Jump to content


Photo
- - - - -

สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ


  • Please log in to reply
564 ความเห็นในกระทู้นี้

#451 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:03

ตอบไอ้ Yukti ข้อนึงได้แน่ๆว่ะ > 6 ตุลาฯ 19 มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง?
ไอ้ที่มีหลักฐานชัวร์ๆ ในกลุ่มขวาจัด ก็ สมัคร สุนทรเวช คนนึงล่ะ คนอื่นๆก็มีดุสิต ศิริวรรณ, สุดสาย หัสดิน ฯลฯ
ส่วนฝ่ายที่เป็นเหยื่อ กลุ่มแรกก็มีไอ้หงอก ไอ้ธง ไอ้อ้วน ไอ้มิ้ง ไอ้เลี้ยบ ฯลฯ กลุ่มที่ 2 ก็คือกลุ่ม ปชป.หรือแมงวาปของมรึงนี่แหละ

แล้วหลังจากเหตุการณ์นั้น ผ่านมา 30 กว่าปี กรูก็เห็นไอ้เหยื่อกลุ่มแรกหลายตัว มันร่วมสมสู่กับกลุ่มขวาจัด จัดตั้งรัฐบาลนอมินี่จากทุนไอ่หน้าเหลี่ยม(ซึ่งเคยเลียไข่เผด็จการทหาร รสช.เช่นกัน)ได้อย่างหน้าตาเฉย
*น่าแปลกที่แมงวาปก็เสียประโยชน์ในช่วงปี 2519 เช่นกัน แต่ไม่เห็นแมงวาปคนไหนจะออกมาโจมตี ม.112 เลย
หรือถ้าควายแดงจะแถต่อว่า เพราะแมงวาปมีผลประโยชน์ลงตัวกับอำมาตย์? > แล้วไอ้พวกกากเดน 6 ตุลา ที่มาสมสู่กับป๋าหมักได้นั้น มันต่างกันอย่างไรมิทราบ!
ปชป.(ที่เป็นหนึ่งในเป้าโจมตีของควายแดงในขณะนี้)บริสุทธิ์ผุดผ่องหรือไม่? > กรูคงไม่การันตีตรงนี้...แต่ที่แน่ๆในประวัติศาสตร์ ปชป.ไม่เคยสมสู่กับเผด็จการทหาร รวมทั้งพวกกลุ่มขวาจัดด้วย!

Edited by Huligan, 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:12.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#452 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 01:22

Huligan พูดได้ตรงใจ พวกนี้ชอบดูถูกประวัติศาสตร์กระแสหลัก โดยอ้างว่าต้องเชื่อประวัติศาสตร์ที่พึ่งมั่วของพวกมัน

แต่ประเด็นคือที่เขาเป็นกระแสหลักได้เพราะเขามีหลักฐาน แต่ประวัติศาสตร์ฉบับอาจมแดงมันมีแต่ทฤษฎี(แต่ก็ยังแอบๆสอนในห้องเรียน)
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#453 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 01:41

จริงๆแล้วคนเดือนตุลาก็มีอยู่ทุกวงการ อย่างในพรรคปชป.ก็มี แต่ทุกวันนี้คำว่าคนเดือนตุลา(รวมถึงเหตุการณ์เดือนตุลา)มันถูกเสื้อแดงเอาไปสมอ้างว่าเป็นของฝ่ายตัวเองเท่านั้น ต่อให้เป็นคนที่ผ่านเหตุการณ์นั้นมาโดยตรงแต่ถ้าไม่เห็นด้วยกับเสื้อแดงก็จะไม่ได้รับการยอมรับ เอาง่ายๆอย่างอ.ธีรยุทธที่โดนสมหงอกมันถล่มซะเละ(ในสายตาสาวก) หรืออย่างน้าหงาสุรชัยที่คนเสื้อแดงไม่ยอมรับบอกว่าหมดอุดมการณ์ไปแล้ว แต่เสื้อแดงยอมรับวิสา

อันนี้ผมว่ามันตลกแบบน่าสมเพชนะ คล้ายๆมุขแดงเทียม แต่เสื้อแดงไม่ได้เรียกพวกนี้ว่าคนเดือนตุลาเทียม(ฮา) แต่เรียกว่าพวกหมดอุดมการณ์แทน แล้วสำหรับเสื้อแดงใครที่ยังมีอุดมการณือยู่บ้าง ป้าธิดางี้ หมอเหวงงี้ สมหงอกเอย จาตุรนต์เอย ฯลฯ นี่แหละที่มันตลก(สมเพช) แม้แต่ชื่อปรีดีก็ยังกลายเป็นลิขสิทธิ์ของเสื้อแดงไปแล้ว(ก็ไม่รู้ว่าสมหงอกมันไปเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตอนไหน)

#454 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 07:58

สีเสื้อแดงด้วย ที่จอง

ใครห้ามเอาไปใช้ไม่งั้นจะเป็นคนเสียสติทันที

#455 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 15:41

ผมจะดึงเรื่องกลับมาที่สมศักดิ์นะครับ เรื่องทักษิณกับแผนระยะยาวนี่ น่าสนใจ น่าตั้งกระทู้ใหม่ด้วย

หลัง 14 ตุลา 16 เกิดความเปลี่ยนแปลงมาก ผมคิดว่ามากกว่าที่ปรีดีทำอีกด้วย
ปรีดียังมาในสายอำนาจรวมศูนย์ ผู้ปกครองคิดแทนประชาชน และไม่เคยแม้แต่จะกระจายอำนาจแก่ราษฎรตามที่รับปากไว้

14 ตุลา ทำให้พลังนักศึกษาโดดเด่น และทำให้พลังคอมมิวนิสต์เกาะกระแสตามขึ้นมา แต่พลังของทหารก็ยังไม่หมดไปจริง
นั่นทำให้พรรคการเมืองยังอ่อนแอตามไปด้วย......และในที่สุด พลังทหารก็กลับมาครอบงำประเทศเหมือนเดิม ผมเชื่อว่าวิกฤติต้มยำกุ้งนี่แหละ ที่ชี้ชัดเจนว่าทหารต้องถอยจากการเมืองเต็มที่ เพราะการเมืองพัฒนาไปสู่จุดที่อำนาจอย่างเดียว พาประเทศไปไม่รอด

สมศักดิ์กับแก๊งค์เด็กนรกอยู่ตรงใหนของวิวัฒนาการนี้
คำตอบง่ายๆ ครับ คือปลวกที่กัดเซาะประชาธิปไตยมวลชน และมาถึงวันนี้ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม
สมศักดิ์ด่าพวกรักเจ้าว่าเป็นตัวการทำให้เจ้าอ่อนแอ ที่แท้ตัวเองอ้างว่ารักประชาธิปไตยก็ทำประชาธิปไตยอ่อนแอเหมือนกัน
เพราะไม่ยอมรับว่า ประชาธิปไตยนั้น กลายเป็นเครื่องมือของเผด็จการทักษิณ เหมือนกองทัพเคยเป็นเครื่องมือของป๋า

ต่างกันที่ป๋าเอาทหารมาสร้างประเทศไทยไปทีละน้อย ถูกบ้างผิดบ้าง แต่ก็เปลี่ยนไปในหนทางที่มีความหวัง
แต่ทักษิณใช้ประชาธิปไตยไปในหนทางที่ทำให้ประเทศและประชาชนอ่อนแอ ตัวเองมั่งคั่ง ความแตกต่างนี้ สมศักดิ์ไม่เคยคำนึงถึง

มองด้วยแว่นประชาธิปไตย ปชป. ก็ยังคงเป็นองค์กรเดียว ที่เดินตามกรอบของคำนี้ พรรคเป็นของสมาชิก การเข้าสู่ตำแหน่งใช้คะแนนเสียง มีระบบอาวุโสและโควต้าไปตามสัดส่วนของประเทศ มีการระดมทุนที่ชัดเจน และมีการสร้างคนขึ้นมาเป็นลำดับชั้น ระบบมาเพี้ยนไปบ้างสมัยที่เสธ.หนั่นมีอำนาจ ผลตกค้างก็ยังมี แต่ก็ค่อยๆ สลายไป....เรียกว่าเราสามารถชำแหละได้ว่าพรรคนี้ มีโครงสร้างในเชิงอำนาจและการเมืองอย่างไร

มองไปที่ทักษิณ ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยแล้ว องค์ประกอบทางประชาธิปไตย ไม่มีเลย ตั้งพรรคเหมือนตั้งบริษัท เอาอาจารย์คนหนึ่งมาเขียนแผน ทุกคนรับเงินเดือนเหมือนลูกจ้าง คิดนโยบายแบบเอเยนซี่...ไอ้นโยบายนั่นช่างมันเถิด แต่การนำคคนเข้าระบบนี่สิ ปัญหา

พรรคของทักษิณ รับคนมาจากระบอบรสช. มากเท่าไหร่ พวกนี้เป็นนักการเมืองอิงทหารทั้งนั้น แต่ปชป. มีคนของรสช. นับหัวได้
นโยบายของทักษิณมีทั้งส่วนดีและส่วนเลวกับประเทศ การบริหารของทักษิณก็เช่นกัน หักกลบลบหนี้กันแล้ว นักวิชาการที่เที่ยงธรรมก็ต้องบอกว่าทักษิณคือปัญหา และปัญหาจากทักษิณมาจากระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์

ถามว่า ทำไมหลัง 14 ตุลามาแล้ว จิตวิญญานประชาธิปไตยของเราจึงไม่พัฒนา
ตอบว่าเพราะสมศักดิ์และคณะที่ทำให้ไม่สมบูรณ์

หลัง 14 ตุลาลงมา นายกสัญญา ธรรมศักดิ์ให้ทุนศูนย์นิสิตก้อนใหญ่ ออกไปให้ความรู้ทางการเมืองกับชาวบ้านชนบท...นี่คือก้าวสำคัญที่นายปรีดีจงใจละเลย แต่ศูนย์นิสิตก็ทำพินาศ เพราะกลายเป็นไปเผยแพร่ลัทธิสีแดง แทนที่จะสอนคนให้เป็นอิสระ

หลัง 14 ตุลา ศูนย์นิสิตได้รับเงินบริจาคขนาดมหึมา ตัวเลขหลายสิบล้าน อาจจะไปถึงร้อยก็ได้ เพราะไม่มีตัวเลขชัดๆ ออกมา เงินขนาดนี้ในสมัย 40 ปีก่อน มันมากขนาดตั้งโรงพยาบาลหรือวิทยาลัยดีๆ ได้เลย...ปรากฏว่าถูกยักยอกครับ อีกส่วนถูกเอาไปผลาญในการทำหนังสือพิมพ์...พวกนี้คือบาปที่สมศักดิ์และพวกก่อเอาไว้

จากวีระบุรุษนักศึกษาในปี 16 พอถึงปี 17 ก็กลายเป็นพวกลูกอีช่างเรียกร้อง มีม๊อบที่สนามหลวงแทบทุกวัน
ปี 18 กร่างหนักเพราะอินโดจีนแตก นักศึกษาธรรมศาสตร์กลายเป็นตัวแทนเหมาอิสต์ กระแสโค่นล้มระบอบพุ่งแรงจนกระทั่งพอมีการตั้งลูกเสือขาวบ้าน คนก็เข้าร่วมอย่างคึกคัก เขามาร่วมเพราะเขาเห็นแล้วว่า ถ้าไทยกลายเป็นคอมมิวนิสต์ พวกเขาจะเป็นอย่างไร ในช่วงนั้น เศรษฐีกลัวกันขนาดเตรียมหนีไปเมืองนอก แต่ชาวบ้านกลัวกว่า เพราะจะต้องพลัดที่นาคาที่อยู่ ถูกไล่ไปอยู่นารวม ต้องเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม ต้องสร้างชีวิตใหม่....ไม่มีใครเอาดอก ปี 2519 นักศึกษาเหิมเกริมหนัก ปชป. เป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งก็ไม่เอา ทหารก็ไม่เอา เจ้าก็ไม่เอา นายทุนก็ไม่เอา กฎุมพีก็ไม่เอา....

มารดามันไม่เอาอะไรสักอย่าง จะเป็นเวียตนามแตกให้ได้

ดังนั้น เมื่อถนอมกลับเข้ามา และพวกนี้เริ่มชุมนุม มันก็กลายเป็นแบบม็อบส้วมของแป๊ะ มีคนมาร่วมเฉพาะที่ถูกจัดตั้งกับน้องๆ ที่ยังอ่อนเยาว์ มวลมหาประชาชนของพวกเขา ไม่เอาด้วย การถูกสังหารหมู่กลางสนามฟุตบอล จึงเป็นความเลวร่วมกันของสมศักดิ์กับพวกขวาจัด

ทั้งสองพวก ไม่มีใครรักเจ้าหรอกครับ

#456 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:39

Huligan พูดได้ตรงใจ พวกนี้ชอบดูถูกประวัติศาสตร์กระแสหลัก โดยอ้างว่าต้องเชื่อประวัติศาสตร์ที่พึ่งมั่วของพวกมัน

แต่ประเด็นคือที่เขาเป็นกระแสหลักได้เพราะเขามีหลักฐาน แต่ประวัติศาสตร์ฉบับอาจมแดงมันมีแต่ทฤษฎี(แต่ก็ยังแอบๆสอนในห้องเรียน)


แค่มีเจ้านายเชื้อพระวงศ์องค์หนึ่ง ไปเยี่ยมลูกเสือชาวบ้านที่บาดเจ็บหลังเหตุการณ์นั้น พวกควายแดงเอามาโม้เป็นตุเป็นตะว่า'มีเอี่ยวกับเหตุการณ์'
ถ้างั้น ขอยกตัวอย่างเดียวกัน > ผมมีคนรับใช้คนนึง มันขยันทำงานให้ผม แต่เสียอย่างเดียวติดการพนัน วันนึงมันไปปล้นธนาคารเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ แต่สุดท้ายถูกจับเข้าคุก หลังจากนั้นผมเข้าไปเยี่ยมมันในคุก > ก็แปลว่าผมมีเอี่ยวกับการปล้นธนาคารด้วยใช่ป่าววะ!?!

