ตาถั่วหรือไง
ลองดูวินาที ที่ 13 - 14 replay หลายๆรอบ
จะเห็นว่ามีวัตถุสีขาว จากกลางจอบน ลงมาก่อนระเบิด
MI 6 hasn't added any friends yet.
โดย CrazyDaimon
on 18 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:29
โดย osamu
on 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 02:31
ที่จริงสมัยได้อิสรภาพจากอังกฤษใหม่ๆอเมริกาก็เคยใช้ระบบคัดกรองคุณภาพคนที่มีสิทธิเลือกตั้งนะครับไม่ใช่พอตั้งประเทศก็หนึ่งคน-หนึ่งโวตกันเลย เขาเริ่มจากคนที่มีการศึกษาก่อนและเมื่อประชาชนได้เริ่มเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยมากขึ้นก็ค่อยๆขยายสิทธินี้ออกไปสู่กลุ่มอื่นๆไปเรื่อยๆ ส่วนในปัจจุบันเราก็คงกลับไปทำแบบนั้นไม่ได้ เราพลาดไปตั้งแต่แรกมีประชาธิปไตยในปี 2475 (หรือที่จริงไม่ได้พลาด? เพราะนักการเมืองทุกยุคทุกสมัยก็ชอบการเลือกตั้งแบบนี้เพราะซื้อเสียงง่าย?) เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุการณ์เฉพาะหน้าก็อาจจะต้อง"ออกแบบ"อะไรใหม่ๆมาใช้ควบคุมให้การเลือกตั้งซื้อเสียงได้ยาก หรือโกงได้ยากขึ้นและให้มีบทลงโทษรุนแรง ปรับปรุงระบบบังคับใช้กฏหมายที่อยู่ภายใต้ลัทธิรวมศูนย์ทั้งประเทศไว้ภายใต้นักการเมืองทำให้การซื้อขายตำแหน่งทำได้ง่ายด้วยการตัดสินใจของคนไม่กี่คนแต่มีอำนาจครอบคลุมทั้งประเทศ ให้กระจายออกไปสู่ท้องถิ่นใครท้องถิ่นมัน เลือกตั้งกันเอาเองทั้งผู้ว่าฯและ/หรือตำรวจของจังหวัด ประชาชนจังหวัดไหนเลือกคนไม่ดีเข้ามาก็ต้องรับผิดชอบรับกรรมกันไปจากการหวังเงินตอบแทนจากการซื้อสิทธิขายเสียงโดยไม่ต้องรับกรรมกันทั้งประเทศ(คราวต่อไปประชาชนก็จะเรียนรู้ได้เองว่าการขายเสียงส่งผลต่อ"ละแวกท้องถิ่น"ของตนเองและอาจจะได้เห็นตัวอย่างจากจังหวัดอื่นที่เลือกคนที่มีคุณภาพมาบริหารจัดการ) ระบบผู้แทนฯหรือสส.ก็ต้องให้เป็นอิสระจากพรรคการเมืองได้ และไม่ต้องสังกัดพรรค(เพราะต้องยอมเป็นทาสพรรคไม่เช่นนั้นพรรคไม่ส่งลงสมัครก็หมดโอกาส...พรรคริบเอาสิทธิการเลือกผู้แทนฯส่วนหนึ่งไปจากประชาชนหรือเปล่า?) ไม่ต้องจำกัดวุฒิการศึกษา(..ต้องจบปริญญาตรี..แล้วทีอย่างนี้ทำไมไปจำกัดสิทธิคนอีกเป็นสิบๆล้านคนที่ไม่ได้จบปริญญาตรีไม่ให้เป็นผู้แทนฯล่ะ? แต่พอจะจำกัดสิทธิคนเลือกว่าต้องมีการศึกษาบ้างบอกไม่ยุติธรรม?) แต่ผมว่าข้อแรกเลยที่เราควรจะคิดให้ได้ก่อนที่จะคิดโน่นนี่ต่อไปก็คือ....เราจะยอมรับความจริงกันหรือเปล่าว่าระบบเลือกตั้งที่ใช้กันอยู่มันมีปัญหา!
