ดินที่ต่ำกว่าราคาประเมิน และคดีนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง


คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว หรือคดีหวยบนดิน ซึ่ง คตส. ได้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ, คณะรัฐมนตรี "รัฐบาลทักษิณ" และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวม 47 คนเป็นจำเลย และคดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำสั่งรับฟ้องไว้พิจารณาแล้ว เมื่อวันที่ 28 กค.2551


คดีเอ็กซิมแบงก์ ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลพม่า 4,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการจัดซื้ออุปกรณ์กิจการโทรคมนาคมจาก บริษัทในเครือ ชินคอร์ ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ซึ่ง คตส. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจำเลย ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการดูแลกิจการเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และมาตรา 157
ซึ่งคดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำสั่งรับฟ้องคดีไว้พิจารณาแล้ว



คดีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ - ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท
คดีนี้อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทาน หรือเข้าเป็นคู่ส่าว , เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,152,157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4 ,100 ,122 ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้นัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดีไว้พิจารณาหรือไม่ วันที่ 3 กันยายน 2551


คดีทุจริตจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น คดีนี้ยื่นฟ้องนายเนวิน ชิดชอบ รมช.เกษตรฯ กับพวกรวม 44 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน และผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ วันที่ 6 ส.ค. นี้ (2551)


คดีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ซึ่งมีนายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากรกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรอีก 4 คน เป็นจำเลย ฐานละเว้นการเก็บภาษีการโอนหุ้นชินคอร์ปฯ ซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา และอยู่ระหว่างการสืบพยานของศาลอาญา


คดีอยู่ระหว่างตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการกับ ปปช. 3 คดี


คดีทุจริต CTX 9000 ซึ่งคดีนี้เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างปรับเปลี่ยนสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารและเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยคดีนี้ คตส. ได้ชี้มูลความผิด พ.ต.ท. ทักษิณ กับพวก ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157


คดีธนาคารกรุงไทย อนุมัติเงินกู้ให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานคร ซึ่งเป็นการอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัทที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL โดยคดีนี้ คตส. ได้ชี้มูลความผิด พ.ต.ท. ทักษิณ กับพวก รวมทั้ง คตส.ได้ชี้มูลความผิดนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายกับพวกในข้อหารับของโจร โดยแยกออกมาเป็นอีกสำนวนคดีหนึ่งเนื่องจากเป็นบุคคลธรรมดา

คดีทุจริตโครงการระบบจ่ายไฟฟ้าและเครือข่ายท่อร้อยสายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคมกับพวกเป็นจำเลย


คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ 2 คดี


คดีปกปิดข้อมูลโครงสร้างผู้ถือหุ้นเอสซี แอสเซทฯ คดีนี้มีผู้ต้องหา คือ บริษัท เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พ.ต.ท. ทักษิณ, คุณหญิงพจมาน และนางบุษบา ดามาพงศ์ คดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ได้ดำเนินคดีในข้อหาฐานแสดงข้อความอัป็นเท็จหรือปกปิดความจริงเกี่ยวกับโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซีฯ ต่อตลาดหลักทรัพย์ และสรุปสำนวนส่งให้กับอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง ต่อมาอัยการได้สั่งให้ดีเอสไอ ทำการสอบสวนเพิ่มเติม และนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ในวันที่ 16 กันยายนนี้

คดี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ร่ำรวยผิดปกติเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง ซึ่งเป็นคดีแพ่ง และคดีนี้ที่ผ่านมาได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการและ ปปช. และมีข้อสรุปออกมาว่าให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินกว่า 69,000 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน


ขอบคุณที่มาของข่าว : สำนักข่าวเนชั่น
http://www.oknation.net/blog/radio/2008/07/31/entry-2




Posted Image

คดีคงค้างของ 'ทักษิณ'

วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2555 เวลา 10:53 น.




