Jump to content


MIRO

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 25 ตุลาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2557 23:41
-----

#1167759 ตรรกะป่วยของลิเบอรัล ในหมวดประมุขของประเทศ

โดย tonythebest on 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 12:09

เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า

ประเทศแห่งเสรีภาพอย่างอเมริกัน

พึ่งเปลี่ยนผ่านจากยุคเหยียดผิวได้ไม่นาน

ถ้าเราจะเคยดูจากในหนังหรือสื่อต่างๆ

เราจะเห็นการแบ่งแยกชนชั้นกับคนผิวสีอย่างน่าเวทนา

 

แต่ที่น่าเวทนาหนักไปกว่านั้น

ถ้าผิวเหลืองอย่างเราเข้าไป

เรากลับต่ำต้อยไปกว่าคนผิวสีด้วยซ้ำ




#1161639 --- เชิญสมาชิกใหม่มาแนะนำตัวได้ที่กระทู้นี้ครับ ---

โดย ลำตะคอง ณ.สนุกการเมือง on 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:18

ขอฝากเนื้อ ฝากตัว ด้วยคนนะครับ ผู้น้อยขอคาระวะท่านอาวุโส เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกๆ ท่าน ผิดถูกประการใด กรุณาชี้แนะ และโปรดให้อภัยด้วยนะฮ๊าฟฟฟ

 

:)  :)  :)




#1167675 --- เชิญสมาชิกใหม่มาแนะนำตัวได้ที่กระทู้นี้ครับ ---

โดย น้ำฝน on 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:52

วันนี้มาสมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการหลังจากที่

ติดตามข่าวสารมานาน 

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวต่างๆ ที่แบ่งปันกันด้วยความอบอุ่นและไมตรีจิต

:D :)




#1167685 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย redfrog53 on 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:09

Kunnatee Thailande (Siriwanna Jill)
ฟันธง !!
รัฐบาลต้องชดใช้ค่าเสียหาย จากการเลือกตั้งเป็น โมฆะ 3,885 ล้านบาท
.....
ลุงวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรธน. แจงเหตุผล ว่า "กกต.ไม่มีอำนาจ ไล่คนขัดขวางการเลือกตั้ง กกต.สั่งหมาต๋าไม่ได้ ทำได้แค่ขอความร่วมมือ แต่รัฐบาลสั่งหมาต๋าได้ จึงไม่ใช่ความผิดของ กกต. แต่เป็นความผิดของรัฐบาล ที่ไม่สามารถเคลียร์พื้นที่ได้ จึงต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด "



กกต. ต้องการ ลต. พร้อมจ่ายค่า ลต. เอง ป่าววว


#1167329 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ธีรเดชน้อย on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:45

สำนักราชเลขาธิการ (อักษรย่อ: ร.ล.; อังกฤษThe Office of His Majesty's Principal Private Secretary; OHMPPS) เป็นหน่วยงานราชการซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการเลขานุการในองค์พระมหากษัตริย์ เกี่ยวกับงานหนังสือที่หน่วยราชการ เอกชนและบุคคลทั่วไปส่งเข้ามา เพื่อขอให้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต พระบรมราชวินิจฉัยและพระมหากรุณา แล้วแต่กรณี รวมทั้งทำหน้าที่รับพระราชทานพระราชดำริและพระราชดำรัส เพื่อเชิญไปยังหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีบทบาทเป็นผู้ประสานงานระหว่างพระมหากษัตริย์กับรัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐหรือเอกชนและบุคคลทั่วไป ทั้งที่เป็นราชการแผ่นดินและการส่วนพระองค์ ก่อตั้งขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในตอนนั้นเรียกว่าออฟฟิศไปรเวตสิเกรตารีหลวง หรือกรมราชเลขาธิการ

http://th.wikipedia....นักราชเลขาธิการ

......................................................................

 

ตามความเข้าใจนะครับ การจะส่งหนังสือให้ทรงลงพระปรมาภิไธยจะต้องผ่าน สำนักราชเลขาฯก่อน และต้องมีการตรวจสอบตามข้อกฎหมาย

 

ซึ่งการจะส่งหนังสือต้องมั่นใจจริงๆ ไม่น่าจะทำกันง่ายๆนะครับ 

 

ปล. ต้องรอถามท่านอู๋ฯ น่าจะแม่นเรื่องนี้มากกว่า  :)




#1167282 อธิการบดีธรรมศาสตร์ โครตๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆใจกว้าง

โดย HiddenMan on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:38

-_- จะบอกให้ผมเป็น "คนเท่ากัน" กับไอ้โรคจิตนี่หรอ...




#1167270 อธิการบดีธรรมศาสตร์ โครตๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆใจกว้าง

โดย Bookmarks on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:24

เห็นแล้วก็อนาถ เรากำลังอยู่ในประเทศที่มีแต่คนป่วยโรคจิต 




#1166890 เขาโชว์และถามว่า(ทักษิณ).."จำเป็น ต้องโกง มะ ถ้ามีรายได้ ขนาดนี้ต่อวัน ต่...

