Jedihan

ข่าวนี้น่าสนใจดี คือกวินเนธ พัลโทรล ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ กล่าวว่า "การได้รับคำวิจารณ์ออนไลน์แบบใจร้ายมากๆเกี่ยวกับตัวคุณเองหรือเพื่อนๆของคุณ มันเหมือนกับเป็นหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เกือบเหมือนกับการอยู่ในสงคราม ที่ต้องก้าวผ่านคราบเลือด และสิ่งที่หมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มันกลายเป็นสิ่งที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ฉันได้แต่หวังว่าเราจะก้าวข้ามสิ่งนี้ให้ได้ และมีสติกับการวิจารณ์คนอื่นอย่างใจร้ายเสียที"หลังจากนั้นก็มีคนอเมริกันจำนวนมากทนไม่ไหวเขียนมาด่าบอกว่ากล้าดีอย่างไรมาเปรียบเทียบคำวิจารณ์ร้ายๆกับสงคราม เพราะมันเปรียบกันไม่ได้ แล้วก็ถามกลับว่า ตัวกวินเนธเคยไปสงครามบ้างหรือไม่ ถึงได้รู้ความรู้สึกในสงครามว่าเป็นอย่างไร คือเราคิดว่ากวินเนธพูดตรงตามความรู้สึกมากเกินไปโดยไม่ได้ปรึกษาประชาสัมพันธ์ จริงๆคือไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่บังเอิญไปพูดเรื่องสงครามซึ่งเป็นจุดอ่อนของคนอเมริกัน เลยโดยวิพากษ์เสียหนัก ข้อสังเกตอีกอย่างที่เห็นได้คือ คนอเมริกันsensitiveในเรื่องสงครามมาก เพราะอเมริกันส่งทหารไปทำสงครามสู้รบในประเทศต่างมานานเป็นสิบปีแล้ว และทหารมีไม่พอกับความต้องการจนต้องสร้างแรงจูงใจเสนอเงินพิเศษให้มากๆ บางคนประจำการอยู่ต่างประเทศนานหลายปี ขอกลับก็ไม่ให้กลับ เพราะมีกองกำลังผลัดเปลี่ยนไม่พอ นี่คืออีกข้อของugly American ที่ซ่อนความอัปลักษณ์ไว้ภายใต้รูปลักษณ์ดูดี  image.jpg   163.49K   70 downloads

อันนี้ฝากช่วยกันแชร์ด้วยเยอะๆ หม่อมอุ๋ยจะได้รู้ว่าทรัพยากรธรรมชาติมีค่ามากกว่าท่าเรือน้ำลึก คือเข้าใจว่าถ้าทำท่าเรือน้ำลึกนี่คงจะทำเงินได้มหาศาล แต่ทรัพยากรธรรมชาตินี่ถ้าหมดแล้ว สร้างใหม่ไม่ได้นะ แล้วต่อไปจะให้ลูกหลานเรานั่งดูท่าเรือใหญ่โตแทนที่จะดูประการังหรือพันธ์สัตว์ทะเลแปลกๆหรือ จะทำให้ไทยกลายเป็นสิงคโปร์หรือยังไง ที่เป็นประเทศที่แทบไม่มีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติเลย อย่างนั้นหรือ ป่าก็หมดไปแล้ว ต่อมาจะมารุกล้ำทะเลอีก มันมากเกินไปแล้ว  image.jpg   212.11K   33 downloads  image.jpg   136.81K   40 downloads
อันนี้เป็นรายละเอียดโครงการที่พูดถึงข้อดีและข้อเสีย
http://www.sc.psu.ac...903-PakBara.pdf

 
Sermsuk Kasitipradit
1 นาที · 






ห้าในสิบของคณะที่ปรึกษาคสช. เป็นอดีตทหารใหญ่ในกองทัพ ซึ่งสองในห้าเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกและหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อย ที่เคยทำงานอย่างใก้ลชิดกันมาในค่ายพรหมโยธี จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองพลทหารราบที่สอง ฐานที่มั่นของบูรพาพยัคฆ์
นอกจากเติบโตมาในค่ายเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นน้องเล็กในบ้านพักภายในค่ายที่เคยอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน กลายเป็นความผูกพันธ์จนถึงปัจจุบัน การแต่งตั้งให้ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้เป็นประธานคณะที่ปรึกษา และให้อาป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ทำหน้าที่รองประธาน รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดหรือผิดความคาดหมาย

นายทหารในกองทัพตั้งข้อสังเกตถึงคำสั่งที่ออกมาว่า อาจเป็นการส่งสัญญานบอกล่วงหน้าว่าอาตู่ นอกจากจะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว น่าจะต้องควบตำแหน่งรมว.กลาโหมด้วย ก่อนหน้านี้มีข่าวว่ิงเต้นเพื่อมาเป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ทั้งจากอาป๊อก
และ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุววณ ที่ได้รับการแต่งให้เป็นคณะที่ปรึกษาด้วยเช่นกัน
นายทหารที่ใก้ลชิดอาตู่ ให้ข้อมูลว่า มีกาศึกษาบทเรียนที่เกิดขึ้นหลังการยึดอำนาจในปี 2534 และ 2549 ดึงคนนอกและอดีตผู้บังคับบัญชามาเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้มีปัญหาตามมาบานตะเกียง เป็นเหตุผลที่น่าจะทำให้อาตู่ ตัดสินควบเองทั้งสองตำแหน่ง จะได้เล่นบทเดินหน้าผลักดันการปฏิรูปได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องใครจะปฏิวัติซ้อน หากมีใครปล่อยข่าวนี้ก็ไม่ต้องให้น้ำหนักเพราะเป้นข่าวเลอะเทอะ ที่ไม่มีน้ำหนักของความเป็นไปได้เอาเลย...

