Jump to content


Animal Farm

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 25 พฤศจิกายน 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: ส่วนตัว
-----

#309836 เวทีผ่าความจริง "หยุดล้างผิดคนโกง" ครั้งต่อไป ณ สวนชมน่าน จ.พิษณุโลก...

โดย redfrog53 on 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 18:00

สำราญ รอดเพชร กำลังปราศรัย
Posted Image
สำราญ รอดเพชร : ช่วยกันโห่ไล่พวกเผาบ้านเผาเมืองที่ได้เงิน 7.5 ล้านแล้วยังไม่พอใจ ไปฟ้องรัฐขอค่าเสียหายเพิ่มเป็น 15 ล้านหน่อย อย่างนี้เรายอมได้มั๊ย

บุญยอด สุขถิ่นไทย : ขอให้พี่น้องเอาขวดเปล่าคนละใบ ล้านคนก็ล้านใบ เอาไปใส่น้ำใจรักชาติที่ กทม. แล้วไปหน้าสภา เอาน้ำใจรักชาติไปสาดไล่ไอ้พวก***ออกไป!



#302455 เวทีผ่าความจริง "หยุดล้างผิดคนโกง" ครั้งต่อไป ณ สวนชมน่าน จ.พิษณุโลก...

โดย เพลิงสีนิล on 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 21:48

Posted Image


พวก*** ขายชาติ จนได้เหรียญ


#302360 เวทีผ่าความจริง "หยุดล้างผิดคนโกง" ครั้งต่อไป ณ สวนชมน่าน จ.พิษณุโลก...

โดย HiddenMan on 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 20:38

อย่าลืมขึ้นภาพวีรกรรม ของ หมอวรง และลูกพรรคในสภาด้วยนะครับ แล้วเอาป้าย เอี้ยได้โล่ห์ มาอวดพี่น้องเขาด้วย


เอี้ยได้โล่ห์

Posted Image

Posted Image

Posted Image

เอี้ยแบบนี้มีอีกเยอะ :lol: :lol: :lol:


#302352 เวทีผ่าความจริง "หยุดล้างผิดคนโกง" ครั้งต่อไป ณ สวนชมน่าน จ.พิษณุโลก...

โดย dtonNA on 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 20:35

อย่าลืมขึ้นภาพวีรกรรม ของ หมอวรง และลูกพรรคในสภาด้วยนะครับ แล้วเอาป้าย เอี้ยได้โล่ห์ มาอวดพี่น้องเขาด้วย


อย่าลืมวีรกรรมไอ้แม้วด้วย หนีปฎิวัติหางจุกตูด

ถ้าเสียงปืนนัดแรกแตกเมื่อไรผมจะกลับมานำพี่น้องเอง ตอแหลครั้งที่เท่าไร


#302156 เวทีผ่าความจริง "หยุดล้างผิดคนโกง" ครั้งต่อไป ณ สวนชมน่าน จ.พิษณุโลก...

โดย redfrog53 on 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 17:51

Posted Image

เวทีผ่าความจริง "หยุดล้างผิดคนโกง" ครั้งต่อไป ณ สวนชมน่าน จ.พิษณุโลก วันเสาร์ที่ 23 มิ.ย. ตั้งแต่เวลา16.30น เป็นต้นไป ถ่ายทอดสดผ่าน Bluesky Tnews และ Thai TVD


#309791 ห้องพิจารณาหลักฐานพิเศษ สรท. กรณี 6 ศพ วัดปทุม

โดย จูกัดขงเบ้ง on 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 16:58

4. ผลการชันสูตรศพ ของ หมอ “พรทิพย์” หายไปไหน???

นี่คือผลการชันสูตรจากหมอ พรทิพย์ ตามที่ข่าวสดเอามาลง http://www.khaosod.c...14px;'>0</span>=
ศพ ที่ 1 ถูกกระสุนยิงจากต้นแขนทะลุถึงหน้าอก หน้าท้องพบคราบเขม่าดินปืน พบเศษกระสุนติดค้างในช่องท้อง วิถีกระสุนเฉียง จากบนลงล่าง
ศพที่ 2 วิถีกระสุนตรงทะลุจากด้านหน้าออกด้านหลัง ทำลายปอดเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ศพที่ 3 หรือศพของน.ส.กมลเกด อัคฮาด หรือน้องเกด พยาบาลอาสา พบรอยกระสุนที่ต้นแขนทะลุท้องแขน ขาขวาพบกระสุนหลายรู พบกระสุนที่หน้าอกข้างซ้าย วิถีกระสุนมาจากเอวทะลุขึ้นทำลายสมอง ซึ่งเป็นวิถีกระสุนจากล่างขึ้นบนที่แปลกมาก บ่งบอกว่าน้องเกดอาจไม่ได้อยู่ในอิริยาบถท่ายืนขณะถูกยิง
ศพที่ 4 กระสุนแตกภายในร่างกายเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ศพที่ 5 พบรูกระสุนที่บ่า มีคราบเขม่าดินปืนที่เท้าขวา บ่งบอกว่าถูกยิงในระยะใกล้ กระสุนสังหารคือจากเอวด้านซ้ายทะลุอวัยวะเพศ
ศพที่6 พบรอยกระสุนจากต้นแขนขวาทะลุออกกราม กระสุนสังหารคือกระสุนจากต้นแขนขวาทะลุสมอง
ทำไมเสื้อแดงไม่เอามาแสดงเลย หรือเห็นว่าหมอพรทิพย์ เขาไม่ใช่หมอ
ผมใช้ของหมอพรทิพย์ เพราะ พิสูจน์ศพวันที่ 20 และ พิสูจน์ ณ ที่เกิดเหตุ
ผลการชันสูตร พบว่า มี 2 ศพ มีคราบเขม่าดินปืน ติดอยู่
รู้ไหมว่าคราบเขม่าดินปืนคืออะไร มันคือสิ่งที่บอกพวกแดงทั้งหลายว่า พวกคุณคือ ไอ้จอมลวงโลก ตอแหล ไง