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#457 SPDZ

SPDZ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,672 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:22

เพิ่งรู้ว่าหงอกเจียมมันถามซ้ำเป็นหนังวนมานานแล้ว
ไอ้ผมก็เอามานอนคิดทุกคืน ที่แท้มันไม่ได้ต้องการคำตอบ
เสียเวลาวาดการ์ตูนชิบเป๋ง
มันแค่ทำในสิ่งที่มันกล่าวหา แต่ทำซะเองคือ
กำลังล้างสมองคนให้จำฝังหัวเรื่องคำถาม
ถามซ้ำๆๆๆๆๆๆๆๆ จนจำฝังหัวแล้วเอาไปสงสัยตามมัน
พอเซก็โดนชุดข้อมูล"เรื่องลับวงใน"โจมตีให้คล้อยตาม
ผมเคยดูคลิป ดูรูป ดูอะไรมากมาย เล่นเอาเซ แต่ก็ค่อยๆคิดจนเข้าใจ
ว่าผลรอบๆด้านที่สำคัญกว่า ว่าสำคัญแค่ไหน
หลายคนคงเป็นแบบผม บางเรื่องรู้แต่ไม่พูด ไม่ต่อยอด เก็บไว้ในใจ
คิดแต่ผลดีที่ตามมาว่าทำไมเราจึงควร "รักในหลวง"


เพิ่งได้อ่าน
http://forum.seritha...hp?topic=4351.0
จากหน้าFBคุณซังฯ




Posted Image
Re: สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล VS บวร ยสินทร ในกระดาน ศนท.บน FB

« Reply #39 on: 15 Dec 2010, 18:40 »


+1


สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล คำชี้แจง: ก่อนทีจะรีบลบข้อความข้างล่าง หาว่า "หมิ่นเหม่" ขอให้พูดไว้เลยว่า นี่ไม่ "หมิ่นเหม่" เลยครับ พูดกันตรงๆเลย เรื่อง "รักในหลวง" เรื่อง "ในหลางทรงงานหนัก" ฯลฯ นี่เป็นการพูดตรงๆเลยครับ ไม่เหมิ่นเหม่อะไรเลย แต่เป็นการพูดที่ไม่ตรงกับความเชื่อ ทีตรวจสอบไม่ได้ ไม่ยอมให้ตรวจสอบเท่านั้น

มนุษย์เงินเดือนจนๆที่ไม่พอใจรัฐบาลเสื้อแดงที่แสนชั่วจะทำอะไรได้มากกว่าวาดการ์ตูนระบายความคับแค้นใจhttp://webboard.seri...ยเว็บบอร์ดการ์/ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

#458 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:26

มีใครเคยพูดถึงนศ ยุคนั้นแบบนี้มั้ยคะเนี่ยะ

กลัวใจคุณแอมจริงๆ

แบบนี้แบ่งแยกวีรชน 16 ออกจาก 19 ปล่าวคะเนี่ย

#459 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:44


Huligan พูดได้ตรงใจ พวกนี้ชอบดูถูกประวัติศาสตร์กระแสหลัก โดยอ้างว่าต้องเชื่อประวัติศาสตร์ที่พึ่งมั่วของพวกมัน

แต่ประเด็นคือที่เขาเป็นกระแสหลักได้เพราะเขามีหลักฐาน แต่ประวัติศาสตร์ฉบับอาจมแดงมันมีแต่ทฤษฎี(แต่ก็ยังแอบๆสอนในห้องเรียน)


แค่มีเจ้านายเชื้อพระวงศ์องค์หนึ่ง ไปเยี่ยมลูกเสือชาวบ้านที่บาดเจ็บหลังเหตุการณ์นั้น พวกควายแดงเอามาโม้เป็นตุเป็นตะว่า'มีเอี่ยวกับเหตุการณ์'
ถ้างั้น ขอยกตัวอย่างเดียวกัน > ผมมีคนรับใช้คนนึง มันขยันทำงานให้ผม แต่เสียอย่างเดียวติดการพนัน วันนึงมันไปปล้นธนาคารเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ แต่สุดท้ายถูกจับเข้าคุก หลังจากนั้นผมเข้าไปเยี่ยมมันในคุก > ก็แปลว่าผมมีเอี่ยวกับการปล้นธนาคารด้วยใช่ป่าววะ!?!


วรเจตน์ถูกเสนอชื่อเป็นกรรมการการศึกษา แล้วโดนเหมาว่าเป็นพวกเสื้อแดง ยังต้องรีบออกมาปฎิเสธเลย

ประวัติศาสตร์แบบของพวกล้มเจ้า คือ รูปป๋าเปรมเข้าเฝ้าพร้อมสนธิแค่ใบเดียวมันเอามาตีความซะใหญ่โต

http://www.manager.c..._source=message

Edited by ดราม่า, 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 17:51.

"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#460 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:04

มีใครเคยพูดถึงนศ ยุคนั้นแบบนี้มั้ยคะเนี่ยะ

กลัวใจคุณแอมจริงๆ

แบบนี้แบ่งแยกวีรชน 16 ออกจาก 19 ปล่าวคะเนี่ย


14 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 เป็นคนล่ะกลุ่มครับ 14ตุลาเป็นฝ่ายขวาไม่เอาคอมมิวนิสต์ 6ตุลาเป็นพวกซ้ายคอมมิวนิสต์เกือบหมด

เล่าเหตุการณ์โดยคุณบวรhttp://forum.seritha...php?f=2&t=29861

บวรตอบโตกับสมศักดิ์ (สมศักดิ์ก็ยืนยันเองว่า6ตุลาคือซ้าย และก็พยายามยัดให้14ตุลาก็ซ้ายด้วย)http://forum.seritha...php?f=2&t=29425
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#461 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:07

เห็นเสื้อแดงพยายามอ้างทุกๆกิจกรรมทางการเมืองที่ผ่านๆมา

ให้เป็นวีรกรรมของพวกตัวเองเสมอๆ

#462 naichod

naichod

    ?

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,476 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:21

ไม่รู้ว่าจะขอลงความเห็นแล้วหลายท่านจะรำคาญหรือไม่พอใจหรือเปล่า

แต่ในมุมมองของผม เกมนี้ สมศักดิ์เป็นคนเริ่ม ดังนั้น สมศักดิ์ต้องเตรียมการมาอย่างแน่นพอประมาณ และมีทางหนีทีไล่ในเกมไว้แล้ว

พูดง่ายๆก็คือ สมศักดิ์กำลังล่อให้คนเข้าไปถก เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในเรื่องที่สมศักดิ์เตรียมการมา (เขาเตรียมการมาก่อนเรา เราต่างหากที่เพิ่งเตรียมไปสู้)

โอกาสในการต่อยอดขยายความเท็จก็อาจมีไปได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่หากพูดไปแล้วไม่มีใครไปถก ผมว่ามันจะไม่ขยายวงไปกว้างไปกว่าที่มันมีในกลุ่มของมัน คนเชื่อก็จะเป็นพวกเดิมๆอยู่แล้ว

ผมจึงมีความคิดว่า เรากำลังเล่นในเกมของเขา

ทำไมเราไม่เปลี่ยนให้เขาจำใจต้องหันมาเล่นในเกมของเรา?????? เหมือนสมัียก่อน ที่เราลากไส้ทักษิณออกมาแฉ พวกแดงเองก็มาตอบ แต่นั่นเป็นเกมของเรา เราเตรียมมาแล้ว เราคุมเกมได้

การถกกับสมศักดิ์ ผู้ถกอย่างไรเสียก็เกิดอารมณ์ขุ่นมัว

แล้วสมศักดิ์ล่ะ คิดหรือว่าเขาจะเกิดอารมณ์ขุ่นมัว ในเมื่อเราเดินเข้าไปในทางของเขาที่ต้องการให้คนออกมาถกกันเรื่องสถาบันอยู่แล้ว


ก็เป็นเพียงแง่คิดของผมล่ะครับ ไม่เหมาะสมก็ขออภัยด้วยจริงๆ

Edited by naichod, 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:23.

Nul plus que nous. À moins que nous sommes à genoux à la sienne.No one higher than us. Unless we kneel to his own.

#463 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:03

มีใครเคยพูดถึงนศ ยุคนั้นแบบนี้มั้ยคะเนี่ยะ
กลัวใจคุณแอมจริงๆ
แบบนี้แบ่งแยกวีรชน 16 ออกจาก 19 ปล่าวคะเนี่ย


พวก 16 ตุลา ตอนนี้เหยียบเขตพลเมืองอาวุโสกันเป็นแถว ลงมาเล่นการเมืองน้อย ที่เห็นก็เป็นพวกพินิจ กับชำนิ...
พวก 6 ตุลา ปีนี้เพิ่ง 55-56 แต่มีพวก 16 ตุลาที่ลงมาเคลื่อนไหวกับพวก 6 ตุลาเหมือนกัน ที่ก้าวหน้าโดดเด่นก็มีสุธรรม กับจาตุรน สุธรรมเองเริ่มเล่นการเมืองก็ยังเป็นแก้งค์สามหนุ่มกับชำนิและวิทยา ก่อนจะปลีกตัวมาเกาะทักษิณตามเพื่อนๆ ตุลาชิน สองรุ่นนี้ อุดมการณ์ต่างกันมากครับ

ธีรยุทธ เป็นเลขาศูนย์นิสิตรุ่น 2515 เป็นคนที่ 4 และเป็นคนขับเคลื่อนองค์กรไปในทางการเมืองเพื่อการตรวจสอบ พอ 2516 ก็เป็นสมบัติ ซึ่งเดินไปในแนวทางเดียวกัน คำนูณ สิทธิสมาน เกรียงกมล เลาหไพโรจน์ สุธรรม แสงประทุม .....สามคนท้ายนี่แหละที่เริ่มเอาศนท. ไปทำการเมืองแบบแบ่งขั้วอำนาจ หรือพูดอีกอย่างก็ได้ว่า โดนคอมมิวนิสต์ในเมืองหลอกใช้เป็นเครื่องมือ

พลังบริสุทธิ์ของนักศึกษานั้น ใช้เป็นก็เป็นคุณอนันต์ ใช้ไม่เป็นก็ถูกฆ่าทิ้งอย่างไม่มีใครให้ราคา เหมือนพี่น้องเสื้อแดงทุกวันนี้แหละครับ ไม่มีข้อแตกต่างเลย

#464 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:17

ผมจะดึงเรื่องกลับมาที่สมศักดิ์นะครับ เรื่องทักษิณกับแผนระยะยาวนี่ น่าสนใจ น่าตั้งกระทู้ใหม่ด้วย

หลัง 14 ตุลา 16 เกิดความเปลี่ยนแปลงมาก ผมคิดว่ามากกว่าที่ปรีดีทำอีกด้วย
ปรีดียังมาในสายอำนาจรวมศูนย์ ผู้ปกครองคิดแทนประชาชน และไม่เคยแม้แต่จะกระจายอำนาจแก่ราษฎรตามที่รับปากไว้

14 ตุลา ทำให้พลังนักศึกษาโดดเด่น และทำให้พลังคอมมิวนิสต์เกาะกระแสตามขึ้นมา แต่พลังของทหารก็ยังไม่หมดไปจริง
นั่นทำให้พรรคการเมืองยังอ่อนแอตามไปด้วย......และในที่สุด พลังทหารก็กลับมาครอบงำประเทศเหมือนเดิม ผมเชื่อว่าวิกฤติต้มยำกุ้งนี่แหละ ที่ชี้ชัดเจนว่าทหารต้องถอยจากการเมืองเต็มที่ เพราะการเมืองพัฒนาไปสู่จุดที่อำนาจอย่างเดียว พาประเทศไปไม่รอด

สมศักดิ์กับแก๊งค์เด็กนรกอยู่ตรงใหนของวิวัฒนาการนี้
คำตอบง่ายๆ ครับ คือปลวกที่กัดเซาะประชาธิปไตยมวลชน และมาถึงวันนี้ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม
สมศักดิ์ด่าพวกรักเจ้าว่าเป็นตัวการทำให้เจ้าอ่อนแอ ที่แท้ตัวเองอ้างว่ารักประชาธิปไตยก็ทำประชาธิปไตยอ่อนแอเหมือนกัน
เพราะไม่ยอมรับว่า ประชาธิปไตยนั้น กลายเป็นเครื่องมือของเผด็จการทักษิณ เหมือนกองทัพเคยเป็นเครื่องมือของป๋า

ต่างกันที่ป๋าเอาทหารมาสร้างประเทศไทยไปทีละน้อย ถูกบ้างผิดบ้าง แต่ก็เปลี่ยนไปในหนทางที่มีความหวัง
แต่ทักษิณใช้ประชาธิปไตยไปในหนทางที่ทำให้ประเทศและประชาชนอ่อนแอ ตัวเองมั่งคั่ง ความแตกต่างนี้ สมศักดิ์ไม่เคยคำนึงถึง

มองด้วยแว่นประชาธิปไตย ปชป. ก็ยังคงเป็นองค์กรเดียว ที่เดินตามกรอบของคำนี้ พรรคเป็นของสมาชิก การเข้าสู่ตำแหน่งใช้คะแนนเสียง มีระบบอาวุโสและโควต้าไปตามสัดส่วนของประเทศ มีการระดมทุนที่ชัดเจน และมีการสร้างคนขึ้นมาเป็นลำดับชั้น ระบบมาเพี้ยนไปบ้างสมัยที่เสธ.หนั่นมีอำนาจ ผลตกค้างก็ยังมี แต่ก็ค่อยๆ สลายไป....เรียกว่าเราสามารถชำแหละได้ว่าพรรคนี้ มีโครงสร้างในเชิงอำนาจและการเมืองอย่างไร

มองไปที่ทักษิณ ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยแล้ว องค์ประกอบทางประชาธิปไตย ไม่มีเลย ตั้งพรรคเหมือนตั้งบริษัท เอาอาจารย์คนหนึ่งมาเขียนแผน ทุกคนรับเงินเดือนเหมือนลูกจ้าง คิดนโยบายแบบเอเยนซี่...ไอ้นโยบายนั่นช่างมันเถิด แต่การนำคคนเข้าระบบนี่สิ ปัญหา

พรรคของทักษิณ รับคนมาจากระบอบรสช. มากเท่าไหร่ พวกนี้เป็นนักการเมืองอิงทหารทั้งนั้น แต่ปชป. มีคนของรสช. นับหัวได้
นโยบายของทักษิณมีทั้งส่วนดีและส่วนเลวกับประเทศ การบริหารของทักษิณก็เช่นกัน หักกลบลบหนี้กันแล้ว นักวิชาการที่เที่ยงธรรมก็ต้องบอกว่าทักษิณคือปัญหา และปัญหาจากทักษิณมาจากระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์

