ส่วนห้างร้านบริเวณ 4 แยกปทุมวัน สยาม 4 แยกราชประสงค์ คงหนาวแน่ หากพวกเสื้อแดงมายึดพื้นที่ต่อ
- เสือยิ้มยาก, กรรมกรไอที, MuuSang and 13 others like this
nastyfunky hasn't added any friends yet.
โดย Matrix on 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 23:59
ส่วนห้างร้านบริเวณ 4 แยกปทุมวัน สยาม 4 แยกราชประสงค์ คงหนาวแน่ หากพวกเสื้อแดงมายึดพื้นที่ต่อ
โดย sanskrit_shower on 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 13:27
เสาร์-อาทิตย์นี้ ไปดูหนังกันครับ
โค้กซื้อเอง-ป๊อบคอร์น ฟรีตลอดเรื่อง.....................
อิเจี๊ยบอยู่ในสถานการณ์เป็นตายเท่ากันด้วยสินะครัช
โดย ตะขบ on 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 21:00
โดย ctpk05 on 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 14:51
ภาพแบบเต็มครับ ทรงโปรดให้คุณยายท่านหนึ่ง นั่งเสมอพระองค์เลย (ไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าของร้านรึเปล่า) ทรงไม่ถือพระองค์เลย แก้วน้ำเสวยก็เป็นแก้วแบบธรรมดา
ทรงพระเจริญ
https://www.facebook...?type=3
โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 15:00
จีนโหวตทางเน็ต สมเด็จพระเทพฯ มิตรดีที่สุดในโลก อันดับ 2
เผย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงได้รับการเทิดทูนและยกย่องจากชาวจีนให้เป็น "มิตรที่ดีที่สุดในโลก" อันดับที่ 2 โดยทรงได้รับคะแนนโหวตจากชาวจีนทั่วประเทศถึงกว่า 2 ล้านคะแนน คนไทยสุดปลื้มปีติที่ทรงได้รับการถวายพระเกียรติ หลังจากก่อนหน้านี้ทรงได้รับการถวายพระสมัญญาว่าเป็น "ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน" และทรงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนแน่นแฟ้นมากขึ้นเป็นทวีคูณ จากการเสด็จฯเยือนจีนจนครบหมดทั่วทุกมณฑลของจีนที่กว้างใหญ่ไพศาล
นับเป็นข่าวที่พสกนิกรไทยสุดปลื้มปีติยินดีอย่างยิ่ง และถือเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งที่โลกและชนสองชาติคือไทย-จีน ต้องจารึกไว้ เมื่อสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงได้รับการเทิดทูนและยกย่องจากชาวจีน ให้เป็น "มิตรที่ดีที่สุดในโลก" หลังจากที่ทรงได้รับการยกย่องและได้รับพระสมัญญาว่าเป็น "ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน" จากการที่ทรงเจริญสัมพันธไมตรี ด้วยการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศจีนถึง 20 ครั้ง และยังเสด็จเยือนครบหมดแล้วในทุกมณฑลของจีน ซึ่งมีแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลมาก นับเป็นราชนิกูลพระองค์เดียวในโลกที่เสด็จเยือนจีนมากที่สุด ทำให้ทรงเป็นประดุจสัญลักษณ์ของมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างไทย-จีน อีกทั้งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงสนพระทัยในภาษาจีน รวมทั้งให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมของจีนอย่างมาก ส่งผลให้ ความสัมพันธ์ของไทย-จีน กระชับแน่นและมีความพัฒนามากขึ้นเป็นทวีคูณ