โดย -3- on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:37

ไหนบอกว่า AIS ไม่ใช่ของแม้วแล้วนี่ครับ  :lol:




#1166885 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย เสือยิ้มยาก on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:33

%E0%B8%9E.%E0%B8%AD.%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E
"พล.อ.ประยุทธ์"ผบ.ทบ. ออกแถลงการณ์ 7ข้อให้กำลังใการหาทางแก้ปัญหา ประนามการก่อเหตุรุนแรง ยันผบ.เหล่าทัพไม่ได้นิ่งเฉย
แต่ปัญหาซับซ้อน"หากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นจนมีแนวโน้มถึงขั้นจะเกิดการจลาจล เพื่อความสงบเรียบร้อย กองทัพอาจมีความจำเป็น
ต้องใช้กำลังทหารเข้าคลี่คลาย" /ขอเตือนผู้ที่กล่าวให้ร้ายกองทัพ ให้ระมัดระวังคำพูด ซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นเกียรติยศ
และศักดิ์ศรีของกองทัพ ทหารทุกคนไม่สามารถยอมรับได้

พันเอก วินธัย สุวารี รองโฆษก ทบ. เปิดเผย คำแถลงการณ์ 7 ข้อ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.

1.ขอเป็นกำลังใจให้ทุกพวกทุกฝ่ายที่กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง เพื่อนำประเทศชาติไปสู่ความสงบเรียบร้อย
ทั้งด้วยวิธีการทางกฎหมายก็ดี หรือการพูดคุยเจรจาก็ดี หรือสันติวิธีอื่น ๆ ก็ดี  อย่างไรก็ตาม การใช้ช่องทางตามกฎหมาย หรือ
การพูดคุยประชุมหารือกัน อาจไม่ประสบผลมากนักในห้วงเวลานี้ เพราะมีข้อถกเถียงและโต้แย้งมากมาย และอาจไม่ทันต่อสถานการณ์
ซึ่งมีแนวโน้มเกิดความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นทุกฝ่ายควรดำเนินการด้วยวิธีการอันสงบสันติ ไม่สร้างเงื่อนไขและปัญหาเพิ่มมากขึ้น
ต้องหยุดสร้างความรุนแรง และช่วยกันนำพาประเทศชาติออกจากความขัดแย้งให้ได้โดยเร็ว

2.จากสถานการณ์การใช้อาวุธเมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค.57 ซึ่งมีทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้กระทำ
ล้วนแต่เป็นการกระทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น จึงขอให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ช่วยกันประณามทุกฝ่ายที่ใช้ความรุนแรง
และใช้อาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งขอให้ส่งข้อมูลหรือเบาะแสให้กองทัพบกทันทีเมื่อได้รับทราบ

3.การที่หลายฝ่ายกล่าวพาดพิง ผบ.ทบ และผบ.เหล่าทัพ ว่า อยู่เฉย ไม่ดำเนินการใด ๆ ขอเรียนว่า กองทัพได้ดำเนินการทุกอย่าง มาด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหาในครั้งนี้ มีความซับซ้อน และมีผลกระทบในหลายมิติ

4. ขอเตือนผู้ที่กล่าวให้ร้ายกองทัพ ให้ระมัดระวังคำพูด ซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของกองทัพ ทหารทุกคนไม่สามารถยอมรับได้

5.ขอเตือนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้หยุดการกระทำนั้นตั้งแต่บัดนี้ เพราะหากสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทหารอาจจำเป็น ต้องออกมาระงับเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติโดยรวม

6.หรือหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นจนมีแนวโน้มถึงขั้นจะเกิดการจลาจล เพื่อความสงบเรียบร้อย กองทัพอาจมีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเข้าคลี่คลายสถานการณ์ ในขั้นนั้นหากมีผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มบุคคล หรือกองกำลังติดอาวุธ ตอบโต้กองทัพ หรือทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อีก บุคคลผู้นั้น หรือกลุ่มบุคคลนั้น จะต้องถูก จนท.ใช้มาตราการทางกฏหมายปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดยผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวอาจจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ได้ เช่นกันกับกลุ่มบุคคลที่มีความคิดจะบุกรุกหรือปิดล้อมหน่วยทหาร ขอให้ยุติแนวคิดการกระทำดังกล่าวโดยทันที

7. กองทัพเป็นของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนคนไทยทุกคน มิได้เป็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่กองทัพก็ต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ และประชาชน เมื่อมีความจำเป็น อย่างเต็มความสามารถ

จึงขอเรียนให้ทราบโดยทั่วกัน
tuzki-bunny-emoticon-034.gif
 



#1166556 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย winwin191 on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:14

จริงผมก็สงสัยนะที่กำนันให้เวลา สว.น้อย. แต่พอมีเหตุยิงเมื่อรืนเข้าใจเลย

เพราะนี่เป็นช่วงสำคัญ ฝ่ายมันก็รีบปิดเกมเช่นกันโดนรีบก่อเหตุให้ กปปส.หมดกำลังใจหรือกลัวจนจำนวนผู้ชุมนุมน้อยจะได้บุกจับแกนนำที่สุด ส่วนไอคนสั่งการทำร้าย ปชช. แพ้ไม่ได้เพราะคำสั่งออกโดยมันคนเดียวฝ่ายการเมืองสั่งด้วววาจาอย่างเดียว ถ้าแพ้ขึ้นมาโดนยิงเป้าแน่

ขอพูดถึงทหารหน่อยการช่วยใต้ดินมันก็ดีอยู่นะ อต่บางทีก็เล่นการเมืองมากไป ศอ.รส.ตั้งโดย กอรมน. ตอนนี้คนเป็นใหญ่สุดก็ท่าน ผบ.ทบ. เห็นด้วยนะที่ยังไม่ยุบมันดื้อๆ แต่ชุดที่ออกมาเฝ้าระวังพกอาวุธหน่อยเถอะ ปืนพกก็ยังดีจะได้พอช่วยอะไรได้มั่ง ให้เห็นภาพเวลามีเหตุทหารต้องมาแอบใต้โต๊ะร่วมกับ ปชช.มันทุเรศลูกตา. หากมีปืนพกสักหน่อยจามนิสัยทหารมีสวนอยู่แล้ว


