Jump to content


serim

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 24 มกราคม 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: ส่วนตัว
-----

Topics I've Started

ถึงเวลาแล้วหรือไม่ ที่ควรปฏิรูปสื่อ

11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:27

หลายครั้งหลายหน ไม่ว่าจะเป็นข่าวจากสำนักไหน ข่าวใดเป็นเท็จ สื่อรับผิดชอบแค่ไหน ทำให้คนรับสื่อไขว้เขว

หากว่าจะมาทำอาชีพสื่อ ต้องมีใบอนุญาต เหมือนพวกใบประกอบโรคศิลป หรือของพวกนักโยธาฯ หรือแบบสอบเนติบัญฑิต เพื่อที่จะรับผิดชอบต่อสิ่งที่นำเสนอออกไปต่อสาธรณะชน

 

ผมรู้แต่ว่าต้องมีการสอบเป็นผู้ประกาศข่าว แต่พวกคอลัมนิสต์ทั้งหลาย มีการคัดกรองบุคลากรอาชีพสื่อดีแค่ไหน หรือแค่เขียนบทความให้ถูกใจกับคนบางกลุ่มให้มโนและฟินกันเองโดยไม่ต้องรับผิดชอบหากบทความดังกล่าวไม่เป็นความจริง แม้ว่าจะมีกฎหมายว่าด้วยการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาก็ตามที


สั่งยุบตำรวจปราบจลาจล เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นและเอกภาพ

27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 00:18

http://manager.co.th...D=9570000022810

 

ยูเครนสั่งยุบตำรวจปราบจลาจล ปูตินสั่งตรวจ‘พร้อมรบ’ทัพรัสเซีย

 

       เอเจนซีส์ -ยูเครนประกาศยุบหน่วยตำรวจปราบจลาจลที่เป็นที่จงเกลียดจงชังของผู้ประท้วง เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นและเอกภาพ ในเวลาที่ประเทศกำลังแตกแยกทางการเมืองและเผชิญภาวะแหลกเหลวทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน อังกฤษ-อเมริกาเห็นพ้องอัดฉีดเคียฟโดยยกให้ไอเอ็มเอฟเป็นแม่งาน พร้อมหยอดมอสโกควรมีส่วนร่วมลงขันด้วย อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังคงแสดงความไม่พอใจ โดยล่าสุดประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่งตรวจเช็กความพร้อมรบของกองทัพหมีขาว
       
       อาร์เซน อวาคอฟ รักษาการรัฐมนตรีมหาดไทยยูเครน โพสต์บนเฟซบุ๊กเมื่อวันพุธ (26 ก.พ.) ว่า ได้ลงนามคำสั่งยุบหน่วยตำรวจปราบจลาจล หรือ “เบอร์คุต” ทั้งนี้ให้มีผลทันที โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดในภายหลัง ซึ่งอาจรวมถึงอนาคตของตำรวจราว 5,000 คนของหน่วยนี้ ว่าจะถูกปลดหรือโอนย้ายไปสังกัดหน่วยงานอื่น
       
       บางช่วงบางตอนระหว่างการประท้วงในกรุงเคียฟที่เริ่มต้นตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนปีที่แล้ว ตำรวจเบอร์คุตถือโล่และปืนไรเฟิลเข้าสลายการชุมนุม, ซุ่มยิงจากระยะไกล, และทุบตีผู้ประท้วงที่ถูกจับอย่างทารุณ โดยเฉพาะกรณีที่ชายคนหนึ่งถูกบังคับให้เปลื้องผ้าท่ามกลางอุณหภูมิติดลบและ ตำรวจบางคนถ่ายภาพเก็บไว้ จากนั้นภาพนี้ได้ไปปรากฏบนอินเทอร์เน็ตเป็นที่โจษขานไปทั่วโลก
       
