Jump to content


Photo
- - - - -

สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ


  • Please log in to reply
564 replies to this topic

#501 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 12 August 2012 - 11:32

ไปอ่านมาจากเรือนไทย ถ้าจำได้ไม่ผิด เงินเดือนทหารรักษาพระองค์หรือค่าทำนุบำรุงวังต่างๆก็มาจากส่วนพระองค์ใช่มั้ยคะ แล้วก็ต้องจ่ายให้ครอบครัวต่างๆของพระองค์ท่านและของกษัตร์องค์ก่อนๆด้วยนี่ แล้วก็พอปีที่เปลี่ยนการปกครอง รัฐบาลนึกว่าเงินท่านเยอะแต่ที่ใหนได้มีไม่มากเท่าที่คิด ถ้าจำผิดพลาด ช่วยแก้ไขด้วยนะคะ


ผมไม่ทราบละเอียดขนาดนั้น (รบกวนขอลิ้งค์ด้วยครับ จะตามไปอ่าน)
แต่ผมประมวลจากพระราชหัตถเลขาหลายๆ แหล่งในการเสด็จประพาสครั้งนี้
ทรงระบุว่าสิ่งใดบ้างเป็นไปรเวท สิ่งใดบ้างเป็นส่วนของราชการ แม้แต่เรือโดยสารก็ทรงใช้ของเอกชน ครั้งที่แล้วเป็นเรือรบของกองทัพเรือ ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณส่วนกลางรองรับ และยังมีอีกที่บอกว่าครั้งนี้เอาคนไปน้อยเพราะเป็นเรื่องส่วนพระองค์

เรื่องเงินใช้สอยส่วนพระองค์ และมูลเหตุให้จัดทำงบประมาณ สมเด็จดำรงท่านเล่าไว้ในนิทานโบราณคดี "เรื่องสร้างตลาดสำหรับเมือง" (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ท่านยังเล่าต่อว่า หลังจากปันเงินเป็นหมวดแน่นอนแล้ว ต่อมาเงินนั้นก็กลับไม่พอใช้ แต่พระพุทธเจ้าหลวงถือว่าตรัสไปแล้ว ไม่แก้ไข ก็ทรงโปรดให้สมเด็จดำรงหาวิธี ท่านก็นึกถึงการนำที่ดินส่วนพระองค์มาทำประโยชน์ คือสร้างตลาด ซึ่งนับเป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต่อมาก็กลายเป็นสำนักทรัพย์สินนี่เอง

เรื่องที่ดินส่วนพระองค์นั้น อันที่จริงตามกฏหมายต้องไม่มี เพราะกฏหมายที่ดินรุ่นเก่าที่ใช้มาถึงเปลี่ยนการปกครอง มาตราแรกระบุว่า ที่ดินทั้งปวงเป็นของพระเจ้าแผ่นดิน หากโปรดให้ราษฎรใช้ประโยชน์....ตามนี้แล้ว จะต้องมีอะไรที่เป็นส่วนพระองค์อีก ที่มีก็เพราะสายพระเนตรรัชกาลที่ 4 ท่านแบ่งตัวเองออกเป็นสองส่วน คือส่วนที่เป็นพระเจ้าแผ่นดินกับส่วนที่เป็นบุคคล

ท่านก็เลยทำหลายอย่างที่แยกแยะชัดเจน เช่นซื้อที่ดินกลางนครสิงค์โปร์ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ แล้วแจ้งกับเสนาบดีว่า ถ้าลูกท่านไม่ได้เป็นกษัตริย์ ก็ขอพระราชาองค์ใหม่อย่าฆ่า ให้เนรเทศไปสิงคโปร์ที่ทรงเตรียมที่ดินให้พักพิงไว้แล้ว...ตรงนี้เห็นชัดว่า ทรงแยกชัดเจนว่า กษัตริย์คือตำแหน่ง แต่ไม่จำเป็นต้องมีการสืบทอด แม้แต่ตระกูลท่านก็อาจจะหลุดจากตำแหน่งได้ ไม่มีอะไรแน่นอน

เวลาที่ขุดคลอง เส้นใหนที่ท่านใช้เงินส่วนพระองค์ ก็ขอสิทธิซื้อที่ดินสองข้างเอาไว้ รวมทั้งสองฟากถนนเจริญกรุง ที่จริงแล้วสวนสราญรมย์กับกรมการรักษาดินแดนนั้น เป็นที่ดินที่ทรงซื้อไว้...แต่ทำไมฟากหนึ่งเป็นของกทม. อีกฟากเป็นของกองทัพบก ผมไม่มีเวลาจะค้นต่อว่าที่สองแปลงนี้เปลี่ยนมือไปอย่างไร อาจจะพระราชทานให้ในสมัยรัชกาลที่ 6 หรืออาจจะถูกยึดไปดื้อๆ สมัยหลัง 2475 ก็ได้

ที่พูดอย่างนั้นก็เพราะมีการตั้งสมาคมคณะราษฎรในสวนสราญรมย์หลัง 2475 อาคารก็ยังอยู่ เรื่องพวกนี้ยิงสอบสวนจะยิ่งเห็นความฉ้อฉลของคณะราษฎรก็เป็นได้ครับ

#502 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 12 August 2012 - 11:35

นอกเรื่องนิด
วันแม่นี้
ไอ้หงอกเจียมมัน
จะว่ายังน้อ


แม่เขาเป็นกา-หรี่
คงได้หยุดงานมังครับ

#503 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 12 August 2012 - 12:29

กล่าวโดยรวมสรุปก็คือ พระมหากษัตริย์ ยังทรงเป็นแกนหลักในการสร้างบ้านเมือง และสร้างประชาชนในประเทศ ให้มีความเข้าใจและมีความรู้ที่ดีพอในการยืนหยัดกับโลกาภิวัฒน์ (ซึ่งโลกาภิวัฒน์นี้มันเริ่มมานานแล้วตั้งแต่อดีต ไม่ใช่เพิ่งเริ่ม) และที่เป็นสิ่งสำคัญของประเทศเราก็คือ คำว่า จริยธรรม

ผมจะใช้ข้อความของนายชด อธิบายความตื้นเขินของจิตร ภูมิศักดิ์ในเรื่องโฉมหน้าศักดินาไทยเสียหน่อย

จิตรใช้มุมมองที่ผิดพลาดในการศึกษา คือใช้ตำรามาร์กซิสที่เขาบอกไว้แล้วว่า ยกเว้น ใช้กับเอเชียไม่ได้ เพราะมีรูปแบบวิภีการผลิตที่ต่างไปจากของฆอเคซอย...แต่เป็นธรรมดาของเด็กเห่อของใหม่ จิตรน้อยก็อยากจะเป็นนักวิชาการสายนี้อย่างรวดเร็ว ก็เลยตัดเสื้อคลุมมาร์กซิส แล้วเอาประวัติศาสตร์ไทย ยัดเข้าไป แล้วสรุปอย่างสุดเท่ว่า “ประวัติศาสตร์แทนที่จะเป็น ประวัติศาสตร์แห่งการเคลื่อนไหวก้าวหน้าของประชาชน ตรงข้ามกลับเป็นประวัติ การสืบสันตติวงศ์ของกษัตริย์”

อ่านแล้ว ผมก็ขำในใจ มันเหมือนผมจะย้อนไปวิจารณ์จิตรมั่งแหละว่า เขียนแต่แนวคิดคอมมิวนิสต์ แทนที่จะเขียนแนวเสรีนิยม...ฮา ก็เขาบอกแล้วว่า เป็น"พงศาวดาร" หมายถึงวงศ์ของพวกเจ้า จะให้นักประวัติศาสตร์เจ้า มาเขียนเรื่องชีวิตชาวนาหรือ

จิตรยังสอบตกปรัชญาประวัติศาสตร์อีก เขาไม่รู้ว่า ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องแต่ง ไม่ใช่บันทึกเหตุการณ์ อยากรู้บันทึกเหตุการณ์ต้องไปอ่านปูมโหร...ซึ่งจิตรก็จะต้องตีโพยตีพายอีกว่า ไม่ยอมบันทึกความเคลื่อนไหวที่ก้าวหน้าของประชาชน บันทึกแต่วันนี้ฟันหัก วันนี้น้ำป่าไหลมาแต่เหนือเป็นสีแดง....บล่าๆๆๆๆๆๆ โธ่พี่ ไอ้คำว่าความเคลื่อนไหวที่ก้าวหน้าของประชาชนที่พี่ใช้น่ะ มันเพิ่งเกิดสมัยรัชกาลที่ 4 ก่อนหน้านั้นไม่มีใครรู้จัก เขาจะเขียนสิ่งที่เขาไม่รู้จักได้อย่างไร

แล้วเนื่องจากประวัติศาสตร์เป็นเรื่องแต่ง มันก็ต้องมีพล็อต มีตัวละคร มีเรื่องราว....อ๋าย ขนาดพวกพี่ๆ แต่งประวัติศาสตร์การต่อสู้ของตัวเอง ไม่เห็นพี่จะพูดถึงประชาชนเลย พี่ก็พูดแต่พวกพี่ๆ พวกแกนนำทั้งนั้น ต่อให้นายปรีดีเองก็เถอะ เขียนหนังสือมากี่สิบเล่ม มีพูดถึงการต่อสู้ของประชาชนใหม...ไม่มีครับ ไม่เคยศึกษาถึงกบฎชาวนาเลย ทั้งๆ ที่อ้างตัวเองว่าเป็นลูกชาวนา แล้วลูกหลานนายปรีดีล่ะ เป็นประชาชนที่ก้าวหน้าหรือเปล่า...โธ่ เห็นขึ้นชั้นเป็นกฎุมพีก้าวหน้ามากๆ กันทุกคน

เอาละ ลองมาดูการต่อสู้ของประชาชนที่ก้าวหน้าหน่อย...เรื่องซ้องกั๋งละกัน 108 ผู้กล้าไปชุมนุมที่เขาเหลียงซานต่อต้านศักดินา แล้วงัย พรรคคอมมิวนิสต์ออกมาประกาศว่า เป็นศักดินาน้อย เป็นวีรชนเอกชน หมายความว่าไม่เจ๋ง ว่างั้นเถอะ เออ แต่ศักดินาไทยสมัยร.5 ให้แปลมาทำเป็นบทละครเว้ยเฮ้ย

อีกคดี ชาวบ้านบางระจัน จิตรเคยกล่าวถึงใหม อิอิ
อีกคดี พม่าบุกล้อมกรุงศรี ชาวบ้านทำงัย ชาวบ้านหนีครับ ไม่สู้ ไม่ต่อต้าน โหยโคตรก้าวหน้าเลย
สุดท้ายพระยาตากก็นำพลตีหักออกไปเพื่อจะไปตั้งตนเป็นใหญ่ นี่ก็กองทัพชาวบ้าน แต่ก้าวหน้าหรือเปล่าเราไม่รู้ เพราะจิตรไม่ได้เขียน

จิตรไปเขียนเรื่องสนมมีศักดินาเท่าไหร่ ซึ่งเป็นเรื่องสมัยพระบรมไตรโลกนาถโน่น แล้ววันที่จิตรเขียนหนังสือ ปรีดีก็โค่นกษัตริย์ไปแล้วด้วย แถมเขายังเลิกใช้ศักดินามานานนม เพราะเปลี่ยนมาใช้ประมวลกฏหมายอาญาตามแบบสากล เท่ากับยกเลิกวิธีปรับไหมตามศักดินาไปเกลี้ยงเกลา...ทั้งหมดนี้ ชี้ว่า จิตรเอาผีศักดินามาหลอกคนอ่าน เอาเรื่องที่จบไปแล้วมาปลุกระดม เปรียบเหมือนเอาเรื่องทรมานทาสเมื่อ 100 ปีก่อนมาอ้าง เพื่อจะล้มเจ้าในวันนี้ มันไร้สาระสิ้นดี

ทุกครั้งที่ผมอ่านเจอคำพวกนี้ ยืนหยัดต่อสู้ ก้าวหน้า ล้าหลัง.....ในสำนวนฝ่ายซ้าย ผมมักจะรำคาญเพราะคำขยายมันมากกว่าตัวเรื่อง จะเรียกว่าจิตรเป็นนักประชาสัมพันธ์ก่อนเป็นนักประวัติศาสตร์ก็คงไม่ผิด

แต่ผิดที่สุดก็ตรงที่จิตร ใช้กรอบทฤษฎีอันเหลวไหล มาบอกว่าสังคมไทยต้องเดินไปตามวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ (Historical Meterialism) อย่างเคร่งครัด คือยุคสมัยของสังคมมี 5 ขั้นตอน จากสังคมบุพกาล มาเป็นสังคมทาส แล้วเป็นสังคมศักดินา สังคมทุนนิยม ปิดท้ายต้องเป็นสังคมคอมมิวนิสต์

น่าสงสารที่จิตรตายเสียก่อน จึงไม่ได้เจอสังคมหลังคอมมิวนิสต์ที่มาร์กสเองก็นึกไม่ถึง คือสังคมคอมมิวนิสต์ที่เลิกเป็นคอมมิวนิสต์







ฮา

#504 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 12 August 2012 - 13:41

อ่านสมศักดิ์วิกลจริตต่อ...โอย แยะครับ

มีบทความเก่าที่เขาเขียนด่าคนอื่นเรื่อง 6 ตุลา...ใช่ครับ 6 ตุลาที่มันหนีตายไปนอนร้องไห้กระซิกๆในวัดมหาธาตุนั่นแหละ ผ่านมาสามสิบกว่าปี มันกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญชนิดที่กัดทุกคนที่ขวางหน้า ถ้ามาแตะม๊อบฆ่าเพื่อนของมัน

มันเริ่มต้นด้วยข้อความที่ไม่รู้ว่าจะเขียนหาพระแสงอะไรยาวเหยียดว่า
-------------------

ผมได้เห็นบทความประชาสัมพันธ์งาน 6 ตุลาปีนี้ของคุณวิภา ดาวมณี ครั้งแรก ระหว่างออกนอกบ้านไปจับจ่ายซื้อของเมื่อวันเสาร์ (3 ตค) แล้วแวะร้านซีเอ็ด และหยิบ มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับล่าสุดขึ้นเปิดดู (ความจริง จะดูว่านิธิเขียนอะไรสัปดาห์นี้)
บอกตรงๆว่า หลังจากยืนอ่านตรงนั้นแล้ว ผมเกิดความรู้สึกที่โกรธมากๆ และตลอด 1-2 ชั่วโมง ที่เดินซื้อของ จนกลับมาถึงบ้านก็ไม่หายโกรธ หรือไม่ลดความโกรธลงเลย รีบเปิดคอมพิวเตอร์เขียนอะไรบางอย่างออกมา
แต่พอเขียนแล้ว เกิดเปลี่ยนใจว่า ไม่โพสต์ดีกว่า ไม่ใช่เพราะความโกรธลงลงหรือหายไปแล้ว แต่เพราะมีความรู้สึกที่แย่ๆอย่างอื่นขึ้นมาแทรก เช่น หดหู่ ว่าโพสต์ไปก็เท่านั้น
คุณวิภาเขียนประโยคแรกสุดของบทความเลยว่า "คนรุ่นใหม่ที่อายุน้อยกว่าสามสิบปีส่วนใหญ่ คงไม่รู้ว่า 6 ตุลา 2519 คืออะไร" บทความนี้ของคุณวิภา พิสูจน์ให้เห็นว่า อย่าว่าแต่ "คนรุ่นใหมที่อายุน้อยกว่าสามสิบปีส่วนใหญ่" เลย แม้แต่คุณวิภา คนที่ "ผ่าน" เหตุการณ์มาเอง และเป็นคนจัดงานนี้ มาหลายปี ก็ยังรู้ไม่ว่า "6 ตุลา 2519" คืออะไร เพราะถ้ารู้จริงๆ ไม่เขียนอะไรที่แย่แบบนี้ออกมา
------------------
นี่ถ้ามันโกรธกว่านี้ คงจะเขียนต่อว่าวันในใส่เสื้อสีอะไร ไปห้างใหน ซื้ออะไรตั้ง 2 ชั่วโมง ไร้สาระจริงๆ นักวิชาการเหียกอะไรเดินห้างทีละสองชั่วโมง แถมยังยืนอ่านหนังสือตรงแผงหนังสือ แทนที่จะซื้อกลับบ้าน....อ้อ กระจอกจนมติชินไม่อภินันทนาการเป็นรายประจำ...เฮ้อ

หลังจากผลาญพลังงานไปกับข้อความสั่วๆตั้งหลายย่อหน้า สมศักดิ์ก็มาพล่ามเรื่องบทความต่อ...ผมยกไฮไลท์มาก็แล้วกัน
---------------------------

ผมถือว่า ใครที่เขียนระลึก 6 ตุลา แล้วอ้างพระราชดำรัส - ไม่ว่าพระราชดำรัสใดๆ - คนนั้น ถ้าไม่เสียสติ ก็ ... [ขออภัย เซ็นเซอร์ตัวเอง หาคำที่ผมเขียนบ่อยๆ ที่ประชาไท มาใส่กันเอาเอง]
---------------------------
มันด่าเขา เพียงเพราะเขายกพระราชดำรัสมาลงในบทความประชาสัมพันธ์ 6 ตุลา
เห็นความวิกลจริตของไอ้เจ๊กเนรคุณคนนี้หรือยังครับท่าน

ที่คุณวิภาเขียน เธอกล่าวถึงวิกฤติประชาธิปไตยกรณีที่มีคนต้องการล้มทักษิณโดยยกมาตรา 7 ในรัฐธรรมนูญมาใช้และในหลวงตรัสว่า "ทำไม่ได้ ทำเกินหน้าที่ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย" ซึ่งเป็นหลักการที่พึงยึดถือและอ้างอิงได้ทั่วไป แต่ไม่ได้สำหรับสมศักดิ์ "แต่ที่ทำให้ผมโกรธ มากๆ และถือเป็น insult คือ จู่ๆ ในกลางๆบทความ คุณวิภา ก็อ้างพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2549 (เรื่อง มาตรา 7 และเป็นจุดเริ่มต้นของ "ตุลาการภิวัฒน์") ขึ้นมา โดยบริบทแล้ว ไม่มีความเกี่ยวเนื่องอะไรกับเรื่องที่กำลังเขียนเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึง 6 ตุลา"


อ่านไปก็สมเพชไป ไอ้เด็กหัวโตนี่ เกลียดสถาบันขนาดเห็นเงายังวิ่งไล่งับ ทั้งๆ ที่สถาบันมีวิญญานประชาธิปไตยมากกว่ามันไม่รู้เท่าไหร่ แต่มันท่องประชาธิปไตยสามเวลาหลังอาหาร...เอ่อ และก่อนเข้านอน


หึหึ

#505 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

Posted 12 August 2012 - 15:34

ขออนุญาตท่านศรอรชุนยกข้อความจากเฟซอจ.สมศักดิ์มาไว้ที่นี่
Posted Image

 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#506 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

Posted 12 August 2012 - 15:42

*
*
แต่ที่ทำให้ตัดสินใจเข้ามามีส่วนร่วมกับกระทู้ ก็เมื่อได้อ่าน ข้อความที่อาจารย์สมศักดิ์ ตอบคำถามในเฟซของอาจารย์ว่า ท่านมีบทบาทเป็นผู้นำนักศึกษาตั้งแต่ปีแรกๆที่เป็นนักศึกษา มธ.