พรรคประชาธิปัตย์ ได้ย้ำประเด็นเกี่ยวกับการกลับไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในทำนองว่า จะต้องมีเงื่อนไขให้นิรโทษกรรมคดีต่าง ๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ยังคงค้างอยู่อย่างแน่นอน โดยคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยังคงค้าง อาทิ

1. คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว หรือคดีหวยบนดิน ซึ่งคดีนี้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณและ ครม. และบางคนที่เกี่ยวข้องศาลตัดสินแล้ว

2. คดีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลพม่าจำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อให้ดำเนินโครงการจัดซื้ออุปกรณ์กิจการโทรคมนาคมจากบริษัทในเครือชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

3. คดีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ-ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ป ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อผลประโยชน์ตนเองและผู้อื่น


4. คดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างปรับเปลี่ยนสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารและเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด (ซีทีเอ็กซ์ 9000) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คดีนี้ คตส. ได้ชี้มูลความผิด พ.ต.ท.ทักษิณกับพวก ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ

5. คดีธนาคารกรุงไทย อนุมัติเงินกู้ให้กับเครือกฤษดามหานคร ซึ่งเป็นการอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัทที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ โดยคดีนี้ คตส.ได้ชี้มูลความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวก แต่คดีต่าง ๆ เหล่านี้เดินหน้าไม่ได้เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ต่างประเทศ.


Posted Image


คดีความ



คดีขายหุ้นกลุ่มบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ดูบทความหลักที่ กรณีตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ขายหุ้นกลุ่มบริษัทชินคอร์ป


วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2549 ระหว่างการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง ของพันตำรวจโท ทักษิณ ครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์ ขายหุ้นของ บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น ที่ครอบครองอยู่ทั้งหมด ให้แก่บริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ จำกัด (พีทีอี) ซึ่งพันตำรวจโท ทักษิณชี้แจงว่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน แต่กลับมีบุคคลบางกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เนื่องจากเห็นว่าการแก้ไขกฎหมายที่ว่าด้วยการขายหุ้นในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านั้น เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกรณีดังกล่าว รวมทั้งการไม่ต้องเสียภาษีรายได้จากผลกำไรในการขายหุ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ใช้กับทุกคนอย่างเสมอภาคกัน เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นจุดสำคัญที่ทำให้กระแสการขับพันตำรวจโท ทักษิณออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขยายตัวออกไปในวงกว้าง


คดีที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551 พันตำรวจโท ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ตัดสินใจไม่ไปรายงานตัวต่อศาลคดีการเมือง ในคดีที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก โดยทั้งสองเดินทางไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่มีบุตรธิดาทั้งสามรออยู่แล้ว โดยก่อนหน้านั้น ทั้งสองขออนุญาตออกนอกประเทศต่อศาลคดีการเมือง เพื่อไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ตามคำเชิญของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ทั้งสองกลับเดินทางต่อไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อขอลี้ภัยทางการเมือง โดยไม่เดินทางกลับมารายงานตัวต่อศาลคดีการเมือง[73][74]
ด้วยเหตุนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจึงออกหมายจับ พันตำรวจโท ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ในความผิดฐานประพฤติมิชอบ ในการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท และตั้งสินบนนำจับทันที[73] [75][76][77] โดยคดีของ พันตำรวจโท ทักษิณ มีอายุความ 15 ปี ถึงวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ส่วนคดีของคุณหญิงพจมาน มีอายุความ 10 ปี ถึงวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2561[76]
คดียึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดิน

ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 13.30 น. องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เริ่มอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ และได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการขัดกัน ระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม ของพันตำรวจโท ทักษิณ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตกเป็นของแผ่นดิน โดยศาลมีคำวินิจฉัยว่า พันตำรวจโท ทักษิณเป็นเจ้าของหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น ที่แท้จริง และใช้อำนาจหน้าที่ระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เอื้อประโยชน์ให้แก่ บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น, บริษัท แอดวานซ์อินโฟเซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (เอไอเอส) และบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) โดยตรง อันมีผลทำให้มูลค่าหุ้นของ บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น สูงขึ้น รวมทั้งได้เงินปันผลจำนวนดังกล่าว จึงมีคำพิพากษาให้ยึดเฉพาะเงินค่าขายหุ้น ส่วนที่เพิ่มขึ้นหลังจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเงินปันผล จำนวนทั้งสิ้น 46,373,687,454.64 บาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งพันตำรวจโท ทักษิณ ไม่ยอมรับผลการตัดสินดังกล่าว และอาจยื่นเรื่องเพื่ออุทธรณ์ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศต่อไป แต่ในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ในขณะที่มีการนับคะแนนของการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เวลาประมาณ 17:00 นาฬิกา พันตำรวจโท ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ว่าไม่ต้องการได้เงินจำนวน 46,373,687,454.64 บาทคืนแต่อย่างใด เพียงแต่ขอให้มีการพิจารณาคดีต่างๆ ที่มีก่อนการรัฐประหารใหม่ให้ถูกต้องเท่านั้น


แถม .....

