ผมว่าความคิดของพวกสลิ่มที่คิดจะใช้ประโยชน์จากรัฐประหาร เพื่อนำพาการปฎิรูป ....ทั้งที่ทั้งโลก และหนังสือ ตำราต่างๆ ต่างก็สอนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นสิ่งชั่วร้าย มันล้ำไปเกินกว่าคนธรรมดาจะทำความเข้าใจได้แล้วล่ะครับ จอร์นก็แค่ 1 ในคนธรรมดาคนนึงที่ยังไม่เข้าใจแนวความคิดล้ำๆ แบบนี้ครับ แฉกเช่นเดียวกับคนกลางบ้องแบ๊วทั้งหลาย ที่พูดไม่ออก บอกไม่ถูกกับรัฐประหารวันนี้ล่ะครับ ...........
นี่ผมชมจริงๆนะ ไม่ได้ประชด
อ่านหงสา แล้วนึกถึง ประโยคเด็ดของ 3 หนุ่มบอยด์แบน " หากท่านอาจารย์สุมาเตกโช เข้ามารับรู้ในสิ่งที่พวกเราคิดและจะกระทำ รับรองเรยว่าจะต้อง อกแตกตายแน่นวล "
รัฐประหาร เป็นสิ่งชั่วร้าย??? ค่อนข้างประหลาดใจนะครับที่มีตำราเล่มไหนสามารถสรุปแบบนั้น แล้วเมื่อปี 2475 ก็ถือเป็นสิ่งชั่วร้ายในตำราพวกนั้นด้วยหรือเปล่าครับ??
ถ้าลองใช้เวลาดูการเมืองไทยไปนานๆกว่านี้ซักหลายๆปี โดยไม่ใช้อคติก็จะเข้าใจครับ มันไม่ใช่เรื่องล้ำๆอะไร มันเป็นเรื่องที่คุณมีตัวเลือก 2 อย่าง ระหว่าง ก.เผด็จการที่ใช้เงิน และมีเป้าหมายอยู่เพื่อผลประโยชน์ของตนเองอย่างถาวร กับ ข.เผด็จการที่ใช้ทหารที่อยู่ชั่วคราว ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง
ต้องไม่มีอคติ เปิดใจรับข้อมูลตามความเป็นจริงด้วยนะครับ ถ้าพวกแค้นฝังหุ่นแบบหงอกเจียม กี่ปีๆ ก็ไม่มีประโยชน์ครับ
อันนี้ก็แนะนำด้วยความจริงใจเช่นกัน ไม่ได้มาหลอกด่า หลอกแขวะอะไรนะครับ
ล้ำไม่ล้ำ ตอนลุงกำนันประกาศจะตั้งนายกคนกลาง เพื่อนพ้อง พี่น้องที่ต้านระบอบทักษิณมาด้วยกัน จำนวนนึงถอยกรูดแทบไม่ทัน เลือกที่จะดูอยู่เฉยๆ
พอล้ำเส้นมาเป็นรัฐประหาร เพื่อนพ้อง พี่น้องอีกจำนวนนึงก็ กระอักกระอ่วน พูดไม่ออก เกิดใบ้แดรกไม่กล้าเถียงเสื้อแดงอีกต่อไป
อ. บางคนเริ่มพูดจาแปลกๆ บางคนเริ่มแขวะ บางคนไม่เห็นด้วยจนแทบจะย้ายข้างเอาดื้อๆ แบบ อี้ แทนคุณ ไปเลย..........
ที่เหลืออยู่ ก็พวกแฟนพันธุ์แท้ที่ไม่ว่าจะคิดอะไรอยู่ ก็ต้องตะแบง เดินหน้า เชื่อผู้นำไม่มีถอย กับไอ้พวกฉลาดเป็นกรด ความคิดล้ำและอ่านเกมบางอย่างไว้
(แต่ไม่รู้จะถูกรึเปล่าว)
ยืนยัันอีกครั้ง ชมด้วยความจริงใจจริงๆ แม้มันจะดูเหมือนประชด
มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอครับ (ที่ว่ามีคนออกอาการกระอักกระอ่วน ฯลฯ) พอดีไม่ได้ติดตามใกล้ชิด (มีช่วงนึงแอบหนีไปเที่ยว ตปท มา) ผมคิดว่าคนเหล่านั้นเป็นผลผลิตของระบบการศึกษาไทยที่เวลาสอนประชาธิปไตย ก็จะให้เลือกตั้งหัวหน้าห้อง เลือกตั้งประธานนักเรียน จนคนท่องจำว่า เลือกตั้ง = ประชาธิปไตย , ระบบอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย = สิ่งชั่วร้าย แต่ รัฐประหาร = สิ่งชั่วร้าย อันนี้ยังไม่เคยประสบด้วยตนเอง เห็นแต่มีความพยายามสร้างค่านิยมในสื่อ คิดว่าพวกที่เรียนสื่อมาคงจะมีตำราแบบนั้นจริงๆ การศึกษาที่รับอิทธิพลจากโลกตะวันตกแบบเต็มๆโดยไม่ดูสภาพความเป็นจริงของสังคมแบบนี้ทำให้คนเป็นเหมือนหุ่นยนต์ ไม่สามารถปรับเปลี่ยนความคิดให้ตรงกับความเป็นจริงได้ บางครั้งพวกที่ยึดติดตำราพวกนี้ก็เหมือนพวกหัวเก่าที่ยึดติดกับบางสิ่งบางอย่างที่ apply ไม่ได้กับความเป็นจริงในปัจจุบัน
ยกตัวอย่างง่ายๆ ทหารเซ็นเซอร์สื่อ อันนี้ตำราเค้าคงเขียนไว้ว่าเลวร้าย แต่เรื่องการใช้เงินเข้าครอบงำสื่อ อันนี้ตำราตามไม่ทัน ในโลกตะวันตกเค้าก็ไม่มี ดังนั้นจะเห็นว่าไม่ค่อยมีปฏิกิริยาอะไรจากโลกตะวันตก หรือแม้แต่นักสื่อสารมวลชนด้วยกัน หรือถึงมี ก็อยู่ในระดับที่อ่อนมาก เทียบไม่ได้กับการเซ็นเซอร์โดยทหาร คุณจะเห็นได้ถึงอาการ "ตามไม่ทัน" ของพวกนักตำราทั้งหลาย หรือ ผมอยากเรียกว่าพวก "หุ่นยนต์" มากกว่า
การรัฐประหารเพื่อนำไปสู่การปฏิรูป อาจไม่ได้ผลก็ได้ ถ้าผู้ทำรัฐประหาร และผู้ที่เข้าไปมีส่วนร่วม ไม่ได้เข้าใจรากของปัญหาที่แท้จริงของสังคมไทย เหมือนครั้งปี 49 ผมก็ทำใจเผื่อไว้แล้ว แต่ไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ "การรัฐประหาร" มันก็เป็นผลที่ตามมาจาก "การเลือกตั้ง" ที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนฐานของประชาธิปไตยที่แท้จริงอยู่แล้ว อย่างไงมันก็ต้องเกิด ถ้าคราวนี้ดันทุรังเลือกตั้งแบบผิดๆต่อไป ในอนาคตก็ต้องมีรัฐประหารเกิดขึ้นอีก มันเหมือนการปรับตัวของธรรมชาติ คุณตัดไม้ทำลายป่า สุดท้ายก็ต้องเจอน้ำท่วม ฉันใดก็ฉันนั้น
- angelaomaim, อู๋ ฮานามิ, annykun and 4 others like this