คนชายแดน

10%  เคยมาแล้ว   สมัยท่านชวน 

ภาษีมูลค่าเพิ่มใช้แทนภาษีการค้าเมื่อปี 2535 โดยบัญญัติในกฎหมายประมวลรัษฏากรให้จัดเก็บในอัตรา 10%

แต่มี พรฎ.ลดให้คงจัดเก็บในอัตรา 7% เรื่อยมา จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2540

นับจากวันที่ 16 สิงหาคม 2540 จึงขึ้นเป็น 10% จนกระทั่งถึงเดือนมีนาคม 2542

และจากเดือนภาษี เมษายน 2542 ก็ลดลงจัดเก็บในอัตรา 7 % จนถึงปัจจุบัน

พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายก  ตั้งแต่ 25 พฤศจิกายน 2539 จนถึง 9 พฤศจิกายน 2540

นายชวน หลีกภัย  เป็นนายก ต่อจาก ชวลิต จนถึง 9 กุมภาพันธ์ 2544

หลังจากรัฐบาลชวน เข้ามาเช็ดอึ เช็ดฉี่ ที่จิ๋วทำเรี่ยราดไว้ เมื่อสภาพการณ์เริ่มดีขึ้น

จึงได้ลดอัตราลง จัดเก็บ 7% ตามเดิม

หลังจากโชว์พลังเสร็จ  ตัวของป๋มก็มีสภาพเป็นเช่นนี้แล

 

นั่นสิ สงสัยคำว่า สัน ดาน ด้วยว่าทำไมเป็นคำหยาบ

ในคำประพันธ์มีใช้มากมาย แม้แต่ในกฎหมายแพ่ง

ว่าด้วยเรื่องครอบครัวและมรดก ก็ใช้คำว่า ผู้สืบสัน ดาน

ต้องใช้วิธีเลี่ยงดูแล้วขัดตาบอกไม่ถูก

หรือจะใช้คำว่า กำพืด แทน แล้วคำนี้จะถูกดูดหรือเปล่า

 

 

เพจสายตรงภาคสนาม เคยปล่อยข้อมูลส่้งเดช จนเจอ ห้องวิทย์ pantip ถล่มมาแล้ว เสพเพจนี้ ก็ควรเอาหญ้าออกจากปากก่อน เอาขาออกจากหัวก่อนนะ

 

อันนี้คือควายเอา revenue มามั่ว้ป็น profit แบบนี้ไม่ผิดใช่มั้ย

 

ไม่ผิดเลยใช่มั้ย?????  ใช่มั้ยๆๆๆๆๆๆๆ

 

ผมรู้ว่าคุณผึ้งไม่ได้จบทุกศาสตร์ แต่พยายามจะเชียวชาญทุกศาสตร์ ก็เข้าใจ

 

เป็นเพราะเหล่าฮู ไม่ยอมเอาหญ้าออกจากปาก เอาขาออกจากหัว (เป็นสัตว์ประหลาดพิกลพิการแน่เลยถึงมีขาออกมาจากหัวด้วย สาหัสกว่ามีเขาอีก)

ถึงอ่านไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจความหมายของกระทู้ โชว์โง่ซ้ำสอง ไปกล่าวหาคนอื่นว่าโกหก ไม่ได้มองตัวเองเลย

หัดตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองเสียบ้าง  ถ้าไม่รู้เรื่องก็อย่าแสดงความเห็นจะดีกว่า เพราะคนอื่นจะได้ไม่รู้ว่าโง่ 

(เหล่าฮู จะเข้าใจความหมายของคำว่า กะโหลก ในที่นี้หรือไม่นะ น่าสงสัย)

เอารายได้มาบอกว่าเป็นกำไร เอาทุนเรือนหุ้นมาบอกว่าเป็นทรัพย์สิน  ก็ถูกแล้วที่เจ้าของกระทู้จะบอกว่าเพลีย

สำหรับเหล่าฮู สงเคราะห์บอกเป็นพื้นฐานให้อีกหน่อยว่า ในทางบัญชี รายได้ เมื่อหักด้วยต้นทุนขาย จะได้ กำไรขี้นต้น(Gross profit)

