iambung

อย่าเอาการปิดกิจการ มาทำให้ไขว์เขว..  บริษัทมีเปิดมีปิด เป็นปกติ...   อันไหนอยู่ไม่ได้แข่งขันไม่ได้ ปรับตัวไม่ได้.. ก็ต้องปิดเพื่อความอยู่รอด...

แม้แต่ บริษัทใหญ่ๆเงินหนาๆๆ   ผู้บริหารมืิอทองๆ   ยังต้องปิดบริษัทลูก....  ถ้าแข่งขันไม่ได้เช่นกัน...

 

อย่าเสียเวลาโทษใคร  อยากอยู่รอด ต้องปรับตัว...      

 

คนไม่ใจดำเห็นแก่ตัวสุดๆ เขียนแบบอีเห็นไม่ได้นะ

 

ที่ขึ้นค่าแรงทีเดียวทุกจว. 300 นี่  มันจำเป็นต้องขึ้นขนาดนั้นเลยหรือ?

ใครไปขอให้ขึ้นพรวดเดียวขนาดนั้นหรือ?  ขึ้นทีละ 20-25% แบบขั้นบันไดได้ไหม?

 

 

นโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง แต่ผลักภาระให้คนรับกรรมคือภาคธุรกิจ

 

 

*ดิทเพิ่ม  ทนไม่ไหว

 

ผมอยากให้เสื้อแดงอย่างเช่นเห็นแถ ช่วยบอกวิธีปรับตัวมาหน่อย  อย่า "สักแต่พูดลอยๆ"

เพราะที่ผมอ่านพวกนี้คอมเมนท์มาแต่ละคห.เรื่อง 300 บาท  

เขียนเหมือนคนไม่เคยทำงานของตัวเอง ไม่เคยเป็นเจ้าของกิจการอะไรเองเลย

คิดง่ายๆ...  จ่ายเพิ่มต่อคน ต่อเดือน 1050 บาท...   ปีนึงก็ ..  2.8 ล้าน...  ถ้าเกลี่ยดีๆ...  อาจใช้ไม่ถึง..  เพราะ พวกที่เกินไปเยอะก็ไม่ต้องให้ถึง 1050 ก็ได้...

ถามว่า บริษัทท่าน ปีที่ฝ่านมามีได้กำไรถึง 3 ล้านหรือป่าว...    ถ้าเกิน...  ก็แค่ กำไรลด แบ่งให้พนักงานอยู่รอดได้...  

 

ปัญหานี้ ผู้ประกอบการที่จ้างด้วยค่าแรงขั้นต่ำเจอทั้งสิ้น...  ไม่ใช่ท่านเจอคนเดียว...  คู่แข่งท่านในธุรกิจเดียวกันก็ด้วย...    

คนที่จะเข้ามาใหม่ก็เต้องเจอเหมือนกัน....  

 

ถ้ามองเป็น อุปสรรคก็ใช่... มองเป็นโอกาสก็ได้...    

 

ขออนุญาต เห็นแย้ง กับคุณ hentai นิดหน่อยนะครับ

 

เนื่องจาก สมัยก่อน ตอนผมเข้างาน ใหม่ ๆ เคยได้ยิน เพื่อนร่วมงานนินทาเจ้านายกันมากว่า

 

เป็นคนขี้เหนียว และ ไม่ค่อยขึ้นเงินเดือนให้ใคร ทีแรก ที่ได้ยิน ผมเห็นคล้อย เพราะเห็นว่า เจ้านายค่อนข้างมีเงินมาก

 

แต่มีวันหนึ่ง ผมไปได้ยิน ลูกเจ้านายพูดคำหนึ่ง ซึ่งผมยอมรับ ว่าเป็นเรื่องจริง

 

เขาพูดว่า

 

พนักงาน น่ะถ้าบริษัทมีปัญหา สามารถออกเมื่อไร ก็ได้ แต่นายจ้างสิ ถ้าเกิดขาดทุน เป็นหนี้ ทุกอย่างต้อง เคลียร์เองทั้งหมด

 

แถมยังคุณ hentai อาจจะทราบแล้วว่า หนี้ เงินชดเชย พนักงาน เป็น บุริมสิทธิ (ไม่รู้ใช้คำถูกไหม) คือต้องจ่ายก่อน ตอนชำระบัญชี

 

เจ้าหนี้การค้า ยังมาทีหลัง และหลังสุดคือ ส่วนแบ่งให้ เจ้านายนั่นล่ะครับ

 

ถ้าประสบภาวะนั้นจริง เจ้านาย น่ะน่า เห็นใจที่สุด เพราะไปไหนได้ล่ะครับ ต้องยืนรับสถานการณ์แต่ผู้เดียว

