Jump to content


iambung

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 16 พฤษภาคม 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2556 23:39
-----

#385801 ไปที่ไหน ***ซวยที่นั่นนนน ถ้าจะจริง! "โอบามา"เครียดจนเข้ารพ. หลัง...

โดย UncleSam on 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:40

ทำตัวเป็น ตำรวจโลก แต่สันดานเหมือน ตำรวจไทย

สมน้ำหน้า ไอ้บักหำโอบาม่า เก่งแต่ปาก ยังเจือกสมคบคิดกับโจร

เลือกตั้งสมัยหน้า อดแดกเถอะมรึง


#385789 ไปที่ไหน ***ซวยที่นั่นนนน ถ้าจะจริง! "โอบามา"เครียดจนเข้ารพ. หลัง...

โดย เช never die on 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:34

ไหมล่ะ... กุว่าแล้ว

ที่รีบออกมาจากเมกา ไม่ใช่เพราะอยากออกมาเอง แต่เพราะโดนรัฐบาลสหรัฐเชิญ(ไล่)ออกมานี่เอง

ลำดับต่อไป อีแห้งเคนนี่ เตรียมตัวหมดอนาคตในอาชีพทูด ส่วนอีแก่ฮิลลารี่เตรียมหมดอนาคตทางการเมือง


#386093 ลัทธิจานบินกู่ไม่กลับจริงๆนั่นแหละ ล่าสุดแสดงอภินิหารบอกศาสดาแอ๊ปเปิ้ลตายแล้ว...

โดย RiDKuN_user on 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:46

ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมลัทธินี้ถึงเข้ากันได้ดีกับพวกเสื้อแดง -_-


#373547 เมื่อมีเรื่องพกโพยเข้าห้องสอบแล้ว ก็อย่าลืมเรื่องข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่ว ปริศนาท...

โดย hentai on 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:59

ความเป็นมาของระบบ Admission


การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของประเทศไทยได้มีพัฒนาการมาเป็นลำดับ ในอดีตที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้ใช้ระบบการสอบคัดเลือกมาเป็นเวลานานกว่า 40 ปี ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้เนื่องจากสถานที่ศึกษาในระดับอุดมศึกษามีไม่เพียงพอแก่ความต้องการของผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่ประสงค์จะศึกษาต่อ มหาวิทยาลัยจึงเล็งเห็นว่าการสอบแข่งขันเพื่อเลือกเอาผู้ที่ได้คะแนนดี และมีคุณสมบัติประกอบอื่นๆ ที่เหมาะสมเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยเป็นวิธีการที่ดีที่สุดนอกจากนั้นยังได้รวมตัวกันพัฒนาให้มีระบบสอบกลางซึ่งดำเนินการในระดับประเทศ และต่อมาดำเนินการร่วมกับทบวงมหาวิทยาลัย จนกลายเป็นระบบสอบคัดเลือกที่เชื่อถือได้และมีคุณภาพที่ดีที่สุดระบบหนึ่งของโลก

หลังจากที่ระบบการสอบคัดเลือกดำเนินสืบเนื่องมาเป็นเวลานาน ได้เกิดสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งพัฒนาตัวขึ้นมาเป็นลำดับ กล่าวคือระบบการสอบคัดเลือกที่มุ่งวัดผลเพียงบางรายวิชาที่สถานศึกษาเห็นว่าจำเป็นสำหรับการศึกษาต่อในแต่ละสาขาวิชา ได้นำไปสู่สถานการณ์ที่ผู้เรียนมุ่งเรียนเฉพาะรายวิชาที่ต้องสอบเท่านั้น โดยผู้เรียนส่วนมากจะไม่สนใจหรือละทิ้งรายวิชาที่ไม่ต้องใช้ในการสอบคัดเลือก ทั้งนี้ เพราะเป้าหมายของการเรียนในที่สุดคือการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยให้ได้ในสาขาที่ตนต้องการเท่านั้น ผลที่ตามมาคือเกิดความล้มเหลวของระบบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา โดยผู้เรียนไม่ได้ผ่านการเรียนรู้ครบกระบวนการ ส่งผลถึงการพัฒนาคนที่ไม่สมบูรณ์