ทั้งนี้ ข่าวอันน่าปลื้มปีติครั้งนี้ เป็นที่เปิดเผยขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 30 ต.ค. หลังจากมีรายงานว่า มีข่าวทางอินเตอร์เน็ตว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รับการโหวตทางอินเตอร์เน็ตจากชาวจีนทั่วประเทศ ด้วยคะแนนกว่า 2 ล้านคะแนน ให้สมเด็จพระเทพฯ เป็นมิตรที่ดีที่สุดในโลกอันดับ 2 โดยมิตรที่ดีที่สุดในโลกที่ชาวจีนโหวตให้เป็นอันดับ 1 คือ ฮวน อันโตนิโอ ซามารานซ์ อดีตประธานโอลิมปิกสากล ชาวสเปน ที่เป็นผู้สนับสนุนให้จีนได้จัดกีฬาโอลิมปิกในปี 2008 นอกจากนี้ยังมีการจัดอันดับมิตรที่ดีที่สุดในโลกของจีน ในอันดับอื่น ๆ อีก แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับการโหวตเป็นผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว
ค่ำวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายกวนมู่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ถึงข่าวอันเป็นที่น่ายินดีและสุดปลื้มปีติของคนไทย ในการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงได้รับการยกย่องจากชาวจีนว่าเป็นมิตรที่ดีที่สุดในโลก ว่ายังไม่ทราบข่าวที่แน่ชัด แต่จะขอตรวจสอบไปทางประเทศจีนก่อนถึงข่าวอันน่ายินดีนี้และจะเปิดเผยให้ทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากพระราชประวัติของสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มีผู้เขียนไว้เป็นรายงานพิเศษในบล็อกทางอินเตอร์เน็ต มีการระบุไว้ว่า สมเด็จพระเทพฯ หรือที่คนจีนทั่วไป คุ้นเคยกับการกล่าวขานพระนามของพระองค์ว่า "สิรินธร" ได้เสด็จเยือนประเทศจีนเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2524 และเพียง 23 ปี ให้หลังก็ทรงเสด็จเยือนจีนได้ครบหมดทุกมณฑล ทั้งที่บางมณฑลของจีนมีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทย
นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพฯยังทรงเรียนภาษาจีนจนเชี่ยวชาญและยังทรงเคยเสด็จไป ศึกษาภาษาและวัฒนธรรมของจีน เพิ่มเติมถึงมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นเวลา 1 เดือน เมื่อปี 2544 สร้างความประหลาดใจและปลาบปลื้มใจแก่ คณาจารย์ชาวจีนที่ถวายการสอนอย่างยิ่ง ว่าเหตุใดสมเด็จพระเทพฯจึงทรงให้ความสำคัญกับประเทศจีนและภาษาจีนขนาดนี้ และเมื่อช่วงเวลาแห่งการเรียนภาษาจีนสิ้นสุดลง ทางมหาวิทยาลัยได้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่พระองค์ เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 44 และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2543 กระทรวงศึกษาธิการของจีน ก็ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลมิตรภาพภาษาและวัฒนธรรมจีนแด่สมเด็จพระเทพฯด้วย นอกจากนี้สมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์แห่งประชาชนจีน ก็ได้ถวายสมัญญาพระนามแด่สมเด็จพระเทพฯ ให้ทรงเป็นทูตสันถวไมตรีไทย-จีนเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2547