หรือขาดทุนขั้นต้น (Gross loss) และเมื่อหักด้วยรายจ่าย ในการดำเนินงานต่าง ๆ ออกแล้วจึงจะเหลือเป็นกำไรสุทธิ (Net profit)

หรือขาดทุนสุทธิ (Net loss) 

ที่จริงถ้าเหล่าฮูติดตามที่นักข่าวกระทรวงพาณิชย์ถามไล่บี้บุญทรงกับไอ้เผาไปเลยผมรับผิดชอบเอง ก็น่าจะได้ยินคำพวกนี้บ้างนะ

น้องนักข่าวใช้คำว่า Initial loss กับ Net loss นี่แหละ ถ้าสนใจใฝ่รู้ ก็จะได้ไม่ต้องโง่อวดใครอีก

สุดท้ายพิเศษให้เหล่าฮู

รู้น้อยว่ามากรู้..............เริงใจ

กลกบเกิดอยู่ใน...........สระจ้อย

ไป่เห็นชเลไกล...........กลางสมุทร

ชมว่าน้ำบ่อน้อย..........มากล้ำลึกเหลือ

อีดิท  ที่มา  โคลงโลกนิติ

คุณไร้สีไร้กลิ่น บอกว่า

........ยิ่งลักษณ์เองก็มีแต่คนด่าว่า แต่เธอก็มีความอดทน (เมื่อก่อนผมก็คิดว่านั่นคือความหน้าด้าน แต่ถ้ามองทางธรรมนั่นคือขันติ)....

ขันติ คือความอดทน เป็นหนึ่งในฆราวาสธรรม เป็นธรรมของผู้ครองเรือน ธรรมคือ ความจริง ความถูกต้อง ความดีงาม

ขันติธรรม จึงเป็นความอดทนในการที่จะกระทำแต่ความดี ไม่ข้องแวะต่อการกระทำความชั่วทั้งปวง

แล้วทุกวันนี้ ยิ่งลักษณ์ มีความอดทนที่จะทำความดีงามให้ปรากฎอย่างไรบ้าง

คำว่าขันติธรรม เอามาใช้กับหญิงคนนี้ไม่ได้หรอก  อย่าสับสน

http://www.manager.c...D=9560000065813

ใครๆ ก็บอกว่า นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เก่ง
       
       เก่งตรงที่ยังสามารถ อยู่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นปลัดที่ได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มีนายกรณ์ จาติกวณิช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อปี 2553
       
       หนึ่งปีกว่าๆ เกือบจะสองปีแล้ว ที่รัฐบาลยิงลักษณ์ ชินวัตร บริหารประเทศมา แต่เก้าอี้ของนายอารีพงศ์ ก็ยังมั่นคง แข็งแรง เพราะเป็นคนที่อยู่เป็น รู้ว่าจะอยู่อย่างไร ทำงานอย่างไร ให้เข้าขากับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
       
       ตอนที่นายอารีพงศ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงการคลัง เมื่อปี 2553 นั้น แม้ว่า อาวุโสยังไม่ถึง แต่ก็ไม่มีเสียงติฉินนินทา เพราะประวัติด้านการศึกษาหน้าที่การงานนั้นโดดเด่นดูดีมาตลอด การเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้นนอกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังแล้ว ยังมีตำแหน่งข้าราชการระดับสูงอีกหลายตำแหน่งที่นายกรณ์ตัดสินใจเลือกคนรุ่นใหม่มารับตำแหน่ง ด้วยหวังว่าจะเป็นเลือดใหม่ของกระทรวงการคลังที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นได้
       
       แต่แล้ว กาลเวลาก็พิสูจน์คนในเวลาไม่นานนัก เมื่ออำนาจเปลี่ยน คนหนุ่มไฟแรง การศึกษาดี รสนิยมเก๋ ดื่มไวน์ คาบไปป์ ตีกอล์ฟ ก็พิสูจน์ตัวเองให้สังคมได้เห็นว่า คนที่เรียนเก่ง เรียนสูง จบปริญญาตรี โท เอก จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของฝรั่ง ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนสี แปรธาตุ รับใช้นักการเมือง เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองได้ทันที
       