คราบเขม่าดินปืน บ่งบอกว่า ถูกยิงในระยะใกล้มากๆ เขาเรียกว่า ระยะเผาขน
แล้วมันยังไงน่ะเหรอ ผมจะอธิบายต่อไปนี่ไง

ศพทั้งหมด มี 6 ศพ 2 ศพแรก คุณพรรณีเห็นมากับตา ว่าลำเลียงเข้ามาจากข้างนอก ช่วงเวลาเริ่มปะทะกับทหาร
แสดงว่า 2 ศพนี้ ไม่ได้ถูกจ่อยิงแน่ๆ เพราะ ถ้าถูกจ่อยิง แสดงว่า ทหารต้องเข้าถึงตัวแล้ว แต่เวลานั้น ยังรบยันกันอยู่เลย
และเป็น ช่วงเริ่มต้น ของการปะทะ ด้วย

2 ศพที่แน่ใจว่า ไม่โดนจ่อยิง แน่ๆ คือ คุณเกด และ คุณปลั๊ก
เพราะเขาน่าจะเสียชีวิต ก่อน 1 ทุ่มด้วยซ้ำ จากคลิปที่ ถ่ายมา ฟ้ายังไม่มืด
และ เขาทำงานอยู่ พร้อมกับพยาบาลที่เหลือรอดชีวิต และถ่ายคลิปมาให้เราดูกันได้เนี่ย

ถ้าจ่อยิง 2 คนนี้ เพื่อนพยาบาลที่อยู่ด้วยกัน ไม่มีทางเงียบและถ่ายคลิปมาให้ดูได้อย่างนี้แน่นอน

ดังนั้น ถามว่า 2 ศพที่เหลือ ทำไมถูก “จ่อยิง เผาขน ” ได้ล่ะ ก็บอกว่าทหารยิงจากรางรถไฟฟ้าข้างบนไม่ใช่เหรอ
แสดงว่า พวกคุณ โกหกนี่หว่า บัดซบจริงๆ แทนที่จะหาความจริง เสือกโยนใส่ทหารบนรางรถไฟฟ้า
ใครยิง M79 ไปตกหน้า สตช. ??
ใครเป็นคน จ่อยิง เผาขน 2 ศพ สุดท้ายนั่น?? ยังจะหน้าด้านแถว่ายิงจากรางรถไฟฟ้าอีกหรือเปล่า???


#309787 ห้องพิจารณาหลักฐานพิเศษ สรท. กรณี 6 ศพ วัดปทุม

โดย bamak on 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 16:55

ไอ้นี้ก็อยู่ครับ..............มันใส่ถุงมือยางด้วย

Attached Images

  • view_resizing_images.jpg



#309783 ห้องพิจารณาหลักฐานพิเศษ สรท. กรณี 6 ศพ วัดปทุม

โดย จูกัดขงเบ้ง on 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 16:48

2. มาดูรายงานข่าวสถานการณ์สดๆ ในช่วงเวลานั้นดู

http://fringer.org/w...20May-Facts.pdf
ทุกสิ่งทุกอย่างมีในรายงานข่าว ได้สรุปมาไว้ในรายงานนี้ทั้งหมด คุณไปดูวันที่ 19 หน้าประมาณ 120 กว่าๆ นะครับ

เวลา บ่าย3โมงครึ่ง ถึง 4 โมง มติชน และ คมชัด ลึกรายงานว่า มีการยิงปืนเข้าไปใน สตช. เป็นระยะๆ ประมาณ 30 นาที
แต่ไม่รู้ทิศทางไหน (ไหนว่าทหารคุมหมดทุกพื้นที่แล้วไม่ใช่เหรอหลังจากแกนนำมอบตัว)

บ่าย 3 โมง 45 นาที ผู้จัดการรายงาน มี เผาบริเวณ สยามสแควร์และโรงหนังสยาม ตั้งแต่แยกเฉลิมเผ่า
ตรงนั้นอยู่ไม่ไกลจากวัดปทุมและ สตช.

5 โมงเย็น ที่สตช. ไทยรัฐรายงานว่า ทางตำรวจพยายามจะดับไฟไหม้เซ็นทรัลเวิลด์ แต่ก็มีเสียงปืนเสียงระเบิดดังเป็นระยะ
คนเริ่มทยอยเข้าไปอยู่ในวัดปทุมแล้ว
นั่นคือ ใกล้ๆกับวัดปทุม มีการยิงกันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว มีการปะทะกันตลอดเวลา

อันนี้ไฮไลต์ 6 โมงครึ่ง ถึง ทุ่มสี่สิบนาที ไทยรัฐ รายงาน มีเสียงปืนของการปะทะฝั่งหน้าวัดปทุม ต่อเนื่อง
สื่อมวลชนต้องนั่งปิดไฟ หลังพิงผนังเพื่อป้องกันโดนลูกหลง เพราะมีกระสุนวิ่งมาโดนเสาเต็นท์หน้า สตช.ด้วย
ทุ่ม 40 เสียง M79 ตกหน้า สตช. เสียงดังสนั่น!!!!!
อยากให้พวกเสื้อแดงได้รับทราบว่า ทีมทหารที่เข้า สลายม๊อบ รอบนี้ ไม่มีการใช้ M79 ในทีม ครับ!!!!
แล้ว เอ็ม 79 มาตกหน้า สตช. เนี่ย ใครยิง??? ประชาชนมือเปล่าผู้บริสุทธิ์เหรอ หรือ ลอยขึ้นมาจากนรก??
เพราะคุณบิดเบือนกันจนชิน ตัดต่อข้อมูลกันจนชินน่ะแหละ