การวิจารณ์จากสื่อต่างประเทศ

นิตยสาร Foreign Policy ในเครือวอชิงตันโพสต์ จัดอันดับให้พันตำรวจโท ทักษิณ เป็นหนึ่งในห้าอดีตผู้นำของโลก ที่ไม่ปฏิบัติเป็นตัวอย่างที่ดี หลังจากพ้นตำแหน่ง (อีกสี่อันดับ เป็นผู้นำของเยอรมนี สเปน ไนจีเรีย และฟิลิปปินส์) โดยอ้างถึงการเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังถูกรัฐประหารด้วยข้อกล่าวหาทุจริต และละเมิดสิทธิมนุษยชน[4] ส่วนนิตยสารฟอบส์ จัดอันดับให้พันตำรวจโท ทักษิณ เป็นหนึ่งในบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก ที่ใช้ชีวิตในคุกหรืออยู่ระหว่างหลบหนีคดี โดยที่พันตำรวจโท ทักษิณ ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่พันตำรวจโท ทักษิณปฏิเสธข้อกล่าวหานี้[3]



#254924 ขอข้อมูล หลักฐาน ตามคำกล่าวอ้างที่ว่า "รับเงินจ้างมาชุมนุม" จากคุณsu...

โดย HiddenMan on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 15:15

ขอประกาศชัยชนะ และปิดกระทู้ครับ ;)


#255210 เผาศาลาหมู่บ้านเสื้อแดงสงขลาหลังทำพิธีเปิดหมู่บ้านในอ.จะนะ วอดทั้งหลัง

โดย t045 on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 17:48

ศาลาที่คนใต้เผา ใหญ่กว่าศาลพระภูมิหน่อยเดียว

Posted Image

อันนี้ศาลาที่เสื้อเเดงเผา


Posted Image


#254499 "ธาริต"ชี้แจงเหตุสั่งไม่ฟ้อง"จตุพร"

โดย เมาอยู่ on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 10:27

ผมมีสามประเด็นในใจ ที่อยากถามทั้งนายธาริต และกลุ่มนิติราษฎร์(แต่คงไม่ได้ถาม) เพื่อนสมาชิกคนไหนตอบได้ช่วยตอบที

ประเด็นที่ 1. เรื่องอำนาจหน้าที่ของทหารสองหน่วยนี้คือ ทหารรักษาพระองค์ และทหารเสือราชินี ถูกกำจัดวงอยู่แคบตามที่ผู้ถูกกล่าวหาปราศรัยจริงหรือไม่? เพราะนายจตุพรพยายามพูดชักนำให้เข้าใจว่า ทหารสองหน่วยนี้เป็นมีภาพลักษณ์เป็นทหารของพระราชา การที่รัฐบาลเอากองกำลังสองหน่วยนี้มาปราบปรามม็อบ จึงทำให้ประชาชนมองแง่ลบกับสถาบัน และรัฐบาลเองนั่นแหล่ะทำร้ายสถาบัน แต่ที่ผมเข้าใจคือทหารทุกหน่วยขึ้นตรงต่อรัฐบาล อำนาจหน้ามีการแต่งตั้งและรับมอบหมายโดยรัฐบาล ผู้พูดย่อมเข้าใจประเด็นนี้ดี แต่กลับพูดไปอย่างนั้นเพื่อหวังผลทางการเมือง

ประเด็นที่ 2. ต่อเนื่องจากประเด็นที่ 1. การที่ผู้พูดเอาสถาบันมาเชื่อมโยงกับนักการเมืองที่ใช้อำนาจหน้าที่โดยชอบธรรม ย่างนี้เป็นการแอบอ้างสถาบันเพื่อทำลายกันทางการเมือง เหมือนที่นิติราษฏร์และกลุ่มที่ต้องการแก้ ม.112 ให้ความหมายหรือไม่ อย่างไร