นอกจากนั้น ยังมีผลเสียอันเนื่องมาจากการสอบคัดเลือกดังกล่าว เช่น การที่ผู้เรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนที่เรียนดี ได้มุ่งสอบเทียบเพื่อให้ตนมีคุณสมบัติเทียบเท่าการสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แล้วมุ่งสู่สถาบันอุดมศึกษาโดยไม่ได้เรียนครบตามชั้นปีแม้ในความเห็นของผู้เรียนและผู้ปกครองอาจเห็นว่าเป็นการประหยัดเวลา แต่ผลที่ตามมาก็คือการเข้าศึกษาก่อนมีวุฒิภาวะที่เหมาะสม และการได้ผ่านการเรียนรู้ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้มีผู้สำเร็จการศึกษาไปประกอบวิชาชีพก่อนวัยอันควรเป็นจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลอันไม่พึงประสงค์ในการประกอบวิชาชีพต่างๆ อยู่ไม่น้อย นอกจากนั้น กระบวนการสอบคัดเลือกผนวกกับกระบวนการสอบเทียบชั้นได้นำมาซึ่งธุรกิจการกวดวิชาซึ่งมีการพัฒนาตัวขึ้นเป็นระดับอุตสาหกรรม การกวดวิชาที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์เฉพาะการเข้าศึกษาต่อได้ซ้ำเติมความเสียหายตามที่กล่าวมา โดยส่งเสริมให้ผู้เรียนมุ่งเน้นเฉพาะความรู้และวิธีการต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อสอบคัดเลือกให้ได้เท่านั้น โดยละทิ้งความสนใจส่วนอื่นของระบบการศึกษาเสียสิ้น

สถานการณ์ดังกล่าวมาแล้ว ได้ก่อตัวและขยายวงกว้างจนกล่าวได้ว่าเป็นวิกฤตการณ์ของระบบการศึกษาไทย อันมีการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยเป็นต้นเหตุ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาจึงเกิดความพยายามที่จะแก้ไขวิกฤตการณ์ดังกล่าว ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยร่วมกับทบวงมหาวิทยาลัย จึงได้ปรับปรุงระบบการสอบคัดเลือก โดยมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาได้ศึกษาให้ครบถ้วนตามหลักสูตร แนวทางหนึ่งของการแก้ปัญหาที่ได้ถูกนำมาใช้แล้วคือ การกำหนดให้นำผลการเรียนเฉลี่ยสะสม หรือค่า GPA (Grade Point Average) มาเป็นส่วนประกอบในการคิดคะแนนการสอบคัดเลือกด้วย เนื่องจากค่า GPA เป็นคะแนนสะสมที่เกิดจากการเรียนทุกรายวิชาและสะสมต่อเนื่องกันมาตลอดเวลาการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งสามชั้นปี การกำหนดให้ใช้ค่าคะแนนดังกล่าว จึงเป็นหลักประกันให้ผู้เรียนสนใจศึกษาครบทุกรายวิชาและทุกชั้นปีตลอดหลักสูตรการศึกษา