เราอ่านแล้ว ก็อึ้งงงงง....... ทบทวนความหลังอย่างหนัก เพราะเราก็น่าจะร่วมสมัยกับท่าน (เข้า มธ. ก่อนปีนึงมั๊ง) ไม่อาจหาญพูดว่า อาจารย์พูดไม่จริง แต่จากมุมมองของตัวเอง (ที่ถึงแม้ไม่ได้เป็น แอคทิวิสต์ แต่ก็เป็น อายวิทเนส ในหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ธรรมศาสตร์ ) เราไม่รู้สึกว่า อาจารย์เป็นผู้นำนักศึกษาเลยน่ะ

ที่อาจารย์บอกว่า เคยขึ้นไฮปาร์ค เราก็ไม่รู้นะ แต่ขอไม่เถียง เพาะเราก็ไม่ได้เฝ้าเกาะเวที ตลอดเวลา

ส่วนเพื่อนสนิทของเรา ที่เคยเล่าว่าเธอเข้าร่วมกิจกรรมอย่างจริงจัง ขึ้นเวทีไฮปาร์ค ให้เห็นด้วย เธอก็ไม่เคยเรียกตัวเองแม้แต่สักครั้งเดียว ว่าเธอเป็นผู้นำนักศึกษา


เธอจะมีบทบาทสำคัญแค่ไหน เราไม่สนใจนะ แต่เรานับถือน้ำใจเธอนักหนา โดยเฉพาะเมื่อเธอเสี่ยงที่จะติดต่อเราเพื่อขอความช่วยเหลือ
เธอเล็ดลอดเข้ามาพบเราโดยที่ไม่ได้คำตอบจากเราด้วยซ้ำว่าจะช่วยเธอได้หรือไม่ หรือจะมีอันตรายไปถึงตัวเธอหรือไม่


เราว่า เพื่อนเรานี่แหล่ะ ของจริง

ท่านมีบทบาทเป็นผู้นำนักศึกษาตั้งแต่ปีแรกๆที่เป็นนักศึกษา มธ. ?
อาจเป็นไปได้เพราะก่อนเข้ามธ. อจ.สมศักดิ์(เด็กสวนฯ?) น่าจะเคยเป็นนักกิจกรรมจากศูนย์นักเรียน (ศูนย์กลางนักเรียนแห่งประเทศไทย ที่มีการจัดตั้งเหมือนศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยหลังเหตุการณ์ 14 ตค. 16 ที่เรียกกันสั้นๆว่าศูนย์นิสิตฯ) ดังนั้นพอเข้ามธ. ก็พาสชั้นเป็นแกนนำเลย เพราะรู้งานมาก่อน


ส่วนการเข้าพบเพื่อนเก่าสมัยเป็นนักศึกษาเพื่อขอความช่วยเหลือ น่าเป็นส่วนงานหนึ่งของงานในเมืองของ CPT เรียกว่า งานจดหมาย
คือจะมีหน่วยในกทม.และหัวเมืองใหญ่หนุนช่วยยา เวชภัณฑ์ และเป็นทางผ่านของจดหมายของสหายจากวนาสู่นาคร ..

 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#507 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 12 August 2012 - 16:20

แต่ที่ทำให้ตัดสินใจเข้ามามีส่วนร่วมกับกระทู้ ก็เมื่อได้อ่าน ข้อความที่อาจารย์สมศักดิ์ ตอบคำถามในเฟซของอาจารย์ว่า ท่านมีบทบาทเป็นผู้นำนักศึกษาตั้งแต่ปีแรกๆที่เป็นนักศึกษา มธ.

เราอ่านแล้ว ก็อึ้งงงงง....... ทบทวนความหลังอย่างหนัก เพราะเราก็น่าจะร่วมสมัยกับท่าน (เข้า มธ. ก่อนปีนึงมั๊ง) ไม่อาจหาญพูดว่า อาจารย์พูดไม่จริง แต่จากมุมมองของตัวเอง (ที่ถึงแม้ไม่ได้เป็น แอคทิวิสต์ แต่ก็เป็น อายวิทเนส ในหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ธรรมศาสตร์ ) เราไม่รู้สึกว่า อาจารย์เป็นผู้นำนักศึกษาเลยน่ะ

ที่อาจารย์บอกว่า เคยขึ้นไฮปาร์ค เราก็ไม่รู้นะ แต่ขอไม่เถียง เพาะเราก็ไม่ได้เฝ้าเกาะเวที ตลอดเวลา

ส่วนเพื่อนสนิทของเรา ที่เคยเล่าว่าเธอเข้าร่วมกิจกรรมอย่างจริงจัง ขึ้นเวทีไฮปาร์ค ให้เห็นด้วย เธอก็ไม่เคยเรียกตัวเองแม้แต่สักครั้งเดียว ว่าเธอเป็นผู้นำนักศึกษา

เธอจะมีบทบาทสำคัญแค่ไหน เราไม่สนใจนะ แต่เรานับถือน้ำใจเธอนักหนา โดยเฉพาะเมื่อเธอเสี่ยงที่จะติดต่อเราเพื่อขอความช่วยเหลือ เธอเล็ดลอดเข้ามาพบเราโดยที่ไม่ได้คำตอบจากเราด้วยซ้ำว่าจะช่วยเธอได้หรือไม่ หรือจะมีอันตรายไปถึงตัวเธอหรือไม่


เราว่า เพื่อนเรานี่แหล่ะ ของจริง



คุณ b ตั้งข้อสงสัยเรื่องสมศักดิ์สถาปนาตัวเองเป็นแกนนำนักศึกษาไว้ ผมคิดว่านี่เป็นปัญหาเกี่ยวกับมุมมองของผู้อยู่ในเหตุการณ์

ในฐานะที่เป็นมวลชน คุณ b มองการเคลื่อนไหวด้วยใจบริสุทธิ์ แต่คนที่ดำเนินงานเคลื่อนไหว ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย ตำแหน่งนายกอมธ.เป็นกลไกที่พวกเขายึดครองเพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวอย่างผูกขาด
พีรพล ตริยะเกษม นายก อมธ.ปี 2516
วิจิตร ศรีสังข์ นายก อมธ.ปี 2517
สมาน เลิดวงหัด เลิศวงศ์รัตน์ นายก อมธ. 2518
พิเชียร อำนาจวรประเสริฐ นายกอมธ.ปี 2519

ล้วนแต่เป็นคนที่เรียกกันว่าแนวร่วมในเมือง พวกนี้สัมพันธ์กับผินบัวอ่อนไกล้ชิด ซึ่งไม่ยากที่จะจินตนาการว่า พคท. ก็เอื้อมมือถึงกัน ดังที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่า อมธ 2517 ชูคำขวัญ แนวทาง 14 ตุลา จงเจริญ แต่พอปีรุ่งขึ้น ชู จิตใจ 14 ตุลา จงเจริญของพคท.
สำหรับสมศักดิ์ เขาเข้าร่วมขบวนการมาตั้งแต่นุ่งขาสั้น ดังที่เคยทำหนังสือสมานมิตร 17 ฉบับศึกตอนเป็นประธานนักเรียนสวน แล้วปีรุ่งขึ้นก็นุ่งขายาวตามรุ่นพี่สวนฯ มาธรรมศาสตร์ เขาก็ย่อมยึดถือได้ว่าตัวเองเป็นแกนนำ แม้ว่าความเห็นของรุ่นพี่ที่โดนจับ(ที่อ้างไว้ข้างบน) จะมองหัวโตว่ายังเด็กเหลือเกิน

#508 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 12 August 2012 - 16:29

ที่จริง สมศักดิ์เล่าไว้เองว่าเขาเข้ามาสานต่อแนวทางของรุ่นพี่ได้อย่างไร
บอกกระทั่งว่า ตำแหน่งทางการเมืองในคราบนักศึกษา รับกันมาเป็นทอดๆ ลองค้นที่บล๊อคของเขาก็น่าจะมี

คำบอกเล่าของเขานี่เอง ที่ทำให้เราต้องมอง 14 ตุลาว่า มีพวกเหลือบคอมมิวนิสต์เข้ามาเกาะขบวนการประชาธิปไตยอย่างไร เป็นเรื่องน่าอาย น่าสมเพชและหน้าด้านมาก ที่พรรคการเมืองซึ่งปกครองประเทศโดยไม่ยอมให้ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้ง อย่างพรรคคอมมิวนิสต์ จะมาสนับสนุนขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย

เหมือนสิ่งมีชีวิตจิตใจสยบยอมต่อทุนและเผด็จการอย่างสมศักดิ์....กล้าถือธงประชาธิปไตยพาคนไปตาย ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ประชาธิปไตยเอาเสียเลย.....ดูบทความที่เขาด่าเพื่อนที่ผมเพิ่งยกมาก็เห็นชัดครับ

#509 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 12 August 2012 - 16:40

ที่จริงแล้ว นายชดน่าจะเล่าเบื้องหลังตรงนี้ได้ดีกว่าใครอื่น

การจัดตั้งในเมืองของพคท. นั้น ถึงขนาดวางเงินก้อนใหญ่ให้ใช้สอย
ที่ธรรมศาสตร์ มีการจัดนิทรรศการเชิดชูคอมมิวนิสต์กันอย่างเปิดเผย
หนังสือจำนวนมาก ถูกพิมพ์ออกมาไม่อั้น ขายกันถูกๆ ผมจำได้ว่ามีหนังสือศิลปะดินปั้นจากจีนออกขายในราคาถูกเหมือนแจกฟรี มีทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาจีน เห็นชัดว่ามาจากโรงพิม์ภาษาต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน รูปถ่ายต่างๆ มากมายที่เอามาจัดนิทรรศการ อมธ. เอามาจากใหน แต่ละคนเพิ่งสลัดกางเกงขาสั้นมาไม่กี่เดือน ทั้งถ่ายรูป ทั้งแปล ทั้งพิมพ์ .....เด็กสิบแปดสิบเก้าขวบจะทำเป็นหรือ
ตอนที่โดนกวาดล้าง เงินเหล่านี้ค้างอยู่ในบัญชีแกนนำ ผมทราบจากเจ้าตัวเองด้วยซ้ำว่า ว่าเงินนี้ในที่สุดก็เอามาตั้งบริษัทสถาปนิก จนเดี๋ยวนี้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการ

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการให้มวลชนรับรู้ สิทธิของมวลชนคือ ตายเพื่อให้แกนนำเหยียบขึ้นไป
วิกฤติการณ์ทุกครั้ง แกนนำไม่เคยตายครับ......นี่คือสัจธรรม

#510 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

Posted 12 August 2012 - 18:01

ที่จริงแล้ว นายชดน่าจะเล่าเบื้องหลังตรงนี้ได้ดีกว่าใครอื่น

การจัดตั้งในเมืองของพคท. นั้น ถึงขนาดวางเงินก้อนใหญ่ให้ใช้สอย
ที่ธรรมศาสตร์ มีการจัดนิทรรศการเชิดชูคอมมิวนิสต์กันอย่างเปิดเผย
หนังสือจำนวนมาก ถูกพิมพ์ออกมาไม่อั้น ขายกันถูกๆ ผมจำได้ว่ามีหนังสือศิลปะดินปั้นจากจีนออกขายในราคาถูกเหมือนแจกฟรี มีทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาจีน เห็นชัดว่ามาจากโรงพิม์ภาษาต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน รูปถ่ายต่างๆ มากมายที่เอามาจัดนิทรรศการ อมธ. เอามาจากใหน แต่ละคนเพิ่งสลัดกางเกงขาสั้นมาไม่กี่เดือน ทั้งถ่ายรูป ทั้งแปล ทั้งพิมพ์ .....เด็กสิบแปดสิบเก้าขวบจะทำเป็นหรือ
ตอนที่โดนกวาดล้าง เงินเหล่านี้ค้างอยู่ในบัญชีแกนนำ ผมทราบจากเจ้าตัวเองด้วยซ้ำว่า ว่าเงินนี้ในที่สุดก็เอามาตั้งบริษัทสถาปนิก จนเดี๋ยวนี้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการ

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการให้มวลชนรับรู้ สิทธิของมวลชนคือ ตายเพื่อให้แกนนำเหยียบขึ้นไป
วิกฤติการณ์ทุกครั้ง แกนนำไม่เคยตายครับ......นี่คือสัจธรรม

อย่างนี้จะเข้าข่าย ถือว่า สู้แล้วรวย
เหมือนแกนนำควายแดง บางตัวได้เปล่าครับ

Edited by ก๊องส์ไข่กวน, 12 August 2012 - 18:02.


#511 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 12 August 2012 - 19:17

นิตยสาร"อ่าน" ฉบับนี้บัดซบมาก ทำตัวสมกับเป็นเครือข่าวฟ้าเดียวกัน ฉบับนี้หน้าปกมันด่าประชดพวกรักเจ้าว่าอยู่ในกะลา...
http://www.facebook.com/readjournal

ผมไม่เข้าใจว่าไอ้พวกฟ้าเดียวกันจะมาด่าคนรักเจ้าทำไม ก็ในเมื่อคนจะรักใครมันก็สิทธิ์ของเขา แล้วมาละเมิดสิทธิ์คนรักสถาบันโดยการด่าทำไม?

Edited by ดราม่า, 12 August 2012 - 19:19.

"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#512 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 12 August 2012 - 19:25

สมศักดิ์มันเล่นโทรเลขจากวิกีลีกส์ อีกแล้ว อ้างว่าสมัครและสุเทพบอกรัฐประหาร19 ก.ย. เกี่ยวกับXXX (ใครอยากอ่านก็เข้าไปที่เฟสบุ๊คมันแล้วกัน ขี้เกียจก๊อปมาให้เป็นเสนียดแล้ว)

1. ผมอยากถามทุกท่านเป็นความรู้ว่า วิกีลีกส์ เชื่อถือได้หรือ?
ถ้าเชื่อไม่ได้เพราะอะไร? ถ้าเชื่อได้เพราะอะไร?