#1165731 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย กีรเต้ on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:07

  •  
  •  
  • 677894.jpeg
  • 677895.jpeg
  • 677896.jpeg

ความจริงกระจ่าง..เสื้อแดงสระแก้วถูก18มงกุฎตุ๋นหลอกคนมาชุมนุม

แกนนำคนเสื้อแดงสระแก้ว โต้กรณีชาวบ้านบุกแจ้งตำรวจถูกเบี้ยวค่าจ้าง ร่วมชุมนุมยัน ผู้ถูกกล่าวหา และ สาวสะพายกระเป๋าสีธงชาติ ต่างเป็นแนวร่วมที่ต่อสู้ด้วยกันมาจริง และเคยเข้าพบนายใหญ่ด้วยกัน แต่ถูกหลอกให้พาคนเข้าร่วมชุมนุมมากๆ เพื่อจะได้เป็นแกนนำ สุดท้ายจึงตกเป็นเหยื่อความไม่รู้

 

วันพุธ 14 พฤษภาคม 2557 เวลา 15:28 น.

กรณีกลุ่มชาวบ้านต.หนองหมากฝ้าย และอำเภอต่างๆในพื้นที่ จ.สระแก้ว กว่า 60 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนสภ.หนองหมากฝ้าย อ.วัฒนานคร เพื่อดำเนินคดีกับนายหน้ารายหนึ่งที่รับจ้างจากแกนนำคนเสื้อแดงรายหนึ่งใน พื้นที่ กรณีไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง ในการเข้าร่วมชุมุนุมกับกลุ่มนปช. บริเวณถนนอักษะ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเชิญตัวนายหน้ารายดังกล่าวมาเจรจากลับชาวบ้าน กระทั่งยินยอมชดใช้เงินค่าจ้างให้ชาวบ้าน รายละ1,000 บาท และจ่ายค่าจ้างเหมารถตู้ทั้ง 5 คัน โดยต่อมากลุ่มคนเสื้อแดง แกนนำสระแก้วได้เดินทางเข้าพบปะและพูดคุยกับแกนนำคนดังกล่าวที่ร้านอาหาร เวียดนามแห่งหนึ่งใน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งโพสต์รูปบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ค ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความ คืบหน้าเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ร.ต.ท.องอาจ ทุมสุด ร้อยเวร สภ.หนองหมากฝ้าย เปิดเผยว่า หลังรับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้าน ได้เชิญตัว นางบุญญาภา ผูกธรรม ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาเข้าเจรจากับตัวแทนชาวบ้าน และตัวแทนรถตู้รับจ้างในฐานะผู้เสียหาย ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหายินดีชดใช้เงินจำนวน 1 พันบาท ให้ชาวบ้าน และจ่ายค่าจ้างรถตู้คันละ 1 หมื่นบาท โดยให้ยืนเข้าเรียงแถวรับเงิน ที่สภ.หนองหมากฝ้าย ตามข้อตกลงและแยกย้ายกันเดินทางกลับโดยไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด

ด้าน นางคำพวน เหลาสา อายุ 52 ปี ชาวบ้านรายหนึ่งที่มาร้องทุกข์ในกลุ่มได้สะพายกระเป๋าลายธงชาติ ถูกกล่าวหาว่า เป็นคนละกลุ่มพวกอาจมีการซ้อนแผนและจัดฉากกันตามโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค เพื่อสร้างสถานการณ์ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเสียหายก็ยังเป็นเรื่องวิจารณ์กัน อยู่อย่างกว้างขวาง

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามตามที่ อยู่แต่ไม่พบตัวชาวบ้านญาติแจ้งว่าไปร่วมชุมนุมกันกลุ่มนปช.ที่ถนนอักษะ กรุงเทพฯ หลายวันแล้วยังไม่กลับมา ขณะเดียวกันที่ถนนสาย 359 สระแก้ว เขาหินซ้อน พบกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถตู้รวม 10 คัน แวะพักเติมเชื้อเพลิง ที่ปั้มน้ำมัน ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้วมุ่งหน้าไปยังกรุงเทพ โดยทุกคนสวมเสื้อสีแดงทั้งสิ้น

ต่อ มาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ร.อ.ทองทศ มากสาคร อดีตนายทหารนอกราชการ แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า หลังเกิดกรณีพิพาทตามที่เป็นข่าวได้เชิญตัวนางบุญญาภา (เจ๊มี) ที่ถูกชาวบ้านแจ้งความร้องทุกว่าถูกโกงค่าจ้างไปชุมนุมคนเสื้อแดง ทั้งนี้หลังสอบสวนพบว่าเจ้มีเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงจริง ซึ่งต่อสู้ร่วมกลุ่มมาตั้งแต่ปี 52 และส่วนหนึ่งในผู้เสียหายที่สะพายกระเป๋าลายธงชาติและสวมเสื้อธงชาติก็เป็น กลุ่มคนเสื้อแดงพวกเดียวกันไม่ใช่กลุ่มคน กปปส. ตามที่แกนนำบนเวทีกล่าวอ้าง ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีคน กปปส.อยู่เบื้องหลังแน่นอน เป็นการหลอกลวงกันเองของคนเสื้อแดงทีเห็นแก่ประโยชน์บางอย่าง คนเสื้อแดงกลุ่มสระแก้ว ต้องการเงินนี้อยากได้เงินวันละ1,500 ตามที่เจ๊มีบอก 3 วันก็ 4,500 บาท เพราะต้องการเงิน ปกติจะไม่มีการว่าจ้างแต่อย่างใด เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากตัวเจ๊มีถูกนายธวัช ไม่ทราบนามสกุล อยู่ที่ภาคอีสานอ้างตัวเป็นแกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งน่าจะเป็นพวก 18 มงกุฎหลอกอีกครั้งหนึ่งว่าจะให้เจ๊มีขึ้นเป็นแกนนำของ จ.สระแก้ว อย่างไรก็ตามตนได้ไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงมาแล้ว 2 ครั้งในปีนี้.