ถามว่า ทำไมหลัง 14 ตุลามาแล้ว จิตวิญญานประชาธิปไตยของเราจึงไม่พัฒนา
ตอบว่าเพราะสมศักดิ์และคณะที่ทำให้ไม่สมบูรณ์

หลัง 14 ตุลาลงมา นายกสัญญา ธรรมศักดิ์ให้ทุนศูนย์นิสิตก้อนใหญ่ ออกไปให้ความรู้ทางการเมืองกับชาวบ้านชนบท...นี่คือก้าวสำคัญที่นายปรีดีจงใจละเลย แต่ศูนย์นิสิตก็ทำพินาศ เพราะกลายเป็นไปเผยแพร่ลัทธิสีแดง แทนที่จะสอนคนให้เป็นอิสระ

หลัง 14 ตุลา ศูนย์นิสิตได้รับเงินบริจาคขนาดมหึมา ตัวเลขหลายสิบล้าน อาจจะไปถึงร้อยก็ได้ เพราะไม่มีตัวเลขชัดๆ ออกมา เงินขนาดนี้ในสมัย 40 ปีก่อน มันมากขนาดตั้งโรงพยาบาลหรือวิทยาลัยดีๆ ได้เลย...ปรากฏว่าถูกยักยอกครับ อีกส่วนถูกเอาไปผลาญในการทำหนังสือพิมพ์...พวกนี้คือบาปที่สมศักดิ์และพวกก่อเอาไว้

จากวีระบุรุษนักศึกษาในปี 16 พอถึงปี 17 ก็กลายเป็นพวกลูกอีช่างเรียกร้อง มีม๊อบที่สนามหลวงแทบทุกวัน
ปี 18 กร่างหนักเพราะอินโดจีนแตก นักศึกษาธรรมศาสตร์กลายเป็นตัวแทนเหมาอิสต์ กระแสโค่นล้มระบอบพุ่งแรงจนกระทั่งพอมีการตั้งลูกเสือขาวบ้าน คนก็เข้าร่วมอย่างคึกคัก เขามาร่วมเพราะเขาเห็นแล้วว่า ถ้าไทยกลายเป็นคอมมิวนิสต์ พวกเขาจะเป็นอย่างไร ในช่วงนั้น เศรษฐีกลัวกันขนาดเตรียมหนีไปเมืองนอก แต่ชาวบ้านกลัวกว่า เพราะจะต้องพลัดที่นาคาที่อยู่ ถูกไล่ไปอยู่นารวม ต้องเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม ต้องสร้างชีวิตใหม่....ไม่มีใครเอาดอก ปี 2519 นักศึกษาเหิมเกริมหนัก ปชป. เป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งก็ไม่เอา ทหารก็ไม่เอา เจ้าก็ไม่เอา นายทุนก็ไม่เอา กฎุมพีก็ไม่เอา....

มารดามันไม่เอาอะไรสักอย่าง จะเป็นเวียตนามแตกให้ได้

ดังนั้น เมื่อถนอมกลับเข้ามา และพวกนี้เริ่มชุมนุม มันก็กลายเป็นแบบม็อบส้วมของแป๊ะ มีคนมาร่วมเฉพาะที่ถูกจัดตั้งกับน้องๆ ที่ยังอ่อนเยาว์ มวลมหาประชาชนของพวกเขา ไม่เอาด้วย การถูกสังหารหมู่กลางสนามฟุตบอล จึงเป็นความเลวร่วมกันของสมศักดิ์กับพวกขวาจัด

ทั้งสองพวก ไม่มีใครรักเจ้าหรอกครับ

ผมจะดึงเรื่องกลับมาที่สมศักดิ์นะครับ เรื่องทักษิณกับแผนระยะยาวนี่ น่าสนใจ น่าตั้งกระทู้ใหม่ด้วย

หลัง 14 ตุลา 16 เกิดความเปลี่ยนแปลงมาก ผมคิดว่ามากกว่าที่ปรีดีทำอีกด้วย
ปรีดียังมาในสายอำนาจรวมศูนย์ ผู้ปกครองคิดแทนประชาชน และไม่เคยแม้แต่จะกระจายอำนาจแก่ราษฎรตามที่รับปากไว้

14 ตุลา ทำให้พลังนักศึกษาโดดเด่น และทำให้พลังคอมมิวนิสต์เกาะกระแสตามขึ้นมา แต่พลังของทหารก็ยังไม่หมดไปจริง
นั่นทำให้พรรคการเมืองยังอ่อนแอตามไปด้วย......และในที่สุด พลังทหารก็กลับมาครอบงำประเทศเหมือนเดิม ผมเชื่อว่าวิกฤติต้มยำกุ้งนี่แหละ ที่ชี้ชัดเจนว่าทหารต้องถอยจากการเมืองเต็มที่ เพราะการเมืองพัฒนาไปสู่จุดที่อำนาจอย่างเดียว พาประเทศไปไม่รอด

สมศักดิ์กับแก๊งค์เด็กนรกอยู่ตรงใหนของวิวัฒนาการนี้
คำตอบง่ายๆ ครับ คือปลวกที่กัดเซาะประชาธิปไตยมวลชน และมาถึงวันนี้ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม
สมศักดิ์ด่าพวกรักเจ้าว่าเป็นตัวการทำให้เจ้าอ่อนแอ ที่แท้ตัวเองอ้างว่ารักประชาธิปไตยก็ทำประชาธิปไตยอ่อนแอเหมือนกัน
เพราะไม่ยอมรับว่า ประชาธิปไตยนั้น กลายเป็นเครื่องมือของเผด็จการทักษิณ เหมือนกองทัพเคยเป็นเครื่องมือของป๋า

ต่างกันที่ป๋าเอาทหารมาสร้างประเทศไทยไปทีละน้อย ถูกบ้างผิดบ้าง แต่ก็เปลี่ยนไปในหนทางที่มีความหวัง
แต่ทักษิณใช้ประชาธิปไตยไปในหนทางที่ทำให้ประเทศและประชาชนอ่อนแอ ตัวเองมั่งคั่ง ความแตกต่างนี้ สมศักดิ์ไม่เคยคำนึงถึง

มองด้วยแว่นประชาธิปไตย ปชป. ก็ยังคงเป็นองค์กรเดียว ที่เดินตามกรอบของคำนี้ พรรคเป็นของสมาชิก การเข้าสู่ตำแหน่งใช้คะแนนเสียง มีระบบอาวุโสและโควต้าไปตามสัดส่วนของประเทศ มีการระดมทุนที่ชัดเจน และมีการสร้างคนขึ้นมาเป็นลำดับชั้น ระบบมาเพี้ยนไปบ้างสมัยที่เสธ.หนั่นมีอำนาจ ผลตกค้างก็ยังมี แต่ก็ค่อยๆ สลายไป....เรียกว่าเราสามารถชำแหละได้ว่าพรรคนี้ มีโครงสร้างในเชิงอำนาจและการเมืองอย่างไร

มองไปที่ทักษิณ ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยแล้ว องค์ประกอบทางประชาธิปไตย ไม่มีเลย ตั้งพรรคเหมือนตั้งบริษัท เอาอาจารย์คนหนึ่งมาเขียนแผน ทุกคนรับเงินเดือนเหมือนลูกจ้าง คิดนโยบายแบบเอเยนซี่...ไอ้นโยบายนั่นช่างมันเถิด แต่การนำคคนเข้าระบบนี่สิ ปัญหา

พรรคของทักษิณ รับคนมาจากระบอบรสช. มากเท่าไหร่ พวกนี้เป็นนักการเมืองอิงทหารทั้งนั้น แต่ปชป. มีคนของรสช. นับหัวได้
นโยบายของทักษิณมีทั้งส่วนดีและส่วนเลวกับประเทศ การบริหารของทักษิณก็เช่นกัน หักกลบลบหนี้กันแล้ว นักวิชาการที่เที่ยงธรรมก็ต้องบอกว่าทักษิณคือปัญหา และปัญหาจากทักษิณมาจากระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์

ถามว่า ทำไมหลัง 14 ตุลามาแล้ว จิตวิญญานประชาธิปไตยของเราจึงไม่พัฒนา
ตอบว่าเพราะสมศักดิ์และคณะที่ทำให้ไม่สมบูรณ์

หลัง 14 ตุลาลงมา นายกสัญญา ธรรมศักดิ์ให้ทุนศูนย์นิสิตก้อนใหญ่ ออกไปให้ความรู้ทางการเมืองกับชาวบ้านชนบท...นี่คือก้าวสำคัญที่นายปรีดีจงใจละเลย แต่ศูนย์นิสิตก็ทำพินาศ เพราะกลายเป็นไปเผยแพร่ลัทธิสีแดง แทนที่จะสอนคนให้เป็นอิสระ

หลัง 14 ตุลา ศูนย์นิสิตได้รับเงินบริจาคขนาดมหึมา ตัวเลขหลายสิบล้าน อาจจะไปถึงร้อยก็ได้ เพราะไม่มีตัวเลขชัดๆ ออกมา เงินขนาดนี้ในสมัย 40 ปีก่อน มันมากขนาดตั้งโรงพยาบาลหรือวิทยาลัยดีๆ ได้เลย...ปรากฏว่าถูกยักยอกครับ อีกส่วนถูกเอาไปผลาญในการทำหนังสือพิมพ์...พวกนี้คือบาปที่สมศักดิ์และพวกก่อเอาไว้

จากวีระบุรุษนักศึกษาในปี 16 พอถึงปี 17 ก็กลายเป็นพวกลูกอีช่างเรียกร้อง มีม๊อบที่สนามหลวงแทบทุกวัน
ปี 18 กร่างหนักเพราะอินโดจีนแตก นักศึกษาธรรมศาสตร์กลายเป็นตัวแทนเหมาอิสต์ กระแสโค่นล้มระบอบพุ่งแรงจนกระทั่งพอมีการตั้งลูกเสือขาวบ้าน คนก็เข้าร่วมอย่างคึกคัก เขามาร่วมเพราะเขาเห็นแล้วว่า ถ้าไทยกลายเป็นคอมมิวนิสต์ พวกเขาจะเป็นอย่างไร ในช่วงนั้น เศรษฐีกลัวกันขนาดเตรียมหนีไปเมืองนอก แต่ชาวบ้านกลัวกว่า เพราะจะต้องพลัดที่นาคาที่อยู่ ถูกไล่ไปอยู่นารวม ต้องเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม ต้องสร้างชีวิตใหม่....ไม่มีใครเอาดอก ปี 2519 นักศึกษาเหิมเกริมหนัก ปชป. เป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งก็ไม่เอา ทหารก็ไม่เอา เจ้าก็ไม่เอา นายทุนก็ไม่เอา กฎุมพีก็ไม่เอา....

มารดามันไม่เอาอะไรสักอย่าง จะเป็นเวียตนามแตกให้ได้

ดังนั้น เมื่อถนอมกลับเข้ามา และพวกนี้เริ่มชุมนุม มันก็กลายเป็นแบบม็อบส้วมของแป๊ะ มีคนมาร่วมเฉพาะที่ถูกจัดตั้งกับน้องๆ ที่ยังอ่อนเยาว์ มวลมหาประชาชนของพวกเขา ไม่เอาด้วย การถูกสังหารหมู่กลางสนามฟุตบอล จึงเป็นความเลวร่วมกันของสมศักดิ์กับพวกขวาจัด

ทั้งสองพวก ไม่มีใครรักเจ้าหรอกครับ


อ่านแล้วจี๊ด
คุณแอมสรุปได้อร่อยเหาะจริงๆ

จากความพยามยามให้มีวีระชน 14 ตุลา และ 6 ตุลา อ่านแล้วเข้าใจเลยที่คนพยายามบอกว่ามีแต่ปี 16 เท่านั้นที่เป็นของงจริง
เสียดายจัง

#465 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:31

สมศักดิ์กับแก๊งค์เด็กนรกอยู่ตรงใหนของวิวัฒนาการนี้
คำตอบง่ายๆ ครับ คือปลวกที่กัดเซาะประชาธิปไตยมวลชน และมาถึงวันนี้ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม
สมศักดิ์ด่าพวกรักเจ้าว่าเป็นตัวการทำให้เจ้าอ่อนแอ ที่แท้ตัวเองอ้างว่ารักประชาธิปไตยก็ทำประชาธิปไตยอ่อนแอเหมือนกัน
เพราะไม่ยอมรับว่า ประชาธิปไตยนั้น กลายเป็นเครื่องมือของเผด็จการทักษิณ เหมือนกองทัพเคยเป็นเครื่องมือของป๋า


ถูกใจประโยคนี้มากค่ะ...คือ ทั้งอ่าน ทั้งดูซีดี ดูดีวีีดี สารคดี ทั้งคุ้ยหอจดหมายเหตุ
ทั้งเรื่องเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

ไม่เคยมีชื่อ...นายสมศักดิ์...ปรากฎในช่วงใดของเหตุการณ์...

ยกเว้น ในประวัติที่สมศักดิ์ภูมิใจนักหนา...โดนจับพร้อมแกนนำอีก 18 ในวันที่ 6 ตุลา
19 แต่ในเอกสารอื่น ๆ ที่เคยอ่าน เคยดู ผ่านตา ไม่มีกล่าวไว้เลย...

วันนี้ได้มาอีก 1 เล่ม " ลำดับเหตุการณ์จาก 14 ตุลา - 6 ตุลาฯ " ของอาจารย์เกรียงศักดิ์
(จำนามสกุลไม่ได้แล้วค่ะขออภัย) มาพร้อม ซีดี...บันทึกไว้ค่อนข้างละเอียด..
(เท่าที่เปิดดูคร่าว) แต่ยังไม่ได้อ่านค่ะ

แต่...มาเก็บข้อมูลในกระทู้นี้...เข้าใจง่ายกว่า. :lol: :lol:

สุดท้าย...ขอบคุณท่านผู้รู้ทุกท่านน่ะค่ะ ที่กรุณาบอกเล่าเรื่องราวเป็นวิทยาทานแต่คนรุ่นหลัง... :wub:

Edited by bird, 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:32.


