Jump to content


nastyfunky

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 30 เมษายน 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 04:02
-----

#708947 3 จังหวัดภาคใต้มีเฮ เหลิมตั้ง"ดรีมทีม" มาช่วยแล้ว!!!!

โดย nastyfunky on 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 03:32

โถแต่ละคน ถนัดจุดไฟ




#700217 หมวดเจี๊ยบ.. เธอมีความสามารถอะไรบ้าง วันๆเห็นได้แต่จิกแต่กัดฝ่ายตรงข้าม!...

โดย nastyfunky on 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:46

ให้นา่งมัลลิกา โฆษกปชป ไปสอบ ทหารสัญญาบัตร ไม่รู้จะสอบติดหรือเปล่า ไม่รู้ใครมีความสามารถมากกว่ากัน 

 

 

ติ่ง มัลลิกา เคยเป็นนักจักรยานทีมชาติมาก่อนนะ

 

เป็นนักกีฬาทีมชาติได้นี่ ใช้เส้นคงไม่ได้อ่ะนะ

 

 

^_^  ^_^

ยังมีคนคิดอีกหรือว่า สอบสัญญาบัตร ต้องมีแต่ความสามารถ มอมอ




#700205 รวมความเห็นและข้อวิพากษ์วิจารณ์ ปาฐกถายิ่งลักษณ์ที่มองโกเลีย

โดย nastyfunky on 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:27

ตอบ วันนี้, 12:45

50297.jpg
คำกล่าวเปิดในเวทีประชาคมประชาธิปไตย ยิ่งลักษณ์ฟังเข้าใจหรือเปล่า สิ่งที่เขาพูดว่าคือตัวอย่างประเทศไทยเต็ม ๆ เพียงแต่ไม่เอ่ยชื่อเท่านั้นแหละ


(บางส่วน) Speech เปิดการประชุมของประธานาธิบดีมองโกเลีย
ในการประชุมประชาคมประชาธิปไตย ที่ประเทศมองโกเลีย
Credit: สถานี RTV1 สำนักข่าวออนไลน์ 24 ชั่วโมง


MR. TAKHIAGIIN ELBEGDORJ

....The trials and miseries of most of the countries which failed
or are being unsuccessful to build democracy
stem often times not from the people, but from bad governance.
Democratic orders in many cases are threatened and shattered
not by external factors, but by internal, from inside.
The losers of corruption are the people,
and winners are the corrupt officials.
Corruption, bad money and their dirty networks are powerful.
Corruption destroys people’s confidence in democracy.
Everyone knows that corruption and bad governance are
the mortal enemies of freedom and democracy.
Fighting corruption is the toughest test for officials in office.
Transition from rule of man to the rule of law
is one of the hardest challenges for any developing and aspiring state.
The state must serve not the power, but the people.
The same is true about the law. Judicial and public sector reforms,
the changes in the mindset of people do require time,
patience and persistence.
It’s been over 20 years since Mongolia began her strides
to democracy, yet there remain many issues pending solution........



(บวร ยสินทร :แปล)