 

http://www.dailynews...นหลอกคนมาชุมนุม




#1165563 ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ แกงค์สุเทพ และคนต่างด้าว ข้อหาก่อการกบฎ ในราชอาณาจักรไทย

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:06

http://www.manager.c...D=9570000053501

 

ศาลอาญาสั่งอนุมัติหมายจับ 30 แกนนำ กปปส.ในข้อหากบฏ แต่ตำรวจต้องดำเนินการจับกุมมาดำเนินคดีเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนอีก 13 คนรอดศาลยกคำร้อง ชี้ตกเป็นจำเลยในคดีพันธมิตรฯ อยู่แล้ว อัยการมีสิทธินำตัวส่งฟ้องได้ทันทีเพราะผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ระหว่างขอปล่อยตัวชั่วคราว อยู่ภายใต้อำนาจควบคุมตัวของศาล
       
       วันนี้ (14 พ.ค.) ศาลได้อ่านคำสั่งที่พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ ดีเอสไอ ยื่นคำร้องขอให้ศาลอนุมัติหมายจับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำกปปส. ผู้ต้องหาที่ 2 และแกนนำกปปส. รวม 43 คน ผู้ต้องหาคดีกบฏและความผิดอื่น รวม 8 ข้อหา เพื่อติดตามตัวมาดำเนินกระบวนการตามกฎหมายที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา
       
       ก่อนอ่านคำสั่งศาลได้กล่าวชี้แจงต่อคู่ความว่า ในการพิจารณาออกคำสั่ง ศาลได้ตรวจสอบก่อนว่าผู้ที่ถูกนำมาออกหมายจับมีคดีในชั้นศาลและได้มีการฝากขังเรียบร้อยแล้วหรือไม่ และการพิจารณาศาลได้ยึดหลักกฎหมายที่บัญญัติไว้ รวมถึงปฏิบัติตามข้อบังคับของศาลอาญาเหมือนเช่นที่เคยทำ ซึ่งเป็นการพิจารณาอย่างรอบคอบตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ ไม่ได้มองว่าผู้ต้องหาเป็นฝ่ายไหน โดยได้ปรึกษาผู้บริหารและอธิบดีศาลอาญาเรียบร้อยแล้ว
       
       ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามทางไต่สวนได้ความว่าที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 43 คนนั้น พนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาดังกล่าวแล้วตามหนังสือที่ อส. 0010.4/292 ลงวันที่ 8 พ.ค.57 แต่ไม่ได้ตัวผู้ต้องหาดังกล่าวมาฟ้องต่อศาลนั้น ปรากฏข้อเท็จจริงตามรายงานเจ้าหน้าที่ของศาลอาญา ฉบับลงวันที่ 12 พ.ค.57ว่า ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ต้องหาที่ 13 เป็นคนเดียวกับจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขดำ อ.1279/2556 พล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรศุกร์ ผู้ต้องหาที่ 31 เป็นบุคคลเดียวกับจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1406/2556 นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ผู้ต้องหาที่ 51 เป็นบุคคลเดียวกับจำเลยที่ 1 คดีอาญาหมายเลขดำ อ.1087/2556 น.ส.อัญชะลี ไพรีรักษ์ ผู้ต้องหาที่ 10 นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ผู้ต้องหาที่ 15 นายสมบูรณ์ ทองบุราณ ผู้ต้องหาที่ 18 นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ต้องหาที่ 32 นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี ผู้ต้องหาที่ 37 นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ผู้ต้องหาที่ 39 นายสาวิทย์ แก้วหวาน ผู้ต้องหาที่ 41 นายกิตติชัย ใสสะอาด ผู้ต้องหาที่ 43 นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ ผู้ต้องหาที่ 46 และนายสำราญ รอดเพชร ผู้ต้องหาที่ 52 เป็นบุคคลเดียวกับจำเลยที่ 16, 6, 21, 5, 13, 4, 10, 29, 20 และที่ 8 ในคดีปิดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ หมายเลขดำ อ.973/2556 ของศาลอาญา ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณา ถือได้ว่าผู้ต้องหาดังกล่าวอยู่ในอำนาจของศาลอาญาแล้ว เมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยดังกล่าวหลบหนีระหว่างการปล่อยชั่วคราว ศาลอาญาย่อมมีอำนาจที่จะบังคับให้นายประกันส่งตัวจำเลยต่อศาลในคดีที่พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องไว้แล้วเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ดังนั้น พนักงานอัยการจึงสามารถฟ้องผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นจำเลยต่อศาลได้โดยไม่ต้องนำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องศาล จึงไม่จำต้องออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 13 คนเพื่อนำตัวมาฟ้องคดี ให้ยกคำร้องในส่วนนี้
       