นอกจากการ เรียนภาษาและวัฒนธรรมแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงเรียนการเขียนลายสือจีน การวาดภาพแบบจีน และฝึกรำมวยไทเก๊ก จนเชี่ยวชาญอีกด้วย จากการที่สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเยือนจีนทุกปีในช่วงที่ผ่านมา ยังทรงถ่ายทอดประสบการณ์การเยือนแผ่นดินจีนตั้งแต่ครั้งแรก เป็นพระราชนิพนธ์ให้คนไทยได้อ่าน อาทิ สารคดีท่องเที่ยวเรื่อง ย่ำแดนมังกร มุ่งไกลในรอยทราย เกล็ดหิมะในสายหมอก ใต้เมฆที่เมฆใต้ เย็นสบายชายน้ำ คืนถิ่นจีนใหญ่และเจียงหนานแสนงามเป็นต้น ซึ่งทุกพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพฯ ไม่เพียงจุดประกายให้คนไทยไปเที่ยวจีนมากขึ้น แต่ยังช่วยให้ คนไทยมีความเข้าใจในประเทศจีน คนจีนและวัฒนธรรมจีน เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณด้วย
โดย ter162525 on 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 15:55
มีหมูกะทะเจ้านึง ไปกินละกลับ เมืองๆ ก็ดูปรกตินะ ผมว่าไปเดินหนองคาย อะไรเงี้ยสนุกกว่า ปะล้ำปะเหลือ
อิอิ สาวๆ ด้วยครับ ผมไปอยู่เชียงใหม่ประมาณ เกือบ 2 ปี บอกเพื่อน ว่าหน้าตา ด่าๆ (งั้นๆ) เพื่อนมันเลย ถามหญิงหนองคายสวยขนาดไหนว่ะ
เลยพามัน ไป แวะเที่ยว ดู ในเมือง พอดี มีงานกาชาด คนมาเที่ยวเยอะ วันนั้นมันขับรถวนดู 3-4 รอบ สุดท้ายมันเลยขอให้พาไปถึงหนองคาย
พอดีไม่รู้ที่ เลยถึงสาวลาวแทนสบายตัวไป 55
โดย asawinee on 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 13:43
รพ.มงกุฎ วัฒนะ ขอรายงานว่า คุณสุวรรณ แก้วพุฒิ ซึ่งบาดเจ็บสาหัสที่สุด จาก M.79 ทะลุปอด สามารถออกจาก รพ.ได้แล้ว และได้กลับไปพักค้างในที่ชุมนุมกับหลวงปู่พุทธอิสระ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.57 แล้ว ได้โปรดแชร์ให้ทราบทั่วกันด้วยครับ
บนเวที ลุงกำนันได้ประกาศว่า การรักษาพยาบาลครั้งนี้ คุณหมอไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่น้อย
กราบขอบพระคุณ คุณหมอที่ได้ช่วยเหลือมวลมหาประชาชนอย่างสุดกำลัง
ซึ้งใจจริงๆ
โดย asawinee on 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 13:15
น้องแชมป์ ลูกชายคุณประคอง หลังจากพ่อจากไปวันนั้น ก็ไม่เคย ถามถึงพ่อให้แม่ลำบากใจตอบ
อีกเลย เพราะรู้แล้วว่าพ่อไปไหน
โดย เรื่อยๆเอื่อยๆ on 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 21:13
โดย พ่อไอ้ตอม on 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 09:32
http://www.manager.c...D=9570000018082