Attached Images

  • evidence.jpg
  • evdence3.jpg
  • evdence4.jpg
  • evdence5.jpg



#309781 ห้องพิจารณาหลักฐานพิเศษ สรท. กรณี 6 ศพ วัดปทุม

โดย จูกัดขงเบ้ง on 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 16:43

เนื่องจากมีกระแสที่โจมตีออกมามากในกรณี 6 ศพ วัดปทุม จากทางฝั่งเสื้อแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
มีการอ้างและบิดเบือนบางส่วนมาลง ในทำนองว่า ทหาร สารภาพว่าเป็นคนยิง
ในขณะที่หลีกเลี่ยงจุดน่าสงสัยหลายๆจุดที่จะเป็นความกระจ่างได้

ผมขอสรุปการ โฆษณาชวนเชื่อ เรื่อง 6ศพวัดปทุม ตามแนวทางที่เสื้อแดงสื่อออกมามีดังนี้ ถ้าไม่ถูกขอให้แย้งนะครับ
1.ทหารเป็นฝ่ายยิง แต่เพียงฝ่ายเดียว
2.ทหารยิงจาก รางรถไฟฟ้า เข้ามาในวัด
3.ประชาชนทั้ง 6 ศพ ทุกคน เป็นผู้บริสุทธิ์ มือเปล่า ไม่มีการใช้อาวุธยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่
4.ประชาชนทั้ง 6 ศพ ถูกยิง ภายในวัด บริเวณด้านหน้า ทั้งหมด ก็เพราะทหารยิงจากรางรถไฟฟ้าเข้ามา
5.สิ่งที่ใช้ยืนยันตลอดเวลาก็คือ รูปภาพที่ถ่ายติดทหาร ยืนถือปืนบนรางรถไฟฟ้าแล้วเล็งลงไปข้างล่าง

และเอกสารตัดเอามาส่วนหนึ่งของคำให้การ พ.ต.นิมิตร วีระพงศ์ เพื่อยืนยันว่า มีทหาร อยู่บนเส้นทางรถไฟฟ้าในเวลานั้น จริงๆ

สิ่งที่เสื้อแดงไม่กล้ายืนยันและหลีกเลี่ยงที่จะนำเสนอสู่สาธารณะ
1. ไม่กล่าวถึงที่มาและที่ไปของเหตุการณ์แวดล้อมในขณะนั้น ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
2. ไม่นำเสนอข้อมูลจากด้านอื่น ที่แสดงสถานการณ์ในเวลานั้น ณ จุดวัดปทุมและหน้าสตช.
3. ปฏิเสธและบิดเบือน การมีอยู่ของ กองกำลังไม่ทราบฝ่ายหรือชายชุดดำที่ใส่ชุดทหาร
4. ไม่พูดถึงว่า วัดปทุม เป็นที่พักของการ์ด นปช.

แต่ ขอบอกว่า แผ่นดินนี้ ศักดิ์สิทธิ์ครับ คนชั่วร้ายที่คิดทำลายชาติบ้านเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ย่อมได้รับกรรม

1. นี่คือ โฉมหน้าของ ทหาร ที่ไม่ใช่ ทหารของรัฐบาลในขณะปฏิบัติการวันที่ 19 แน่ๆ

ใส่ชุดทหาร แต่ มีไอ้โม่งสีดำ คลุมหน้า !!! อ้าว!!! ทำไมไม่พูดถึง ไอ้ทหารโม่งดำพวกนี้บ้างล่ะ
มันอยู่ที่ไหน ในรูปน่ะ ผมขยายให้สว่างขึ้น จะได้ดูกันชัดๆ
รูปนี้มีที่มานะครับ ไม่ใช่ผมเมคขึ้นมา ถ้าผมเผยที่มาของรูปแล้ว เสื้อแดงนั่นแหละที่จะหนาว
เพราะ พวกเสื้อแดงเองนั่นแหละ ที่ถ่ายมาแล้วโพสต์ลงเวปไซต์ ผมขอให้ทุกท่าน เซฟหน้า webไว้นะครับ
รับรองว่า มันลบทิ้งแน่นอน
http://smgermany.com...ile=read&id=109
สิ่งนี้มันยืนยันได้ไหมว่า บนรางรถไฟฟ้า น่ะ ไม่ได้มีแค่เฉพาะ กลุ่ม ทหารของรัฐบาล เท่านั้น
แล้วมันสรุปได้ยังไงล่ะ ว่ามีแต่ทหาร ที่ยิงคนในวัดปทุม

Attached Images

  • 7.jpg
  • 71.jpg



#303487 ว่าที่ นช.คนหน้าหล่อ และคนแขนคอก สะอื้อไห้ ทหารสารภาพ ยิงเข้าไปในวัดปทุมจริง

โดย JUR1ST on 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 20:05

เบิกความแบบนี้เป็น hearsay ไร้น้ำหนักอย่างสิ้นเชิงในคดีอาญา ยิ่งนักข่าวเอาคำเบิกความลอยๆ มาทำให้เป็นข่าว ยิ่ง double hearsay ไปกันใหญ่

แถมที่บอกว่าศาลสั่งห้ามไม่ให้จดก็ไม่น่าจะเป็นจริงอีก ปกติศาลจะห้ามไม่ให้บันทึกเทปหรือถ่ายรูปเท่านั้น ไม่ได้ห้ามถึงขนาดไม่ให้จด ไม่อย่างนั้นก็ไต่สวนเป็นทางลับไม่ดีกว่าหรือ

พอดูอีกที อ้าว นี่นักข่าววอยซ์ทีวีนี่หว่า เครดิตความน่าเชื่อถือวูบกระแทกพื้นดังพลั่กเลยทีเดียว

แต่ถึงยังไงก็จะมีปรองดองนิรโทษกรรมแล้วนี่ ตลกดีว่ะ ไปกล่าวหาคนอื่นว่าเป็นฆาตกรแต่ก็จะไปนิรโทษกรรมให้ซะอย่างงั้น


#303365 "ชวน" ควง "อภิสิทธิ์" เปิด Talkshow "2575 เจาะเวลาสู่อนาค...