.... จากประสบการณ์ของประเทศที่ล้มเหลว
หรือไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างประชาธิปไตย
พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากประชาชน แต่เกิดจากรัฐบาลที่ใช้ธรรมาภิบาลด้านเลว
หลักการประชาธิปไตยในหลายกรณีถูกคุกคามและทำลาย
ไม่ได้จากปัจจัยภายนอก แต่เกิดจากปัจจัยภายในประเทศ และจากภายในตัวรัฐบาลเอง
ประชาชนเป็นผู้เสียหายจากการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมือง
โดยผู้ได้ประโยชน์ก็คือเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองผู้ทุจริตนั้น
การฉ้อราษฎร์บังหลวง เงินทุจริต และโครงข่ายที่สกปรกมักทรงพลัง
การทุจริตคอรัปชั่นนี่เอง คือ ตัวบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย
ทุกคนย่อมรู้ดีว่าการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้ธรรมาภิบาลด้านเลว
คือศัตรูตัวฉกาจของเสรีภาพและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
การต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น คือ บททดสอบที่แสนยากสำหรับทางการ
การที่จะเปลี่ยนจากการใช้กฎกติกาที่กำหนดโดยผู้มีอำนาจมาเป็นการใช้กฎกติกาตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
จึงเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดในการพัฒนาประเทศและประชาธิปไตยตามที่มุ่งมาดปรารถนา
รัฐต้องไม่เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ แต่ต้องรับใช้ประชาชน
เช่นเดียวกับกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การปฏิรูปองค์กรสาธารณะก็เพื่อการรับใช้ประชาชน
การเปลี่ยนแปลงความนึกคิดเหล่านี้ล้วนต้องใช้เวลา
ด้วยความอดทนและความเพียร
กว่า 20 ปี ที่มองโกเลียก้าวเดินสู่ระบอบประชาธิปไตย
ก็ยังมีปัญหาอีกมากมายหลายประเด็นที่รอการแก้ไข ........


Plume Boonmartun ถ้านายกปูฟังรู้เรื่อง คงไม่พูดแบบนั้นออกไปให้ผู้นำนานาชาติฟัง เพราะสปีชของปธน.มองโกเลีย ชัดแล้ว ว่า เพราะมีรัฐบาลชั่วประชาธิปไตยจึงล้มเหลว
นภศร นุจรี ศิริมังคะโล นางจิ้งจอก มันโง่มันฟังเขาพูดรู้เรื่องหรือเปล่า ว่าเขาด่ามันกับโคตรมันว่าบริหารประเทศใด้เลวเนรคุณแผ่นดินสุดๆๆ มันยิ้มระรื่นบอกขอบคุณคะ่ควายเอ้ย
Tong Preechasak อันนี้คงยากเกินตัวอะมีบ้าที่ชื่อยิ่งลักษณ์จะเข้าใจ ขนาดนักข่าวถามตรงๆ มันยังงงกับคำถามนักข่าว ตระกูลนี้มีกรรม สมองพัฒนาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ค่อยๆ ขยับลงกลายเป็นสมองสัตว์เซลเดียว
กรกรด กดกฏกฎ อีดอกคงฟังภาษาเขาไม่รู้เรื่อง ***ตอแหลความเลวของพี่โกงแผ่นดินถูกรัฐประหารหนีออกนอกประเทศ เขาฟังมันพูดเสร็จเขาคงสมน้ำหน้าคิดอยู่ในใจว่าพี่ชั่วน้องเลวสายเลือดมัน***ตอแหลข้ามชาติ ไม่น่าให้อีดอกเข้ามาประเทศเลยเสนียด***จริงๆๆๆๆๆกลัวเชื้อโกงแผ่นดินแปดเปื้อนประเทศเขา

 

อันนี้แร๊งส์

เปลี่ยนนายกกันเถิด นะ เห็นอีบ้าแถวนี้ ถ้าไม่ยศเป็นถึงนังยกละก็ จะตบปากมัน โดนปรับจ่าย 500 ก็ยอม




#698735 อ่องซานซูจีฝากมาบอกว่า ....