โดย อาวุโสโอเค
on 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 13:53
เอาไปทำไรฟระ ขนาดรถหุ้มเกราะยังไม่รอดเลย
โดย redfrog53
on 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 07:07
เด็กน้อยคนหนึ่งซึ่งมีครอบครัวที่อบอุ่นซึ่งในครอบครัวมีด้วยกัน ทั้งหมด 5 คน
วันนึงขณะที่เด็กน้อยนั่งกินข้าวเช้าอยู่บนโต๊ะอาหาร
เด็กน้อยมองเห็นคุณพ่อดูข่าว TV เกี่ยวกับการเมือง
'พ่อ...การเมืองคืออะไรอ่ะ' เด็กน้อยถามพ่อด้วยความสงสัย
พ่อทำท่าทางคิดหนักก่อนจะตอบกลับไปว่า
'อืม...มันก็ไม่ยากหรอกลูกเปรียบเทียบง่ายๆนะลูก
- เปรียบ พ่อเป็น พ่อค้านายทุน ก้อคอยหาเงินไง
- เปรียบ แม่เป็น รัฐบาล ก็คอยเอาเงินจากพ่อมาบริหารไง!
- เปรียบ ตัวลูกเองเป็น ประชาชน ที่ต้องมีรัฐบาลคอยดูแล
- เปรียบ น้องชายของลูกเป็น อนาคตของชาติ
- เปรียบ พี่แจ๋ว (พี่เลี้ยงของเด็กในบ้าน) เป็นชนชั้นแรงงาน'
เด็กน้อยทำหน้า งง ก่อนจะปล่อยให้ ความสงสัยนั้นอยู่ในหัวตลอดทั้งวัน
จนเมื่อถึงเวลาตกดึกของวันนั้น ขณะเด็กน้อยกำลังหลับ
'แงๆๆๆๆๆ' เสียงน้องชายตัวน้อยของเค้าร้องดังขึ้น
เด็กน้อยเดินไปดูที่เปล จึงได้รู้ว่าน้อยชายของเค้า ขี้แตก
เด็กน้อยรู้ทันทีว่า ต้องไปตามแม่มาดูน้อง
ขณะเดินไปตามแม่เด็กน้อยได้ยินเสียงออกมาจากห้องของพี่แจ๋วพี่เลี้ยงคนสวย
ด้วยความสงสัย จึงแง้มประตูดู พบว่า พ่อเค้ากำลังอยู่บนตัวของพี่แจ๋ว
เด็กน้อยจึงเดินไปที่ห้องของแม่ พบว่าแม่ของเค้ากำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่
เด็กน้อยพยายามปลุก แต่ก็ไม่ยอมตื่น
เด็กน้อยท้อใจเดินกลับห้องนอน และหลับไป หลังจากคิดอะไรได้มากมาย
ตื่นตอนเช้าขณะลงมาจากห้องเพื่อกินข้าวเช้า
เด็กน้อยเห็นพ่อของเค้า 'พ่อๆ ผมรู้แล้วละว่าการเมืองเป็นยังไง'
เด็กน้อยยิ้มที่ตัวเองเข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่บางคนยังไม่เข้าใจ
'แล้วมันเป็นยังไงละไหนบอกพ่อสิลูก' พ่อถามด้วยความอยากรู้
'การเมืองก็คือ
..... การที่พ่อค้าหรือนายทุนกดขี่ชนชั้นแรงงาน!!
ในขณะที่รัฐบาลก็หลับหูหลับตาไม่สนใจประชาชน
แม้ว่าประชาชนจะเรียกร้องยังไงก็ตาม!!
......โดยทิ้งอนาคตของชาติให้จมบนกองขี้ !!!'