โดย V for vendettaขี่er6nไปราช on 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 19:08

ของเขาจ่ายเงินถึงได้ดู..ของพวกมึงต้องได้เงินถึงจะมาดู :lol: :lol: :lol:


#292213 เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง แม่เว้ย " อำมาตย์หญิง " เสื้อแด...

โดย เด็กปากดี on 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:49

เห็นกระทู้ของใครคนหนึ่งจินตนาการน้ำแตกถึง หญิงผู้สูงศักดิ์ในราชสำนัก ที่ชอบกล่าวหาให้ท่านมาเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติรัฐประหาร ประหนึ่งว่าชาตินี้ต้องเป็นศัตรูกับเหล่าอำมาตย์ให้ได้ ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่า หัวหน้าอำมาตย์ก็เป็นพวกตัวเองนั่นแหละ แต่ก็ยังไม่วาย แขวะมาให้เกี่ยวเนื่องกับเบื้องยุคลบาทอยู่เนืองๆ เอาหล่ะไหนๆก็จะต่อต้านอำมาตย์กันแล้ว ไม่ทราบว่าพี่น้องมวลชนคนเสื้อแดง ลืมสตรีผู้สูงศักดิ์ อำมาตย์หญิงผู้นี้แล้วหรือยัง


Posted Image



ท่านผู้หญิง วิระยา ชวกุล


สตรีสูงศักดิ์ อำมาตย์หญิงตัวแม่ หญิงสูงศักดิ์ที่พี่น้องเสื้อแดงตรบมือสนั่นเวทียามเธอเยื้องย่างขึ้นเวทีเสื้อแดง โดยไม่มีทีท่ารังเกียจเดียจฉันท์ ไม่ทราบพี่น้องคนเสื้อแดงลืมเธอกันหรือยัง มาย้อนรอยทำความรู้จักอำมาตย์หญิงเสื้อแดงตัวแม่คนนี้กันดีกว่า บางทีอาจจะได้คำตอบว่าทำไม ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขาธิการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ถึงโดน ลากโยงให้มาเกี่ยวข้องกับเรื่องปฏิวัตรัฐประหาร อยู่บ่อยๆ

Posted Image



ความเป็นคนโด่งดังเป็น “ดาวค้างฟ้า” ในแวดวงสังคมชั้นสูงของ ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล คือการปั้นสร้างภาพลักษณ์ตนเองเป็นเศรษฐินีผู้ใจบุญ มีความเมตตา เสียสละเพื่อสังคม และอาศัยภาพความใกล้ชิดกับสถาบันฯ เป็นเกราะกำบังทุกสิ่ง จนทำให้เธอไม่มีใครกล้าแตะต้องที่จะล่วงละเมิดวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องใดๆ ได้

Posted Image


ในเรื่องท่านผู้หญิงวิระยา สังคมได้ “ตาสว่าง” จากคำชี้แจงของ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขาธิการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ออกมาเปิดเผยสถานะที่แท้จริงของท่านผู้หญิงวิระยา ผ่านหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ฉบับวันจันทร์ที่ 4 พ.ค.2552 หลังหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวตีพิมพ์สถานะทางสังคมของท่านผู้หญิงวิระยา ที่สังคมเข้าใจผิดกันมานานนั้น

Posted Image


บัดนี้ทุกภาคส่วนของสังคมจะได้เลิกลังเลสงสัยและหายคลุมเครือกันเสียที แต่คงทำให้ท่านผู้หญิงวิระยา ไม่ปลื้มเอามากๆ เหตุเพราะคำชี้แจงดังกล่าวที่แปลออกมาเป็นภาษาไทย ระบุข้อความชัดเจนว่า

“ท่านผู้หญิงวิระยานั้นไม่เคยเป็นนางสนองพระโอษฐ์ (Lady-in-waiting)

ในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ แต่อย่างใด”



ความจริงยังมีอีกว่า กิจกรรมและธุรกิจทุกประการที่ท่านผู้หญิงวิระยา ดำเนินการนั้น เป็นกิจกรรมส่วนตัวของท่านผู้หญิงวิระยา ซึ่งไม่มีความเกี่ยวพันกับสำนักพระราชวังใดๆทั้งสิ้น ข่าวดังกล่าวระบุด้วยว่า ตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์นั้น ต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา นอกจากนี้ ท่านผู้หญิงวิระยา ยังไม่มีตำแหน่งใดๆ ในสำนักพระราชวังอีกด้วย

Posted Image


ต้องยอมรับว่า ท่านผู้หญิงวิระยาเป็นคนฉลาดในบริหารจัดการภาพลักษณ์และสร้างอำนาจให้ตนเอง แต่ก็ด้วยที่เธอรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ น้อยกว่ารักตัวเองจึงทำให้เส้นทางของเธอสะดุดหยุดลงแบบที่ตัวเองก็คงคาดไม่ถึงในวันนี้ เครือข่ายของท่านผู้หญิงวิระยาเกิดขึ้นมาเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ตอบแทนระหว่างคนในกลุ่ม ที่แต่ละฝ่ายคำนึงถึงแต่ลาภ ยศ สรรเสริญ ของตัวเองอย่างไม่รู้จักจบสิ้น