"การที่ธนาคารออมสิน ให้ ธ.ก.ส.กู้ 20,000 ล้านบาท ระยะเวลาชำระหนี้ 9 เดือน โดยอ้างว่าเป็นการให้กู้แบบอินเตอร์แบงก์ทั่วไป โดยมี letter of comfort จากกระทรวงการคลัง เป็นหลักฐาน ไม่ใช่ให้กู้ไช้ในโครงการรับจำนำข้าว แต่คำถามที่เกิดขึ้นคือนี่เป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ เพราะการกู้แบบอินเตอร์แบงก์นั้น วัตถุประสงค์คือเพื่อเสริมสภาพคล่อง เป็นการกู้ระยะสั้น ปกติแล้วเพียงแค่วันเดียวสองวัน อย่างที่เรียกกันว่า overnight ด้วยซ้ำ ไม่ใช่ 9 เดือนอย่างที่ทำ มีธนาคารไหนในโลกปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ 9 เดือนบ้างมั้ย และถ้าเป็นธนาคารเอกชนจะกล้าทำอย่างนี้มั้ย ผู้บริหารเงินฝากของลูกผม 2 บัญชีช่วยตอบหน่อย ถ้าไม่ตอบวันนี้ช่วยตอบผมในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการเงินฯ วุฒิสภา อังคารที่จะถึงนี้ด้วย"
จบแล้วครับ ออมสินให้ธกส.กู้แบบอินเตอร์แบงก์ (นอกตำรา) 9เดือน
แค่ใช้ชื่ออื่นแต่ "ให้กู้ไปหมดแล้ว" เอาเงินเด็กไปผลาญจ่ายค่าโกงข้าวจนได้
สมแล้วที่ผู้บริหารออมสินคนนี้ ได้ดีจากระบบมีคดีติดตัวแต่ก็ดันจนได้เป็นผู้บริการออมสิน
โดย ชาวสวน on 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 21:19
โดย asawinee on 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 10:31
โดย Rxxxx on 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 13:45
ตำตามั้ย !? รัฐบาลอภิสิทธิ์ให้เงินไปทำรถไฟ 1.76 แสนล้าน ตั้ง 3 ปีแล้วรัฐบาลยิ่งลักษณ์ระงับโครงการไปขอกู้นอกระบบ pic.twitter.com/Z0W85BcIFWมันคืออิหยังหว่า
ถ้าอีปูไม่โยกงบเอาโครงการนี้เป็นตัวประกัน ป่านนี้ทางรถไฟสายใต้คงได้รับการรื้อใหม่เพื่อปรับปรุงเส้นทางเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เส้นทางใหม่ไปถึงภูเก็ตที่ค้างมา 50-60 ปี เวนคืนที่ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว จะได้เริ่มก่อสร้างสักที
ปชป.นี่แหละที่สนับสนุนรถไฟ รถไฟฟ้าใต้ดิน ลอยฟ้ามาตลอด
คลิปโครงการปรับปรุงเส้นทางรถไฟสายอีสานบนที่เห็นข้างล่าง ก็ ปชป.อนุมัติ จนตอนนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ไม่ใช่โดนดองทั้งรถไฟ รถไฟฟ้าใต้ดิน บนดินตั้งแต่ไอ้เหลี่ยมเป็นนายกจนคนไทยเสียโอกาสมาสิบกว่าปี
โดย เตาะแตะ on 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 08:06
งวดนี้แรงส์ มาก ป๋าเปลวไม่กลัวสิ่งเทียมคนฟ้องเลย
ถึงจะสะไปด้วย
แต่เราต้องทนอยู่กับพวก XX ไปถึงไหน?
จะรอวันฟ้าเปิดได้ถึงเมื่อไร
***********************************
7 กพ.2557
http://www.thaipost....ws/070214/85685
เปลว สีเงิน
"วิสัชนาว่าด้วยเรื่องคนและสัตว์"
โชคร้ายของประเทศไทยที่ได้ "สัตว์ในร่างมนุษย์" เป็นผู้นำบริหารประเทศที่เรียกว่า "นายกรัฐมนตรี"
เป็น "สัตว์เพศเมีย" ซะด้วย!
ด้วยเหตุนั้น ภาพที่จะไม่เกิดขึ้นได้เลยในสังคมมนุษย์โลก จึงเกิดขึ้นได้ที่ประเทศไทย ณ พ.ศ.๒๕๕๗ อันการบริหารและปกครองอยู่ใต้ระบอบทักษิณ คือ
"รัฐบาลโกงเงินค่ารับจำนำข้าวชาวนา"
จนชาวนา "ผูกคอตาย" เพราะไม่มีเงินดำรงชีวิตประจำวัน!
เมื่อชาวนาทวงถาม นายกรัฐมนตรีกลับอ้างว่า เพราะธนาคารไม่ให้กู้บ้าง เพราะยุบสภาฯ แล้วบ้าง เพราะกำนันสุเทพนำคนชุมนุมบ้าง!?
