idolation

quote 'Tam-mic-ra.'
ก็เห็นด้วยนะ แต่พอคิดอีกที เสื้อแดงก็ยังถูกคำถามติดพันอยู่ในกระทู้เดิมนะครับ พอไม่ตอบก็โดนด่าว่าหนีอีก
เขาก็เข้ามาตอบนี่ ไม่เห็นว่าจะอิดออดอะไร แต่ก็ตอบแบบเดิม คือย้อนถาม ไม่ยอมตอบ
ซึ่งผมก็ชอบนะ เพราะมันทำให้เห็นชัด ว่าเทคนิคในการแสวงหาความจริงของเขา เดินไปในแนวใหน
แล้วจะยิ่งทำให้คนอ่าน สามารถตัดสินใจให้น้ำหนักต่อความเห็นเขาได้ง่ายขึ้น

กรณียิงหรือขว้าง ผมไม่มีอะไรอ้างอิงนะเพราะไม่ได้ศึกษา
ส่วนตัวคิดว่าขว้าง เพราะถ้าเป็นยิง M79 มันมีสิ่งกีดขวางเยอะแยะ ไม่ง่ายที่จะกะระยะจุดตกได้
การขว้าง กำหนดความแม่นยำไม่ได้เลย แล้ววัตถุออกจากมือด้วยความเร็วต่ำกำหนดจุดตกไม่ได้ กำหนดความเร็วก็ไม่ได้
ที่สำคัญ ต้องเข้าไกล้เป้าหมายมากๆ ตรงนั้นทหารเป็นร้อยนะครับ

ไม่งั้นจุดตกก็ต้องตกลึกเข้าไปในซอยถนนดินสอ คนยิงไม่สามารถทำให้ตกในระยะของจุดเผชิญหน้าแบบนั้น ได้
ถ้าฝึกมา ก็ยิงแม่น ไม่ว่าเป้าหมายอยู่ที่ใหนก็กำหนดจุดตกได้ไกล้เคียง เพราะการส่งกระสุน สัมพันธ์กับความเร็วและมุมยิง มันจะมาจากข้างบนครับเพราะกระสุนเดินทางเป็นวิถีโค้ง ถ้ารู้ระยะ รู้ความเร็วลม ก็ส่งเข้าเป้าได้ ระยะยิงวันนั้นน่าจะต่ำกว่า 300 เมตร ซึ่งเป็นระยะหวังผลทีเดียว

ส่วนที่โดนผู้การเต็มๆ อันนี้ต้องถือว่ามีโชคด้วย เป้าหมายอาจจะแค่ทำลายกำลัง แต่ได้หัวหน้าใหญ่ในกระสุนนัดเดียว อันนี้เป็นเหตุให้คืนนั้นทหารต้องถอย

http://www.youtube.com/watch?v=2y2sG7HqrpY

มาดูภาพแวดล้อมในคลิปบน ที่ถ่ายจากฝั่งแดงบ้าง ผมนึกไม่ออกว่าจะยิงจากตรงไหน สิ่งขวางเยอะไปหมด เป้าหมายก็ถูกบัง หากยืนยิงจากอีกฝั่งก็คงติดอนุสาวรีย์
ที่อาจเป็นไปได้คือผมว่ายิงลงมาจากอาคารสตรีวิทย์

แต่ถ้าขว้างเป็นไปได้มากกว่า เพราะจุดปะทะอยู่ติดกันมากๆ การขว้างมาจากผู้ชุมนุม หรือมาจากทหารที่ยืนด้านข้างหรือด้านหลังของคุณร่มเกล้าก็เป็นได้

ดูครับ จุดปะทะมันประชิดกันมากครับ มีตอนเสียงเหมือนระเบิด ทั้ง2ครั้ง ในคลิปด้วยครับห่างกัน 23วินาที ส่วนคนถ่ายยืนตรงข้าม รร.สตรีวิทย์น่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=Op-Ix23NvNU

แล้วทำไม เสื้อแดงต้องการฆ่าทหาร

ทหารมีความผิดอะไรครับ

นายกอภิสิทธิ์มีความผิดอะไรครับ

ทำไมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


พวกคุณถึงมาฆ่าพี่น้องทหารของผม

คือง่ายๆ ก่อนนะครับ ถ้าคิดว่าเป็นระเบิดขว้าง จะแยกแยะยังยังไงว่าวัตถุที่ลอยมา เป็นสิ่งของที่เสื้อแดงขว้างปามากับวัตถุระเบิด
คนที่บอกว่าเป็นระเบิดขว้างเนี่ย วิเคราะห์จากเงาดำๆ ที่เห็นในคลิปแค่นั้นได้งั้นหรือ? ผมว่าไม่มีทางได้

ส่วนที่คุณโพสมาว่า

ผมมีคำถาม ถามเล่นๆ นะครับ ในกรณีที่คุณ amplepoor คิดว่าเป็นระเบิด M79

1. ผู้ยิง ยิงมาจากที่ไหน ทำไมไม่มีใครถ่ายภาพหรือบันทึก vdo ไว้ได้ อีกทั้งเป็นการยิง 2 ครั้งติดๆ
(ยิงครั้งแรกต้องเอาปลอกลูกแรกออกก่อนจึงจะบรรจุลูกใหม่ยิงซ้ำได้ นอกจากว่ามีผู้ยิงสองคน ยิงไปจุดเดียวกันแบบขั้นเทพ)

ผมนั้นอยู่ในเหตุการณ์ และเท่าที่จำได้ หลังจากระเบิดลูกแรกลงทหารก็ถอย แล้วสักพักเสื้อแดงก็ซ้ำระเบิดเพลิงจากไหนไม่รู้อีกลูกไปที่รถจี๊บทหาร ลูกที่สองที่ว่าติดๆกันของคุณมันอยู่ตอนไหน
ผมคิดเลยว่าถ้าไม่ได้ระเบิดลูกแรก เหตุการณ์ไม่พลิกหรอก ดังนั้นมันต้องเป็นการกระทำที่วางแผนมาล่วงหน้าแล้วแน่นอน

quote 'สิงห์สนามหลวง'
ผมมีคำถาม ถามเล่นๆ นะครับ ในกรณีที่คุณ amplepoor คิดว่าเป็นระเบิด M79
ถามจริงๆเลยครับ เพราะผมตอบจริงๆ ไม่เล่นลิ้น
และกรณีนี้ ผมบอกชัดแล้วว่า เป็นระเบิดที่ถูกยิงมา ไม่ต้องตั้งสมมติฐานอีก

1. ผู้ยิง ยิงมาจากที่ไหน ทำไมไม่มีใครถ่ายภาพหรือบันทึก vdo ไว้ได้
แล้วเสื้อแดงเคยบันทึกการยิง M79 ที่กล่าวหาว่าทหารยิงบ้างใหมครับ อย่าถามโง่ๆ สิครับ
ถ้าคนยิงอยู่ฝั่งเสื้อแดง คิดหรือว่าจะมีใครเอาคลิบมาลง...เหอๆๆๆๆ
แค่มูราโมโต้ข้ามจากทหารไปเสื้อแดงแป๊ปเดียว ผลเป็นงัยครับ

อีกทั้งเป็นการยิง 2 ครั้งติดๆ
ผมเห็นระเบิดลงครั้งแรก วิ.37 ครั้งที่สอง ตอนใหนครับ บอกเวลาด้วย

(ยิงครั้งแรกต้องเอาปลอกลูกแรกออกก่อนจึงจะบรรจุลูกใหม่ยิงซ้ำได้ นอกจากว่ามีผู้ยิงสองคน ยิงไปจุดเดียวกันแบบขั้นเทพ)
ถ้าตามทฤษฎีคุณ ผู้การตายเพราะระเบิดขว้าง
ก็แปลว่า ขว้างสองหน ลงที่เดียวกัน อันนี้ยิ่งกว่าเทพอีกนะ

2. เป็นการจงใจยิง เพราะรู้พิกัด (ยิงแม่น) หรือ ฟลุค ที่ลูกระเบิดตกลงบนแนวบัญชาการที่รวมพลประชุมกันอยู่
อย่าเบี่ยงประเด็น จะฟลุกหรือแม่น ไม่ใช่ปัญหา เพราะมันสร้างความเสียหายแก่ทหาร
แล้วเอาเครื่องยิงออกมาใช้ เป้าหมายคืออะไร ถ้าไม่ใช่ยิง แล้วยิงใครถ้าไม่ใช่ฝ่ายตรงข้าม
ส่วนเรื่องยิงแม่น ไปดูรายการที่ผมนำมาลง มันยิงแม่นขนาดชั้น 6 ห้องอนุพงษ์ ระยะยิงเป็นร้อยๆ เมตร ยังเข้าเต็มๆ
และที่ลงในการชุมนุมของพันธมิตร...แม่นหรือเปล่า