โดย nastyfunky on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 04:07

ไม่แปลกที่อองซานจะพูดงั้น เพราะเธอเกลียดรัฐประหารในแบบฉบับพม่า แต่เหตุการณ์ที่ฝังใจให้เธอยังดิ้นรน แต่พูดถึงความฉลาดและเหลี่ยมจัดของผู้หญิงคนนี้ต่างกับคนแถวๆนี้ เขาเหล่านั้นคงดีใจที่อองซานกำลังพูดถึงทักกี้ในแง่ดูดี แต่เขาไม่คิดหรอกว่าทำไมอองซานต้องยอมติดคุกถูกกังขัง แต่ทำไมคนที่เธอเห็นใจยกตัวอย่างเจือกหนี เธอจะบอกว่า เพราะเขาโดนยึดอำนาจเลยหนี เธอกล้ามั๊ย แน่นอนไม่กล้าเพราะมันขัดกับสิ่งที่เธอปราถนา ที่เธอทำมาก็พังแน่นอน ทำไมเทอไม่เอาเรื่องครอบครัวมาหาเสียง เพราะเธอฉลาดที่จะทำให้โลกเขาเห็นว่าเธอจะเป็นคนรักที่ประชาธิปไตยมากม๊ากๆ ประมาณว่าชั้นจะทำเพื่อประชาธิปไตย เธอพูดไปอาจเพราะ สิ่งที่เธอได้คือด่าจริงๆ คือกระทบชิ่งรัฐบิลพม่า สร้างค่านิยมให้ตัวเอง เรียกร้องเป็นตัวอย่าง ลองเธออพูดสิครับว่า ดิชั้นโดนรัฐประหาร ครอบครัวดิชั้นตายเพราะรัฐประหาร ดิชั้นจึงเรียกร้องแบบอีนั่นสิ ดิชั้นจะทวงความเป็นผู้นำจากพ่อชั้นคืน พล่าง.... โลกจะบอกว่า อ๋อ ธาตุแท้เธอมาแล้ว เพราะจริงๆ อองซานก็ไม่ใช้ตัวจริงเท่าไหร่นะ ผมว่า เค้าก็เป็นคนที่เรียนมาดี เห็นโลกตะวันตกมาเยอะ คล้ายๆ กับคนที่ตายที่ฝรั่งเศสนั่นแหละ กะจะเปลี่ยนทุกอย่างให้พลิกแผ่นดินในตอนนั้น แต่เอาเข้าจริงๆ เธอลืมคิดไปว่าคนพม่าต้องการอะไรเอาแค่ปัญหชนกลุ่มเผ่าน้อย เธอจะกล้าปฏิเสธไหมว่าที่พม่ายังอยู่ได้ก็เพราะต้องใช้การควบคุมจากรัฐประหารจากเผด็จการควบคุม ขืนลองเปิดประเทศสิเมริงเอ้ย พม่าแตกของจริง ไม่ต่างกับพวกที่อ้างรักประชาธิปไตย แต่ยังไม่เข้าใจมีแต่ประชาธิปกู เพราะทุกคนจะพูดกันแบบพวกอ้าง 15 ล้านเสียงว่า ก็มีประชาธิปไตยแล้วหนิ ทำไมจะแยกประเทศไม่ได้ ทำไมเผาบ้านต้องโดนจับ ด่าศาลได้ ผมคิดว่าเธอยังอยากจะอยู่แบบนี้มากกว่าจะเป็นนายก เพราะมีผลประโยชน์ของเธอ เพราะถ้าเธอเป็นนายก เธอจะเป็นนายกที่ล้มเหลวที่สุดในการปกครองพม่า เพราะเธอมาบทเรียนจากคนนี้แถวๆ แหละ อร๊างงงง




#698713 ชัย ราชวัตร : ยิ่งลักเลวกว่า ก ร ะ ห รี่

โดย nastyfunky on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:45

สงสารประเทศไทย ออกแบบพัฒนาการเกษตรได้ล้ำหน้าก้าวไกล แต่ดันลืมไปว่า เลี้ยงหญ้าให้โมโมกิน ด้วยวิตามินสูตรไหน ถึงจะฉลาดขึ้น

 

ส่วนเธอข้างบน...ถ้าเป็นอาจารย์ที่เป็นราชการ กรุณาเอาใบประกอบวิชาชีพใบคืนกระทรวง แล้วไปอ่านนิยายเถิดครับ แล้วยิ่งรู้ว่าเป็นถึงรองศาสตราจารย์มหาลัยเก่าที่เคยเรียนมาอีก บ่งตง สร้างความผิดหวังให้ผมมากครับ (แถมสอนแนวคิดทางการเมืองสตรีนิยม (Feminist Political Theory) แค่คุณเมริงพูดว่า สำหรับข้าพเจ้า....นั่นมันสื่อสิ่งการแสดงความเห็นส่วนตัวใช่ไหมครับ มันก็เรื่องของคุณ แต่ที่หนักคือ คุณไม่ฉลาดที่จะมาพูดอีกว่า หญิงดีที่กำกับชีวิต...ไม่กล้าและเข้มแข็งมากๆเป็นกะหรี่ไม่ได้ค่ะ...อย่างนี้คุณกำลังดูถูกและทำลายสังคมทางตรงเลยนะครับ คนเป็นกระหรี่ เอาจริงๆ ตาม fact เลยนะครับ เพราะอะไร เพราะ***ขี้เกียจและความไม่คิดรักตัวใช่หรือไม่ เอนกายขายตัวให้ชาย ได้เงินเอาไปหากินวัน จะต้องให้สังคมบอกหรือถามกี่ครั้งว่าทำไมสาวโรงงาน สาวกรรมกร หญิงชาวนาหลายคนเลือกที่จะไปทำงานหนักใบแบกหามปูนยังกะผู้ชาย แต่ทำไมบางคนถึงหรือจะเป็นกระหรี่...พูดแบบนี้เป็นจารย์ได้ไงครับ  ถ้าเห็นอำนาจของเงินหรืออธรรมก็ออกมาจากมหาลัยดีกว่าครับ แล้วไปทำอะไรที่ผู้หญิงแกร่งมากเข้มแข็งมากเขาทำกันอย่างที่คุณยกย่องก็น่าเวิร์กกว่าปะ อย่ามาออกสื่อแล้วดีแต่ปาก แต่สมองไม่ดีเท่าปากครับ เบื่อจะทนที่ต้องฟังพวกบ้านี่มาบอกว่า ดิชั้น...ผมอาจารย์มธ (นิติ) นะเว้ย กูร.ศ นะเว้ย มหาลัยนั้นที่จริงก็แปดเปื้อนจากพวกสัมภเวสีบ้าอำนาจมากพอแล้ว  อย่าไปถับถมให้จมดินเข้าไปอีก ทุกวันนี้คนๆ นั้นที่ยืนอยู่หน้าโดมผู้เป็นไอดอลของคุณ ผมไปก็ไม่อยากจะไหว้แล้วนะครับ อย่าให้ผมต้องอายไปกว่านี้ว่า..อ่อ จบมาจากมหาลัยที่มีอาจารย์ยกย่องกระหรี่กว่าแข้มแข็งอะหรอ แต่ขายชาติไม่เป็นไร ยิ่งเป็นกระหรี่ยิ่งชายชาติด้วยนี่แจ่มเลย เพลีย...

 

อย่าบอกนะครับว่าเป็นถึง Doctor ปรัชญาการเมือง พูดอะไรจะถูกหมด พวกนี้บางที อ่านแต่ตำรา วิเคราะห์แต่ตำรา แหกตามาโลกดูความจริงบ้างนะครับ ดีนะที่คุณไม่สอนผม ถ้าสอน ผมจะลาออกแล้วเขียนในใบลากออกว่า มีอาจารย์เป็นคนไม่สร้างสรรค์สังคม แถมยังสนับสนุนการทำลายชาติบ้างเมืองอย่างเปิดเผย โดยไม่สมกับความเป็นสมองและปัญญาของผม




#696589 ทำไม สวิส ถึงไม่เป็นสมาชิก สหประชาชาติ ครับ?

