Jump to content


MZero

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2557 18:17
-----

#422994 ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

โดย SPDZ on 21 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:57

พูดเอาฮา ....ใช่มั้ย


Posted Image


#440992 อยากเล่า...เช้าวันนี้

โดย คนชายแดน on 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:42

ขออนุญาตคุณตะนิ่นฯ เสริมด้วยกลอนของสุนทรภู่ ตอนที่พระอภัยมณีสอนสินสมุทรเมื่ออยู่บนเรือของอุศเรน

แล้วตรัสบอก ลูกน้อย กลอยสวาท... เจ้าหน่อเนื้อ เชื้อชาติ ดังราชสีห์
อันรักษา ศีลสัตย์ กัตเวที... ย่อมเป็นที่ สรรเสริญ เจริญคน
ทรลักษณ์ อกตัญ ญุตาเขา... เทพเจ้า ก็จะแช่ง ทุกแห่งหน
ให้ทุกข์ร้อน งอนหง่อ ทรพล... พระเวทมนตร์ เสื่อมคลาย ทำลายยศ

แต่คงยากที่คนลืมตัวอย่างนั้น จะเข้าใจ


แก้ไข พิมพ์ผิด


#440979 อยากเล่า...เช้าวันนี้

โดย ตะนิ่นตาญี on 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:48

หนึ่งในตัวละครหลายหลายตัวที่ ตะนิ่นตาญี ชื่นชอบ

ในมหากาพย์ รามายณะ นารายณ์ อวตาร ปาง รามสกุลจันทร์

หรือที่ใครต่อใครพากันเรียกว่า รามเกียรติ์ นั่นเอง ก็คือ พาลี

พาลี เป็นตัวละครที่แสดงถึงความซับซ้อนในจิตใจ มีทั้ง ความดี-ความชั่ว

ปะปนอยู่ในตัวเอง ถึงขนาดไปแย่ง นางมณโฑ จาก ทศกรรฐ์ เอามาเป็นเมีย

ก็เคยมาแล้ว โดยให้เหตุแห่งการแย่งนั้นว่า ทศกรรฐ์ พา นางมณโฑ เหาะข้ามหัวตัวเอง

ต้องบอกว่า ตะแก แถ ได้สุดสุด จะเอาเป็นเมียเสียอย่างใครจะทำไม

ดังนั้น จะเรียกว่า กึ่งธรรมะ-กึ่งอธรรม ก็ว่าได้ แต่ที่ ตะนิ่นตาญี ชอบ แก นั้น

ก็เห็นจะเป็นเพราะว่า ความ ยะโส-โอหัง ในความสามารถของตนเอง

ก่อนตายแกได้สั่งสอน สุครีพ ผู้เป็นน้องชาย ไว้ว่า...

เลือดพี่มีค่ากว่าตน.....เสียเลือด-เสียชนม์ ดีกว่า

โลหิตติดปลายโลมา.....อับอายขายหน้าฟ้าดิน


มีการผจญภัย ของ พาลี อยู่ตอนหนึ่งอ่านแล้วก็เพลินดีให้ ความคิด แก่คนที่คิดเป็นอยู่

นั่นก็คือตอนที่ พาลี ไปสู้กับ ทรพี ตรงนี้ต้องอนุญาตเพื่อนเพื่อนเกริ่นย้อนนำก่อนจะถึง

สงครามระหว่าง ลิง กับ ควาย เสียก่อน ทรพี เป็น ควาย ครับ...

พ่อของ ทรพี ชื่อ ทรพา แต่ก่อนนั้นสัญชาติของ ทรพา ไม่ใช่ ควาย นะครับ

หากมีสัญชาติดั้งเดิมเป็น ยักษ์ ทำหน้าที่เฝ้าประตู เหมือน ยักษ์วัดแจ้ง กับ ยักษ์วัดโพธิ์ นั่นประไร

วันดี-คืนดี ไม่รู้ แก ไม่รู้แกไป เมาเหล้า อีท่าไหน ดันทะลึ่งไปไล่ปล้ำ นางฟ้า เข้า

นางฟ้า วิ่งหนี สบง-สไบ ให้หลุดกระเจิง ไปฟ้อง พระอิศวร...พระอิศวร ท่านก็โมโห เข้าน่ะสิครับ

ก็เลยสาปเอา ให้ไปเกิดเป็น ควายป่า และเมื่อมี ลูก ก็ให้ ลูก นั้นเป็น ผู้ฆ่า เมื่อนั้นแหละจึงจะพ้นคำสาป

ควาย ทรพา เป็น ควาย ขี้ขลาด แต่ เจ้าชู้ ครับ มีเมียควาย หลายตัวอยู่

มีลูกเป็น ตัวผู้ เมื่อไหร่แกฆ่าทิ้งหมดเลย เฮ้อ...นรกแท้แท้ ไอ้พวก ควาย ใจต่ำเนี่ย.....

แต่ก็มีอยู่ตัวหนึ่งที่หลุดรอดมาได้ เพราะเมียของ ทรพา ตัวหนึ่งชื่อ นิลา แอบท้องขึ้นมา

ผัวถามว่าท้องรึ นางนิลา เธอก็บอกว่า เปล่า...พักหลังฉันกิน หญ้า เยอะขึ้นมันก็เลยดูอวบขึ้นมาเฉยเฉย

พอผัวเผลอ นิลา ก็แอบไปคลอดลูกให้ชื่อว่า ทรพี แล้วฝาก เทวดา ๔ ตน เลี้ยงไว้ในถ้ำแห่งหนึ่ง

ส่วนตัวแกหลังจากเอา ไข่ ไปทิ้งก็กลับมา ออดอ้อน-ออเซาะ-ฉ้อเลาะ ผัวต่อไป

เทวดาใจดี ทั้ง ๔ ตน ก็เลี้ยงไป และทำหน้าที่สั่งสอน ยุทธวิธี ในการรบ และคอยดูแลอารักษ์

จน ทรพี นั้น เติบโต-เติบใหญ่ เป็น ควายเลว ไร้ คุณธรรม-จริยธรรม ไม่ต่างกับสื่อใหญ่ในทุกวันนี้.....

ความเลว ของ ควายทรพี นั้นเป็นชัดยิ่งขึ้น ในทุกทุกวัน

มันจะเอาไม้เมตร ไปวัด รอยตีน พ่อ ครับ เห็นว่า ตีน ตัวเองยังเล็กเท่าฝาหอยอยู่ก็ยังไม่ไปท้ารบ

จนเห็นว่า ตีน ตัวเองใหญ่เท่า พ่อ แล้วนั่นแหละจึงไปไล่ขวิด พ่อ-ทรพา จนตาย…..