โพสตนี้ทำให้ฮาาาาเงิบ
โดย suwadee
on 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 17:46
อดีตแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ชี้มีความพยายามตัดต่อคำสัมภาษณ์ “สนธิ” จูบปากเสื้อแดง ยันข้อเสนอคือปฏิรูปประเทศไทย ให้คน 65 ล้านคนสู้กับนักการเมือง ชี้เป้าหมายเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้อยู่ดีกินดี ลดความเหลื่อมล้ำ หยุดการเมืองที่ล้มเหลว ถามสามัคคีคน 12 ล้านสู้กับฝ่ายหนุนแม้ว 15 ล้านได้อะไรนอกจากสงครามกลางเมือง
นายปานเทพ พวพงษ์พันธ์ กล่าว
ตอนชุมนุมปี49 ทำไมไม่คิดแบบนี้วะ ปล่อยให้พี่น้องบาดเจ็บล้มตาย บางคนแขนขาดขาขาด บางคนหมดอาชีพ เพราะไปร่วมชุมนุมกับพวกเอ็ง
ตอนนี้มาบอกว่าสู้ไปก็ไม่ชนะ
ถุย ไปรับทรัพย์ทักษิณมากันเต็มกระเป๋าแล้วสิ
โดย Alanza 4.91
on 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:10
โดย เพื่อนร่วมชาติ
on 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 14:44
โดย loveri
on 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 00:38
โดย ดอกปีบ
on 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 16:43
โดย dek-harte
on 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 17:29
ถ้าดูจากประวัติ ท่าทีประชาธิปัตย์ไม่เคยปิดกั้นพันธมิตรเลย มีแต่พธม.ที่ "ตั้งตน"เป็นศัตรูคู่อาฆาตปชป.ฝ่ายเดียวตลอดมา
ตอนมีปัญหาถูกด่าว่าขายชาติ อภิสิทธิ์ก็เปิดโอกาสที่พธม.เรียกน้อง ดีเบตสดๆผ่านช่อง 11
ตอนมีประเด็นเรื่องบ้านเมืองกลียุค อภิสิทธิ์เดินสายพบทุกคน พธม.เข้าพบอภิสิทธิ์ อภิสิทธิ์ก็ให้พบและพูดคุยกัน เป็นข่าวหน้าหนึ่งทุกฉบับ
ดังนั้นการที่ปชป.ขอคุยกับพธม.ก็เป็นท่าทีปกติของพรรคสีฟ้า ที่ชอบเดินตามแนว "สุภาพบุรุษ" มาตลอด
ไม่แปลกอะไรเลยครับสำหรับผม ถ้าดูจากประวัติที่ผ่านมาของปชป.ต้องบอกว่าปกติสุดๆครับ
ไม่ได้จะัอ่อนไปหมดละวะ ถ้า ปชปจริืงใจไม่ใช่แค่รอตีกินพันธมิตร รอเสียบ เป็นรัฐบาล ปชปต้องลาออกสถานเดียวเพราะพันธมิตรไม่อาจไว้ใจ ปชปให้บริหารประเทศได้้อีกถ้า อยากคงชื่อ ปชปไว้และคนรัก ปชปก็ลาออกมาเถอะมาร่วมปฏิรูปประเทศตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลมาหยุดการเมืองให้หายสกปรก
ด่า ปชปเพราะ ปชปไม่จริงปฏิรุปประเทศ ด่า ปชป เพราะ ปชปไม่จริงใจล้างความชั่วร้ายและการทุจริตที่ครอบคลุมไปทั่วบ้านเมืองให้ออกไปถ้าปชปคิดไม่จริงอย่างทีั่พันธมิตรกล่้าวหา ลาออกเถอะ ถามจริง ปชปเคยนําหน้าเองไหม เคยรับฟ้ง ปชชไหม ถ้า ปชปอยากให้คนรักก้เสียสละมั่ง
ลาออกแร้วมันจะปฏิรูปประเทศตรงไหนวะ
ตอบหน่อยดิ
![]()