 

แล้วจะไม่ให้เขา เขี้ยวกับเราก่อนได้ยังไงครับ

 

บริษัทจะอยู่ได้หรือไม่ เรามีส่วน แต่บริษัทจะรอด หรือไม่ เราก็มีส่วน ถ้าเรารู้จักเห็นใจเจ้านาย

 

ดั่งคำที่ว่า น้ำเข้าเรือ ต้องช่วยกันวิด นั่นล่ะครับ หากปล่อยเจ้านายวิดคนเดียว มีหวังเรือจม 

 

ที่ท่านว่ามา... มันเป็น ความรับผิดชอบของเจ้านายไงครับ...     เจ้านายเลยมีสิทธิ มาทำงานหรือไม่ทำงานก็ได้...

ไปเที่ยวเมืองนอกเป็นอาทิตย์ก็ได้...   ให้ใครออก ให้ใครเข้าก็ได้.... ตั้งเงินเดือนให้ตัวเองเท่าไรก็ได้... 

 

สิทธิเหล่านั้นไม่ได้ได้มาฟรี...     มันแลกมากับความรับผิดชอบ ตามกฏหมาย เพื่่่อปกป้องลูกจ้าง...

ถ้าบริษัทมีปัญหา เจ้าของกิจการที่ดี จะไม่รับเงินเดืิอนก่อน แล้ว เอามาจ่ายพนักงานก่อน....  

 นี่ก็เป็นความรับผิดชอบด้วย...  เพราะ ตระหนักว่า... ไม่มีลูกจ้างเราก็ไปไม่ได้....

 

ที่ผ่านมา... เราจ้างกันถูกเกินไป....   มันต้องเปลี่ยน...  เค้าให้เวลาเปลี่ยนมาปีนึงแล้ว ไม่ใช่ บอกเมื่อวาน...  

ถ้าท่านคิดว่าเราจ้างกัน 200 กว่าบาทเหมาะสมแล้ว.....    ท่านใช้ชีวิตด้วยค่าแรงเท่านั้นได้หรือไม่...  บ้านต้องเช่าข้าวต้องซื้อ...

 

 

ผมว่า ถ้าพรรคไหนเห็นว่ามันไม่ดีมันแย่...  กรุณา ประกาศเลยครับ ว่า จะยกเลิก.....    หรือ เป็นรัฐบาลแล้ว... อย่าลืมยกเลิกนะครับ....

 

เหอๆ... ไปๆมาๆ  งานนี้จะเป็นผลงานของ แม้วแอนด์เดอะแก๊ง อีกอัน นอกจาก 30 บาทที่เป็นตำนานไปแล้ว...  

ผมว่าคุณน่าจะลาออกจากพนักงาน มาเป็นเจ้าของกิจการแบบผมบ้างดีกว่าครับ เอาบ้านที่ดินต่าง ๆ ที่มีอยู่ไปกู้OD มาบริหารงานเองดูดีกว่า ว่าทฤษฎีกับความเป็นจริงของธุรกิจเป็นอย่างไร เถียงกันไปมาก็เท่านั้น ดูกับประสบการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไรในเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ ขนาดพรรคพวกที่เป็นเสื้อแดงจ๋า ผมบอกให้เขาปรับ 300 มันยังไม่จ่ายเลย ไม่ก็ไม่ Happy เหมือนกัน แุถมมันเล่นวิธีที่นึกไม่ถึง จ้างไม่ถึง 300 แถมไม่ให้พ้นโปรอีกต่างหาก เอากับเขาสิ รัฐบาลหาเสียงแต่ให้เอกชนเป็นคนจ่าย แต่ละจังหวัดค่าครองชีพมันไม่เหมือนกัน ผมอยู่ที่แพร่ซื้อผักชี 5 บาท 4 ต้นเล็ก ๆ แม่ค้าเขายังไม่ขายให้เลย เขาบอกค่าแรง 300 บาท เขาบอกอย่างต่ำ 10 บาท ต้นทุนมันต้องขึ้น แล้วอย่างนี้รากหญ้า หรือ ไพร่ ที่คุณเคยเรียก เขาจะอยู่อย่างไร ชาวนาขายข้าวแต่ต้องซื้อข้าวกิน ผมก็เพิ่งเคยเห็นที่จังหวัดผม 

คิดง่ายๆ...  จ่ายเพิ่มต่อคน ต่อเดือน 1050 บาท...   ปีนึงก็ ..  2.8 ล้าน...  ถ้าเกลี่ยดีๆ...  อาจใช้ไม่ถึง..  เพราะ พวกที่เกินไปเยอะก็ไม่ต้องให้ถึง 1050 ก็ได้...