ทรพี เป็นควายนรกส่งมาเกิดครับ คิดว่าตัวเอง เจ๋ง ตัวเอง นั้นแน่ ก็เที่ยวไปท้าไล่ขวิด

ไม่เลือก หน้าอินทร์-หน้าพรหม เทวดา ท่าน ไม่อยากยุ่งกลับ ควาย ครับ ท่านก็เลยบอกว่า

เออ...เอ็งแน่- เอ็งเก่ง-เอ็งเจ๋ง-ห้าวป้าง ถ้าอยากโชว์พาวนัก ละก้อ นู่นแน่ะ แน่จริงไปท้า พระอิศวร ดิ

*** ทรพี นี่นอกจากจะชั่ว แล้วยังโง่อีกด้วยครับ ทะลึ่งไปท้ารบกับ พระอิศวร ครับ

พระอิศวร ท่านก็ ยั้ว เอาน่ะสิครับ หนอยแน่...ไก่อ่อนพึ่งสอนขัน ดันทะลึ่งมาท้าประชัน

ก็เลยบอกว่าแน่จริงไปเอาชนะ เจ้าครองนครขีดขิน ให้ได้เสียก่อนเถอะ ไอ้หนู...

*** นี่ก็เชื่อครับ เพื่อนเพื่อน ไปท้า พาลี ผู้เป็น เจ้านครขีดขิน รบ พาลี ก็เอาสิครับ

ไม่ได้ ตบเกรียน มาเสียตั้งนาน อยู่ดีไม่ว่าดีก็มี เกรียน มาให้ตบ

รบกันอยู่ ๗ วัน ๗ คืน พาลี ก็ยังไม่ชนะเสียที ก็เลยถาม เก่งเพราะอะไร?

ไอ้ควายทรพี มันเป็น ควาย จอมเนรคุณ ครับ มันประกาศเลย “กูเก่งเพราะตัวกู”

เทวดาทั้ง ๔ ตน ที่สั่งสอนไอ้ควายนี่ให้เติบใหญ่ เป็นผู้-เป็นคน มาได้จนถึงทุกวันนี้

ปปช. เอ๊ย เทวดา ท่านได้ยินครับ ก็เลยสุมหัวกัน และมีมติเป็นเอกฉันท์ ๔ ต่อ ๐

ว่า ไอ้นี่มันคบไม่ได้ พวกเราเห็นทีจะ ดูแล-อารักษ์ มันไม่ได้เสียแล้ว

ไปดีกว่า-ไม่คุ้มครองมันดีกว่า เท่านั้นเองครับ ทรพี ก็เลย ถูก พาลี ฆ่าตาย

ที่มาเล่ามาทั้งหมดนี้ เห็นทีเป็นเพราะ อึดอัด-คับข้องก็ท่าทีของ สื่อใหญ่ ที่ให้สัมภาษณ์

ในรายการหนึ่งทางช่อง TNN. ที่ คุณโจโฉฯ ท่านแนะนำให้ดู...ดูแล้วก็ต้องรีบปิด

ปิดเพราะเมื่อ สื่อใหญ่ เช่น คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา เธอถูกถามว่า...เก่งเพราะอะไร-ดังเพราะอะไร

เธอ ตอบประมาณว่า เก่งเพราะตัวฉันเอง-ดังเพราะตัวฉันเอง.....เฮ้อ คุณสรยุทธฯ ครับ

ดูเหมือนว่า คุณฯจะลืมไปหรือเปล่าว่าที่เก่งได้ดังได้เพราะคุณฯได้รับโอกาส -ได้รับโอกาสจาก

คนที่ชื่อ สุทธิชัย หยุ่น จำได้ไหมครับ? จะมีสักกี่คนที่ได้รับโอกาสเหมือนอย่างที่คุณฯเคยได้รับโอกาสมา

กตัญญู นั้นคือความยิ่งใหญ่ในหัวใจของมนุษย์ กตัญญู นั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องตอบแทน

แต่เป็นสิ่งที่ มนุษย์ เราต้องรู้สำนึก รู้ สำนึก ด้วยความเป็น มนุษย์ เท่านั้นเองครับ

กตัญญู ไม่ใช่การตอบแทน ไม่เช่นนั้นแล้วมันจะต่างอะไรกับ การทวงบุญ-ทวงคุณ

หรือการสร้างบุญคุณเพื่อหวังสิ่งตอบแทน เหมือนดังที่ ช่อง ๓ โดนเผา

เพราะมีคนบอกว่า ช่อง ๓ และ คุณฯ เนรคุณกู-กูเลยเผา กตัญญู ไม่ใช่การตอบแทนเยี่ยงนั้นครับ

และที่สำคัญ คุณฯ รู้จัก กตัญญู ต่อแผ่นดินนี้บ้างหรือไม่? แผ่นดินนี้ที่ได้ให้โอกาสทุกสิ่งทุกอย่างกับ คุณฯ

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๘.๔๘ นาฬิกา


#437706 นปช. จัดฉากทำไม โกหกทำไม

โดย ศรอรชุน on 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:30

อยากให้คุณศร นำไปถามที่ราดดำเนินด้วย
รวมทั้งท่านอื่นๆ หากจะกรุณา ก็กระจายไปตามสื่อต่างๆ ให้กว้างขวางที่สุด


จัดไปแล้วครับ ลองไปตามการแถกันดู :D :D :D

----- นปช. จัดฉากทำไม? โกหกทำไม? เรื่องน้องเกด ที่เสียชีวิตในวัดปทุม ---

http://www.pantip.co.../P12741763.html


#437663 นปช. จัดฉากทำไม โกหกทำไม

โดย พระฤๅษี on 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:00

ก็เป็นเรื่องปกติ ของเขา...การหากินกับศพ เขาก็ทำมา

หลายครั้งแล้ว.รูปแบบต่าง ๆ เราไม่แปลกใจอะไร.......

แต่ที่เรารู้สึก.สังเวช.ใจก็คือ ทำไม ผู้เป็นแม่ ทำกับศพ

ลูกได้ถึงขนาดนี้..?? เสียชีวิตแล้ว. ได้ค่าชดเชยแล้ว.

ควรจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกไปสู่..สุขคติภพ. จะ

ตามหาผู้กระทำ ก็มอบให้เจ้าหน้าที่เขาจัดการ ทำไม-

ต้องทำตัว..ผิดปกติ..??? ไม่เหมือน..แม่ที่ดี...เลยจริง ๆ


#432556 เมื่อครั้งหนึ่งที่เคยหลงผิดไปรับเงินของพ่อพวกเสื้อแดง

โดย Exotic on 29 กันยายน พ.ศ. 2555 - 02:44

พอดีนั่งทำงานอยู่แล้วเครียดๆ นึกขึ้นได้ว่าเพิ่งสมัครสมาชิดบอร์ดเสรีไทย

เลยอยากจะเล่าประสบการณ์ ที่เคยหลงผิด ในสมัยเรียนให้ได้อ่านกัน

ถ้าผู้ดูแลเห็นว่าไม่เหมาะ ก็จัดการกระทู้ผมได้เลยครับ

ผมอ่านบอร์ดนี้มาพักใหญ่ๆแล้ว แต่เพิ่งสมัครสมาชิกครับ เลยยังไม่ค่อยรู้กาละเทศะ

ผิดพลาดประการใดช่วยชี้แนะละกันครับ




เหตุการณ์มีอยู่ว่า ตอนเลือกตั้งปี48 ยุค 4ปีซ่อม 4ปีสร้าง ตอนนั้นผมศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยรัฐที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

มีเพื่อนผมในคณะคนหนึ่ง เป็นลูกหลานของคนใกล้ชิดมากๆของแม้ว ได้มาชักชวนเพื่อนที่ม.หารายได้พิเศษ

เค้าบอกว่า ไม่กี่วัน วันละไม่กี่ชั่วโมง จะได้รายได้ รวมๆ เป็นหมื่น แห่มแล้วใครมันจะไม่อยากได้ละครับ

นิสิตอย่างเราอยู่ดีๆก็จะหาเงินเป็นหมื่นได้ เลยถามกันว่างานอะไร แต่ก็พอรู้อยู่แล้ว ว่าต้องเกี่ยวกับการเมือง

เพราะก็รู้ว่าคนเพื่อนคนที่ชวนเป็นใคร



เพื่อนคนนี้ก็เลยให้รายละเอียดว่า แค่ไปเดินแจกใบปลิว หาเสียง ตามสถานที่ต่างๆ แค่นั้นเอง

มีรถตู้รับส่ง มีอาหารและของว่างอย่างดี ไม่ลำบาก แค่ร้อนตอนเดินแจกใบปลิวเท่านั้น

ซึ่งดูเหมือนเพื่อนในคณะหลายๆคนจะตอบตกลงไปอย่างง่ายๆ จริงๆแล้วเพื่อนๆพวกนี้โดยส่วนใหญ่

นัดแนะกันแล้วครับว่า จะไม่ตั้งใจแจกซะเท่าไร เพราะลับหูลับตา ก็กะจะโยนไอ้ใบปลิวหาเสียง

พวกนี้ทิ้ง เพราะอะไรหรือ เพราะว่า โดยส่วนใหญ่ ไม่ชอบแม้วกันอยู่แล้วครับ จากการทำตัวของเค้า

ในฐานนะนายก4ปีซ่อม ของเค้าในสมัยก่อนมันเริ่มโชยกลิ่นเหม็นเน่ามาแล้วไงครับ

แต่ที่ตอบตกลงกันว่าจะไปทำงานให้เพราะเกรงใจเพื่อนคนชวน และอยากได้เงินกัน



ส่วนตัวผมนั้นยังไม่ตบปากรับคำ ยัง2จิต2ใจ เพราะในช่วงนั้น ผมได้โทรกลับบ้าน

และเคยได้คุยกับคุณพ่อของผม ถึงเรื่องที่ท่าน เพิ่งลาออก

จากการเป็น กกต.จังหวัดแห่งหนึ่ง เหตุผลที่พ่อบอกผมก็คือ พ่อทำงานไม่สะดวก

เพราะกกต.คนอื่นโดนซื้อตัวไปหมดแล้ว ส่วนตัวพ่อผมนั้น ไม่ยอมโดนซื้อครับ

ผมเลยพอรู้ความเลวของพวกนี้อยู่บ้าง ถามว่าตอนนั้นถึงขั้นเกลียดไหม

ไม่ครับ แค่ไม่ชอบ แต่ตอนนี้ บอกตรงๆเกลียดครับ เพราะความเลว โกงกิน

ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ บ่อนทำลายชาติ จ้องล้มล้างสถาบัน



ก่อนที่ผมจะตัดสินจว่าจะแจกใบปลิวไหมนั้น เพื่อนคนอื่นๆก็มาชักจูงว่าไปเหอะไปด้วยกัน

ไอ้คนชวนก็มากดดันว่า ช่วยเพื่อนหน่อยเหอะวะ ไปกันเยอะ กรูได้ทำงานได้ตามเป้า

ที่ได้รับมอบหมาย จากความกดดันอย่างหนัก ผมเลยตัดสินใจถามไอ้คนชวนให้แน่ใจอีกครั้งว่า

แค่เดินแจกใบปลิวหาเสียงนะ ไม่ต้องไปเดินขบวน หรือ ไปเจอพวกคนใหญ่คนโตในพรรค

แล้วเดินตามตูดพวกนั้นใช่ไหม (เพราะว่าผมไม่ต้องการเป็นเครื่องมือทางการเมืองไปมากกว่านี้

แค่แจกใบปลิวก็รู้สึกไม่ดีแล้ว เพราะตอนนั้นผมเริ่มไม่ชอบแม้วแล้ว) คำตอบคือ ใช่

แค่แจกๆๆ แต่ไปตามสถานที่ ที่คนอยู่เยอะๆหลายๆแห่งเท่านั้น แต่ที่สำคัญให้ใส่ชุดนิสิตเต็มยศ

ผู้ชายก็อย่าใส่ยีนต์ ให้ผูกเนคไท ผู้หญิงก็แต่งตัวให้เรียบร้อย อย่านุ่งสั้น เอาให้น่าเชื่อถือ

ประมาณนั้น ผมเลยคิดเออเอาว่ะแค่นี้เอง ไม่ต้องทำไรมาก ผมเลยตัดสินใจไป

เพราะเกรงใจเพื่อนคนที่ชวน และที่สำคัญ บอกตรงๆด้วยความที่ตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่น

และเป็นแค่นิสิต การที่หาเงินด้วยตัวเองได้หลักหมื่นในตอนนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ



วันสองวันแรกที่ผมไป ใช่ครับตามที่เพื่อนคนชวนพูดทุกอย่าง แจกใบปลิวหาเสียง

พวกผมก็แจกจริงบ้าง แอบหย่อนทิ้งถังขยะบ้าง ตอนแจกก็บอกให้เลือกเบอร์อื่นบ้าง

คนรับแจกใบปลิวก็งงๆบ้าง ฮ่าๆ ก็ประมาณนี้หละครับ แต่ในแปลกใจเล็กน้ิอย

คือที่สถานที่ ที่มารวมตัว ก่อนแยกย้ายไปทำงานเนี้ย มันไม่ใช่มีแค่พวกผม

แต่มีนิสิตจาก 3มหาลัย คือ จุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตร ผมมารู้ตอนหลังว่า

อีก2มหาลัยที่นอกเหนือจากพวกผมนั้นก็มีลูกๆหลานๆของคนใกล้ชิดแม้ว

ไปชักชวนมาแบบเดียวกับพวกผมนี้แหละ




งานที่พวกผมทำนั้นมันสบายมากๆครับ ก่อนเริ่มแจกใบปลิวหาเสียง ก็มีอาหารว่าง

ก็พวก ขนม น้ำส้ม การบินไทยบ้าง KFCบ้าง แมคโดนัลบ้าง S&Pบ้าง และไม่ใช่

แค่ให้กินแค่ชิ้นสองชิ้นนะครับ คือจะกินเท่าไรกินเลย ไม่อั้น แถมให้เอากลับบ้าน

หรือไปทานระหว่างแจกใบปลิว ด้วยก็ได้ ทำงานวันละ 3-5 ชั่วโมง อาหารว่าง

วันละ2มื้อ พอแจกเสร็จ ก็พาไปเลี้ยงอาหารดีๆหรูๆก่อน แยกย้ายกลับ

และรายได้ที่ได้รับต่อวัน ก็วันละ 1500-3000 บาท แล้วแต่ชั่วโมง

ทำงานของวันนั้นๆ ส่วนตัวผมก็ดีใจนะครับที่ตอนนั้น วัยขนาดนนั้น

ได้เงินเท่านั้น แถมอาหารการกินชั้นดี แต่อีกใจ เริ่มไม่สบายใจ พอหวนกลับมาคิด

ขนาดเราคนเดียวยังได้เท่านี้ ถ้ารวมๆคนที่มาทำงานทุกคนแล้ว

วันนึงพวกนี้มันเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร ไม่อยากจะคิดเลย เอาแค่พวกนิสิตจาก3มหาลัย

ก็ร่วมๆ100คนต่อวันแล้ว ไหนจะพวกทีมงานของพวกเค้าอีกละ




ไม่อยากจะคิด กับแค่การช่วยหาเสียงเพียงแค่นี้ เสียเงินขนาดนี้

และนี้เป็นเพียงแค่กลุ่มเล็กๆที่พวกเค้ามาจ้างให้ทำงาน หาเสียง

ไหนจะต้องซื้อเสียง ซื้อส.ส. ซื้อกกต. .......................

พวกเค้าจะต้องเสียเงินกันอีกเท่าไรเนี้ย

แล้วถ้าพวกเค้าจะได้กลับไปเป็นนายก และจัดตั้งรัฐบาล

จะเอาคืนขนาดไหน ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ





ผมเริ่มไม่สบายใจครับ แต่ตอนนั้น ที่ยังไปเดินแจกใบปลิวให้พวกเค้าอยู่

คือ เงิน จริงๆครับ ผมยังตัดกิเลสที่อยากจะได้เงินไม่ได้

ตอนนั้นผมจำได้ว่า ผมกลับหอพักไปในวันที่เริ่มเดินแจกใบปลิววันแรก

ผมไม่สบายใจผมเลยโทรไปปรึกษาพ่อ และเล่าให้ท่านฟังทั้งหมด

ว่าไปทำอะไรมาบ้าง ท่านไม่ห้ามผม ที่จะไปทำต่อ

ท่านบอกว่า เรื่องการเมือง เรื่องเลือกตั้ง ลูกจะชอบ จะเลือกใคร พ่อไม่ว่า

มันเป็นสิทธิของลูก แต่ท่านพูดมาประโยคว่า


"ลูกคิดว่า พวกที่ใช้เงิน ซื้อทุกอย่าง เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการบริหารประเทศ มันจะนำพาประเทศไปในทิศทางไหนกันแน่ สักวันลูกจะเห็นด้วยตัวเอง"




ครับในเมื่อพ่อไม่ห้ามผมเลยตัดสินใจที่จะแจกใบปลิว แลกเงินต่อ

เพราะทนกับกิเลสตัวเองไม่ไหว และหลังจากนั้น

ผมจำได้ในวันนั้น พวกผมเลิกเรียนเสร็จก็ได้ไปที่จุดรวมตัว

ก่อนทำงานเหมืิอนเดิม ขณะที่นั่งทานของว่างที่พวกเค้าแจกอยู่นั้น

วันนี้แปลกกว่าวันอื่น เพราะมีพวกทีมงานเค้าเดินมาบอกว่า

วันนี้เราจะไปด้วยกันทั้งหมด(นิสิตทั้ง3มหาลัย) ไม่แยกกันไป

เดียวเราจะขึ้นรถบัสไปกัน ผมเริ่มงงๆ เอ๊ะจะไปไหนกันหว่า





เลยจะหันไปถามไอ้เพื่อนคนที่ชวน แต่มันหายหัวไปไหนไม่รู้

สักพักมันเดินกลับมา พวกผมเลยไปรุมถามรายละเอียด

สรุปก็คือ จะมีคนใหญ่คนโตในพรรค มาเดินหาเสียง

เลยจะให้รวมตัวไปเดินแจกใบปลิวตามหลัง

นั่นไงว่าแล้ว อย่างที่ผมกลัวแต่แรก คือการไปเดิน

ตามตูดพวกนักการเมืองขี้โกงพวกนี้ แต่ผมก็ปล่อย

เลยตามเลยเพราะหลวมตัวมาแล้ว







และแล้วหลังจากที่นั่งรถบัสมาลงที่สถานที่แห่งหนึ่ง

ทีมงานก็ให้ลงมาจัดขบวนต้อนรับ คุณหญิง.......และคณะ

ประชาชนก็แห่มาต้อนรับกันใหญ่ เพราะตรงเขตนั้น

เป็นเขตส.ส.เก่าของพวกเค้า ต่อจากนั้น พวกเค้า

ก็เดินหาเสียง และให้พวกผมเดินตามคอยแจก

ใบปลิวหาเสียง และเสียงที่ผมได้ยินจากโทรโข่ง

ของคนใหญ่คนโตในพรรคประโยคหนึ่ง มีใจความประมาณว่า




"พ่อ แม่ พี่ น้อง นิสิตนักศึกษาเหล่านี้ เป็นนิสิตนักศึกษา จาก จุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตร เต็มใจ อาสามาขอช่วยพวกเราหาเสียง"