2. ทำไมบุคคลสำคัญของไทยทุกคน ต้องไปเล่าเรื่องลับๆให้ฑูตอเมริกันฟัง? (ในวิกีลีกส์คือ บุคคลสำคัญของไทยไปเล่าให้ฑูตอเมริกา)
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#513 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 12 August 2012 - 19:52

ความขัดแย้งของข้อมูลจากปากป๋าเปรม และจากวิกีลีกส์(ผมในวิกีลีกส์คือฑูต)

© ผมเริ่มด้วยการถามสนธิ เรื่องการเข้าเฝ้าในหลวงเมื่อคืนนี้ ใครเข้าร่วมบ้าง เขาตอบว่า ประธานรัฐบุรุษเปรม ติลสูลานนท์ นำเขาเข้าเฝ้า และมี ผบ.สูงสุดรุ่งโรจน์ และผบ.ทัพเรือ สถิรพันธุ์ ร่วมในการเข้าเฝ้า สนธิเน้นว่า ทุกคนถูกขอร้องให้เข้าไปในวัง และไม่ได้ไปเข้าเฝ้าเอง เขาบอกว่า ในหลวงดูผ่อนคลาย มีความสุข และทรงแย้มพระโอษฐ์ ตลอดการเข้าเฝ้า สนธิไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติม
http://thaienews.blo...og-post_21.html



ป๋าเปรมพูดเรื่องเรื่องการเข้าเฝ้าว่า

ข้อ 3 เขาบอกว่า เราเป็นคนนำ ผบ.เหล่าทัพ ไปเฝ้าฯพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งก็ไม่จริง คืนนั้นเขาประกาศปฏิวัติกัน ประมาณ 3 ทุ่มเศษๆ คือ วันที่ 19 กันยายน พอเราได้ยินว่า เขาปฏิวัติกันไป เราก็เข้าไปในสวนจิตรฯ ที่เราเข้าไป เพราะเป็นหน้าที่ของเราที่เป็นองคมนตรี เนี้ยเมื่อมีปัญหาอย่างนี้ เราก็ต้องไปอยู่ใกล้ๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เผื่อว่า ท่านจะมีรับสั่งอย่างไรบ้าง เราจะได้รับใส่เกล้ามาปฏิบัติ เพราะมันเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน เราเข้าไปประมาณ 3 ทุ่มเศษๆ คุณสนธิ กับ คุณชลิต ผบ.ทอ.2 คน เข้าไป เมื่อตอน 5 ทุ่มเศษ คุณสถิรพันธุ์ ผบ.ทร. มาทีหลัง มาเกือบ 2 ยาม แสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้นำ 3 คน เข้าไปสวนจิตรฯ เพื่อเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราไปของเราเอง แต่พอตอนที่เมื่อพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯลงมา เราเล่าข้ามตอนไปนิดว่า พวกที่เข้าไปบอก สมุหราชองครักษ์ เขาจะมาเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมุหราชองครักษ์ ก็ไปทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สักพักหนึ่ง ก็เสด็จฯลงมาทั้ง 2 พระองค์ เพราะฉะนั้น เราก็เป็นคนเข้าไปร่วมในการเฝ้าฯ จะว่าเรานำเข้าเฝ้าฯก็ไม่ถูก แต่ว่าเราไปอยู่ในที่นั่นด้วย เพราะฉะนั้น ที่คุณทักษิณ บอกว่า เราเป็นคนที่นำ 3 คนนี้ไปเฝ้าฯพระเจ้าอยู่หัว ก็เป็นเรื่องที่ไม่ตรงข้อเท็จจริง เพราะเราเข้าไปก่อน ชั่วโมงกว่า และเราก็ไม่รู้ว่า เขาจะมา หรือไม่มา เรารู้ก็ต่อเมื่อ คุณสนธิ เข้าไปกับ คุณชลิต ไปเจอเราในสวนจิตรฯ แล้ว นี่คือเรื่องจริงๆ ที่เกิดขึ้น เราขี้เกียจไปต่อความยาวสาวความยืด ไม่แก้ตงแก้ตัว
http://www.manager.c...D=9520000036416



เท่าที่ติดตามวิกีลีกส์ ใครจะส่งอะไรไปให้เขาแฉก็ได้ วิกีลีกส์รับประกันว่าจะไม่โดนสาวถึงคนให้เอกสาร ถ้าคนอย่างจักรภพ ทำเอกสารปลอมแล้วปล่อยให้วีกีลีกส์ใครไปตามไปเช็คได้?
http://th.wikipedia..../wiki/วิกิลีกส์

Edited by ดราม่า, 12 August 2012 - 19:54.

"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#514 kop16

kop16

    U will never walk alone.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,507 posts

Posted 12 August 2012 - 20:41

....

Edited by Rodgers16, 12 August 2012 - 20:44.

If you try hard enough, you can be whatever you want to be.


#515 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 12 August 2012 - 21:16

© ผมเริ่มด้วยการถามสนธิ เรื่องการเข้าเฝ้าในหลวงเมื่อคืนนี้ ใครเข้าร่วมบ้าง เขาตอบว่า ประธานรัฐบุรุษเปรม ติลสูลานนท์ นำเขาเข้าเฝ้า และมี ผบ.สูงสุดรุ่งโรจน์ และผบ.ทัพเรือ สถิรพันธุ์ ร่วมในการเข้าเฝ้า สนธิเน้นว่า ทุกคนถูกขอร้องให้เข้าไปในวัง และไม่ได้ไปเข้าเฝ้าเอง เขาบอกว่า ในหลวงดูผ่อนคลาย มีความสุข และทรงแย้มพระโอษฐ์ ตลอดการเข้าเฝ้า สนธิไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติม
http://thaienews.blo...og-post_21.html


ผมเริ่มด้วยการถามสนธิ เรื่องการเข้าเฝ้าในหลวงเมื่อคืนนี้
ยึดอำนาจคืนนั้น หลังจากนั้นไม่ถึง 24 ชั่วโมง ไอ้ขี้ฑูตได้พบกับสนธิแล้วววว.....โกหกไม่เนียนเลย
48 ชั่วโมงของการยึดอำนาจ เป็นช่วงวิกฤติที่สุด ผู้ก่อการไม่มีวันแร่ดออกไปพบใครเพื่อให้ข้อมูลหรอก
ต้องอยู่ในเซฟเฮาส์ คอยเซ็นต์เอกสาร ไล่งานและประเมินสถานการณ์

ไอ้กันตัวนี้เล่าเหมือนกับมันสั่งสนธิมาพบประมาณนั้นเลย

ประโยคต่อมาก็โกหก
เราเห็นกันเองด้วยตาของเราว่า ในคืนนั้น ทรงผ่อนคลายหรือไม่อย่างไร

สรุปก็คือ วิกิลีกส์ เป็นแหล่งข้อมูลที่พิสูจน์ความเท็จไม่ได้ จึงเอามาใช้ไม่ได้ครับ

#516 วันศุกร์

วันศุกร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 518 posts

Posted 12 August 2012 - 21:35


ไปอ่านมาจากเรือนไทย ถ้าจำได้ไม่ผิด เงินเดือนทหารรักษาพระองค์หรือค่าทำนุบำรุงวังต่างๆก็มาจากส่วนพระองค์ใช่มั้ยคะ แล้วก็ต้องจ่ายให้ครอบครัวต่างๆของพระองค์ท่านและของกษัตร์องค์ก่อนๆด้วยนี่ แล้วก็พอปีที่เปลี่ยนการปกครอง รัฐบาลนึกว่าเงินท่านเยอะแต่ที่ใหนได้มีไม่มากเท่าที่คิด ถ้าจำผิดพลาด ช่วยแก้ไขด้วยนะคะ


ผมไม่ทราบละเอียดขนาดนั้น (รบกวนขอลิ้งค์ด้วยครับ จะตามไปอ่าน)


จำไม่ได้แน่นอนว่าอ่านจากเรื่องใหนแต่คิดว่าน่าจะเป็นอันนี้นะคะ http://www.reurnthai...hp?topic=3419.0 พอดีอ่านไปได้ประมาณ 3 กระทู้เองคะ เนื้อหาแน่นมาก แล้วเรื่องบางเรื่องอย่างทรัพสินนี่ก็เป็นแนวสอดใส้ในเรื่องต่างๆน่ะคะ เลยจำไม่ได้ว่าตรงใหนเต่เริ่มอ่านตั้งแต่ http://www.reurnthai...hp?topic=3363.0 แล้วก็ไปเรื่อย จนตอนนี้ถึงแค่ http://www.reurnthai...hp?topic=3438.0 เองคะ แล้วอันสุดท้ายมีเรื่องเกี่ยวกับเสรีไทยและคอมมิวนิสเข้ามาปนด้วย ขอโทษที่หาแบบตรงตัวให้ไม่ได้นะคะ

You can't fix stupid - Ron White

 

You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan

 

"A society is judged by how it treats its animals and elderly"


#517 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 12 August 2012 - 21:53

จำไม่ได้แน่นอนว่าอ่านจากเรื่องใหนแต่คิดว่าน่าจะเป็นอันนี้นะคะ http://www.reurnthai...hp?topic=3419.0 พอดีอ่านไปได้ประมาณ 3 กระทู้เองคะ เนื้อหาแน่นมาก แล้วเรื่องบางเรื่องอย่างทรัพสินนี่ก็เป็นแนวสอดใส้ในเรื่องต่างๆน่ะคะ เลยจำไม่ได้ว่าตรงใหนเต่เริ่มอ่านตั้งแต่ http://www.reurnthai...hp?topic=3363.0 แล้วก็ไปเรื่อย จนตอนนี้ถึงแค่ http://www.reurnthai...hp?topic=3438.0 เองคะ แล้วอันสุดท้ายมีเรื่องเกี่ยวกับเสรีไทยและคอมมิวนิสเข้ามาปนด้วย ขอโทษที่หาแบบตรงตัวให้ไม่ได้นะคะ


กดเข้าไปดู 40 หน้า 29 หน้า 25 หน้า....ย๊ากกกสสส
ไม่คิดว่าจะเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ต้องขอประทานโทษที่รบกวนครับ
เรื่องน่าอ่านทั้งนั้น ขอไปไล่อ่านก่อนครับ

#518 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 12 August 2012 - 23:23

มีคนแต่งเพลงให้มัน ..บ้ายอเหมือนกันวุ๊ย
Posted Image
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#519 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

Posted 13 August 2012 - 01:00

อ่านสมศักดิ์วิกลจริตต่อ...โอย แยะครับ

มีบทความเก่าที่เขาเขียนด่าคนอื่นเรื่อง 6 ตุลา...ใช่ครับ 6 ตุลาที่มันหนีตายไปนอนร้องไห้กระซิกๆในวัดมหาธาตุนั่นแหละ ผ่านมาสามสิบกว่าปี มันกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญชนิดที่กัดทุกคนที่ขวางหน้า ถ้ามาแตะม๊อบฆ่าเพื่อนของมัน

-------------------

อ่านไปก็สมเพชไป ไอ้เด็กหัวโตนี่ เกลียดสถาบันขนาดเห็นเงายังวิ่งไล่งับ ทั้งๆ ที่สถาบันมีวิญญานประชาธิปไตยมากกว่ามันไม่รู้เท่าไหร่ แต่มันท่องประชาธิปไตยสามเวลาหลังอาหาร...เอ่อ และก่อนเข้านอน

หึหึ


ผมมีข้อสังเกตว่า ถ้าผม(หรือใครก็ตาม)เชียร์สถาบันฯ + แต่ตำหนิปรีดี + ด่า พคท.หรือด่าขบวนการนักศึกษาไปด้วย > ไอ้หงอกจะไม่เป็นเดือดเป็นร้อนนัก
แต่ถ้าโปรฯปรีดี หรือ โปรขบวนการ นศ.มธ. หรือ โปรอุดมการณ์บางอย่างใน พคท.ร่วมกับการโปรฯสถาบันฯไปด้วยกัน > ไอ้หงอกจะออกมาดิ้น ประมาณว่ารับไม่ได้

ดูๆแล้วเหมือนกับว่ามันจะเป็นพวกเกลียดการปรองดองเข้าใส้ด้วยนาครับ?
:P

Edited by Huligan, 13 August 2012 - 01:01.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#520 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 13 August 2012 - 02:15

ผมมีข้อสังเกตว่า ถ้าผม(หรือใครก็ตาม)เชียร์สถาบันฯ + แต่ตำหนิปรีดี + ด่า พคท.หรือด่าขบวนการนักศึกษาไปด้วย > ไอ้หงอกจะไม่เป็นเดือดเป็นร้อนนัก
แต่ถ้าโปรฯปรีดี หรือ โปรขบวนการ นศ.มธ. หรือ โปรอุดมการณ์บางอย่างใน พคท.ร่วมกับการโปรฯสถาบันฯไปด้วยกัน > ไอ้หงอกจะออกมาดิ้น ประมาณว่ารับไม่ได้

ดูๆแล้วเหมือนกับว่ามันจะเป็นพวกเกลียดการปรองดองเข้าใส้ด้วยนาครับ?
:P


เอออ....ผมไม่ทันสังเกตแฮะ แต่เข้าเค้าทีเดียว
ตอนที่แม้วหักมุม กลับมาขอโทษสถาบัน ที่ไปออกรายการก้าวล่วงถึงรัชกาลต่อไป มันก็เคยโวยแบบอกหักเหมือนกัน
แล้วก็โวยไทยอีนิวส์ด้วยประเด็นนี้เหมือนกัน
--------------
“สมศักดิ์ เจียมฯ” รับไม่ได้ จี้เว็บแดงแจงขึ้นแบนเนอร์ “ทรงพระเจริญ” เตือน “ทักษิณ” อย่าทรยศ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2554 20:57 น.

Edited by amplepoor, 13 August 2012 - 02:16.


#521 วันศุกร์

วันศุกร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 518 posts

Posted 13 August 2012 - 04:45


จำไม่ได้แน่นอนว่าอ่านจากเรื่องใหนแต่คิดว่าน่าจะเป็นอันนี้นะคะ http://www.reurnthai...hp?topic=3419.0 พอดีอ่านไปได้ประมาณ 3 กระทู้เองคะ เนื้อหาแน่นมาก แล้วเรื่องบางเรื่องอย่างทรัพสินนี่ก็เป็นแนวสอดใส้ในเรื่องต่างๆน่ะคะ เลยจำไม่ได้ว่าตรงใหนเต่เริ่มอ่านตั้งแต่ http://www.reurnthai...hp?topic=3363.0 แล้วก็ไปเรื่อย จนตอนนี้ถึงแค่ http://www.reurnthai...hp?topic=3438.0 เองคะ แล้วอันสุดท้ายมีเรื่องเกี่ยวกับเสรีไทยและคอมมิวนิสเข้ามาปนด้วย ขอโทษที่หาแบบตรงตัวให้ไม่ได้นะคะ


กดเข้าไปดู 40 หน้า 29 หน้า 25 หน้า....ย๊ากกกสสส
ไม่คิดว่าจะเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ต้องขอประทานโทษที่รบกวนครับ
เรื่องน่าอ่านทั้งนั้น ขอไปไล่อ่านก่อนครับ


อ่านให้สนุกนะคะ :D ไม่ต้องขอโทษหรอกคะเพราะเราก็เป็นคนพูดออกมาเองแต่ดันจำไม่ได้ว่าไปอ่านมาตรงใหน ขอโทษด้วยคะ แต่อ่านไปไม่เสียหลายแน่นอนคะ

You can't fix stupid - Ron White

 

You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan

 

"A society is judged by how it treats its animals and elderly"


#522 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

Posted 13 August 2012 - 16:39

วันนี้ได้คุยกับอาจารย์ มธ. ท่านหนึ่ง
อาจารย์ท่านนั้นเล่าถึงการตรวจข้อสอบและออกเกรดให้เด็กนักศึกษา
หลังสอบแล้ว อาจารย์จะตรวจข้อสอบ และคิดเกรด
การออกเกรดจะออกเป็นรอบๆ ทั้งหมด 4 รอบ
มหาวิทยาลัยจะกำหนดวันในปฏิทินไว้เลยว่า แต่ละรอบจะตรงกับวันไหน



ถ้าเลยเวลาส่งเกรดรอบที่ 4 แล้ว อาจารย์คนไหนไม่ส่งเกรด
จะมีบทลงโทษตามระดับโดย
ถูกตักเตือนด้วยวาจาในครั้งแรก
ถูกตักเตือนด้วยลายลักษณ์อักษร
ตัดเงินเดือน

ทายกันสิว่า หงอกเจียม ปฏิบัติหน้าที่อาจารย์ได้ดีเลิศเพียงไร
ถึงได้ถูกตัดเงินเดือนเพราะการนี้เมื่อหลายปีก่อน
:D :D :D

#523 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

Posted 13 August 2012 - 18:07

ทายกันสิว่า หงอกเจียม ปฏิบัติหน้าที่อาจารย์ได้ดีเลิศเพียงไร
ถึงได้ถูกตัดเงินเดือนเพราะการนี้เมื่อหลายปีก่อน
:D :D :D

ก็วันๆมันเอาเวลาไปแต่งนิทาน ฉวัดเแวียนเสียดสี สถาบัน
จะเอาเวลาที่ไหนทำงานในหน้าที่

#524 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

Posted 13 August 2012 - 18:52

จิตรไปเขียนเรื่องสนมมีศักดินาเท่าไหร่ ซึ่งเป็นเรื่องสมัยพระบรมไตรโลกนาถโน่น แล้ววันที่จิตรเขียนหนังสือ ปรีดีก็โค่นกษัตริย์ไปแล้วด้วย แถมเขายังเลิกใช้ศักดินามานานนม เพราะเปลี่ยนมาใช้ประมวลกฏหมายอาญาตามแบบสากล เท่ากับยกเลิกวิธีปรับไหมตามศักดินาไปเกลี้ยงเกลา...ทั้งหมดนี้ ชี้ว่า จิตรเอาผีศักดินามาหลอกคนอ่าน เอาเรื่องที่จบไปแล้วมาปลุกระดม เปรียบเหมือนเอาเรื่องทรมานทาสเมื่อ 100 ปีก่อนมาอ้าง เพื่อจะล้มเจ้าในวันนี้ มันไร้สาระสิ้นดี