ถามว่า บริษัทท่าน ปีที่ฝ่านมามีได้กำไรถึง 3 ล้านหรือป่าว...    ถ้าเกิน...  ก็แค่ กำไรลด แบ่งให้พนักงานอยู่รอดได้...  

 

ปัญหานี้ ผู้ประกอบการที่จ้างด้วยค่าแรงขั้นต่ำเจอทั้งสิ้น...  ไม่ใช่ท่านเจอคนเดียว...  คู่แข่งท่านในธุรกิจเดียวกันก็ด้วย...    

คนที่จะเข้ามาใหม่ก็เต้องเจอเหมือนกัน....  

 

ถ้ามองเป็น อุปสรรคก็ใช่... มองเป็นโอกาสก็ได้...    

 

ขออนุญาต เห็นแย้ง กับคุณ hentai นิดหน่อยนะครับ

 

เนื่องจาก สมัยก่อน ตอนผมเข้างาน ใหม่ ๆ เคยได้ยิน เพื่อนร่วมงานนินทาเจ้านายกันมากว่า

 

เป็นคนขี้เหนียว และ ไม่ค่อยขึ้นเงินเดือนให้ใคร ทีแรก ที่ได้ยิน ผมเห็นคล้อย เพราะเห็นว่า เจ้านายค่อนข้างมีเงินมาก

 

แต่มีวันหนึ่ง ผมไปได้ยิน ลูกเจ้านายพูดคำหนึ่ง ซึ่งผมยอมรับ ว่าเป็นเรื่องจริง

 

เขาพูดว่า

 

พนักงาน น่ะถ้าบริษัทมีปัญหา สามารถออกเมื่อไร ก็ได้ แต่นายจ้างสิ ถ้าเกิดขาดทุน เป็นหนี้ ทุกอย่างต้อง เคลียร์เองทั้งหมด

 

แถมยังคุณ hentai อาจจะทราบแล้วว่า หนี้ เงินชดเชย พนักงาน เป็น บุริมสิทธิ (ไม่รู้ใช้คำถูกไหม) คือต้องจ่ายก่อน ตอนชำระบัญชี

 

เจ้าหนี้การค้า ยังมาทีหลัง และหลังสุดคือ ส่วนแบ่งให้ เจ้านายนั่นล่ะครับ

 

ถ้าประสบภาวะนั้นจริง เจ้านาย น่ะน่า เห็นใจที่สุด เพราะไปไหนได้ล่ะครับ ต้องยืนรับสถานการณ์แต่ผู้เดียว

 

แล้วจะไม่ให้เขา เขี้ยวกับเราก่อนได้ยังไงครับ

 

บริษัทจะอยู่ได้หรือไม่ เรามีส่วน แต่บริษัทจะรอด หรือไม่ เราก็มีส่วน ถ้าเรารู้จักเห็นใจเจ้านาย

 

ดั่งคำที่ว่า น้ำเข้าเรือ ต้องช่วยกันวิด นั่นล่ะครับ หากปล่อยเจ้านายวิดคนเดียว มีหวังเรือจม 

กับสิ่งที่คุณ Honey ฝากไว้ในเฟสบุ๊ค
"ผึ้งขอขอบคุณและเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนๆทุกคนที่ให้กำลังใจ แต่กฎระเบียบต่างๆ ที่มีไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยขององค์กร เราในฐานะสมาชิกขององค์กรก็ต้องให้ความเคารพและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เหมือนกับ กฏหมายที่มีไว้เพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม ทุกคนก็ควรที่จะเคารพและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน

"ผึ้งจึงอยากขอให้ทุกคนสนับสนุนการตัดสินใจ ของผึ้งด้วยนะคะ และโปรดอย่าตั้งข้อรังเกียจสายการบินคาเธ่ยแปซิฟิคในการรักษามาตรฐานของบริษัทเลยค่ะ

ผึ้งมั่นใจว่าสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคที่ผึ้งทำงานมานานถึง 24 ปี เป็นสายการบินที่มีมาตรฐานความปลอดภัยและการบริการในระดับโลก พนักงานทุกคนได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มงวดและมีความเป็นมืออาชีพสูง เมื่อผึ้งทำผิดกฎข้อบังคับของบริษัท ผึ้งก็ต้องรับผิดชอบ เหมือนกับทุกคน ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องยอมรับโทษ

ถ้าเราทุกคน ยอมรับและปฏิบัติตามกฏหมายและกฏระเบียบของสังคม ทุกคนก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

ผึ้งอยากเห็นสังคมไทยเป็นสังคมที่มีกฏระเบียบและเคารพกฏหมาย ประเทศชาติของเราจะได้พัฒนาและมีความสงบสุข

เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนม์พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นที่เคารพรักอย่างสูงของพวกเราชาวไทย ในวันที่ 5 ธันวาคม นี้ เราทุกคนมาร่วมกันตั้งต้นทำความดีถวายพระองค์ท่าน ด้วยการประพฤติตนเป็นผู้ที่เคารพกฏระเบียบและกฏหมายของบ้านเมืองกันดีมั้ยคะ เพื่อพระองค์ท่านจะได้สบายพระทัยที่พสกนิกรของพระองค์เป็นผู้ที่เคารพหลักนิติรัฐนิติธรรมและทำร่วมมือกันให้บ้านเมืองของเราสงบสุข ขอบคุณค่ะ”
สรุปแล้ว คุณ Honey หรือคุณผึ้ง เลือกที่จะลาออกจากสายการบินคาเธ่ยแปซิฟิค เพื่อรักษาภาพพจน์ของอู่ข้าวอู่น้ำที่เธอทำงาน ณ ที่นี้ มากว่า 24 ปี โดยไม่โจมตี ไม่ทำลาย อีกทั้งยังส่งเสริม สำนึกบุญคุณที่ให้ความอุปการะในด้านอาชีพการงานแก่เธอมา คำว่ากตัญญูรู้คุณ เธอไม่มีความบกพร่องที่จะรับไว้ คนแบบนี้ไปที่ไหน ใครก็รัก ให้ความเมตตา ไม่มีคำว่าตกยาก คนเช่นเธอ เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน
ไม่เหมือนใครที่เป็นคนไทยเหมือนเราๆท่านๆแต่เจตนาจงใจที่จะทำลายล้างประเทศทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความปั่นป่วน เผาบ้านเผาเมือง สาดเลือดหน้าทำเนียบ พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ใช่ความคิด แต่เป็นการกระทำ แบบนี้เรียกว่าอตัญญูประเทศไทยจะได้ไหม
บ้านมีกฎบ้าน ที่ทำงานก็ต้องกฎระเบียบข้อบังคับ สังคมก็ต้องมีกฎกติกา ประเทศก็ต้องมีกฎหมาย คนเราต้องยอมรับและปฎิบัติ ไม่ใช่ฝ่าฝืน แล้วยังลอยหน้าลอยตา อ้างว่า โดนกลั่นแกล้ง เป็น 2 มาตรฐาน ไม่มีหรอกครับ วาทะกรรมหลอกใช้คนที่รู้น้อยกว่าทั้งนั้น
ขอบคุณ คาเธ่ย์แปซิฟิค ที่สร้างความสว่างไสวให้กับสังคมไทย คนไทยนอกจากจะตาสว่างแล้ว ใจยังสว่างอีกด้วย ขอให้ตระกูลชินวัตรได้รับความรักใคร่จากคนไทยทั้งประเทศอย่างทั่วถึง เฉกเช่นทุกวันนี้ ส่วนใครจะมองในทางตรงกันข้าม ก็ไม่อาจหวงห้ามสิทธิได้ เพราะความจริงก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ดังเช่นที่เราเห็นๆกันอยู่กับเรื่องที่สร้างวลี"อยากสาดกาแฟ"ขึ้นมา
ที่บอกว่าไม่เกี่ยว ก็ต้องเกี่ยว เพราะรัฐมนตรีก็ออกมาปกป้อง ซ้ำยังข่มขู่คุณแอร์ว่าผิดกฎหมายอย่างโน้นอย่างนี้ ว่าเตรียมพร้อมจะทำร้าย แต่โอกาสไม่อำนวย ทั้งที่ไม่ใช้หน้าที่ของรัฐมนตรีผู้นั้นเลยอีกทั้งไม่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ สื่อเสื้อแดง หรือคนเสื้อแดงในเฟสบุ๊คทำเรื่องแจ้งข่าวไปยังเฟศบุ๊คของคาเธ่ย์แปซิฟิค ทำนองว่าไม่อบรมดูแลพนักงาน ต่อมาก็มีมวลชน นำโดนวรัญชัยเจ้าเก่าไปถือป้ายประท้วงหน้าบริษัท มีข้อความบอกว่า เกลียดพ่อแต่มาลงกับลูก ลงชื่อที่ป้ายว่า กลุ่มแม่บ้านตำรวจ โถๆๆๆจงใจมากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย


สมจิตต์ นวเครือสุนทร นักข่าวสาวใจเด็ดได้โพสบนเฟสบุ๊คทิ่งแทงใจใครบางคนว่า
"คนดีเสียสละตัวเองเพื่อรักษาระบบ คนชั่วแก้ไขระบบเพื่อรักษาตัวเอง ขอแสดงความเคารพจากใจจริงถึงคุณผึ้งที่เป็นแบบอย่างให้กับสังคมไทยในการแยกแยะการกระทำส่วนตัวออกจากการทำผิดกฎระเบียบของบริษัท
แม้คุณผึ้งเป็นแอร์โฮสเตสได้บินมาแล้วหลากหลายประเทศ แต่คงไม่มีเครื่องบินส่วนตัวบินได้รอบโลกเหมือนกับบางคนที่กำลังจะแก้ไขระบบเพื่อรักษาตัวเอง แต่คุณผึ้งพึงภูมิใจเถอะค่ะว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์และความเป็นคนไทยเป็นเกียรติยศศักดิ์ติดตัวที่ทำให้คุณผึ้งเหยียบยืนบนแผ่นดินไทยได้อย่างภาคภูมิ ในขณะที่คนบินได้ทั่วโลกไร้ความชอบธรรมที่จะเหยียบแผ่นดินไทยหลังทำร้ายแผ่นดินแม่จนยับเยิน เว้นแต่ว่าเขาคนนั้นจะยอมรับระบบเหมือนอย่างที่คุณผึ้งทำ
ขอบคุณในความกล้าหาญที่แสดงออกให้สังคมรู้ว่าคนดีมีความกล้า ไม่ใช่ดีแต่หลบอยู่ในกะดอง"/ สมจิตต์

http://www.oknation....2/12/04/entry-1

ที่จริง ประเทศเราเอง การศึกษาไม่ใช่ว่าห่วยนะครับ
ดูแค่รัชกาลที่ 1 ลงมา เราสามารถสังคายนาพระไตรปิฎกได้
ลังกาต้องส่งสมณฑูตมาขอสืบศาสนา และเราไปตั้งนิกายสยามวงศ์ได้เป็นปึกแผ่น
ในยุคที่ระบบภูมิปัญญา ผูกกับศาสนา สยามก็ถือว่ามีหน้ามีตาทีเดียว

แต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบียบโลกมันเปลี่ยนแยะ
แล้วเมกากับรัสเซียก็กลายเป็นคู่แค้น ทำให้ประเทศเล็กๆ อยู่ลำบาก
เราก็ตัดสินใจเข้าข้างเมกา.....ก็เลยรับระบบ แ ด ร ก ด่วนมาแยะ

เมกามันเป็นประเทศแปลก คือใหญ่มาก ตั้งโรงเรียนไม่ไหวก็ใช้วิธีให้ครูไปหาเด็ก
เดือนละครั้งหรือ 2 ครั้ง ไปแล้วก็ทิ้งการบ้านไว้
จุดเน้นก็คือ ให้อยู่ได้ด้วยตัวเอง ถึงได้มีปรัชญาเลินนิ่งบายดูอิ้ง ให้ทำเป็น ไม่ใช่เน้นให้ใช้ปัญญา
เรียนแค่อ่านหนังสือราชการได้ก็พอ แต่ขอให้คิดเลขง่ายๆ ได้ ซ่อมรั้วเป็น เลียงวัวได้ ทำไร่ได้ ยิงปืนเป็น

ของเราต่างกันมาก รัชกาลที่ 5 ท่านฉลาด บอกเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีว่า เอาวัดนี่แหละเป็นโรงเรียน เอาภิกษุเป็นครู รัฐบาลสนับสนุนให้เดินได้ก็พอ เพราะชุมชนกับวัดเขาพึ่งพากันอยู่แล้ว แล้ววัดของเรา มีมากกว่าโรงแรมเสียอีก ตั้งแต่มีระบบโรงเรียนขึ้นมา พลเมืองไทยก็อ่านออกเขียนได้เพิ่มขึ้น โดยที่ไม่ได้เสียแรงงานอะไรมากมาย

มาเจอยุคประชาธิปไตยเข้าไป ซ้ำด้วยยุคพัฒนาของสฤษดิ์ เด็กไทยก็เลยกลายเป็นจับกัง เช้าขึ้นแบกกระเป๋าใบละสามสี่กิโลไปโรงเรียน อยู่ที่นั่นจนเย็น กลับมาบ้านก็หมดแรง แทนที่จะเรียนไปช่วยงานบ้านไป กลายเป็นพลเมืองชั้นสูง เพราะค่านิยมว่าเรียนไปเป็นเจ้าคนนายคน แทนที่จะเรียนเพื่อมาทำครอบครัวให้เข้มแข็ง