กระจายอัานาจให้ภุมิภาค (กลาง เ้หนือ อีสาน ตะวันออก ใต้)ให้มากขึ้นและระดัุบจังหวัดท้องถิ่นเพิ่มงบประมาณท้องถิ่นภูมิภาคให้มากขึ้น ลดอํานาจรัฐ ลดงบประมาณรัฐบาลกลางเพื่อป้องกันรัฐบาลกลางใช้งบประชานิยม ออกกฏหมายปราบทุจริตที่เข้มงวดมากขึ้นเด็ดขาดรุนแรง ฝึกฝนให้ประชาชนเป็นตัวของตัวเองไม่ยึดติดพรรคการเมืองอย่าไว้ใจนักการเมืองจนเกินไปให้ประชาชน ตามจับไล่ล่าการทุจริตให้มากขึ่้นให้ภาคประชาชนเข้มแข็ง และให้ประชาชนทํางานมากขึ้น และปฏิเสธประชานิยมทุกประการ ฝึกประชาชนและนีักการเมืองให้หัดรุ้เสียสละทําเพื่อส่วนรวมมีจริยธรรมมากขึ้น
กระจายอํานาจทุกด้าน ไม่ว่าจะการศึกษา สาธารณสุข ตํารวจ และลดอํานาจรัฐในการคุมสิ่งเหล่านี้
ถ่ามว่าลาออกแร้วมันจะปฏิรูปได้ยังไง
อย่ามานอกเรื่อง
![]()
![]()
ลาออกแล้วใช้ประชาชนกดดันรัฐบาลจนรัฐบาลหมดความชอบธรรมทางสภาและทุกๆด้านและประจานว่านักการเมืองพรรคการเมืองสภามันล้มเหลวไงจนในที่สุดรัฐบาลทนไม่ได้จนต้องมา เ้จรจา ไงถ้าออกมาเป็นล้านคงเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น แต่รอดูยุทธวิธีของแกนนํากับ ปชปดีกว่าถ้าเขาตกลงกันได้แล้ว
ประชาชนที่ไหนกดดัน รัฐบาล ตรรกะตีกินแบบ แม้วนั่นแหละ "เสื้อแดง" ไง
คนมีปืนหน่ะฝั่งไหน ถามมันซึ่งหน้านี่แหละ
จัดให้มีกองกำลัง ใช่มะ...นิรโทษดิ ใช่มั้ย อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องนะครับ
โยงมั่วๆ ตลอดเนี่ยหล่ะพธม.รุ่นหลัง มันเห็นแต่ประโยชน์ตัวเอง
รัฐบาลนี้มันหมดความชอบธรรมไปนานแล้ว แยกรัฐบาลกับรัฐสภาออกมั้ยเนี่ย
"เขา" ที่ไหนตกลงกันได้แล้ว ตีกินอีกแล้วเนี่ย...ตามสูตร
ปชป.สรุปแล้วเหรอว่าจะร่วมกับสนธิกับพธม.หน่ะ
"ตีกิน" ตลอด
ถ้าปชป.เขาไม่เอาด้วยก็ออกมาหาเรื่องด่าอีก...ลองดูดิ ตอนนี้ว่าร่วมกัน ยังด่าเลย
เอาชั่วล้างชั่ว เหลือชั่ว
ถ้าเป่านกหวีดพร้อมคนชั่ว ผมไม่ออก....ให้มันรู้กันไป
ให้มันชัด ประเทศต้องเปลี่ยน แต่ไม่ใช่ ไล่ ชั่วหนึ่งไปเอาชั่วอื่นมาแทน
แป๊ะลิ้มมันชั่ว ทุกคนควรรู้ และลืมตาได้แล้ว จะร่วมมือกับคนชั่วทำไม
ล้างชั่วด้วยชั่ว คุณจะสอนลูกหลานให้ดีได้ยังไง
กติกา มันมี ทางออกมันมี การให้ความรู้ต้องช่วยกันทำ แต่ไม่ใช่ ทำชั่วแบบแป๊ะ
ปชป.เดินมาถูกแล้ว อดทนมาแล้ว คนกำลังจะรวมกันแล้วพวกชั่วก็พยายามขวางไง
มองไม่ออกเหรอ มองง่ายๆ ใครได้ประโยชน์มากที่สุด ทำไมแป๊ะมันพูดแบบนั้นตลอด อย่าเชื่อมัน
เพราะมันทั้งเหล่าโกหก พ่นแต่คำเดิมๆ ยุแยงแต่เรื่องเดิมๆ
เป็นฝ่ายค้านมันไม่ดีตรงไหนทำไมคุณไม่ภูมิใจเหรอ ทำงานในสภาให้ดี
สู้ในสภาไม่ไหว ผมพร้อมเดินกับคุณ แต่ถ้าจับมือกับแป๊ะชั่ว ก็หมดกัน
ถ้าร่วมมือกับแป๊ะ ปชป.เอาเท้าลบได้เลย ความชอบธรรมที่คุณทำมาตลอด ที่ทุกคนอดทนมาตลอด มันฉิบหายหมด
จะมีอะไรต่างจากทักษิณกับแป๊ะลิ้ม คือมันชั่วเหมือนๆกัน