มันเป็นคำแก้ตัวที่ไม่ใช่ไร้แค่ความรับผิดชอบ แต่มันไร้ความเป็นคนเลยทีเดียว
เพราะถ้าเป็นคนต้องมีหิริ คือ ละอายต่อบาปที่โกงชาวนา มีโอตตัปปะ คือ เกรงกลัวต่อบาปที่ทำกับชาวนานั้น
และมีสำนึกถึงผิดที่ตัวเองทำ ด้วยความรับผิดชอบตามตำแหน่งหน้าที่แห่งตน พร้อมทั้งแก้ไขสิ่งผิดนั้น
เยี่ยงนี้ จึงจะนับเป็นคนได้
ส่วนที่ "ปัดความรับผิดชอบ" ทั้งมวลด้วยไม่สำนึก เที่ยวไปโทษคนโน้น-คนนี้ ไม่เคยโทษตัวเองเลยนั้น
เยี่ยงนี้นับเป็นคนก็ไม่ได้
นับเป็นสัตว์ ก็ยังสูงไป สำหรับนังคนนี้.....!
เพราะสัตว์บางชนิดมันยังมีสำนึก รู้ผิด-รู้ถูก เช่นสุนัข เมื่อรู้ว่าผิด มันจะแสดงอาการ หลุบตา หู-หางตก
หลบไปซุกจ๋องๆ ไม่ออกมาเพ่นพ่าน ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งเทียมนายกฯ ของไทยที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ดังทุกวันนี้!
บทสรุป "ความต่างระหว่างคนกับสัตว์ มันก็มีสั้นๆ แค่นี้ว่า "คนโกงย่อมเลวกว่าสัตว์"
เพราะสัตว์โกงไม่เป็น
และสัตว์ไม่เคยโกงใคร!
ถ้าพูดถึงการโกงในภาครัฐบาล เท่าที่ปรากฏเป็นข่าว จากอดีตถึงปัจจุบัน จะโกงกันในรูปคอร์รัปชัน
ผ่านโครงการ ผ่านเงินช่วยเหลือ ผ่านนโยบาย ผ่านงบประมาณ ผ่านทรัพยากร ผ่านการจัดซื้อ-จัดจ้าง ผ่านการเบียดบัง และผ่านลาภอันมิควรได้ เหล่านี้เป็นต้น
ก็จะสังเกตเห็นว่า ต่อให้คนนั้นเลวด้วยการโกงขนาดไหน ก็ไม่ชั่วช้าเลวทรามถึงขั้นลงไปโกงระดับล้วงกระเป๋า "ชาวไร่-ชาวนา" ซึ่งถือว่า...
ชาวนา คือบุบผาวรรณะดอกหญ้า สวยงามเท่ากับความบอบบาง อัน ธรรมชาติสร้างให้มาหล่อเลี้ยงทั้งชีวิตมนุษย์และจิตวิญญาณโลก
ซึ่งต้องทะนุถนอมรักษา เท่ากับ น่าสงสารและเห็นใจ!
แต่รัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้ระบอบทักษิณ อันมีนางยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ เธอทำในสิ่งที่ผู้นำประเทศ "ที่เป็นคน" ทั้งโลก เขาไม่ทำกัน
คือโกงเงินค่ารับจำนำข้าวจากชาวนาซึ่งๆ หน้า รวมแล้วกว่า ๑.๓ แสนล้านบาท
ยังไม่นับในส่วนอาศัยข้าวชาวนานั้นไป "โกงเงินหลวง" อีกไม่รู้เท่าไหร่!?
ผมเหนื่อย เอียน ขยะแขยง เกินทน ที่จะยกเรื่องราวการโกงชาวนาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาแจกแจงถึงเสนียดชั่วให้ติดตัวเองซ้ำๆ ซากๆ
ขณะนี้ อย่าว่าแต่ภายในประเทศเลย...!
นอกประเทศ ด้วยสื่อแขนงต่างๆ เขาโพนทะนา...ประเทศไทย โดยยิ่งลักษณ์ น้องสาวทักษิณ โกงชาวนา จนระบือลือลั่นไปทั้งโลกแล้ว!