ประเด็นที่ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมขึ้นมาในระบบการสอบคัดเลือกที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ การเปิดโอกาสให้มีการสอบได้ถึงปีละสองครั้ง ครั้งแรกในช่วงปิดภาคการศึกษากลางปีในเดือนตุลาคม ครั้งที่สอง เมื่อสิ้นปีการศึกษาแล้วในเดือนมีนาคม โดยผู้สมัครสามารถเลือกใช้คะแนนที่ดีที่สุดจากการสอบทั้งสองครั้งมาใช้ในการสมัครเข้าศึกษา ทั้งยังให้ผู้สมัครสามารถเก็บคะแนนดังกล่าวไว้ใช้เป็นเวลา 2 ปีในกรณีที่ต้องการนำคะแนนมาใช้สมัครใหม่ในปีต่อไป การเปิดโอกาสให้มีการสอบมากกว่าหนึ่งครั้งมีผลดีคือการลดความกดดันในตัวผู้สมัคร โดยหากการสอบครั้งแรกทำคะแนนได้ไม่ดีก็ยังสามารถสอบแก้ตัวในครั้งต่อไปได้ อย่างไรก็ดีจากการที่ผู้สมัครสอบมักใช้ความพยายามโดยหวังผลที่ดีที่สุดทุกครั้งที่สอบ ทำให้การเปิดโอกาสมากครั้งดังกล่าวกลับส่งผลเสียในผู้สมัครสอบบางกลุ่มที่มักเห็นว่าเหตุที่ต้องสอบหลายครั้ง ทำให้เกิดแรงกดดันและความเครียดหลายครั้ง อีกทั้งในการสอบเดือนตุลาคมดำเนินการในขณะที่การเรียนการสอนชั้นมัธยมปีที่ 6 ยังไม่สำเร็จครบตามหลักสูตร ทำให้เกิดแนวโน้มที่โรงเรียนพยายามเร่งสอนให้จบก่อนเวลา เพื่อให้นักเรียนของตนมีความพร้อมด้านเนื้อหาสำหรับการสอบสูงที่สุด หรือไม่เช่นนั้นอีกด้านหนึ่งนักเรียนก็มุ่งกวดวิชาเพื่อให้ได้เนื้อหามากที่สุด ปัจจุบันนี้จึงปรากฏเป็นข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่า การสอบเดือนตุลาคมเป็นเหตุให้เกิดผลเสียต่อระบบการเรียนการสอนตามปกติ ดังเช่นที่ได้กล่าวมา



ที่มา : ระบบการรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลาง เว็บไซท์
http://www.cuas.or.th/

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สรุปว่าผมเข้าใจผิดเรื่อง อีอุ๊งอิ๊ง นะครับ

ที่จริงคือแอดมิชชั่นเอาไว้แก้ปัญหาธุรกิจ รร.กวดวิชานั่นเองครับ



ซึ่ง ผลที่ได้ก็คือ
ตอนนี้ กวดวิชา ก็เยอะกว่าเดิม... :D


#373455 เมื่อมีเรื่องพกโพยเข้าห้องสอบแล้ว ก็อย่าลืมเรื่องข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่ว ปริศนาท...

โดย David_GinoLa on 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:06

สำหรับคนเสื้อแดงที่คิดไม่ออกว่าจะตอบกระทู้ว่ายังไง ไม่เป็นไรครับ ผมมี Templateของคำตอบ ให้สำหรับแดงที่จะเข้ามาตอบ

-ดีกว่าแพ้เลือกตั้ง
-มาร์คชั่งไข่

-มาร์คหนีทหาร
-ปชป.และม๊ากผิดทู้กอย่างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงเลย อ้าว!! กราบบบ!!! Posted Image



#374628 “จิตตนาถ” เผยเสียใจ “โกวิท” เสียลูกสาว ไล่พวกแมลงสาบป่วนเว็บซ้ำเติม ชี้คนมีสำ...

โดย เด็กอมมือ on 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:15

Mgr สลิ่มเค้าไม่เข้ากันหรอก จะเห็นก็มีแต่แก๊งถังขี้เท่านั้นแหละ
นิสัยโยนขี้ให้คนอื่นแบบนี้ พิมพ์เดียวกับพ่อเป๊ะเลยนะครับ 555


#370743 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 01:16

เงินส่วนพระองค์ของพระราชวงศ์ท่านก็พากันสละมาไถ่บ้านเมืองคราว ร.ศ.112 ทำไมตรงนี้สมศักดิ์ละเว้นไม่พูดถึง?

แล้วผมไม่เชื่อว่าซื้อเยอะขนาดนั้นด้วย!