ตรกกะชั่วๆของพธม.ยุคหลัง อย่าไปฟังมัน
ขอบคุณครับ
โดย kwan_kao
on 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 19:56
โดย ypk
on 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 10:04
เหอะ เหอะ สนธิ คิดแบบกลุ่มการเมืองที่ไม่มีความรับผิดชอบอะไรต่อบ้านเมืองเลย
ปชป คงไม่ โง่ ที่จะทำอย่างที่สนธิบอก เพราะการที่เขาต่อสู้ในสภามันคือหน้าที่ที่เขา
ต้องรับผิดชอบในฐานะ พรรคการเมือง ไม่ใช่กลุ่มการเมืองแบบสนธิ
การบอกให้ ปชป วอคเอาท์ แล้วลาออกมาร่วมกับประชาชน เพื่อให้พรรคเพื่อไทยขาด
ความชอบธรรม มันเป็นเรื่องตลก ที่แสดงให้เห็นว่าสนธิไม่เข้าใจเรื่องระบอบบรัฐสภาเลย
ถ้า ปชป วอคเอาท์ตามที่สนธิบอก พรรคเพื่อไทยก็มีความชอบธรรมที่จะดำเนินการต่อ
ในสภาโดยไม่มีใครคอยขัดเลย ส่วน ปชป ที่วอคเอาท์ ออกมานั้น ไม่มีความชอบธรรมอะไร
ที่จะมาเล่นข้างถนนกับสนธิอีกแล้ว เพราะหน้าที่ตัวเองอยู่ในสภาแต่ไม่ทำหน้าที่กลับหลง
คารมสนธิมาเล่นอยู่ข้างถนน
สภาปัจจุบันมันไม่ได้ล้มเหลว เสียงข้างน้อยมันก็ต้องแพ้อยู่แล้ว แต่มันไม่ได้หมายถึงว่า
รู้ว่าแพ้แล้วยังจะดันทุรังไปต่อสู้ถึงวาระสามอีก ทำไมไม่ออกมาสู้ข้างถนน เพราะถ้าเป็น
อย่างที่สนธิต้องการ มันคือลักษณะของคนพาล มันไม่ใช่พรรคการเมือง เหมือนนักมวย
ต่อยกันบนเวที ฝ่ายหนึ่งสู้ไม่ได้ก็ลงมาจากเวทีแล้วตะโกนด่าคู่ต่อสู้ ถามว่าคนที่อยู่บนเวที
กับคนที่ลงมาตะโกนด่าเขา ใครมีความชอบธรรมกว่ากัน
ปชป จะวอคเอาท์ได้มันต้องเกิดจากกรณีที่ตัวเองพยายามปฏิบัติหน้าที่ในสภาแล้ว แต่ทำไม่ได้
เช่น ประธานสภาไม่มีความเป็นกลาง ซึ่งต้องชัดเจนว่าไม่เป็นกลางจนเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชน
การวอคเอาท์มาเล่นข้างถนนจึงจะชอบธรรมในสายตาประชาชนและจะได้รับความร่วมมือจาก
ประชาชน แต่ถ้ามันไม่มีเหตุที่ต้องวอคเอาท์ แล้วไปทำอย่างนั้น มันจะแสดงถึงความเป็นคนพาล
มากกว่า ออกมาข้างถนน ประชาชนก็ไม่สนับสนุน
มันต้องแยกแยะให้ชัดเจนระหว่าง พรบ นิรโทษกรรม กับการทำหน้าที่ในสภา เพราะ ปชป ต่อต้าน
พรบ นี้ จึงต้องเข้าไปทำหน้าที่ในสภา ส่วนในสภาทั้งสองฝ่ายต่างก็ทำหน้าที่ของตนเองไป มัน
ล้มเหลวตรงไหน มันผิดตรงไหน เราจะเอา พรบ ที่เรามองว่ามันไม่ชอบธรรมไปปนกับการพิจารณา
ในสภาแล้วบอกว่า สภาไม่ชอบธรรมด้วย มันไม่ได้ เพราะการประชุมในสภามันก็มีกฎกติกาของมันอยู่
ถ้าไม่ชอบธรรม มันก็ต้องเกิดจากการทำผิดกฎกติกา ไม่ใช่เกิดจาก พรบ ที่นำเข้าไปพิจารณา
ปชป เข้าไปต่อสู้ในสภาสามวาระ คือความถูกต้องชอบธรรมตามหน้าที่ของพรรคการเมือง ถ้า พรบ นี้
มันผ่านทั้งสามวาระโดยไม่มีเหตุขัดข้องให้สภาทำหน้าที่ไม่ได้ ปชป ก็ยังสามารถที่จะนำเรื่องไปฟ้อง