       การตัดสินใจคราวนี้คาดว่า เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการฟื้นความเชื่อมั่นและเอกภาพของรัฐบาล รักษาการที่ต้องรับมือศึกสองด้าน ทั้งการคุกคามจากกระแสแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ที่สนับ สนุนรัสเซีย กับความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้
       
       บรรดาผู้นำรักษาการของยูเครนยังถูกกลุ้มรุมจากการตัดสินใจของรัสเซีย ในการระงับเงินอัดฉีดกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน รับปากไว้กับวิกเตอร์ ยานูโควิช ที่ถูกรัฐสภายูเครนปลดจากตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว และขณะนี้เร่ร่อนหลบหนีหมายจับอยู่ในเมืองใดเมืองหนึ่งในประเทศ
       
       คำมั่นดังกล่าวเป็นการตกรางวัลที่ยานูโควิชยกเลิกการทำสัญญาการค้ากับสหภาพยุโรป (อียู) และหันกลับมาคบค้าสนิทสนมกับมอสโกแทน
       
       การตัดขาดของเครมลินทำให้รัฐบาลยูเครนที่มีภาระในการชำระหนี้ต่าง ประเทศ 13,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ แต่มีเงินอยู่ในคลังไม่ถึง 18,000 ล้านดอลลลาร์ ต้องหันไปฝากความหวังกับตะวันตกโดยตั้งเป้าขอเงินอัดฉีดถึง 35,000 ล้านดอลลาร์
       
       ทั้งอเมริกาและอังกฤษต่างประกาศสนับสนุนการร่วมมือกันช่วยเหลือยูเครนภายใต้การนำของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

 

นอกจากนั้น จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังแถลงระหว่างต้อนรับการมาเยือนของวิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เมื่อวันอังคาร (25) ว่า สถานการณ์ของยูเครนไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างตะวันตกกับตะวันออก ซึ่งเป็นการตอบโต้คำกล่าวอ้างของรัสเซียโดยตรงที่ว่า ยูเครนกำลังถูกบีบให้ต้องเลือกข้างครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์
       
       ทางด้านเฮกขานรับว่า ยูเครนต้องการความช่วยเหลือทางการเงินจากแหล่งต่างๆ ซึ่งรวมถึงรัสเซีย
       
       รัฐมนตรีต่างประเทศเมืองผู้ดีมีกำหนดเดินทางไปเคียฟเร็วๆ นี้ ขณะที่วิลเลียม เบิร์นส์ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงยูเครนเมื่อวันอังคาร และเตรียมเข้าพบหารือกับโอเล็คซานเดอร์ ตูร์ชินอฟ รักษาการประธานาธิบดียูเครน เย็นวันพุธ
       
       วันเดียวกัน แคทเธอลีน แอชตัน ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของอียู เสร็จสิ้นการเยือนเคียฟเป็นเวลา 2 วัน และได้ระบุถึงแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้นสำหรับยูเครน แต่ไม่ได้พาดพิงถึงการขยายสินเชื่อหลายหมื่นล้านดอลลาร์ที่ตูร์ชินอฟร้องขอ แต่อย่างใด
       
       ตูร์ชินอฟและเหล่าผู้นำรักษาการที่ถูกรัสเซียตั้งคำถามถึงความชอบ ธรรมตามกฎหมายของยูเครน รวมทั้งประณามว่า ใช้ความรุนแรงไต่เต้ายึดอำนาจจากยานูโควิชนั้น กำลังพยายามจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวเพื่อบริหารประเทศก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีในวันที่ 25 พฤษภาคม
       
       มีรายงานในวันพุธว่า จะมีการประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในเวลา 1 ทุ่มวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 24.00 น. เวลาเมืองไทย) บนเวทีการชุมนุมที่จัตุรัสไมดาน (จัตุรัสเอกราช) กลางกรุงเคียฟ
       