        ข้าราชการกระทรวงการคลัง ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมา เคยมีจุดยืนที่มั่นคงทั้งในแง่วิชาการ และวิชาชีพ มาถึงยุคนี้ ไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ฉีกวินัยการคลัง นำพาประเทศชาติเดินเข้าสู่กับดักแห่งหนี้
       
       สำหรับคนที่ยึดมั่นในการทำหน้าที่ข้าราชการอย่างซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา อย่างนางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง กลับถูกนายอารีพงศ์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา “ จัดให้” สนองคำบัญชาของนักการเมือง โยกย้ายออกจากการทำหน้าที่ที่คอยดูแลรายรับรายจ่าย หนี้สินของประเทศ ว่ามีสถานะอย่างไรแล้ว ไปอยู่ตรงที่ทีไม่มีอะไรให้ทำเป็นชิ้นเป็นอัน
       
       ความผิดของนางสาวสุภามีประการเดียวคือ การพูดความจริง โดยไม่สนใจว่าจะกระทบต่อฝ่ายการเมือง แลไม่สนใจว่าจะกระทบกับตัวเองอย่างไร การพูดความจริงในฐานะประธานคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ที่ระบุว่า โครงการนี้ขาดทุนไปแล้ว 2.6 แสนล้านบาทนั้น ทำให้ช้างตายทั้งตัว ที่รัฐบาลกำลังเอาใบบัวปิดอยู่ ยิ่งส่งกลิน่นเน่าเหม็นออกมาาอย่างรุนแรง จนยากที่จะปฏิเสธว่า นี้คือ ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และหายนะของชาติ
       
       การเป็นรองปลัดที่รับผิดชอบดูแลกรมบัญชีกลาง และสำนักบริหารหนี้สาธารณะของ น.ส.สุภา ยิ่งสร้างปัญหาให้กับรัฐบาล เพราะหน่วยงานทั้งสองหน่วยนี้ ก็เปรียบเสมือนนักบัญชี ที่เข้าถึงตัวเลขซึ่งแสดงถึงฐานะการเงิน รายรับ รายจ่ายที่แท้จริงของประเทศ
       
       การสั่งย้ายนางสาวสุภาออกจากการทำหน้าที่ดูแลกรมบัญชีกลาง และสำนักบริหารหนี้สาธารณะไปดูแลงานของสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ก็เหมือนการปิดปากนักบัญชี ไม่ให้คอยรายงานฐานะการเงินที่แท้จริงต่อผู้ถือหุ้น ไล่ให้ไปเป็นแม่บ้านแทน
       
       แน่นอนว่า งานนี้เป็นใบสั่งของรัฐบาลที่ต้องการปิดปากนางสาวสุภา และอาจจะเลยเถิดไปถึงการใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุ ตกแต่งบัญชีให้สวยงามกว่ากว่าเป็นจริง อย่าคิดว่ารัฐบาลนี้ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนนี้ไม่กล้าทำ อะไรก็ได้ที่ทำให้รอดตัวไปวันๆ กิตติรัตน์ทำได้ทั้งนั้น ทั้งปลัดกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้อำนวยการสำนักบริหารหนี้สาธารณะ ก็พร้อมจะรับนโยบายไปปฏิบัติเพื่อความอยู่รอด เพื่อความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่
       
       ติดอยูตรงที่รองปลัดฯ ซึ่งกำกับดูแลสองหน่วยงานนี้ ที่มีฉายาว่า มือปรายไม้บรรทัด เป็นคนที่ยึดมั่นในหลักการทางวิชาการ และวิชาชีพ ไม่กลัว และไม่ยอมสยบต่อความไม่ถูกต้อง จึงต้องถูกย้ายไปทำหน้าที่อื่น อธิบดีกรมบัญชีกลาง และ ผอ. สำนักบริหารหนี้สาธารณะจะได้ทำงานได้สะดวกใจ
       