ศาลได้ ถ้าเห็นว่า พรบ ที่ผ่านมาสามวาระนี้มันไม่ชอบ เช่น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แล้วจะไปดึงเขาลงมา
ข้างถนนทำไม เพราะการลงมาข้างถนนของ ปชป มันควรเกิดจากการไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในสภา
ได้เท่านั้น ไม่ใช่เกิดจากความต้องการของ สนธิ มิฉะนั้นแล้ว มันจะหาความชอบธรรมอะไรไม่ได้เลย
แต่จะถูกตราหน้าว่า ต่อต้านกฎหมายที่ไม่ชอบธรรม แต่ตนเองทำไม่ชอบธรรมเสียเองนั่นแหละ
สนธิ อยากล้มรัฐบาล แต่บอกว่าตนเองมีพันธมิตรอยู่แค่ 1 - 2 ล้านเอง นี่มันมากกว่า เสื้อแดงเผาเมือง
อีกนะ เพราะตอนเสื้อแดงเผาเมือง ระดมคนมาได้แค่แสนกว่า ๆ เท่านั้น สนธิ ควรนำเองเลย เพราะ
คน 2 ล้านคน ออกมานี่ เต็มกรุงเทพแล้ว อย่ามาเสียเวลาเรียกร้อง ปชป เลย
โดย eAT
on 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 07:55
แต่ผมเริ่มสังเกตเห็นตั้งแต่ประมาณปลายปี 2553 โดยในส่วนของคุณสนธิ และแก๊งออฟโฟร์ คือลูกน้องของคุณสนธิ เริ่มพูดออกมาในลักษณะเชิง...ยังไม่ชัด แต่พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์น้อยมาก แล้วก็พูดถึงความเลวของทักษิณน้อยมาก แต่เริ่มพูดถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นทรราช ขายชาติ และยิ่งมาหนักขึ้นในช่วงตั้งเวทีเดือนม.ค.-ก.พ.ปีนี้ ซึ่งมีพฤติกรรมที่มันออกมาชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คุณสนธิพูดว่า “ต่อไปนี้จะให้คนไข้ จะไม่กินยาแทนคนไข้แล้ว ให้คนไข้กินยาเอง ต่อไปนี้พันธมิตรฯจะปล่อยให้อำมาตย์ ทหารและประชาธิปัตย์สู้กับทักษิณและเสื้อแดงเอง” คำว่า “อำมาตย์” มันค่อนข้างชัดเจน เพราะว่าไม่ใช่ทั้งกองทัพและประชาธิปัตย์ ก็ยังมีหลายประโยคที่บอกว่า “เราเป็นกองทัพพระเจ้าตาก เราจะมาตั้งมั่นอยู่ที่จันทบุรี เราจะปล่อยให้กรุงศรีอยุธยาสู้กับพม่าเอง” เพราะฉะนั้น คำพูดต่างๆเหล่านี้ มันสะท้อนให้เห็นว่าตอนนี้ คุณสนธิเริ่มเปลี่ยนไป ในเรื่องการปกป้องสถาบัน อันนี้ค่อนข้างชัดเจน และไม่ค่อยได้พูดถึงคุณทักษิณ ทั้งๆที่บทบาทของคุณทักษิณ กลุ่มเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยก็ยังเป็นบทบาทที่เหมือนเดิมและทำมากขึ้น ในช่วงเกิดเหตุไทย-กัมพูชา ก็เข้าข้างฮุนเซนมากกว่า
ชัยวัฒน์ สุรวิชัย
http://www.pantown.c...607&action=view
ตกลง "เสื้อเหลือง" แทนความหมาย "อำมาตย์" ว่าเป็นคำแทน "ใคร" ?
ก่อนที่สนธิจะใช้ "วาทกรรม" นี้ เสื้อเหลืองในเว็บพูดถึงอำมาตย์บ้างประปราย
จนทีหลัง จะเริ่มมีคนก่นด่าในเว็บเหลืองและหมาเนเจอร์ จำไม่ได้ว่าที่นี่มีหรือเปล่า?
ตกลง "อำมาตย์" ของเสื้อเหลืองคือใคร?
โดย X-ray
on 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 12:03
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net