เขาตีแผ่กระทั่งว่า ด้วยนโยบายอ้างชาวนาบังหน้าไป "โกงชาติ" อีกต่อนั้น เป็นอานิสงส์ให้พม่า-เขมร-ลาว "ขนข้าวข้ามแดน" เข้ามาขายในราคาจำนำ
ได้เงินสด รวยกว่า-สบายกว่า ชาวนาไทยอีก!
ตรงนี้แหละ เป็นคำตอบส่วนหนึ่งของเงินรับจำนำข้าว ๗ แสนกว่าล้าน ว่า รัฐบาลขายข้าวได้คืนมาแค่ ๑.๘ แสนล้าน
แล้วส่วนต่าง ๔-๕ แสนล้าน มันหายไปไหน?
หายไปตรง.....
๑.โรงสีโครงการรัฐบาล รับซื้อข้าวชาวนาแค่เกวียนละ ๑๐,๐๐๐-๑๑,๐๐๐ บาท แล้วสมคบขายรัฐบาลเต็มราคาจำนำเกวียนละ ๑๕,๐๐๐ บาท
๒.พวกในขบวนการมันนั่นแหละ เอาข้าวลักลอบจากเขมร-ลาว-พม่า ซึ่งซื้อในราคาถูกกว่าข้าวไทย แล้วขายเข้าโครงการ ๑๕,๐๐๐ บาท
๓.พวกในขบวนการมันนั่นแหละ "เวียนเทียน" ข้าวตันเดียว เวียนขายเอาเงินหลวง ๑๕,๐๐๐ ได้ ๒-๓ รอบ
บางโรงสี ให้ขับรถบรรทุกข้าวผ่าน แล้วเวียนออกไปเลย อย่างนี้มันก็ทำกัน!
ไม่รวยฉิบหายจากโกงข้าวกันแค่คนระบอบทักษิณ-เจ๊ ด.-นัง ย. เท่านั้น ยังรวยเรี่ยราดไปถึงคนรัฐตามชายด่าน-ชายแดน กระทั่งตะกวดตรวจถนนย่านปทุมธานี
ซุ่มจับรถขนข้าวเขมร แล้วรีด...!
คืนๆ รวยเป็นแสน แต่ละเดือน แบ่งกันตั้งแต่ เงี่ยงปลาทูยันมงกุฎครอบดาว "ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ" เป็นกอบ-เป็นกำ ตามระบอบทักษิณนิยม!
ชาวนาจำนำข้าวรอบ ๕๖/๕๗ ผ่านไปแล้วกว่า ๔ เดือน ได้ใบประทวนแทนเงินกันคนละใบ-สองใบ จนถึง ๙ ธันวา ๕๖ ยิ่งลักษณ์ยุบสภาฯ
คือหมายความว่า ติดหนี้ชาวนาก่อนแล้วกว่า ๔ เดือน ถึงจะมายุบสภาฯ แล้วอย่างนี้ อ้างชุมนุม อ้างยุบสภาฯ ได้อย่างไร?
วงเงินรับจำนำข้าว ๕ แสนล้าน...มันเต็ม กู้ไม่ได้แล้ว ที่รับจำนำไว้ก่อนหน้าก็ยัดไว้ล้นโกดัง ขายไม่ได้ เพราะซื้อมาแพงกว่าราคาตลาด เว้นแต่เอาไปโกงกันเองได้
จึงไม่มีเงินหมุนเวียนรับซื้อข้าวรอบใหม่!
"ยักตื้นติดกึก-ยักลึกติดกัก" ๔ เดือนผ่านไป ก็ยังหาเงินจ่ายค่าข้าวประชานิยม ๑.๓ แสนล้านไม่ได้...
จนกระทั่งยุบสภาฯ เป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่มีอำนาจสร้างหนี้-สร้างสินผูกพัน ทอดยาวมาอีก ๒ เดือน จนชาวนาสุดทน หมดทั้งทุนทำนารอบใหม่ ไม่มีทั้งเงินค่าใช้จ่ายรายวัน!