เรื่องที่เป็นวีรกรรมอันลือชื่อของท่านผู้หญิงสูงศักดิ์ท่านนี้ก็คือเรื่องการ “การจัดจำหน่ายเสื้อสีฟ้าปักอักษรพระนามาภิไธย ส.ก.” ที่จัดทำมาตั้งแต่ปี 2546 การจัดจำหน่ายเสื้อสีฟ้าของมูลนิธินพรัช-รัตนโกสินทร์ ราคาตัวละ 400 บาท มีการสั่งการเป็นหนังสือเวียนบังคับการซื้อ ต่อมามีข้าราชการและหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งประชาชนทั่วไป ได้ทำฎีการ้องทุกข์กราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เรื่องการจัดจำหน่ายเสื้อสีฟ้าของมูลนิธินพรัช-รัตนโกสินทร์ พร้อมทั้งระบุรายละเอียดการจัดจำหน่าย ว่า มีหน่วยงาน 3 แห่ง คือ กระทรวงมหาดไทย ได้รับมา 1 ล้านตัว ธนาคารออมสิน 1 ล้านตัว และธนาคารกรุงไทยอีก 1 ล้านตัว ( ทั้งๆที่ขอพระบรมราชานุญาตจัดทำเพียง 2 ล้านตัวเท่านั้น แล้วมันมาจากไหนอีก 1 ล้านตัว ) เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ก็กลายเป็นเรื่องแดงขึ้นมาลองมาดูกันว่าเป็นไงมาไง

กรณีอื้อฉาวในการจัดทำเสื้อสีฟ้า ซึ่งมีพระนามาภิไธย ส.ก.ออกจำหน่าย เพื่อนำรายได้ขึ้นทูลเกล้าถวายในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ที่จัดทำโดย ท่านผู้หญิง วิระยา ชวกุล ประธานกรรมการมูลนิธินพรัช-รัตนโกสินทร์ ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากลในการทำโครงการ โดยเฉพาะกรณีที่ไม่มีการนำเงินขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ทั้งที่เวลาผ่านมาถึง 5 ปีแล้ว และมีความพยายามจัดทำเสื้อถึง 3 ล้านตัว ขณะที่ทำหนังสือพระราชทานพระราชานุญาตจัดทำเสื้อเพียง 2 ล้านตัวเท่านั้น

Posted Image


รวมทั้งวิธีการจัดจำหน่ายที่เป็นไปในลักษณะ “บังคับซื้อ” โดยการออกหนังสือเวียน ให้ข้าราชการ และพนักงานของกระทรวงมหาดไทยทุกระดับชั้นซื้อ พร้อมทั้งเร่งให้มีการจัดจำหน่ายให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม 2547 เป็นเหตุให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ผ่านกองราชเลขานุการในพระองค์ ถึงปลัดมหาดไทย ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยุติ “วิธีจำหน่าย” ในลักษณะดังกล่าว และทรงเสียพระราชหฤทัยอย่างยิ่งเมื่อทรงทราบจากฎีการ้องทุกข์หลายฉบับที่ระบุว่าโครงการนี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้มีรายได้น้อย

ภายหลังจากที่มีการนำเสนอข่าวเรื่องนี้ ท่านผู้หญิงวิระยาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจงผ่านสื่อหลายต่อหลายครั้ง โดยระบุว่าสาเหตุที่ยังไม่ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงินรายได้จากการจำหน่ายเสื้อ เนื่องจากรอให้ทางสำนักพระราชวังแจ้งกำหนดการเข้าเฝ้าฯ และรายได้ที่ได้จากการจำหน่ายเสื้อนั้นมีเพียง 480 ล้านบาท เนื่องจากจำหน่ายไม่หมดเพราะมีการออกจดหมายเวียนเพื่อไม่ให้มีการจำหน่ายเสื้อ พร้อมทั้งอ้างว่าท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นผู้ลงนามในหนังสือของกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ถึงปลัดกระทรวงกระทรวงมหาดไทย ดังกล่าวข้างต้นนั้น มีปัญหากับตนเป็นการส่วนตัว

“เขากล่าวหาว่าพี่ทำเสื้อ 3 ล้านตัว โดยแบ่งให้ออมสิน 1 ล้านตัว กรุงไทย 1 ล้านตัว มหาดไทย 1 ล้านตัว แต่ยอมรับว่า 1 ล้านตัวให้มหาดไทยจริง เดิมจะทำ 3 ล้านตัว แต่ทำไม่ได้ เพราะมีจดหมายที่ทำเวียนไปทั่วราชอาณาจักร เพื่อสกัดไม่ให้มีการขายเสื้อ ธนาคารกรุงไทย ซึ่งเดิม พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ รับปากพี่จะขายให้ ก็ขายไม่ได้ ได้แค่ 2 แสนกว่าตัว ของออมสินก็ขายไม่ได้” ท่านผู้หญิงวิระยา ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 11 พ.ค.2552


Posted Image

Posted Image



หนังสือเวียนของกระทรวงมหาดไทย



ถึงเรื่องดังกล่าวและได้รับการชี้แจงจาก เจ้าหน้าที่กองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในประเด็นต่างๆโดยละเอียด ดังนี้

สำหรับกรณีที่ท่านผู้หญิงวิรยะ ระบุว่า สาเหตุที่ยังไม่ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงินรายได้จากจำหน่ายเสื้อ เนื่องจากรอให้ทางสำนักพระราชวังแจ้งกำหนดการเข้าเฝ้าฯนั้น เจ้าหน้าที่กองราชเลขานุการฯ ชี้แจงว่า ในทางปฏิบัติแล้วผู้ที่ขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดทำเสื้อหรือสินค้าใดๆที่มีตราสัญลักษณ์ หรือพระนามาภิไธย สก. เพื่อนำรายได้ขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ก็จะมีการถวายรายงานความคืบหน้าในการจัดทำโครงการให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินาถทรงทราบ หรือหากจะทูลเกล้าฯ ถวายเงินรายได้จากการจำหน่ายสินค้า ก็จะทำเรื่องมายังกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เพื่อขอเข้าเฝ้าพระองค์ท่าน แต่กรณีโครงการจัดทำเสื้อสีฟ้า ซึ่งมีพระนามาภิไธย ส.ก. ของท่านผู้หญิงวิระยานั้น ที่ผ่านมาท่านผู้หญิงวิระยาไม่เคยมีการถวายรายงานเกี่ยวกับโครงการ รวมทั้งไม่เคยมีการทำเรื่องขอเข้าเฝ้าฯเพื่อทูลเกล้าฯถวายเงินรายได้แต่อย่างใด

