ยินดีด้วยครับ ชีวิตจะได้มีความสุขเพิ่มขึ้น
ไอ้พวก ห้าพยักหนี
- ตะนิ่นตาญี, HiddenMan and ซีมั่น โลช่า like this
Xissoco hasn't added any friends yet.
โดย Xissoco
on 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 21:24
ยินดีด้วยครับ ชีวิตจะได้มีความสุขเพิ่มขึ้น
ไอ้พวก ห้าพยักหนี
โดย Xissoco
on 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:51
ทำไม ดร.แม้ว ไม่กล้ากลับมาสู้คดีล่ะครับ ในเมื่อ ดร.แม้ว บอกว่าตัวเองไม่ผิด เป็นผู้บริสุทธิ์ ถูกกลั่นแกล้ง ... @#$@#%@#%#$%@# ... ทุ้ย !
โดย Xissoco
on 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 12:37
หน้าตาทั่นอดีตนายกฯ อิดโรยมาก ไม่มีใครมอบหมอนให้สักใบ
เพื่ออดีตนายกฯ จะได้ไปพักผ่อน และไม่ต้องถามอีก ว่าจะให้ถอยไปถึงไหน
ให้นางยก ถอยไปถึงหมอน เลยเหรอครับ อู๊วววว ท่าทางนางจะชอบ
โดย Xissoco
on 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:54
โดย Xissoco
on 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 22:50
ผมไม่เห็น หริโชค อภิปรายอ่ะครับ
ใครก้อได้ครับ บอกที่ว่า หรีโขคอภิปรายเป็นไงอ่ะ
ใน สรท บอก ห่วย
แต่ใน เฟส ก้ออภิปรายดี
ผมขอคลิปด้วยครับ
คาดว่าอีกไม่นาน คงมีคลิป
คลิปยังไม่มีนะครับ
อ่านนี่แก้ขัดไปก่อนนะครับ ฮี่ๆ
ที่มา : https://www.facebook...5925200154988:0
เครดิต/ สายตรงภาคสนาม
“ศิริโชค” จัดหนัก อำมาตย์เต้น รับสินบนบ้าน-ที่ดิน บ.ปุ๋ย แลกเอื้อประโยชน์ได้โครงการในก.เกษตรฯ ด้าน “เต้น”ยันมีบ้านหลังเดียวได้จากน้ำพักน้ำแรง แต่ยอมรับรู้จัก “นางนกต่อ “ จริง ท้าหากมีหลักฐานชัดทุจริตจริง พร้อมเดิมพันชีวิตการเมือง
นายศิริโชค โสภา ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้อภิปรายนายกรัฐมนตรีฐานปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต โดยนำหลักฐานการแจ้งความที่ต่อมามีการถอนคดีไปแล้ว ของ นางภัทราพัฒน์ รุ่งเรืองโรจน์ ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาดของ”บริษัท ม. “จำหน่ายปุ๋ยและเคมีการเกษตร แห่งหนึ่ง ไปร้องทุกข์ต่อสน.บางพลัด ระบุว่าบริษัทดังกล่าวให้พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้บริษํทได้รับโครงการของกระทรวงเกษตร จึงได้นำเงินไปมอบให้กับ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในกระทรวงเกษตร และนำเงินอีกส่วนหนึ่งไปซื้อที่ดิน โฉนดเลขที่ 218 และสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านเลขที่ 337/47 ต.ท่าทราย สนามบินน้ำ นนทบุรี โดยในวันที่ 18 ธ.ค.ได้มีการโอนให้กับนางศิริสกุล ใสเกื้อ เกี่ยวข้องเป็นภรรยานายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แต่ระบุชื่อนางเพ็ญแข เจตประสิทธิ ไว้ในโฉนดไว้แทน