ลูกระเบิดตกลงบนแนวบัญชาการที่รวมพลประชุมกันอยู่
คุณเห็นเองจากคลิบ ทหารกำลังประชุมอยู่หรือเปล่าล่ะ เห็นทหารยิงปืนขึ้นฟ้าหรือเปล่า

3. การให้ข่าวการเสียชีวิตไม่ว่าจะเป็นบิ๊กศอฉ.หรือพล.อ.อนุพงษ์ให้ข่าวว่าการเสียชีวิตของพ.อ.ร่มเกล้าเสียชีวิตจากระเบิดอะไร
คุณเอามาลงสิ...แต่คุณบอกพวกเรานี่ ว่าอย่าเชื่อบทความ

4. ผลชันสูตรการเสียชีวิตของทหารทั้ง 5 นาย (-1) เสียชีวิตจากระเบิดอะไร
อันนี้ก็เหมือนเดิม เชิญเอามาลง อ้อ แล้วก็ต้องไม่ลืมกฏของคุณ ว่าอย่าเชื่อบทความนะ

ผมว่าความสามารถในการใช้เหตุผลของคุณนี่ ต่ำมากนะ
แล้วการเสนอประเด็นก็ไม่มีระบบเอาเสียเลย

หรือผมโง่
ช่วยบอกทีว่า คุณถามมาหลายข้อ เกี่ยวอะไรกับหัวข้อกระทู้ครับ
ผมถามว่า
ระเบิดลูกนี้ ขว้างมา หรือ ยิงมา

คลิปนายวสันต์ ภู่ทอง ถูกยิงที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทย์ ถนนดินสอ ที่จตุพรนำมาอธิบายบนเวทีนั้น
คลิปนี้ได้ทำการต่อยอดจากกระทู้ในราชดำเนิน พันทิปที่ผมตั้งขึ้นเองครับ (ผมเทียบเคียงแค่ 2 คลิป)

ณ บริเวณถนนดินสอ หน้าโรงเรียนสตรีวิทย์ หรือบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่ปรากฎภาพชายชุดดำติดหรือใช้อาวุธ

มาดูกันชัดๆ ใครลั่นไกยิงเสื้อแดง (กะโหลกเปิด) +...?
http://topicstock.pa...6/P9121816.html

เหมือนเช่นการพิสูจน์สถานที่เสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มุราโมโต้ ช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่ถูกยิงเสียชีวิต
ซึ่งในขณะนั้นเจ้าหน้าที่รัฐยังระบุไม่ได้เลยว่าถูกยิงเสียชีวิตที่ไหน และศอฉ.ก็ยังมั่วว่า ทหารเป็นคนนำร่างฮิโรยูกิส่งโรงพยาบาล

ผมถามว่าทำไมควายแดงถึงเชื่อไอ้คางคกว่า ทหารเป็นคนยิงครับ..คนละเรื่องครับ

หรือว่าคุณสิงห์สนามหลวงก็เชื่อไอ้คางคกเหมือนกันครับ..

นักกฎหมายไม่มีใครคิดว่าคนอื่นจะโดนถอดประกันหลอกครับทุกคนลงความเห็นเหมือนกันว่าเจ๋งโดนคนเดียว

เพือนๆหนูที่นาซ่า ก็อดชื่นชมรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ว่า มีเทคโนโลยี่ชั้นสูง สามารถนำเรือมาวิ่งบนถนนได้ ตั้งเเต่เมื่อปีที่เเล้ว
รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้นายกหญิงที่หน้าตาดีมานำประเทศอะคะ

พิสูจน์ความเป็นตัวซวย "นักโทษทักษิณ" ไปที่นั่น ซวยที่นั่น ล่าสุด "โอบามา" ส่อตกที่นั่งลำบาก หลังให้วีซ่าแก่นักโทษ "ไพศาล" แย้มเครียดจนเข้ารพ. หลังถูกฝ่ายค้านเล็งเอาผิด ฐานละเมิดรธน.ที่ไปสนับสนุนคนคอร์รัปชั่น ด้านโลกออนไลน์เม้าท์สนุก มีการคาดโทษ "ทูคคริสตี้" ที่ประเมินสถานการณ์ผิด ขณะที่นายกสมาคมไทยแคลิฟอร์เนียชี้ "โอบาม่า" เหนื่อยแน่ในศึกเลือกตั้งปธน.ที่จะมาถึง........บอกเเล้วไอ้นี้มันตัวซวย//

กรณีการเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาของ "นักโทษทักษิณ ชินวัตร" ยังก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย แม้ขณะนี้ "นักโทษทักษิณ" จะเดินทางออกจากสหรัฐไปเกาหลีใต้แล้วก็ตาม โดยเฉพาะรัฐบาลของ "บารัก โอบามา" ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ก่อนหน้านี้เคยปฏิเสธการให้วีซ่าแก่ "นักโทษทักษิณ" มาแล้ว แต่ภายหลังรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก้าวเข้ามามีอำนาจบริหารประเทศ ก็ทำให้ท่าทีของสหรัฐเปลี่ยนไป

ในเรื่องนี้นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค Paisal Puechmongkol ระบุว่า..."การที่รัฐบาลตกลงให้สหรัฐใช้ฐานทัพอู่ตะเภา กำลังส่งผลร้ายต่อคุณทักษิณอย่างรุนแรง เพราะโลกอิสลามเห็นว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและบงการรัฐบาลและการให้สหรัฐมาใช้ฐานทัพแบบนี้ ก็เพื่อทำสงครามกับโลกอิสลาม ดังนั้นอิหร่านจึงได้เปิดตัวกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร ๒,๘๐๐ ศพ และเว็บไซด์อัลจาซีร่าก็ขานรับ รายงานข่าวการฆ่าตัดตอนทั้งไทยพุทธไทยมุสลิมกันครึกโครมไปทั่วโลกอิสลามแล้ว นี่คือสัญญาณที่ถูกส่งไปยังชาวมุสลิมทั่วโลก น่าห่วงครับ

การเล่นเกมให้สหรัฐใช้ฐานทัพอู่ตะเภอเป็นเรื่องระดับโลกนะคร้าบเจ้านาย เพราะ ๑.โลกอิสลามมองว่า เป็นแผนใช้ทำลายโลกอิสลาม ๒.จีนมองว่าจะใช้เป็นฐานทัพเพื่อทำสงครามในการปิดล้อมจีน ๓.คนไทยมองว่าเป็นการขายชาติ เสียอธิปไตยให้ต่างชาติและชักเอาไทยเข้่าสู่สงคราม จึงไม่คุ้มกับการได้วีซ่าหรือประโยชน์จากการเอาพลังงานของชาติไปแบ่งกับฝรั่ง เพราะเรื่องนี้อาจถึงขั้นเสียทุกอย่าง

ทางด้านสหรัฐ คนไทยรุมต้านจนทำอะไรไม่ได้และทำให้อเมริกันหันมาสนใจหาข่าวว่า เหตุใดคนไทยจึงรวมตัวกันมากมายต้านคุณทักษิณ เท่านั้นแหละเป็นเรื่อง เพราะทีมหาเสียงของพรรคริพับริกันเอาข้อมูลไปกล่าวหาโอบาม่า ว่าละเมิดรัฐธรรมนูญสนับสนุนการคอรัปชั่น คบหาคนที่สื่อสหรัฐโดยเฉพาะวอชิงตันโพสกล่าวหาว่าเป็น ๑ ใน ๕ คนชั่วของโลก จึงมีข่าวว่าโอบาม่าเครียดเข้าโรงพยาบาล แล้วให้คุณทักษิณออกประเทศไปแล้ว"

ด้านเพจของ Vincent ได้ระบุข้อความไว้อย่างน่าสนใจว่า ได้ข่าวว่าทาง Washington ได้ฆาตโทษ (หมายถึงคาดโทษ) ท่านทูต Kristie Kenney จากการวิเคราะห์สถานะการณ์ที่ผิดพลาดในครั้งนี้ โดยไม่รับฟังคำทวงติงจาก Boyce Ralph L. (เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย คนก่อน) และยังกลายเป็นมลทินให้กับ Hillary Clinton ไปด้วย