ความ เป็นมาของเงินถุงแดง มีเรื่องเล่าว่า สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ทรงรับสั่งให้เก็บเงินไว้ในถุงแดง มีเจ้านายคนหนึ่งถามว่า จะเก็บเงินส่วนนี้ไว้ทำอะไร ทรงมีพระราชดำรัสเล่นๆ ว่า “จะเก็บเอาไว้ไถ่บ้านไถ่เมือง” ไม่คาดฝันว่า ในที่สุดก็ได้นำมาไถ่บ้านไถ่เมืองจริงๆ

เมื่อโปรดเกล้าฯให้เอาออกมานับ ปรากฏว่าได้ถึง 3 หมื่นชั่ง หรือประมาณ 2,400,000 ฟรังก์เท่านั้น ส่วนที่ยังขาดอยู่ จำเป็นต้องหามาเพิ่มเติม ถ้าหามาไม่ได้ทันเวลาที่กำหนด บ้านเมืองสยามยามนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า หมาป่าเจ้าเล่ห์จะตะครุบอะไรสวาปามเข้าไปอีก

เมื่อประชุมกันแล้ว ทางออกก็คือ รวบรวมเอาจากพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการฝ่ายใน กลางสถานการณ์คับขัน บ้านเมืองตกอยู่ในมรสุมอันบ้าคลั่ง ทุกคนต่างช่วยผ่อนคลายได้ดี ในที่สุดเงิน 3 ล้านฟรังก์ก็ได้ครบจำนวน

เงินนี้ “ต้องใช้รถม้าบรรทุกกันออกมาจากพระบรมราชวังเป็นขบวนยาวเหยียด ผ่านฝูงชนที่มามุงดูกันที่ประตูวังแน่นขนัด ต่างพากันส่งเสียงร้องไห้กันระงม เซ็งแซ่ ล้อรถม้าบดเป็นทางยาวไปบนหินปูนบนถนนในวังเป็นรอยล้อรถที่ขนเงินจำนวนมาก มหาศาลไปครั้งนั้น ซึ่งหนักมากเพราะเป็นเงินแท้ๆ หลายร้อยถุง”

รอยล้อรถม้าที่บดหินแตกด้วยความหนักของเงิน ไหนเลยจะเท่าความปวดร้าวของใจชาวสยามยามเมื่อ พ.ศ.2436 นั้น แม้เราจะสูญเสียอย่างหนักหน่วง แต่ฝรั่งเศสกลับหาได้เอมอิ่มกับน้ำตาของสยามไม่ ในหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส ยังตัดพ้อขุนนางสยามด้วยว่า นำเงินใส่กระสอบป่านคุณภาพไม่ดีเอาไปให้ ทำให้ฝรั่งเศสต้องลำบากในการขนย้าย

ดังปรากฏว่าข้อในหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส ฉบับวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ.1893 ว่า...

“เรือลูแตงของเราได้ขนย้ายเงินอันเป็นสินไหม ค่าปรับในการของเราที่ปากน้ำเป็นเหรียญเงินเม็กซิโกจำนวน 801,282 เหรียญ โดยมีน้ำหนักเหรียญละ 27 กรัม รวมทั้งสิ้น 23 ตัน แล้วในที่สุดเงินก็ถูกขนออกมาจากบางกอกโดยเรือเพียงลำเดียว...

“เมื่อมาถึงนั้น เรือเพียบหนักจนกราบเรือปริ่มน้ำหมด ทุกห้องในเรือใช้บรรทุกกระสอบใส่เงินกองเป็นภูเขาเลากา เสนาบดีคลังของสยามนี้น่าถูกตำหนิที่สุด ได้ใช้กระสอบป่านคุณภาพเลวใส่เหรียญจำนวนมากนี้ทำให้กระสอบขาดชำรุดใน ระหว่างเดินทางมา คนของเรานำขึ้นมาจากเรือไม่ได้ ต้องนำถังตวงนับร้อยใบลงเรือไปขนขึ้นมา”

http://thaiforgetit....011/06/112.html


ก่อน พ.ย.2445 เรายังใช้มาตราฐานเงินโดยใช้เหรียญเงินดอลลาร์เม็กซิโก หลัง2445 เราเปลี่ยนเป็นมาตราฐานทองคำโดยอิงเหรียญทองปอนด์สเตอร์ลิงค์