ผมก็เลยถึงบางอ้อ ว่าทำไมถึงได้จ้างมาแค่3สถาบัน

(ไม่ได้ยกยอมหาลัยตัวเองว่าดีหรือมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศหรอกนะครับ

แต่ตอนเอ็นทรานซ์ เด็กที่จะเข้า3สถาบันนี้ได้ ต้องมีคะแนนสูงพอสมควร

และในความคิดของผมที่ผมเข้าใจก็คือเหมือนพวกเค้าจะให้ประชาชน

ได้รับรู้ว่า พวกเด็กรุ่นใหม่ที่มีการศึกษา เต็มใจและ อาสามาช่วยพวกเค้า

และอยากให้พวกเค้าได้บริหารประเทศต่อไป)





และหลังจากผมได้ยินประโยคนี้และพอเข้าใจถึงจุดประสงค์ของพวกเค้า

ในความคิดของผม(ผมก็ไม่ทราบว่าที่ผมเข้าใจนั้นมันถูกต้องไหมนะ)

ผมเลยตัดสินใจว่า หลังจากวันนี้ ผมจะไม่มาทำงานนี้ให้พวกเค้าอีก

เพราะผมไม่อยากตกเป็นเครื่องมือแบบนี้ และผมก็ไม่ชอบการหลอกหลวง

ของพวกเค้าที่บอกว่า เต็มใจ และขออาสามาช่วย จริงๆแล้วเต็มใจอะเต็มใจ

เพราะเงินที่พวกเค้าเอามาล่อ แต่ไม่เคยขออาสาเลย แบบนี้มันไม่ถูก เหอๆ




หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้ไปอีกเลย 3วันที่ผมไปทำได้มาน่าจะประมาณ6พันกว่าบาท

ส่วนเพื่อนๆคนอื่นลองถามๆดู พวกที่ทำแต่ต้นจนจบ ก็ได้กัน เป็นหมื่นๆแหละครับ




และนับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผมได้แต่คิดเสียใจที่หลงผิดกับเงินที่พวกเค้ามาล่อใจ

ผมไม่น่าไปหลงร่วมมือกับพวกทำลายชาติบ้านเมืองพวกนี้เลย






ผมเลยย้อนกลับไปคิดถึงคำที่พ่อผมพูดเิอาไว้ ที่บอกว่าสักวันผมจะเห็นเอง

ครับผมเห็นแล้ว ทุกวันนี้บ้านเมืองแตกแยก ประชาชนโดนใช้เป็นบรรไดไปสู่อำนาจ

สถาบันถูกนำมาลบหลู่ เสื้อแดงพวกที่ได้รับเงินหาเรื่องเค้าไปทั่ว เผาบ้านเผาเมือง

ตำรวจหาคนที่เป็นกลางแทบไม่ได้ และต่อไปนี้ประเทศจะย่ำแย่ไปจนถึงเมื่อไหร่กัน





คิดแล้วก็เศร้าๆๆจริงๆประเทศไทย..................................................


#429823 คนไทยเหล่าใดได้อ่านแล้ว...ไม่เข้าถึงหัวใจ...มันก็คงไม่ใช่คนไทย...

โดย wat on 26 กันยายน พ.ศ. 2555 - 21:43

King of the Kings (บทความ ดร.วิษณุ เครืองาม)

ในฐานะที่ทำงานอยู่ในทำเนียบรัฐบาลโดยหน้าที่ต่างๆกันถึง 15 ปี ผมขอยืนยันว่าพระองค์ทรงมีมาตรฐานเดียวโดยตลอด จะต่างกันก็ที่โอกาสเช่น คณะรัฐมนตรีบางคณะเข้ามาในช่วงที่ทรงพระประชวร บางคณะมีราชการงานเมืองต้องเข้าเฝ้าฯ ขอพระราชทานมหากรุณาบ่อยหรือห่างตามเหตุการณ์

ในการมีพระราชดำริ พระราชดำรัส และการทรงงานใดๆ ไม่มีเลยสักเรื่องที่จะแสดงว่าทรงรับเอาประโยชน์ส่วนพระองค์แม้พสกนิกรจะเต็มใจถวาย

สมัย จอมพลถนอมเป็นนายกฯ คราวหนึ่งประจวบโอกาสครองราชย์ครอบ 25 ปี (พ.ศ. 2514) รัฐบาลจะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์และถาวรวัตถุใหญ่โต ที่สุดในประเทศ ถวาย รับสั่งว่า สิ้นเปลืองและไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน สร้างถนนกันรถติดดีกว่า นี่คือที่มาของถนนรัชดาภิเษก

สมัยคุณ บรรหารเป็นนายกฯ เคยกราบบังคมทูลว่า จะสร้างทาวเวอร์หรือหอคอยสูงใหญ่ข้างสะพานพระราม 9 ใช้เป็นหอดูวิว หอโทรคมนาคม และเฉลิมพระเกียรติ รับสั่งว่า เทคโนโลยีสมัยนี้ไม่ต้องสร้างหอโทรคมนาคมและเปลืองเงินเปล่าๆ

นายกฯคนหนึ่งเคยกราบบังคมทูลถามว่า ที่ พระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น ตอนพลบค่ำคนมักมาจุดประทัดแก้บน บางทีก็ยิง ปืนสนั่นหวั่นไหว ดังรบกวนมาถึงสวนจิตรฯ หรือไม่ รับสั่งว่า อยู่ที่หลักการว่าทำอย่างนั้นผิดกฎหมายไหม ถ้าผิดก็ต้องห้าม แต่ถ้าเป็นเสรีภาพก็ต้องปล่อยไป รำคาญหนวกหูก็ต้องทน อย่าใช้มาตรฐานสวนจิตรฯ หรือทำเนียบรัฐบาลมาตัดสิน

สมัยนายกฯทักษิณ เคยกราบบังคมทูลว่าเมื่อประทับรักษาพระองค์ที่วังไกลกังวลอย่างนี้ รัฐบาลจะขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สำนักพระราชวังปรับปรุงวังไกลกังวล ให้สะดวกสบายสมกับที่จะใช้เป็นที่ประทับยาวนาน รวมทั้งจะปรับปรุงโรงพยาบาลหัวหินให้ทันสมัยพร้อมทุกประการ รับสั่งว่า การปรับปรุงโรงพยาบาลเป็นประโยชน์แก่ทุกคนถ้ามีงบก็ควรทำ แต่การปรับปรุงวังไกลกังวลเป็นเรื่องพระสำราญ แค่นี้ก็พออยู่พอเพียงแล้ว