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบ้านดังกล่าวอยู่ในโครงการเศรษฐศิริ ของบริษัทแสนสิริกรุ๊ป และอยู่ใกล้เคียงกับบ้านเลขที่ 337 /72 ที่เป็นบ้านของนายณัฐวุฒิ ตามที่ได้แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช และเมื่อตรวจสอบต่อไปก็พบว่า นางเพ็ญแข ผู้ที่มีชื่อในโฉนด เคยเป็นภรรยาแต่ยังอยู่บ้านเดียวกับนายสมหวัง อัสราษี อดีตเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร นายณัฐวุฒิขณะนั้น และยังพบว่า ที่ดินและบ้านดังกล่าวมีการซื้อจากบริษัทแสนสิริในราคาเพียง 4 .5 ล้านบาท ทั้งที่ตอนปี 48 ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้บริษัทแสนสิริ ซื้อจากเจ้าของเดิมมาในราคา 6.2 ล้าน
ทั้งนี้นายศิริโชคได้พยายามโยงให้เห็นว่าบ้านหลังนี้แม้จะมีชื่อของนางเพ็ญแขถือครอง แท้จริงเป็นบ้านของนายณัฐวุฒิที่ได้รับเป็นสินบนแลกกับการเอื้อประโยชน์กับให้บริษัทจำหน่ายปุ๋ยและเคมีเกษตรดังกล่าวเพื่อให้ได้งานในกระทรวงเกษตร โดยยังพบหลักฐานการสั่งแอร์มาติดตั้ง รวมถึงบิลค่าจ้างต่อเติมบ้าน ที่ระบุชื่อ “น้องแก้ม” ซึ่งเป็นชื่อเล่นของภรรยานายณัฐวุฒิ รวมถึงบิลรายการค่าแรงทำสวนที่ระบุว่า “ค่าแรงทำสวนคุณณัฐวุฒิ”
“เรื่องนี้รมต.ต้องรับทราบ ท่านอาจไม่ได้ทำเอง ทั้งหมด และที่ผ่านมานายกพูดกับประชาชนว่าจะต่อต้านคอรัปชั่น ที่ไหนมีจะดำเนินการ เรื่องนี้เกิดกับบุคคลใกล้ตัว เกิดกับคนสนิทใกล้ตัว เป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาอยู่ในครม.เดียวกัน อยู่ใต้ตำตา หลักฐานที่นำมาไม่ได้สร้างขึ้น แต่มีการแจ้งความไว้แล้ว แต่มีการยอมความกัน จึงกล้าบอกประธานว่าญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นนั้นเป็นการยื่นอภิปรายนายกในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจ และมีการแจ้งความไว้แล้ว ทำไมปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต รู้แล้วทำไมไม่ดำเนินการ จึงถือว่าจงใจปกปิด และส่งสริมการุทจริตคอรัปชั่น
ด้านนายณัฐวุฒิ ก็ได้ใช้สิทธิถูกพาดพิงชี้แจงว่า ยินดีที่จะรับการตรวจสอบแต่นึกว่าจะใช้วิธีการแบบนี้ บ้านเลขที่ 337/72 คนรู้ทั้งโลกว่าเป็นบ้านผม ๆซื้อเมื่อปี 48 ด้วยน้ำพักน้ำแรง เป็นนักพูด เป็นอาจารย์ เดี๋ยวนี้ยังผ่อนอยู่ บ้านนี้ตนอยู่มาจนปัจจุบัน ส่วนบ้านเลขที่ 337 /47 ที่ฝ่ายค้านยกขึ้นอ้างว่าเป็นบ้านของตนนั้น ก่อนปี 55 บ้านหลังนี้เป็นของใครตนไม่ทราบ แต่นางเพ็ญแข ซึ่งเป็นภรรยา ของนายสมหวัง ที่ตนสนิทสนม และนางเพ็ญแขก็สนิทสนมกับภรรยาของตน ไปมาหาสู่กันและพบว่าบ้านหลังดังกล่าวประกาศขาย ก็สนใจ รวมถึงเห็นว่าในอนาคตพื้นที่บริเวณดังกล่าวจะมีรถไฟฟ้า จึงได้ติดต่อขอซื้อไว้ ซึ่งความจริงนางเพ็ญแขทำธุรกิจ มีเงินหมุนเวียนมาก สามารถที่ซื้อบ้านหลังใหญ่กว่านี้ก็ทำได้ แต่เมื่อซื้อบ้านหลังนี้ แล้วตัวเองพักอาศัยอยู่ในเขตทุ่งคุรุ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะฝากให้เพื่อนสนิทซึ่งก็คือภรรยาของตนช่วยดูแลในเรื่องการตกแต่ง โดยที่นางเพ็ญแขเป็นคนจ่ายค่าตกแต่งนั้น
“ขั้นตอนการไปซื้อไปหาผมไม่รู้เรื่อง และไม่รู้ว่าจะเป็นประเด็นที่นำมาอภิปราย เมื่อไปซื้อบ้านหลังนี้ ราคาประเมินเป็นอย่างไรไม่ทราบเพราะไม่คิดว่าจะมีการนำมาอภิปราย แต่เมื่อซื้อแล้วเขาก็เห็นว่าบ้านผมอยู่ใกล้ มันจะแปลกอะไร ที่จะมอบหมายให้เพื่อนช่วยดูแลการตกแต่ง บริษัทแอร์ที่มาติดตั้ง บ้านผมก็สั่งติดตั้งด้วย เขาก็ต้องลงชื่อคนติดต่อให้ติดตั้งในบิล ก็เท่านั้น ส่วนที่ลงบิลทำสวนบ้านผม หญ้าบ้านผม เป็ญหญ้าธรรมชาติ ภาคใต้เขาเรียกหญ้าปลักควาย พอฝนตกก็เปียกแฉะ ก็เลยให้ช่างมาปรับปรุงเปลี่ยนเป็นหญ้าเทียม ก็เลยรวมในบิลเรียกเก็บเงินบิลเดียวกัน “
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ตัวละครที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายนั้น อยากให้ไปตรวจสอบว่าที่นางภัทราพัฒน์ที่ไปร้องทุกข์ว่าไปเอาเงินจากบริษํทแห่งหนึ่งมาให้ตนเพื่อหาประโยชน์ อยากให้ไปดูให้ดีเรื่องนี้ใครแจ้งความใคร ใครเป็นคนเสียหาย นางภัทราพัฒน์ มีประวัติถูกจับคดีฉ้อโกงเป็นหางว่าว ไม่ไดู้หรือว่านางภัทราพัฒน์ เป็นโจทก์หรือจำเลย ยอมรับว่านางภัทราพัฒน์ เคยมาพบตนโดยผ่านคนใกล้ชิดของตนเองคนหนึ่ง ซึ่งนางภัทราพัฒน์อ้างว่ามีความเดือดร้อนอยากให้ช่วยเหลือ ก็พูดคุยคบหาไปมาหาสู่กันระยะหนึ่ง เขาก็พาเจ้าของบริษัทนี้มาพบ แต่พูดคุยกันไปตนก็รู้สึกแปลก ๆ ว่าทำไม นางภัทราพัฒน์ กับเจ้าของบริษัทคุยกันเหมือนไม่สนิทกัน จึงถามเจ้าของบริษัททำให้ทราบว่านางภัทราพัฒน์ ไปอ้างตัวว่าเคยเป็นเลขาส่วนตัวของตน และบริษัทมีการจ่ายเงินจ่ายทองให้นางภัทราพัฒน์ ซึ่งตนก็ได้แจ้งให้เจ้าของบริษัทดังกล่าวทราบว่าไม่เคยรู้จักหรือเกี่ยวกับข้องนางภัทราพัฒน์มาก่อน รวมทั้งแนะนำให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนางภัทราพัฒน์ด้วย