ด้านนายเจือ รัตนพันธ์ นายกสมาคมไทยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้วิเคราะห์ผ่าน "นสพ.แนวหน้า" กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ทัวร์อเมริกาหนนี้ว่า มีความสลับซับซ้อนยิ่งกว่าเขาวงกต โดยเฉพาะการที่สหรัฐฯส่งนางคริสตี้ เคนเนีย์ เข้ามาเป็นเอกอัคราชฑูตประจำประเทศไทย ปูทางสร้างคอนเน็คชั่นรองรับกับอเมริกาที่จะมาขยายปีกในย่านเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ และฑูตผู้นี้เข้าๆออกๆพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยก็ได้เครดิตการมาเยือนของทูตอเมริกา อย่างน้อยก็ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งมหาอำนาจให้การสนับสนุน "ยิ่งลักษณ์" แล้วในที่สุด ทูตสหรัฐอเมริกาก็สแต๊มป์วีซ่าเข้าประเทศให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆที่ เป็นนักโทษหนีคดี

เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล การล็อบบี้เพื่อที่จะให้ทูตหญิงอเมริกาได้มองถึงอนาคตที่จะต้องสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน ทำให้ทูตหญิงลืมมองในเรื่องการเลือกปฏิบัติในการให้วีซ่าเข้าเมืองไป ว่ามันขัดต่อกฎหมายเข้าเมืองเขาอย่างไรบ้าง คนธรรมดาพอมีเงินในกระเป๋าที่จะไปเที่ยวอเมริกาได้ แต่ยากเย็นแสนเข็ญที่จะได้วีซ่า ทั้งๆที่เป็นคนดีๆไม่มีประวัติอาชญากรรมติดในทะเบียนประวัติ ก็ยังไม่ได้ เสียเงินฟรีๆ 4-5 พันบาทแบบกินเปล่า แต่นี้พ.ต.ท.ทักษิณมีทะเบียนประวัติเป็นนักโทษหนีคุกหนีตราง ยังให้เฉย ไม่ 2 มาตรฐานก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร

นายกสมาคมไทยแคลิฟอเนีย ยังระบุต่อว่า ประธานาธิบดีโอบาม่า เคยพูดถึง ทักษิณ ในทางลบ อย่างรุนแรงทำเอาพรรคเพื่อไทยเสียหน้าถอยร่นเสียหน้าไม่เป็นท่ามาแล้ว แต่วันนี้ให้สงสารประธานาธิบดีบารัค โอมาบ่า ที่ยุ่งๆอยู่กับการหาเสียงเลือกตั้งสมัยที่ 2 แต่ถูกนักล็อบบี้ยีสต์ให้ข้อมูลผิดๆคิดว่า ทักษิณ เดินทางเข้าอเมริกาหนนี้จะสร้างเครดิตให้กับประธานาธิบดีโอบาม่า และจะได้เสียงคนไทยในอเมริกานับแสนที่จะโหวตให้กับเดโมแครตที่โอบาม่าสังกัดอยู่ เพราะไปไหนมาไหนมีแต่คน(เสื้อแดง)ต้อนรับ และทำให้ฝ่ายเดโมแครต น่าจะเชื่อว่า ทักษิณ เดินทางมาอเมริกาหนนี้จะได้รับการชื่นชมและจะมีผู้คนมาให้การต้อนรับนับหมื่นๆแน่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยคงจะส่งสัญญาณจินตนาการให้กับ ล็อบบี้ยีสต์ ที่จะโน้มน้าวทีมงานเดโมแครต เพื่อที่จะส่งไฟเขียวไปให้ทูตหญิงอเมริกาประจำเมืองไทยสแตมป์วีซ่าให้ แล้วก็เข้าล็อคตามแผน ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสะดวกโยธิน ทักษิณได้วีซ่า ตีปีกเยี่ยงอินทรีย์ ที่จะทะยานเข้ามาล้างตัวสร้างเครดิตหวังให้ชาวโลกยอมรับ ทีมประชาสัมพันธ์ออกข่าวเกี่ยวกับทักษิณได้วีซ่าเข้าอเมริกาทุกวัน คนเสื้อแดงตีปีกปั๊บๆ นายใหญ่จะได้ไปอเมริกาแล้วโว้ย ชาวบ้าน ตาสีตาสาที่ไม่ได้เป็นเสื้อแดงก็ยังต้องดีอกดีใจ เพราะมหาอำนาจอเมริกามันยิ่งใหญ่ในสายตาของคนทั้งโลก ใครๆก็อยากจะมาเที่ยว ยิ่งนักการเมืองแล้วยิ่งอยากจะมา ไม่ได้เข้าไปวอชิงตัน ดีซี.เที่ยวไวท์เฮ้าส์ก็เอาแค่ลาสเวกัสก็ยิ่งดี

"แต่ใครจะไปรู้ละว่า พญาอินทรีย์ นักโทษทักษิณ จะถูกนายพราน คนไทยในอเมริกาผู้รักชาติรักแผ่นดิน รักความถูกต้อง เด็ดปีก ถลาตกจากอากาศอย่างไม่เป็นท่า ไปที่ไหน นิวยอร์ค, ซาน ฟรานซิสโก, แอล.เอ. แม้แต่เมืองหลวงวอชิงตันดีซี ก็ถูกประชาชนคนไทยโห่ไล่ จนไม่สามารถไปไหนได้ ต้องหลบๆซ่อนๆไปทานข้าวร้านเล็กๆ โดยเฉพพาะที่ลอสแองเจลีส ที่ถูกประชาชนคนไทยร่วมจะ 2 พันขับไล่ต่อต้านไม่ให้เข้าไปร่วมงานที่ไทยแลนด์พลาซ่า ในย่านไทยทาวน์ ที่กลุ่มเสื้อแดง เตรียมจัดงานต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ กลายเป็นข่าวใหญ่ในอเมริกา ทั้งสื่อไทยสื่ออเมริกาเสนอข่าวกันคึกคักแถมชาวอเมริกันยังร่วมขบวนต่อต้านด้วย ทำให้กลุ่มเสื้อแดงอำมาตย์ที่เมืองไทย ขัดแย้งครั้งใหญ่กับกลุ่มเสื้อแดงในแอล.เอ.ที่ทำให้การจัดงานครั้งนี้ ไม่สำเร็จตามเป้าที่วางไว้ ต่างก็คาดหวังว่าจะเข้ามาแย่งซีนกันในงานนี้ เพื่อสร้างราคาให้กับทักษิณ แต่แล้วเสียหน้าเสียราคากันทั้งสองฝ่าย มาดหมางมองหน้ากันไม่ติด

นายกสมาคมไทยในแคลิฟอร์เนีย ยังระบุว่า ผลของการมาเยือนอเมริกาของทักษิณครั้งนี้ นอกจากจะไม่ได้อะไรกลับบ้านแล้ว ยังทำเอาพรรคเดโมแครต ที่คาดหวังจะพึ่งกระแส ทักษิณฟีเวอร์ หาเสียงให้คนไทยมาเลือกประธานาธิบดีโอบาม่า ก็ต้องฝันสลายไปกับสายลมแทนที่จะมาสร้างฝันให้กับเดโมแครตกลับมาทำลาย โดยเฉพาะข่าวการที่กลุ่มคนไทยตามล่าตามล่างต้อต้านทักศิษทุกหัวเมือง จนข่าววงในว่ากันว่าเจ้าหน้าที่ โฮมแลนซีคิวรีตี้ ที่มาคอยดูแลต้องรายงานถึงผู้บังคับบัญชาทุกระยะ และประสานงานกับตำรวจท้องถิ่น แอล.เอ.พี.ดี. ว่า ทักษิณไม่ควรเข้าไปร่วมงานที่ไทยแลนด์พลาซ่า จะเกิดอันตราย และสุดท้ายก็ก็งประเมินว่า ทักษิณมาทัวร์หนนี้มีแต่เสียกับเสียไม่มีได้ ควรแก่ตักเตือนให้หยุดบทบาทเคลื่อนไหวทางการเมืองและคงจะเชิญให้ออกนอกประเทศ เพราะถ้าเกิดปะทะขึ้นมาในแอล.เอ. บาดเจ็บล้มตายแค่คนเดียว มันเป็นเรื่องใหญ่กับคนของเขา

ขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากลาสเวกัส รายงานว่ากลุ่มทีมอาสาที่หาเสียงให้กับพรรคเดโมแครต ได้สัมภาษณ์ท่าทีของคนไทยที่ออกมาต่อต้านทักษิณ ว่าเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ กลุ่มคนไทยจะเทคะแนนเลือกใครพรรคไหน ก็มีเสียงตอบรับไม่เป็นที่พอใจนัก เพราะคนไทยส่วนใหญ่ที่ออกมาต่อต้านครั้งนี้เขาไม่พอใจรัฐบาลโอมาบา ที่ให้วีซ่า ทักษิณ เข้าประเทศทั้งๆที่มีคดีติดตัวและหนีคุกเข้าประเทศไทยไม่ได้ เป็นเงื่อนปมที่เสียดแทงพรรคเดโมแครต เพราะอย่างน้อยเสียงคนไทยในอเมริกาที่มีสิทธิโหวตลงคะแนนเลือกตั้งไม่ต่ำกว่าแสนเสียงอาจจะสวิงโหวตไปให้กับพรรครีพับลิ(ฝ่ายค้าน)กันหลายสิบเปอร์เซนต์ จะส่งผลต่อการแพ้หรือชนะได้ไม่ง่ายนัก

“รายการนี้ ถ้าว่ากันไปแล้ว เพื่อไทย และรัฐบาลไปตีราคากลุ่มคนไทยผู้มีหัวใจรักชาติ กลุ่มพันธ์มิตรฯต่ำไป ไม่คิดว่าจะมีพลังรวมตัวกันได้มากขนาดนี้ เป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ของรัฐบาลอเมริกัน ที่ถูกประนามในการออกวีซ่าให้นักโทษทักษิณเข้าประเทศไปทั่วโลก”นายกสมาคมไทยแคลิฟอร์เนีย วิเคราะห์ในตอนท้าย
http://thaiinsider.i...-08-20-01-47-16

กลุ่มปัญญาชนคนอีสานไม่เอาพรรคเพื่อไทย

Terdkiat Kanti ไปที่ไหน ***ซวย ที่นั่นนนน
ด.ช.อาเบะ ไล่เตะด้วยตืนเปล่า ทักษิณจ่ายน้อยไปหน่อยเเต่เชื่อว่า ถ้าเงินครบคงผ่านฉลุย ทุนนิยมนี่มัน***จริงๆ
Dhammarat Watchara โอบามา ไม่น่าทำไรโง่ๆเลย ปรึกษากันก่อนดีมั้ย รู้ป่าวไรดีไรชั่ว
Larnkom Kornsiri คริสตี้สกดคำว่าเวรกรรมไม่เป็น เลยโดยเข้ากับตัวเอง คริๆๆ
Pongpanot Buakaeo คนไทยในสหรัฐไม่ต้องไปเลือกมันละ โอบาม่าหัวดอ
กลุ่มปัญญาชนคนอีสานไม่เอาพรรคเพื่อไทย ‎วรากร คชโกศัย กรณี อิหร่านได้เปิดตัวกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร ๒,๘๐๐ ศพ และเว็บไซด์อัลจาซีร่าก็ขานรับ รายงานข่าวการฆ่าตัดตอนทั้งไทยพุทธไทยมุสลิมกันครึกโครมไปทั่วโลกอิสลาม
http://landdestroyer...while-mass.html
Land Destroyer: Hypocrisy: Syria Burns While Mass Murdering Dictator Roams Freely in USA
รุจิลาภา ปานสุวรรณ เวรกรรมมีจริง โอบาม่า โง่เอง ทักษิณเป็นคนไทย เขายังทําร้ายประเทศไทยได้ แล้วประสาอะไรเขาจะทําร้ายชาติอื่นไม่ได้

ภาพบรรยากาศที่หน้าสถานฑูตสหรัฐ 17-8-55 โดย กลุ่มประชาชนทนไม่ไหว


ภาพจากสถานฑูตอเมริกาประจำประเทศไทย กลุ่มประชาชนที่ทนไม่ไหว ออกมารวมตัวกัน ยื่นจดหมายประท้วงถึงการที่อเมริกาไห้วีซ่าแก่นักโทษหนีคุกทักษิณ ชิณวัต



















หน้าสถานฑูตอเมริกา วันนี้ เวลา บ่าย

ประชาชนทนไม่ไหว รวมตัวกันแสดงพลังผลักดันให้ สหรัฐส่งตัว ผู้ร้ายข้ามแดน นายทักษิณ ชินวัตร กลับมาไทย
Nui Milo อยากไปร่วมด้วย..แต่ติดงาน..ขอเป็นกำลังใจให้ครับ.
ตะต้น ค้าบ รวยล้นฟ้าแต่ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ แต่ก็ยังไม่สำนึก
มิได โดโกโระ เจ้าหญังอัตสึ แห่งปราสาทเอโดะ ดี เอาให้วุ่นวายกันทั้งโลกเลย ไอ้แม้ว
Prakarn Taxi Service ขอบคุณที่คุณมองเห็นว่ากฏหมายไทยเป็นเอกราช อเมริกาอย่ามาลบหลู่กฏหมายไทย
Kra Prow Kai share kha...Ask them .Why gave visa for goil man kha.benifit or stupid.
Chalawan PhunTham ขอเป็นกำลังใจให้ครับ เกลียดพวกอเมริกัน ทำตัวเป็นใหญ่
Vorn Pattaya มันต้องแบบนี้ คนไทยรักชาติ สู้ๆ
รวินทร์ โชคชัยอภิวัฒน์ ผมอยู่ต่างจังหวัด...ส่งใจไปช่วยครับ
ทะเลสวย สงขลา สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆรักษาชีวิตกันไว้นะ รักทุกคน
Leng Ruedee Saejiam สู้ๆคะอยากไปมากแต่หนูอยู่แพร่แล้วลูกหนูก็เล็กมาก เอาใจช่วยนะคะ ขอบคุณทุกๆคน
Momo Lee Love King ให้เข้าประเทศแถมไม่ส่งกลับมาอีก เหอะๆๆ ตำรวยโลก

....คนรุ่นหลัง จำนวนมากเกิดไม่ทันรู้ ดูไม่ทันเห็น ความชั่วร้ายของชายชื่อทักษิณ ชินวัตร และคณะตระกูลชินวัตร
และดามาพงศ์ แลพลพรรคไทยรักไทย หรือ เพื่อไทย ในปัจจุบัน
เมื่อครั้งมีอำนาจในมือซ้าย ถือกฎหมายในมือขวา
เมื่อครั้งนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร
สร้างผลงานโบว์ดำอันลือลั่นสั่นสะเทือนแผ่นดิน ด้วยการใช้อำนาจ และช่องโหว่ทางกฎหมาย
ซื้อขายหุ้นชินคอร์ปโดยไม่เสียภาษีสักบาทเดียว โดยมีกุนซือชื่อ สุวรรณ วลัยเสถียร ดำเนินการให้

ถึงขนาดยุคนั้นมีการเปรียบเปรยแบบปากต่อปากว่า

"คนขายก๋วยเตี๋ยวยังเสียภาษีแบบนับชามก๋วยเตี๋ยวเลย แล้วนายกฯเป็นใครทำไมไม่เสียภาษี"

ถึงไม่ผิดกฎหมายแต่ผิดจริยธรรมในฐานะที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรีที่นำเงินภาษีมาใช้บริหารประเทศ

แต่ตัวเองและตระกูลกลับคิดใช้อำนาจช่องโหว่ หลบเลี่ยงภาษี

หลังจากนี้คือส่วนหนึ่งของข่าวสารที่ชวนคิดในยุคนั้น

เปิด10ปมคาใจขายหุ้นชินคอร์ป

กรุงเทพธุรกิจ l 30 มกราคม 2549 09:52 น.

การขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูล ชินวัตรและดามาพงศ์ ให้กับกลุ่มเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ สัดส่วน 49.95% ในราคาหุ้นละ 49.25 บาท พร้อมรับเงิน


7.32 หมื่นล้านบาท ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาไม่ขาดสาย

และก็มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นปัญหายืดเยื้อ ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และสถานะทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี หาก "กุนซือ" ที่คิดสูตรพิสดาร ไม่สามารถอธิบายความซับซ้อนของดีลนี้ได้ จะทำให้เงื่อนปมปัญหากลับมาพันให้ตัวเองต้องหาทางแก้ไข

เหตุเพราะเป็นดีลที่มีวงเงินสูงและเป็นบริษัทที่ตระกูลนายกรัฐมนตรีขายหุ้นออก แถมทำให้ซับซ้อนเพื่อหาช่องปลอดภาษี จึงมีปมสงสัย "คาใจ" ทั้งด้าน "จริยธรรม" มาตรฐานของกรมสรรพากร กฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ มาตรฐานการกำกับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ปมแรก ได้บทสรุปออกมาแล้วว่า หากดีลครั้งนี้ ก.ล.ต.ไม่ผ่อนคลายเกณฑ์เทนเดอร์ออฟเฟอร์ คาดว่ากลุ่มเทมาเส็ก ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 1.92 แสนล้านบาท

ปมที่ 2 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังไม่มีข้อสรุปออกมาเลยว่า ดีลครั้งนี้มีการใช้ข้อมูลภายในในการซื้อขายหุ้นหรือไม่ เนื่องจากนับตั้งแต่ธันวาคม 2548 ที่ผ่านมา ราคาหุ้นชินคอร์ป เคลื่อนไหวอยู่เพียง 37 บาท และขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องตามกระแสข่าวการขายกิจการของตระกูลชินวัตรออกมา โดยที่ตลาดไม่ได้ขึ้นเครื่องหมายเตือน เนื่องจากมองว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท เพราะเป็นการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น

แต่อาจจะลืมไปว่า ผู้ถือหุ้นและผู้บริหารในดีลนี้เกี่ยวข้องกันและกัน ทำให้ราคาหุ้นขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 มายืนระดับ 48 บาท แน่นอนย่อมมีผู้ได้รับกำไรมหาศาล ที่สำคัญในช่วงก่อน 1 เดือน ผู้บริหารในกลุ่มชินคอร์ปมีการทยอยขายหุ้นออกมาเป็นระยะ

ปมที่ 3 กรณี บริษัท แอมเพิล ริช ขายหุ้นออกมาให้กับ น.ส.พิณทองทา และนายพานทองแท้ ชินวัตร เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549 ในราคาหุ้นละ 1 บาท และมาขายต่อให้กลุ่มเทมาเส็กวันที่ 23 มกราคม 2549 แต่ไม่พบการซื้อเกิดขึ้นในวันที่ 20 มกราคม 2549 ซึ่งยังเป็นข้อสงสัยถึงการซื้อขายและเจ้าของที่แท้จริงในบริษัทแอมเพิล ริช ว่าเป็นใคร ถึงใจดีขายหุ้นออกมาในราคา 1 บาท

ปมที่ 4 ต่อเนื่องมาจากกรณีของแอมเพิล ริช ในอดีตเมื่อ 11 มิถุนายน 2542 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้แจ้ง ก.ล.ต.ชัดเจนว่า ได้ขายหุ้นชินคอร์ป 32.9 ล้านหุ้น (พาร์ 10 บาท) ให้กับแอมเพิล ริช ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่บนเกาะปลอดภาษี บริติช เวอร์จิน ขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ถือหุ้น 100% อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ไต่สวนคดีซุกหุ้นช่วงปี 2543 นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ได้โอนหุ้นให้กับบุคคลอื่นไปแล้ว เท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ถือหุ้นในแอมเพิล ริช แล้ว

เรื่องน่าจะจบเพียงแค่นี้ แต่เมื่อเกิดกรณีวันที่ 20 มกราคม 2549 ขึ้นมา จึงเกิดข้อสงสัยขึ้นว่า โอนให้ใคร เพราะ "ความใจดี" จึงยอมขายหุ้นออกมาในราคา 1 บาท แน่นอนสังคมอาจจะเข้าใจได้ว่า ต้องเป็นบุคคลใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตร ถึงจะยอมกระทำเช่นนี้ เพียงแต่ตัวตนผู้ถือหุ้นที่แท้จริงยังไม่ยอมเปิดเผยออกมา

คำถามจึงตามมาว่า หากหุ้นแอมเพิล ริช ยังอยู่ในมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาตลอด อะไรจะเกิดขึ้น เป็นปมใหญ่แน่นอน เพราะในทางการเมืองอาจจะหยิบมาตั้งคำถาม นำมาซึ่งการ "ซุกหุ้น" ภาคสอง นำไปสู่การเสนอถอดถอนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 216(6) ได้

ปมที่ 5 พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการประชุมคณะทำงานติดตามการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปของตระกูลชินวัตร ห่วงว่า หลังจากนี้ครอบครัวของผู้ขายมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น อาจจะใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ซื้ออย่างไรหรือไม่ เพราะถ้าเกิดขึ้นจริงตามนั้น นอกจากประเทศไทยจะไม่ได้อะไรจากการซื้อขายหุ้นครั้งนี้แล้ว ยังจะมีความเสียหายตามมาด้วย

เหตุเพราะทราบดีว่ากลุ่มเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ของสิงคโปร์เข้ามาซื้อนั้น เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของประเทศ ที่ต้องการย้ายทุนออกจากประเทศตัวเอง และประเมินแล้วว่า ไทยมีความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติน้อยกว่า เมื่อเทียบกับมาเลเซียและสิงคโปร์

ฝ่ายค้านจึงห่วงว่า เมื่อสิงคโปร์มีความต้องการที่หลากหลายจากประเทศไทย ดังนั้น การซื้อหุ้นส่วนนี้จากครอบครัวนายกรัฐมนตรี อาจเพื่อเจรจาต่อรองขอสิทธิประโยชน์ต่างๆ ซึ่งหากมีการมอบสิทธิพิเศษให้แก่สิงคโปร์จริง ก็จะเป็นการกระทำที่มิชอบ เพราะการขายหุ้นเป็นเรื่องส่วนตัว แต่กลับมาพัวพันกับประโยชน์ของชาติ

ปมที่ 6 เรื่องภาษีดูจะเป็นเรื่องอ่อนไหวทางการเมือง แม้ในทางกฎหมาย การขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษี แต่ให้สิทธิเฉพาะการขายหุ้นของบุคคลธรรมดา

กรณีนี้มีปมอยู่ที่ว่า เทมาเส็กจะให้ความสนใจเอไอเอสเท่านั้น แต่ที่ต้องซื้อชินคอร์ปเพื่อให้ปลอดทางภาษี เหตุเพราะหากซื้อเอไอเอสที่ชินคอร์ปถือหุ้นอยู่ 42% เท่ากับว่า เป็นการขายของนิติบุคคล แน่นอนชินคอร์ปในฐานะผู้ขาย ต้องจ่ายภาษี ซึ่งมีการประเมินกันว่า ต้องจ่ายภาษีนิติบุคคลมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท และตระกูลชินวัตรซึ่งถือหุ้นใหญ่ในชินคอร์ป ต้องจ่ายภาษีบุคคลธรรมาจากเงินปันผลอีก 2 หมื่นล้านบาท

แต่เมื่อดีลครั้งนี้ซื้อผ่านผู้ถือหุ้นใหญ่ในชินคอร์ป ในฐานะบุคคลธรรมดา จึงได้รับสิทธิยกเว้นภาษี แน่นอนถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถูกตั้งคำถามถึง "จริยธรรม" เพราะแม้นายกรัฐมนตรีจะไม่มีหุ้นในชินคอร์ป แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่ล้วนอยู่ในตระกูลตามกฎหมาย

ปมที่ 7 ปมภาษี ยังขยายผลไปถึงเรื่องในอดีต ที่ถูกเฟ้นขึ้นมาขยายผลอีกครั้ง ในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขายหุ้นให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2 ล้านหุ้น ในราคาพาร์ 10 บาท และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ขายหุ้นให้ นายบรรณพจน์ ชินวัตร 26.8 ล้านหุ้น ในราคาพาร์ 10 บาทเช่นกัน โดยทั้งสองรายการขายนอกตลาด ซึ่งในครั้งนั้น สรรพากรตีความว่าไม่ต้องจ่ายภาษี เนื่องจากขายในราคาทุน ในฐานะผู้ซื้อ หากมีการขายในอนาคตและมีกำไร ต้องจ่ายภาษี แต่เมื่อขายในตลาดหลักทรัพย์ กำไรจะได้รับการยกเว้นภาษี

อย่างไรก็ตาม ในกรณีเดียวกัน สรรพากรกลับเรียกเก็บภาษีของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ได้รับหุ้นทางด่วนกรุงเทพจากบิดาในราคาพาร์ 10 บาท จากราคาตลาดที่อยู่ระดับ 21บาท มีส่วนต่าง 55,000 บาท แต่ถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษี อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการร้องเรียน สรรพากรกลับยอมรับว่า ผิดพลาดและขอคืนเงินให้ นายเรืองไกร