“เมื่อมีการขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดทำสินค้า ซึ่งมีตราสัญลักษณ์ หรือพระนามาภิไธย ส.ก.และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินาถ ได้พระราชทานราชานุญาตแล้ว ก็เป็นความรับผิดชอบของผู้จัดทำที่จะไปผลิต และวางจำหน่ายในช่องทางที่เห็นว่าเหมาะสม โดยปกติแล้วหลังจากดำเนินโครงการไปได้สักระยะผู้ที่ทำโครงการก็จะถวายรายงานความคืบหน้าให้พระองค์ทรงทราบ หรือจะถวายรายงานเมื่อเสร็จสิ้นโครงการแล้วก็ได้ และหากจะทูลเกล้าฯถวายเงินรายได้ ผู้จัดทำก็จะทำหนังสือขอเข้าเฝ้าฯมายังกองงานราชเลขานุการฯ โดยจะขอถวายเงินรายได้เป็นช่วงๆ ระหว่างดำเนินโครงการก็ได้ หรือจะถวายเงินรายได้ทั้งหมดหลังโครงการเสร็จสิ้นก็ได้ ซึ่งตรงนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯไม่เคยรับสั่งให้กองราชเลขานุการไปสอบถามว่าโครงการนั้นโครงการนี้คืบหน้าถึงไหน จะถวายเงินเมื่อไร


ส่วนกรณีการจัดทำเสื้อสีฟ้า ซึ่งมีพระนามาภิไธย ส.ก. เพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชมายุครบ 72 พรรษา ของท่านผู้หญิงวิระยานั้นทางกองราชเลขานุการฯ ยีนยันได้ว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ท่านผู้หญิงวิระยาไม่เคยถวายรายงานความคืบหน้าของโครงการให้พระองค์ท่านทรงทราบ และไม่เคยทำเรื่องขอเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเงินรายได้จากการจัดจำหน่ายด้วย ดังนั้นเมื่อไม่เคยขอเข้าเฝ้าฯ แล้วท่านจะบอกว่าไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ จึงยังไม่ได้ทูลเกล้าฯ ถวาย หรือ ท่านรอให้ทางวังแจ้งกำหนดการเข้าเฝ้าฯ ก็คงไม่ถูก เพราะกองงานราชเลขานุการฯไม่ได้มีหน้าที่ตรงนี้ เรื่องนี้ต้องเป็นความรับผิดชอบของผู้จัดทำโครงการเอง ว่าเมื่อทำโครงการไปแล้ว มีรายได้เข้ามาแล้วจะทูลเกล้าฯ ถวายเงินเมื่อไหร่ อย่างไร เราไปบีบบังคับไม่ได้

ที่ผ่านมา ก็ยังไม่เคยมีกรณีที่บุคคลหรือบริษัทห้างร้านขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดทำโครงการไปแล้วไม่ถวายเงินรายได้ หรือไม่ถวายรายงานนะ แม้แต่โครงการการแข่งขันกีฬาต่างๆที่ขอถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันผู้จัดงานก็จะทำหนังสือถวายรายงานเข้ามา” เจ้าหน้าที่กองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถเปิดเผย


ส่วนกรณีที่ท่านผู้หญิงวิระยา ระบุว่า ขายเสื้อไม่หมด เพราะไม่สามารถจำหน่ายได้ เนื่องจากมีจดหมายทำเวียนไปทั่วประเทศ เพื่อสกัดไม่ให้มีการขายเสื้อสีฟ้า 72 พรรษานั้น เจ้าหน้าที่กองราชเลขานุการในสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ชี้แจงว่า กองราชเลขานุการฯไม่เคยมีหนังสือห้ามจำหน่าย เสื้อสีฟ้าดังกล่าวแต่อย่างใด หนังสือที่กองราชเลขานุการ ออกไปนั้นมีเพียงฉบับเดียว คือหนังสือ ที่แจ้งไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “หยุดวิธีจัดจำหน่ายที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน” และขอให้วางจำหน่ายให้ประชาชนซื้อตามความสมัครใจ ซึ่งหนังสือดังกล่าวเป็นพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

“กรณีของท่านผู้หญิง วิระยา นั้น ถือเป็นกรณีพิเศษ ปกติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะไม่ทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้ใครนำพระนามาภิไธย ส.ก.ไปใช้ เนื่องจากเป็นพระนามส่วนพระองค์ของพระองค์ท่าน แต่เมื่อนำไปใช้แล้วมีฎีการ้องทุกข์มาว่าการจำหน่ายเสื้อสีฟ้า ปักอักษรนามาภิไธย ส.ก.72 พรรษาได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้มีรายได้น้อย พระองค์ท่านก็ทรงเสียพระราชหฤทัยอย่างมาก เพราะพระองค์ท่านไม่ได้มีพระประสงค์เช่นนั้น โครงการนี้ระบุว่าเพื่อให้ประชาชนได้ใส่เสื้อสีฟ้าเพื่อแสดงความจงรักภักดี พระองค์ท่านก็ไม่มีพระประสงค์ที่จะบังคับให้ใครมาจงรักภักดี สมเด็จพระนางเจ้าฯจึงมีพระราชเสาวนีย์ให้กองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถทำหนังสือแจ้งไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้หยุดวิธีจัดจำหน่ายซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน ส่วนหนังสือห้ามจำหน่ายเสื้อตามที่ท่านผู้หญิงวิระยาระบุนั้นไม่มี ที่ผ่านมาทางกองราชเลขานุการฯไม่เคยทำหนังสือลักษณะนี้แจ้งไปยังหน่วยงานใดๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยราชการหรือธนาคารผู้จัดจำหน่าย” เจ้าหน้าที่กองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ระบุ