#466 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:34

ความจริงลังเลที่จะโพสเรื่องนี้เหมือนกัน แต่พอน้าชดเอ่ยออกมา ก็ทำให้สรุปความคิดตัวเองได้ มาลองดูว่าสมศักดิ์คิดยังไง

.
.
พูดง่ายๆก็คือ สมศักดิ์กำลังล่อให้คนเข้าไปถก เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในเรื่องที่สมศักดิ์เตรียมการมา (เขาเตรียมการมาก่อนเรา เราต่างหากที่เพิ่งเตรียมไปสู้)
.
.
แล้วสมศักดิ์ล่ะ คิดหรือว่าเขาจะเกิดอารมณ์ขุ่นมัว ในเมื่อเราเดินเข้าไปในทางของเขาที่ต้องการให้คนออกมาถกกันเรื่องสถาบันอยู่แล้ว


Posted Image
http://www.facebook....&type=1


คุณamplepoorคิดยังไงที่สมศักดิ์ลองออกมาตำหนิโอ๊กอย่างสุภาพ จนเกิดเรื่องราวระหว่างพวกเดียวกัน?

Edited by ดราม่า, 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:38.

"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#467 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:59

คุณamplepoorคิดยังไงที่สมศักดิ์ลองออกมาตำหนิโอ๊กอย่างสุภาพ จนเกิดเรื่องราวระหว่างพวกเดียวกัน?


โอ๊คคือทักษิณครับ
แตะโอ๊คคือแตะทักษิณ เพียงแต่ยังเหลือทางถอย
เพราะตอนนี้ธิดาแดงกับวอเจตน์ขึ้นหิ้งไปแล้ว ....แล้วป๋มล่ะ
นอกจากซื้อโอเลี้ยงแล้ว ป๋มยังด่าเจ้าได้นะ....ฮา

เพื่อนสนิทของสมศักดิ์ รับใช้ทักษิณทั้งนั้น สมศักดิ์มีดีอะไรจะเป็นข้อยกเว้น
นิสัยของสมศักดิ์คือ ชอบโชว์เหนือ ในขณะที่คนอื่นโชว์ใต้
การแตะโอ๊ค เป็นการส่งสัญญานไปถึงทักษิณว่า พวกตุลาชินเพื่อนป๋ม มันไม่เจ๋งเท่าป๋มหร็อก
มันไกด์ลูกท่านไปที่ขอบเหว

เพื่อนมันก็เลยตอบมาว่า
กรูมีมวลชนโอ๊คของกรูเหมียนกัล อีกหน่อยแฟนเพจกรู จะแซงเมิง


เหอๆๆๆๆๆ

#468 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:24

นิสัยของสมศักดิ์คือ ชอบโชว์เหนือ ในขณะที่คนอื่นโชว์ใต้


ผมว่าทำให้สมศักดิ์ได้เห็นว่า มวลชนที่คิดว่าตัวเองมี ที่แท้แล้วของทักษิณทั้งนั้น

แต่สมศักดิ์อาจถูกหยิบมาใช้ ก็ต่อเมื่อฝ่ายการเมืองต้องการเข้าไปบริหารสนง.ทรัพย์สินฯนั่นแหละ
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#469 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:16

ขออนุญาตคุณแอม และ ทุกท่านที่ได้แสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้
นำไปเรียบเรียง แต่ยังให้คงไว้ในลักษณะการพูดคุยดังเช่นในกระทู้นี้
โดยจะตัดคอมเม้นท์ที่ไม่เกี่ยวข้องออกบ้าง เพื่อให้ง่ายต่อการติดตาม
นำไปเผยแพร่ในเพจที่สร้างไว้ค่ะ

เรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

bird : 10 สค. 2555

Edited by bird, 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:02.


#470 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:21

ขออนุญาติคุณแอม และ ทุกท่านที่ได้แสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้
นำไปเรียบเรียง แต่ยังให้คงไว้ในลักษณะการพูดคุยดังเช่นในกระทู้นี้
โดยจะตัดคอมเม้นท์ที่ไม่เกี่ยวข้องออกบ้าง เพื่อให้ง่ายต่อการติดตาม
นำไปเผยแพร่ในเพจที่สร้างไว้ค่ะ

เรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

bird : 10 สค. 2555


ยินดีครับ ขอบคุณล่วงหน้า

ปล
อนุญาติ.....ต้องสะกดอย่างนี้จ้า

อนุญาต

ไม่มีสระ อิ


อิอิ

Edited by amplepoor, 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:22.


#471 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:03


ขออนุญาติคุณแอม และ ทุกท่านที่ได้แสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้
นำไปเรียบเรียง แต่ยังให้คงไว้ในลักษณะการพูดคุยดังเช่นในกระทู้นี้
โดยจะตัดคอมเม้นท์ที่ไม่เกี่ยวข้องออกบ้าง เพื่อให้ง่ายต่อการติดตาม
นำไปเผยแพร่ในเพจที่สร้างไว้ค่ะ

เรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

bird : 10 สค. 2555


ยินดีครับ ขอบคุณล่วงหน้า

ปล
อนุญาติ.....ต้องสะกดอย่างนี้จ้า

อนุญาต

ไม่มีสระ อิ


อิอิ


แก้ไขให้แล้วค่ะ...
ขอบคุณค่ะ..ทั้งเรื่องอนุญาต และ แก้ไขคำผิดค่ะ.. :lol: :lol:

#472 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:14

เอาสสรรนิพนธ์เหมาเจ๋อตงมาให้อ่าน แต่เฉพาะคำนำนะครับ
สมศักดิ์ลอกแบบวิธีเขียนมาทั้งหมด...มันจึงอ่านแล้วผะอืดผะอม เพราะลีลามากมาย

อย่างเช่น บอกทำไมว่า มีการแก้ไข มีการทำอะไรโน่นนี่ เอาอัไรเข้าเอาอะไรออก
เฮ้อ...เหมือนพวกเสมียนจัดขยะเลย ทำอะไรตรงใหนก็ไปหมายเหตุไว้ตรงนั้นสิ
หรืออยากจะอวดว่าเป็นคนละเอียด ก็ใช้วิธีพิมพ์ตัวบทไว้ข้างนึง หมายเหตุและคำอธิบายไว้อีกข้างนึง

คนเก่ง ไม่เรื่องมากหรอก เขาไม่มีเวลามาประดิษฐประดอย....แต่สมศักดิ์ชอบบอกว่า ผมมีเวลาน้อย...แล้วก็แพล่มๆๆๆๆๆๆ ยาวยืด บางทียาวจนผมเลิกอ่าน


คำชี้แจงต่อไปนี้เป็นคำชี้แจงบางประการในด้านการจัดพิมพ์:

๑. สรรนิพนธ์ที่จัดพิมพ์ในบัดนี้ยังไม่สมบูรณ์ทีเดียวนัก เนื่องจากเอกสารบันทึกการปฏิวัติบ้าง ถูกพวกปฏิกิริยาก๊กมินตั๋งเผาผลาญทำลายไป บ้างสูญหายกระจัดกระจายไปในระหว่างสงครามปฏิวัติอันยาวนาน เวลานี้เราจึงยังไม่สามารถรวบรวมบทนิพนธ์ทั้งหมดของสหายเหมาเจ๋อตุงให้ครบถ้วนได้, โดยเฉพาะจดหมายและโทรเลขจำนวนมากที่สหายเหมาเจ๋อตุงได้เขียนไว้ (ซึ่งมีอยู่มากในงานเขียนของสหายเหมาเจ๋อตุง).

๒. บทนิพนธ์บางเรื่องซึ่งเคยแพร่หลายมาก่อน เช่นเรื่อง “การสำรวจชนบท” เราได้ปฏิบัติตามความเห็นของผู้นิพนธ์, มิได้จัดเข้าไว้ในสรรนิพนธ์; และเช่นเรื่อง “ปัญหาเศรษฐกิจกับปัญหาการคลัง” ก็ได้ปฏิบัติตามความเห็นของผู้นิพนธ์ จัดเข้าไว้เพียงบทที่ ๑ ของเรื่องนั้น (คือบท “ข้อสรุปโดยพื้นฐานเกี่ยวกับงานที่แล้วมา”).

๓. ในสรรนิพนธ์ชุดนี้ได้ทำหมายเหตุไว้บ้าง. ส่วนหนึ่งเป็นคำอธิบายหัวเรื่องซึ่งผนวกไว้ข้างท้ายของหน้า ๑ ในแต่ละเรื่อง; ส่วนอื่น ๆ นั้นมีทั้งหมายเหตุที่มีลักษณะการเมืองและหมายเหตุที่มีลักษณะเทคนิค ซึ่งได้ผนวกไว้ตอนท้ายสุดของเรื่อง.

๔. สรรนิพนธ์ชุดนี้ (ฉบับภาษาจีน) ได้เย็บเล่มเป็น ๒ ชนิด. ชนิดหนึ่งรวมบทนิพนธ์ในแต่ละสมัยเย็บเป็นเล่มเดียว อีกชนิดหนึ่งแยกเป็น ๔ เล่ม. เล่ม ๑ รวมบทนิพนธ์ในสมัยสงครามปฏิวัติภายในประเทศครั้งที่ ๑ (ปี ๑๙๒๔-๑๙๒๗) และสมัยสงครามปฏิวัติภายในประเทศครั้งที่ ๒ (ปี ๑๙๒๗-๑๙๓๗); เล่ม ๒ และเล่ม ๓ รวมบทนิพนธ์ในสมัยสงครามต่อต้านญี่ปุ่น (ปี ๑๙๓๗-๑๙๔๕); เล่ม ๔ รวมบทนิพนธ์ในสมัยสงครามปฏิวัติภายในประเทศครั้งที่ ๓ (ปี ๑๙๔๕-๑๙๔๙).


ผมไม่ให้ลิ้งค์ไว้นะครับ


#473 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:14

เพิ่งรู้ว่าหงอกเจียมมันถามซ้ำเป็นหนังวนมานานแล้ว
ไอ้ผมก็เอามานอนคิดทุกคืน ที่แท้มันไม่ได้ต้องการคำตอบ
เสียเวลาวาดการ์ตูนชิบเป๋ง
มันแค่ทำในสิ่งที่มันกล่าวหา แต่ทำซะเองคือ
กำลังล้างสมองคนให้จำฝังหัวเรื่องคำถาม
ถามซ้ำๆๆๆๆๆๆๆๆ จนจำฝังหัวแล้วเอาไปสงสัยตามมัน
พอเซก็โดนชุดข้อมูล"เรื่องลับวงใน"โจมตีให้คล้อยตาม
ผมเคยดูคลิป ดูรูป ดูอะไรมากมาย เล่นเอาเซ แต่ก็ค่อยๆคิดจนเข้าใจ
ว่าผลรอบๆด้านที่สำคัญกว่า ว่าสำคัญแค่ไหน
หลายคนคงเป็นแบบผม บางเรื่องรู้แต่ไม่พูด ไม่ต่อยอด เก็บไว้ในใจ
คิดแต่ผลดีที่ตามมาว่าทำไมเราจึงควร "รักในหลวง"


คุณ SPDZ ก้าวข้ามไอ้บ้านี่ได้แล้วครับ ยินดีด้วย ต่อล้อต่อเถียงกับมันมาก มันจะยิ่งได้ใจ
ผมเสนอว่าการตูน 3 ช่องเสรีไทยน่าจะมีสมศักดิ์เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวละครที่นำมาใช้บ่อยๆด้วยนะครับ

#474 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:19

คุณ spdz บอกว่ายังทำใจไม่ได้

#475 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:28

เห็นด้วยเลย
สมศักดิ์สามช่อง


ฮา

รับรองมุกกระจาย...เริ่มที่หลอดยาสีฟันก็ได้
หัวล้านได้หวี ตาบอดได้แว่น....ฟันผุ ได้ยาสีฟัน
หรือ...ยาสีฟันยี่ห้ออะไร บีบจนแบนแค่ใหน ก็แก้โรคปากหมานม่ายล่ายยย

#476 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:29

กระทู้มีสาระแบบนี้ต้อง

ผลักขึ้นไปหน้า 1 :)

#477 naichod

naichod

    ?

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,476 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:04

เห็นด้วยเลย
สมศักดิ์สามช่อง


ฮา

รับรองมุกกระจาย...เริ่มที่หลอดยาสีฟันก็ได้
หัวล้านได้หวี ตาบอดได้แว่น....ฟันผุ ได้ยาสีฟัน
หรือ...ยาสีฟันยี่ห้ออะไร บีบจนแบนแค่ใหน ก็แก้โรคปากหมานม่ายล่ายยย


ผมเห็นด้วยนะครับ

นี่แหละ หนึ่งไอเดียบรรเจิดเลยที่เราสามารถดึงให้สมศักดิ์ มาเล่นในเกมของเราได้ ถ้ามันกล้าเข้ามา

มันดึงคนไปเล่นในเกมที่มันวางแผนไว้อย่างดีได้ฉันใด เราก็ต้องมีวิธีดึงมันมาเล่นในเกมของเราฉันนั้น ไอเดียนี้ ผมว่าดีครับ เพราะเข้าใจง่ายๆ และที่สำคัญ มันเป็นเกมของเรา เรากำกับได้ ว่าจะให้ไปทางไหน ถ้ามันกล้าเข้ามาเล่นนะครับ เข้าทางเลย หากมันไม่เข้ามาเล่น อย่างน้อย ก็จะเหมือนตอนแรกๆที่สมศักดิ์ขาบจ้วงสถาบัน และยังหาคนไปเถึยงไม่ได้ มันก็ยิ่งพูด ความก็ยิ่งขยาย เราก็เอาแบบนั้นบ้างมาเล่นในเกมของเรา มันเข้ามา ก็ต้องเล่นในเกมที่เราวางไว้แล้ว มันไม่เข้ามา เรื่องของเราก็จะขยายออก มีแต่บวกครับ

ขอบคุณในความคิดนี้จริงๆ
Nul plus que nous. À moins que nous sommes à genoux à la sienne.No one higher than us. Unless we kneel to his own.

#478 naichod

naichod

    ?

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,476 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:11

ขออนุญาตเสริมเล็กน้อยครับ

1. เราทราบกันหรือไม่ว่า จุดแข็งในตัวสมศักดิ์ที่เขามีคืออะไร?

2. เราทราบกันหรือไม่ว่า อะไรคือจุดอ่อนหรือ จุดด้อยของสมศักดิ์ ?ไม่ว่าจะเรื่องพฤติกรรมทางการเมืองหรือส่วนตัว

หากสองข้อนี้ เราช่วยกันทำการบ้าน ผมเชื่อว่า เราตีสมศักดิ์ตกคูได้ ครับ
Nul plus que nous. À moins que nous sommes à genoux à la sienne.No one higher than us. Unless we kneel to his own.

#479 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:33

ขออนุญาตเสริมเล็กน้อยครับ

1. เราทราบกันหรือไม่ว่า จุดแข็งในตัวสมศักดิ์ที่เขามีคืออะไร?