       ในส่วนกระแสการแบ่งแยกดินแดนนั้นสร้างความกังวลอย่างมากต่อผู้นำ รักษาการ มีรายงานว่า ตูร์ชินอฟผลุนผลันออกจากการประชุมฉุกเฉินของรัฐสภาเมื่อวันอังคาร เพื่อร่วมหารือเรื่องนี้กับหน่วยงานความมั่นคง โดยจุดร้อนของปัญหานี้อยู่ที่เขตปกครองตนเองไครเมีย ที่ล่าสุดฝูงชนได้ขับไล่นายกเทศมนตรีเมืองเซวาสโตโปล และแต่งตั้งพลเมืองรัสเซียขึ้นดำรงตำแหน่งแทน และมีการนัดหมายชุมนุมเพื่อแสดงการสนับสนุนรัสเซียในวันพุธ
       
       ทางด้านสำนักข่าวของทางการรัสเซียรายงานในวันพุธว่า ประธานาธิบดีปูติน ได้ออกคำสั่งให้ทำการตรวจความพร้อมรบของกองทัพรัสเซียที่ประจำอยู่ทางภาค ตะวันตกและภาคกลางของประเทศ รวมทั้งพื้นที่ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับยูเครนในทันที
       
       ทั้งนี้ คำสั่งตรวจเช็กคราวนี้ครอบคลุมหน่วยทหารของกองทัพบก, กองทัพเรือ, และกองทัพอากาศ ซึ่งตั้งฐานอยู่ในพื้นที่ภาคทหารตะวันตก อันเป็นอาณาบริเวณกว้างขวางรวมถึงพื้นที่ชายแดนประชิดยูเครน, เบลารุส, พวกประเทศริมทะเลบอลติก, และทวีปอาร์กติก
       
       ตามรายงานของสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ รัฐมนตรีกลาโหม เซอร์เก ชอยกู กล่าวว่า การตรวจความพร้อมรบนี้มุ่งที่จะรับมือกับสถานการณ์วิกฤตซึ่งกำลังคุกคามความ มั่นคงทางทหารของรัสเซีย ตลอดจนเป็นการปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายไปด้วย
       
       อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้ว ปูตินก็เคยออกคำสั่งตรวจสอบความพร้อมรบในทันทีเช่นนี้มาแล้ว พร้อมกับกล่าวในตอนนั้นว่าควรที่จะมีการซักซ้อมเรื่องนี้เป็นประจำ
       
       ชอยกูระบุว่า การตรวจความพร้อมรบคราวนี้จะเริ่มตั้งแต่วันพุธ (26) ไปสิ้นสุดในวันที่ 3 มีนาคม


แปลกใจ ทำไมมันรู้สึกขัดๆกันหว่า หรือผมคิดไปเอง

1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 15:26

อ้างอิง: http://www2.ect.go.t...SiteMenuID=3193

 

ผู้สมัครรับเลือกตั้ง

013.png  องค์การบริหารส่วนจังหวัด

คุณสมบัติของนายก อบจ.

1.    มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
2.    มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขต
องค์การ บริหารส่วนจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า  1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง หรือได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน หรือกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดนั้นเป็น เวลาติดต่อกัน 3 ปี นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง
3.    คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัด กำหนดคือ
(1) มีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
(2) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า  หรือเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัด  สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา
 

คุณสมบัติของสมาชิกสภา อบจ.


1.   มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
2.   มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
3.   มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า  1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง หรือได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน หรือกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดนั้นเป็น เวลาติดต่อกัน 3 ปี นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง
4.   คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำหนด

013.png  เทศบาล
คุณสมบัติของนายกเทศมนตรี


1.    มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
2.    มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเทศบาลที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง หรือได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน หรือกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ให้กับเทศบาลนั้นเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง 
3.    คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยเทศบาลกำหนด คือ
       (1) มีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
       (2) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น  ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา

คุณสมบัติของสมาชิกสภาเทศบาล
1.   มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
2.   มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
3.   มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านใน เขตเทศบาลที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง หรือได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน หรือกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ให้กับเทศบาลนั้นเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง
4.   คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยเทศบาลกำหนด


013.png  องค์การบริหารส่วนตำบล
คุณสมบัติของนายก อบต.