เรื่องนี้ยาวครับ และเป็นมูลเหตุสำคัญให้เกิดพลเมืองแดงในทุกวันนี้

ส่วนปริญญาของคุณโง่จริงหรือเปล่า ลองวัดดูสิครับว่าคุณเรียนอะไรที่ฉลาดจากมหาวิทยาลัยบ้าง
ผมก็จบสาขาวิชาประมาณนี้ ผมจึงกล้าระบุว่าปริญญาของผมนั้น ทั้งโง่ทั้งล้าหลังอย่างน่าสงสาร

อย่างน้อยที่ผมมาออกความเห็นในสรท. ก็ขอบอกว่า ไม่ได้มาจากปริญญาที่เรียนเลย
ผมจึงอดจะอิจฉาเพื่อนๆ ที่มันจบแล้วมีอะไรมาพูดได้ จบกฏหมายก็ไล่หลักการยุติธรรมได้สบายๆ
จบเศรษฐศาสตร์ก็อธิบายเงินเฟ้อ อธิบายงานของสภาพัฒน์ได้ ทันทีที่ขอ
หรือพวกจบวิศวะ ก็แม่นหลักวิชาพื้นฐาน ไม่มั่ว

ในขณะที่ปริญญาโง่ๆ ของผม แม้แต่เรื่องง่ายๆ เช่นสะกดให้ถูกต้องตลอดเวลา ยังทำไม่ได้
จดรายงานการประชุมก็ทำไม่เป็น
ร่างจดหมายชี้แจงการให้บริการที่บกพร่องก็ทำไม่ได้
ถ้าจะวัดผลกันจริงๆ ไม่มีใครผ่านโปรได้เป็นพนักงานประจำซักคน

ไอ้ที่แย่ก็คือ เราต้องรับเขาเพราะไม่มีดีกว่านี้แล้ว แล้วก็สอนงานเขาใหม่ พอเขาอยู่ได้ซักสามปี เขาก็คิดว่าตัวเองเก่ง จะเอาเงินเดือนเพิ่มแยะๆ ทั้งๆ ที่เขาเก่งเพราะบริษ้ทสอนเขาชดเชยกับที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอน.....ก็ต้องให้มันออกไป แล้วรับคนใหม่เข้ามา

ก่อนมีกฏหมายที่ดิน ทุกตารางนิ้วเป็นของกษัตริย์
จากวันนั้นถึงวันนี้ ที่ดินที่เคยเป็นของกษัตริย์ถูกโอนเป็นที่ราชพัสดุและของสำนักงานทรัพย์สิน
ซึ่งโดยกฏหมายถือว่าเป็นของประเทศ

แล้วที่ดินนอกจากนั้นล่ะ
ผมให้นักการเมืองเพิ่มเป็น 2000 คนเลย ครอบครองที่ดิน สองแสนไร่ ไปเลยเหมือนกัน

ที่เหลือตอนนี้อยู่ที่ใคร ก็ต้องตอบว่าอยู่กับเอกชนและต่างชาติ
ถามว่า ภายใต้ระบอบการปกครองปัจจุบัน เอามาปฎิรูปได้ใหม
ตอบว่าได้....แต่เอาเงินที่ใหนซื้อคืนมาล่ะ

ถามว่าปฎิรูปด้วยการจำกัดการถือครองได้ใหม ตอบว่าได้
แต่จะจำกัดธุรกิจไม่ให้ถือครองได้ป่าว ตอบว่าได้ แต่เขาจะขนเงินออกไปหมด
เพราะเขาก็ต้องการความมั่นคงในการเข้ามาลงทุน

เกิดเขาจะทำโรงเหล็ก ต้องใช้ที่ดินห้าพันไร่ล่ะ
หรือมาทำสนามกอล์ฟ ที่ดินเจ็ดร้อยไร
ทำโรงพยาบาล โรงแรม มหาวิทยาลัย....บล่าๆๆๆๆๆๆ

บอกได้คำเดียวว่า ถ้ายังใช้ระบอบการปกครองอย่างนังธิดามันใช้ในตอนนี้ ที่ทำให้ผัวเหวงได้เป็นสส.
อย่าฝันเรื่องปฎิรูปที่ดิน

แล้วถ้าไม่สามารถปฎิรูปที่ดิน....คนจนจะเป็นอย่างไร
ตอบว่าคนจนก็ต้องพึ่งนายทุนและอำมาตย์ ต้องแบมือรับความช่วยเหลือจนตายอยู่ดี

คิดกลับไปกลับมา ก็ไม่เห็นทางรอด นอกจากเดินตามที่ในหลวงคิดไว้ให้
สิ่งที่ทรงคิด ยังไม่มีพรรคการเมืองใหนเข้าไกล้แม้ธุลีพระบาท
ก็จบตรงนี้ว่านักการเมืองน่ะของปลอม