เพิ่มเติม คิดเงินที่ฝรั่งเศษปล้นไปเป็นค่าเงินพ.ศ.2555

23 ตัน = 811,301.125 ออนซ์ (881ดอลล่าห์ต่อออนซ์ตามมูลค่าพ.ศ.2555) คิดเป็นเงินประมาณ714,756,181us

คิดเป็นเงินบาทตามมูลค่าเงินปัจจุบัน 22,479,081,892.45บาท


เงินค้าขายถือเป็นเงินส่วนพระองค์ที่เป็นมรดก เงินจากจากพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการฝ่ายใน ....

ผมว่าถ้าสมศักดิ์ ยังมาจ่องจับผิดกับแค่พระองค์ท่านซื้อเพชรซื้อเครื่องประดับมาฝากฝ่ายใน

ไอ้สมศักดิ์คือลูกจีนเนรคุณแผ่นดิน โครตเตี่ยโครตอาม่ามันโล้สำเภามาสบายเมืองไทย ไม่ใช้ให้มันมาลำเลิกกับ เสด็จพ่อร.5 (นี่ผมด่าในฐานะลูกจีนด้วยกันนะครับ)


#370013 ข้อเท็จจริงเรื่องสมศักดิ์เจียม เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง.....

โดย RaRa on 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:23

บอกจากความรู้สึกจริงๆเลยครับ ผมชอบงานเขียน ของ ท่านamplepoor มาก

เพราะแสดงถึงวุฒิภาวะและระดับมันสมองได้เลยครับว่า เป็นผู้ที่รู้และมีข้อมูลจริง

โดยที่หงอกเจียมไม่สามารถบิดเบือนตรรกะของ ท่านamplepoor ได้เลย

ถ้าจับหงอกเจียมมานั่ง ดีเบต กะท่านamplepoor ผมว่าหงอกเจียมคงไปไม่เป็น

หรือถ้าจะไปได้ "สีข้าง" คงจะถลอกเยอะเลยครับ

ขอบคุณท่านamplepoor มากๆครับสำหรับความรู้ที่นำมาเผยแพร่

ผมจะตามงานเขียนของท่านไปจนกว่าท่านจะไม่เขียนครับ ....ขอบคุณมากครับ


#370381 "เจ้าสัวซีพี" พูดชัด! "จำนำข้าวดีกว่าประกันรายได้" ชาวนาร...