1.    มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
2.    มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า
1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง หรือได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน หรือกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลนั้นเป็นเวลา ติดต่อกัน 3 ปี นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง
3.    คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด คือ
       (1) มีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
       (2) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น  ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา

คุณสมบัติของสมาชิกสภา อบต.
1.   มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
2.   มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง 
3.   คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด คือ
      มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านของตำบลที่สมัครรับ
      เลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันรับสมัครเลือกตั้ง

 

 

ที่ผมแปลกใจก็คือถ้าเทียบกับ สส.

 

อ้างอิง: http://www2.ect.go.t...SiteMenuID=7637

 

คุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.
  1. มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
  2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
  3. เป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพียงพรรค เดียวนับถึงวันเลือกตั้ง ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน (การเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้เป็นกรณียุบสภาผู้สมัครต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมือง หนึ่งเพียงพรรคเดียวเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 30 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง)

 

ซึ่งเมื่อได้ สส. มาแล้วจะเลือกนายกรัฐมนตรี คือเอา สส. ทั้งหมดมาโหวตกันเองว่าใครจะเป็นนายกฯ ทีนี้ที่เป็นข่าว คือมี สส. ที่สมัครวุฒิการศึกษาต่ำกว่า ป.ตรี หากถูกโหวตให้เป็นนายกฯ ล่ะ มันจะไม่รู้สึกขัดๆกับ นายกสภาท้องถิ่นหรือครับ รูสึกแปลกๆยังไงไม่รู้สิ ผมไม่ค่อยแม่นกฏหมายอ่ะ หรือมันมีข้อห้ามอยู่แล้วว่านายกรัฐมนตรีต้องวุฒิ ป.ตรี ขึ้นไปอยู่แล้วครับ

 

และที่สงสัยอีกอย่าง ทำไมไม่เลือกนายกรัฐมนตรีโดยประชาชนแยกออกมาต่างหากเหมือนๆ นายกสภาท้องถิ่นล่ะครับ


แก้เผ็ดนักการเมืองที่ชอบยุบสภาด้วยกฎหมาย

19 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:47

พวกนักการเมืองที่ชอบยุบสภาหนีความผิด

ถ้าจะออกกฎหมายว่า ถ้ารัฐบาลใดยุบสภา พรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และจะไม่มีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แม้ว่าจะมีเสียงในสภาเยอะก็ตาม

 

เหตุผลเพื่อยับยั้งไม่ให้เอะอะอะไรก็ยุบสภา และไม่ให้พรรคที่ยุบสภานั้นมาบริหารประเทศเนื่องจากไร้ความสามารถ ต้องถอยออกไปให้พรรคอื่นเข้ามามีโอกาส ลดการผูกขาดจากพรรคใดพรรคหนึ่ง

 

พวกท่านเห็นเป็นเช่นไรครับ ลองเสนอกันดู


(hardcore) ถ้า...แบบนี้ จะมีโอกาสเป็นไปได้ไหม

27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 09:06

จากที่ได้เห็นตั้งแต่เหตุการณ์หน้ารามและหน้าไทย-ญี่ปุ่น

ทหารเข้ามาช่วย ใครเป็นคนสั่ง แล้วคนสั่งจะโดนเด้งหรือไม่

 

คือกำลังคิดว่าถ้าพวกน้ำดีที่อยู่ในแต่ละเหล่าลุกฮือจัดการภายในกันเอง จะมีโอกาสหรือไม่ หรือต้องก้มหน้ารับคำสั่งนายที่บ้าอำนาจกันต่อไปโดยที่ไม่คำนึงถึงจริยธรรมกันอีก และแม้ว่าคำสั่งนั้นจะให้ไปตายก็ตาม