       คำสั่งปลัดกระทรวงการคลังที่สับเปลี่ยนหน้าที่ นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง จากเดิมที่ดูแลกรมบัญชีกลาง และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ไปรับผิดชอบ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ลงวันที่ 27 พ.ค. 2556 ที่ลงนามโดยนายอารีพงศ์ เป็นคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า ทำไมนายอารีพงศ์ จึงอยู่ในตำแหน่งได้อย่างเหนียวแน่น และมีโอกาสสูงมากที่จะได้เป็นต่ออีวาระหนึ่ง
       
       เพราะสิ่งที่เป็นความต้องการของ “โต้ง” “ตุ้ม” ไม่กล้าปฏิเสธ แม้ว่าจะต้องฆ่าผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ทำงานเก่ง ทำงานดี ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของแผ่นดิน ก็ตาม
       
       ระหว่าง “ สันดานธาริต” กับ “นิสัยอารีพงศ์” เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ?

------------------------------------------------------------

คงไม่ต้องสงสัยว่า ผอ. สศค. พูดจริง หรือพูดเท็จ
 

ศาลรับคำร้องไว้พิจารณา แล้วหน้าแหกอย่างไร

บ้องตื้นจริง ๆ  แค่นี้ก็ตื่นตูม ตาหูแหกเอาลิงค์มาแปะ

แต่ก็ขอให้ เป็นสุข เป็นสุข  สวัสดีมีชัยนะจ๊ะ

ไหนๆก็รำลึกเรื่องเก่า ดูโต๊ะนักเรียนรุ่นนี้ที่เคยนั่งเรียน

 

รถที่นั่งไปเรียนมัธยม รถเมล์ไทยประดิษฐ์ สาย56 ค่ารถ 50สตางค์

ไทยประดิษฐ์.jpg

 

กระดานชนวน จำได้ว่าได้ใช้ตอนป.1 น่าจะเป็นยุคสุดท้ายแล้ว

โต๊ะกับกระดานชนวนนี่ ได้ใช้เหมือนกัน และตอนเรียน ม.ศ.4 นั่งรถพีระ สาย 16 ไปโรงเรียน จากถนนพิษณุโลก

ไปลงที่ถนนอังรีดูนังต์ ด้านหลังโรงเรียน มีใครทันรถพีระ(สีฟ้า)บ้าง

งั่กเลยเรา

ชอบโคลงโลกนิติบทนี้มากเลย คิดถึงทุกครั้งที่มีพวกป่วนกระทู้เข้ามาก่อกวน

หมาใดตัวร้ายขบ    บาทา

อย่าขบตอบต่อหมา  อย่าขึ้ง

ทรชนชาติช่วงทา-    รุณโทษ

อย่าโกรธอย่าหน้าบึ้ง  ตอบถ้อยถือความ

 

จบ ป.7 ร.ร.เทศบาลวัดราชนัดดา  มัธยม ม.ศ.1-5 วัดชิโนรส บางกอกน้อยครับ

อายุใกล้กันเลย ถ้าเคยเรียน ป.7 อายุต้องเกิน 50ปีขึ้นไปแล้ว

...ผมเรียน ป.6 เป็นกลุ่มแรก ที่ยกเลิก ป.7...

แล้วไปสอบเข้าได้ที่ ทวีธาภิเษก

 

ปล.เมื่อก่อนนี้มี

ป.1-ป.7 และ ม.ศ.1-ม.ศ.5 =12ปี

เดี๋ยวนี้

ป.1-ป.6 และ ม.1-ม.6 =12ปี

 

ผมกับท่านกรุงธน...อาจจะคงได้เจอกันกับผมบ้าง ..ที่ทภ. แหละครับ
ผม มศ.1 รุ่นสุดท้าย (ศิษย์อาจารย์หวั่น..อ.บุญส่ง     )

จบป7. จากประถมทวีธาภิเศก (สทภ.) และมาต่อที่ มศ1. ที่ทวีธาภิเศก (ทภ) ครับ

นึกว่าจะไม่เจอคนจบ ป.7 เสียแล้ว ดีใจจัง 

เรียนชั้นเด็กเล็ก (แถวบ้านเรียกอย่างนี้ เป็นชั้นเรียนก่อน ป.1) ป.1 -7 ที่โรงเรียนวัดใกล้บ้าน (ถ้าถูกยุบคราวนี้เดือดร้อนกันทั้งตำบลแน่) 

