แค่นั้น.
→ ขนาดเป็นนายกฯ ยังไม่มีอำนาจเต็มที่เลย แล้วเป็นแค่รองนายกฯ จะไปทำอะไรได้มาก ทำความเข้าใจกับ
โครงสร้างการปกครองของไทยเสียใหม่ แล้วคุณจะเห็นอะไรดีๆอีกเยอะ
คุม สว. ทั้งสภา คุมองค์กรอิสระ คุมตำรวจ บอกได้ไม่มีอำนาจเต็มที่
ออกกฎหมายไม่ให้ตัวเองเสียภาษีก็ได้ บอกได้ไม่มีอำนาจเต็มที่
ออกจะเอาเปรียบชาวบ้านเขาทุกช่องทาง ลูกๆได้สัมปทานรัฐไปรับประทานง่ายๆ
บอกได้ไม่มีอำนาจเต็มที่
ตัวคุณเองนั่นแหละหัดมองอะไรซะใหม่แล้วกัน
คิดว่าตัวเองเป็นคนตาสว่างแล้วหรืออยู่ในกะลา
ถ้ายังมีความรัก หลง อย่าคิดว่าจะเปิดกะลาได้
ไอ้แม้วมันดีแต่โม้
ผมบอกแล้วว่า ให้ไปศึกษาโครงสร้างการปกครองเสียใหม่ แล้วคุณจะเข้าใจ
ไอ้คุมสว. องค์กรอิสระ คุมตำรวจที่คุณว่ามามันคือ "ข้อกล่าวหา" คุณเข้าใจหรือเปล่า ?
แม้แต่ยุคนายอภิสิทธิ์ คุณเคยสงสัยหรือเปล่าว่า ทำไมถึงกว่าจะแต่งตั้งผบ.ตร.ได้ถึงได้ใช้เวลานานนัก
อ่านเฉพาะคำที่ขีดเส้นไต้ คุณก้จะเข้าใจ
สงสัยจะยังเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่เคยสัมผัสบรรยากาศ ณ ตอนนั้น ประสบการณ์ยังอ่อนวัยไรเดียงสา(โง่)รู้จักสามหนาหรือไม่ส.ว.ชุดใหญ่รับเงินถ้ายกมือผ่านกฎหมาย รับเงินที่โรงแรมแห่งหนึ่งตำรวจพานักเลงมากระทืบคนที่ต่อต้านไอ้แม้วคุกคามนักข่าวถ้าไม่รู้ว่าสมัยนั้นใครคุมสิ่งเหล่านี้ ก็หุบปากแล้วไปห้องสมุด ไปอ่านหนังสือพิมพ์ปี 49 อ่านซะแล้วที่บอกไม่มีอำนาจอะไรเขาก็ให้อำนาจมันในการบริหารประเทศไม่ใช้ให้มันใช้อำนาจในทางที่ผิดดังนั้นมันจึงควรโดนโค่นอำนาจเพราะความโกงของมันทักษิณยุบสภา-เลือกตั้งใหม่ โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 กุมภาพันธ์ 2549 18:34 น.
ทักษิณ ดิ้นรักษาอำนาจสุดชีวิต สะพัดยุบสภา-ปรับคณะรัฐมนตรี สรอรรถ-สนธยา ลุ้นได้กลับมาเป็นรมต.อีกรอบ เผยกำหนดการเข้าเฝ้าฯเย็นนี้
วันนี้( 24 ก.พ.) มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแพร่สะพัดตั้งแต่บ่ายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรับมนตรีได้เลือกผ่าทางตันทางการเมืองโดยวิธีการยุบสภาแล้ว และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เตรียมเข้าเฝ้าฯในตอนเย็นวันนี้ เวลา 17.00 น.
