Jump to content


Messenger

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 28 สิงหาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2556 19:13
-----

#982579 คิดยังไงกับคลิปปล้นรถตำรวจ

โดย Messenger on 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 19:13

คริปนี้มีข้อสังเกตที่น่าสนใจดังนี้ครับ

 

1.ให้สังเกต คนที่อยู่ในคริปที่สวมผ้ากันเปื้อนดีๆครับ ซึ่งตอนแรกพยามจะเปิดประตูรถด้านข้างแต่เปิดไม่ออก

2. สักพักเดินอ้อมไป (ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่่าหายเข้ารถไปในอีกฝั่งของประตูรถ ฝั่งด้านคนขับ)

3.สักพักก็มีการเปิดประตูตรงข้ามกับคนขับ และโยนของลงมา

 

--> ถ้าดูดีๆจะเห็นว่ายังไม่มีใครขึ้นไปบนรถเลย ถ้าไม่มีกุญแจจะเปิดทางคนขับและโยนของลงมายังไง

แล้วถ้าเป็นการขโมยของรถที่ไม่ได้ล็อก แล้วจะทุบรถ โยนของลงมาทำใม เปิดประตูและเอาลงมาธรรมดาก็ได้

หรือ คนที่ใส่ผ้ากันเปือนก็หายตัวเข้าไปในรถได้

 

แสดงว่ามีพิรุธครับแบบนี้ ลองพิจารณาดูละกันนะครับ

 

http://www.youtube.c...d&v=j005Ub3s_dA




#656507 นี่มันคำสอนศาสนาอะไร ถ้าศาสนาพุทธผมขอเปลี่ยนศาสนา

โดย Messenger on 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 17:03

รายละเอียดที่บุคคลควรทราบเกี่ยวกับเรื่องกรรม ที่พระศาสดาของเราบัญญัติไว้มีดังนี้ 

 

ข้อมูลจาก http://download.watn...05_20120913.pdf เรื่่อง พุทธวจน แก้กรรม ? โดยตถาคต

 

"ภิกษุทั้งหลาย !

กรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
นิทานสัมภวะแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
เวมัตตตาแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
วิบากแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
กัมมนิโรธ เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ ....
คำที่เรากล่าวแล้วดังนี้นั้น
เราอาศัยอะไรกล่าวเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย !
เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม เพราะว่าบุคคล
เจตนาแล้ว ย่อมกระทำซึ่งกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ.
 
ภิกษุทั้งหลาย ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด
พร้อม) แห่งกรรมทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! นิทานสัมภวะแห่งกรรมทั้งหลาย
คือ ผัสสะ.
ภิกษุทั้งหลาย ! เวมัตตตา (ความมีประมาณต่างๆ)
แห่งกรรมทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนา
ในนรก มีอยู่, กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในกำเนิด
****** มีอยู่, กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในเปรตวิสัย
มีอยู่, กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในมนุษย์โลก มีอยู่,
กรรมที่ทำสัตว์ให้เสวยเวทนาในเทวโลก มีอยู่. ภิกษุทั้งหลาย !
นี้เรากล่าวว่า เวมัตตตาแห่งกรรมทั้งหลาย.
 
ภิกษุทั้งหลาย ! วิบาก (ผลแห่งการกระทำ) แห่ง
กรรมทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าววิบากแห่งกรรมทั้งหลาย
ว่ามีอยู่ ๓ อย่าง คือ วิบากในทิฏฐธรรม (คือทันควัน)
หรือว่า วิบากในอุปปัชชะ (คือในเวลาต่อมา) หรือว่า วิบาก
ในอปรปริยายะ (คือในเวลาต่อมาอีก). ภิกษุทั้งหลาย !
นี้เรากล่าวว่า วิบากแห่งกรรมทั้งหลาย.
 
ภิกษุทั้งหลาย ! กัมมนิโรธ (ความดับไม่เหลือ
แห่งกรรม) เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! ความดับแห่งกรรมทั้งหลาย
ย่อมมีเพราะความดับแห่งผัสสะ.
ภิกษุทั้งหลาย ! กัม ม นิโ ร ธ ค า มินีป ฏิป ท า
(ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งกรรม) เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! อริยอัฏฐังคิกมรรค (อริยมรรค
มีองค์แปด) นี้นั่นเอง คือ กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา;
ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ :-
สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)
สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ)
สัมมาวาจา (การพูดจาชอบ)
สัมมากัมมันตะ (การทำการงานชอบ)
สัมมาอาชีวะ (การเลี้ยงชีวิตชอบ)
สัมมาวายามะ (ความพากเพียรชอบ)
สัมมาสติ (ความระลึกชอบ)
สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ).
 
ภิกษุทั้งหลาย !
เมื่อใดอริยสาวก ย่อมรู้ชัดซึ่ง กรรม อย่างนี้,
รู้ชัดซึ่ง นิทานสัมภวะแห่งกรรม อย่างนี้,
รู้ชัดซึ่ง เวมัตตตาแห่งกรรม อย่างนี้,
รู้ชัดซึ่ง วิบากแห่งกรรม อย่างนี้,
รู้ชัดซึ่ง กัมมนิโรธ อย่างนี้,
รู้ชัดซึ่ง กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา อย่างนี้;
อริยสาวกนั้น ย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้ว่า
เป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส เป็นที่ดับไม่เหลือแห่งกรรม.
ภิกษุทั้งหลาย ! ข้อที่เรากล่าวแล้วว่า
“กรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
นิทานสัมภวะแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
เวมัตตตาแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
วิบากแห่งกรรม เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
กัมมนิโรธ เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ,
กัมมนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นสิ่งที่บุคคลควรทราบ”
ดังนี้นั้น เราอาศัยความข้อนี้กล่าวแล้ว.
ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๕๘,๔๖๓-๔๖๔/๓๓๔.