ในหลวงสิ ของจริง

แม่เพื่อนผม ก็ตายด้วยโรคไต เพราะไม่มีเงินรักษา เพราะโรงพยาบาลทหารเรือ บอกว่า บัตร 30 บาท รักษาทุกโรค ไม่ได้ครอบคลุมรักษาโรคไต สุดท้ายท่านก็ไม่ได้รับการรักษา ด้วยการฟอกไต ในช่วงนั้นครอบครัวเพื่อนผม สงสัยกันทั้งบ้าน รวมทั้งตัวผม ว่า บัตรนี้ ชื่อว่า 30 บาท รักษาทุกโรค แต่ทำไมทางโรงพยาบาลบอกว่า 30 บาท รักษาทุกโรคใช้ไม่ไ้ด้ ประชาชนคนไทยทุกคนโดนรัฐบาลแม้วแหกตา ต้มตุ๋น ด้วยชื่อนโยบายจอมปลอม
นี่ถ้าแม่เพื่อนผมท่านมาเป็นโรคไต ในยุคของสุรยุทธ เป็นนายก ป่านนี้ท่านคงไม่ตาย เพราะคงได้รับอานิสงค์ความดีความงาม ของท่านสุรยุทธ ที่ทำให้บัตรประกันสุขภาพ รักษาโรคไต ฟอกไตได้ฟรี

ผมเคยดูรายการของเค้าทางทีวีดาวเทียม ดูเอาฮาครับ เพราะจริงๆแม.ร่งโคตรมั่วเลย

ในรายการมันให้คนโทรมาแล้วดูสดๆทางโทรศัพท์


ผมดูอยู่ตอนนึง อย่างฮา

กฤษณ์ : ที่ๆคุณอยู่มีประตูไม้อยู่ด้านขวาใช่มั้ยครับ

ทางบ้าน เอ่อ มีครับ อยู่ขวามือ

กฤษณ์ : อืมอยู่ขวามือ...แต่ประตูเป็นไม้ใช่มั้ยครับ

ทางบ้าน : ไม่ใช่ครับ เป็นสังกะสี

กฤษณ์ : แล้วขอบๆ มันเป็นไม้ใช่มั้ยครับ เป็นอะไรที่ทำด้วยไม้ (ผมคิดในใจ วงกบมันก็ต้องเป็นไม้สิวะ)

ทางบ้าน : เอ่อ ใช่ครับ มันเป็นไม้

ผมกำลังจะเรียน เป็นหมอดู เหมือนกัน. แต่ผมจะดูของที่เค้าไม่ให้ดู

ครั้งละต่ำสุด ต้องเกิน หมื่น..บัตรคิว แค่ วันละ 10 คน ต้องดูกลางคืนนะ

กลางวันนอน ดูไม่ถูก คืนเงิน ใกล้จะเรียนจบแล้ว ..จบแล้วจะบอก...

คนที่เสียหน้า คือ คนไทยทั้งประเทศ แต่ควายบางกลุ่ม คิดว่า ประเทศไทย คือ กทม?

ทำไมรถ รัฐบมนตรีต้องติดไฟแดง
บนถนนแห่งหนึ่งในกทม มีรถยี่ห้อโตโยต้าสีดำคันหนึ่ง
ได้ขับไปบนถนนเส้นนั้นโดยในรถคันดังกล่าว
มีเพียงชายผู้หนึ่งที่กำลังขับรถอยู่เพียงคนเดียวและในระหว่างทางที่ขับไป นั้น
ชายดังกล่าวได้จอดรถแวะข้างทางเพื่อซื้อกาแฟ 1 ถุง
และได้ออกรถไปจนกระทั่งขับมาถึงสี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่ง

ชายดังกล่าวก็ได้จอดติดไฟแดงอยู่ จนมีรถตำรวจคันหนึ่งซึ่งขับนำรถเบนซ์มา
ได้บีบแตรไล่รถที่ชายผู้นั้นจอดติดไฟแดงอยู่นั้นให้ถอยไป และรถตำรวจยังได้พูดผ่านไซเรนว่า

"เป็นรถนำขบวนรัฐมนตรีให้รถของชายดังกล่าวหลบไป"

แต่รถของชายผู้นั้นก็ไม่หลบให้ จนกระทั่งตำรวจได้ลงจากรถมาที่รถของชายดังกล่าว
และเรียกให้ชายผู้นั้นลงจากรถ พอชายผู้นั้นได้ลงมาจากรถ