       ส่วนผู้ต้องหาอีก 30 คน ประกอบด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ผู้ต้องหาที่ 2 นายชุมพล จุลใส ผู้ต้องหาที่ 3 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ต้องหาที่ 4 นายอิสสระ สมชัย ผู้ต้องหาที่ 5 นายวิทยา แก้วภราดัย ผู้ต้องหาที่ 6 นายถาวร เสนเนียม ผู้ต้องหาที่ 7 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 8 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ผู้ต้องหาที่ 9 นายนิติธร ล้ำเหลือ ผู้ต้องหาที่ 11 นายอุทัย ยอดมณี ผู้ต้องหาที่ 12 พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ผู้ต้องหาที่ 14 นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ ผู้ต้องหาที่ 16 พ.ต.ท.สุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ ผู้ต้องหาที่ 17 นางสาวจิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี หรือ กฤดากร ผู้ต้องหาที่ 19 นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 23 นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้ต้องหาที่ 25 นายเสรี วงษ์มณฑา ผู้ต้องหาที่ 26 นายกิตติศักดิ์ ปรกติ ผู้ต้องหาที่ 27 นายถนอม อ่อนเกตุพล ผู้ต้องหาที่ 28 พระสุวิทย์ ทองประเสริฐ (พระพุทธอิสระ) ผู้ต้องหาที่ 40 นายสาธิต เซกัล ผู้ต้องหาที่ 42 นายคมสัน ทองศิริ ผู้ต้องหาที่ 44 นายมั่นแม่น กะการดี ผู้ต้องหาที่ 47 นายประกอบกิจ อินทร์ทอง ผู้ต้องหาที่ 48 นายนัสเซอร์ ยีหมะ ผู้ต้องหาที่ 49 นายพานสุวรรณ ณ แก้ว ผู้ต้องหาที่ 50 นางสาวรังสิมา รอดรัศมี ผู้ต้องหาที่ 54 นางทยา ทีปสุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 55 พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี ผู้ต้องหาที่ 56 และพลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ ผู้ต้องหาที่ 57 ยังจับตัวไม่ได้ จึงอนุญาตให้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 30 คนดังกล่าวข้างต้นเพื่อนำตัวมาฟ้องคดี ดยให้หมายเหตุไว้ในหมายจับด้วยว่า “เจ้าพนักงานมีอำนาจควบคุมผู้ถูกจับได้เพียงเท่าที่จำเป็นในการนำตัวส่งฟ้องต่อศาลเท่านั้น” และให้เพิกถอนหมายจับฉบับเดิมที่ศาลอาญาเคยออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 3-5, 11-13, 37, 40, 43 และ 52
       
       ภายหลัง พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า หลังจากนี้ต้องแจ้งผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่งจะเห็นด้วยกับคำสั่งศาลหรือไม่ ต้องให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณา
       
       ด้านนายวิโรจน์ ภูมิศิริสวัสดิ์ ทีมทนายความกปปส. กล่าวว่า คำสั่งศาลดังกล่าวที่ออกหมายจับบางคน และยกคำร้องบางส่วนก็ถือว่าได้พิจารณาตามข้อกฎหมายแล้ว เนื่องจากอัยการระบุว่าจะส่งสำนวนฟ้องต่อศาลแล่้ว แต่ยังไม่ได้ตัวมาส่งฟ้อง ตามข้อกฎหมายแล้ว ศาลจะต้องออกหมายจับให้เพื่อนำตัวมาฟ้อง จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หมายจับที่ศาลอาญาออกครั้งนี้ถือว่ามีผลเฉพาะให้ดีเอสไอนำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องดำเนินคดีเท่านั้น ซึ่งต่างจากหมายจับเดิมของผู้ต้องหาบางราย ที่หากจับตัวได้พนักงานสอบสวนอาจจะควบคุมตัวไว้ได้ก่อน หลังจากนี้จะกลับไปแจ้งให้แกนนำกปปส. และคปท.ทราบถึงคำสั่งศาล เพื่อหารือแนวทางในการต่อสู้คดี โดยแนวทางที่พิจารณาไว้อาจจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งออกหมายจับดังกล่าวต่อไป




#1165205 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย redfrog53 on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 14:13

เวทีราชดำเนิน
หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี นำเพื่อนๆ จิตรลดา รุ่นที่ 10 มอบไอศครีม คลายร้อนให้กับมวลมหาประชาชนค่ะ ‪#‎thaiuprising‬ ‪#‎pdrc‬
cr ; IG @piyapas

10305046_473378829462823_899791874835460
10365812_473378906129482_471728007807252


#1165219 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย redfrog53 on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 14:27

Tee Terapong
ครับ วันนี้กลุ่มองค์กรต่างๆได้เข้ามาร่วมประชุมหาทางออกของประเทศดู ถ่ายทอดสดได้ทาง FMTV ที่อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่นครับ

FMTV โทรทัศน์เพื่อมนุษยชาติ
http://www.fm-tv.tv/


#1164835 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย Tatiana on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 03:11