ประเด็นที่ 3. เรื่องกระสุนพระราชทาน ข้อเท็จจริงที่ว่ายุทธโธปกรที่โดยทหารทั้งสองหน่วยคือทหารรักษาพระองค์และทหารเสือราชินี ถือว่าคือสิ่งของพระราชทานโดยธรรมเนียมปฏิบัติเป็นความจริงหรือไม่ ทำไมจงใจระบุเป็นอย่างนั้น และถ้าไม่เป็นความจริง เมื่อไหร่นายจตุพรจะมาสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน

...ผมฝากไว้เผื่อว่าจะสะกิดต่อมสงสัยของหลายๆ ท่าน และเป็นเชื้อความหวังว่าจะมีสักวันที่ผู้มีอำนาจในขณะนี้ได้ยิน และเชื่อมั่นในตัวข้าราชไทยทุกคน เพราะเชื่อว่าถึงแม้นอำนาจเปลี่ยน แต่ความจริงต้องไม่เปลี่ยน ขอให้ความจริงข้อนี้ย้ำเตือนใจท่านๆ ให้ทำไปอย่างถูกต้อง ขอให้นึกถึงวันที่พวกท่านเป็นข้าราชการตัวเล็กๆ ปลาซิวปลาสร้อย เมื่อวันนี้มีบุญบารมีเป็นใหญ่เป็นโตแล้ว จะยังไม่ลืมเลือนอดุมการณ์ของพวกท่านนะขอรับ


#253702 ขอหลักฐานที่สามารถยืนยันทางกฎหมายได้ว่า "เลขอีมี่โทรศัพท์มือถือ" ไม่ส...

โดย Baboonga on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 17:04

http://panithan-pani...og-post_25.html

อ่านหรือยังครับ ?

ไม่มีใครบอกว่า "เลขอีมี่ปลอมแปลงไม่ได้" แต่เลขอีมี่ไม่มีทางซ้ำกันได้ครับ

เข้าใจระบบ IMEI ซะก่อน หนังสือหนังหา ความรู้ในอินเตอร์เนทมีเยอะแยะ

http://en.wikipedia....ipment_Identity

อ่านออกป่ะ ภาษาอังกฤษ ?

แล้วระบบพิจารณาคดีเค้าไม่ได้ใช้แค่ IMEI มาพิจารณาอย่างเดียว เค้าใช้ทั้ง Log จากผู้ให้บริการ cell site ที่ใช้งาน

ซึ่งหากมีการปลอมแปลงจริง log ที่เกิดขึ้นจะรู้ว่า IMEI นี้ปลอมแปลงจริงหรือไม่ แต่ทางทนายก็ไม่พยายามที่จะค้นหาว่ามีการปลอมแปลง IMEI จริงๆ... ดราม่าเหลือหลาย

ถ้าจะเอาเขามาควิด ก็หัดลับเขาให้แหลมก่อน


#253674 ขอหลักฐานที่สามารถยืนยันทางกฎหมายได้ว่า "เลขอีมี่โทรศัพท์มือถือ" ไม่ส...

โดย Novice on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 16:48

แนะนำให้อ่านคำพิพากษาดู แล้วอาจจะพอหายบ้าได้บ้างครับ

แต่ถ้ายังไม่หายจะลองแฮคอีมี่ใครซักคนที่คุณเกลียดแล้วส่งข้อความอาฆาตสถาบันดูก็ได้นะครับ แล้วรอดูว่าตำรวจจะจับคุณหรือคนที่คุณเกลียดนั่น ของแบบนี้มันต้องพิสูจน์ครับถึงจะรู้


#253673 ขอหลักฐานที่สามารถยืนยันทางกฎหมายได้ว่า "เลขอีมี่โทรศัพท์มือถือ" ไม่ส...