กรณีนี้ทำให้มองได้ว่า การตัดสินใจคืนเงินของสรรพากร เพื่อไม่ให้เป็นมาตรฐานที่อาจจะส่งผลให้ผลการตัดสินการขายหุ้นของตระกูลชินวัตรก่อนหน้านี้มีปัญหาได้

ปมที่ 8 ยังมีกรณีที่ คุณหญิงพจมานโอนหุ้นชินคอร์ปให้นายบรรณพจน์ 4.5 ล้านหุ้น เมื่อปี 2540 ที่อ้างให้โดย "เสน่หา" ยังเป็นข้อสงสัยอยู่ว่า มูลค่าหรือความหมายแค่ไหน ถึงจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษี ตามมาตรา 40(10)

ปมที่ 9 ประเด็นที่มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเอื้อให้ต่างชาติถือหุ้นได้เกิน 25% ก่อนการซื้อขายเพียง 3 วันนั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณเองที่แก้ให้ต่างชาติจากเดิมที่ถือหุ้น 49% ปรับลดเป็น 25% เพื่อสกัดการเข้ามาของทุนต่างประเทศในบริษัทคู่แข่ง แต่พอตัวเองเริ่มมีแนวคิดที่จะขายหุ้น ก็เห็นสมควรแก้กฎหมายให้มาอยู่ระดับเดิม คือ 49% โดยเฉพาะเมื่อดูถึงจังหวะในการแก้กฎหมายนี้ ก็มีเจตนารมณ์ที่ชัดเจนที่แก้เพื่อเอื้อการขายหุ้นของครอบครัวตัวเอง

ขณะเดียวกัน ถึงแม้จะเปิดให้ถือหุ้นได้ 49% แต่กรณีของการซื้อขายชินคอร์ป กลุ่มทุนสิงคโปร์ใช้นอมินี ที่เป็นสัญชาติไทยเข้ามาซื้อแทน หากนับจำนวนหุ้นที่แฝงอยู่ในนอมินีคนไทยแล้ว จะพบว่าสัดส่วนหุ้นแท้จริงมากกว่า 70% ด้วยซ้ำ

ปมที่ 10 ว่า ด้วยความมั่นคงและสื่อของชาติ เนื่องจากการเข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัทดาวเทียมของไทย รวมถึงไอทีวี ซึ่งจะเป็นปมปัญหาให้เทมาเส็ก ต้องคิดต่อไปว่า จะดำเนินการสองบริษัทนี้อย่างไร


ปิดตำนานซุกหุ้นชินคอร์ป สรรพากรยุติบี้ภาษีครอบครัว “ทักษิณ ชินวัตร ” – “แก้วสรร” คาใจต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

หลังจากที่คณะกรรมการปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ยึดอำนาจการปกครองของไทยสำเร็จ ในเดือนกันยายน 2549 ก็ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ขึ้นมาตรวจสอบโครงการต่างๆที่ทำไว้ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
หลายเรื่องถูกดำเนินการไปเรียบร้อย อาทิ โครงการจัดซื้อที่ดินรัชดา, จัดซื้อกล้ายาง, รถดับเพลิง, หวยบนดิน ยกเว้นคดีหลบเลี่ยงภาษีจากการซื้อ-ขายหุ้นชินคอร์ปฯ ซึ่งเปรียบเสมือนหนามที่แทงกลางดวงใจ พ.ต.ท.ทักษิณ
นอกจากจะถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ยังถูกกรมสรรพากรตามไปอายัดทรัพย์สินของนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร (โอ๊ค-เอม)อีก 12,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งคู่ได้นำคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ไปต่อสู่ในศาลภาษีอากรกลางจนชนะคดี เพราะบุคคลทั้งสองไม่ใช่เจ้าของหุ้นชินคอร์ปฯ ตัวจริง ทำให้กรมสรรพากรต้องถอนอายัดทรัพย์สินคืนให้กับโอ๊ค-เอม
ถึงแม้ทั้ง 2 ศาลตัดสินแล้วว่า หุ้นชินคอร์ปฯ ไม่ใช่หุ้นของโอ๊ค-เอม แล้วหุ้นชินคอร์ปฯ เป็นของใคร พ.ต.ท.ทักษิณ หรือ บริษัทแอมเพิลริชที่มี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเจ้าของ ก็ยังเป็นประเด็นที่จะต้องมีการตีความกัน ทำให้กรมสรรพากรต้องนำประเด็นนี้มาขอความเห็นจากคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่มีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานฯ ซึ่งนายอารีพงศ์ได้มอบหมายให้นางเสาวนีย์ กมลบุตร รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานฯ แทน
และในที่สุด มหากาพย์การต่อสู้ของคนในตระกูลชินวัตรก็ปิดฉากลง เมื่อคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรได้มีการพิจารณาเรื่องนี้ โดยนางเสาวนีย์ กมลบุตร ในฐานะประธานคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้วินิจฉัยกรณีการจัดเก็บภาษีจากการซื้อ-ขายหุ้นชินคอร์ปฯ โดยนำคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ และศาลภาษีอากรมาประกอบการพิจารณา ซึ่งคำพิพากษาของศาลระบุว่า นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ไม่ใช่เจ้าของหุ้นชินคอร์ปฯ แต่เป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้น คณะกรรมการฯ จึงไม่สามารถวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากจะตัดสินยืนตามคำพิพากษาของศาล
นางเสาวนีย์กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนกรณีที่กรมสรรพากรมาขอความเห็นว่า จะประเมินภาษีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้หรือไม่ คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า เรื่องการจัดเก็บภาษีหรือการประเมินภาษีนั้น น่าอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งคณะกรรมการฯ ไม่มีหน้าที่ไปตัดสินว่าจะให้กรมสรรพากรไปเก็บภาษีใคร หรือ ไม่เก็บใคร ประเด็นนี้ อธิบดีกรมสรรพากรจะต้องเป็นผู้วินิจฉัยว่าจะเก็บภาษี พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่
ด้านนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ได้สรุปผลการวินิจฉัย กรณีการซื้อ-ขายหุ้นชินคอร์ปฯ ว่า เจ้าของหุ้นชินคอร์ปฯ ที่แท้จริง คือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ไม่ใช่เจ้าของหุ้นชินคอร์ปฯ ซึ่งการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เข้าข่ายปกปิดบัญชีทรัพย์สินที่จะต้องแสดงต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งศาลฎีกาฯ ได้มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สิน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ตกเป็นของแผ่นดินไปหมดแล้ว จากนั้นเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นเจ้าของหุ้นตัวจริงนำหุ้นชินคอร์ปฯ ไปขายให้กับกองทุนเทมาเสกผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็จะได้รับยกเว้นภาษีตามกฏกระทรวงฉบับที่ 126
“เรื่องภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ ตอนนี้ถือว่าจบแล้ว ต่อจากนี้ไป กรมสรรพากรจะไม่มีการประเมินภาษีคนในตระกูลชินวิตรอีก เนื่องจากผลการตัดสินของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรถือเป็นที่สิ้นสุด ซึ่งคณะกรรมการฯ ก็มีมติเป็นเอกฉันท์ ยืนตามคำพิพากษาของศาลทั้ง 2 ศาล ส่วนเรื่องการประเมินภาษี พ.ต.ท.ทักษิณ คณะกรรมการฯ มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรเป็นผู้วินิจฉัย เมื่อสรรพากรพิจารณาแล้วว่าไม่ต้องเสียภาษี ตรงนี้ก็ถือเป็นที่สิ้นสุดด้วยเช่นกัน เพราะกรมสรรพากรทำตามผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ” นายสาธิตกล่าว