เปลว สีเงิน

Wednesday, 14 May, 2014 - 00:00
"แสงสว่างในหนทางมืดมิด"
    วันนี้ จะขอพระราชทานอัญเชิญพระบรมราโชวาท ที่ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" พระราชทานแก่ประธานศาลปกครองสูงสุดและคณะ เป็นลำดับแรก
    แก่ประธานศาลฎีกาและคณะผู้พิพากษา ศาลยุติธรรม เป็นลำดับต่อมา ณ วังไกลกังวล หัวหิน  เมื่อ ๒๕ เม.ย.๔๙
    ขอให้ท่านทั้งหลาย อ่านแล้วโยนิโสมนสิการ คือน้อมนำแต่ละใจความเข้ามาในใจแล้วใคร่ครวญตามด้วยสัมมาสติ
    ควบคู่กับศึกษาถึง "ความเหมือน-ความต่าง" ของปัญหาในปี ๔๙ ที่ยุบสภาฯ แล้วทักษิณเป็น "นายกฯ รักษาการ"
    กับในปี ๕๗ นี้ ซึ่งยุบสภาฯ แล้ว ต่อมานายกฯ รักษาการสิ้นสภาพ เพราะยิ่งลักษณ์ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ "ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว"
    ขณะนี้ จึงมีแต่ "รองนายกฯ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน" ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๓๔
    เมื่อใคร่ครวญตามแล้ว ทั้งคณะศาล คณะการเมือง คณะบุคคล "ทั้งหมด-ทั้งมวล" จะได้คำตอบเพื่อปฏิบัติตามครรลองประชาธิปไตย ภายใต้เงื่อนไขของแต่ละปัญหาและสถานการณ์เป็นจริง
    พระบรมราโชวาทถึงการเลือกตั้ง ส.ส. และการขอพระราชทานนายกฯ ที่ทรงมีแก่คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด ความบางตอน มีว่า
    "...ในเวลาถ้าจะให้พูด ศาลเองมีสิทธิที่จะพูดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยเฉพาะเลือกตั้งของผู้ที่ได้คะแนน ได้แต้มไม่ถึง ๒๐% แล้วก็เขาเลือกตั้งคนเดียว ซึ่งมีความสำคัญ คือว่าถ้าไม่ถึง ๒๐% แล้วก็มีคนเดียว ในที่สุดการเลือกตั้งไม่ครบ ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับท่านหรือเปล่า
    แต่ความจริงน่าจะเกี่ยวข้องเหมือนกัน เพราะว่าถ้าไม่มีจำนวนผู้ที่ได้รับเลือกตั้งพอ ก็กลายเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตยดำเนินการไม่ได้ แล้วถ้าดำเนินการไม่ได้ ที่ท่านได้ปฏิญาณไว้เมื่อกี้นี้ก็เป็นหมัน ที่บอกว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้การปกครองแบบประชาธิปไตยต้องดำเนินการไปได้ ท่านก็เลยทำงานไม่ได้
     ถ้าท่านทำงานไม่ได้ ท่านก็อาจจะต้องลาออก แต่ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหา ฉะนั้น ต้องหาทางแก้ไขได้
    เขาก็จะบอกว่า ต้องไปถามศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่าไม่ใช่เรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่าเป็นการร่างรัฐธรรมนูญ ร่างเสร็จแล้วก็ไม่เกี่ยวข้อง ก็เลยขอร้องท่าน อย่าไปทอดทิ้งการปกครองแบบประชาธิปไตย การปกครองแบบที่จะทำให้บ้านเมืองดำเนินการไปได้
    แล้วก็อีกข้อหนึ่ง คือการที่จะบอกว่าจะมีการยุบสภาฯ และต้องเลือกตั้งภายใน ๓๐ วัน ถูกต้องหรือไม่...ไม่พูดถึง ไม่พูดเลย ถ้าไม่ถูกก็จะต้องแก้ไข แล้วก็อาจจะให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ ซึ่งท่านจะมีสิทธิที่จะบอกว่า อะไรที่ควรหรือไม่ควร
    ไม่ได้บอกว่ารัฐบาลไม่ดี แต่ว่าเท่าที่ฟังดู มันเป็นไปไม่ได้ในการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย เลือกตั้งขึ้นพรรคเดียว-คนเดียว ไม่ใช่ทั่วไป มีคนที่สมัครเลือกตั้งคนเดียว มันเป็นไปไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องประชาธิปไตย
    เมื่อไม่เป็นประชาธิปไตย ท่านก็ควรคิดว่า ต้องดูว่าเกี่ยวข้องกับศาลปกครองหรือไม่ ขอฝากอย่างดีที่สุดถ้าท่านจะทำได้ ท่านลาออก ท่านเอง ไม่ใช่รัฐบาลลาออก ท่านเองต้องลาออก ทำไม่ได้ รับหน้าที่ไม่ได้ ตะกี้ที่ปฏิญาณไปดูดีๆ จะเป็นการไม่ได้ทำตามที่ปฏิญาณ
    ตั้งแต่ฟังวิทยุเมื่อเช้านี้ กรณีเกิดที่กิ่ง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช อันนั้นไม่ใช่แห่งเดียว ที่อื่นมีหลายแห่งที่จะทำให้บ้านเมืองล่มจม บ้านเมืองไม่สามารถที่จะรอดพ้นจากสถานการณ์ที่ไม่ถูกหลัก
