แล้วประชาชนจะได้มีอำนาจต่อรอง เรียกร้องในสิ่งต้องการ
ประเด็นนี้น่าสนใจ ขอเรียนถามคุณกรกช อำนาจต่อรองที่ว่า คืออะไรครับ?
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ
ปล. แฟท ดูไว้พี่เค้าไว้เปนะน้อง
อำนาจต่อรองก็น่าจะหมายถึงความมีเอกภาพของประชาชน
เมื่อกลไกต่างๆของการบริหารบ้านเมืองไม่สามารถเดินต่อไปได้ ก็ต้องฟังเสียงจากประชาชน
เพราะการเมือง คือ เรื่องการบริหารบ้านเมือง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
ราชการ นักการเมือง คือ ลูกจ้างประชาชน
ไปถึงทางตัน แล้วต้องฟังเสียงประชน ยังไงครับ?
เอกภาพแสดงออกมาว่า เออ ผมไม่ชอบใครทั้งนั้น โกงเหมือนกันหมด แต่สุดท้ายคุณก็ต้องอยู่ภายใต้อยู่ในกรอบที่ไอ้คนโกง ที่ถูกเลือกโดยคนโกงสร้างไว้อยู่ดี
เอกภาพนี้มีค่าอะไร แล้วเอาไปทำอะไรต่อได้?
มันไม่มีทางไปต่อที่เป็นรูปธรรมเลย แล้วทางเสื้อแดงเขาไม่ได้อ้างแบบนี้เหรอครับ?
ประชาธิปไตยต้องฟังเสียงประชาชน ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ต่างกันมั้ย?
สมมุติว่า เมื่อถึงจุดนั้นจริงๆ ทุกอย่างถึงทางตัน เราควรจะฟังเสียงประชาชนข้างไหน? แล้วเอาอะไรตัดสิน ถ้าเขาบอกว่าต้องฟัง 15 ล้านเสียง คุณจะว่าไง
สุดท้าย ผมก็เห็นว่า มัีนก็แค่สร้างเงือนไขให้ปฏิวัติ เพื่อหานายกคนนอก ใครก็ได้ที่ยังไม่รู้เลยว่าใคร มาเป็น หรือไม่ก็โยงขึ้นไปให้ถึงข้างบน
มีแค่นี้จริงๆ แนวทางของ พธม.น่ะ
ในสถานการณ์ีที่ว่า ยังไงพวกเสื้อแดงก็ต้องเลือก พท. อยู่แล้ว และ พธม. เองก็สร้างศัตรูไปทั่ว สูญเสียมวลชนและความน่าเชื่อถือ
มันไม่มีทางเลยที่โหวตจะช่วยอะไรได้ แค่จะให้ได้สักครึ่งของเป้ายังยากเลย
แล้วมันมีค่าอะไร?
เมื่อเทียบกับการเลือกใครสักคน อาจจะเป็น กมม. เพื่อฟ้าดิน ก็ได้ ถ้าคุณไม่ชอบ ปชป. เอาเข้าไปเพื่อลดทอนเสียงสัดส่วนของ รัฐบาล ยังจะมีค่ากว่า
ได้ติดตามความไม่โปร่งใส ได้เป็นปากเป็นเสียง คัดค้านในสภา ฯลฯ ไม่ได้น้ำได้เนื้อกว่าหรืออย่างไร
แน่ละ ยังไงเสียงก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่มันคือการเริ่มต้น วันนี้คงได้แค่ 1-4 คน ไม่เป็นไร คุณทำงานสิ ใ้ห้คนทั้งประเทศได้เห็น ให้คนได้รู้จัก
คราาวหน้า คุณอาจจะได้มากขึ้น มากขึ้น เอาน้ำดีไปไล่น้ำเสียออก ไม่เป็นแนวทางที่มีทางไปอย่างที่ถูกที่ควรมากกว่าหรือ?
การชุมนุม มันก็มีผลสำเร็จของการเรียกร้องเท่าที่มันจะทำได้ที่มันจำกัด แต่ความเสียหายนั้นมากยิ่งกว่าผลที่ได้รับหลายเท่านัก
ดูอย่างเสื้อแดงสิ เผาบ้านเผาเมือง สร้างความฉิบหาย ไปเท่าไหร่ การชุมนุมนั้นสามารถเปลีย่นแปลงระบบได้หรือ ไม่ได้เลย
สุดท้ายฝ่ายที่ทำให้เกิดการเปลี่ยน ก็คือคนในระบบ ที่ยอมจะลาออกก่อนวาระ 1 ปีและให้เลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่หรือ?
การเปลี่ยนแปลงระบบ มันเปลี่ยนไม่ได้หรอกครับ ถ้าคุณยังอยู่้ข้างนอก ข้างถนน นอกกรอบ นอกระบบ
เพราะการเปลี่ยนแปลงอะไร มันทำกันในสภาโน่น ในระบบ ในระบอบ ผมถึงมองว่า คุณอยู่ข้างนอก คุณวิจารณ์นักเตะห่วย ด่าบรรบุรุษ ขุดเรื่องฉาวของนักเตะขึ้นมา มันไม่ได้ทำให้นักเตะมันเตะเก่งขึ้นหรอก แต่ถ้าคุณมีความสามารถ ไปสมัครเป็นโค๊ช และเมื่อคุณได้ คุณก็เปลี่ยนสิ เปลี่ยนตารางซ้อม ฯลฯ มันจะไม่ดูเป็นไปได้มากกว่าหรือ
ก็อาจะเป็นแนวทางที่แตกต่างกัน ถือว่าแลกเปลี่ยนความเห็นกันก็แล้วกันนะครับ
ขอบคุณที่ชี้แจงตรรกะโหวตโนให้ผมได้ทราบครับ
2 บรรทัดสุดท้าย แค่ทฤษฏี ที่ไม่เคยเกิดขึ้น และไม่ม่วันที่จะเกิดขึ้นจริง ผมขอไม่พูดถึงละกัน