จริงอยู่ที่ว่า ในยุคของจิตร สมบูรณาญาสิทธิราชสิ้นสุดไปแล้ว > แต่ทำไมในระบบการศึกษา จึงยังโปรฯสถาบันกษัตริย์ในยุคประวัติศาสตร์สมัยเก่า ราวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ปาน?!? จนถึงยุคที่ผมเรียนอยู่ชั้นประถมก็ยังโปรฯแบบสุดลิ่มทิ่มประตูอยู่(ผมเกิดหลังปี 20) แม้ในกฎหมายจะไม่ได้ห้ามวิพากษ์วิจารณ์(ในเชิงวิชาการ)แต่กฏสังคมมันป่าเถื่อนกว่านั้นมาก ไม่งั้นลุงจิตรแกคงไม่โดนจับโยนบก ด้วยข้อหาวิพากษ์ความเชื่อเกี่ยวกับสถาบันฯหรอก(ซึ่งไม่เข้าข่าย ม.112เลย)*ผมไม่ได้หมายความว่า คำกล่าวของจิตรจะถูกต้องไปเสียหมด แต่วิธีการที่พวกอนุรักษ์นิยมใช้ในยุคนั้นมันถ่อยเกินจริงๆ หรือถ้าเป็นในห้องเรียน(ในยุคนั้น) ใครตั้งข้อสงสัยหรือโต้แย้งประวัติศาสตร์ก็จะถูกครูอาจารย์ตั้งข้อหาว่า'ไม่รักชาติ'แบบเหมารวมไปหมด
*คุณแอมป์กล่าวว่า จิตรวิพากษ์ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ทั้งที่ยุคนั้นไม่ใช่แล้ว...ผมเลยมีคำถามในมุมกลับคือ ในเมื่อไม่ใช่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชแล้ว ทำไมระบบการศึกษาและระบบราชการในช่วงนั้น จึงห้ามตั้งคำถามกับเจ้าหรือบุคคลสำคัญในพงศาวดาร? ทำไมไม่มีใครเก่งพอจะมาตบเกรียนจิตรด้วยข้อมูลเชิงตรรกะและวิชาการ?มีแต่พวกต่อต้านแกด้วยวิธีถ่อยๆ(คล้ายๆวิธีของเสื้อแดงในยุคนี้)



จิตรใช้มุมมองที่ผิดพลาดในการศึกษา คือใช้ตำรามาร์กซิสที่เขาบอกไว้แล้วว่า ยกเว้น ใช้กับเอเชียไม่ได้ เพราะมีรูปแบบวิภีการผลิตที่ต่างไปจากของฆอเคซอย...แต่เป็นธรรมดาของเด็กเห่อของใหม่ จิตรน้อยก็อยากจะเป็นนักวิชาการสายนี้อย่างรวดเร็ว ก็เลยตัดเสื้อคลุมมาร์กซิส แล้วเอาประวัติศาสตร์ไทย ยัดเข้าไป แล้วสรุปอย่างสุดเท่ว่า “ประวัติศาสตร์แทนที่จะเป็น ประวัติศาสตร์แห่งการเคลื่อนไหวก้าวหน้าของประชาชน ตรงข้ามกลับเป็นประวัติ การสืบสันตติวงศ์ของกษัตริย์”

ทุกครั้งที่ผมอ่านเจอคำพวกนี้ ยืนหยัดต่อสู้ ก้าวหน้า ล้าหลัง.....ในสำนวนฝ่ายซ้าย ผมมักจะรำคาญเพราะคำขยายมันมากกว่าตัวเรื่อง จะเรียกว่าจิตรเป็นนักประชาสัมพันธ์ก่อนเป็นนักประวัติศาสตร์ก็คงไม่ผิด

แต่ผิดที่สุดก็ตรงที่จิตร ใช้กรอบทฤษฎีอันเหลวไหล มาบอกว่าสังคมไทยต้องเดินไปตามวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ (Historical Meterialism) อย่างเคร่งครัด คือยุคสมัยของสังคมมี 5 ขั้นตอน จากสังคมบุพกาล มาเป็นสังคมทาส แล้วเป็นสังคมศักดินา สังคมทุนนิยม ปิดท้ายต้องเป็นสังคมคอมมิวนิสต์

น่าสงสารที่จิตรตายเสียก่อน จึงไม่ได้เจอสังคมหลังคอมมิวนิสต์ที่มาร์กสเองก็นึกไม่ถึง คือสังคมคอมมิวนิสต์ที่เลิกเป็นคอมมิวนิสต์


ผมนึกถึงบทความนึงของ อ.เสกสรรค์ ที่แกเคยเขียนไว้ในหนังสือ ค.คน ฉบับเดือนเมษายน 2550...ดูจะเป็นบทความที่แสดงถึงคนที่เข้าใจความจริงจากประสบการณ์นอกตำรา

"ถ้าเราจะร่างรัฐธรรมนูญใช้เอง เราจะทำอะไรที่เป็นการสร้างสันติสุขให้กับประเทศเรา อะไรที่มันตรงกับความเป็นจริงของเราก็ทำไปเถิด ไม่ต้องไปเสียเวลาคำนวณว่ามันจะถูกใจตะวันตกหรือไม่ พูดอย่างนี้ไม่ใช่ชาตินิยมหรอกนะ ชาตินิยมแบบคับแคบผมไม่ชอบ แต่พวกเพ้อเจ้อบ้าทฤษฎี ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน คือเราควรอยู่กับความเป็นจริง"
"สังคมไทยไม่ได้เปลี่ยนมากมายอะไร คุณเพียงแต่ยัดมันลงไปในหีบห่อที่เรียกว่าประชาธิปไตยบ้าง เผด็จการบ้าง มันเป็นเพียงชื่อที่เราตั้งขึ้นในแต่ละช่วงเวลา พอเอาสิ่งเหล่านี้มาครอบสังคมไทยลงตัวบ้างไม่ลงตัวบ้าง เราก็พาลโกรธว่ามันไม่เป็นอย่างนั้น ไม่เป็นอย่างนี้ อันที่จริงมันไม่เป็นอะไรสักอย่างนอกจากเป็นตัวมัน มันคลี่คลายไปเรื่อยๆ"

Edited by Huligan, 13 August 2012 - 18:55.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#525 ..มือดีจากพระนคร..

..มือดีจากพระนคร..

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 400 posts

Posted 13 August 2012 - 19:57

เจ้าของจอมโวกระทู้นี้ มีเวลาไปให้ความรู้ งูๆปลาๆ ในกระทู้ผมบ้างนะคับ :lol: :D :lol:

http://webboard.seri...ชับพื้นที่-ของ/

#526 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 13 August 2012 - 20:01

จริงอยู่ที่ว่า ในยุคของจิตร สมบูรณาญาสิทธิราชสิ้นสุดไปแล้ว > แต่ทำไมในระบบการศึกษา จึงยังโปรฯสถาบันกษัตริย์ในยุคประวัติศาสตร์สมัยเก่า ราวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ปาน?!? จนถึงยุคที่ผมเรียนอยู่ชั้นประถมก็ยังโปรฯแบบสุดลิ่มทิ่มประตูอยู่(ผมเกิดหลังปี 20) แม้ในกฎหมายจะไม่ได้ห้ามวิพากษ์วิจารณ์(ในเชิงวิชาการ)แต่กฏสังคมมันป่าเถื่อนกว่านั้นมาก ไม่งั้นลุงจิตรแกคงไม่โดนจับโยนบก ด้วยข้อหาวิพากษ์ความเชื่อเกี่ยวกับสถาบันฯหรอก(ซึ่งไม่เข้าข่าย ม.112เลย)*ผมไม่ได้หมายความว่า คำกล่าวของจิตรจะถูกต้องไปเสียหมด แต่วิธีการที่พวกอนุรักษ์นิยมใช้ในยุคนั้นมันถ่อยเกินจริงๆ


ผมติดใจตรงสาเหตุที่จิตรถูกจับโดยบก เพราะคุ้นๆว่า ว.วินิจฉัยกุล เคยเอ่ยถึงไว้ดังนี้ http://www.reurnthai...hp?topic=1653.0
Posted Image

เลยไปค้นข้อมูลดังข้างล่างพบว่าจิตร ภูมิศักดิ์ถูกจับโดยบกเพราะ หนังสือมหาวิทยาลัย ฉบับ ๒๓ ตุลาคม 2496 ได้ข้อมูลคร่าวๆดังนี้
Posted Image
หนังสือมหาวิทยาลัย ฉบับ 23 ตุลาคม 2496

จิตรกับกรณีโยนบก

ท่ามกลางความบ้าคลั่งของระบบ SOTUS (ธรรมนิยม-สามัคคี-น้ำใจ-ระเบียบ-อาวุโส/คำแปลในสมัยนั้น) ของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในทศวรรษ ๒๔๙๐ โดยมีมหาวิทยาลัย ๒๓ ตุลาคม ซึ่งเป็นหนังสือประจำปีที่ได้มีการจัดทำขึ้นทุกปี เป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดความคิดดังกล่าว

จิตร ภูมิศักดิ์ นิสิตชั้นปีที่ ๓ คณะอักษรศาสตร์ ในฐานะสาราณียากร ได้ปฏิวัติการจัดทำหนังสือมหาวิทยาลัย ๒๓ ตุลาคม ซึ่งเป็นหนังสือประจำปีขึ้นเสียใหม่ ทั้งในรูปแบบ และเนื้อหา

รูปแบบ จากเดิมที่มีแต่พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นหน้าปก จิตรได้เปลี่ยนรูปแบบเสียใหม่ โดยให้เหตุผลว่าหนังสือเล่มนี้ทำมา ๒๐-๓๐ ปีแล้ว ก็มีรูปซ้ำซากตลอดมา

เนื้อหา จากเดิมที่เป็นเวทีในการสรรเสริญพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และปลูกฝังระบบ SOTUS จิตรได้ปรับเปลี่ยนให้มีบทความ "สรรเสริญ ร.๕ เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น" และจิตรได้เขียนบทความ "พุทธปรัชญาแก้สภาพสังคมตรงกิเลส วัตถุนิยมไดอะเลคติค แก้สภาพสังคมที่ตัวสังคมเอง และแก้ได้ด้วยการปฏิวัติ มิใช่ปฏิรูปตามแบบสิทธารถ ปรัชญาวัตถุนิยมไดอะเลคติค กับปรัชญาของสิทธารถผิดกันอย่างฉกรรจ์ตรงนี้" (หรือรู้จักกันอีกชื่อคือ "ผีตองเหลือง") ซึ่งเป็นการเขียนวิจารณ์ความเสื่อมทรามของพระภิกษุสงฆ์ที่หากินภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ภายใต้กรอบลัทธิมาร์กซ์ ซึ่งจิตรกำลังศึกษาอยู่ในขณะนั้น ในนามปากกาว่านาครทาส

และบทกวีที่ชื่อ "เธอคือหญิงรับจ้างแท้...ใช่แม่คน" ในนามปากกาศูลภูวดล ที่วิจารณ์ผู้หญิงที่รักสนุกแต่พอท้องขึ้นมาแล้วปัดความรับผิดชอบ พร้อมกับบทความอื่นอีก ๔-๕ เรื่องที่ถูกตีความว่า "ไม่ควรลงมาตีพิมพ์ในหนังสือที่มีเกียรติ"

แม้มหาวิทยาลัย ๒๓ ตุลาคม ๒๔๙๖ ฉบับที่จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นสาราณียกร ไม่เคยได้รับการตีพิมพ์แต่หนังสือดังกล่าวยังถูก "เข็น" ออกมา คณะผู้จัดทำชุดใหม่ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยการ

เจาะกระดาษออกเป็นรูปวงกลมตรงมุมขวาบน พร้อมสอดภาพพระบรมรูปรัชกาลที่ ๕ เมื่อทาบปกลงมาก็จะปรากฏพระบรมรูปรัชกาลที่ ๕ โผล่ออกมาพอดี

http://topicstock.pa...0/K5378590.html


Posted Image

เท่าที่ข้อมูลที่ปรากฎจะเห็นได้ว่าไม่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เป็นพวกคณะวิศวะไม่พอใจที่มาทำลายระบบ SOTUSมากกว่า ซึ่งถ้าใครเคยเรียนคณะวิศวะ ก็จะทราบว่าคณะนี้เขาแรงเรื่องนี้มานานแล้ว(เรื่องร.5ก็มีในหนังสือตามปรกติ)

และโปรดพิจารณาความเห็นของ ว.วินิฉับกุล ซึ่งผมเห็นด้วยสภาพสังคมสมัย พ.ศ.2496 บ้านเมืองยังดี คนยังมีศีลธรรมสูง พระสงฆ์ยังไม่มีข่าวมากขนาดนี้ เป็นธรรมดาที่คนในพ.ศ.2496 รับไม่ได้

ผมไม่ได้จะบอกว่าจิตรถูกโดยบกเป็นเรื่องที่ถูก เหมือนกับที่นิสิตจุฬา3000คน โหวตเห็นด้วยกับเรื่องโยนบกแค่300คน ถึงผมไม่เห็นด้วยกับจิตรแต่ก็คงโหวตไม่เห็นด้วยกับระบบโยนบก แต่แค่อยากให้พิจารณาสาเหตุรอบด้านด้วย






หรือถ้าเป็นในห้องเรียน(ในยุคนั้น) ใครตั้งข้อสงสัยหรือโต้แย้งประวัติศาสตร์ก็จะถูกครูอาจารย์ตั้งข้อหาว่า'ไม่รักชาติ'แบบเหมารวมไปหมด
*คุณแอมป์กล่าวว่า จิตรวิพากษ์ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ทั้งที่ยุคนั้นไม่ใช่แล้ว...ผมเลยมีคำถามในมุมกลับคือ ในเมื่อไม่ใช่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชแล้ว ทำไมระบบการศึกษาและระบบราชการในช่วงนั้น จึงห้ามตั้งคำถามกับเจ้าหรือบุคคลสำคัญในพงศาวดาร? ทำไมไม่มีใครเก่งพอจะมาตบเกรียนจิตรด้วยข้อมูลเชิงตรรกะและวิชาการ?มีแต่พวกต่อต้านแกด้วยวิธีถ่อยๆ(คล้ายๆวิธีของเสื้อแดงในยุคนี้)


อันนี้ต้องถามว่าเคยอ่าน"โฉมหน้าศักดิ์นาไทย"หรือยัง? ผมเชื่อว่าถ้าเคยอ่านแล้วจะรู้สึกเหมือนผมว่า จิตรเอาศักดินาแบบฝรั่งมายัดให้ศักดินาแบบไทยๆ ผมเชื่อว่าคุณamplepoorวิจารณ์หนังสือเล่มนี้ของจิตรนะ


*ป.ล. สำหรับผมจิตร ภูมิศักดิ์ ไม่โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์นะครับ ไม่เคยโจมตีด้วยซ้ำ จิตรจะเล่นเรื่องเผด็จการซะเป็นส่วนใหญ่

Edited by ดราม่า, 13 August 2012 - 21:00.