โดย hinotori on 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:40

++รัฐ ไม่ต้องเร่งระบายข้าว ส่วนกรณีที่รัฐบาลต้องแบกสต๊อกข้าวสารในเวลานี้ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านตันจากโครงการรับจำนำข้าวมองว่าไม่น่าห่วง เพราะหากต้องการความปลอดภัยทางด้านความมั่นคงด้านอาหารเราต้องเก็บสต๊อกไว้ อย่างน้อย 6 ล้านตัน หรือต้องเก็บไว้หนึ่งรอบการผลิต(4-5 เดือน) ไม่ใช่ขายจนเกลี้ยง เพราะหากมีข้าวขาดตลาดชาวบ้านเคยซื้อครั้งละ 5 กิโลกรัม เพิ่มเป็น 10 กิโลกรัม หรือจาก 10 กิโลกรัม เพิ่มเป็น 20 กิโลกรัม ถือเป็นเรื่องเล็ก เวลานี้ก็มีข่าวสหรัฐอเมริกา และอินเดียเกิดภัยแล้งอาจะเป็นโอกาสของไทยการส่งออก
สำหรับ การเก็บข้าวไว้ในสต๊อก 6 ล้านตัน ถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่เกิน 2-3 ล้านตัน ถ้ายกระดับราคาข้าวไทยในตลาดโลกได้ถือว่าได้ฟรี เราอย่าไปแข่งกับอินเดีย อย่างไรก็สู้ไม่ได้ เพราะเวลานี้ค่าเงินของอินเดียลดลงไป 24% เขาขายข้าวราคาถูกกว่าไทย 24% ก็ไม่ขาดทุน แต่ของไทยยังไม่ระบาย นักวิชาการบอกว่าจะเสียหายแสนล้าน ถ้ารัฐบาลไม่เสียหายแสนล้าน ไปกดราคาต่ำไปแสนล้าน แล้วแสนล้านมาเอาจากเกษตรกร เกษตรกรเอาที่ไหนมาเสียแสนล้าน
"เรา จะทำอย่างไรไม่ให้เสียแสนล้าน ต้องเก็บข้าวเอาไว้ และทำอย่างไรให้ราคาสูง คุณขายไปก่อน ผมขายทีหลัง ผมขายน้อยได้เงินมาก ที่เกินนั้นได้ฟรี แล้วผมไปหาข้าวประเทศอื่นไปขาย เช่น ซีพีวันนี้ก็เริ่มซื้อข้าวจากกัมพูชาไปขายทั่วโลก เขาก็พอใจเพราะเราไปช่วยเขานี่คือธุรกิจสมัยใหม่ ผมจะไม่สู้กับเวียดนาม สู้กับพม่า แต่จะสู้ด้วยการเพิ่มมูลค่า สู้ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ และการแปรรูป เขาขายข้าวสาร ผมขายข้าวผัด ขายข้าวสำเร็จรูป ทำไมผมต้องไปแข่งขันขายข้าวราคาถูกๆ ซึ่งผู้ที่จะเสียหายคือชาวนา และรัฐบาล"

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แถบแดงนั่น อ่านดูก็รู้แล้วครับว่า นายธนินท์คนนี้ คือปีศาจชัดๆ

แกจะเชื่อมันก็ได้นะไอ้หมู หรือถ้าแกตัดแปะกะฟันค่ากระทู้ก็อยากให้ดูตรงนี้นิดนึง เผื่อจะเปลี่ยนใจ

- ธนินท์ไม่ซื้อข้าวไทย แต่ซื้อข้าวราคาถูกจากกัมพูชา มาแปรรูปส่งออกได้ราคาสูง

- ธนินท์หลอกให้รัฐบาลค้างสต้อกข้าวไว้นานๆ และข้าวเมื่อเก่า ก็ขายไม่ได้ราคาดี มันก็จะไปช้อนซื้อมาได้ถูกๆ

- การจำนำข้าวเอาไว้ขายทีหลัง ไม่มีคำว่าขายน้อยได้เงินมาก เพราะเวียดนามปลูก เขมรปลูก ส่งออกได้ทั้งปี แข่งกับเราได้ทั้งปี

- แล้วไหนวะที่มันบอกว่า ชาวนาไทยรวยขึ้น ไอ้ตอแหล


#361685 นักยกน้ำหนักไทย โดนเล่นแล้วครับ !!!

โดย HiddenMan on 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:56

มึ-งก็ไปแข่งเองเด่ะ แล้วเวลาชนะ มึ-งอยากโชว์ห่านอะไรก็เรื่องของมึ-ง :lol: :lol: :lol:


#354980 ความเจ้าเล่ห์ทางตรรกะของสมศักดิ์ เจียมฯ และวิธีแก้ของคุณamplepoor

โดย เอื้องผึ้งจันทร์ผา on 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 17:37

ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ ต้านหงอกเจียม

http://www.facebook....&type=1


Posted Image


#353854 ความเจ้าเล่ห์ทางตรรกะของสมศักดิ์ เจียมฯ และวิธีแก้ของคุณamplepoor

โดย tonythebest on 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 23:09

นันถือพี่ amplepoor ครับที่มีความพยายาม
บางครั้งที่เคยเข้าไป บางทีก็เซ็งที่จะแสดงความเห็น
ผู้ตั้งกระทู้ ผู้แสดงความเห็น มันเป็นไปทางเดียวกันหมด
เรื่องแบบนี้ มันกลายเป็นเรื่องความเชื่อไปเสียหมดแล้วครับ
สิ่งที่เราเห็นมาแต่เล็ก มันมีน้ำหนักเพียงความเชื่อของเราเท่านั้น
บางทีก็รู้สึกเปล่าประโยชน์ที่จะไปถกเถียง
เหตุผลคล้ายๆ กับที่ผมเดินกลับมาจากพันดริฟ