นายแก้วสรร อติโพธิ(คนกลาง) อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)
ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า ผมไม่เข้าใจ ทำไมคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร และอธิบดีสรรพากรไปเอาคำพิพากษาจากศาลมาพิจารณา เพราะศาลทั้ง 2 ศาล ก็ไม่ได้ตัดสินว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเจ้าของหุ้นชินคอร์ปฯ ตัวจริง แต่ศาลตัดสินว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเจ้าของบริษัทแอมเพิลริชที่ถือหุ้นชินคอร์ปฯ กล่าวคือในปี 2542 พ.ต.ท.ทักษิณได้จัดตั้งบริษัทแอมเพิลริช และมีการโอนหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กับบริษัทแอมเพิลริช และก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเล่นการเมือง ในปี 2543 ได้ขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กับนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาในราคา 1 บาทต่อหุ้น ต่อมา ทั้งคู่ได้นำหุ้นชินคอร์ปฯ ไปขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อที่จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามประกาศกระทรวง ฉบับที่ 126 แต่มาถูก คตส. ตรวจสอบพบจึงนำเรื่องนี้ส่งฟ้องศาลฎีกาฯ
“กรมสรรพากรยอมรับหรือไม่ หุ้นชินคอร์ปฯ นั้นเป็นของบริษัทแอมเพิลริช และ พ.ต.ท.ทักษิณคือเจ้าของบริษัทแอมเพิลริช ศาลทั้ง 2 ศาลตัดสินว่า นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ไม่ใช่เจ้าของหุ้นชินคอร์ปฯ ตัวจริง ดังนั้นเจ้าของหุ้นชินคอร์ปฯ ตัวจริงก็คือบริษัทแอมเพิลริชที่มี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเจ้าของ เมื่อแอมเพิลริชนำหุ้นชินคอร์ปฯ ไปขายในตลาดหลักทรัพย์ ก็จะไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามประกาศกระทรวง ฉบับที่ 126 เพราะถือว่าเป็นการซื้อ-ขายหุ้นระหว่างบริษัทกับบริษัท ดังนั้น กรมสรรพากรจึงมีหน้าที่ที่จะต้องไปไล่เก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล 30% หรือเรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากับทักษิณที่ได้หุ้นจากบริษัทแอมเพิลริชไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด” นายแก้วสรรกล่าว
อนึ่ง คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ตามมาตรา 13 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร จะมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานฯ กรรมการประกอบด้วย อธิบดีกรมสรรพากร อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมสรรพสามิต ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และผู้ทรงคุณวุฒิอีก 3 คน มีอำนาจหน้าที่ดังนี้ 1) กำหนดขอบเขตในการใช้อำนาจของเจ้าพนักงานประเมินและพนักงานเจ้าหน้าที่ 2) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลาในการตรวจสอบ และประเมินภาษีอากร 3) วินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับภาษีอากรที่กรมสรรพากรขอความเห็น และ 4) ให้คำปรึกษาหรือเสนอแนะแก่รัฐมนตรีในการจัดเก็บภาษีอากร คำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯให้ถือเป็นที่สุด

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้ไปรับบริจาคเครื่อง server IBM x3250 จากผู้บริจาคที่เป็นสมาชิกเว็บบอร์ดท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์จะออกนาม และได้ลองติดตั้งระบบปฏิบัติการ CentOS แล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาอะไร

ดังนั้น จึงขอเรียนให้ทราบว่า เรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อเครื่อง server ตามที่ได้เคยเรียนปรึกษาไว้ใน http://webboard.seri...งสภาพทางด้านเท/ นั้น คงไม่จำเป็นจะต้องจ่ายออกจากกองกลางของเงินบริจาคแล้ว คงมีแต่ค่าเช่าวางเครื่องที่ศูนย์ข้อมูลรายเดือน ที่จะต้องมีรายจ่ายเพิ่มจากเดิม จากตอนนี้ 1,600 บาท เป็น 2,000 - 2,500 บาท

เนื่องจากรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับมีสมาชิกผู้ใจดีบริจาคเครื่องให้กับเว็บบอร์ดแล้ว ดังนั้นในเรื่องค่าใช้จ่ายผมก็ขอถือวิสาสะว่าสมาชิกทุกคนโดยเฉพาะผู้บริจาค น่าจะรับได้กับค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นดังกล่าว และจะดำเนินการหาผู้บริการที่จะสามารถนำเครื่องของเราไปวางได้ต่อไปครับ

ปล. สมาชิกผู้บริจาคเครื่องนี้ ไม่ประสงค์จะออกนามจริงๆ ดังนั้นกรุณาให้เกียรติกับความเป็นส่วนตัวและความมีน้ำใจกว้างขวางของสมาชิกท่านนี้ด้วยครับ อย่าได้แสดงความเห็นในทำนองคาดเดาว่าเป็นใคร เพราะตัวผมเองทราบดีว่าผู้บริจาคเป็นใคร และคงไม่สบายใจหากมีการชี้นำกันไปว่าเป็นสมาชิกท่านอื่น โดยที่ผมเองก็ไม่สามารถเข้าไปโต้แย้งได้

โลกกลมจริงๆ ในที่สุดผมได้มีโอกาสสนทนากับกัปตันวีระ ตัวเป็นๆ ตัวจริงเสียงจริง

ท่านสรุปความให้ฟังว่า หลังจากมีข่าวเผยแพร่ว่าอีป้่า จะเดินทางออกนอกประเทศในไฟลท์ของท่าน

มีผู้ใหญ่โทรมาหาด้วยความหวังดี ว่าท่านควรจะป่วยหรือติดธุระ ให้ไปทำการบินไม่ได้ เพราะอาจจะกลายเป็นเผือกร้อนที่ต้องรับปัญหา และเป็นข่าวโดยไม่จำเป็น

ในวันเดินทาง ขณะที่นั่งรถรับส่งลูกเรืือไปยังเครื่องบิน ท่านได้สอบถามหัวหน้าพนักงานต้อนรับ และผู้จัดการเที่ยวบินว่า มีใครได้รับทราบข้อมูลข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับป้าท่านนี้บ้าง

และมีลูกเรือท่านใด ได้รับการอบรม การจัดการกับบุคคลวิกลจริตในเที่ยวบินหรือไม่

หลังจากเดินทางมาถึงเครื่อง ระหว่างการตรวจสอบเครื่องบินและ เตรียมการบิน พนักงานภาคพื้นได้รับคำไหว้วานจาก ตม. ให้มาสอบถามว่า จะมีอีป้า ไปกับเที่ยวบินนี้ด้วย กัปตันจะรับหรือไม่ ถ้ารับจะให้ ตม.พาผ่านช่องทางพิเศษมาที่เครื่องเลย โดยมีผู้จัดการเที่ยวบิน หัวหน้าพนักงานต้อนรับ และนักบินที่สองอาวุโส ได้ยินรวมทั้งหมดสี่คน

ท่านตอบกลับไปว่า ผู้โดยสารท่านนี้ เป็นบุคคลวิกลจริตจริงหรือไม่ ถ้าเป็นขอเอกสารยืนยัน ถ้าไม่เป็นขอใบรับรองแพทย์ยืนยันอีกเช่นกัน

เนื่องจากมีข่าวออกทางหน้าหนังสือพิมพ์ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารท่านอื่น ท่านต้องมั่นใจในผู้โดยสารที่จะเดินทางไปในไฟลท์ ว่าไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารท่านอื่น

และท่านยังพูดเพิ่มเติมอีกว่า ตามข่าวที่เกิดขึ้นผู้โดยสารรายนี้ มีพฤติการณ์ที่ไม่บังควร หมิ่นเหม่ต่อกฎหมายและศีลธรรม ซึ่งผู้โดยสารที่ตามข่าวสารสามารถรับรู้ได้โดยทั่วไป

เพื่อเป็นการยืนยันต่อผู้โดยสารท่านอื่นๆ ท่านขอให้ทางตำรวจ ทำเอกสารยืนยันเป็นลายยลักษณ์อักษรว่า ป้าคนนี้ ทำจริงหรือไม่จริง มีการตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ และการส่งตัวออกนอกประเทศจะขัดต่อกฎหมายข้อใดหรือไม่

ปรากฎว่า หลังจากพนักงานภาคพื้นนำคำกล่าวของท่านไปบอกต่อคนไหว้วาน แล้วก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อีก

ทั้งนี้ ท่านพูดชัดเจนว่า เพื่อความปลอดภัยของเที่ยวบิน ถ้าไม่สามารถยืนยันได้ ท่านไม่ขอบินเที่ยวบินนี้ มีท่าน ไม่มีป้า อยากให้ป้าไป เรียกคนอื่นมาบินแทนผม

แต่ถึงท่านอื่นมาทำแทน ก็มั่นใจได้ว่า ไฟลท์นี้มีปัญหาแน่ เพราะพนักงานต้อนรับทั้งไฟลท์นี้ ไม่สามารถทำการบินกับผู้โดยสารวิกลจริตได้.....

ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ท่านได้เขียนรายงานตามจริงส่งต่อผู้บังคับบัญชาแล้ว

ผมเสนอท่านว่า จริงๆควรให้ป้ามาที่เครื่อง จะได้เห็นตัวเป็น ไม่ใช่แค่มาแต่เสียงลอยลม

ท่านบอกว่า ถ้าเป็นแบบนั้น คนที่จะซวย คือพนักงานภาคพื้นที่รับเช็คอินให้ป้า และ ตม.ตัวน้อยๆที่ถูกส่งมาพาเข้าเครื่อง

ตัวใหญ่ๆ คนสั่งการ ก็นอนสบายเหมือนเดิม เพราะทุกอย่างมาปากเปล่า คนปฏิบัติที่จะโดนสอบสวน

และ หลังจากเหตุการณ์ พนักงานภาคพื้นได้ถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอให้ไปให้ปากคำ ซึ่งพนักงานภาคพื้นวันนั้น ได้ให้ปากคำว่า ไม่เคยถามเรื่องจะให้ป้าไปหรือไม่

แต่ทางท่านกัปตันเอง มีพยานบุคคล สามคนที่ได้ยินกับหู

นี่แหละครับเมืองไทย รีบกลบขี้ ลบรอยกันใหญ่....

เขามาเป็นกระบวนการ ทำแล้วหนี ทำบ่อยๆ ทำให้คนชาชิน แล้วต่อไปก็ทำหนักขึ้นเรื่อยๆ

.
.

เท่าที่ผมได้มีโอกาสสนทนากับท่าน ท่านเป็นผู้ใหญ่ อารมณ์ดี ใจเย็น พูดเพราะ สุภาพ และตอบคำถามได้หลักแหลมมาก

โชคดีที่มีคนไทยดีๆ ไม่ท้อแท้ แม้ระบบจะบิดเบี้ยว

ท่านยังฝากมาบอกว่า ใจเย็นๆ ธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอ อะไรที่คดงอ สุดท้ายจะแพ้ภัยตนเอง

เรื่องของเรื่องมันก็เกิดจาก ผมได้ไปเจอเพจเฟซบุ๊คของ นายนพพร นามเชียงไต้ ที่เรารู้ๆกันอยู่ว่า นายนี่คือ ดีเจที่จัดรายการช่องแดง และเป็นหัวแถวเรื่องล้มสถาบัน มีการโพสกระทู้ฉวัดเฉวียน ไปทางสวนจิตรและศิริราชบ่อยครั้ง ทั้งยังอวดมั่งอวดมี ร่ำรวยแต่ไม่มีหลักฐานอะไรว่าทำมาหากินสุจริต ผมก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ก็เข้าไปกวนตีนบ้าง ถ้าโหว่โพสอะไรโง่ๆเซ่อๆมาผมก็ด่าเอาบ้าง แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผมเองก็พอจะทราบดีว่า โพสได้แค่ไหน ควาย,***,ตะกวดและสัตว์ประเภทอื่นๆก็พอมีบ้าง เพื่ออุปมาอุปไมยให้คนอ่านได้เห็นภาพว่าพวกนี้มัน “แค่ไหน” ก็ด่ากันไปด่ากันมากับนายนพพร มาจะเป็นปีแล้วมั้งครับ จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่ในเช็คลิตส์ to do ประจำวัน ก่อนนอนวันนี้รายการสุดท้าย ต้องด่าไอ้เต้เสียก่อน

แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งก็มีเสื้อแดงรายหนึ่งใช้ชื่อใน เฟซบุ๊คว่า นาย red hart เข้ามาข่มขู่บอกว่า เค้าตั้งหน่วยเฉพาะกิจ ขึ้นมาดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ป่วนและดูถูกดูหมิ่นคนเสื้อแดงแล้ว ใครมีข้อมูลให้ส่งมาที่เขา เขาจะจัดการดำเนินการตามกฎหมายให้ นอกจากประกาศหน้าเพจของตัวเองอย่างเป็นทางการแล้วยัง มาโพสหน้าเพจของผมบอกว่า แน่จริงให้บอกชื่อนามสกุลจริงลงหน้าเพจผมด้วย จะเอาผมเข้าคุกให้ดู บังเอิญมันตรงกับความต้องการของผมพอดี ว่ายุคสมัยนี้คนที่ควรจะอยู่ในคุกมันออกมาอยู่ข้างนอกกันหมดแล้ว ยิงหัวคนก็มาเป็นนายตำรวจ ยุยงส่งเสริมให้คนเผาบ้านเผาเมืองก็มาเป็นรัฐมนตรี คนเสื้อแดงพกปืนเถื่อนก็ปรับแล้วปล่อย ไม่ต้องมีความรู้ ไม่ต้องมีประสบการณ์ ไม่ต้องมีประวัติคุณงามความดีสะสมบอกคุณภาพบอกความสามารถอะไร ก็เป็นนายกประเทศนี้ได้ แค่เท่าที่เป็นอยู่นี้ไปไหนมาไหนก็แสนจะอับอายเหลือเกินที่เกิดเป็นคนประเทศนี้ มันทุรยศ ทุรยุค ยิ่งกว่ายุคไหนๆนับตั้งแต่ได้เกิดกายขึ้นมาบนประเทศนี้แล้ว

เอาซิครับ ผมจะยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ผมได้มีโอกาสติดคุกเพราะการบังอาจไป ดูถูกดูหมิ่นได้คนที่ดูถูกดูหมิ่นในหลวง ถ้าผมต้องติดคุกโดย นายนพพร นามเชียงไต้ ยังสุขสบายดีอยู่นอกคุก จะได้ให้มันรู้กันไปเสียทีว่าประเทศนี้
เงินชั่ว และ คนชั่ว ได้ทำลายความดีงาม ความยุติธรรม ความถูกต้อง และความจงรักภัคดีต่อสถาบันไปได้หมดอย่างสิ้นเชิงแล้ว ศาลสั่งมาแค่ไหนผมจะยอมติดคุกทุกวินาที สั่งปรับก็จะยอมให้กักขังแทนค่าปรับ จะไม่ยอมให้เอาเงินที่หามาด้วยความเหนื่อยยากและบริสุทธิ์ ไปให้รัฐบาลนี้ใช้แบบชั่วๆและโง่ๆแม้แต่สลึงเดียว ขู่ใครทีหลังให้มันดูตาม้าตาเรือหน่อย คุกมันเป็นสถานที่เดียวที่เหลือที่ผมอยากจะไปสักครั้งไปในฐานะ นักโทษชาย จะได้เอามาเล่าให้เค้าฟังกันได้ว่าชีวิตการเป็นนักโทษชาย ถ้าต้องแลกกับความฉิบหายของบ้านเมืองที่เข้าสู่ยุคมืดมนอนธกาลห้าหกปีนั้น ควรแลกหรือไม่แลก จริงๆแล้วกรณีผมนี่อย่างไรๆก็ไม่ถึงขั้นติดคุกหรอก แต่อย่างว่ายุคนี้ อะไรที่โง่งมอะไรที่ชั่วช้าแค่ไหน มันก็เกิดขึ้นได้ จึงขอมาบอกลาเพื่อนลาฝูงไว้เสียก่อน

ผมโพสชื่อจริงนามสกุลจริงให้เค้าไปเรียบร้อยแล้วครับ รักกันชอบกันก็ไปส่งข้าวผัด ส่งโอเลี้ยงกันบ้างนะครับ ฝากประเทศอันเป็นที่รักของผมไว้ด้วย
จนกว่าจะสิ้นยุคสมัยแห่งความชั่วช้าและโง่เขลา
พันธมิตร สถานานนท์

มีผู้อยู่ร่วมสมัยท่านเล่าให้ฟังว่า ยุค 6 ตุลา 2519 วันที่ทหาร ตำรวจ กับกระทิงแดง ล้อมปราบนักศึกษาที่ มธ. นักศึกษาถูกฆ่าตายไปหลายคน ส่วนหนุ่มน้อยคนนี้รอดมาได้เพราะหนีไปหลบอยู่ในห้องน้ำ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ทำให้หนุ่มน้อยฝังใจและเคียดแค้นทหารและสถาบันมาตั้งแต่นั้น ว่ากันว่าถึงกับทำให้กินง่ายถ่ายคล่องมาจนถึงทุกวันนี้..

ฟ้องครับ ฟ้อง ...

คุณ idolation พูดให้ผมจินตนาการได้ว่า.. ไอ้เด็กคนนี้มันหลบไปกินเข้้้้้้้้้้้้้

ล้มเจ้ามูลเมืองด้วยคนครับ

ตระกองขวัญมันหลอกเงินผัวฝรั่ง แต่กลับมาถูกผัวน้อยดุ้นเห่ยๆ ในลากดำนาหลอกอีกที