บาปกรรมที่ทำกับชาวนา ทำกับประเทศชาติ ทำกับระบบค้าข้าวของประเทศ ด้วยหวังใช้ประชานิยมซื้อคะแนนนิยมให้พรรคตัวเอง
จึงเป็นบ่วงพันคอตัวเอง ดังขณะนี้!
ถ้ามีความเป็นคน "ซักนิด" เขาลาออกไปนานแล้ว จะไม่ลอยหน้า-ลอยดอก สู้เสียงด่า สายตาหยาม ของคนทั้งโลกอย่างที่นางยิ่งลักษณ์ลอยหน้า-ลอยตาอยู่ทุกวันนี้หรอก
และถ้ามีความเป็นคน "ซักครึ่ง" ย่อมละอายด้วยสำนึกในความเลวทรามตัวเองจากโกงชาวนา เขาจะไม่แค่ลาออก
แต่จะเชือดคอตัวเองตาย หรือโดดดอยสุเทพลงมาตาย เป็นการสมาโทษด้วยซ้ำ!
และก็แปลก....
เห็นจะมีแต่สังคมข้าราชการ สังคมทหาร สังคมตำรวจ สังคมวิชาการ สังคมการศึกษา สังคมศาสนา สังคมสื่อ เฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น
ทั้งรู้ ทั้งเห็น ตำตา-ตำใจโต้งๆ ว่า อีนาง-ไอ้นาย คนนี้-คนนั้น มันโกงชาติ ขายชาติ โกงกระทั่งชาวนา
แต่สังคมข้าราชการ และสังคมชาติ ยังคงค้อมหัว เอามือกอกระดุม ขอรับ..กระผม..ครับ..ค่ะ
คือรับอำนาจชั่ว-คำสั่งชั่ว อันเป็นโทษกับสังคมชาติไปปฏิบัติกันอยู่ได้!
ผมไม่เข้าใจ ข้าราชการไปค้อมหัว หิ้วชายกระโปรงให้หญิงบริหารโกงชาติอยู่ได้อย่างไร ทั้งที่อยู่ในสภาพนายกฯ เถื่อนด้วยซ้ำ?
มันสง่างาม และมีเกียรติ เป็นหน้า-เป็นตา ทั้งกับตัวเองและวงศ์ตระกูลมากนักหรือ?
ช่วยกันจับแขน-ขาคนละข้าง นับ ๑..๒..๓ แล้วโยนใส่ถังขยะให้หมาแทะ นั่นแหละคือความสง่างามที่ได้จากการทำคุณให้กับชาติและสังคม!
มันบริหารกันเอาแต่ ตำแหน่ง-อำนาจ-เงิน เท่านั้น ดูซี...เมื่อวาน (๖ ก.พ.๕๗) ชาวนายกขบวนไปทวงเงินถึงกระทรวงพาณิชย์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายยรรยง พวงราช นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
หนีเอาหัวไปมุดรูไหนอยู่มิทราบ?
ปล่อยให้ข้าราชการประจำระดับ "รองปลัดฯ" ซึ่งไม่มีอำนาจตอบเยส ตอบโน กับเจ้าหนี้คือชาวนา ออกมารับหน้าแทน
นี่คืออุทาหรณ์ข้าราชการ เกาะมือ-เกาะตีนการเมืองหวังใหญ่ ถึงเวลา นักการเมืองมันไม่เคยรับผิดชอบ กินแล้วก็ไป ทิ้งขี้ ทิ้งปัญหา ทิ้งฎีกาคุกไว้ให้ข้าราชการประจำรับหน้า-รับกรรม
วิบากกรรมสุดท้ายประเทศไทยกำลังจะสิ้น กำลังก้าวขึ้นสู่เส้นทางอนาคตสายใหม่ ฉะนั้น การปฏิบัติตนของข้าราชการ ควรเคารพนับถือคน
อย่าเคารพนับถือ "สัตว์ในร่างคน"!.
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net