"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#527 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 13 August 2012 - 20:11

โฉมหน้าศักดิ์นาไทย โหลดไปอ่านฟรีได้ http://www.4shared.c...kdina_thai.html แต่บอกตรงๆอ่านแล้วผมไม่เข้าใจว่าถูกยัดเข้าไปเป็นหนังสือ100เล่นที่คนไทยควรอ่านได้ยังไง
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#528 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 13 August 2012 - 20:26

คุณHuliganใช้คำว่าโปรฯสถาบัน ผมเดาจากลักษณะภาษาคุณคงไม่เห็นด้วยกับการที่"คนรักสถาบัน และเห็นคุณค่าของการมีสถาบัน"ทำการประชาสัมพันธ์ด้านดีของสถาบันพระมหากษัตริย์ (ผมมิได้จะบอกว่าคุณเป็นพวกเดียวกับสมศักดิ์นะ แต่ผมเข้าใจคุณ เพราะคนสมัยนี้ถูกสอนให้ตั้งคำถามกับทุกเรื่อง)

แต่ผมมองในมุมที่ว่า คนรักสถาบันพระมหากษัตริย์เขาก็มีสิทธิ์ที่จะชื่นชมพระราชกรณียกิจและมีสิทธิ์ที่จะแสดงออก ผมกลับแปลกใจด้วยซ้ำว่าพวกที่ไม่อยากให้มีสถาบัน(ผมไม่ได้หมายถึงคุณHuligan)มาเดือดร้อนอะไรนักหนาถึงกับต้องมาตามด่าคนรักสถาบันอย่างหยาบคาย และตามเล่นงานสถาบันทั้งบนดินใต้ดินขนาดนี้?
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#529 วะเฮ้ย

วะเฮ้ย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 490 posts

Posted 13 August 2012 - 21:29

# 233 คุณ Punda ตอบได้น่าทึ่งมาก

ผมตามเข้าไปอ่านใน FB ของคุณ Punda ที่คุณดราม่าเอามาแปะ และได้อ่านที่ อ.สมศักดิ์ได้เข้ามาตอบ
ทำให้นึกถึงกระทู้หนึ่ง ที่มีสมาชิกถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นคุณดราม่านี่แหละ เอาคลิป อ.สมศักดิ์มาลง ชื่อคลิปว่า " อ.สมศักดิ์ เจียมฯ ช็อตเด็ด "

คลิปนั้นพล่ามไป พล่ามมา อ้างโน่น อ้างนี่ สรุปใจความได้ว่า อยากด่าสถาบัน
และในคลิปนั้นแววตาแกเบิกโพลง หน้าตาบูดเบี้ยว แสดงอาการว่าโกรธสุดขีด แทบคุมอารมณ์ไม่ได้ เมื่อพูดถึงตรงที่ด่าสถาบันไม่ได้

แสดงว่าแกเก็บกด เคียดแค้นกับตรงนี้มาก

ล่าสุดที่ตอบคุณ Punda ก็ประเด็นเดิม คือด่านักการเมืองได้ แต่ด่าสถาบันไม่ได้
และในเว็บจาบจ้วง หรือใน FB เท่าที่ได้ติดตามอ่าน ส่วนใหญ่ก็ประเด็นนี้

พยายามทำทุกอย่างเพื่ออยากด่าสถาบัน ถึงขนาดยอมให้คนส่วนใหญ่รังเกียจ
ยอมเสี่ยงอันตรายจากการถูกทำร้ายจากคนรักสถาบัน
อยากด่าสถาบันถึงขนาดด่าพ่อแม่ตัวเองหยาบคายเป็นตัวอย่าง

ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนอย่างนี้อยู่ในโลก


ผมว่ามันมีปมในใจนะ อาจจะเห็นเพื่อนๆตาย หรือตัวเองเป็นคนพาเพื่อนไปตายในช่วง 6 ตุลา และเกิดอาการคลั่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ต้องหาหมอโรคจิตอย่างเดียวแล้วคนๆนี้ เกินเยียวยา

#530 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

Posted 13 August 2012 - 21:31

คุณHuliganใช้คำว่าโปรฯสถาบัน ผมเดาจากลักษณะภาษาคุณคงไม่เห็นด้วยกับการที่"คนรักสถาบัน และเห็นคุณค่าของการมีสถาบัน"ทำการประชาสัมพันธ์ด้านดีของสถาบันพระมหากษัตริย์ (ผมมิได้จะบอกว่าคุณเป็นพวกเดียวกับสมศักดิ์นะ แต่ผมเข้าใจคุณ เพราะคนสมัยนี้ถูกสอนให้ตั้งคำถามกับทุกเรื่อง)

แต่ผมมองในมุมที่ว่า คนรักสถาบันพระมหากษัตริย์เขาก็มีสิทธิ์ที่จะชื่นชมพระราชกรณียกิจและมีสิทธิ์ที่จะแสดงออก ผมกลับแปลกใจด้วยซ้ำว่าพวกที่ไม่อยากให้มีสถาบัน(ผมไม่ได้หมายถึงคุณHuligan)มาเดือดร้อนอะไรนักหนาถึงกับต้องมาตามด่าคนรักสถาบันอย่างหยาบคาย และตามเล่นงานสถาบันทั้งบนดินใต้ดินขนาดนี้?


ผมไม่คัดค้านการเทิดทูลหรือสดุดีนะครับ สิทธิของเขา และโดยส่วนตัว ผมก็เคารพในหลวงองค์ปัจจุบันด้วย
แต่ผมอยากจะเล่าว่า ทำไมสมัยผมยังเด็ก อย่าว่าแต่รัชกาลปัจจุบันเลย > แค่ตั้งคำถามกับเรื่องกษัตริย์ในยุคโบราณ หรือเห็นแย้งกับความเชื่อทางศาสนา ยังทำไม่ค่อยได้เลยด้วยซ้ำ(อันนี้ผมด่าระบบการศึกษานะ ไม่ได้พาทพิงตัวสถาบันฯ)
*ผมไม่นิยมชมชอบพวกโอหัง+บ้าอำนาจทุกประเภทครับ ไม่ว่าจะเป็นพวกขวา(ที่พวกคลั่งศีลธรรมที่จับจิตรโยนบก)หรือพวกตรงข้าม(เช่นพวกควายแดงในยุคปัจจุบัน)

ปล.ขออภัยที่ผมจำผิดเรื่อง'สาเหตุที่จิตรถูกจับโยนบก'


อันนี้ต้องถามว่าเคยอ่าน"โฉมหน้าศักดิ์นาไทย"หรือยัง? ผมเชื่อว่าถ้าเคยอ่านแล้วจะรู้สึกเหมือนผมว่า จิตรเอาศักดินาแบบฝรั่งมายัดให้ศักดินาแบบไทยๆ ผมเชื่อว่าคุณamplepoorวิจารณ์หนังสือเล่มนี้ของจิตรนะ


*ป.ล. สำหรับผมจิตร ภูมิศักดิ์ ไม่โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์นะครับ ไม่เคยโจมตีด้วยซ้ำ จิตรจะเล่นเรื่องเผด็จการซะเป็นส่วนใหญ่


ใช่ครับ ผมเห็นว่าคุณ Ampฯ ทำถูกแล้ว ซึ่งตบเกรียนจิตรด้วยวิธีทางตรรกะ > ส่วนพวกคลั่งศีลธรรมที่ใช้กำลังแบบสมัยก่อนนั้นมันไม่เข้าท่า

Edited by Huligan, 13 August 2012 - 21:59.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#531 วันศุกร์

วันศุกร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 518 posts

Posted 13 August 2012 - 21:39

What is โยนบก ? Google couldn't help...

You can't fix stupid - Ron White

 

You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan

 

"A society is judged by how it treats its animals and elderly"


#532 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 13 August 2012 - 21:47

What is โยนบก ? Google couldn't help...


วิธีคือ คนหนึ่งจับแขนคนหนึ่งจับขา แล้วโยนลงน้ำ

แต่ที่จิตรโดนนี่หนักหน่อย โยนจากเวทีลงพื้นเลยเรียกโยนบก

จนกระทั่งมาถึงบทความเรื่องประเพณีการโยนน้ำตามระบบ SOTUS ของชาวจุฬาฯ ซึ่งจิตรเองไม่ได้เป็นผู้เขียน แต่คัดเลือกมาจากบทความที่เพื่อนนิสิตส่งมาลง เสียงตะโกนจากฝั่งคณะวิศวะก็เริ่มดังขึ้นแสดงความไม่พอใจ อันสืบเนื่องจากประธานเชียร์เป็นคนของวิศวะ จิตรยังคงพูดต่อไปอย่างอดทน จนกระทั่งเขาได้กล่าวปิดท้ายการชี้แจงของเขาโดยการเรียกร้องว่า

http://www.oknation....nt.php?id=48029


วิศวะจุฬาสมัยนั้นหงุดหงิดที่โดนวิจารณ์ ;)

Edited by ดราม่า, 13 August 2012 - 21:51.

"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#533 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 13 August 2012 - 22:42

สมศักดิ์ เจียมฯกล่าวหา ร.7ให้เงินกบฎบวรเดชอีกแล้ว ผมล่ะเบื่อกับอาจารย์มหาลัยคนนี้จริงๆ นี่ผมนึกภาพออกเลยนะว่าอาจารย์ประวัติศาสตร์อย่างสมศักดิ์ จะบิดเบือนประวัติศาสตร์มากขนาดไหน

Posted Image
http://www.facebook....&type=1


linkข้างบนเป็นคำพิพากษาให้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า แพ้คดียึดทรัพย์ แต่พวกนี้ก็แกล้งมองข้ามไปว่าเป็นการดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรมคณะราษฎรเข้าแทรกแซงศาล ถึงขั้นสั่งย้ายอธิบดีศาลด้วยซ้ำ
http://webboard.seri...ชา/page__st__50


ขอนำบทความคุณNAVARAT.Cมาให้อ่านเปรีบเทียบดูครับ

พระองค์บวรเดชเป็นเจ้านายกลุ่มที่อยากให้สยามเปลี่ยนเป็นประชาธิปไตยมาช้านานแล้ว กรมพระนครสวรรค์ซึ่งความจริงก็อยู่ในกลุ่มความคิดเดียวกันจึงรับสั่งถามเมื่อคณะราษฎร์จับพระองค์เป็นตัวประกันว่า ใครเป็นหัวหน้า พระองค์บวรเดชใช่ไหม น่าสงสารเจ้านายหัวนอกองค์นี้ที่ไม่มีใครเชื่อว่าทรงเป็นนักประชาธิปไตย เพราะนิสัยเจ้ายศเจ้าอย่าง ชอบวางองค์ข่มผู้อื่น เมื่อทรงผิดหวังกับคณะราษฎรที่มองข้ามเศียร จึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายที่จะสอดองค์เข้าไปเป็นผู้นำการปฏิวัติแทนพระยาศรีสิทธิสงคราม โดยไม่ทรงสังหรณ์สักนิดว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของคณะกู้บ้านกู้เมือง แม่ทัพนายกองหลายคนสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันทีว่าหากทำสำเร็จแล้ว ระบอบราชาธิปไตยจะฟื้นกลับมาอีกโดยมีภาพและฐานันดรศักดิ์ของพระองค์เจ้าบวรเดชหลอนอยู่ ผู้บังคับกองพันในพระนครคนสำคัญๆหลายนายนั้น นอกจากจะไม่เอาด้วย ยังเปลี่ยนใจไปอยู่ข้างรัฐบาลและมารบกับคณะกู้บ้านกู้เมือง ภายหลังจากนั้นอีกไม่นาน

ตอนที่ทรงได้รับจดหมายเตือนจากหลวงพิบูล คนอื่นก็เข้าไปเคลียร์ตนเองหมดขาดแต่พระองค์ที่ทรงมีทิฐิมานะสูงเกิน จะว่าไปแล้ว จดหมายฉบับนี้ เลยทำให้ทรงทราบว่าพวกคณะกู้บ้านกู้เมืองน่าจะกำลังทำอะไรอยู่แน่ๆ และน่าจะขาดอะไรสักอย่างหนึ่งด้วย จึงทรงหาเงิน๒๐๐,๐๐๐ บาทไว้แสดงในระหว่างการเปิดตัว และคงต้องตรัสความนัยอะไรออกไปบ้างจนแกนนำคณะกู้บ้านกู้เมืองยอมรับ ชูพระองค์เป็นแม่ทัพใหญ่แทนพระยาศรีที่ยอมลดตนเองลงมาเป็นรอง

หลังปราบกบฏจบแล้ว รัฐบาลพบหลักฐานว่า เงิน๒๐๐,๐๐๐ บาทนั้น ถูกจ่ายให้พระองค์เจ้าบวรเดชโดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระปกเกล้าฯจึงทรงเป็นเป้าให้พวกแอนตี้เจ้าทั้งหลายโจมตีอย่างสาดเสีย ทั้งๆที่ทรงปฏิเสธว่า ไม่ได้ทรงทราบเรื่องหรือรู้เห็นเป็นใจมาก่อนเลย เมื่อทรงทราบนั้นก็เกินแก้แล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่คุมสำนักงานทรัพย์สินฯมีอำนาจสั่งจ่ายเงินได้โดยไม่จำเป็นต้องกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตทุกครั้งก็คือกรมพระสวัสดิวัตนวิศิษฎ์ พระพระสัสสุระ(พ่อตา)ของพระเจ้าอยู่หัว พวกที่โจมตีก็ทราบอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร แต่เจตนาจะมิเอ่ยถึง

http://www.reurnthai...hp?topic=5194.0



พระปกเกล้าจะให้เงินบวนเดชทำไม ถ้าท่านห่วงอำนาจจริง ตอนไอ้คณะเด็กๆอย่างคณะราษฎรรัฐประหาร ถ้าท่านไม่ยอมซะอย่างไอ้พวกนี้จะสู้อะไรได้?


*ขอเพิ่มอีกนิด ตอนที่ ร.7 ทรงโอนเงินจากพระคลังตอนที่ยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ก่อนที่จะมีกฎหมาย พรบ.ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 2479 ด้วย(ทรงสละราชสมบัติ 2 มีนาคม พ.ศ.2477) แสดงว่าจะโอนเงินจากพระคลัง(ชื่อเดิมของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์) ก็เป็นสิทธิ์ของพระมหากษัตริย์ แล้วไอ้พวกคณะราษฎรมันเอาหลักกฎหมายอะไรมาฟ้อง?

อ่านเพิ่มเติมเรื่องหน้าที่ของพระคลังจากกระทู้นี้ครับhttp://topicstock.pa...5/K7396495.html

Edited by ดราม่า, 13 August 2012 - 22:56.

"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#534 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 13 August 2012 - 23:33

แต่สุดท้ายถึงรัฐบาลคณะราษฎรชนะคดีฟ้องร.7 แต่ก็ต้านกระแสประชาชนไม่ไหวต้องคืนทรัพย์สู่เจ้าของเดิมในที่สุด

ในหนังสือเจ้าฟ้าประชาธิปก ราชันผู้นิราศ ของเขา, “นายหนหวย” ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า :
“วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๔๘๙ ขณะนั้นเป็นรัฐบาลของพลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รัฐบุรุษอาวุโสได้บันดาลให้เกิดสัญญาประนีประนอมประวัติศาสตร์ขึ้นระหว่างรัฐบาลกับจำเลยที่ ๒ ในคดีที่รัฐบาลเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคือสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี และกองมรดกผลประโยชน์ทั้งหลายของเจ้าฟ้าประชาธิปก มีสาระสำคัญว่า บรรดาทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหลายที่ผูกพันกันอยู่นั้น เป็นอันให้เลิกแล้วต่อกัน รัฐบาลได้มาแล้วเท่าไรก็เอาเท่านั้น
นอกจากนี้นายปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน รัฐบุรุษอาวุโสยังได้แสดงความจริงใจเปิดเผยต่อบุคคลหลายคนและหนังสือพิมพ์ว่า จะคืนวังศุโขทัยที่ตกเป็นของรัฐตามคำพิพากษาคืนให้แก่จำเลยที่ ๒ ซึ่งยังดำรงพระชนมชีพอยู่ ยิ่งไปกว่านี้ในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน นายปรีดี พนมยงค์ ดำริจะอัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกลับคืนประเทศไทย ได้มีการติดต่อเป็นทางการสมานรอยร้าวในอดีตกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีเป็นที่เรียบร้อยและรู้กันทั่วไป”

อันที่จริง, นอกจากเรื่องจะอัญเชิญพระบรมอัฐิกลับเมืองไทยแล้ว นายปรีดียังมีปรารถนาให้สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีทรงเข้ามาเป็นประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์คณะใหม่ด้วย. อย่างไรก็ตาม, ความพยายามของนายปรีดี พนมยงค์ ก็ไม่ประสบผล. การรัฐประหารในเดือนพฤศจิกายน ๒๔๙๐ โดยพลโทผิน ชุณหะวัน กับพรรคพวกทำให้นายปรีดีต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ และไม่มีโอกาสกลับมามีบทบาททางการเมืองอีก.

สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีได้ทรงอัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกลับถึงประเทศไทยในวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ ในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม. และหลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้ย้ายออกไปในเดือนพฤศจิกายน ๒๔๙๓ แล้ว, ทางราชการก็ได้ถวายวังศุโขทัยคืนแด่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีเพื่อเป็นที่ประทับต่อไป


"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#535 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 13 August 2012 - 23:37

ตอบเรื่องโยนบกก่อน

ประเพณีจุฬาสมัยกึ่งพุทธกาล จะลงโทษนิสิตที่ทำผิดด้วยการพาตัวไปที่สระน้ำ แล้วจับโยนลงไป
กรณีจิตรนั้น ไม่ได้มีในธรรมเนียมเลย เป็นความป่าเถื่อนของนิสิตวิศวฯอย่างแท้จริง
ถ้าจำไม่ผิด ก็คือรุ่นนายประสิทธิ์ ณรงค์เดชเจ้าพ่อผ้าอนามัย จะเป็นนายกสจม. หรือหัวหน้าคณะวิศวะก็ไม่แน่ใจ
ในการไต่สวนที่หอประชุม ไม่ทันที่จิตรจะอธิบายอะไรพวกเด็กวิศวะก็ฮือกันขึ้นบนเวทีแล้วบอกว่าโยนสระไมทันการ โยนบกตรงนี้เลย
แล้วก็โยนจิตรลงจากเวทีกันดื้อๆ...สูงสักเมตรกว่าๆ นับว่าป่าเถื่อนได้ใจจริงๆ แล้วการซักฟอกก็จบเพราะจำเลยต้องไปทำแผลที่โรงพยาบาล

ผมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของจิตร แต่พฤติกรรมเด็กวิศวะอย่างนี้ก็เหลือเกินจริงๆ (บ้านผมเรียนจุฬา กันทั้งบ้าน ยกเว้นผมคนเดียว) พี่ชายผม รุ่นหลังจากนี้ ก็ยังยกพวกตีกับวิทยาเละเทะ ตีเสร็จก็พาพวกมาทำแผลที่บ้าน หัวร้างข้างแตก เป็นแผลกันจนหายอยาก...ไม่ได้ต่างอะไรกับพวกช่างกล เพียงแต่ไม่ใช้มีดและปืนเท่านั้น

สังคมในยุคนั้น มีค่านิยมและการตัดสินความที่ต่างจากสมัยนี้มากครับ ที่โรงเรียน ครูยังต้องพกไม้เรียว แล้วก็ตีกันจริงๆ เด็กเกนี่ ก้นลายทุกคน มันเป็นสังคมที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านจากประเพณีนิยมมาเป็นสมัยนิยม ....เทียบกับหนังก็ประมาณ อันธพาลครองเมือง 2499 แต่ไม่เว่อร์เท่า ยุคนั้น ข้างบ้านผมแกเป็นรุ่นพี่มาก จบทำงานแล้ว ได้ยินเพลงน้ำใจน้องพี่สีชมพูแล้ว น้ำตาไหลพรากๆๆๆๆ เพราะแกโดนรีไทร์จากอักษร หรือ เจ้าพ่อนิยายเหมืองแร่ อาจินต์ ปัญจพรรค์ เขียนเรื่องสั้นกี่เรื่องกี่เรื่องก็จะต้องเล่าเรื่องถูกไทร์จากวิศวะตอนปีสอง.....หมายความว่าการยึดถือของคนแต่ละยุคนั้น ต่างกันจนบางทีต่างรุ่น ก็จะมองว่าแปลก

ทีนี้จะตอบเรื่องค่านิยมเรื่องเจ้า
ผมคิดว่าก่อน 14 ตุลา นี่ คนไทยคิดถึงพระเจ้าแผ่นดินไม่เหมือนปัจจุบัน สมัยนั้น แม้แต่รูปเราก็ไม่กล้าละเมิด อย่าว่าแต่จะวิจารณ์เลย วันที่เสด็จลงมารับนักศึกษาที่ถูกตำรวจไล่ตี หนีตายลุยคูเข้าไปในพระตำหนักจิตรลดารโหฐารนั้น ถ้าไมทรงอนุญาตแล้ว คงจะมีคนเจ็บตายมากมายเพราะตำรวจตั้งแนวตีตะลุยเข้ามาเป็นหน้ากระดาน

วันรุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์ลงรูป ทำให้ประชาชนคิดถึงพระเจ้าอยู่หัวแบบเรียลลิสติคขึ้น คือท่านยื่นมือช่วยตรงๆ เห็นๆ ไม่ใช่อย่างที่เราเคยอ่านเจอเป็นตัวอักษร ก่อนหน้าวันนี้ แม้แต่ข่าวในพระราชสำนักก็หาชมได้ยาก นานๆ ก็จะมีฉายให้ชมก่อนได้ดูหนังโรง ผมจำได้ว่ายังเด็กมากๆ ได้ดูก็ตื่นเต้นว่าท่านกระดุกกระดิกได้ เป็นคนเหมือนกับพวกเรานี่เอง....หึหึ

ความผูกพันระหว่างคนไทยกับพระเจ้าแผ่นดินนั้น สุดที่จะใช้ตำราใดๆ มาอธิบาย ถ้าจะเทียบก็คงเหมือนกับบางศาสนาสอนจนศาสนิก ยอมพลีชีพโดยไม่มีความกลัวเลย คงจะเป็นด้วยเหตุนี้ ที่นายปรีดีที่เสียงแข็งในวันที่ 24 มิถุนายน พอวันที่ 25 ก็เปลี่ยนท่าที

และอาจจะผ่านการวิเคราะห์สังคมไทยอย่างถี่ถ้วนตั้งแต่ก่อน 2475 พรรคคอมมิวนิสต์จึงตั้งเป้าโค่นล้มศักดินา แทนที่จะโค่นล้มรัฐหรือระบอบเศรษฐกิจ ทั้งๆ ที่นายปรีดีได้ปิดฉากระบอบศักดินาลงอย่างราบคาบแล้วในนามคณะราษฎร นี่เป็นเข็มมุ่งที่ผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับประเทศไทย การล้มเจ้าแล้วค่อยล้มทุน เป็นยุทธศาสตร์ที่ไม่มีวันสำเร็จ เพราะเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปากท้อง

ไทยไม่เหมือนฝรั่งเศส ที่พระเจ้าหลุยส์เหยียบประชาชนไว้ใต้ฝ่าพระบาท ไม่เหมือนพระเจ้าซาร์ที่ใช้ดาบตัดหัวก่อนที่คนจะร้องว่าหิว ไม่เหมือนฮ่องเต้ที่อ่อนแอตกอยู่ใต้อำนาจกังฉินซ้ำด้วยถูกมหาอำนาจกดขี่.....ประเทศไทยในปี 2475 ไม่มีประชาชนอดตาย ไม่มีประชาชนถูกกวาดต้อน ไม่มีการไล่ล่าจับคนเข้าคุก ไม่มีตำรวจลับ ไม่มีตลาดมืด ไม่มีกบฎแบ่งแยกดินแดน ไม่มีสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นประเทศที่งดงามแข็งแรง แต่ทรุดลงไปเพราะพิษเศรษฐกิจโลก กลับถูกฆ่าตายทั้งเป็นเพราะความร้อน"หลักวิชา"ของเด็กหนุ่มวัยเบญจเพศคนหนึ่ง



และที่สุดแสนจะทุเรศก็คือ การยึดอำนาจ สำเร็จลงได้เพราะการหลอกลวง

#536 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 13 August 2012 - 23:42

เจ้าของจอมโวกระทู้นี้ มีเวลาไปให้ความรู้ งูๆปลาๆ ในกระทู้ผมบ้างนะคับ :lol: :D :lol:

http://webboard.seri...ชับพื้นที่-ของ/


ไปมาสามรอบแล้ว นี่แสดงว่าไม่ได้ดูแลกระทู้ตัวเองเล้ยยย

สรุปว่านายเวรล้มเจ้านี่ ไม่โดนแบนตลอดชีวิตเหรอ

#537 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 14 August 2012 - 20:36

จากคู่หูสมศักดิ์ ธงชัย เล่าเรื่องวันที่ 6 ตุลา เอามาลงไว้ จะได้ไม่ต้องค้น
---------------
บันทึกของผู้อยู่ในเหตุการณ์เดือนตุลา เช้าวันพุธ
ธงชัย วินิจจะกูล


1
“พี่ ๆ ตำรวจครับ กรุณาหยุดยิงเถิดครับ เราชุมนุมกันอย่างสันติ เราไม่มีอาวุธ ตัวแทนของเรากำลังเจรจาอยู่กับรัฐบาล อย่าให้เสียเลือดเนื้อไปมากกว่านี้เลย กรุณาหยุดยิ่งเถิดครับ”

ผมจำได้ว่าตัวเองพร่ำพูดอย่างนี้นับร้อยครั้งในเช้าวันพุธนั้น ผมพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อที่สมองจะได้ไม่ต้องคิด รู้แต่เพียงว่าต้องมีเสียงจากเวทีให้นานที่สุด ไม่ต้องคิดอะไรไปมากกว่านั้น และเอาเข้าจริง ผมก็ไม่สามารถคิดอะไรได้มากกว่านั้น

ดูเหมือนนั่นจะเป็นการกล่าวต่อสาธารณชนครั้งสำคัญที่สุด แต่ไร้ค่าที่สุดในชีวิตผม เป็นคำพูดที่มีความหมายที่สุดเพื่อชีวิตนับพันในธรรมศาสตร์ แต่กลับไร้ความหมายมากที่สุด เพราะไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นสักนิด บางคนเห็นว่าสิ่งที่ผมทำเป็นความกล้าหาญ ในขณะที่บางคนข้องใจว่าไม่เห็นผมทำอะไรสักอย่าง

ผมหนีความทรงจำของตัวเองต่อเหตุการณ์เช้าวันนั้นไปไม่พ้น

จนถึงวันนี้ ความทรงจำและความรู้สึกขัดแย้งกันเองข้างต้น ยังคงเวียนมาหาผมอยู่เรื่อย ๆ

ที่แน่ ๆ ก็คือ ผมไม่รู้สึกกล้าหาญเลยตลอดเช้าวันนั้น ผมกลัว กลัวมาก ๆ ด้วย สติเท่านั้นที่ช่วยรั้งผมให้อยู่ตรงนั้น ผมกลัวจนคิดวิตกไปต่าง ๆ นานา

ในที่สุดผมก็พูดซ้ำ ๆ ซาก ๆ เพื่อสกัดไม่ให้ตัวเองคิด จะได้ไม่ต้องกลัวไปมากกว่านั้น

2
เราถูกก่อกวนด้วยอาวุธเบาหรือระเบิดทำเองตั้งแต่กลางดึก แต่ผู้ชุมนุมซึ่งผ่านการถูกก่อกวนทำร้ายมาหลายครั้ง กลายเป็นกลุ่มคนที่ขวัญไม่กระเจิงง่าย ๆ และพร้อมจะตอบสนองเสียงจากเวทีที่พยายามลดความสับสนอลหม่านทุกครั้งที่มีเสียงปืนหรื​อระเบิดดังมาจากทางหอประชุมใหญ่ ทุกคนพร้อมใจที่จะหมอบสงบนิ่ง ไม่มีการวิ่งพล่าน คนบนเวทีทำหน้าที่เพียงปลุกขวัญกำลังใจและเป็นตัวเชื่อมแต่ละชีวิตที่กระจายอยู่ตามส​นามและส่วนต่าง ๆ ของธรรมศาสตร์ บางทีสิ่งที่พูดไปอาจจะไม่สำคัญเท่ากับเสียงที่ยังคงดังอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเสียงคนหรือดนตรี

ดึกอย่างนั้นและถูกก่อกวนอย่างนั้น เราสามคน (คือตัวผม พี่ชายผม ชวลิต วินิจจะกูล ซึ่งเพื่อน ๆ เรียกว่า หง่าว และสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล) ซึ่งรับผิดชอบดูแลเวทีการชุมนุมอยู่ ไม่คิดจะปล่อยไมโครโฟนให้ใครอีก ยกเว้นวงกรรมาชนซึ่งคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ดี

เราเห็นป้อมยามด้านสนามหลวงถูกเผามอด เราเห็นแสงวูบวาบทุกครั้งที่มีระเบิดพลาสติกก่อกวน ประมาณตีสองหรือตีสาม เรารับรู้ว่าตำรวจเริ่มรายล้อมธรรมศาสตร์แล้ว เสียงปืนดังถี่ขึ้นทุกที

ผมไม่ได้เข้าร่วมประชุมกับแกนนำอีกเลยนับจากคืนวันที่ 4 แต่รับรู้ว่าพวกเขากำลังหาทางออกอยู่ ผมเองไม่ได้รับคำบอกกล่าวว่าการชุมนุมจะสลายตัวเมื่อไร แต่จากประสบการณ์ผมเข้าใจว่าเราคงคอยถึงตอนฟ้าสาง คิดเช่นนั้นจึงตัดสินใจไม่บอกที่ชุมนุมว่าตำรวจเริ่มล้อมธรรมศาสตร์แล้ว และห้ามพูดโจมตีหรือเป็นปฏิปักษ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเด็ดขาด แต่การวิพากษ์วิจารณ์รัฐ รัฐบาล และพวกเผด็จการ (ที่พยายามก่อรัฐประหาร) อย่างเป็นนามธรรมยังดำเนินไปตามปรกติ

ประมาณตีห้าครึ่ง เสียง “วี้ด” ยาว ๆ ดังจนผมตกใจ ยังไม่ทันคิดหรือรู้สึกอะไรทั้งสิ้น เสียงตูมก็ตามมาพร้อมแรงสะเทือน ควันสีขาวลอยขึ้นบริเวณเกือบกึ่งกลางสนาม ฟ้าเพิ่งจะสางควันกับหมอกจาง ๆ ปนเปกันไปหมด เห็นผู้คนนอนราบเป็นกลุ่มอยู่ตรงบริเวณนั้น แต่ดูไม่ออกเลยว่าเขาหมอบราบตามที่ได้นัดแนะกันไว้เมื่อได้ยินเสียงอาวุธ หรือพวกเขาบาดเจ็บ จนกระทั่งเห็นมีการลำเลียงคนเจ็บออกไปรักษาพยาบาลที่หน่วยพยาบาลเพื่อมวลชน (พมช.) บริเวณตึกบัญชี ไม่นานนักก็ได้รับรายงานว่ามีคนเสียชีวิตไปแล้ว 4 คน และมีผู้บาดเจ็บต้องนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

ตอนนั้นผมมีแต่ความโกรธและแค้นใจที่ทำกันรุนแรงขนาดนี้ ถึงความคิดและการกระทำของนักศึกษาจะดูรุนแรง แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิด เราไม่เคยมีปฏิบัติการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ในเวลานั้นเราพูดถึงการถูกล้อมปราบ แต่รูปธรรมที่ผมพอจินตนาการออกก็มีแต่ผ่านหนังสือที่เคยอ่านเท่านั้น ผมเองรู้สึกอยู่ว่าสถานการณ์ช่วงนั้นไม่ดีเลย เราจึงชะลอการชุมนุมออกไปหลายวัน ชุมนุมแล้วเลิกก็หลายครั้ง เรารู้ว่ามีความเสี่ยงอยู่มากที่จะถูกทำร้าย แต่ผมและเพื่อน ๆ จำนวนมากมิได้คาดเลยว่า การปราบปรามอย่างทารุณโหดร้ายเริ่มขึ้นแล้ว

เย็นวันที่ 5 แม้จะได้รับใบปลิวโจมตีนักศึกษาแสดงละครหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ผมก็ยังเชื่อว่าพอมีทางชี้แจงแก้ไขได้ ผมนึกอยู่เหมือนกันว่านี่เล่นกันแบบทิ้งไพ่ใบสุดท้ายแล้ว หมายความว่าช่องทางจะยุติกรณีถนอมจะยากยิ่งขึ้น มีผู้เสียหายหนักทางการเมืองและนำไปสู่ความขัดแย้งที่ยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้น แต่ผมยังนึกอยู่ว่ามีช่องทางยุติ ผมไม่ได้นึกถึงการล้อมปราบอย่างที่เกิดขึ้นเลย

ระเบิดที่ยิงเข้ามาสังหารผู้คนกลางสนามเป็นสัญญาณบอกผมว่า สิ่งที่ไม่ได้คาดและยังคิดไม่ออกนั้น เริ่มขึ้นแล้ว

3
ขณะนั้นผมเพิ่งอายุครบ 19 ปีได้ไม่กี่วัน ผมไม่ใช่คนเข้มแข็งกล้าหาญ จำได้ว่าผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และตัวสั่นไปหมดเมื่อต้องประกาศเรียกหารถเพิ่มเติมเพื่อพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ต่อมาทั้งโกรธทั้งแค้นทั้งเสียใจทั้งกลัว เมื่อรู้ว่ารถขนคนเจ็บต่อแถวกันอยู่ตรงประตูท่าพระจันทร์ ตำรวจไม่ยอมให้พาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล

จนถึงวันนี้ผมก็ยังเข้าใจไม่ได้ว่าทำไม ? ในสงครามเขาไม่ทำร้ายคนเจ็บ และยอมให้มีการรักษาพยาบาลกันได้ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างเคารพในเกียรติของนักรบที่เสียสละเพื่อสิ่งที่เชื่อว่ายิ่งใหญ่​กว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อในชาติ พระเจ้า หรืออื่น ๆ

หรือว่าในการล้อมปราบประชาชนที่มีความคิดต่างกัน ผู้ถูกล้อมปราบไม่ใช่มนุษย์และไม่มีเกียรติใด ๆ ต้องเคารพ

กระทั่งหลังเจ็ดโมงเช้าไปแล้ว รถขนคนเจ็บจึงได้รับอนุญาตให้แล่นออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ ภายหลังทราบว่า ระหว่างที่รออยู่นั้นมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ผู้ที่บาดเจ็บอาการก็ทรุดหนักเพราะเสียเลือดไปมาก

จนถึงวันนี้ผมก็ยังเข้าใจไม่ได้ นายตำรวจที่อยู่ทางด้านประตูท่าพระจันทร์คงรู้ดีที่สุดว่าทำไม ผมไม่มีความโกรธแค้นเหลืออยู่อีกแล้วในวันนี้ ผมเพียงอยากทราบว่าทำไม ?