ส่วนการที่ท่านผู้หญิงวิระยา ระบุว่า ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระพระบรมราชินีนาถ มีปัญหาส่วนตัวกับตนเอง ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าการที่ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ส่งหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวข้างต้นนั้น เพื่อเป็นการโจมตีท่านผู้หญิงวิระยา เพราะความไม่ชอบกันเป็นการส่วนตัวนั้น เจ้าหน้าที่กองงานราชเลขานุการฯ กล่าวชี้แจงว่า

“หนังสือของกองราชเลขานุการฉบับดังกล่าว ซึ่งลงนามโดยท่านผู้หญิงจรุงจิตต์นั้น เป็นการดำเนินการตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไม่ใช่ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์จะทำหนังสืออะไรออกมาตามความต้องการของตนเองก็ทำได้ เจ้าหน้าที่ในกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถทุกคนเป็นข้าราชบริพารของพระองค์ท่าน เราทำงานตามพระราชดำริของพระองค์ท่าน จะทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้”

กรณีที่ท่านผู้หญิงวิระยา ระบุว่า เดิมทีจะจัดทำเสื้อสีฟ้า 72 พรรษา จำนวน 3 ล้านตัว แต่ไม่สามารถจัดทำได้เนื่องจากกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถได้มีการจัดทำจดหมายเวียนเพื่อสกัดไม่ให้มีการจำหน่ายเสื้อดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่กองงานราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ อีกท่านหนึ่ง ชี้แจงว่า สิ่งที่ท่านผู้หญิงวิระยาพูดนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่สามารถทำได้ เนื่องจากท่านผู้หญิงวิระยาได้ทำหนังสือขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดทำเสื้อเพียง 2 ล้านตัวเท่านั้น อยู่ๆ จะผลิตเพิ่มเป็น 3 ล้านตัวไม่ได้ และหากจัดทำเกินกว่าจำนวนที่ได้ขอพระขอพระราชทานพระราชานุญาตก็ถือว่ามีความผิด และเป็นการมิบังควรอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับว่าเป็นการนำพระนามของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถไปแอบอ้างเพื่อหาประโยชน์ส่วนตัว ส่วนเมื่อจัดทำเสื้อออกมาแล้วจะสามารถจำหน่ายได้ตามจำนวนที่ขอพระราชทานพระราชานุญาตมาหรือไม่นั้น ก็ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของโครงการเอง

“ที่ผ่านปัญหาที่ทางกองราชเลขานุการ พบบ่อยคือบุคคล หรือห้างร้านแจ้งมาว่าจะขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดทำสินค้าจำนวนเท่านั้นเท่านี้ แต่ภายหลังก็บอกว่าจำหน่ายไม่หมด ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ไม่เป็นไร แต่เราก็กลัวเหมือนกันว่าถ้าไม่จริงก็กลายเป็นว่าเป็นการแอบอ้างนำตราสัญลักษณ์ของพระองค์ท่านไปทำมาหากิน หรือบางกรณีก็มีการจัดทำสินค้าเกินกว่าจำนวนที่บุคคลหรือบริษัทแจ้งขอพระราชทานพระราชานุญาตมา ซึ่งถือว่าเป็นการมิบังควร เป็นการนำพระนามของพระองค์ท่านไปแอบอ้าง ซึ่งถ้าทราบว่ามีกรณีเช่นนี้ทางกองนิติการ สำนักพระราชวัง ก็จะเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการต่อไป โดยขั้นแรกอาจเป็นการตักเตือน หรือให้จัดเก็บจำนวนที่เกินออกจากตลาด ถ้าหากยังดื้อดึงก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป”

ทั้งนี้ทั้งนั้น ตามหลักฐานที่ปรากฏตามการนำเสนอของสื่อมวลชนทั้งหลาย ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า หนังสือของกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถที่ทำถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยนั้นระบุว่า มูลนิธินพรัช-รัตนโกสินทร์ ซึ่งท่านผู้หญิงวิระยาเป็นประธานกรรมการ ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดทำเสื้อฯ จำนวน 2 ล้านตัว ทว่า อีกตอนหนึ่งของหนังสือระบุว่าทางมูลนิธิฯจะมีการจัดจำหน่ายเสื้อผ่าน 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงมหาดไทย จำนวน 1 ล้านตัว ธนาคารออมสิน 1 ล้านตัว และธนาคารกรุงไทยอีก 1 ล้านตัว โดยจำหน่ายในราคาตัวละ 400 บาท ซึ่งตามหลักฐานเช่นนี้ ย่อมหมายความว่าท่านผู้หญิงวิระยาจัดทำเสื้อเกินกว่าจำนวนที่ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาต

Posted Image

Posted Image


หนังสือถึงท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ของอำมาตย์หญิงตัวแม่ ในนามส่วนตัว



จากการชี้แจงของกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถนั้น ก่อให้เกิดคำถามย้อนกลับไปยัง ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ว่าการให้สัมภาษณ์ของท่านในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมานั้นเชื่อถือได้หรือไม่ และ การให้สัมภาษณ์ในลักษณะพูดคลุมเครือนั้นมีจุดประสงค์เช่นไร เป็นเพราะรู้ดีว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และข้าราชบริพารของพระองค์ท่านไม่อยู่ในฐานะที่จะออกมาตอบโต้ตามสื่อต่างๆได้ใช่หรือไม่? จนบัดนี้ล่วงมากว่า 9 ปี แล้ว ความคลุมเครือกับเงินรายได้ที่อ้างว่ารอทูลเกล้าฯถวายกว่า 400 ล้านก็ยังไม่มีการนำขึ้นทูลกล่าวถวายดังที่ได้ป่าวร้องประชาสัมพันธ์กัน ว่าไงครับท่านผู้หญิงอำมาตย์แดงตัวแม่