2. เราทราบกันหรือไม่ว่า อะไรคือจุดอ่อนหรือ จุดด้อยของสมศักดิ์ ?ไม่ว่าจะเรื่องพฤติกรรมทางการเมืองหรือส่วนตัว

หากสองข้อนี้ เราช่วยกันทำการบ้าน ผมเชื่อว่า เราตีสมศักดิ์ตกคูได้ ครับ



คำถามที่กว้าง แต่น่าคิด......เซียร์มันพยายามสร้างภาพฝังจำให้กับคนอ่าน โดยวาดให้อภิสิทธิ์เป็นหุ่นเชิด มีมือที่ป่วยชักใย ทำซ้ำๆ โดยหวังว่าจะกดศักดิ์ศรีของอภิสิทธิ์ลง ได้ผลหรือเปล่าเราไม่ทราบแน่ แต่มันใช้หากินมาสองปีเต็มๆ

คุณสปีดก็ต้องชั่งน้ำหนักตัวเอง ว่าจะระดมสรรพกำลังลงไปในเรื่องใด แล้วทำให้ทะลุ คือกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของตัวเอง จากนั้น เอาไปใช้ที่ใหน ลูกค้าก็จะจำได้และขยายความสนใจออกไปยังคนอื่น

เท่าที่ติดตามผลงาน ส่วนที่เด่นที่สุด คือการ์ตูนเหมือนจริง เช่นรูปในหลวงกับสุนัข รูปคุณพยาบาลกับน้องตั้น...พวกนี้ดูเมื่อไหร่ก็ยิ้มชอบ เกิดความนิยมยกย่อง คือเอาฝีมือเป็นเครื่องหมายการค้า
อีกส่วนที่เด่นมาก คือมุกที่เฉียบคม ซ่อนความนัย
ถ้ารวมสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน ผมเชื่อว่าจะเป็นภาพล้อที่คนต้องการ ซึ่งจะทำให้ส่งสาระได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลับมาที่จุดแข็งของสมศักดิ์ อันนี้ต้องดูสองทาง คือจุดแข็งที่สาวกยอมสยบ กับจุดแข็งที่เราตีเขายังงัยก็ไม่ล้มสักที
ผมคิดว่าสาวกนับถือสมศักดิ์อยู่สองเรื่อง หนึ่งคือกล้าด่าสถาบัน สองคือคิดว่าสมศักดิ์รู้จริง กุมความลับต่างๆ ไว้มากมาย
สองข้อนี่ ผมว่าต้องตีให้แตก

ส่วนจุดอ่อนนี่ ก็ต้องมองสองด้านเหมือนกัน ด้านที่ผมเห็น สมศักดิ์เป็นคนลวก งานวิชาการของเขามีแต่ข้อสังเกต ไม่สามารถประมวลข้อมูลออกมาเป็นชุดความรู้ แล้วยังทำแต่งานยิบย่อย อย่างกรณีสวรรคต ผลงานก็ยังสู้คนอื่นที่ทำเรื่องเดียวกันไม่ได้ จะบอกว่าเป็นมดเดินดินก็คงได้ มองเห็นแต่รากฝอยของผืนดินทางวิชาการทั้งโลก

จุดอ่อนอีกข้อเห็นจะเป็นที่หน้าตา เป็นคนที่ยิ่งแก่ยิ่งอัปลักษณ์ ทุกวันนี้ ไอ้ตู่หล่อแซงหน้าไปแล้ว....ฮา

#480 วิญญูชน

วิญญูชน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 212 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:16

ผมว่า คนเราติดนิสัยแบบนึง คือชอบรู้เรื่องที่ลึกลับ ตัวกูรู้เรื่องที่คนอื่นไม่รู้ มันทำให้รู้สึกเหนือกว่าคนอื่น

สาวกไอ้หงอกคงคิดแบบนี้

#481 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:22

จัดทำงบประมาณแผ่นดิน ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2439 โดยแยกพระราชทรัพย์ของพระองค์ออกจากรายได้ของแผ่นดิน ตั้ง พระคลังข้างที่ ขึ้นสำหรับจัดการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สำหรับรายได้ภาษีอากรของแผ่นดิน ให้พระคลังมหาสมบัติเป็นผู้ควบคุมดูแล

สมัยร.5 จะมีงบสำหรับพระคลังข้างที่ปีละ 6 ล้านบาท


ผมลืมเพิ่มรายละเอียดตรงนี้ไป ทั้งที่มีความสำคัญมาก
การทำงบประมาณแผ่นดิน ผมเคยเล่าไปแล้วว่า เพราะเราต้องกู้เงินมาทำทางรถไฟ เพื่อจะไม่ต้องให้อังกฤษมาขอสัมปทาน ซึ่งจะทำให้เกิดที่เช่าผ่ากลางประเทศเป็นเวลา 100 ปี ......ที่ปรึกษาฝรั่งก็จัดทำแผนงานสำเร็จแล้ว ขาดแต่งบดุลประเทศที่ต้องแนบไปด้วย ทำให้เกิดการทำงบประมาณเป็นครั้งแรก

สมเด็จดำรงบอกว่า ฝรั่งอึดอัดใจเพราะจะต้องลงในรายจ่ายประจำว่า เงินเดือนพระเจ้าแผ่นดินมีจำนวนผูกมัดปีละเท่าไร ไม่มีใครกล้ายกประเด็นนี้ทูลถาม จู่ๆ ก็พระราชทานลงมาเองว่า ปีละ 6 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นคิดว่าน่าจะพอ...แต่แล้วก็ไม่พอ

ประเด็นของผมก็คือ ไม่ว่าจะทรงใช้เงินไปเท่าไรในการเสด็จยุโรปครั้งที่ 2 คราวไกลบ้าน ก็เป็นเงินส่วนพระองค์ เพราะครั้งนี้เสด็จรักษาตัว อาจจะเรียกว่าเป็นซาบาตติเคิล ลีฟก็คงได้ มีการแยกส่วนของค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลออก กับที่ทรงออกเองไว้ชัดเจน

การที่ยกข่าวพวกนี้มาเพื่อจะโจมตีว่าทรงฟุ่มเฟือยนั้น หากว่าจริงก็เงินท่าน ไม่ใช่เงินแผ่นดิน คนที่อยากจะโจมตีราชสำนักเรื่องการใช้จ่าย จะต้องมีหลักคิดที่ชัดเจนถูกต้องเสียก่อน สมัยนั้นผู้ชายมีเมียมาก (เฮอะ...มาร์กส์เอง ยังมีเมียมากเลย) ก็ต้องไปหาข้อมูลมาโจมตีอย่างถูกต้องว่า ที่ท่านเลี้ยงเมียน่ะ ใช้เงินแผ่นดินหรือเงินส่วนพระองค์

#482 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:26

ผมว่า คนเราติดนิสัยแบบนึง คือชอบรู้เรื่องที่ลึกลับ ตัวกูรู้เรื่องที่คนอื่นไม่รู้ มันทำให้รู้สึกเหนือกว่าคนอื่น

สาวกไอ้หงอกคงคิดแบบนี้


คอมมิวนิสต์ไทย ใช้เรื่องนี้หากินมาแต่ใหนแต่ไรแล้วครับ
มันเป็นอาวุธมวลชนที่สำคัญอย่างหนึ่ง....ผมจำได้ว่าเมื่อในหลวงประชวรครั้งสำคัญสัก 20 ปีก่อน(อาจจะจำผิด) จนต้องมีการสวดมนต์ทั่วประเทศ ฝ่ายซ้ายในเมืองเล่นข่าวลือกันอย่างหนัก

กลเม็ดนี้ ใช้หากินได้ ไม่จำกัดพ.ศ. ครับ

#483 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:34


ผมว่า คนเราติดนิสัยแบบนึง คือชอบรู้เรื่องที่ลึกลับ ตัวกูรู้เรื่องที่คนอื่นไม่รู้ มันทำให้รู้สึกเหนือกว่าคนอื่น

สาวกไอ้หงอกคงคิดแบบนี้


คอมมิวนิสต์ไทย ใช้เรื่องนี้หากินมาแต่ใหนแต่ไรแล้วครับ
มันเป็นอาวุธมวลชนที่สำคัญอย่างหนึ่ง....ผมจำได้ว่าเมื่อในหลวงประชวรครั้งสำคัญสัก 20 ปีก่อน(อาจจะจำผิด) จนต้องมีการสวดมนต์ทั่วประเทศ ฝ่ายซ้ายในเมืองเล่นข่าวลือกันอย่างหนัก

กลเม็ดนี้ ใช้หากินได้ ไม่จำกัดพ.ศ. ครับ


ผมว่า คนเราติดนิสัยแบบนึง คือชอบรู้เรื่องที่ลึกลับ ตัวกูรู้เรื่องที่คนอื่นไม่รู้ มันทำให้รู้สึกเหนือกว่าคนอื่น

สาวกไอ้หงอกคงคิดแบบนี้


คอมมิวนิสต์ไทย ใช้เรื่องนี้หากินมาแต่ใหนแต่ไรแล้วครับ
มันเป็นอาวุธมวลชนที่สำคัญอย่างหนึ่ง....ผมจำได้ว่าเมื่อในหลวงประชวรครั้งสำคัญสัก 20 ปีก่อน(อาจจะจำผิด) จนต้องมีการสวดมนต์ทั่วประเทศ ฝ่ายซ้ายในเมืองเล่นข่าวลือกันอย่างหนัก

กลเม็ดนี้ ใช้หากินได้ ไม่จำกัดพ.ศ. ครับ

ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ค่ะ
เรื่อง ที่ดิน เรื่องโครงการต่างๆ ก้เอามาดิสเครดิต
หาว่าเอาเงินภาษีไปใช้ทุกที บ้าง
คนกล่าวหา หรือตั้งใจใส่ความ เค้าไม่สนความจริงหรอกค่ะ เค้าสนว่าทำไงคนจะหลงเชื่อเค้ามากกว่า
คนไทยชอบเรื่องซุบซิบๆ ก็จริงแต่ลึกๆ ก็เป็นคนขี้ริษยา

#484 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:50

วิธีที่เขาใช้ที่น่ารังเกียจคือ เอางบประมาณมาดู แล้วบอกว่าหมวดพระมหากษัตริย์ใช้งบไปหมื่นกว่าล้าน เพื่อจะตีขลุมว่าสถาบันใช้เงินเปลือง ใครเคยศึกษาเรื่องงบประมาณมา จะไม่สรุปอย่างนั้น

แต่ละหน่วยงาน จะส่งรายการมาว่าปีใหม่มีการใช้จ่ายเรื่องอะไร ในนั้นจะมีการใช้เงินเรื่องเฉลิมพระเกียรติบ้างอะไรบ้าง เวลาสรุปก็เอามารวมเป็นหมวดเดียว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับสถาบันเลย ทุกบาททุกสตางค์ สส. เป็นคนอนุมัติ ไม่ใช่สถาบันขอและเอาไปใช้ เงินพวกนี้ก็อยู่ใต้ระบบตรวจสอบของสตง. เช่นเงินทำฝนเทียม ก็ตั้งเบิกตามผลงาน มีหน่วยงานรับผิดชอบชัดเจน(ดูข้างล่างครับ)

เงินที่ถวายโดยตรงนั้น ผ่านสำนักพระราชวัง ก็เป็นรายจ่ายประจำพวกเงินเดือน เหมือนๆ กับงบประมาณแผ่นดินทั้งระบบ ซึ่งมีงบลงทุน งบ R&D น้อยมากๆ ที่ท่านทำโครงการอะไรต่างๆ ส่วนมากก็มาจากเงินส่วนพระองค์ พอได้ผลก็ส่งต่อหาเจ้าภาพตัวจริง บางอย่างก็ทรงรับไว้ อย่างทุนที่ส่งวอเจตหรือนพดลเรียน กี่ล้านต่อหัว ท่านก็จ่ายให้ โดยไม่เรียกคืนแม้สักสลึง

http://www.dailynews...iculture/134004

ยกระดับ กรมฝนหลวง ...อีกก้าวของการช่วยเหลือเกษตรกร - ดินดีสม เป็นนาสวน

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม 2555

โครงการพระราชดำริฝนหลวง เป็นโครงการที่ก่อกำเนิดจากพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ที่ทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของพสกนิกรในถิ่นทุรกันดารที่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2498 ตามเส้นทางพระราชดำเนินทรงสังเกตเห็นว่ามีเมฆปริมาณมากปกคลุมท้องฟ้า แต่ไม่สามารถก่อรวมตัวกันจนเกิดเป็นฝนได้ เป็นเหตุให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ทรงคิดคำนึงว่าน่าจะมีมาตรการทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยให้เมฆเหล่านั้นก่อรวมตัวกันจนเกิดเป็นฝนได้ และทรงเชื่อมั่นว่าด้วยลักษณะของภูมิอากาศ และภูมิประเทศของประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคเขตร้อน และอยู่ในอิทธิพลของฤดูมรสุมของทวีปเอเชีย โดยเฉพาะฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งเป็นฤดูฝน และเป็นฤดูเพาะปลูกประจำปีของประเทศไทย จะสามารถดัดแปรสภาพอากาศให้เกิดเป็นฝนตกได้อย่างแน่นอน

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2512 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดตั้งหน่วยบินปราบศัตรูพืชกรมการข้าว และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในการสนองพระราชประสงค์ โดย ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบว่า พร้อมที่จะดำเนินการตามพระราชประสงค์แล้ว ดังนั้นในปีเดียวกันนั้นเอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำการทดลองปฏิบัติการจริงในท้องฟ้าเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2512 โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่งตั้งให้ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล เป็นผู้อำนวยการโครงการ และหัวหน้าคณะปฏิบัติการทดลอง เป็นคนแรก และเลือกพื้นที่วนอุทยานเขาใหญ่เป็นพื้นที่ทดลองเป็นแห่งแรก และได้รับรายงานจากราษฎรว่า เกิดฝนตกลงสู่พื้นที่ทดลองวนอุทยานเขาใหญ่ในที่สุด นับเป็นนิมิตหมายบ่งชี้ให้เห็นว่าการบังคับเมฆให้เกิดฝนเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เพื่อให้งานปฏิบัติการฝนหลวงสามารถปฏิบัติการช่วยเหลือเกษตรกรได้กว้างขวาง และได้ผลดียิ่งขึ้น รัฐบาลจึงได้ตราพระราชกฤษฎีกาก่อตั้ง สำนักงานปฏิบัติการฝนหลวง ขึ้นในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2518 เพื่อเป็นหน่วยงานรองรับโครงการพระราชดำริฝนหลวงต่อไป

ปัจจุบันสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรเป็นหน่วยงานระดับกองที่มีขนาดใหญ่ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากการแก้ปัญหาภัยแล้งแล้วยังมีภารกิจในการเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนต่าง ๆ ทั่วประเทศ การแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน รวมทั้งการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวงและการดัดแปรสภาพอากาศภายใต้สภาวะโลกร้อนและความผันแปรของภูมิอากาศโลก ขณะเดียวกัน งานด้านต่างประเทศสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรยังมีพันธกิจในการเป็นสมาชิกองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก และเป็นศูนย์กลางการดัดแปลงสภาพอากาศแห่งอาเซียนตลอดจนการประสานความร่วมมือกับต่างประเทศในการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีภายใต้สิทธิบัตรฝนหลวงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งปัจจุบันทรงมีพระบรมราชานุญาตแล้วรวม 6 ประเทศ

นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึง การจัดตั้งเป็น “กรมฝนหลวงและการบินเกษตร” ว่า เกิดขึ้นเนื่องจากกระทรวงเกษตรฯได้พิจารณาปริมาณงานและความสำคัญของภารกิจฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญของรัฐบาลในการรองรับโครงการพระราชดำริฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความทุกข์ยากอันเนื่องมาจากปัญหาขาดแคลนน้ำตาม พระราชประสงค์ และเป็นภารกิจที่ต้องปฏิบัติเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและความต้องการของเกษตรกรและผู้ใช้น้ำ ซึ่งไม่มีหน่วยงานอื่นใดรับผิดชอบโดยตรงหรือดำเนินการซ้ำซ้อนประกอบกับเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะเป็นพระบิดาแห่งฝนหลวง ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ

“แนวความคิดที่จะจัดตั้งกรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีมาหลายปีแล้ว แต่ได้รับมติเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 จนถึงรัฐบาลนี้ได้ผ่านการพิจารณาในระดับกระทรวง และเสนอร่างพระราชบัญญัติการจัดตั้งกรมฝนหลวง ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และนำเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบผ่านวาระแรกไปแล้ว ขณะนี้อยู่ในวาระการตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป ซึ่งจะทำให้การให้บริการไม่ติดขัดจำกัดในเรื่องงบประมาณและบุคลากร และจะรองรับภารกิจใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศที่นับวันจะรุนแรงมากยิ่งขึ้นด้วย”

โดยสรุป การจัดตั้งกรมฝนหลวงที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาฝนหลวงครั้งสำคัญ หลังจากที่ได้มีการพัฒนาและก้าวหน้ามาเป็นลำดับเพื่อให้การช่วยเหลือภาคการเกษตรของประเทศและประชาชนที่เดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำฝนมาเป็นระยะเวลาต่อเนื่องถึง 43 ปี และจะยังประโยชน์ต่อประเทศไทยอีกต่อไปในอนาคต.


#485 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:13

อ่านเจอมา


บทสัมภาษณ์ - ทองธัช เทพารักษ์
วันที่ 25 เมษายน 2552 เวลา : 14.10 น.
สถานที่ True coffee , Khaosan road
ผู้สัมภาษณ์ : โชติศักดิ์ อ่อนสูง , นภาวัลย์ สิทธิศักดิ์
ตามโครงการของมูลนิธิ 14 ตุลา ในการรวบรวมปากคำของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลเพื่อการศึกษาต่อไป

ผู้สัมภาษณ์ : หมายถึงพี่ก็โดนจับไปเป็นสามพันคนนั้น หรือเปล่าครับ
คุณทองธัช :
ใช่ครับ คุณรู้หรือเปล่า ผมนอนพังพาบอยู่กับใครบนถนนท่าพระจันทร์ สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล มันยังร้องไห้เลย ยังเด็กๆ กันอยู่
ผู้สัมภาษณ์ : มิน่าคุ้นๆ ครับ อยู่ในกุฏิเดียวกันใช่มั้ยครับพี่
คุณทองธัช :
ครับ ไม่รู้ไงว่ากุฏิเดียวกัน แต่โตมันร้องไห้ คงสะเทือนใจ เพราะว่ามันเป็นเด็กไง โตกับธงชัยมันมาหลังแล้วนะ ธงชัยมันเป็นนายก อมธ. โตมันยังร้องไห้ ผมก็บอกว่าร้องไห้ทำไมโต อายเขาไม่ต้องร้องไห้ โตมันก็อึกอึกอึกอยู่นั่นนะ โตมันเด็กกว่าผมนะ ติดคุกก็อยู่คุกเดียวกันอีก ตั้งแต่ออกมาผมไม่เคยเจอกันเลย แต่พอไปอ่านฟ้าเดียวกัน ผมก็เออโตยังใช้ได้มันไม่เสียแรงนะ ไม่เหมือนกับพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ ผมก็เคยประชุมกับพวกมัน ผมก็ไม่รู้ว่ามันหนีไปไหนโผล่มาอีกทีเป็นขายเม็มเบอร์สนามกอล์ฟนะ ผมรับไม่ได้ครับ นี่ก็คือผมสัมพันธ์กับพวกนี้หมดเลยนะ ผมรู้จักเกือบทุกคนแหละ เพราะว่าผมเป็นแกนนำไงครับ ผมก็ทำพวกนี้นะติดต่อประสานงาน


http://www.14tula.co...iew_tongtas.htm

#486 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:41

สมศักดิ์ ไอ้ตี๋ที่พร้อมจะเชื่อเรื่องที่ตัวเองชอบ
ผมเอารูปงานศพมาให้ชมก่อน เพราะเรื่องเกี่ยวกับงานสวดพระอภิธรรมนายพลคนสำคัญ ซึ่งจะต้องมีคนมากันเต็มศาลากว่านี้
รูปนี้เป็นงานศพทหารหาญทั้ง 9 กรณีฮ. ตก
Posted Image

ถามว่า งานระดับนี้ แขกที่ไปฟังสวด จะมีโอกาสคุยกันมากขนาดใหนครับ ยิ่งเป็นแขกระดับประธานพิธีด้วย นั่งเด่นเป็นสง่า ต่อให้มีคนนั่งด้วยก็คงได้แต่เอ่ยทักทายกันแล้วก็นั่งสำรวมจนเสร็จพิธี เสร็จพิธีก็ยังต้องเป็นเจ้าภาพประเคน หลังจากนั้นก็คงจะมีคนมาห้อมล้อม เสนอหน้าเพื่อแสดงตัว บอกลา...บล่าๆๆๆๆๆๆ

ถามว่า ประธานดังกล่าวจะเอาเวลาตรงใหน มาเล่าเรื่องราวยาวยืดเต็มไปด้วยรายละเอียดอย่างนี้ ขนาดเราอ่านอย่างเดียว ยังอ่านเมื่อยเลย ที่พิศดารก็คือ ช่วงเวลาที่สนทนากันได้ จะมีเสียงรบกวนจากหมู่คนในงานนับพัน แต่คู่สนทนาสามารถเก็บรายละเอียดการสนทนาได้ทุกเม็ด อัจฉริยะจริงๆ (ผมทำตัวจางเพราะไม่อยากให้ความสำคัญกับข้อความ แต่ต้องลงเพื่อให้เห็นว่ามันเป็นเรื่องแต่งที่ต้องนั่งจับเข่าสัมภาษณ์กันเท่านั้นแหละ จึงเก็บความได้ขนาดนี้)

แต่สมศักดิ์ไม่เหมือนผม เขาเชื่อเรื่องนี้ครับ เอาไปแต่งบทความต่อ.....เหอๆๆๆๆ
----------------
ระหว่างสวดพระอภิธรรม ข้าพเจ้าได้คุยกับพลเรือเอกสงัด เกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน คำบอกเล่าต่างๆของคุณสงัดในฐานะเป็นหัวหน้าคณะปฏิรูป 6 ตุลาคม 2519 และในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นความรู้ซึ่งคงไม่ค่อยมีคนทราบ ข้าพเจ้าจึงขอบันทึกไว้ดังต่อไปนี้....

คุณสงัดเล่าให้ฟังว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2519 มีข่าวลืออยู่ทั่วไปว่า จะมีทหารคิดก่อการปฏิวัติ เหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น ฝ่ายซ้ายกำลังฮึกเหิมและรบกวนความสงบอยู่ทั่วไป จึงได้กราบบังคมทูลขึ้นไปยังในหลวงที่เชียงใหม่ซึ่งประทับอยู่ภูพิงค์ราชนิเวศน์ในขณะนั้นว่า จะขอให้คุณสงัดซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด (กับพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการฯ) กับพลเอกบุญชัย บำรุงพงศ์ ผู้บัญชาการทหารบก พลอากาศเอกกมล เดชะตุงคะ ผู้บัญชาการทหารอากาศขึ้นไปเฝ้า แต่ในหลวงโปรดเกล้าฯให้คุณสงัดเข้าเฝ้าคนเดียว ทั้งๆที่ตั้งใจว่าถ้าเข้าเฝ้าทั้ง 3 คนก็จะได้ช่วยกันฟังนำมาคิดและปฏิบัติโดยถือว่าเป็นพรสวรรค์

เมื่อคุณสงัดไปเฝ้าในหลวงที่ภูพิงค์ราชนิเวศน์นั้นได้ไปโดยเครื่องบิน เข้าเฝ้าคนเดียวอยู่ราว 2 ชั่วโมงครึ่งในตอนบ่าย ไปวันนั้นและกลับในวันเดียวกัน คุณสงัดบอกว่าไม่เคยเข้าเฝ้าในหลวงโดยลำพังมาก่อนเลย คราวนี้เป็นครั้งแรก ได้กราบบังคมทูลให้ทรงทราบถึงสถานการณ์บ้านเมืองว่าเป็นที่น่าวิตก ถ้าปล่อยไปบ้านเมืองอาจจะต้องตกอยู่ในสถานะอย่างเดียวกับลาวและเขมร จึงควรดำเนินการปฏิวัติ

คุณสงัดเล่าต่อไปว่า อยากจะได้พรจากพระโอษฐ์ให้ทางทหารดำเนินการได้ตามที่คิดไว้ แต่ในหลวงก็มิได้ทรงรับสั่งตรงๆ คงรับสั่งแต่ว่าให้คิดเอาเองว่าจะควรทำอย่างไรต่อไป

คุณสงัดเห็นว่า เมื่อไม่รับสั่งตรงๆก็คงดำเนินการไม่ได้ จึงกราบบังคมทูลว่า ถ้าทางทหารยึดอำนาจการปกครองได้แล้วก็มิได้ประสงค์จะมีอำนาจเป็นใหญ่ต่อไป จึงอยากจะให้ฝ่ายพลเรือนเข้ามาบริหารประเทศ สมมุติว่าถ้ายึดได้แล้วใครจะควรเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากนั้น เสร็จแล้วคุณสงัดก็ได้กราบบังคมทูลรายชื่อบุคคลที่น่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีทีละชื่อ เพื่อจะได้พระราชทานความเห็น

คุณสงัดเล่าว่า ได้กราบบังคมทูลชื่อไปประมาณ 15 ชื่อ รวมทั้งคุณประกอบ หุตะสิงห์ หลวงอรรถสิทธิสุนทร คุณประภาศน์ อวยชัย คุณเชาว์ ณ ศีลวันต์ ด้วย แต่ก็ไม่ทรงรับสั่งสนับสนุนผู้ใด

เมื่อไม่ได้ชื่อบุคคลที่น่าจะเป็นนายกได้และเวลาก็ล่วงไปมากแล้ว คุณสงัดก็เตรียมตัวจะกราบบังคมทูลลากลับ แต่ก่อนจะออกจากที่เฝ้า ในหลวงได้รับสั่งว่า จะทำอะไรลงไปก็ควรจะปรึกษานักกฎหมาย คือ คุณธานินทร์ กรัยวิเชียร ผู้พิพากษาศาลฎีกาเสียด้วย คุณสงัดบอกว่าไม่เคยรู้จักคุณธานินทร์มาก่อนเลย พอมาถึงกรุงเทพฯก็ได้บอกพรรคพวกทางทหารให้ทราบแล้วเชิญคุณธานินทร์มาพบ

คุณสงัดบอกว่าได้ถามคุณธานินทร์ว่า ได้คุ้นเคยกับในหลวงมานานตั้งแต่เมื่อใด คุณธานินทร์บอกว่าไม่เคยเข้าเฝ้าในหลวงใกล้ชิดเลย แต่อย่างไรก็ดีคุณสงัดก็ได้เริ่มใช้ให้คุณธานินทร์เตรียมคำแถลงการณ์ต่างๆและเอกสารต่างๆให้พร้อม พิจารณาแล้วก็เก็บไว้ในตู้นิรภัยอย่างเอกสารลับ เพื่อจะนำไปใช้หลังจากการปฏิวัติแล้ว

คุณสงัดบอกต่อไปว่า ได้รอคอยโอกาสที่จะยึดอำนาจการปกครองอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้จังหวะ จนในที่สุดก็เกษียณอายุต้องออกจากราชการ เมื่อ 1 ตุลาคม 2519 เพื่อนฝูงนายทหารผู้ใหญ่ก็หาว่าคุณสงัดเตะถ่วง ซึ่งความจริงจะว่าจริงก็ได้ เพราะยังไม่มีเหตุผลหรือเหตุการณ์จะให้ทำเช่นนั้นได้ง่ายๆ และในหลวงก็ไม่ได้รับสั่งสนับสนุน

โดยที่คุณธานินทร์ได้ร่วมงานก่อการมาด้วยกันดังกล่าว คุณสงัดบอกว่า จึงไม่มีเหตุผลอย่างใดที่จะไม่กราบบังคมทูลให้ในหลวงตั้งคุณธานินทร์เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนข่าวลือที่ว่าคุณสงัดเสนอ 3 ชื่อ คือ คุณประกอบ คุณประภาศน์ และคุณธานินทร์ และในหลวงเลือกคุณธานินทร์นั้น ก็เป็นเรื่องเล่าๆกันไปอย่างนั้นเอง
http://www.2519.net/...s_id=13&d_id=21

ด้วยมาตรฐานอย่างนี้ การที่สมศักดิ์อ้างอิงวิกิลีกอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมาตรฐานอย่างนี้ แต่งเรื่องเสียเองก็ไม่เห็นจะแปลก