ตำรวจ ได้เห็นชายคนนั้นถึงกลับเป็นลมล้มทั้งยืน สร้างความตกใจให้แก่ตำรวจอีกคนที่นั่งอยู่ในรถ
จนต้องวิ่งลงมาดูพร้อมกับรัฐมนตรี พอตำรวจและรัฐมนตรีมาถึง ทั้งคู่ได้เห็นชายดังกล่าว
ทั้งตำรวจและรัฐมนตรีได้นั่งลงไปกับพื้นทันที เสมือนกับว่าขาทั้ง 2 ข้างได้อ่อนแรงลงไปทันใด
และได้เงยหน้ามองดูชายซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าตนด้วยอาการตัวสั่น

ชายคนนั้นที่ทั้งคู่ได้เห็นเป็นชายที่มีรูปอยู่ บนธนบัตร ซึ่งก็คือ " ในหลวงองค์ปัจจุบัน "

ในหลวงได้ทรงตรัสถามรัฐมนตรีและตำรวจติดตามว่า
"พวกท่านจะรีบไปไหนหรือถึงกลับจะต้องฝ่าไฟแดง ข้าพเจ้ายังรอติดไฟแดงได้เลย"

รัฐมนตรีไม่ตอบได้แต่นั่ง ตัวสั่นและกราบลงบนพระบาทและในหลวงก็ได้ทรงขึ้นรถ
ตำรวจที่นำขบวนรัฐมนตรีมานั้นก็ได้ทูลว่า
"ให้ข้าพระพุทธเจ้าขับรถนำรถพระที่นั่งของพระองค์ไปมั๊ยพุทธเจ้าข้า"

ในหลวงทรงตรัสว่า
"เราไม่ต้องให้ท่านมานำขบวนรถเราหรอก เราขับไปเองคนเดียวได้ ท่านไปนำรถของท่านรัฐมนตรีเถอะ"

และในหลวงก็ได้ทรงขับรถออกไปจากสี่แยกนั้น โดยไม่ได้มีรถตำรวจนำไปแต่อย่างใดเลย

“ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ”

โอบามา ไป แจกของ เอาหน้าหรือยัง...


โอบามา ปล่อยให้ น้ำท่วม ใช้ไม่ได้... ไม่มีฝีมือ... ต้องให้ เด็กสองคน จากเมืองไทยไปช่วยซะแว้ว....

สนุกไหม มีความสุขบนทุกข์ของคนอื่น

มีข้อความไหน ทีบ่งบอกว่า ผมมีความสุข.... บนทุกข์ของคนอื่น
จะพูดจะแสดงอะไร... หาอะไร มา backup ความคิดตัวเองหน่อย... ไม่งั้นก็เป็นแค่ ลมปาก....

อย่าเอา มโนจริตของตัวเอง มาใส่ร้ายคนอื่น ....
อย่าคิดว่า... คนอื่นเค้าจะมี ความคิดแบบตัวเอง....

แล้วไอ้หน้ายิ้มนั่นแปลว่าทุกข์เหรอคะ

โอบามา ไป แจกของ เอาหน้าหรือยัง...


โอบามา ปล่อยให้ น้ำท่วม ใช้ไม่ได้... ไม่มีฝีมือ... ต้องให้ เด็กสองคน จากเมืองไทยไปช่วยซะแว้ว....

สนุกไหม มีความสุขบนทุกข์ของคนอื่น

มีข้อความไหน ทีบ่งบอกว่า ผมมีความสุข.... บนทุกข์ของคนอื่น
จะพูดจะแสดงอะไร... หาอะไร มา backup ความคิดตัวเองหน่อย... ไม่งั้นก็เป็นแค่ ลมปาก....

อย่าเอา มโนจริตของตัวเอง มาใส่ร้ายคนอื่น ....
อย่าคิดว่า... คนอื่นเค้าจะมี ความคิดแบบตัวเอง....

ในขณะที่อเมริกา มีความทุกข์ เนื่องจากภัยธรรมชาติ คุณยังลากเอาเรื่อง แจกของ ช่วยน้ำท่วม ที่เห็นว่าเป็นการเอาหน้าของนักการเมืองของเรา เขียนเป็นข้อความลงมาให้คนอ่าน มันแสดงถึงอะไร อย่ามาถามหาเรื่องมโนจริตของผม ถามตัวคุณดูเองก่อน ว่าการที่คุณเขียนข้อความอย่างนั้น มโนจริต ของคุณคืออะไร อยู่และเป็นอย่างไร แทนที่จะเห็นใจคนอื่น คุณกลับเอาเหตุการณ์ของเขามาเป็นเครื่องมือล้อเลียนทางการเมือง ผมตอบคุณเท่านี้ แม้ว่าคุณจะเขียนตอบมาอย่างไร ผมก็คงไม่โต้ตอบคุณอีก เพราะผมเห็นว่า คุณไร้ราคาที่จะเสวนาด้วย