โดย JUR1ST on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 16:47

ฝ่ายโจทก์พิสูจน์ถึงการกระทำผิดของจำเลยว่ามีการส่ง sms จากโทรศัพท์มือถือ พยานปากอื่นบอกว่าโทรศัพท์นั้นเป็นโทรศัพท์ส่วนตัวของจำเลย ไม่มีใครไปร่วมใช้ด้วย ตรงนี้เป็นภาระการพิสูจน์ของโจทก์ ซึ่งโจทก์มีพยานหลักฐานพิสูจน์ต่อไปด้วยว่ามีการส่ง sms จากเบอร์ของจำเลยและมีการส่งในละแวกบ้านจำเลย

เมื่อโจทก์พิสูจน์ได้ว่ามีการส่ง sms จากโทรศัพท์ของจำเลยจริง แต่จำเลยยกข้อต่อสู้ว่าหมายเลข EMEI นั้นสามารถปลอมแปลงกันได้ ภาระการพิสูจน์ตกอยู่ที่่จำเลยที่ต้องพิสูจน์ในประเด็นที่ว่า 1) การปลอม EMEI ทำได้จริงหรือไม่ และ 2) มีการปลอม EMEI ของโทรศัพท์จำเลยหรือไม่ เมื่อภาระการพิสูจน์ตกอยู่กับจำเลยแต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้นอกจากออกมาพูดลอยๆ ปราศจากหลักฐาน ศาลก็ต้องเชื่อตามพยานหลักฐานของโจทก์

หลักกฎหมายพื้นๆ แบบนี้คนทั่วไปที่มีสามัญสำนึกก็เข้าใจ มีแต่ไอ้พวกปอบแทะศพนั่นแหละที่พยายามบิดเบือน


#253472 ประเด็นเรื่อง ม.112 กับอากงและนิติราษฎร์(แก้)

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 14:24

#71
ที่คุณทนผมไม่ได้ ก็เพราะผมมองโลกในแง่ดีและรู้จักให้อภัย ผมเลยกลายเป็นนกสองหัว สองมาตรฐาน ใช่ไหมครับ


ผมมองว่าคุณเป็นคนเฟคและโง่ครับ


#252777 ประเด็นเรื่อง ม.112 กับอากงและนิติราษฎร์(แก้)

โดย JUR1ST on 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 21:58

ขอบอกหน่อยว่าองค์ประกอบความผิดตาม ม. 112 กับเรื่องการไม่ให้ประกันตัวมันคนละส่วนกัน เพราะ ม. 112 เป็นเรื่องความผิดตามประมวลกกฎหมายอาญา แต่เรื่องการให้ประกันตัวหรือไม่นั้นเป็นเรื่องตาม ป. วิ อาญา ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำตั้งแต่พนักงานสอบสวนและอัยการ ซึ่งหากทนายจำเลยยื่นขอประกันตัวแล้วมีเหตุอันสมควรก็อาจให้ประกันตัวได้ เว้นแต่อัยการจะคัดค้านการประกันตัวเพราะมีจำเลยมีพฤติการณ์จะหลบหนีคดี ซึ่งศาลจะพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่ได้รับมารอบด้านจากอัยการและทนายจำเลยก่อนมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวหรือยกคำร้อง ดังนั้นปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่ตัวกฎหมาย ม. 112 แต่อยู่ที่ขั้นตอนปฏิบัติในการดำเนินกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่พนักงานสอบสวนเป็นต้นมา นอกจากนี้พฤติกรรมที่ผ่านมาของไอ้พวกที่ผิด ม.112 มักจะหลบหนีอยู่เสมอ ดูอย่างอีเพ็ญเป็นตัวอย่างก็ได้ จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าพวกที่ทำผิดมาตรานี้จะหลบหนี

ถามว่าวรเจตน์รู้หรือไม่ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน เรื่องแบบนี้คนจบปริญญาตรีกฎหมายก็รู้ ไม่ต้องถึงขนาดจบด๊อกจากเมืองนอกเมืองนา แต่ที่วรเจตน์ผลักดันเรื่องนี้โดยอาศัยความน่าเชื่อถือในฐานะอาจารย์มาชักจูงสังคม การกระทำของวรเจตน์ไม่ได้มีความสุจริตใจ ถ้าหากถามถึงแรงจูงใจแล้วคงเป็นแค่ต้องการสนองอัตตาตนเอง แต่ไม่ได้สำเหนียกเลยว่าตนเองเป็นแค่เบี้ยให้ไอ้พวกไม่หวังดีต่อสถาบันเท่านั้น


#252661 ประเด็นเรื่อง ม.112 กับอากงและนิติราษฎร์(แก้)