4
คงไม่ใช่ผมคนเดียวที่อ่อนประสบการณ์ เราเข้ามาชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพราะคิดว่าตึกต่าง ๆ จะปกป้องเราจากการโจมตีแบบฉาบฉวยของกลุ่มอันธพาลการเมืองได้ แต่ชัยภูมิที่ค่อนข้างปิด รักษาความปลอดภัยง่าย ดูแลทั่วถึง ก็หมายถึงบริเวณที่จำกัดและถูกปิดล้อมได้ง่ายดายด้วย เมื่อมีระเบิดลงกลางสนาม เราคิดได้ว่าต้องย้ายคนเข้าไปตามตึกต่าง ๆ เราคาดไม่ถึงว่าตึกบัญชีจะกลายเป็นเป้ากระสุนที่ยิงมาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจนผู้​คนเคลื่อนย้ายไปไหนไม่ได้ตลอดเช้าวันนั้น

หลังระเบิดลูกแรกไม่นาน เสียงปืนรัวจากด้านนอกก็เปลี่ยนลักษณะไป ก่อนหน้านั้นตอนกลางดึกมีเสียงปืนดังครั้งละไม่กี่นัด พอตีสองหรือตีสามก็กลายเป็นชุดกระสุนรัวเป็นครั้งคราว ก่อนหกโมงเช้า เสียงอาวุธแบบสงครามกลับรัวดังไม่ขาดสาย จะเว้นช่วงเพียง 10 –15 วินาทีเป็นระยะทุก ๆ 5 นาที ปืนรัวหูดับตับไหม้อยู่เช่นนั้นจนถึงแปดโมงครึ่งหรือเก้าโมงเช้าเมื่อการล้อมปราบยุต​ิ

จำได้ว่าเราทำได้ก็เพียงอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า เราชุมนุมเพื่ออะไร และการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ ในธรรมศาสตร์ไม่มีอาวุธจะตอบโต้ พูดไปพลางผู้คนก็ค่อย ๆ เคลื่อนย้ายอย่างเงียบ ๆ เข้าชายคาตึกทั้งสองฟากสนาม ไม่มีใครแตกตื่น แต่ผมไม่รู้ว่าในใจของแต่ละคนคิดอะไรอยู่

เราไม่ได้บอกผู้ชุมนุมเลยว่าถูกตำรวจล้อม เพราะไม่ต้องการโจมตีตำรวจ และยังหวังว่าจะหาทางออกได้ แต่เสียงอาวุธสงครามที่ระงมอยู่คงบอกแก่ผู้ชุมนุมในธรรมศาสตร์แล้วว่า นี่ไม่ใช่แค่กลุ่มอันธพาลการเมืองอีกต่อไป จำได้ว่าผมทนไม่ไหว พูดโจมตีตำรวจอย่างรุนแรงเมื่อรู้ว่าเขาไม่ยอมให้รถที่จะนำคนเจ็บไปสู่โรงพยาบาล แล่นออกจากประตูด้านท่าพระจันทร์

ประมาณหกโมงเช้า สุธรรม แสงประทุม แวะมากล่าวต่อที่ชุมนุมก่อนจะออกจากธรรมศาสตร์ไปพบ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี ที่บ้านซอยเอกมัย ยิ่งสุธรรมพูด ธรรมศาสตร์ก็ยิ่งถูกกระหน่ำหนักขึ้น มีกระสุนซัดมาทางเวทีในระดับเหนือศีรษะ จนสุธรรมต้องหมอบลงพูดกับพื้นเวที

ผมรับไมโครโฟนจากเขา พูดต่อได้อีกไม่นานนัก ก็ค่อย ๆ คลานลงมาหลบอยู่หลังถังเหล็กซึ่งใช้เป็นฐานของเวทีปราศรัย มีเพื่อนเทคโนฯ สองสามคน จำไม่ได้ถนัดว่ารวมทั้งประยุทธจากบางมดซึ่งเคยทำกิจกรรมด้วยกันมาตั้งแต่ปี 2515 ด้วยหรือไม่

หง่าวกับสมศักดิ์ยังอยู่แถวนั้น เสียงผมแหบแห้งตั้งแต่คืนวันที่ 4 แล้ว จึงผลัดกันพูดอยู่พักหนึ่ง ไม่นานนักผมเริ่มคิดได้น้อยลงทุกที สติยังดีอยู่และไม่ตื่นจนทำอะไรไม่ถูก แต่ความกลัวและจนปัญญาเริ่มคืบเข้ามา ในที่สุดผมก็ได้แต่พูดซ้ำ ๆ ดังกล่าวแต่ต้น หากจำไม่ผิด หง่าวกับสมศักดิ์ก็พูดอะไรไม่ออกมากไปกว่านั้น

ไม่นานนักผมก็ยึดไมโครโฟนพูดซ้ำ ๆ ซาก ๆ เป็นคนบ้าอยู่คนเดียวอย่างนั้น เป็นการให้สัญญาณคนอื่นไปจากหลังเวทีนั้นได้ จำไม่ได้ว่าสมศักดิ์ไปจากหลังเวทีนั้นเมื่อไร แต่เขาบอกว่าจะไปช่วยแถวท่าพระจันทร์ เขาอาจจะเห็นว่าอยู่ตรงนั้นต่อไปก็ทำอะไรไม่ได้ ผมเองก็ต้องการจะไล่เขาให้หนีไปอยู่แล้ว พี่ชายผมก็คงรู้ แต่เขาไม่ยอมไปไหน ยังวนเวียนอยู่แถวนั้น เพื่อนเทคโนฯ คนหนึ่งปฏิเสธที่จะไป เขาเตรียมไมโครโฟนกับลำโพงฉุกเฉินอีกชุดหนึ่งในกรณีชุดที่ผมใช้อยู่เกิดปัญหา ผมไม่ได้ขอให้เขาทำ ดูท่าทางสติของเขายังเข้มแข็งและยังคงคิดได้ว่า ตัวเองควรทำอะไร ผิดกับผมที่สติยังมีอยู่แต่พูดซ้ำซากเป็นคนบ้าอีก 2 ชั่วโมง


5
ผมจำไม่ได้มีการปรึกษากับสมศักดิ์หรือหง่าวอีกไหม นับจากถูกระดมยิงตอนเช้ามืด แต่ผมรู้ตัวดีว่าผมคิดอะไรจึงพูดได้แค่นั้น เพราะผมรู้สึกขัดแย้งในตัวเองมาก ๆ ว่า เราวิพากษ์วิจารณ์โจมตีรัฐ กลไกรัฐ ว่าเป็นเผด็จการ รังแกประชาชน จ้องจะทำรัฐประหาร เราใช้ถ้อยคำที่สู้รบและรุนแรง แม้จะไม่หยาบคายก็เถอะ แต่แล้วในเวลาเช่นนั้น ผมคิดได้อย่างเดียวว่า หากพอมีหนทางที่จะทำให้ตำรวจหยุดยิงได้ ผมขอทำ แม้จะต้องพูดขอร้องอย่างคนที่พร้อมจะคุกเข่ากราบกรานขอชีวิตก็ตาม ในเวลานั้นผมรู้สึกขัดแย้งในตัวเองและละอายใจจนจำได้ถนัด แต่ก็ตัดสินใจพูดออกไปอย่างนั้น

ผมทราบภายหลังว่ามีคนไม่พอใจที่ผมยอมแพ้ ทำไมไปฝากความหวังไว้กับชนชั้นปกครอง ความรู้สึกแบบเดียวกันนี้ทำให้ผมรู้สึกขัดแย้งในตัวเองและละอายใจ แต่ผมมิได้กล้าหาญพอที่จะประกอบวีรกรรมหรือพูดปลุกขวัญสู้รบใด ๆ อีกในภาวะขณะนั้น ผมเหลือแต่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าตำรวจอาจยอมเพลาลง รอสุธรรมเจรจากับรัฐบาลก่อน ผมคิดออกแค่นั้น และหวังลม ๆ แล้ง ๆ เช่นนั้นจริง ๆ

ใครจะบอกว่าผมยอมแพ้ก็คงไม่ผิดนัก สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าต่อตาทำให้ผมไม่สามารถคิดทำอย่างอื่นได้

สองตาผมเห็นเพื่อนที่ไม่ตื่นตระหนก เขาอาจจะกลัวเหมือนผม แต่เขาก็กล้าพอที่จะอดทนอย่างสงบ มองจากเวทีตรงขอบสนามฟุตบอลด้านตึกโดม ผมเห็นหน่วยรักษาความปลอดภัยที่หอประชุมใหญ่นอนแน่นิ่งไปแล้ว ผมเห็นคนที่พยายามเข้าไปหลบในห้องและชั้นบนของตึกบัญชีถูกยิงล้มลง มองไปทางขวาของเวที ผมเห็นคนพยายามวิ่งและกลิ้งจากตึกบัญชีมาทางตึกโดมเก่า (ปัจจุบันเป็นตึกอเนกประสงค์) แต่หยุดแน่นิ่งไปเสียก่อน

มองจากหลังเวที ผมเห็นธรรมศาสตร์ถนัดตา เห็นชีวิตนับพันที่ไม่มีทางสู้ ทั้งโกรธและแค้น ผสมกับกลัวและสิ้นหวัง ผมจะปลุกขวัญให้ผู้คนสู้รบได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมหดหู่สิ้นหวังเกินกว่าจะไปสู้รบกับใครได้อีกแล้ว

ผมเหลือสติพอจะคิดได้ว่า เสียงจากเวทีจะเงียบหายไปเฉย ๆ ไม่ได้ สิ่งที่ผมพูดไม่สำคัญเท่ากับเสียงจากเวทีที่ดังอยู่ตลอดเวลา เป็นเพื่อนแก่ผู้ที่ตกเป็นเป้ากระสุนอยู่ ณ ส่วนต่าง ๆ ของธรรมศาสตร์ ผมช่วยอะไรเขาไม่ได้แล้ว ได้แต่ขอร้องบนความหวังที่ริบหรี่ ถ้าหากเสียงจากเวทีเงียบหายไป เพื่อน ๆ อาจขวัญเสียและสับสนยิ่งขึ้นไปอีก

จริงอยู่ ผมไม่ใช่ผู้บัญชาการการชุมนุมอย่างกองทหารหรือเรือรบ แต่ในภาวะเช่นนั้น ผมต้องไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าทุกอย่างจะยุติ

ไม่มีใครประกอบวีรกรรมใด ๆ ผมไม่ได้ช่วยผู้ถูกยิงที่ไหน ไม่มีคำพูดปลุกใจสู้รบหรือกล่าวคำขวัญใด ๆ อีก มีแต่คำพูดซ้ำซาก กับชีวิตสองสามชีวิต (ผม พี่ชาย และเพื่อนเทคโนฯ อีกคน) ซึ่งแต่ละคนดูเหมือนไร้ชีวิตไปแล้วครึ่งหนึ่ง

ไม่รู้เลยว่าเป็นเวลาเท่าไร

6
รถเมล์พุ่งเข้าพังรั้วธรรมศาสตร์ไปนานแล้ว กำลังตำรวจค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาอย่างช้ามาก ๆ ทีละนิด ๆ ทีแรกเขาหมอบราบ คืบคลานเข้ามาพลางยิงไปพลาง ต่อมาเขาคงพบความจริงว่าไม่มีใครต้านทานเขาอีกแล้ว ตำรวจหมวกสีทองจึงขยับเป็นนั่งชันเข่าเรียงเป็นสองแถวตามขอบถนนหน้าตึกคณะนิติศาสตร์​ ขยับเข้ามาพลางยิงไปพลาง ต่อมาเขาคงตระหนักดีว่าไม่มีใครต้านทานเขาสักนิด ตำรวจหมวกสีทองจึงลุกขึ้นยืนเรียงเป็นสองแถวตามเดิมเดินเข้ามาพลางยิงไปพลาง

ตอนที่ตำรวจคลานและนั่งชันเข่าอยู่หน้าตึกนิติศาสตร์ ผมตัดสินใจย้ายเข้าไปนั่งพูดอยู่ในตึกโดมด้านหลังเวที ก่อนหน้านั้นเพื่อนเทคโนฯ ของผมวิ่งไปมาสองสามรอบ เพื่อขนเครื่องเสียงชุดฉุกเฉินเข้าไปตระเตรียมให้ผมพูดในตึกโดม ผมเองเสียที่นั่งพูดไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องเสี่ยงอะไรมากไปกว่านั้น พอวิ่งเข้าตึกโดมสำเร็จ เพื่อนเทคโนฯ ก็ยื่นไมโครโฟนตัวใหม่ให้ผม ทิ้งเครื่องเสียงชุดเก่า ไมโครโฟนเก่าอยู่หลังเวทีนั่นเอง ผมบอกให้เขาหนีไปได้แล้วเพราะผมคงไม่ถอยไปพูดที่ไหนอีกแล้ว แต่เขายังไม่ยอมไปไหน

ผมมองดูหน้าต่างตึกโดมตลอดเวลาที่พูด ครั้นตำรวจเดินช้า ๆ มาถึงหน้าตึก อมธ. ผมรู้สึกหมดกำลังที่จะพูดต่อไปแล้ว ตลอดเวลากว่า 2 ชั่วโมงที่พูดซ้ำซากเป็นคนบ้า ผมมีความหวังริบหรี่ว่าตำรวจอาจจะยอมฟังและหยุดยิง มาถึงตรงนั้นแล้วเขาได้ยินเสียงผมเต็มหู เสียงที่ร้องขอกราบกรานให้หยุดยิง แต่เขาก็ยังไม่หยุด เวทีที่ผมเพิ่งจากมาถูกยิงกระหน่ำหนัก เขาคงคิดว่าผมยังอยู่แถวนั้น

เพื่อนเทคโนฯ ของผมไปแล้ว (ผมอยากพบเขาอีกครั้งเหลือเกิน ผมยังไม่ได้ขอบคุณเขาสักคำ ที่อยู่เป็นเพื่อนจนถึงขณะนั้น)

ผมลืมคิดเรื่องเสียงเพื่อเพื่อน ๆ ตามตึกต่าง ๆ ผมหมดแรง หมดเสียง ผมคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว รู้แต่ว่าพูดไม่ออกเมื่อเห็นตำรวจเดินสาดปืนซ้ายขวาหน้าตึก อมธ.

เครื่องเสียงยังใช้ได้ ผมปิดและวางไมโครโฟน

7
ผมนอนแผ่อยู่ตรงนั้นเอง ได้แต่ร้องไห้…ร้องเป็นบ้าเป็นหลังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่รู้ว่าโกรธ แค้น เสียใจ กลัว สิ้นหวัง สงสารเพื่อนที่ติดอยู่ในตึกต่าง ๆ ไปไหนไม่ได้ ห่วงตัวเอง หรือทุกอย่างรวมกัน

นานเท่าไหร่ไม่รู้ จนกระทั่งพี่ชายผมมาสะกิดให้ลุกขึ้น

ได้ร้องไห้เสียพักใหญ่ ๆ ผมก็รวบรวมสติให้เข้มแข็งเข้าไว้ ถึงตรงนั้นแล้วกลัวหรือกล้าก็มีค่าเท่ากัน มีสภาพไม่ต่างกัน รู้แต่ว่าเราต้องช่วยคนหนีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

มีคนวิ่งตามทางเดินภายในตึกโดมมาบอกว่าต้องการความช่วยเหลือ ผมกับพี่ชายวิ่งตามเขาไป ตำรวจยังอยู่แถวหน้าตึกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อนที่ตึกวารสารฯ พังช่องไม้ด้านข้างตึกเพื่อจะวิ่งหนีข้ามมาตึกโดม แต่ประตูเหล็กที่ตึกโดมปิดอยู่ เราพบนักการ 2 คนตรงนั้น จึงขอร้องให้เขาเปิดประตู ดูท่าทางเขาอยากจะช่วยเรา แต่เขาบอกว่าเขาทำไม่ได้ ยังไม่ทันได้ถามหรือต่อล้อต่อเถียง นักการคนหนึ่งก็บุ้ยใบ้ส่งสัญญาณให้รู้ว่ามีขวานอยู่ใกล้ ๆ นั้น พวกเราคนหนึ่งจึงจัดการพังประตูนั้นออก ชั่วครู่เดียวประตูก็เปิดเป็นช่องกว้าง ผู้คนเริ่มทยอยข้ามมาตึกโดม วิ่งพรวด ๆ ไปลงสนามหญ้าหน้าโดมเพื่อออกทางประตูท่าพระจันทร์หรือหนีลงน้ำ เราไม่รู้เลยว่านั่นเป็นเพียงคนกลุ่มเดียว มาจากชั้นเดียวของตึกวารสารฯ ไม่มีคนวิ่งขึ้นไปบอกผู้ที่ยังติดอยู่บนชั้นบน ไม่ช้านานก็เริ่มมีกระสุนยิงเข้ามาตรงช่องระหว่างตึกทั้งสอง ไม่มีใครข้ามมาตึกโดมอีก

ผมกับพี่ชายคิดว่าไม่มีคนในตึกวารสารฯ อีกแล้ว จึงวิ่งตามคนอื่นออกจากตึกโดม ผ่านสนามหน้าโดม (ปัจจุบัน คือ ลานปรีดี) ไปถึงริมน้ำ เห็นผู้คนลงน้ำเดินเลาะริมฝั่งจากบริเวณตึกเศรษฐศาสตร์มาขึ้นฝั่งที่บริเวณตึกศิลปศา​สตร์ เราได้ยินว่าสนามหญ้าหน้าโดมไม่ปลอดภัยที่จะเดินผ่าน ส่วนประตูท่าพระจันทร์นั้น ผมมารู้ภายหลังว่าปิด ๆ เปิด ๆ หลายคราว คือ ยอมให้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้วก็ปิด ต่อมาก็ยอมให้ผู้หญิงออกไปได้จนมีผู้คนกรูออกไปโดยไม่ถูกจับกุมเพราะตำรวจยังไม่ทันต​ั้งตัว หลังจากนั้นก็ปิดประตู แล้วก็ยอมให้คนออกไปได้อีก แต่คราวนี้ต้อนทุกคนไปที่ถนนมหาราชข้างวัดมหาธาตุ แล้วก็ปิดประตูอีกเป็นต้น