Posted Image


ตอนนี้ใกล้วาระอภิลักขิตสมัยที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมายุครบ พรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่อำมาตย์หญิงตัวแม่ จะได้ทูลเกล้าฯถวายเงินที่หมักดองไว้กว่า 9 ปีได้เสียที เว้นเสียแต่ว่าจะมีเจตนาหมักดองต่อไป


#277198 ด่วน ด่วน ... ศาลรธน.มีมติให้รบ.ปูแดงระงับการแก้รธน.ไว้ชั่วคราว

โดย Can Thai on 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 16:57

อย่างลืมว่าไม่เกี่ยว พรบ ปรองดอง นะ

วันที่ 6 - 7 มิ.ย. 55 ยังมีนัดกันอยู่นะครับ


ใช่ครับ คนละส่วนกัน

พรบ.ปรองดองเค้าก็คงอาเข้าสภา ด้วยเสียงมากลากไป

แต่สุดท้ายจะไปตายที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมีโอกาสขัดรัฐธรรมนูญสูง

เนื่องจากมีเรื่อง "การเงิน" เข้าไปเกี่ยวข้อง

ปกติ สส.สามารถยื่นร่างกฎหมายได้ แต่หากมีเรื่องการเงินเข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องให้นายกรัฐมนตรีเซ็นต์รับรองก่อน

ร่างพรบ.ปรองดอง ไม่ผ่านครม.หรือ นายกรัฐมนตรี จึงมีโอกาสขัดรัฐธรรมนูญมากที่สุด


#277114 ด่วน ด่วน ... ศาลรธน.มีมติให้รบ.ปูแดงระงับการแก้รธน.ไว้ชั่วคราว

โดย สิงห์สนามซ้อม on 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 16:25

แมสเสทผู้จัดการในมือถือ. ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งสภาระงับแก้รธน. อาจเข้าข่ายล้มล้างการปกครองนัดไต่สวน 5-6 ก.ค.นี้

////


แบบนี้เรียก กบฎ ต่อแผ่นดินได้ไหม ??


#277692 สถานการณ์ต้าน พรบ.ปรองดองล้างผิด "แม้ว" ที่สภาฯ ต่อวันที่ 2

โดย wangword on 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 20:50

เพิ่งกลับมาถึงบ้านเหมือนกัน วันนี้ไปทำหน้าที่ ที่ทั้งสองแยกเลย

ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถ BTS จตุจักรแบบจ่ายตังค์ 50 บาท นั่งรถไฟฟ้า ต่อรถสายเมลล์สาย12 ไปถึงแยกพิชัยแปดโมงกว่า
ด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆ เพราะข่าวที่ประโคมเรื่องความสามารถของรถจัดสีการที่ซื้อมาตั้ง 25 ล้านบาท กลัวคนไม่ออกมากัน

พอถึงแยกพิชัย พันธมิตรมาถึงพอดี คนมีประมาณ150 คน .....นึกในใจอยู่ที่ไหนก็ตายถ้ามันถึงฆาต แล้วนี่เรามาทำภารกิจเพื่อชาติ
เอาวะสู้โว้ยยยย ตรูมาช่วยอีกแรงแร้ววววว ลงรถเมลล์ทันทีไปรวมกับพันธํมิตร
( ลืมหมดสิ้นว่าเกลียดแป๊ะ -_- .....เอาน่าขอให้เป็นแมว สีไหน พันธ์ุไหนก็ได้ ขอให้จับหนูได้ :rolleyes: )

นั่งประจันหน้ากับตำรวจได้ถึง 10 โมงครึ่ง เลยเดินเล่นยืดเส้น ไปนั่งแช่แอร์ กินไอติม กินขนมที่ร้านศูนย์ศิลปาชีพ 904 ริมถนนสุโทัย ห้องน้ำมีดีไซน์ สะอาดมาก
ชิลด์มาก เสร็จเลยเดินต่อไปเสริมกลุ่มเสื้อหลากสีของหมอตุลย์ที่แยกการเรือน ตอนไปถึงก็เกือบ 11 โมงละ ตอนนั้นเสื้อหลากสีได้รถบรรทุกที่โดนยึดกลับคืนมาแล้ว
เลยปักหลักที่นั่นทั้งวันจน 4 โมงเย็น ระหว่างนั้น สส ปชป มาเยี่ยมก็หลายคน มี ณัฐ บรรทัดฐาน (ส่งน้ำดื่มมาช่วย ) มาสองรอบมั้ง , รังสิมา เส่งข้าวเหนียวหน้าสังขยา ขนมมาให้ และแวะมาตอนเย็น จุรินทร์ ก็มา มีอีกหลายคนที่จำชื่อไม่ได้

ที่แยกการเรือนห้องน้ำก็สะดวก มีรถสุขา กทม มาบริการ แต่เดินไปเข้าที่ ราชภัฎสวนดุสิตก้ได้ใกล้นิดเดียว เลยแวะกินเสลอปี้ที่ 7-11 ชิลด์อีกละ (เอ่อ ตั้งใจไปช่วยจริงๆนะ ตอนโดนข่าวสับขาหลอกของพรรคเพื่อไทยช่วงเที่ยง ถึงบ่ายสอง ว่าจะเปิดประชุมตอนบ่ายโมงครึ่ง ก็นั่งติดแถวนั้น ไม่ได้ไปไหนเลยนะ )


นี่แค่ยกแรกเท่านั้น ยังมีอีกยาวไกลที่พวกเราต้องช่วยกัน เสื้อหลากสี ประกาศชุมนุมอีกครั้งวันที่ 5 เวลา 6 โมง แอบหวังว่าจะมีใครที่นี่จะไปช่วยร่วมแรงในวันนั้น ?

ตอนใกล้เลิกเวที สส.ณัฏฐ์ และทีมงาน นำข้าวกล่อง(ข้าวเหนียว+น่องไก่ทอด ) มาช่วยอีกรอบครับ