โดย nastyfunky on 30 เมษายน พ.ศ. 2556 - 23:21

เป็นคำถามที่ผมเคยอยากรู้มากครับ ก็อ่านๆ มาบ้าง ขอสรุปกันแบบหางอึ่งว่า ที่จริงตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น สวิตเองก็พร้อมที่จะรบ เพราะตกในสภาวะสงครามที่ยากจะเลี่ยงได้ ฝ่ายเยอรมัน นาซี ก็มีใจที่จะยึดสวิตเพราะเห็นความมั่งคั่งในประเทศ อีกอย่างถ้าบุกสวิตได้ ก็จะตีฝรั่งเศสทางพรมแดนที่ติดกันได้ ถ้าดูรอบๆ ประเทศที่ติดกลับสวิสตอนนั้น มีด้านเดียวที่เป็นฝ่ายพันธมิตร นอกนั้นอักษะรุมกินโต๊ะหมด  แล้วช่วงนั่นฝรั่งเศสเองก็จ้างทหารสวิสไปคุมชายแดน เนื่องจากเชื่อมั่นในความอดทน แต่ความพยายามของฝ่ายนาซีก็ไม่สามารถบุกเข้าชัยภูมิที่ดีของสวิตได้ เพราะมีการซุ่มยิงจากทางช่องเขา เรียกว่าแหล่งหลบซ่อนเยอะมาก ประชาชนเองก็เคยประท้วงให้เข้าสงครามนะครับ เพราะทนไม่ได้ที่นาซีทำ ศก ตกต่ำ แล้วคนเขาเพราะยึดมั่นใจประชาธิปไตย (ของจริง ไม่เทียม) มาก ซึ่งน่าแปลกใจที่ว่า แม้ประเทศจะมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ภาษา ศาสนาแต่ทุกคนปลงใจที่จะปกป้องสวิต และพร้อมจะเข้ารบ  แล้วทางรัฐบาลก็เอาตัวรอดเก่ง พยายามเจรจาวางตัวเป็นกลางว่า กูไม่เกี่ยวจะเอากูเข้าไปทำไม แถมฝรั่งเศสเองก็ (แหล) โอบไว้เป็นลูกรัก เพราะเป็นปราการด่านสำคัญ  โดยในสงครามโลกครั้งแรกก็จบประมาณว่ามีการเจรจาหลายครั้งเรื่องเขตแดนการรบ (ผมไม่รู้ว่าภาษาทหารเขาเรียกว่าอะไรนะครับ คงเป็นพวกสนธิสัญญา) สุดท้ายก็ตกลงเป็นว่าให้สวิตเป็นเขตกลางที่ไม่เข้าทำสงคราม แล้วสวิตก็เรียกกองกำลังทหารมาทำไร่ไถนา เพื่อลดความเป็นปรปักษ์ลง แต่ในช่วงนั้นสวิตเองก็ประสบปัญหาเรื่องการหลบหนีของฝ่ายนาซีและฝ่ายไตรภาคี ที่มาสุมหัวกันวางแผนรบบ้าง หนีบ้าง มารุมเรานักการเมืองให้สนับสนุนการรบบ้าง แต่คนส่วนมากก็พยายามขับไล่ตลอด แถมมีการตั้งแคมเปญด่าไตรภาคีเรื่องสงครามแบบไม่กลัวหน้าพรหมอินทร์ ตรงนี้คงแสดงถึงความเข้มแข็งกล้าตายของเขาได้เป็นอย่างดี

 