#615544 'ดีเอสไอ'สรุปผลสอบซีซีทีวีกทม.ไม่พบผิดฮั้วประมูล

โดย Messenger on 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 20:40

ระวัง กทม. จะฟ้องเอานะครับ เฮาซิ่งราคา แปดพัน ไปใส่ร้ายว่าเป็น แปดหมื่นอ้ะครับ

 

นี่ตัวอย่างสัญญา ดูจาก Link คงไม่คิดว่าเอาข้อมูลปลอมมาหลอกกัน

ถ้าเพื่อนๆ ชาว เสรีไทย ฟัง หรือทราบข้อมูลอะไรมา อย่าเพิ่ง เชื่อครับ ลองหาข้อมูลเพิ่มสักนิด จะได้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงครับ

 

http://www.matichon....9&subcatid=1904




#586794 วานสมาชิก สรท. ญี่ปุ่นเช็คข่าว "ทักกี้" รับเชิญจากองค์การส่งเสริมหุ้น...

โดย Messenger on 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 21:21

อืม จากที่เห็นเป็นการสัมมนาครั้งที่ 1 ที่น่าสังเกตคือมีการบรรยายจากคนของสถานทูตไทยด้วย (น่าจะชื่อคุณ ธนาเทพ) ส่วนหัวข้อที่น่าสนใจคือ

日タイ経済連携によるミャンマー ダウェイ開発について ซึ่งเป็นเรื่องความร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่น กับการพัฒนาทวายของพม่า สำคัญนะนั่น  เมืองทวายจำไม่ได้ละว่าจะมีโครงการอะไร ที่ไทยมีส่วนร่วมด้วย




#328614 ...ย้อนคำวินิจฉัยอัยการสูงสุด - แก้รธน.ไม่ขัด "ม.68"...

โดย Messenger on 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 08:53

ขอแทรกความคิดเห็นสักเล็กน้อย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อกระทู้โดยตรง แต่มีเพื่อนสมาชิกบางท่านได้กล่าวถึง บัวสี่เหล่าบ้าง ยกเรื่องโอวาทของพระอาจารย์ท่านนั้นบ้าง ซึ่งเข้าใจว่าเพื่อนสมาชิกเหล่านั้นคงสนใจในธรรมะบ้างไม่มากก็น้อย แต่ขอให้ทราบว่าคำเหล่านั้น เป็นสิ่งทีแต่งขึ้นใหม่ พระผู้มีพระภาคเจ้าให้เราฟังแต่คำของพระองค์เท่านั้น อย่าฟังคำที่แต่งขึ้นใหม่ ทั้งนี้ เรื่องบัวสี่เหล่านั้นก็เป็นคำที่แต่งขึ้นใหม่ ที่จริงมีเพียง 3 เหล่า พ้นน้ำ เสมอน้ำ ใต้น้ำ เท่านั้น ซึ่งจากพระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ(ภาษาไทย) เล่มที่ 4 หน้าที่ 11 ได้กล่าวไว้ดังนี้
" [๙] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาค ทรงกราบคำทูลอาราธนาของพรหม และทรงอาศัย
ความกรุณาในหมู่สัตว์ จึงทรงตรวจดูสัตวโลกด้วยพุทธจักษุ เมื่อตรวจดูสัตว์โลกด้วยพุทธจักษุ
ได้ทรงเห็นสัตว์ทั้งหลายที่มีธุลีคือกิเลสในจักษุน้อยก็มี ที่มีธุลีคือกิเลสในจักษุมากก็มี ที่มีอินทรีย์
แก่กล้าก็มี ที่มีอินทรีย์อ่อนก็มี ที่มีอาการดีก็มี ที่มีอาการทรามก็มี ที่จะสอนให้รู้ได้ง่ายก็มี
ที่จะสอนให้รู้ได้ยากก็มี ที่มีปกติเห็นปรโลกและโทษโดยความเป็นภัยอยู่ก็มี.
มีอุปมาเหมือนดอกอุบลในกออุบล ดอกปทุมในกอปทุม หรือดอกบุณฑริกในกอบุณฑริก
ที่เกิดแล้วในน้ำ เจริญแล้วในน้ำ งอกงามแล้วในน้ำ บางเหล่ายังจมในน้ำ อันน้ำเลี้ยงไว้
บางเหล่าตั้งอยู่เสมอน้ำ บางเหล่าตั้งอยู่พ้นน้ำ อันน้ำไม่ติดแล้ว."
ก็ขอให้เข้าใจตรงกัน และช่วยกันนำคำของพระผู้มีพระภาคเจ้าไปเผยแพร่ต่อๆกันไปด้วยครับ
ซึ่งถ้าใครสนใจขอให้สามารถ PM มาถามผมได้ครับ เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนสมาชิกท่านอื่น