#487 SPDZ

SPDZ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,672 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:22

การ์ตูนเรื่องหงอกเจียมผมทำไปตอนเดียวที่คู่กับวรเจตเรื่อง"เสียงส่วนน้อย"
ที่ออกแบบไว้เป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ แต่จริงๆมันคืออวัยวะเพศชาย ที่ต่อแขน ต่อขา
คิดไว้คร่าวๆจะให้ออกมากึ่งทะลึ่งปนหยาบคาย ให้ถูกจริตเข้าถึงวัยทำงาน + นศ.
เข้ามาหาข้อมูลจากคุณแอม คุณดราม่า และท่านอื่นๆ อีกหลายท่าน เรื่องหงอกเจียม
ยอมรับว่าโคตรยาก ถ้าจะคิดมุกเพื่อเล่นงานหงอกเจียมแบบอิงประวัติศาสตร์คงไม่ไหว
ผมว่าจะนวดมันให้เป็นตัวตลกไปเท่าที่จะนึกมุกฉาบฉวยได้ไปก่อน
แต่ตอนนี้ยังนึกตอนต่อไม่ออก แฮ่~

การ์ตูนล้อการเมืองผมว่ามันยากกว่าที่คิดจริงๆ นับถือคุณชัย ราชวัตรมากๆ
ทำได้ยังไง วาดวันละตอนเป็นสิบปี มุกก็หลากหลาย


ยังมีการ์ตูนแก๊กที่ใช้คำพูดใส่ลงไปในช่อง เวลาคิดออกมันจะมาเป็นชุด
ที่เหนื่อยมากก็เป็นการ์ตูนภาพกึ่งเสมือนจริงมาใช้ประกอบมุกที่วางโครงให้สั้นๆ
บางมุกคิดออกแต่ไม่มีอารมณ์วาด บางทีมีเวลานั่งถือดินสอจนผ่านไป 2 วันยังวาดไม่ออกก็มี

ด้วยงานประจำก็หนัก(แต่รายได้น้อยนิด) งานผมเป็นงานเอกสารบ้าง ออกไปข้างนอกบ้าง
เลิกงานก็นั่งอ่าน นังดู นั่งฟัง เสพความบันเทิง กีฬา มอเตอร์ไซด์ หล่อเลี้ยงกิเลศตัวเอง
เวลาว่างวาดการ์ตูนก็ไปเบียดเวลานอนอีก ต้องขอบอกว่าบางช่วงก็หยุดไป 3-4 เดือนก็มี

แล้วยังมีโครงการเล็กๆที่อยากทำให้สังคมอีก อย่างวาดรูปสีน้ำให้คนที่อยากได้
เอาเงินไปให้ทหารที่บาดเจ็บจากไฟใต้ โดยไม่หักค่ากรอบรูป แล้วก็ไม่ต้องมาเจอตัวผม
ไม่อยากโดนนินทาว่าหาเงินจากตรงนี้เข้ากระเป๋า เลยไม่ต้องให้เงินผ่านมือผม

ปีใหม่ที่ทำมาหลายปีก็จะเอาเงินโบนัสหมื่นนึงมาอัด สคส.ในหลวงแจก
2 ปีหลังวาดรูปในหลวงเองแจกเพิ่มเข้าไปอีก (ปีใหม่ที่จะถึงยังคิดไม่ออกเลย)

ปกติผมใช้นามแฝงในโลกไซเบอร์มานานแล้ว พอมาทำงานที่อธิบายคร่าวๆนั้น
ก็ไม่อยากให้คนมาว่าทำเพื่อเงิน ทำเพราะอยากดัง เลยเริ่มตั้งนามแฝงซ้อนมันเข้าไปอีก
เรียกว่าโลกเสมือนที่ไว้ทำงานพวกนี้แยกกับโลกเสมือนบนโลกไซเบอร์
ที่แยกจากโลกความจริงอีกทีนึง >_<

ที่บ่นให้อ่านเนี่ยอยากให้เข้าใจพื้นฐานความคิดของผมคร่าวๆก่อน
เห็นว่าประชุมวางแผนกัน แบบว่าจะออกรบก็จะได้รู้ถึงข้อจำกัดกำลังพล
มนุษย์เงินเดือนจนๆที่ไม่พอใจรัฐบาลเสื้อแดงที่แสนชั่วจะทำอะไรได้มากกว่าวาดการ์ตูนระบายความคับแค้นใจhttp://webboard.seri...ยเว็บบอร์ดการ์/ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

#488 SPDZ

SPDZ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,672 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:38

Posted Image

ลงลึกคงไม่ไหว ผมตีกินฉาบฉวยแนวนี้ดีกว่า ทำแบบที่ไอ้เซียมันทำ ทำย้ำๆ ทำซ้ำๆ
มนุษย์เงินเดือนจนๆที่ไม่พอใจรัฐบาลเสื้อแดงที่แสนชั่วจะทำอะไรได้มากกว่าวาดการ์ตูนระบายความคับแค้นใจhttp://webboard.seri...ยเว็บบอร์ดการ์/ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

#489 SPDZ

SPDZ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,672 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:39

เออ..ตอนหงอกเจียมออกมาด่าโอ๊คว่าจะเอาตัวนี้มาเล่น
คิดมุกคร่าวๆไว้แล้ว ดันลืม เพิ่งนึกออก :wacko:
มนุษย์เงินเดือนจนๆที่ไม่พอใจรัฐบาลเสื้อแดงที่แสนชั่วจะทำอะไรได้มากกว่าวาดการ์ตูนระบายความคับแค้นใจhttp://webboard.seri...ยเว็บบอร์ดการ์/ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

#490 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 01:08

ที่บ่นให้อ่านเนี่ยอยากให้เข้าใจพื้นฐานความคิดของผมคร่าวๆก่อน
เห็นว่าประชุมวางแผนกัน แบบว่าจะออกรบก็จะได้รู้ถึงข้อจำกัดกำลังพล


ทำงานด้วยความรัก ถือว่าไม่มีข้อจำกัด เพราะเราต้องการคุณภาพไม่ใช่ปริมาณ
อยากบอกว่า วาดรูปในหลวงแนวนี้ไปเรื่อยๆ ครับ ให้ได้เดือนละรูป
งานที่คุณทำไว้นี้ มีพลังอย่างมหาศาล หนึ่งคนได้ชมก็จะมีหนึ่งคนจงรักภักดี
จะเปิดเฟส อวดรูปอย่างเดียวก็ได้ ไม่ต้องใช้คำพูดเลย ใช้รูปพูดแทน

ส่วนการ์ตูนการเมือง ก็แล้วแต่อารมณ์ เฉพาะในเว็บนี้ก็สามหมื่นกว่าคลิกแล้ว
แปลว่าไม่ใช่งานเงียบๆ แน่ครับ

#491 แสนยานุภาพ

แสนยานุภาพ

    สปอร์ต กทม ใจดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,267 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 02:19

ผมไปอ่านกระทู้ที่ถูกล็อคมาครับ ... ถ้าไม่โดนล็อค ผมก็คงไม่เข้าไปอ่าน ....

ผมก็คนนอกนะครับ เกิดไม่ทันจริงๆฮะ แต่ความรู้สึกอย่างเดียวที่เข้าไปอ่านคือ

คำพูดที่ใช้พูดกัน รุนแรงมาก ครับ ทั้งๆ ที่มันเป็นกรณีพิพาทคนแค่ สอง สาม คน




จนไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือกลุ่มที่เคยต่อต้านแดง.... ได้อ่าน ได้เห็น ผมก็อนาจใจจริงๆ ครับ

#492 SPDZ

SPDZ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,672 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 02:43

คำพูดที่ใช้พูดกัน รุนแรงมาก ครับ ทั้งๆ ที่มันเป็นกรณีพิพาทคนแค่ สอง สาม คน
จนไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือกลุ่มที่เคยต่อต้านแดง.... ได้อ่าน ได้เห็น ผมก็อนาจใจจริงๆ ครับ


มีชมว่าแม่ยิ้มด้วยอ่ะ สุดยอดแล้ว ผมไม่ใช้คำว่าอนาถนะ กับถ้อยคำที่ใช้กัน
ผมรู้สึกว่าทุเรศจนรับไม่ได้เลยแหละ น่ารังเกียจมาก
อยากเอาชนะกันจนแก้ผ้าล่อนจ้อน ด่าเค้าเฝือก แต่สิ่งที่ตัวเองกำลังทำ
ก็คือไปเฝือกเรื่อง คน 2 คนที่เถียงกันเรื่องโกหก อ้างนู่นนี่นั่น บลาๆๆๆ
ทำไปเพื่ออะไร โคตรจะเลอะเทอะ ถอนหงอกตัวเองให้เด็กดูซะงั้น
ไร้ซึ่ง...เฮ้อ นี่ผมบ่นให้คุณอ่านเฉยๆนะครับ
มนุษย์เงินเดือนจนๆที่ไม่พอใจรัฐบาลเสื้อแดงที่แสนชั่วจะทำอะไรได้มากกว่าวาดการ์ตูนระบายความคับแค้นใจhttp://webboard.seri...ยเว็บบอร์ดการ์/ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

#493 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 02:44

ผมไปอ่านกระทู้ที่ถูกล็อคมาครับ ... ถ้าไม่โดนล็อค ผมก็คงไม่เข้าไปอ่าน ....
ผมก็คนนอกนะครับ เกิดไม่ทันจริงๆฮะ แต่ความรู้สึกอย่างเดียวที่เข้าไปอ่านคือ
คำพูดที่ใช้พูดกัน รุนแรงมาก ครับ ทั้งๆ ที่มันเป็นกรณีพิพาทคนแค่ สอง สาม คน
จนไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือกลุ่มที่เคยต่อต้านแดง.... ได้อ่าน ได้เห็น ผมก็อนาจใจจริงๆ ครับ

เรื่องย่อๆ ก็คือ คุณหมีกล่าวหาว่านายชดโกหก
นายชดก็อธิบายว่าไม่โกหก.......เรื่องมีแค่นี้จริงๆ
จะว่าเล็กก็คงไม่เล็ก แต่ถ้าเป็นเรื่องแค่สองคนจริงๆ ก็คงไม่ถูกล๊อค
ก็ว่ากันไปตามหลักฐาน โดนกล่าวหาก็แก้ตัวไป ฝ่ายกล่าวหาก็ต้องจับผิดออกมาให้ได้

ปัญหาอยู่ที่กองเชียร์ ผมถือหางนายชดเพราะยังไม่เห็นเหตุผลว่าโกหกทำไม
โต้แย้งออกไปก็ใช้ถ้อยคำเกินเลยไปบ้าง ก็อาจจะเป็นสาเหตุให้ถูกล๊อคกระมัง
แต่ป่วยการสนใจครับ คนไม่ชอบแดงก็ไมใช่ว่าจะต้องชอบกันนี่ ใช่ใหมครับ
เพื่อนผมเป็นแดง ผมยังรักเขามากกว่าเพื่อนที่ไล่แดง
เพราะมิตรภาพมันเลยการเมืองเรื่องสี ตราบใดที่เขาไม่ล้มเจ้าไม่เผาเมือง

#494 แสนยานุภาพ

แสนยานุภาพ

    สปอร์ต กทม ใจดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,267 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 02:55

ผมก็เข้าใจนะฮะ ... มันก็ต้องมีกองเชียร์อยู่แล้วล่ะ (ตอนนี้ผมอ่านถึงหน้าสี่)

แต่ทีนี้ ผมแค่ไปเจอความเห็นหนึ่งซึ่งก็ใส่อารมณ์เกินไป ทั้งๆ อีกฝ่ายหนึ่งก็สุภาพแท้ๆ เป็นผม ผมก็เสียความรู้สึกนะ

แต่ช่างเหอะครับ เรื่องมันจบไปละ และผมอาจจะง่วงนอนแล้วก็ได้

#495 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 03:10

จะอ่านให้สนุก ต้องอ่านแบบครูตรวจเรียงความเด็กครับ
ซึ่งผมก็ใช้วิธีนี้ในการอ่านข้อเขียนของสมศักดิ์ หรือซ้ายอคติทุกคน
ถ้าเราวางเฉยเสียแล้ว ข้อความที่อคติจะลอยออกมากระทบความรู้สึกเอง
อีกวิธีก็คืออ่านทวนหลายๆ เที่ยวในประโยคสำคัญๆ ประโยคความจริงจะไม่ทำให้เราอึดอัด

และวิธีสุดท้าย คืออ่านอย่าให้จบประโยค หยุด....... แล้วค่อยอ่านต่อ
ความไม่ประติดประต่อ ก็ช่วยเปิดมุมมองได้เช่นกัน

#496 แสนยานุภาพ

แสนยานุภาพ

    สปอร์ต กทม ใจดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,267 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 03:27

อ่านได้ถึงหน้าเจ็ด เดี๋ยวติดไว้ก่อน พรุ่งนี้มาอ่านต่อ ตอนนี้ตาลายหมดแล้วครับ

ปล. ผมอ่านผ่านๆ เพราะตอนแรกไม่ได้สะดุดอะไรมาก แต่ตอนนี้คิดจะย้อนกลับไปหาก็ง่วงสุดๆเลยครับ มีข้อที่ติดใจอยู่ว่า ใครเป็นคนบอกว่า คุณเสงี่ยม เปลี่ยนชื่อเป็น การะเกด ผมเห็นตอนแรกเป็นคุณหมี ผมก็จำไม่ค่อยได้แล้ว แล้วนายชดได้ยืนยันหรือเปล่าว่า ยัยเหงี่ยม เปลี่ยนชื่อเป็น การะเกดเหมือนกัน หรือคนที่บอกว่า เสงี่ยมเปลี่ยนชื่อเป็นการะเกดคนแรกคือนายชด

ไว้ผมมาอ่านใหม่นะครับ

ราตรีสวัสดิทุกท่าน

#497 วันศุกร์

วันศุกร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 518 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 05:22


จัดทำงบประมาณแผ่นดิน ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2439 โดยแยกพระราชทรัพย์ของพระองค์ออกจากรายได้ของแผ่นดิน ตั้ง พระคลังข้างที่ ขึ้นสำหรับจัดการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สำหรับรายได้ภาษีอากรของแผ่นดิน ให้พระคลังมหาสมบัติเป็นผู้ควบคุมดูแล