“กรณีที่เกิดขึ้นจะเอามาอ้างเป็นสินบนจ่ายตอบแทนเพื่อให้ผมหาประโยชน์ให้บริษัทดังกล่าว ผมยืนยันว่า ตั้งแต่เข้ามามีตำแหน่งทางการเมือง ไม่เคยใช้อำนาจหน้าที่ตำแหน่งทางการเมืองเอื้อประโยชน์ใด ให้บริษัทนี้แม้สตางค์แดงเดียว ถ้ามีหลักฐานว่าไปเอื้อ อย่าว่าจะลาออกจากรัฐมนตรีจะลาออกจากส.ส. เลิกเล่นการเมืองชั่วชีวิต แต่ถ้าหาไม่ได้ รับคำท้าผมไหม พูดกันให้ชัดสิว่าผมเป็นรมต.เกษตรเอื้อประโยชน์ให้ใครเขา แล้วอย่างที่บอกกรณีนี้เป็นมีคดีความอยู่ในศาล ก็ว่ากันไปแต่ถ้าประสงค์จะยืนยันว่าผมเกี่ยวข้อง ผมก็พร้อมที่จะต่อสู้ในศาลให้ถึงที่สุดเพื่อปกป้องตัวผม ภรรยาผม เหมือนกัน”
ด้านนายศิริโชค ได้ยืนยันอีกครั้งว่า รู้ดีว่า นางภัทราพัฒน์ และบริษัท ม. มีการแจ้งความดำเนินคดีกันไปมา และตนเองมีเอกสารการแจ้งความของทั้งสองฝ่าย ซึ่งกรณีนี้จะไม่เป็นเรื่องแดงขึ้นมาหากไม่มีการหักหลังกัน และนายณัฐวุฒิก็ได้รับสารภาพกลางยอมรับกลางสภาแล้วว่า รู้จักและคบหานางภัทราพัฒน์ ไปมาหาสู่กัน แล้วอย่าเอาเรื่องฟ้องร้องมาขู่ เพราะตามข้อบังคับพูดอภิปรายกันในสภาไม่สามารถฟ้องได้ หรือถ้าจะฟ้องตนก็ไม่กลัว
นายณัฐวุฒิ โต้ว่า ดูเหมือนนายศิริโชค พยายามทำให้สังคมเข้าใจว่าตนหาผลประโยชน์ ตนไม่เคยหาผลประโยชน์ใดๆ ขอให้ไปหามาว่ามีงานไหนบ้างที่ตนไปคุยกับบริษัท ดังกล่าวแล้วตั้งท่าว่า ถ้าไม่จบบริษัทนี้ก็ต้องคุยบริษัท อื่นต่อ บอกว่าบ้านซื้อในเดือนธันวาคม ปี55 ตนได้รับมอบหมายปรับครม.ย้ายจากกระทรวงเกษตรตั้งแต่เดือนตุลาคม ไปอยู่กระทรวงพาณิชย์ในเดือนธันวาคม ลองคิดดูว่าบริษัทเอกชนยินดีจ่ายผลประโยชน์ให้ตนหรือไม่ หากไม่อำนาจหน้าที่แล้ว ถ้าจะคุยก็ต้องตั้งแต่อยู่กระทรวงเกษตรแล้ว
“ผมย้ายมากระทรวงพาณิชย์ได้เดือนเศษๆจะมีฤทธิเดชหาผลประโยชน์ได้อย่างไร งานที่รับมาดูแลก็กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมทรัพย์สินทางปัญญา จะหาประโยชน์ไหนไปล่อตาเอกชนจนควักกระเป๋าใหญ่ๆให้ ขอให้ไปหามาว่าบริษัท นี้เคยได้งานอะไรในเครือข่ายอำนาจหน้าที่ของตน เคยมาตกลง เคยพูดงานใดๆที่ได้ผลประโยชน์ในช่วงที่ตนรับผิดชอบหรือไม่ เชื่อว่าประชาชนจะตัดสินใจได้”
โดย Xissoco
on 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:05
หมอวรงค์บอก " ลำยองกินเหล้า ยิ่งลักษณ์กินเมือง " ฮี่ๆ
โดย Xissoco
on 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 00:01
ตอนนี้กลับไม่มีใครยักจะประท้วงอ่ะ
หรือ จนมุมด้วยข้อมูล อ่าาาาาาาาาา
ผมว่า น่าจะง่วงกันหมด เพราะน้ำเสียง อลงกรณ์ ฟังแล้วชวนง่วงมาก
จริงด้วยครับ ผมยังง่วง ๆ เลย
ชักคิดถึง ศิริโชค จริง ๆ
ปกติ ศิริโชค จะเป็นอภิปรายเรื่อง จำนำข้าวง่ะ
ห้าาาาาาาาาาาาาาาา
รอฟังข้อมูลเด็ด พรุ่งนี้ครับ ฮี่ๆ
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net