พอมาครั้งที่ 2 หนักกว่าเก่า เพราะครั้งนี้โดนรุกรานตามชายแดนตามนโยบายนาซีเจ้าเก่า แล้วก็มีไส้ศึกในประเทศที่ต้องการรวบสวิตให้เป็นนาซีด้วย ยิ่งเห็นว่าตอนนั้น ศก. ยุโรป โดยเฉพาะเยอรมันตกต่ำมาก เพราะฮิตเล่อร์เอาเงิน 2.2 ล้านๆ เฮ้ย ไม่ใช่ ไม่ทราบจำนวนไปซื้ออาวุธฆ่าคน ทางเขาก็ฉลาดสร้างเงื่อนไขทางเศรษฐกิจที่เยอรมันปฏิเสธไม่ได้ เกี่ยวกับเรื่องการขายทองคำและการซื้อขายสินค้าที่เยอรมันก็เลี่ยงไม่ได้สำหรับใช้รบใช้เลี้ยงปากท้องตนเอง (ไม่ใช่ประชาชนแน่ๆ )  แถมตอนนั้นสวิตเองก็ใช่จะค้าขายสะดวกโยธิน เพราะทางฝ่ายพันธมิตรก็กดดันห้ามทำการค้ากับนาซี แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดมาได้ เพราะประมาณตอนนั้น ศก. ดิ่งเหวสุดๆ ถังแตกแหกกระเชิง มีแต่สวิสนี่แหละที่มีเงินเก็บไว้เยอะ ใครๆ ก็เลยเอาทองมาขายแลกเอาเงินสวิตทั้งนั้น (จำไม่ผิดว่าช่วงนั้นเงินที่มีค่าที่สุดในยุโรปที่สามารถทการค้าขายและใช้จ่ายได้คือ Swiss Franc เพราะเงินอื่นหมดความหมายทางการค้า) ช่วงนั้นทางสวิตเองก็แอ๊บเพิ่มกำลังทหารอย่างรวดเร็วหลายแสนนะครับ (คิดว่าคงเป็นความสมัครใจของคนประเทศเขาจริงๆ ) แต่แล้วพระเจ้าคุ้มครองครับ ทางสวิตมีการวางแผนรบบนเทือกเขา คิดดูนะครับว่า ไปตั้งรับเขากันบนเทือกเขาขาวๆ โพลน  หรือมีป่าสนปกคลุม เครื่องบินฝ่ายนาซีจะเสล่อบินเข้าไปบุก อาจจะชนผาตายก็ใช่เหตุ คือยังไงก็โดนยิงตายห่าน สุดท้ายสรุปก็ยอมประกาศแบบไม่เต็มใจว่าให้เป็นกลาง แต่ก็พยายามรุกรานเพราะชาวยิวหนีไปหลบในนั้นเยอะมาก 

 

แถมช่วงนั้นสวิตเองก็มีปัญหากับทั้งสองฝ่าย รวมทั้งสหรัฐฯ เรื่่องยิงเครื่องบินตก คือจะบอกกว่าสวิตไม่ทำสงครามเลยก็ไม่ใช่นะครับ ตอนแรกผมคิดว่ามันจะรอดได้ไงวะ ไม่มีการใช้กำลังทหารเลยหรอ แต่ที่จริงเค้าดูแลตัวเอง โดนเยอรมันมาถล่มก็โกรธสิครับ ก็ยิงคืน แต่เยอรมันก็จ้องจะล่อพ่อ ยิงใส่พวกพวกพันธมิตรมันก็จะล่อแม่ แถมมีครั้งนึงประกาศนโยบายความอดทนเป็น 0 (เราน่าจะมีบ้างนะครับ 555) ใครหน้าไหนมาข้ามหัวกู กูจะยิงไส้แตก ปรากฏว่าช่วงนั้นสับสน ผมคิดว่าเครื่องบินมันคงทาสีคล้ายๆ กัน 55 เครื่องบินมะกันโดยสอยในเขตชายแดนสวิต แล้วมะกันก็เสือกไปสอยของสวิตกลับ ทางสวิตก็บอกว่ากูบอกแล้วอย่ามาบินผ่าน กูไม่รู้ของใครจริงๆ ไม่ได้ยิงด้วยมั้ง มะกันก็บอกว่ากูแค่บินผ่าน ถึงขนาดในครองเกรสมีการประนามว่าสวิตเป็นพวกที่เห็นใจเยอรมัน กูยอมไม่ได้ละ (อร๊าย ดูความร้ายกาจของมะกัน หวังฮุบทองเปล่าไม่รู้ 55) แต่นายพลไรมะกันคนนึง ชื่อไรจำไม่ได้ออกมาปกป้องว่า เครื่องบินบ้านกูโดยสอยเพราะเยอรมันเองจ้า สภาอย่าแถ...สรุปประวัติศาสตร์มันก็บันทึกไปตามว่าเยอรมันสอย ความตึงเครียดก็เบาลง แต่พอหลังจากนั้นอเมริกันออกมาขอโทษว่ายิงผิดทำนองนั้น อ่าว ไหนเป็นงั้น (ร้ายกาจ)