รัฐบาลหลายคณะเคยออกกฎหมายที่มุ่งจะเฉลิมพระเกียรติเช่นมีคำว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช มีพระราชกระแสให้รัฐบาลนำกลับไปปรับปรุงเพราะ ไม่อาจทรงสถาปนาพระองค์เองได้ เช่นเดียวกับที่ใน พ.ศ. 2512 ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย ในร่างพระราชบัญญัติยศทหารซึ่งถวายพระยศ ทางทหารเป็น จอมพล จนร่างพระราชบัญญัตินั้นตกไปเองในที่สุด

รัชกาลนี้ทรงลงพระปรมาภิไธยตรากฎหมายมาแล้ว ทั้งที่เป็นพระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกานับหมื่นฉบับ ทรงวินิจฉัยฎีกานักโทษ ฎีการ้องทุกข์ขอพระราชทานความเป็นธรรมอีกหลายพันราย บางรายขอพระราชทานยืมเงิน บางรายขอความเป็นธรรมเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย

รายหนึ่งพ่อตาย ลูกชายบวชหน้าไฟให้พ่อ อยู่มาก็ไม่ยอมสึก แม่มีลูกชายคนเดียวทำหนังสือถวายฎีกาว่าเดือดร้อนหนัก ขอพระมหากรุณาให้ลูกสึกมาช่วยเลี้ยงแม่เถิด โปรดให้ตรวจสอบแล้วมีพระราชกระแสว่า แท้จริงแม่ไม่ได้อยากให้ลูกสึก แต่ปัญหาคือแม่ลำบากยากจน จึงโปรดให้กรมประชาสงเคราะห์เข้าไปช่วยดูแล สอนอาชีพให้และหาเครื่องมือทำมาหากินไปให้แม่ ลงท้ายแม่ก็ทำมาหากินได้ ส่วนลูกก็อยู่ไปจนเป็นสมภาร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงสงเคราะห์ทั้งส่วนรวมและพระองค์เองเพื่อจะได้มีพระอนามัยดี ทรงงานเพื่อส่วนรวมต่อไป จึงทรงดนตรี ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ ทรงเล่นคอมพิวเตอร์ ทรงฉายภาพ ทรงกีฬา ทรงวาดรูป ปั้นรูป ทรงงานไม้งานช่าง จะทรงจับงานด้านใดก็ทรงทำได้ดี ที่คนไม่ใคร่ทราบคือ ทรงสนพระราชหฤทัยเป็นพิเศษในเรื่องภาษาไทย การศึกษา ระบบสิ่งแวดล้อม การสาธารณสุข และพุทธศาสนา ส่วนที่ทรงพระปรีชาทางดิน น้ำ ระบบระบายน้ำ และการแก้ปัญหาจราจรนั้นเป็นที่ทราบทั่วไปอยู่แล้ว

เมื่อครั้งยังเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผมเคยได้รับพระมหากรุณาพระราชทานคำแนะนำเรื่องการใช้ถ้อยคำภาษาไทยหลายหน ครั้งหนึ่งได้ถวาย รายชื่อ บุคคลให้ทรงแต่งตั้ง รับสั่งถามว่า ตั้งกี่คน ผมกราบบังคมทูลว่าคนเดียว ตรัสว่าคนเดียวเรียกว่า ชื่อ ถ้า รายชื่อ ” ต้องหลายคน อีกคราวหนึ่งมีหนังสือกราบบังคมทูลว่า ทูลเกล้าทูลกระหม่อมมาเพื่อทรงพิจารณา ทรงพระสรวลตรัสว่า ถ้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมก็อยู่บน กระหม่อมยังไม่ถึงฉัน ถ้าจะให้ถึงฉัน ต้องทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายมาเพื่อทรงพิจารณา

ในทางพระพุทธศาสนาก็ปรากฎว่าทรงรอบรู้ทั้งในทางปฎิบัติและปริยัติ ทรงรู้จักพระเป็นอันมาก เมื่อตรัสถึงเหตุการณ์ครั้งใดจะทรงย้อนไปถึงเรื่องราวครั้งเก่าก่อน เช่น ครั้งสมเด็จพระสังฆราชยังเป็นพระญาณวราภรณ์ ” “ ครั้นเจ้าคุณประยุทธยังเป็นพระราชวรมุนี และเคยตรัสเล่าเรื่องราวความเป็นอัคร ศาสนูปถัมภก ว่า ต้องทรงอุปถัมภ์ และคุ้มครองทุกศาสนา โดยไม่เลือกปฎิบัติ ทรงเล่าพระราชทานว่า ครั้งหนึ่งควีนจากประเทศหนึ่งทูลถามว่า พุทธศาสนาไม่มีพระเจ้าแล้วชาวพุทธนับถืออะไรกัน เหตุใดไม่ยกพระพุทธเจ้าเป็น god เสียเลย ได้ทรงตอบว่า พุทธศาสนานับถือ ธรรม เรานับถือธรรมยิ่งกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก เพราะธรรมเป็นเครื่องคุ้มครองโลก และได้ตรัสเล่าต่อไปว่า แม้ศาสนาอื่นก็ยังต้องทรงอุปถัมภ์ ฉะนั้นในฝ่ายพุทธศาสนาขอให้ทุกคนวางใจเถิดว่า จะเป็น เถรวาท มหายาน รามัญนิกาย มหานิกาย ธรรมยุต ก็ต้องทรงคุ้มครองและพระราชทานความเป็นธรรมเสมอกัน

รัชกาลที่ 5 นั้น อะไรที่ไม่เคยมีและไม่มีคนไทยคนใดนึกว่าชีวิตนี้จะมี แต่ก็ทรงบันดาลหรือวางรากฐานให้มีขึ้นเป็นขึ้นทั่วถ้วน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล รถไฟ ไปรษณีย์ เลิกทาส จนคนรุ่นก่อนหน้านั้นต้องคิดว่าเหลือเชื่อ แต่รัชกาลที่ 9 นั้น อะไรที่ควรจะมี ควรจะคิดออก ควรจะทำเป็นนานแล้ว แต่ผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่ใคร่คิดไม่ใคร่ทำ ก็ทรงบันดาลหรือวางรากฐานให้มีให้เป็นขึ้น เช่น เขื่อน ฝาย ประตูระบายน้ำ ถนน สะพาน การสงเคราะห์คนเป็นโรคเรื้อน คนประสบภัยธรรมชาติ การแก้ปัญหาจราจร การเพิ่มผลผลิตการเกษตร การแก้ปัญหาความยากจน ปัญหาพลังงาน