สมัยร.5 จะมีงบสำหรับพระคลังข้างที่ปีละ 6 ล้านบาท


ผมลืมเพิ่มรายละเอียดตรงนี้ไป ทั้งที่มีความสำคัญมาก
การทำงบประมาณแผ่นดิน ผมเคยเล่าไปแล้วว่า เพราะเราต้องกู้เงินมาทำทางรถไฟ เพื่อจะไม่ต้องให้อังกฤษมาขอสัมปทาน ซึ่งจะทำให้เกิดที่เช่าผ่ากลางประเทศเป็นเวลา 100 ปี ......ที่ปรึกษาฝรั่งก็จัดทำแผนงานสำเร็จแล้ว ขาดแต่งบดุลประเทศที่ต้องแนบไปด้วย ทำให้เกิดการทำงบประมาณเป็นครั้งแรก

สมเด็จดำรงบอกว่า ฝรั่งอึดอัดใจเพราะจะต้องลงในรายจ่ายประจำว่า เงินเดือนพระเจ้าแผ่นดินมีจำนวนผูกมัดปีละเท่าไร ไม่มีใครกล้ายกประเด็นนี้ทูลถาม จู่ๆ ก็พระราชทานลงมาเองว่า ปีละ 6 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นคิดว่าน่าจะพอ...แต่แล้วก็ไม่พอ

ประเด็นของผมก็คือ ไม่ว่าจะทรงใช้เงินไปเท่าไรในการเสด็จยุโรปครั้งที่ 2 คราวไกลบ้าน ก็เป็นเงินส่วนพระองค์ เพราะครั้งนี้เสด็จรักษาตัว อาจจะเรียกว่าเป็นซาบาตติเคิล ลีฟก็คงได้ มีการแยกส่วนของค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลออก กับที่ทรงออกเองไว้ชัดเจน

การที่ยกข่าวพวกนี้มาเพื่อจะโจมตีว่าทรงฟุ่มเฟือยนั้น หากว่าจริงก็เงินท่าน ไม่ใช่เงินแผ่นดิน คนที่อยากจะโจมตีราชสำนักเรื่องการใช้จ่าย จะต้องมีหลักคิดที่ชัดเจนถูกต้องเสียก่อน สมัยนั้นผู้ชายมีเมียมาก (เฮอะ...มาร์กส์เอง ยังมีเมียมากเลย) ก็ต้องไปหาข้อมูลมาโจมตีอย่างถูกต้องว่า ที่ท่านเลี้ยงเมียน่ะ ใช้เงินแผ่นดินหรือเงินส่วนพระองค์


ไปอ่านมาจากเรือนไทย ถ้าจำได้ไม่ผิด เงินเดือนทหารรักษาพระองค์หรือค่าทำนุบำรุงวังต่างๆก็มาจากส่วนพระองค์ใช่มั้ยคะ แล้วก็ต้องจ่ายให้ครอบครัวต่างๆของพระองค์ท่านและของกษัตร์องค์ก่อนๆด้วยนี่ แล้วก็พอปีที่เปลี่ยนการปกครอง รัฐบาลนึกว่าเงินท่านเยอะแต่ที่ใหนได้มีไม่มากเท่าที่คิด ถ้าจำผิดพลาด ช่วยแก้ไขด้วยนะคะ

You can't fix stupid - Ron White

 

You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan

 

"A society is judged by how it treats its animals and elderly"


#498 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 07:54

ที่เค้าพยายามจงใจให้คนคิดคือ

โครงการในพระราชดำริ ที่กระทรวง ทบวง กรม รับเอาแนวพระราชดำริ ไปทำต่อต่างหากค่ะคุณแอม

พยายามบอกว่า เอาเงินเสียภาษีของพวกเราไป แล้วโครงการก็ไม่มีผลคืบหน้า

เล่นกันไม่เลิก

แถมมาเล่นเรื่องทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อีก

ที่รุ้งไม่เข้าใจคือ คนที่ดูท่าว่า สติดีหลายๆคน มีตำนานที่เลือกจะเชื่อ โทนเดียวกันไปหมด

กล่าวคือ โทนตามนิยายเสื้อแดง

หนึ่งถึงสืบเรื่อง ออกมาแนวนั้นทั้งหมด ฟังแล้วอึ้ง ต้องตั้งสติตาเหลือกเล็กน้อย

บน ลงล่างเลย


เอาง่ายๆแค่เรื่องน้ำ สองสามวันก่อนพูดว่า สงสารคุณปูเธอ ถูกวางยา เธอเพิ่งแถลงรับตำแหน่งไม่กี่วัน น่ำท่วมเลย

???? เหอ ข่าวแบบนี้เลยหรือ เราเลยบอกว่าเอ๊ ใครสั่งให้กักน้ำไว้ให้ชาวนาเกี่ยวข้าวก่อน ใครชวนแขกมาลงทุนทำนาเป็นแหล่งอาหารโลก

แกไม่วายพยายามด่าอปิ้สิด ด่า อะไรๆๆที่เหมือนออกมาจากเรื่องในตำนานแดง

คนพูดน่ะมีการศึกษาดี ตำแหน่งการงานดี นะนั่น


หรือตอนเสื้อแดงไปกลางเมือง ก็ว่า อปิ้สิทเลวมาก สั่งยิงปชช เฮ้ย

แกเชื่อแบบนั้น ได้ไง

#499 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:26

นอกเรื่องนิด
วันแม่นี้
ไอ้หงอกเจียมมัน
จะว่ายังน้อ

#500 naichod

naichod

    ?

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,476 posts

ตอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 10:13

ทักษิณและทีมงาน กำลังถางหญ้า ตัดต้นไม้ ในถนนสายที่เราเรียกว่า ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อที่ตนเองและพวกจะทำการสร้างถนนสายใหม่ ที่อาจเป็นชื่อว่า ประชาธิปไตย ในระบอบประธานาธิบดี อันนี้ เป็นสิ่งที่ผมคาดเดามานานพอควรแล้วครับ

หากจะมองให้ชัดเจนคงต้องลองไปศึกษาว่า ประชาธิปไตย แบบประธานาธิบดี ในโลกนั้น มีประเทศใดบ้าง และก็อาจพบว่า มันไม่สำเร็จอะไรนักกับการพัฒนาบ้านเมืองเลยสักนิด กลับทำให้บ้านเมืองมีแต่พวกคณาธิปไตย คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย และประชาชนย่ำอยู่ที่เดิม จะมีก็แต่ประเทศบางประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา แต่ถ้าหากมองย้อนไปถึงจุดกำเนิดประเทศอเมริกา(นั่นก็คือศึกษาประวัติศาสตร์ของเขา) ก็จะพบว่า มันแตกต่างกับเราๆ โดยสิ้นเชิง มันเกิดขึ้นจากอะไร ถ้าไม่ใช่คนจากหลายถิ่น แสวงหา new land คนละรูปแบบของการสร้างประเทศของเรา และหากมองไปตั้งแต่แรก กว่าที่อเมริกาจะมีวันนี้ มีความด่างพร้อยทางมนุษยพันธ์มากมายที่เกิดขึ้น เช่นการเข้าไปขับไล่ผู้อยู่ดั้งเดิม จำกัดสิทธิ ฯลฯ มีอะไรมากมายที่มันไม่ใช่ประชาธิปไตย มีอะไรมากมายที่ไร้จริยธรรมและไร้ยางอายเป็นที่สุด

การก่อร่างสร้างประเทศเขาจึงมีโครงสร้าง แนวคิด ต่างจากเราโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถนำเอามาเป็นกรณีศึกษาเทียบเคียงกับเราเลย ไม่ว่าจะช่วงใดของประวัติศาสตร์
แม้กระทั่งประเทศตั้งมาแล้ว ก็ตาม คิดว่าเป็นปึกแผ่นและประชาธิปไตยเสียเหลือเกินก็ตาม แต่หลายท่านก็คงทราบว่า กฏหมายริดรอนสิทธิประชาชนผิวสีนั้น เพิ่งจะยกเลิกกันไปไม่นานเอง (คนดำขึ้นรถเมล์คนขาวยังไม่ได้เลยครับ) และหลังจากการสร้างประเทศนานโขทีเดียว ทั้งที่ ทั้งคนผิวสี คนเผ่าดั้งเดิม ก็มีส่วนร่วมใน civil war เพื่อเรียกหา ความเสมอภาคและประชาธิปไตย

ย้อนกลับมาที่ประเทศไทย การก่อร่างสร้างประเทศของเรา เกิดจากผู้นำในระบอบสมบูรณายาสิทธิราช มาช้านาน
ผู้นำของประเทศที่เป็นกษัตริย์ เป็นผู้กอบกู้ประเทศด้วยสมอง ปัญญา และอำนาจเท่าที่มือในมือ ทั้งที่ประเทศเรานั้นด้อยพลังกว่าประเทศที่เป็นประเทศจักรวรรดินิยมในสมัยนั้นๆ

และนี่เป็นที่มาของวัฒนธรรมที่ฝังลึกในความคิดและสมองของลูกหลานไทยมาตลอด (ซึ่งประเทศอีกหลายประเทศในโลกก็เป็นลักษณะคล้ายกัน จนปัจจุบัน)

ที่สำคัญคือ พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์จวบจนปัจจุบันนั้น กล่าวได้เต็มปากว่า ทุกพระองค์มุ่งที่จะสร้างประเทศ สร้างพลเมืองในประเทศให้มีคุณภาพ ให้มีศักดิ์ศรีพอที่จะให้ประเทศที่มุ่งร้ายหวังเอาแผ่นดินนี้ไป เกรงขาม และหรือยอมรับในความเป็นคนศิวิไลซ์ (ซึ่งถ้าหากไม่ค่อยศิวิไลซ์ ก็จะเป็นข้ออ้างให้รุกรานเข้ามาของพวกล่าอาณานิคม)

นอกจากการทำนุบำรุงบ้านเมืองและประชาชน ที่เห็นได้ชัดมากๆตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เรื่อยมา ก็ยังปูรากฐานให้ประชาชนในประเทศได้ศึกษาทำความเข้าใจกับระบบการปกครองของประเทศที่เรียกตนเองว่า อารยะประเทศอีกด้วย

มีการพัฒนาการศึกษา เพื่อให้เกิดวิสัยทัศน์มองออกไปยังโลกภายนอกว่าเป็นอย่างไร เกิดอะไร เขาทำอะไรกัน และเราทำอะไร ต่อไปเราควรเดินไปทางใด การพัฒนาทางการทหาร เพื่อให้ประเทศมีกำลังและแสนยานุภาพพอจะป้องกันตนเองได้ ยามมีผู้มารุกราน ฯลฯ

กล่าวโดยรวมสรุปก็คือ พระมหากษัตริย์ ยังทรงเป็นแกนหลักในการสร้างบ้านเมือง และสร้างประชาชนในประเทศ ให้มีความเข้าใจและมีความรู้ที่ดีพอในการยืนหยัดกับโลกาภิวัฒน์ (ซึ่งโลกาภิวัฒน์นี้มันเริ่มมานานแล้วตั้งแต่อดีต ไม่ใช่เพิ่งเริ่ม) และที่เป็นสิ่งสำคัญของประเทศเราก็คือ คำว่า จริยธรรม

ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดเลยที่จะไม่แฝง ไม่ปลูกฝัง เรื่อง จริยธรรมความดีแก่ประชาชน เพราะนั่นคือ แกนหลักของการดำรงชีวิต ไม่ว่าคุณจะรอบรู้เพียงใดก็ขาดไปมิได้ในสิ่งนี้

มาจนปัจจุบัน แกนหลักในการดำเนินชีวิตที่กษัตริย์ไทยทรงให้แก่ประชาชนนั้นคืออะไร? คือ การสอนให้ประชาชนรู้จักการดำรงชีวิตจากสิ่งที่ตนเองมี และทำอย่างไรให้มันยั่งยืนไปจนลูกหลาน สอนให้ประชาชนรู้จักแนวคิดดีๆทางจริยธรรม เช่น การกตัญญูกตเวที (พรองค์ท่านได้แสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมประจักษ์แก่สายตาประชาชน กับสิ่งที่ทรงกระทำต่อ สมเด็จย่าฯ) ความสามัคคี ความยุติธรรม ผ่านทั้งทางพระบรมราโชวาท พระราชดำรัสในโอกาสสำคัญ และ การปฏิบัติให้เห็นจริงในโครงการหลวงหรือในหลายๆราชกรณียกิจ


แกนหลักของบ้านเมืองนี้ ก็คือ แบบอย่าง คำสอนที่ดีของ พระเจ้าอยู่หัว ของสถาบันที่มีแต่สิ่งดีๆเรื่อยมาจากอดีตจวบจนปัจจุบัน

ใครทำร้ายและทำลายแกนหลักได้ ไม่ว่าจะทางใด หรือแม้กระทั่งให้ชื่อเสียมัวหมอง หรือแม้กระทั่งทำให้คนเกิดความลังเลได้ ก็เท่ากับว่า ได้ทำลายพลานุภาพอันเป็นกุศลต่อบ้านเมืองและประชาขนได้แล้ว

เพื่ออะไร?

ก็เพื่อแผ้วถางทางให้กลุ่มบุคคลซึ่งก็เป็นกลุ่มพวกเขานั่นแหละ ได้ครองอำนาจบ้านเมือง ตักตวงทุกอย่าง โดยมิได้มีความสนใจที่จะทำนุบำรุงบ้านเมืองและประชาชนเหมือนสถาบันนั่นเอง

การจะทำเช่นนั้นได้ ก็ต้องวางแผนมากมายหลายส่วนและปฏิบัติการพร้อมกันอย่างต่อเนื่อง

การจาบจ้วงสถาบัน การเอาความเท็จมาให้ร้ายสถาบัน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เปรียบเสมือนการแผ้วถางทางไปสู่การครองอำนาจ ซึ่งมั่นใจเหลือเกินว่า หากไม่ทำลายแกนหลักอันเป็นทั้งหลักยึดเหนี่ยวทางความคิดจิตใจ และ หลักยึดในรูปแบบการสร้างประเทศให้ล้มไปก่อน ก็ยากที่จะเดินไปยังแผนการเปลี่ยนรูปแบบการปกครองเพื่อครองประเทศในอีกระบบหนึ่ง

และไม่ว่าสิ่งใดจะมาก่อน ก็ไม่เกิดผลดีต่อบ้านเมืองและประชาชน
Nul plus que nous. À moins que nous sommes à genoux à la sienne.No one higher than us. Unless we kneel to his own.




ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน