Excel

จากคำพิพากษาของศาลแพ่งวันนี้ ยิ่งย้ำให้เห็นว่าแนวทางสันติ-อหิงสาของกำนัน มาถูกทางแล้ว

ถ้าใช้แนวทางอื่นที่หลายคนอยากจะทำ (ด้วยความเจ็บใจ ยอมรับว่ารวมทั้งตัวผมเองด้วยในบางอารมณ์) วันนี้เราคงแย่ รัฐบาลจะมีความชอบธรรมในการปราบปรามทันที กปปส. จะเดินต่อลำบาก

คงต้องฝากไว้กับทีมกฎหมายครับ จากผลงานที่ผ่านมา ผมว่าทำได้ดีทีเดียว


(ส่วนการคั่วข้าวโพดแจกนั้น ไม่เกี่ยวกับผู้ชุมนุม เป็นพ่อค้าอาสาที่เข้ามาแจกเอง)

วันนี้ไปเวทีแจ้งวัฒนะตั้งแต่เช้าครับ ตอนแรกก็เข้าใจว่าตำรวจจะเข้าประชิดพื้นที่แน่ ๆ ตอนขาไปก็เห็นตำรวจกลุ่มใหญ่อยู่หน้าไอทีสแควร์ตั้งแต่เช้า แต่ไป ๆ มา ๆ อยู่ยันค่ำก็ไม่มีตำรวจเข้ามาครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะการเจรจาหรือเปล่า

 

ส่วนเรื่องข่าวการปะทะวันนี้ตอนอยู่ที่เวทีก็แทบไม่รู้เรื่องเลยครับ ทางเวทีเปิดถ่ายทอดสดให้ดูแค่ตอนช่วงตำรวจเข้าสลายนิดหน่อย ตอนหลังหลวงปู่ท่านบอกว่าอย่าเพิ่งให้ดู อย่าเพิ่งรู้ข่าวที่จะบั่นทอนกำลังใจ ต้องเตรียมตัวรบก่อน (ทำใจให้สบายรอตำรวจ)

 

ส่วนกรณีหมอระวีหลวงปู่ท่านเตือนตั้งแต่เช้าแล้วว่าให้รีบออกมา เพราะถ้าแกนนำโดนจับจะมีผลต่อจิตวิทยามาก คือ จะทำให้ฝ่ายรัฐบาลฮึกเหิม ก็เลยเสนอว่าให้มารวมกันที่เวทีแจ้งวัฒนะก่อนดีกว่า แต่ไม่ทราบว่าไม่ทันหรือว่าหมอไม่เชื่อสุดท้ายเลยโดนจับตัวไป

 

นอกจากนี้เห็นว่ามีตัวแทนจากฝ่ายรัฐบาลจะมาเจรจาแล้ว แต่หลวงปู่ท่านปฏิเสธไปเพราะว่าสิ่งรัฐบาลทำตอนนี้ไม่ใช่บรรยากาศของการเจรจา (มีการส่งกองกำลังมาบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งมีการสลายที่ชุมนุมหลาย ๆ เวที) เลยบอกว่าให้รัฐบาลแสดงความจริงใจก่อน ถึงจะยอมเจรจาด้วย

 

ส่วนสภาพเวทีตอนนี้กำลังดีเลยครับ มีคนเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มชาวนาที่เข้ามาเสริมในพื้นที่ หลวงปู่ท่านก็สั่งตั้งเต็นท์เพิ่มแล้ว ตอนนี้มีเต็นท์สองฝั่งถนนแล้ว คาดว่าพรุ่งนี้จะมีคนมาเพิ่มอีกพอสมควรครับ

โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ 

วันนี้เข้ามา 20 คน -----------> คนล่ะชุดกับที่หลักสี่ (เหตุผลที่ตำรวจเผ่นกระจาย ก็เพราะเหตุนี้แหล่ะครับ)

ถ้าตำรวจทำรุนแรงครั้งต่อไป ----------------> ทุกอย่างจะถูกเปิดออกครับ

70 เอา 30 ไม่เอา ----------------------> นี่ไปหาคำตอบเอาเองครับ (แต่ทำให้ตำรวจสั่นได้)

เพื่อไทย ทำปากดี แต่เบื้องหลัง กลับไปเจรจากับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แต่ก็โดนสวิงกลับ 


ที่พิมพ์มาไม่ได้ให้ใครต้องเชื่อน่ะครับ...... แต่ถ้าถามว่าผมเชื่อมั้ย เชื่อครับ เพราะสิ่งที่ผมได้มาตั้งแต่ก่อนจะมีม็อบ มันก็ตรงเกิน 80% อ่ะครับ

มีคนสงสัยว่า ทำไม แม้วและขี้ข้า ทำอะไรก็เสียหาย พ่ายแพ้ไปซะทุกสมรภูมิ

ใครจะไปเชื่อว่า ที่เคยเรืองอำนาจจะตกต่ำ

ผลงานการบริหารเจ๊งไม่เป็นท่า

ถูกขับไล่แทบทุกทิศทาง

กรรมอันใดตามทัน ให้มันเริ่มพินาศบรรลัย

 

อันนี้ ถ้าว่าด้วยหลักพุทธศาสนา

คนเราทำสิ่งใด ก็จะได้ผลลัพธ์สิ่งนั้น

ปลูกต้นมะนาว  ก็ย่อมได้ผลมะนาว ไม่มีทางเป็นผลมะพร้าวไปได้

ในเมื่อ มันและลูกสมุน ทำร้ายประเทศ ทำลายสถาบันหลักของชาติ

สร้างความแตกแยกให้กับแผ่นดิน

สั่งฆ่าเพื่อนมนุษย์ไปเป็นพัน

กรรมนั้นย่อมตามมาดุจเงาตามติดตัว

กรรมดีนั้น แทบจะไม่ได้ทำ ขยันสร้างกรรมชั่ว

กรรมชั่วจึงแซงหน้ากรรมดีไปหลายขุม

แม้จะพยายามวิ่งเต้นแก้กรรม (อาศัยเปลือกของศาสนา ไม่ใช่แก่นแท้ของคำสอนขององค์ศาสดา)  แต่กรรมนั้นไม่มีทางลบล้าง

ขนาดพระอรหันต์อย่างพระโมคคัลลานะ อัครสาวกฝ่ายซ้าย ยังต้องนิพพานด้วยเศษกรรมที่ทำไว้แต่ชาติก่อน

แม้พระโมคคัลลานะ มีอิทธิฤทธิ์หลบหนีได้ แต่ท่านก็ไม่หนี กลับยอมรับกรรมนั้นไว้เสียให้หมด

 

ว่าด้วยความเชื่อเทพเจ้าของศาสนาพราหมณ์ ฮินดู

เคยได้ยินผู้ใหญ่คุยให้ฟังว่า อันเทพนารีที่เกี่ยวโยงกับธรรมชาติ ได้แก่ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ

ล้วนเป็นกัลยาณมิตร สนิทสนมซึ่งกันและกัน

เมื่อท่านใดเศร้าโศก ท่านอื่นๆจะโศกเศร้าตามไปด้วย

การประท้วงของ เสื้อแดง ที่มีการทำพิธีกรรมไสยดำ เทเลือดลงต้องธรณี

เป็นการทำกรรมต่อพระแม่ธรณี

พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ย่อมทุกข์โศกตามไปด้วย

ปกติ เทพเทวา ทั้งหลาย ย่อมไม่เริ่มต้นทำกรรม ทำบาป กับผู้ที่คิดร้าย

หากเมื่อกรรมของผู้ใดตามทัน ท่านทำได้เพียงขยายกระพือให้กรรมนั้นร้ายแรงมากขี้น

พระแม่คงคา ดูแลน้ำ รัฐบาลนี้เจอ อุทกภัยร้ายแรง

พระแม่โพสพ ดูแลข้าว รัฐบาลนี้ เจอพิษ จำนำข้าว

ผลจากการทำร้ายพระแม่ธรณีแท้ๆ

 

กรณีการสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของอำหมาดเต้น

กล้าสาบานต่อเทพยดา  กล้าโกหกประชาชนโดยแอบอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์

บัดนี้คำสาบานได้ย้อนกลับมาหาแล้ว

 

ล่าสุดการทำไสยดำของแม้ว

 

พอแม้วทำพิธีไสยดำที่พม่า

แผ่นดินไหว หลายวันติดกันเลย

 

http://www.dailynews...าพรมแดนพม่า-ลาว

 

http://news.mthai.co...ews/309575.html

 

ท่านพราหมณ์ผู้เป็นเจ้าพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวร เทพยดา และบูรพกษัตริยาธิราช ดังที่เล่าไว้ในเมนท์ก่อนๆ

ได้บอกเอาไว้ว่า ไสยดำที่แม้วทำ หากนับเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง ได้ถูกพลังจากสมเด็จพระนเรศวร เทพยดา และบูรพกษัตริยาธิราช สกัดกั้นเอาไว้ให้เข้ามาทำร้ายบ้านเมืองเรามิได้

เมื่อพลังงานถูกสะกัด ดังนั้นจึงย้อนกลับไปที่แหล่งต้นกำเนิดพลังงานที่พม่า

พลังนี้มีกำลังมหาศาลจนทำให้เกิดแผ่นดินไหวแบบอ่อนๆได้ที่นั่น บริเวณที่ก่อให้เกิดการทำไสยดำ

และที่สำคัญ พลังไสยดำนั้น จะย้อนเข้าตัวผู้กระทำด้วย

รอดูวันแม้วพินาศได้เลย

 

ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ

 

เหล่านี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เชิญพิจารณากันเอง

 

คปท. ได้แชร์ สถานะ ของ ทนายมิ้นท์ Puangtip Boonsanong

33 นาทีที่แล้ว

แจ้งข่าว คปท.
ผู้ชุมนุม กคป. ที่ถูกสลายการชุมนุมที่ ปตท. เมื่อเช้านี้ และถูกจับกุมรวม 190 ราย ทนายมิ้นท์ ไปดูแลที่ตชด.ภาค 1 แล้ว คาดว่าจะได้ประกันตัว ในวงเงิน 8.5 ล้านบาท

 

ทนายมิ้นท์ Puangtip Boonsanong

39 นาทีที่แล้ว

พล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา190 คน ในวงเงินประมาณ 8,500,000บาท คืนนี้ทุกคนต้องได้กลับบ้านค่ะ

 

 

แพงเว่อไปไหม เรียกขนาดนี้ ตร. หารายได้ทางนี้แล้วหรอครับ

 

ห่อเหี่ยว เล็กน้อยในช่วงเช้า 

 

หลังจาก ผชน. ที่กระทรวงพลังงาน โดนสลาย

 

แต่ยังชื่นใจ ที่ไม่มีใครเป็นอันตราย

 

ห่อเหี่ยวซ้ำเติม เมื่อเห็น ตร. บุกข้าม ผชน. ที่กำลังนั่งสวดมนต์

 

และมีการตีกันบาดเจ็บ

 

ห่อ ๆ ๆ เหี่ยว ๆ ๆ เพิ่มขึ้น เมื่อเห็น ตร. พยายามรื้อเต๊นท์

 

เพิ่มขึ้นทวีคูณ เมื่อแก๊ซน้ำตา ลูกแรก เริ่มขึ้น

 

จากเหี่ยว จากห่อ เป็นเครียด เมื่อเห็นภาพ การเล็งปืน 

 

เข้าใส่ ผชน. อย่างไม่หยุดยั้ง

 

อารมณ์เปลี่ยนทันที เมื่อได้ยินเสียงตูมสนั่น !!!

 

งง เบลอ เอ๋อ เข้าไปใหญ่

 

แต่แอบยิ้ม ที่เห็นตำรวจกระเจิง เป็นผึ้งแตกรัง

 

จนถึง ณ ตอนนี้ ดีขึ้นบ้าง

 

เฮ้อ บทบู๊ ก่อนจบเนี่ย 

 

มันบอกไม่ถูกเลยนะเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ 

ขอเบรคอารมณ์นิดนึง

 

จากบทละครในบทความนี้พอจะสื่อให้เห็นภาพอะไรได้มากขึ้นนะครับ

 

 

https://www.facebook...1&stream_ref=10

 

Thanong Fanclub

Legal High: ละครวิจารณ์

คุณMei R Sriariyawat ช่วยสรุปวิจารณ์เรื่องLegal High ละครญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมสูงให้พวกเราได้อ่านกัน เป็นพระคุณอย่างยิ่ง ให้สมาชิกแฟนคลับลองอ่านดูแล้วช่วยกันสรุปว่า เรื่องนี้มีอุทาหรณ์คล้ายๆกับประเทศไทยอย่างไร แล้วผมจะเฉลยทีหลัง ลองดูนะครับ:

Legal High ตอนที่ 9-10 : การปฏิวัติประชาชน


Legal High เป็นละครญี่ปุ่นที่มีเนื้อหาประหลาด?!?! แต่ได้รับเสียงตอบรับดีชนิดเกินคาดแบบเอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่ ปัจจุบันนี้เรื่อง Legal High มี 2 ซีซั่น ซีแรกเรตติ้งประมาณสิบกว่า แต่มาซี 2 พุ่งกระฉูดไปเหยียบเลข 2 กันเลยทีเดียว และด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่ามันมีดีอะไร เราก็เลยต้องทำการดูซะให้รู้ดำรู้แดงไปเลย ว่ามันมีดียังไงค่ะ ฮี่ๆ


เนื้อเรื่องคร่าวๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ โคมิคาโดะ มาซาโตะ ทนายนิสัยอุบาทถ์ น่ารังเกียจ หน้าเงิน แถมหน้าตาก็ยังตลกอีกตะหาก (กร๊ากกกก) แต่กลับเป็นทนายที่เก่งมาก คือได้ชื่อว่าไม่เคยว่าความแพ้เลยสักครั้ง หึหึ สุดท้าย ไปไงมาไงไม่รู้ ได้มาจับคู่กับลูกน้องสุดใสซื่อบริสุทธิ์ ทนเห็นความอยุติธรรมในสังคมไม่ได้อย่าง มายูสุมิ มาจิโกะ ค่ะ (แสดงโดยงักกี้ค่ะ ใครสาวกงักกี้กรุณาดู เพราะเธอน่ารักมากกกก)


แต่ละตอนของเรื่องนี้ก็ดำเนินเรื่องแบบเป็น Case by Case นะคะ แต่ตอนที่ดูแล้วมันเหมือน จู่ๆ ก็มี ลูกดอก พุ่งตรงปักเข้ามากลางใจนี่… เป็นตอนที่ 9-10 ซึ่งเป็นตอนที่เกี่ยวกับคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านเยน ของบรรดาคนแก่ในเมืองคินูมิ (ออกแนวบ้านนอกอ่ะค่ะ) ส่วนสาเหตุที่ฟ้องร้องคือการปล่อยสารพิษที่เป็นอันตรายออกมาจากโรงงาน มาสู่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ทำให้ผู้คนที่ได้รับสารพิษมีสุขภาพที่แย่ลง จนมีหลายๆ คนล้มตายเนื่องจากความไร้ความรับผิดชอบของบริษัทนั้น


คดีนี้มันน่าสนใจตรงที่คนแก่มาต่อสู้กับบริษัทเซมบะ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศนี่ล่ะค่ะ


ตอนแรกดูก็ยังไม่ได้คิดอะไรนะ ก็ดูต่อไปเรื่อยๆ เพราะเคสประเภทเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมนี่ เราก็เห็นกันดาษดื่นทั่วไป แต่ใครจะชนะก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องนะ หึหึ


ประเด็นที่น่าสนใจมากๆ ในตอนนี้ก็คือ เมื่อมีการดำเนินการในชั้นศาลไปได้ซักพัก ทางบริษัทใหญ่ต้องการยอมความนอกศาลให้เร็วที่สุด ก็เลยพยายามทำ CSR แบบเร่งด่วน คือทางบริษัทนัดกลุ่มคนแก่ผู้เป็นโจทก์เพื่อทำการยอมความ แน่นอนว่าทางทนายหัวเรียบแปล้ผู้หยิ่งยโสมาด้วย (พระเอกนะ ฮ่าๆ)


การพบปะครั้งนี้ เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายของโจทก์ เพราะฝ่ายบริษัทเซมบะเค้ามาแบบนิ่มๆ เอาผู้บริหารมาคุกเข่าขอโทษอะไรกันแบบนี้เลยทีเดียว ขอโทษเสร็จก็หยิบยื่นไมตรีให้ด้วยเงินจำนวนหนึ่งและขนมหรูๆ อีกหนึ่งกล่อง พร้อมทั้งเข้ามาจับไม้จับมือสัญญิงสัญญาว่าจะดำเนินการแก้ไข จะเข้ามาสานสัมพันธ์กับท้องถิ่น ประมาณว่าเราจะเดินไปด้วยกัน อะไรอย่างนี้ (มาตรการ CSR อย่างเร่งรัดไงคะ คริคริ) 


บรรยากาศเต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์และ ( เหมือนจะ) ชื่นมื่น ในช่วงแรกๆ ท่ามกลางความมึนงงของคนแก่ฝ่ายโจทก์ แต่สถานการณ์กลับพลิกผันเมื่อโคมิคาโดะ (คุณทนายพระเอก) เอารูปภาพการยัดเงินระหว่างฝ่ายบริษัทเซมบะ กับผู้แก่ท่านหนึ่งในฝ่ายโจทก์ มาตบหน้าฝ่ายบริษัทเซมบะว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความจริงใจ ทางฝ่ายบริษัทเซมบะก็เลยเสียหน้า คอแข็ง สะบัดหัวกลับไปแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว


พอทางฝ่ายบริษัทเซมบะกลับไป ก็มีคนแก่คนหนึ่งเอ่ยขึ้นประมาณว่า เออ เค้าก็มาขอโทษแล้ว แสดงความจริงใจให้เห็นว่าเสียใจแล้ว เงินก็ได้มาพอสมควร (แบ่งกันได้ประมาณคนละล้านเยน) ก็ยอมๆ ความเค้าไปเถอะ เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่มี เพราะทางฝ่ายคนแก่ทั้งหลายเองก็ใช่ว่าอยากจะมีเรื่องมากมาย


เท่านั้นแหละ ทุกคนก็เฮโลให้อภัยกันใหญ่ แบบ เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องความจริงใจและไมตรีสำคัญกว่า อะไรอย่างนี้


(สถานการณ์ดูคุ้นๆ เหมือนบ้านเราไหมพี่น้อง เหอเหอ)


เท่านั้นแหละ ทางฝ่าย โคมิคาโดะเซนเซ (ทนายที่โน่นเค้าเรียกเซนเซนะคะ) ก็ลุกขึ้นมา ‘จัดหนัก’ กับบรรดาผู้แก่ผู้เฒ่ากันเลยทีเดียวค่ะ จัดหนักยาวมาก อยากตัดแค่บางส่วน แต่มันดีมากจริงๆ เลยไม่ขอตัดค่ะ เอามันหมดนี้แหละ ฮ่าๆๆๆ ตามนี้เลยค่ะ


‘“นี่แหละ ที่เขาเรียกกันว่าทฤษฏีสมคบคิดระดับประเทศที่มันฝังรากลึกมาเป็นระยะเวลาแรมปี เมื่อผู้คนถูกเลี้ยงให้เชื่องมาเนิ่นนาน จนในที่สุดก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สั่งให้หันซ้ายก็ซ้าย หันขวาก็ขวา ไร้ค่าไม่ต่างอะไรกับเห็บหมัด ขนาดตัวเองถูกฆ่าตายอย่างช้าๆ ก็ยังหลอกตัวเองว่าชีวิตมันมีความสุข ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าถูกเขาหลอกให้ไปตาย”


“ประเทศนี้มันทอดทิ้งคนจนคนบ้านนอกโดยเอาการพัฒนาประเทศมาบังหน้า และเพราะพวกคนแก่มันไร้ค่า มีความสุขอยู่กับแค่เศษเงินบำเหน็จบำนาญ แค่ขนมห่อสวยๆ ห่อเดียวก็เก็บกวาดเรื่องเลวๆ ที่พวกมันทำได้แล้ว แบบนี้ไงล่ะ พวกบริษัทใหญ่มันถึงเห็นพวกคุณเป็นแค่เห็บเหา ก็เพราะพฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่หรือไงที่มันเป็นพฤติกรรมของปรสิตดูดเลือดหรือไม่ก็เชื้อโรคสกปรกๆ น่ะ!”


“กาลครั้งหนึ่งที่ผ่านมา ณ ดินแดนแห่งนี้ ถูกกล่าวขานเอาไว้ว่าเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นหม่อน ทุกครอบครัวต่างก็เลี้ยงตัวหม่อนจนกระทั่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ผลิตเส้นไหมได้งดงามที่สุดจนกระทั่งดินแดนแห่งนี้ถูกเรียกขานว่า ‘คินูมิ’ (ไหมแสนสวย) หลังจากที่อุตสาหกรรมเส้นไหมเริ่มถดถอย ผู้คนจึงเปลี่ยนมาเป็นปลูกข้าว ในที่สุด ที่แห่งนี้ก็ถูกสรรเสริญว่าเป็นแห่งปลูกข้าวที่ดีที่สุด สาเกที่คุณภาพดีที่สุดก็ถูกผลิตจากข้าวของที่นี่ แต่หลังจากที่รัฐบาลปรับเปลี่ยนนโยบายด้านการเกษตร ข้าวที่นี่ก็ขายได้น้อยลง จนในที่สุด เมื่อคนที่นี่ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี ประชากรจึงเริ่มลดลง ที่เหลืออยู่ที่นี่มีแต่คนแก่ที่อยู่ได้ด้วยเงินอุดหนุนจากภาครัฐ จนกระทั่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โรงงานเคมีจึงถูกก่อสร้างขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พวกคุณทุกคนก็ได้รับเศษเงินจำนวนหนึ่ง หลายๆ คนถึงกับเลิกทำไร่ทำนาใช่หรือไม่ ?? พวกนั้นถึงกับสร้างอาคารว่างๆ อย่างอาคาร Contact Center ให้กับพวกคุณ แถมยังติดตั้งไฟเบอร์ออปติคให้อีกต่างหากแม้ว่าพวกคุณจะใช้ไม่เป็นก็ตาม ซาบซึ้งบุญคุณกันมากใช่ไหมล่ะ ? ซาบซึ้งกันถึงขั้นเปลี่ยนชื่อเก่าๆ อย่าง ‘คินูมิ’ ไปเป็นชื่อไฮโซอย่าง ‘เซาท์ มอง บลังค์’ สุดท้ายแล้วเป็นไง มาถึงตอนนี้ ทั้งดินเองก็ปนเปื้อนสารพิษ น้ำก็สกปรก คนเริ่มเป็นโรคร้าย และมีความเป็นไปได้ว่าพวกคุณเองก็จะมีชีวิตอยู่บนดินแดนนี้ได้อีกไม่นาน โว้ววว นี่มันเยี่ยมไปเลย! ยอด ยอดมากๆ และด้วยเศษเงินกับเศษขนมพวกนี้ ดินจะดีขึ้น น้ำจะหายปนเปื้อน! พวกคุณจะหายจากการเป็นโรคร้าย! และโรงงานก็จะยังคงปล่อยสารพิษต่อไปโดยที่พวกคุณไม่มีปัญหาอะไรกับมันเลยใช่ไหม ?! เพราะว่าพวกคุณมีสายใย ความสัมพันธ์อันดีกับทางโรงงานเขานี่นา”


พูดมาถึงขนาดนี้ เจ็บขนาดนี้ไม่โดนซักหมัดก็บ้าแล้ว พวกคนแก่โกรธมากถึงขั้นต่อยหน้ากันเลยทีเดียว พร้อมกับต่อว่าต่อขานคุณทนายปากสุนัขของเราประมาณว่า พวกกรูรู้อยู่แล้วววว ว่ากรุมันถูกกระทำชำเรา! แต่จะให้ทำไงได้ กรุมันแก่แล้วนี่หว่า! อะไรทำนองนี้


โคมิคาโดะเซนเซเลยถามกลับไปคำเดียวสั้นๆ แต่ไม่มีใครตอบได้ว่า


‘ทำไม ?????’ = ทำไมต้องทน ??????


ใช่ค่ะ ทำไมคนอย่างเราๆ ถึงแม้จะเป็นคนแก่ เป็นคนจน เป็นรากหญ้า เป็นคนชั้นกลาง หรือเป็นใครก็ตาม ทำไมเราต้องทนเป็นผู้ถูกกระทำจากผู้มีอำนาจ กลุ่มนายทุน กลุ่ม Central Planner ทำไมล่ะคะ ????


ท่านทนายปากจัดของเราเลยจัดต่อว่า


“ที่ต้องทนเพราะพวกคุณได้รับความเห็นใจ อยากได้ความสงสาร อยากได้คนมาทำดีด้วย อยากได้แค่นี้เองหรือไง ? ไม่คิดบ้างเหรอว่าบรรพบุรุษจะอับอายขนาดไหนว่าลูกหลานมันน่าสมเพช! เซาท์มองบลังก์บ้านแกสิ ทำไมไม่คิดว่าหมู่บ้านคินูมิมันงดงามกว่ามองบลังก์! และเพราะคนมันไร้ความรับผิดชอบหรือเลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็นในสิ่งที่ไม่อยากจะเห็น คุณทั้งหมดก็เลยมองข้ามมันและอยู่ร่วมกันไปอย่างมักง่าย แต่ถ้าคุณจะมีศักดิ์ศรีของตัวเองสักนิด คุณก็จะมองเห็นความจริงที่ซ่อนอยู่… สิ่งที่ไม่มีใครอยากจะเห็น คุณจะเลิกมองข้ามบาดแผลที่ฝังลึกและก้าวออกไปข้างหน้า! นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงเรียกมันว่าสงคราม! แต่ถ้าจะแค่บ่นไปวันๆ ล่ะก็ โน่น ไปบ่นในโลงเถอะคุณ!”


“เงินไม่ใช่ทุกอย่างงั้นเหรอ? เฮอะ! มันเงินทั้งนั้นแหละ! มันเป็นวิธีที่คุณแสดงให้คู่ต่อสู้เห็นว่าคุณมีสติปัญญาพอที่จะชกสวนกลับเวลาที่อีกฝ่ายเขาชกบุกเข้ามา และกล้าพอที่จะตอบโต้ในยามที่คุณถูกทำร้ายเอารัดเอาเปรียบ ทางเดียวที่คุณจะเอาศักดิ์ศรีของคุณคืนมาได้คือค่าชดเชยที่สมน้ำสมเนื้อ ไม่มีอย่างอื่นอีกแล้ว!”


ไอ้ย่อหน้าสุดท้ายว่าด้วยเรื่องเงิน จะว่าไปมันก็จริงนะคะ คนเราถูกโกง ประเทศถูกโกง เราก็ควรจะต้องได้ในสิ่งที่เราถูกโกง คูณด้วยความร้ายแรงของความผิดนั้นๆ เข้าไปด้วยจริงไหมคะ ไม่งั้นใครจะเกรงกลัวกฎหมาย ใครจะกลัวการคอรัปชั่น ??


จุดประสงค์ของการรีวิวนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินแต่ประการใด แต่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันนี้ ลองกลับไปพิจารณาคำพูดของท่านทนายปากจัดของเราอีกรอบ และจะเห็นว่าหลายๆ เรื่อง มันสอดคล้องกับบ้านเราอย่างประหลาด


ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความงดงามตามธรรมชาติที่ถูกทำลายด้วยระบบคิดแบบอุตสาหกรรมและทุนนิยม


ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้คนที่ก้มหัวงกๆ ให้กลุ่มผู้คอรัปชั่นบ้านเมือง ยอมมอบเสียงของตัวเองเพื่อแลกกับเศษเงินที่พวกนักการเมืองมันโยนให้ ไม่ต่างอะไรกับเศษเงินที่โรงงานเซมบะโยนให้พวกคนเฒ่าคนแก่เลยแม้แต่น้อย และเศษเงินที่โยนไป ผู้รับเศษเงินนั้นก็ต้องรับกรรมจากการแก้กฎหมายก็ดี การเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มทุนก็ดี รวมทั้งการทำลายทรัพยากรของประเทศอย่างเลือดเย็นด้วย


ที่สำคัญที่สุดคือ… ที่ผ่านมา เราเลือกที่จะมองข้ามบาดแผลที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้นของสังคม เรามองข้ามความเสียหายที่เกิดขึ้นจากน้ำมือรัฐบาล และเรามองข้ามการคอรัปชั่นในระบบรัฐ เราเลือกที่จะคิดว่าการจ่ายใต้โต๊ะเป็นเรื่องปกติ เราเลือกที่จะเรียกพวกนักการเมืองน้ำเลวว่า ‘ท่าน’ เราเลือกที่จะให้สิทธิพิเศษกับบุคคลที่ทำลายชาติบ้านเมือง และแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างมันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องอยู่กับมัน


แต่มาวันนี้ การปฏิวัติประชาชนที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คงเหมือนกับบรรดาคนแก่ในเมืองที่เต็มไปด้วยสารพิษปนเปื้อนแห่งนี้ คือ… เรายอมไม่ได้อีกต่อไป


เราจะไม่เพิกเฉยต่อความเสียหายของประเทศจากน้ำมือรัฐบาล เราจะไม่เพิกเฉยต่อการคอรัปชั่นในระบบรัฐ เราจะมองการจ่ายใต้โต๊ะว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เราจะต้องเอานักการเมืองน้ำเลวเข้าคุก และต้องเรียกร้องให้พวกมัน ‘จ่าย’ ค่าชดเชยให้คนทั้งประเทศโทษฐานโกงประเทศ


ดูละครแล้วย้อนกลับมามองประเทศตัวเองค่ะ อย่างที่บอก… ดูแล้วมันเหมือนโดนเข็มทิ่มลงกลางใจทีเดียว


และสำหรับคนที่เรียกร้อง ‘Respect my Vote’


ถามแค่คำเดียวค่ะ ว่าคนที่เห็นคะแนนโหวดว่าเป็นสิ่งของที่ซื้อได้ คนเหล่านี้เค้าให้ความเคารพเสียงของเราจริงๆ น่ะเหรอคะ ??? ช่วยเก็บเอาไปคิดกันหน่อยนะ



Mei
13/1/2557

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ลูกไอ้ขี้เรื้อนมันขึ้นเวที คปท.ได้

 

แต่ขึ้นเวที กปปส. ไม่ได้

 

เขาไล่ไม่ให้มันขึ้น

 

 

คงแค้น

 

ช่างมันเห๊อะครับ

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้แชร์ รูปภาพ ของ Kanitha Kaewpoungngam

ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว
ผมขำ และสมเพช ที่อุตส่าห์มีคนรักเจ้า เอาเรืองนี้มา "เล่น"

ก่อนอืนนะ กลอนนนี้ ไม่มีอะไรเลย เป็นอาเศียรวาท อย่างที่มีการเขียนกันมาเป็นสิบๆปีแล้ว (เปรียบในหลวง เป็นฟ้าสว่าง แก้ความแห้งแล้ง ความทุกข์ร้อน)

ทีสำคัญ มันสะท้อนว่า คนรักเจ้าไทย (ซึ
งสมัย นี้ส่วนใหญ่มีการศึกษาสูงๆทั้งนั้น) สติปัญญา วิปริตมากๆ คือ แค่กลอน ที่ไม่ได้ negative ต่อเจ้าด้วยซ้ำ เชียร์ สรรเสริญด้วยซ้ำ ยัง "ประสาทแดก" ขนาดนี้

อย่างทีผมเขียนไปหลายอันเมือวานและวันนี้ ถ้าอะไรที่ดีจริง วิเศษจริงๆ ไม่มีอะไรต้องกลัว การวิพากษ์วิจารณ์ การเสนอข้อมูลด้านลบ การโจมตีเลย (ดู ควีนอังกฤษ เป็นตัวอย่าง โดนล้อเลียน เละ ขนาดไหน คนยังเชียร์)

นี่ขนาด กลอนเชียร์แท้ๆ ไมใช่กลอนวิจารณ์ ไมใช่กลอน negative เลย ยังกล้ว กันขนาดนี้

กลัวอะไรครับ?