แก้นะคะ ค่ายพรหมโยธีอยู่จังหวัดปราจีนบุรีค่ะ

มีเกร็ดเล็กน้อยที่บังเอิญนึกได้หลังจากที่อ่านเบื้องหลังของนักการเมืองผู้หนึ่งจากเวบบ์ บอร์ดนี้เมื่อวาน คือตอนแรกที่เรามองนักการเมืองหนุ่มคนนี้ก็คิดเหมือนอย่างที่หลายคนคิดคือคิดว่า เขามีหัวก้าวหน้า ฉลาด ทันสมัย แล้วก็ดูไนซ์มากในสมัยแรกๆ ประกอบกับแม่ชอบพูดกรอกหูว่าคนนี้น่ะเขาเคยเรียนเก่งนะแต่ไม่จบ มาเข้าป่าช่วงเดือนตุลา คล้ายกับเป็นใบรับรองว่าเขาผู้นั้นเป็นนักการเมืองอุดมคติ แต่เมื่อปีที่แล้วได้ดูบลูสกาย ที่สัมภาษณ์ อดีต สว ท่านหนึ่งได้มาพูดคุยเรื่องดวงเมือง แล้วยังไงไม่รู้สว ท่านนี้ก็เอ่ยถึงการหาเสียงในจังหวัดของท่านซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของนักการเมืองผู้นั้นด้วย บอกว่าลำบากมากในการหาเสียงเพราะโดนกีดกันจากนักการเมืองผู้นั้นมาก ทั้งๆที่ท่านเป็นคนเก่าคนแก่ของจังหวัด เช่นปกติเวลามีงานบุญ งานศพ งานแต่งงาน เขาก็จะเชิญพวกนักการเมืองไปงาน ท่านก็ได้รับเชิญด้วย แต่ปรากฏว่าก่อนหน้าวันงานสองสามวัน เจ้าภาพโทรมาบอกท่านว่า ขอร้องไม่ให้ท่านไป เพราะนักการเมืองผู้นั้นห้ามไม่ให้เชิญท่าน ท่านก็งง เพราะปกติก็ไม่ได้มีเรื่องขุ่นเคืองใจกับนักการเมืองท่านนั้นกันเลย เจอกันก็เคารพนพไหว้กัน แล้วทำไมถึงได้ทำแบบนี้ แล้วท่านก็นึกได้ว่านักการเมืองผู้นั้นได้ส่งตัวแทนลงสมัครเข้าชิงสว ด้วย ท่านถึงบางอ้อ ก็เข้าใจ แต่ท่านบอกว่ารู้สึกผิดหวังกับนักการเมืองผู้นั้นมาก คือท่านคิดว่าเขาผู้นั้นน่าจะเป็นลูกผู้ชาย ไม่น่าจะใช้วิธีการแบบนี้มาเพื่อกีดกัน และก็ไม่มีความยุติธรรมเลย เล่นทั้งทางตรงทางอ้อม เงินก็ใช้ อิทธิพลก็ใช้ มีอะไรใช้หมด อันนี้ยืนยันจากคนใกล้ชิดในท้องถิ่นที่รู้จักพ่อของนักการเมืองผู้นี้ว่าทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับอบายมุข พอรู้แบบนี้ก็ถึงบางอ้อว่าเพราะอะไรลูกถึงได้โตขึ้นมาเป็นแบบนี้ ก็พ่อมีส่วนทำให้ลูกเป็นนั่นเอง คือถ้าพ่อไม่ดีนี่จะหาลูกดีๆลำบากมากนะ แล้วก็คนที่เคยมีอุดมคติดีๆเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้จากหน้ามือเป็นหลังเท้า อย่างที่เห็นคนเดือนตุลาที่กลายพันธ์จนมาเป็นหนามยอกอกประเทศอยู่ในตอนนี้ จนปัจจุบันนี้เราบอกกับแม่เลยว่าห้ามมาบอกว่าคนนั้นคนนี้เคยเข้าป่า มันเอียน และมันรับรองความเป็นคนดีอะไรไม่ได้เลยสักนิด ส่วนตัวเราเองก็ไม่รู้ว่าตัวเราอาจจะเปลี่ยนเป็นคนอย่างพวกนักการเมืองกลายพันธุ์ได้ตอนไหน เหมือนกัน

ว่าจะพูดสักหน่อย แต่ศิษย์เก่าและใหม่พูดแทนหมดแล้ว  image.jpg   132.31K   37 downloads