ประเด็นความเกลียดชังที่มีต่อสถาบันของคนกลุ่มนี้
ล้วนแล้วแต่มาจากความเชื่อ
เชื่อด้วยเหตุผลที่ผู้นำทางความคิดพยายามสร้างขึ้นมา
กลายเป็นเหตุผลที่ต้องเชื่อ เป็นความเป็นจริง เป็นหลักฐาน
ทั้งที่ผู้นำทางความคิดเหล่านั้น หาได้แสดงหลักฐานใดๆ
แต่ก็ยังพร้อมจะเชื่อ ยืนอยู่บนความเชื่อ ดำเนินไปตามความเชื่อ
เรื่องมากมายที่ใส่ร้ายกัน
เคยมีใครได้เห็นหลักฐานพิสูจน์อะไรได้ ก็ไม่เคยเห็น

เมื่อเหตุและผล ถูกนำมาถกเถียงกับความเชื่อโดยอคติ
มันยากเหลือเกินครับ ที่เหตุผล หรือแม้แต่หลักฐาน (บางครั้ง) จะเอาชนะ
ผมเคยพยายามเถียงกับเพื่อนคนนึง ที่เรียนอยู่ที่อังกฤษ
เค้าบอกว่า เป็นเพราะผมอยู่เมืองไทย
จึงโดนปิดหูปิดตา ไม่รู้ความจริงที่กระจายออกไปทั่วโลก
มีแต่เมืองไทย ที่ไม่รู้จักตัวเอง
ทุกสื่อในเมืองไทย โดนบล็อคไปหมด

ถามไปถามมา ข้อมูลทั้งหลายแหล่
ล้วนแต่เป็นข้อมูลจากเมืองไทย จากกลุ่มเสื้อแดง
จาด อาจารย์ใจ จากเวปไม่เอาสถาบันทั้งหลายแหล่ในเมืองไทยทั้งสิ้น

ผมก็ทำได้แต่บอกเธอ (ผู้หญิง) ไปว่า
อย่าเรียนมันเลย ดอกเตอร์น่ะ
ลองกลับมาเมืองไทยซักระยะ จะไดู้้เห็นความจริง
อย่าเอาแต่รับสื่อด้านเดียวไปเลย


คุยกับคนพวกนี้
ในขณะที่เขามองว่า เราถกกับเขาด้วยความเชื่อ
ในมุมกลับกัน เขาเองก็ยืนอยู่บนความเชื่อที่ไม่เห็นหลักฐานเสียด้วยซ้ำ

แต่ใครบ้าง จะอยากยอมรับ ว่าเลือกเชื่อผิดข้าง
ใครบ้างจะมองเห็นความโง่ของตัวเอง
ใครบ้างจะคิดว่า เรารู้ไม่เท่าทันคนอื่น



แต่อย่างไร ก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่ amplepoor, คุณดราม่า และท่านอื่นๆ นะครับ


#353760 ความเจ้าเล่ห์ทางตรรกะของสมศักดิ์ เจียมฯ และวิธีแก้ของคุณamplepoor

โดย amplepoor on 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 21:31

ขออนุญาตคุณแอมนำข้อมูลไปใช้ในยามที่พวกนั้นอ้างเรื่องนี้นะครับ


ไม่ต้องขอเลยครับ ผมสนทนาในกระดานสาธารณะ
ข้อความย่อมเป็นประโยชน์สาธารณะ...ขอบคุณที่ให้เกียรติครับ

เรื่องหนึ่งที่ควรถามแก๊งค์สมศักดิ์ก็คือ

พวกคุณอยู่ใหนในวันที่น้าชาติ ถูกยึดอำนาจ
อยู่ใหนตอนที่ประชาชนไปให้กำลังใจฉลาดวรฉัตรอดข้าว
และอยู่ใหน เมื่อทหารเริ่มกวาดล้างผู้ชุมนุม

แม้แต่จตุพรกับสารวัตรเฉลิม ยังสู้รสช.