ม.ศ. 1 - 3 เรียนที่โรงเรียนมัธยมต้นประจำจังหวัด 

ม.ศ. 4 - 5 เรียนอยู่โรงเรียนมัธยมปลาย แถวถนนพญาไท

 

 

พุ่งลงเหรอ     

พวกขี้อิจฉา

ขึ้นไปเท่าไหร่ล่ะ บอกราคาด้วยครับ ปีที่แล้วรายได้หายไปหลายแสนบาท

ราคายางขึ้นนับว่าเป็นข่าวดี...แต่เลิกหวังแล้วหละว่าพรรคนี้ รัฐบาลชุดนี้ที่จะทำราคายางได้เท่ากับสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์

ผมมีไร่ยางอยู่ 140 ไร่ กรีดมา 10 ปีแล้ว ถ้ารัฐบาลชุดนี้ทำราคายางได้สูงกว่า หรือได้เท่ากับรัฐบาลอภิสิทธิ์ ผมครอบครัวและคนงานอีก12 คน รวมทั้งชาวบ้านที่ปลูกยางกันเกือบทั้งหมู่บ้านจะเลือกพรรคเพื่อไทย ตลอดไปเลย แม้ว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยในเขตเลือกตั้งของผม จะไม่มีคุณภาพก็ตาม

 

ไม่ต้องมากหรอก แค่ทำราคา "ขี้ยาง"ให้ได้ราคา 80 บาท ผมจะ"ยอดากดม"เลยครับ

 

ถ้าทำไม่ได้ หรือยังไม่เห็นผลงาน ก็อย่าเพิ่งเสนอหน้าเอามาโพสต์

 

ราคาสูง แต่ขายไม่ออก ขายได้น้อย

 

แต่ราคาพออยู่ได้ ไำม่ต่ำ ไม่สูง กลางๆ

 

แต่ขายออก ขายได้มาก มีผู้รับซื้อมาก

 

ถามหน่อย คุณจะได้ตังน้อยกว่า การที่ราคายางมันสูง ปะั ?

ในฐานะที่เป็นคนสวนยางคนหนึ่ง อยากถามว่ารู้เรื่องสวนยางมากน้อยเพียงไหนกันเชียว ถึงมีหน้าบอกว่ารัฐบาลนี้ทำราคายางพุ่ง

กก.ละ120 บาท ที่คุยโวไว้ ยังไม่มีปัญญาจะทำให้ได้เลย  ความจริงก็มีอยู่ว่า ตั้งแต่รัฐบาลอิห่านจิกนี่เข้ามา

ขายยางพารา 2 กก. ยังไม่ได้เงินเท่าขายยาง 1 กก. สมัยรัฐบาลก่อนเลย รายได้หดหายไป

อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง นี่ยังไม่คิดไปถึงช่วงที่ยางขึ้นราคาไปถึง กก.ละ 180 - 190 บาทเลยนะ

แล้วที่บอกว่า 

"ราคาสูง แต่ขายไม่ออก ขายได้น้อย

จะบอกว่า ไม่เคยที่ชาวสวนยางจะขายยางไม่ได้ หรือไม่มีผู้รับซื้อ ผลผลิตมีเท่าไรขายได้หมด

ประเด็นสำคัญของชาวสวนอยู่ที่ว่าได้ราคาสูงหรือต่ำเท่านั้น 

แต่ราคาพออยู่ได้ ไำม่ต่ำ ไม่สูง กลางๆ

แต่ขายออก ขายได้มาก มีผู้รับซื้อมาก

ตรงนี้เป็นเรื่องตลก ขายออกมันแน่อยู่แล้ว แต่ขายได้มาก จะเอาผลผลิตมากมาจากไหนล่ะ

ผลผลิตต่อไร่ต่อปี มันก็มีปริมาณเท่าเดิมนั่นแหละ ไม่มากน้อยแตกต่างกันเท่าไรหรอก ใช่ว่า

ราคายางต่ำแล้วกรีดยางน้ำยางมันจะทะลักออกมาเพิ่มเป็น 2-3 เท่าได้เสียเมื่อไหร่

ถามหน่อย คุณจะได้ตังน้อยกว่า การที่ราคายางมันสูง ปะั ?"