สมัยผมเป็นเลขาธิการ ครม. ต้องทูลเกล้าฯถวายเอกสารใส่ซองขนาดใหญ่สีขาว เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย รับสั่งต่อไป หน้าซองไม่ต้องเขียนเลขที่หนังสือ จะได้หมุนเวียนกลับลงมาใช้หลายหนไม่ต้องทิ้ง แม้แต่เรืองเล็กๆ ก็ควรประหยัด เวลาร่างกฎหมายโปรดให้ถวายปะหน้า 2 แผ่น เผื่อว่าทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วหมึกซึมเลอะ จะได้ประหยัดเวลาไม่ต้องรอถวายใหม่ เวลาตั้งรัฐมนตรีใหม่จะต้องเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฎิญาณ จะตรัสว่าให้รีบมาจะได้รีบไปทำงานไม่ต้องห่วงว่าติดเสาร์อาทิตย์ ประเทศไทยพระเจ้าแผ่นดินไม่มีวันหยุดราชการ

พระมหากรุณาธิคุณปานนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก เจ้าประคุณเอ๋ย!

ปี 2538 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีสวรรคต ลองคิดดูว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงวิปโยคขนาดไหน เสด็จไปทรงสดับพระพิธีธรรมที่พระที่นั่งดุสิตฯ ทุกราตรี แต่ทราบกันบ้างหรือไม่ว่าพอพระสวดจบ เสด็จลงมาประทับที่พระที่นั่งราชกรัณยสภาใกล้ๆกัน พระราชทานคำแนะนำการแก้ปัญหาจราจรแทบทุกคืน

ปี 2553 อยู่ระหว่างประชวรประทับในโรงพยาบาล พระราชกรณียกิจอื่นภายนอกโรงพยาบาลทรงงดเสียเกือบสิ้น แต่การเสด็จไปเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ทอดพระเนตรโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมและเปิดสะพานระบายการจราจรเพื่อพสกนิกรของพระองค์เป็นเรื่องที่ทรงถือเป็นกิจสำคัญ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นยอดแห่งผู้อดทนอดกลั้น ในการประกอบพระราชกรณียกิจนั้นย่อมมีทั้งร้อนทั้งหนาวยาวนานและน่าเหนื่อย หนัก ดูเอาจากการพระราชทานปริญญาบัตรเถิด แม้แต่ที่ต้องทรงอดกลั้นด้วยขันติบารมีในคำจ้วงจาบหรือระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทอีกไม่รู้เท่าไร อย่าลืมว่าพระชนมพรรษา 83 แล้ว ทรงงานมา 64 ปีแล้ว


ดะไลลามะเคยพูดว่า ใครอย่ามาชมตัวท่านเลยว่าเป็นยอดคน ไปดูที่พระเจ้าแผ่นดินเมืองไทยเถิด

ผมเคยไปเฝ้าฯ เจ้าชายจิกมี กษัตริย์หนุ่มแห่งภูฎาน ตรัสว่า กษัตริย์ของท่านเป็นแบบอย่างของข้าพเจ้าในการจะครองราชย์ให้คนรัก

สุลต่านบรูไนที่เป็นผู้แทนกษัตริย์ 25 ประเทศ ถวายพระพรในคราวฉลองการครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี เมื่อ พ.ศ. 2549 เคยทูลว่าการครองราชย์นานถึง 60 ปีเป็นเพียงตัวเลข สำคัญอยู่ที่ว่า 60 ปีนั้นได้ทำอะไรเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ฝ่าพระบาททรงทำทุกอย่างตลอด 60 ปี ให้เป็นประโยชน์ต่อชาวไทย ชาวเอเซีย และชาวโลก วาระนี้จึงทรงเป็นความภาคภูมิใจของบรรดาพระราชามหากษัตริย์ทั้งปวงโดยทั่วกัน

เมื่อวันเฉลิมพระชนมพรรษาปี 2552 มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า ความสุขความสวัสดีของพระองค์จะมีได้ก็ด้วยการที่บ้านเมืองมีความเรียบร้อย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์นี้มีแต่ทรงให้พวกเรามาตลอด แต่พระราชดำรัสนี้มีนัยเป็นทั้งสิ่งที่ ทรงหวัง ” “ ทรงบอกให้รู้ และ ทรงขอ ซึ่งน่าจะทรงประสงค์ยิ่งกว่าคำถวายพระพร ทรงพระเจริญ ไหนว่า ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดังหวังวรหฤทัย แล้วเรื่องอย่างนี้เราคนไทยจะพร้อมใจกันจัดถวายได้ไหมครับ

:mellow: อ่านกี่ครั้งก็ซึ้งถึงพระบารมีปกเกล้า ปกกระหม่อม...


#431756 ไม่เอาเขา หรือ ไม่มีใครเขาเอา

โดย พระฤๅษี on 28 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:45

เป็นปกติของมนุษย์ เจอเรือ มันก็ถีบขอนไม้

เจอขอนไม้ มันก็ปล่อยฟางเส้นเล็ก ๆ เจอฟาง
เส้นเล็ก ๆ มันก็บอกว่าดีกว่า..ลอยคอไร้จุดหมาย
ไอ้พวกแสวงหา มันก็แค่ หาหลักเกาะไปเรื่อย ๆ
หลักไหนมั่นคง มันก็โผเข้าหาไว้ก่อน คนแบบนี้
เกิดมาเสียศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ......



#431861 เกียรติตะกวดของไทย เกลียดวินัยใจหมามั่นคง.....