    ฉะนั้น ก็ขอให้ท่านไปศึกษาว่า เกี่ยวข้องหรือไม่ ท่านเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ถ้าท่านไม่เกี่ยวข้อง ท่านลาออกดีกว่า ท่านเป็นผู้ที่ได้รับหน้าที่ ท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ เป็นผู้ที่ต้องทำให้บ้านเมืองดำเนินได้
    หรือมิฉะนั้น ต้องไปปรึกษากันกับผู้พิพากษาที่จะเข้ามา คือผู้พิพากษาศาลฎีกา ท่านก็เกี่ยวข้องเหมือนกัน ก็ปรึกษากัน ก็เป็นจำนวนหลายคนที่มีความรู้ ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ที่มีหน้าที่ที่จะทำให้บ้านเมืองมีขื่อมีแป
    ฉะนั้นขอฝาก ไม่อย่างนั้น...ยุ่ง เพราะถ้าไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่มีทางจะปกครองแบบประชาธิปไตย ของเรามีศาลหลายชนิดมากมาย แล้วมีสภาหลายแบบ และทุกแบบจะต้องเข้ากัน ปรองดองกันและคิดทางที่จะแก้ไขได้
    ที่พูดอย่างนี้ค่อนข้างจะประหลาดหน่อย ที่ขอร้องอย่างนี้ ก็เพราะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาก็บอกว่าต้อง มาตรา ๗... มาตรา ๗ ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งขอยืนยันว่า มาตรา ๗ ไม่ได้หมายถึงให้มอบให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจที่จะทำอะไรตามชอบใจ...ไม่ใช่
    มาตรา ๗ นั้น พูดถึงการปกครองแบบมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ได้บอกว่าให้พระมหากษัตริย์ตัดสินได้ ทำได้ทุกอย่าง ถ้าทำ เขาก็จะว่าพระมหากษัตริย์ทำเกินหน้าที่ ซึ่งจริงๆ ไม่เคยทำเกินหน้าที่ ถ้าทำเกินหน้าที่ ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย
    ก็อ้างถึงก่อนนี้ เมื่อรัฐบาลของอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ตอนนั้นไม่มีทำเกินอำนาจของพระมหากษัตริย์ ตอนนั้น มีสภา มีประธานสภา รองประธานสภา มีอยู่ทำหน้าที่ แล้วมีนายกฯ ที่สนองพระบรมราชโองการได้ตามรัฐธรรมนูญ
    นายกฯ พระราชทานหมายความว่า ตั้งนายกฯ โดยไม่มีกฎเกณฑ์อะไรเลย ตอนนั้นมีกฎเกณฑ์ อาจารย์สัญญาได้รับตั้งเป็นนายกฯ เป็นนายกฯ ที่มีคนรับสนองพระบรมราชโองการ คือรองประธานสภานิติบัญญัติ
    ดังนั้น ไปทบทวนประวัติศาสตร์มาใหม่ ท่านก็เป็นผู้ใหญ่ ท่านก็ทราบว่ามีกฎเกณฑ์ที่รองรับ......"
    นี้คือ...ความบางตอนใน "พระบรมราโชวาท" ที่พระราชทานแก่นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด และคณะ
    ลำดับต่อจากนั้น นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษา ศาลยุติธรรม เข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่ง
    "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" พระราชทานพระบรมราโชวาท ความว่า.....
     "ฝ่ายที่เป็นผู้พิพากษาในศาลฎีกา ปัจจุบันนี้ มีปัญหาตามกฎหมายที่สำคัญ คือว่าถ้าไม่ได้ปฏิบัติตามที่ปฏิญาณไว้...แบบประชาธิปไตย คือเวลานี้มีการเลือกตั้งเพื่อให้มีการปกครองแบบประชาธิปไตยนั่นเอง
    แต่ถ้าไม่มีสภาที่ครบถ้วน ก็ไม่ใช่การปกครองแบบประชาธิปไตย ฉะนั้นก็ขอไปปรึกษากัน
    เมื่อก่อนมีอย่างเดียว มีศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ศาลอาญา เดี๋ยวนี้มีศาลหลายอย่าง เมื่อมีก็ต้องไปดำเนินการ ก็ขอให้ไปปรึกษากับศาลอื่นๆ ด้วย จะทำให้บ้านเมืองปกครองแบบประชาธิปไตยได้
    อย่าไปคอยที่จะให้ขอนายกฯ พระราชทาน เพราะขอนายกฯ พระราชทานไม่ได้เป็นการปกครองแบบประชาธิปไตย
    ข้าพเจ้ามีความเดือดร้อนมาก ที่เอะอะอะไรก็ขอพระราชทานนายกฯ พระราชทาน ซึ่งไม่ใช่การปกครองประชาธิปไตย กลับไปอ่านมาตรา ๗ ของรัฐธรรมนูญ เป็นการอ้างที่ผิด
    อ้างไม่ได้ มาตรา ๗ มี ๒ บรรทัดว่า อะไรที่ไม่มีในรัฐธรรมนูญ ก็ให้ปฏิบัติตามประเพณีตามที่เคยทำมา...ไม่มี...เขาอยากจะได้นายกฯ พระราชทาน เป็นต้น
    จะขอนายกฯ พระราชทานไม่ใช่เรื่องการปกครองแบบประชาธิปไตย เป็นการปกครองแบบ...ขอโทษ แบบมั่ว แบบไม่มีเหตุมีผล สำคัญอยู่ที่ท่านที่เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา มีสมองที่แจ่มใส สามารถกลับไปคิดวิธีที่จะปฏิบัติ
    คือ ปกครองต้องมีสภา สภาที่ครบถ้วน ถ้าไม่ครบถ้วน ก็ว่าไม่ได้ แต่อาจจะต้องหาวิธีที่ตั้งสภาที่ไม่ครบถ้วนแบบตำนานได้ แต่ก็มั่ว...ขอโทษอีกทีนะ ใช้คำมั่วไม่ถูก ไม่ทราบใครจะทำมั่ว
    ปกครองประเทศมั่วไม่ได้ ที่จะคิดแบบว่าทำปัดๆ ไปให้เสร็จ ถ้าทำไม่ได้ก็โยนให้พระมหากษัตริย์ทำ ซึ่งยิ่งร้ายกว่าทำมั่วอีก เพราะพระมหากษัตริย์ไม่มีหน้าที่ที่จะไป ก็เลยต้องมาขอร้องฝ่ายศาลให้คิดและช่วยกันคิด
    เดี๋ยวนี้ประชาชนทั่วไปหวังในศาล โดยเฉพาะศาลฎีกา ศาลอื่นๆ ก็ยังมองว่าศาลฎีกามีความซื่อสัตย์สุจริต มีเหตุมีผล มีความรู้ เพราะท่านได้เรียนรู้กฎหมายมา พิจารณาเรื่องกฎหมายที่จะต้องศึกษาดีๆ ประเทศจึงจะรอดพ้นได้ ถ้าไม่ทำตามหลักกฎหมาย หลักการปกครองที่ถูกต้อง ประเทศชาติไปไม่รอด อย่างที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้
    เพราะว่าไม่มีสมาชิกสภาถึง ๕๐๐ คน ทำงานไม่ได้ ก็ต้องพิจารณาดูว่า จะทำยังไงจะพลิกตำนานได้ จะมาขอให้พระมหากษัตริย์ตัดสิน เขาอาจจะว่า รัฐธรรมนูญพระมหากษัตริย์เป็นคนลงพระปรมาภิไธย จริง ในหลวงลงพระปรมาภิไธย ก็เดือดร้อน
    แต่ว่าในมาตรา ๗ ไม่ได้บอกว่าพระมหากษัตริย์สั่งได้ ไม่มี ลองไปดูมาตรา ๗ เขาเขียนว่า ถ้าไม่มีการบัญญัติแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ไม่ได้บอกว่ามีพระมหากษัตริย์สั่งการได้
    แล้วก็ขอยืนยันว่า ไม่เคยสั่งการอะไรที่ไม่มีกฎเกณฑ์ บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติต่างๆ ทำถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง อย่างที่เขาขอให้มีพระราชทาน
    นายกฯ พระราชทาน ไม่เคยมี มีนายกฯ แต่รับสนองพระบรมราชโองการอย่างถูกต้องทุกครั้ง
    มีคนที่เขาอาจจะมาบอกว่าพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๙ ทำตามใจชอบ...ไม่เคยทำอะไรตามใจชอบตั้งแต่เป็นมา รัฐธรรมนูญเป็นมาหลายฉบับ หลายสิบปี ไม่เคยทำอะไรตามใจชอบ ถ้าทำตามใจชอบ ก็เข้าใจว่าบ้านเมืองล่มจมมานานแล้ว
    แต่ตอนนี้ เขาขอให้ทำตามใจชอบ เวลาถ้าเขาทำตามที่เขาขอ เขาก็ต้องด่าว่านินทาพระมหากษัตริย์ว่าทำตามใจชอบ ซึ่งไม่ใช่กลัว ถ้าต้องทำก็ต้องทำ แต่ว่ามันไม่ต้องทำ อยู่ที่ผู้พิพากษาศาลฎีกาเป็นสำคัญที่จะ ศาลอื่นๆ ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลอะไรไม่มีข้อที่จะอ้างได้มากกว่าศาลฎีกา
    ผู้พิพากษาศาลฎีกาที่จะมีสิทธิที่จะพูด ที่จะตัดสิน ก็ขอให้ท่านได้กลับไปพิจารณา ไปปรึกษาผู้พิพากษาศาลแผนกอื่นๆ ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ว่าควรทำอย่างไร ไม่ต้องรีบทำ ไม่งั้นบ้านเมืองล่มจม ดูทีวีเบื่อ ไอ้หมื่นตันโดนพายุจมลงไปลึกกว่า ๔ พันเมตรทะเล เขายังต้องดูว่าเรือนั้นลงไปได้อย่างไร เมืองไทยจะจมลงไปลึกกว่า ๔ พันเมตร กู้ไม่ได้...กู้ไม่ขึ้น
    ฉะนั้น ท่านเองก็เท่ากับจมลงไป ประชาชนทั่วไปที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็จะจมลงไปในมหาสมุทร ตอนนี้เป็นเวลาที่วิกฤติที่สุดในโลก ฉะนั้น ท่านต้องมีหน้าที่ปฏิบัติปรึกษากับคนที่มีความรู้
    พวกที่เขาเรียกว่ากู้ชาติ เอะอะอะไรก็กู้ชาติ...กู้ชาติ กู้ชาติเดี๋ยวนี้ ไม่ได้ล่มจม แต่ป้องกันไม่ให้จมลงไป แล้วเราจะต้องกู้ชาติ ประชาชนกู้ชาติไม่ได้ เพราะจมไปแล้ว
    ดังนั้น ต้องไปพิจารณาดูว่าจะทำอะไร ถ้าทำได้ ปรึกษาหารือกันได้ ประชาชนทั้งประเทศ ประชาชนทั่วโลกจะอนุโมทนา อาจจะเห็นว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาในเมืองไทยยังมีน้ำยา เป็นคนที่มีความรู้ ตั้งใจที่จะกู้ชาติจริงๆ ถ้าถึงเวลา....ฯลฯ...."
    ครับ...เชื่อว่า ประธานศาลฎีกา ศาลปกครองสูงสุด ศาลรัฐธรรมนูญ ว่าที่ประธานวุฒิสภา ประธาน กกต. รวมถึงปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ได้อ่านพระบรมราโชวาท ๒๕ เมษายน ๒๕๔๙ นี้ ขึ้นใจ-กระจ่าง กันแล้ว.

-------------------------------------------------------------------------------

ยาวแต่ยอดอ่ะ ตั้งใจว่าจะเน้นสีข้อความที่โดนใจ แต่ไม่ไหวอ่ะ แค่อ่านให้จบก็แย่แระ ตาจะปิด กู๊ดไนท์ค่ะ ไปนอน(พร้อม)กับท่านเสือยิ้มยากดีกว่า See you tomorrow.