ตรงนี้คงไม่ต้องอธิบายนะ มีสมองคงคิดเลขเป็น

หัดอยู่กับความเป็นจริงเสียบ้างเถอะ อย่าเพ้อฝันเลื่อนลอยไปเลย ไม่มีใครเขาอิจฉาหรอก สมเพชเวทนามากกว่า

แต่ก็อย่างว่าแหละ จิ้งเหลนก็เป็นแค่สัตว์ 4 ขามีหางตัวเล็ก ๆ สมองก็เล็กไปด้วย ได้แต่ตวัดลิ้นหาแมลงกินไปวัน ๆ 

จะคิดอะไรได้มากไปกว่านี้ล่ะ 

แล้วเราก็คงทำได้แค่ที่สำนวนไทยว่าไว้  "สีซอให้ควายฟัง"

hentai  # 19  ที่บอกว่า

การที่เรา มี VAT 10% ตอนสมัยชวน...   .

"มันก็มาจาก..ความไร้วินัยทางการคลังของรัฐบาลไทยโดยตรง.. หรือ ป่าว."

คุณอย่ามั่วซั่วนักเลย จะให้ร้ายป้ายสีใคร อย่าคิดว่าจะไม่มีใครรู้

จะสงเคราะห์บอกความที่ถูกต้องว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นเริ่มใช้แทนภาษีการค้า

เมื่อปี 2535 โดยบัญญัติในกฎหมายประมวลรัษฏากรให้จัดเก็บในอัตรา 10%

แต่มี พรก.ลดให้คงจัดเก็บในอัตรา 7% เรื่อยมา จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2540

นับจากวันที่ 16 สิงหาคม 2540 จึงขึ้นเป็น 10% จนกระทั่งถึงเดือนมีนาคม 2542

และจากเดือนภาษี เมษายน 2542 ก็ลดลงจัดเก็บในอัตรา 7 % จนถึงปัจจุบัน

พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายก  ตั้งแต่ 25 พฤศจิกายน 2539 จนถึง 9 พฤศจิกายน 2540

นายชวน หลีกภัย  เป็นนายก ต่อจาก ชวลิต จนถึง 9 กุมภาพันธ์ 2544

ขอให้ความละอายใจจงบังเกิดแก่ท่านบ้าง อ่านแล้วคงเข้าใจนะว่า ใครกันที่เป็นคนขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10 %

คิดถึง ป.อาญา มาตรา 200 จังเลย

หมวด 2 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม
มาตรา 200 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการ อย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใด มิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลงต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือน ถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าการกระทำหรือไม่กระทำนั้นเป็นการเพื่อ จะแกล้งให้บุคคลหนึ่ง บุคคลใดต้องรับโทษ รับโทษหนักขึ้น หรือต้องถูกบังคับตามวิธีการ เพื่อความปลอดภัยผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือ จำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
 

ใครจะเงิบ ไม่เงิบ ไม่ช้าก็คงรู้

กลางไข่แม้ว..

 

แล้วถ้าอยู่กลางของนางปูหล่ะ....จะใช้คำไหน???      

 

ใครบัญญัติได้ถูกใจ..ให้ 1 Like คร๊าา  

 

 

คนกลางสะดือปูหรือครับ

ปกติ ปูทะเล หรือภาษาถิ่นบ้านเราเรียกปูดำ แต่เมื่อต้มแล้วจะกลายเป็นสีแดง

ปูทะเลนี้ เมื่อจับหงายท้องจะมีแผ่นลักษณะคล้ายสามเหลี่ยมอยู่ตรงกลาง

ภาษาถิ่นเรียกว่าตะปิ้ง ถิ่นอื่นเราไม่รู้ว่าเรียกอะไร สิ่งนี้จะบอกเพศของปู

ว่าเป็นตัวผู้ กะเทย หรือว่าตัวเมีย

ส่วนกลางของปู ก็ต้องอยูที่ตะปิ้งปูนี่แหละ