 

 

อันนี้แค่อึ่งๆ นะครับ มันมีประเด็นลึกๆ เยอะมากทางการเมือง การปกครอง ซึ่งยังอ่านไม่ไหวและยังไม่จบเพราะมันเป็น eng นะครับ ขอให้กูรูเข้ามาช่วยๆ กันนะครับ ผมเองก็อยากรู้เยอะ เพราะมันน่าทึ่งครับว่า เขารอดมาได้อย่างไร แผนการเขาล้ำลึกมาก สมที่เขาเฐานะทางการศึกษาและความรู้ของประชากรก็อันดับต้นๆ โดยเฉพาะการปลูกฝังการรักชาติเค้าแจ่มมากครับ ประวัติในช่วงที่เลวที่สุด ก็ยังมีเรื่องที่น่าสนใจและที่ดีสุด ถ้ารับเรื่องดีมาปรับใช้ก็จะเกิดประโยชน์ แต่รับเรื่องเลวๆ มาใช้โดยไต่ตรองก็ดักดาน :P




#696434 นายกฯไทยปาฐกถา(หรือสะตอเบอรี่)..ที่มองโกเลีย

โดย nastyfunky on 30 เมษายน พ.ศ. 2556 - 21:00

Community of Democracy....= ครอบครัวชินวัตรหรอ?

 

สมมติว่าถ้าผมไม่รู้จักเธอมาก่อน ถ้าผมเป็นนายกมองโกเลีย เป็นอองซาน และคนอื่นๆ แล้วประมาณว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่ารัฐประหารในไทยตื้นลึกหนาบางไหน แล้วคนที่ฟังก็เอออออยากรู้ พลอตนิยายนี้กำลังจะไปได้สวย ความฉลาดของเธอดูจะเปล่งประกายในทุ่มหญ้าจามรีอูลาบันตอร์ ว่าเธอมาจากประเทศที่มีประชาธิปไตยสุดยอดในสามโลก แต่ดั๊น ลากเอาความเจ็บปวดครอบครัว กับความขัดแย้งที่สังคมโลกเค้าจับตามองกันอยู่นี่แหละว่าตัวตอแหลมันอยู่ไหน...แล้วดูสิคนที่นั่งคือใคร เสือสิงกะทองแรดทั้งนั้น...ไม่แปลกใจที่อูลาบันตอร์จะมีค. จากรัฐไทยใหม่ไปเล็มหญ้าโชว์ในทุ่ง แถมแสดงธาตุแท้ให้เห็นว่า อ๋อ...เมิงเป็นแบบนี้นี่เอง ทำไม๊บ้านเมืองถึงแตกแยกไม่จบสิ้น โดยเฉพาะอองซานคงแบบว่า...เมริงนี่มันไม่ได้ขี้ตีนกูจริงๆ กูนี่เจ็บปวดจากรัฐประหารของจริง แต่ฉลาดที่จะพูด เรื่องของตระกูลกูแทบจะไม่เคยสมอ้าง กูยอมโดนขังเพื่อแลกกับอิสระที่รอกูอยู่ ไม่เหมือนพี่เมริงที่หนี ไม่รู้จักวางตัวแบบนี้...เค้าจะไทยได้ว่าประเทศไทยมีนายกที่ *&54#@#