โดย blue on 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 20:20

กรณีประกันตัวนายอำพล คุณ TFEX เอาไปเทียบกับนักการเมืองใหญ่ไม่ได้หรอกครับ
เพราะมันเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นดุลยพินิจของศาล เมื่อศาลเห็นว่าคนไหน
มีความน่าเชื่อถือว่าให้ประกันตัวแล้วไม่หลบหนี ก็ให้ประกันตัว ซึ่งการใช้ดุลยพินิจมันก็คง
พิจารณาจากตำแหน่งหน้าที่ ฐานะ ชื่อเสียง ประกอบด้วย แต่ผมว่าประเด็นเรื่องนี้มันไม่น่า
จะอยู่ตรงนี้เท่าไรหรอก เพราะคนไม่มีฐานะตำแหน่ง ก็อาจถูกรับรองจากคนที่มีฐานะตำแหน่งได้
หรือขอประกันตัวในวงเงินที่สูงขึ้นจนศาลมั่นใจได้ อย่างกรณี เสธฯ หนั่น ไปรับรองศาลเพื่อ
ประกันตัวเสื้อแดงนั่นแหละ แล้วคุณ TFEX ไม่สงสัยหรือครับว่า กรณีนายอำพล ถ้าอยาก
ประกันตัวจริง ๆ ทำไมเขาไม่ทำแบบประกันตัวเสื้อแดงล่ะ คงไม่จำเป็นต้องให้ เสธฯ หนั่นไป
รับรองหรอก แค่ สส ในพรรคเพื่อไทยก็น่าจะรับรองได้ หรือขอประกันตัวในวงเงินที่สูงก็น่า
ทำได้ ผู้ทำผิด ม 112 ที่ได้รับการประกันตัวก็มี ไม่ได้รับการประกันตัวก็มี ซึ่งมันไม่ต่างกับ
การทำความผิดในเรื่องอื่น ๆ หรอกครับ เพราะมันอยู่ที่ตัวผู้กระทำผิดและทนายความของเขา
ด้วย ผมว่าคุณ TFEX น่าจะสงสัยพวกที่ออกมาตีโพยตีพายกับการเสียชีวิตของนายอำพล
มากกว่า ว่าตอนนายอำพลยังไม่เสียชีวิต เขากระตือรือล้นที่จะช่วยประกันตัวนายอำพลหรือเปล่า
หรือเขาอยากให้นายอำพลอยู่ในคุก เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ของพวกเขา

ส่วนกรณี อ วรเจตน์ มันก็คงเป็นสิทธิของคุณ TFEX ที่จะมอง และมันก็ไม่แตกต่างกับอีกหลายคน
ที่มอง อ วรเจตน์ เหมือนคุณ TFEX แต่ถ้าคุณ TFEX ได้ไปคุยกับ อ วรเจตน์ ผมว่าอย่าไปถามเลย
ครับว่าเขาคิดอย่างไร เพราะเขาเคยบอกแล้วว่า ที่เขาทำนั้น เขาต้องการปกป้องสถาบัน ฯ ถ้าคุณ
TFEX จะถาม ผมแนะนำให้ถามว่า

1. ม 112 นี่ เดิมบอกว่า โทษแรงไป กับ ถูกนำไปใช้กลั่นแกล้งกันทางการเมือง แล้วมันแตกประเด็น
ออกไปเลอะเทอะเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร
2. อ วรเจตน์ บอกว่าต้องการปกป้องสถาบัน ฯ แล้วไปคบอยู่กับพวกชอบจาบจ้วงสถาบัน ฯ ได้อย่างไร
3. การสัมมนาวิชาการ เรื่อง ม 112 ของ อ วรเจตน์ ทำไมต้องมีพวกลิ่วล้อมาคอยนั่งปรบมือชอบใจ
เมื่อมีคนในกลุ่มของ อ วรเจตน์ พูดจาในทำนองว่าผู้ต้องคดีตาม ม 112 นั้น ทำอะไรไม่ได้เลย ทำแค่นี้
ก็โดนจับแล้ว มันเป็นวิชาการตรงไหน เพราะยกตัวอย่างมาแต่ละเรื่องก็เป็นการตัดตอนมาพูดให้ลิ้วล้อ
เฮกัน

ถ้าคุณ TFEX ถามแล้ว อ วรเจตน์ ตอบว่า ผมไม่ได้สนใจ ผมพูดเฉพาะในหลักกฎหมายเท่านั้น คุณ TFEX
ค่อยมาประเมิน อ วรเจตน์ อีกทีก็ยังไม่สายนะครับ