รายงานข่าวยังระบุอีกว่า การเข้าเฝ้าฯดังกล่าวเป็นการเข้าเฝ้าฯเพื่อขอรับพระราชทานพระราชกฤษฎีกายุบสภารวมทั้งพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เพื่อทำหน้าที่เป็นรัฐบาลรักษาการในช่วงเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดีมีรายงานข่าวอีกกระแสหนึ่งแจ้งว่าการเข้าเฝ้าฯครั้งนี้เป็นการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล ทักษิณ 2/4 ขึ้นทูลเกล้าฯโดยจะมีการปรับ 2 ตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลง โดย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม จะได้รับการแต่งตั้งกลับเข้าอีกครั้ง และอีกตำแหน่งหนึ่งคือ นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำกลุ่มชลบุรี ซึ่งอาจได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่ากระทรวงวัฒนธรรมแทน นางอุไรวรรณ เทียนทอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้มีรถถ่ายทอดสดของช่อง 9 อสมท.มารอถ่ายทอดสดที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว
http://tnews.teenee....olitic/115.html/*==========================================================================================================================================================*/
พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2549 ให้ไว้ ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 เป็นปีที่ 61 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า โดยที่นายกรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลว่าตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้นำความกราบบังคมทูลเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2548 ขอให้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ตามมติเห็นชอบข้างมากเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ลงคะแนนโดยเปิดเผยในสภาผู้แทนราษฎร และได้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นบริหารราชการแผ่นดินแล้วนั้น ต่อมาได้เกิดการชุมนุมสาธารณะ ตั้งข้อเรียกร้องในทางการเมืองมากขึ้น ซึ่งแม้ระยะแรกจะอยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่เมื่อนานวันเข้า การชุมนุมเรียกร้องได้ขยายตัวไปในทางที่กว้างขวาง และอาจรุนแรงขึ้น รวมทั้งส่อเค้าว่าจะมีการเผชิญหน้าจนอาจปะทะกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และอาจมีการสอดแทรกฉวยโอกาสจากผู้ที่ประสงค์จะเห็นความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง จุดชนวนให้เกิดความรู้สึกที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน จนลุกลามถึงขั้นการจลาจลวุ่นวาย สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
ครั้นใช้อำนาจเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองเข้าควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด หรือแม้แต่รัฐบาลได้พยายามดำเนินการตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ ด้วยการขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติในที่ประชุมรัฐสภาแล้ว ก็ยังไม่อาจแก้ไขปัญหาและความคิดเห็นพื้นฐานที่แตกต่างกัน ทั้งระหว่างกลุ่มผุ้ชุมนุมเรียกร้อง กับรัฐบาล และระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้อง กับกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วย และประสงค์จะเคลื่อนไหวบ้าง จนอาจเกิดการปะทะกันได้ สภาพเช่นนี้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ การเมือง การปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยภายใต้ระบบรัฐสภา และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยเฉพาะในขณะนี้ซึ่งควรจะสร้างความสามัคคีปรองดอง การดูแลรักษาสภาพของบ้านเมืองที่สงบร่มเย็น น่าอยู่ อาศัยการลงทุน และการเผยแพร่ความวิจิตรอลังการ ตลอดจนความดีงามตามแบบฉบับของไทยให้เป็นที่ประจักษ์
เมื่อปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความคิดเห็นในสังคมที่หลากหลาย และยังคงแตกต่างกัน จนกลายเป็นความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงเช่นนี้ ครั้นจะดำเนินการเพื่อตรวจสอบความประสงค์อันแท้จริงของประชาชนโดยเป็นการอื่น เพื่อให้ทุกฝ่ายหยั่งทราบแล้วยอมรับให้เป็นไปตามกลไกในระบอบประชาธิปไตย ก็ทำได้ยาก ทางออกในระบอบประชาธิปไตยที่เคยปฏิบัติมาในนานาประเทศ และแม้แต่ในประเทศไทย คือการคืนอำนาจตัดสินใจทางการเมืองกลับสู่ประชาชน ด้วยการยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปขึ้นใหม่ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 116 และมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้ เรียกว่า พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พุทธศักราช 2549
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่
มาตรา 4 ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2549 และ
มาตรา 5 ให้นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการการเลือกตั้ง รักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
http://www.manager.c...D=9490000025604/*==========================================================================================================================================================*/