#353739 ความเจ้าเล่ห์ทางตรรกะของสมศักดิ์ เจียมฯ และวิธีแก้ของคุณamplepoor

โดย amplepoor on 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 21:13

ลืมถามความเห็นทุกท่านครับ คำตอบสุดพริวเวลาผมขอหลักฐานในข้อกว่าหาลอยๆของสาวกเจียมฯคือ ให้ยกเลิกมาตรา112ก่อนสิ เพราะมีมาตรานี้พวกเจียมฯจึงให้ดูหลักฐานไม่ได้

ท่านจะตอบกันยังไงครับ?


ตอบไปว่า คนที่วิจารณ์เจ้ารุนแรงที่สุด ชื่อส. ศิวลักษณ์ โดนข้อหาหมิ่น 2 ครั้ง
ครั้งแรกจากเผด็จการรสช. ที่ทักษิณไปยืนกุมกล้วยให้หัวหน้ามันตบบ่า
ครั้งที่สองจากสมุนทักษิณเองเลยทีเดียว

แต่ส. ก็ไม่เคยติดคุก และไม่หยุดวิจารณ์เจ้า
เพราะส. ไม่ได้ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้าย ไม่เข้า ม.112 อยู่แล้ว

ส่วนพวกที่โดน 112 นั้น....ไม่มีใครวิจารณ์สถาบันเลย มีแต่ด่า อาฆาต และดูหมิ่น
มีคนเดียวที่โดนแปลกกว่าคนอื่น คือโจ กอร์ดอน ดันไปเผยแพร่หนังสือห้ามเผยแพร่

อ้อ วีระบุรุษประชาธิปไตยนี่ ติดคุกทั้งนั้น
การติดคุกนี่ เป็นราคาที่ต้องจ่าย ถ้าคิดว่าประชาธิปไตยมีค่า
พวกที่ไม่กล้าสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง มักจะเงียบเมื่อต้องพูด
จึงไม่ควรพูดเรื่องประชาธิปไตยนะ เป็นพวกเชียร์แขกละก้อ พอได้


#353698 ความเจ้าเล่ห์ทางตรรกะของสมศักดิ์ เจียมฯ และวิธีแก้ของคุณamplepoor

โดย MuuSang on 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 20:45

คุณamplepoor เห็นด้วยเลยครับ สาวกเจียมฯเป็นพวกหลักฐานอ่อนจริงๆ ส่วนใหญ่ชอบให้ขอสันนิฐาน พอมีโผล่เอาข้อมูลมาพูดก็มั่วจนน่าตกใจ

อย่างความเห็นข่างล่างนี้ มั่วข้อมูลหมดเลย เอามาจากนี้นะครับลองไปศึกษาวิธีคิดสาวกเล่นๆhttp://www.facebook....&type=1 (สมศักดิ์ เจียมฯมาพวกมาถล่มเพจช่าวบ้าน :lol: )

Posted Image
ลองพิจารณาดูครับ พูดเหมือนพยายามมีหลักการ แต่ข้อมูลผิดหมด!


ราชบุรีนี่ แม่น้ำไหลผ่าน ชลประทานเข้าถึง
มันบ้าไปแล้ว บอกน้ำหายาก

แล้วโครงการช่างหัวมันเนี่ย อยู่อำเภอท่าางมิใช่รึ
มันบอกว่ามันเคยไป สงสัยมันนั่งหลับ ตอนรถวิ่งผ่าน กาญจนบุรี
ผ่านจังหวัดตาก แล้วถึงทางแยกซ้ายเข้าท่ายางเป็นแน่แท้