โดย yenmanovic on 28 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:19

Posted Image


#430496 จำคุกตู๋ 6 เดือน

โดย คนกรุงธน on 27 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:55

รอลงอาญาตลอด
ไม่เข้าใจเรือ่งการรอลงอาญาเลย
รอลงอาญาคดีนั้น แล้วมารอลงอาญาคดีนี้อีก
มีคดีความเยอะแยะ ทุกคดีรอลงอาญาหมดเลยหรอไงนะ งง
แล้วเมื่อไหร่จะติดคุก

ใจเย็นๆ ต้องเข้าใจก่อนครับ...ต้องดูวันที่เกิดเหตุกระทำความผิด...สมมุติ
เกิดเหตุครั้งที่ 1 วันที่ 1 ม.ค.53
เกิดเหตุครั้งที่ 2 วันที่ 1 ก.พ.53
เกิดเหตุครั้งที่ 3 วันที่ 1 มี.ค.53

สมมุติคดีสิ้นสุดแล้วทุกๆศาล
ศาลตัดสินคดีที่ี1 วันที่ 20 ก.ย.55 คุก6ด.ปรับ 5หมื่น รออาญา 2ปี
ศาลตัดสินคดีที่ี2 วันที่ 21 ก.ย.55 คุก6ด.ปรับ 5หมื่น รออาญา 2ปี
ศาลตัดสินคดีที่ี3 วันที่ 22 ก.ย.55 คุก6ด.ปรับ 5หมื่น รออาญา 2ปี

คือนับจากวันตัดสินคดีที่คดีสิ้นสุดแล้ว ถ้าคดีไหนสิ้นสุดแล้ว ก็เริ่มนับวันรอลงอาญา
..คือ..
ศาลตัดสินคดีที่ี1 วันที่ 20 ก.ย.55 คุก6ด.ปรับ 5หมื่น รออาญา 2ปี
ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.55 ถึง 19 ก.ย.57 คือภายใน 2ปีนี้ ไอ้ตู่ห้ามทำความผิดข้อหานี้อีกไม่ว่าจะกับใครนะ จะไม่รอลงอาญาแล้วครับ

ศาลตัดสินคดีที่ี2 วันที่ 21 ก.ย.55 คุก6ด.ปรับ 5หมื่น รออาญา 2ปี
ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.55 ถึง 20 ก.ย.57 คือภายใน 2ปีนี้ ไอ้ตู่ห้ามทำความผิดข้อหานี้อีก

เห็นมั๊ยครับ คดีที่2 กับคดีที่3 วันที่เกิดเหตุ มันอยู่นอกเวลาที่รอลงอาญาครับ
แล้วก็จะเรียงกับแบบนี้ทุกคดีครับ


#429105 ทั้งชีวิตเราสะตอบอแหล เพื่อ.. เราชาว กทม.

โดย พระฤๅษี on 26 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:53

เราคน กทม. หลายสิบปี ตั้งแต่ยังไม่มีหนวด จนหนวดหงอก ก็รู้เห็น ติดตามมา
ตลอด พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไอ้การที่จะไปว่าเขา..เอ๋อ..ดัมมี่..อะไรนั่นก็ดูจะหยาบ

ไปหน่อย ถ้าคุณเป็นคน.กทม. ก็จะรู้ความจริงว่ามันมีปัญหาอะไร เดือนกันยา.นี้-

บ้านเราท่วมไปแล้ว 5 ครั้ง(พหลโยธินซอย 8)ทำไมเราจะไม่ติดตามข้อเท็จจริง
ไม่มีใครหรอกที่อยากให้..น้ำท่วมบ้าน แต่เมื่อได้รู้ข้อที่ติดขัดแล้ว ใครกันแน่ที่ควร

โดน ประนาม หาคนบัดซบคนนี้ไม่ยากหรอก เรื่องนี้คน กทม. เขาดูดี อย่าพูดอีก
เลยนะ มันไม่น่าฟัง สำหรับคนที่รู้ความจริง......


#393922 /////////// พรรคแมงสาป พิจารณา สส. ศิริโชค ด้วยนะ

โดย hentai on 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:05

แม้ว่าผมจะไม่นิยมคน ดริฟตกเขาแบบ หริโชค...
http://drama-addict..../31/สส-โชว์เมพ/

แต่งานนี้... ผมเห็นด้วยกับ เค้านะครับ ที่ใช้ตำแหน่งประกันแม่...


#393697 Test ตั้งกระทู้หน่อยครับ อิอิ

โดย TFEX on 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 11:27

ผมโดนเพราะไปตั้งกระทู้เรื่อง

"ทำไมก่อนมีทักษิณและเสื้อแดง ไม่เห็นมีใครเดือดร้อนเพราะม.112เลย ว่ามั้ยครับ?"


#393658 Test ตั้งกระทู้หน่อยครับ อิอิ

โดย yvrhere on 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 11:06

หวัดดีครับทุกท่าน

ในห้อง รดน ทุกวันนี้คือพวกแดงจัดตั้ง (ไพร่ ไซเบอร์) เท่านั้น มีเป็นชุดๆ แบ่งหน้าที่กันบิดเบือนข่าว
มีแบ่งเป็น

แดงกะลา ด่าอย่างเดียว จะมาเป็นฝูง ไม่อ่านทู้ ชอบด่าตามเพื่อน เรื่องอะไรข้าไม่สน
แดงบิดเบือนข้อมูล อาศัยตัดแปะข่าวที่ ดูดี กับฝ่าย รบ เอามาหลอกลวงผู้คน
แดงจริยธรรมสูง จะคอยตำหนิ ว่า คนที่ด่าเสื้อแดงและeปู แต่มองไม่เห็นความหยาบคายของ ไพร่แดง
แดงไล่จิก พวกนี้ อาศัยตัดแปะข้อมูลเพื่อ ทำลาย login ฝ่ายตรงข้าม เช่น ตั้งทู้เรียก หาเรื่องไปเรื่ิอย
แดงหน้าตัวเมีย ชอบรุมว่าผู้หญิง หาเรื่องจิกด่า ไม่ดูบริบทรวม (อาจจะโง่จริง ก็ได้ ถึงไม่รู้เรื่อง)

แดงทั้งหมดนี้ รวมอยู่เป็นฝูง หมาบ้า ไล่กัด คนที่เห็นต่างทุกคน...


ลองสังเกตุ ดูได้นะครับ เหลือแต่ login เน่าๆ คอยไล่คนอื่นที่เอาความจริงมาเปิดเผย



#386244 คลิปเสียงนายสุนัย ต่อจากเมื่อวาน

โดย TFEX on 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:12

*เอาประโยคนี้ไปเพิ่มไว้ในเนื้อเรื่องแล้วครับ*

เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ นายสุนัยได้อภิปรายในสภาโดยขอร้องให้พรรคฝ่ายค้านเลิกพูดจาสร้างความแตกแยก เพราะประเทศชาติบอบช้ำมามากพอแล้ว และต้องการการปรองดอง แต่พอลับหลัง นายสุนัยกลับยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนเกลียดชังฝ่ายตรงข้ามทักษิณมากขึ้น