ผมกับหง่าวกระโดดลงน้ำ แต่ไม่ได้ไปไหน เราลงไปช่วยดูแลให้ผู้คนขึ้นฝั่งที่ศิลปศาสตร์เพื่อไปออกประตูท่าพระจันทร์ เวลานั้นผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าออกไปแล้วจะถูกจับเรียงรายในถนนตรงนั้นเอง ผมพบเพื่อนสนิทสองสามราย แต่เราไม่ได้พูดกันสักคำเดียว เพียงแต่จับมือปลอบขวัญให้กำลังใจกันแค่นั้น จนกระทั่งคนที่เดินเลาะริมฝั่งน้ำขึ้นไปหมดแล้ว ผมกับหง่าวจึงขึ้นฝั่ง

ผมเข้าใจเอาง่าย ๆ ว่า คนจากทางตึกเศรษฐศาสตร์คงเดินมาหมดแล้ว ไม่ได้เข้าใจความสับสนอลหม่านของสภาพแบบนี้ว่าบางคนลงน้ำเลาะมาเป็นกลุ่ม ๆ บางคนอาจวิ่งตัดลัดเลาะมาตามสนามหญ้าหน้าตึกโดม คนอีกมากไม่ไปไหน ยังอยู่บริเวณตึกเศรษฐศาสตร์เหมือนกับที่ผมเข้าใจผิดว่าคนจากตึกวารสารฯ ออกมาหมดแล้ว ผมเข้าใจเหลือแต่เพียงผู้คนที่ตึกบัญชีเท่านั้นที่ยังคงไปทางไหนไม่ได้ทั้งสิ้น นอกนั้นออกจากธรรมศาสตร์ไปหมดแล้ว

ยังไม่ทันที่เราจะวิ่งออกไป ประตูท่าพระจันทร์กลับปิดลงอีกครั้ง ตำรวจยิงกราดเข้ามาทางนั้น คนที่ยังออกไปไม่ได้รวมทั้งผมกับหง่าวจึงถอยกลับมาตั้งหลักที่บริเวณคอมมอนรูมคณะศิล​ปศาสตร์ เราเห็นเรือตำรวจอยู่กลางแม่น้ำ มีตำรวจอยู่คนหนึ่งบนท่าเรือพรานนก พอเขาเห็นพวกเราเขาก็กราดกระสุนมาอย่างไม่ได้เล็งหรือตั้งใจยิงนัก เป็นอันว่าเราติดอยู่ตรงนั้น อาศัยเสาตึกเป็นที่กำบัง

เพียงครู่เดียวตำรวจรายนั้นก็ถอนตัวไปไหนไม่ทราบ จั๊ว-เจ้าของร้านอาหารบริเวณท่าเรือ โผล่หน้ามาพยัก พเยิดให้พวกเราไปได้ พวกเราทั้งกลุ่มกระโดดลงน้ำอีกครั้ง ว่ายไปถึงบริเวณร้าน จั๊วช่วยดึงผู้คนขึ้นฝั่งเป็นพัลวัน เขาบอกให้เดินเลาะซอยริมน้ำออกไปทางศูนย์พระเครื่อง อย่าออกไปถนนมหาราชเพราะตำรวจจะจับหมด

บ้านผมอยู่ตรงซอยริมน้ำนั่นแหละ ผมจะวิ่งเข้าไปเคาะประตูบ้าน หง่าวร้องเตือนว่าอย่าเข้าบ้าน ให้วิ่งต่อไป ผมงงนิด ๆ คิดไม่ทันและไม่ทันคิดว่าทำไม นับจากหยุดร้องไห้ในตึกโดมผมรวบรวมสติได้พอควร แต่เหมือนกับผมปล่อยสมองทิ้งไว้ตรงนั้น ผมคิดไตร่ตรองอะไรไม่ออก หง่าวบอกว่าให้วิ่งต่อผมก็วิ่งต่อ มารู้ภายหลังว่าตำรวจตามมาที่บ้านจริง ๆ กวาดเอาคนที่หลบซ่อนอยู่ในบ้านผมไปหมด ที่เลวร้ายกว่านั้น คือ พี่ชายผมอีกคนเปิดประตูให้ตำรวจจึงถูกตำรวจทุบตี เอาบุหรี่จี้ แล้วจับตัวไป พี่ชายคนนี้ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมนักศึกษาเลย แต่กลับมารับเคราะห์ไปด้วย น้องสาวผมคนหนึ่งอยู่ในธรรมศาสตร์ทั้งคืน และพาเพื่อนหลายคนเข้าไปหลบในบ้าน เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วและแม่ปกป้องไว้แน่นจึงไม่ถูกจับกุมตัวไป นึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อ 20 ปีก่อน ถ้าหากเช้าวันนั้นผมและพี่ชายกลับบ้าน จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?

8
เราวิ่งไปถึงศูนย์พระเครื่องซึ่งเวลานั้นเป็นตลาดเปิดโล่ง ร้านรวงน้อยกว่าปัจจุบัน มีผู้คนอยู่ตรงนั้นมากมายแต่ไปไหนไม่ได้อีกแล้ว หากออกไปทางถนนมหาราชก็จะถูกจับ ไม่ก็ต้องลงน้ำตรงท่าเรือหางยาว (ปัจจุบันเป็นท่าเรือข้ามฟาก) ผมร้องไห้และตะโกนด่าตำรวจอีกครั้งด้วยความโกรธแค้น ผมพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ แต่รู้สึกถึงขีดแล้วจริง ๆ หลังจากนี้สมองที่ว่าตื้อยิ่งตื้อเข้าไปอีก ผมยังมีสติรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นทุกประการ แต่สมองหนักอึ้งจนคิดอะไรไม่ได้อีกเลย

ตำรวจกำลังเตรียมบุกเข้ามาทางด้านหน้าศูนย์พระเครื่อง พวกเราระดมเคาะประตูร้านรวงแถวนั้น ขอร้องให้เขารับพวกเราเข้าไปชั่วคราว ผมพบเพื่อนสามสี่คนที่ร่วมรับผิดชอบการชุมนุมคราวนั้น เขาคงออกมาจากธรรมศาสตร์ไล่เลี่ยกับผมเมื่อเห็นว่าทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว จำได้ถนัดว่ามีเทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ ประสาร สินสวัสดิ์ วัฒนชัย เวชชยชัย (ชื่อขณะนั้น) และหากจำไม่ผิด หมอพรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช ก็อยู่ตรงนั้นด้วย

ผมไม่ทราบว่าเราอยู่ตรงนั้นนานเท่าไรก่อนที่ตำรวจจะเริ่มยิงเข้ามาจากทางด้านหน้า เพื่อนทั้งสามสี่คนนั้นบอกให้ผมกับหง่าวลงน้ำหนีต่อไป ผมก็ทำตาม ไม่นานนักหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดลงบริเวณที่เพิ่งจากเพื่อน ๆ มา (หลายปีต่อมาจึงรู้ว่าชาวบ้านบริเวณนั้นรับพวกเขาหลบเข้าไปก่อนที่ตำรวจจะบุกเข้ามา ไม่มีใครถูกกระสุนหรือระเบิด)

เดินลุยน้ำใต้บ้านเรือนริมฝั่งไปได้ไม่ไกลเลย ก็พบ ตชด. รายหนึ่งจ่อปืนลงมายังกลุ่มที่พวกเราเดินกันอยู่ มีคนหนึ่งในกลุ่มได้รับบาดเจ็บ ดูเหมือนว่าจะเหยียบหรือถูกอะไรใต้น้ำตำเท้า เขารั้งตัวเองขึ้นไม่ไหว จึงถูก ตชด. เอาปืนจ่อและตะคอก พวกเราตกใจมาก ช่วยกันดุนดันเขาขึ้นฝั่งจนสำเร็จ พี่ชายผมขึ้นฝั่งตามผมมาติด ๆ มี ตชด. เรียงรายอยู่ในซอยนั้น คอยร้องขู่ตะคอกให้พวกเราวิ่งออกไปนอนคว่ำหน้ารวมกับคนอื่นในถนนมหาราช

เสียงปืนถล่มตึกบัญชียังดังสนั่น ตำรวจสั่งการทางเครื่องขยายเสียงเป็นระยะ ๆ ว่าจะยิงถล่มเข้าไป ผมไม่รับรู้อีกแล้วว่าใครยิงจากตรงไหน หรือยิงสลับไปมาระหว่างด้านนอกกับด้านในธรรมศาสตร์ ผมเพลียเหลือเกินทั้งกาย ใจ และสมอง ตำรวจสั่งให้ก้มหน้าติดพื้นห้ามเงยขึ้นมาดูอะไรทั้งสิ้น ถึงไม่ต้องสั่ง ในเวลานั้นผมเองก็ไม่อยากจะเห็นหรือได้ยินอะไรอีกเลย ตำรวจกราดกระสุนเข้าใส่กำแพงวัดในระดับเหนือร่างของพวกเราเป็นระยะ นัยว่าเพื่อไม่ให้พวกเราลุกขึ้นหรือโงหัว เสียงด่าอย่างสาดเสียเทเสียมีอยู่ตลอดเวลา

มีตำรวจมาเรียกหาพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ (นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขณะนั้น) กับธงชัย หง่าวอยู่ทางขวาของผม ยกท่อนแขนกดไหล่กดคอผมไว้ สักครู่ผู้ชายที่อยู่ทางซ้ายซึ่งผมไม่เห็นหน้าเลยว่าเป็นใคร ก็เคลื่อนเข้าประชิดตัวผม ยกแขนของเขาพาดกดไหล่ผมไว้เช่นกัน ผมยังนอนนิ่ง ๆ ไม่ใช่เพราะฉลาดหรือคิดอย่างไรจึงอยู่เฉย ๆ แต่เพราะผมไม่ได้คิดอะไรอีกแล้วต่างหาก

9
หลังเสียงปืนสงบ เรายังคงนอนคว่ำอยู่ตรงนั้นอีกนาน รู้สึกเวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน ในตอนนั้นจะเป็นเวลาเท่าไรไม่ทราบ จำได้ว่าตัวเองหลับไปงีบหนึ่ง สะดุ้งขึ้นมาอย่างมึนงงไปหมด จะว่าสมองผมไม่คิดอะไรก็คงไม่ถูกนัก เพราะขณะนอนอยู่ข้างวัดมหาธาตุนั้นเอง ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาและปฏิเสธที่จะออกไปให้พ้นจากชีวิตผม มันรบเร้ารุนแรงบ้าง หายไปเป็นปีบ้าง แต่มักแวะมาเยี่ยมเยือนตอนต้นเดือนตุลาคมของทุกปี

ผมไม่รู้เลยว่าคนรอบข้างผมเขาจะคิดอย่างไร ที่คนปากกล้าบนเวทีตลอดหลายวันที่ผ่านมายังไม่ตาย เพียงแต่ปีกหักสิ้นสภาพกองอยู่กับพวกเขาตรงนั้น ผมนึกสมเพชตัวเอง ละอายใจ และรู้สึกผิด ผมน่าจะทำได้ดีกว่าพูดซ้ำซากขอชีวิตอย่างนั้นไหม ? ผมควรจะอยู่ข้างในธรรมศาสตร์ ผมไม่น่าทอดทิ้งเพื่อนที่ตึกบัญชีเลย ผมหนีออกมาทำไม ? ทำไมผมยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่หลายชีวิตในธรรมศาสตร์จากไปไม่มีวันกลับ ? ผมเสียใจแต่ผมก็กลัว

เวลาเนิ่นนานในรถเมล์ที่พาเราไปบางเขน ความรู้สึกเช่นนั้นวนเวียนอยู่ตลอดเวลาจนจิตใจด้านชา ผมสับสนจนไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น จำได้ว่าวิ่งลงจากรถเข้าเรือนจำที่บางเขน ถูกตำรวจเรียงแถวเตะต่อย แต่ผมกลับจำไม่ได้เลยว่ารู้สึกเจ็บ ใจผมหลุดลอยไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งสมองทั้งใจเฝ้าคิดแต่ว่าทำไมผมไม่อยู่ในธรรมศาสตร์ ? ผมหนีออกมาทำไม ?

ผมกับหง่าวอยู่ในห้องขังเดียวกัน เรานั่งเกาะลูกกรงอยู่เป็นวัน ๆ ผมจำไม่ได้ว่าร้องไห้อีกหรือเปล่า คิดว่าไม่คุยอะไรกับหง่าวอีกไหมก็ออกจะเลือน ๆ คิดว่าไม่ได้คุยเท่าไรนัก จำไม่ได้ว่ารู้สึกกลัวหรือคิดว่าตัวเองจะเจออะไรต่อไปเพราะดูเหมือนจิตใจจะหลุดลอยจน​เย็นชาไปหมดแล้ว ผมคิดว่าไม่ได้หันไปคุยกับใคร และจำไม่ได้เลยว่าเห็นหน้าใครในห้องขังบ้าง

ผมยังรับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราช่วยกันแจกจ่ายข้าวห่อ 3 วันต่อมาเขาทำทะเบียนผู้ถูกจับกุมมาถึงห้องที่ผมอยู่ จึงเพิ่งพบว่า “ธงชัยถูกจับแล้ว” วันถัดมาเขาอ้างว่าจะมีการชิงตัวพวกตัวการ จึงพาพวกเราแยกย้ายไปตามโรงพักต่าง ๆ แห่งละ 1-2 คน รถที่นำพวกเราไปมีตำรวจนำหน้า แล่นฉิวราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย ผมนึกว่าเวลาของผมมาถึงแล้ว แต่เขาเพียงพาผมไปขังไว้ที่โรงพักนางเลิ้งคืนหนึ่ง แล้วพากลับมารวมกันที่บางเขนตามเดิม ตลอดเหตุการณ์เช่นนี้ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกล้าหาญอะไรเลย ผมแทบไม่รู้สึกอะไรเลยต่างหาก

ได้กลับมารวมอยู่กับเพื่อนที่รู้จักทั้งประยูร อัครบวร อภิชาติ ชอบชื่นชม สมศักดิ์ สมชาย หอมลออ และอีกหลายคนที่ถูกขังรวมกันในฐานะ “ตัวการ” ผมจึงรู้สึกได้รับความเข้มแข็งของพวกเขาไปด้วย ในระยะแรก เราไม่พูดกันสักคำว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา แต่สำหรับผม อย่างมากก็คงไม่มีอะไรเลวร้ายเกินไปกว่าสิ่งที่ผมควรจะต้องเผชิญหากยังคงอยู่ในธรรมศ​าสตร์ในเช้าวันที่ 6 ตุลาคม 2519

10
หลายปีต่อมา ความรู้สึกโกรธแค้นยังคงอยู่ ความหวังว่าชัยชนะของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จะตอบแทนความทารุณโหดร้ายที่กระทำต่อพวกเรา ช่วยกดเก็บความสับสนและรู้สึกผิดที่หนีออกมาจากธรรมศาสตร์เอาไว้ได้พอควร แต่เมื่อมันเป็นความหวังที่ไร้เดียงสาและน่าอเนจอนาถไปอีกแบบ จนความหวังนั้นล่มสลายในเวลาต่อมา ความสับสนและรู้สึกผิดก็เริ่มกลับมาเยี่ยมเยือนผมอีกครั้ง ฝันร้ายเริ่มกลับมาหาผมบ่อยขึ้น

อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อ เช้าวันที่ 6 ตุลาคม เมื่อปี 2537 ผมเดินเลียบแม่น้ำ Swan เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย นั่งคิดเงียบ ๆ คนเดียวอยู่นาน ความรู้สึกผิดที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่กลับมาท้าทายผมอีก ต้นปี 2539 นี้เอง ผมเดินอยู่ใน historical park แห่งหนึ่งกลางเมืองบอสตัน แต่ใจกลับคิดถึงอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน ผมตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมผมจึงมีโอกาสมาพบความสงบงดงามอยู่คนเดียวเช่นนั้น

ไม่นานมานี้ เพื่อนโทรศัพท์มาบอกข่าวเรื่องคุณพ่อคุณแม่ของจารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อนผู้ถูกยิงแล้วถูกลากคอไปตามสนามในเช้าวันนั้น เพราะเขาทำหน้าที่ของเขาจนวินาทีสุดท้ายคือจะต้องออกจากตึกองค์การนักศึกษามหาวิทยาล​ัยธรรมศาสตร์เป็นคนสุดท้าย ผมอดคิดไม่ได้ว่าหากผมพบท่านทั้งสอง ผมจะบอกท่านอย่างไรว่าทำไมจารุพงษ์จึงไม่ได้กลับบ้าน

ประวัติศาสตร์ช่างโหดร้ายเหลือเกิน ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี

ทุกวันนี้ผมพอบอกตัวเองได้ว่า จะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร แต่ผมกลับตอบไม่ได้ว่าทำไมผมจึงยังมีชีวิตอยู่



นิตยสารสารคดี ปีที่ 12 ฉบับที่ 140 ประจำเดือนตุลาคม 2539

#538 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

Posted 14 August 2012 - 21:19

ประวัติศาสตร์ช่างโหดร้ายเหลือเกิน ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี

ทุกวันนี้ผมพอบอกตัวเองได้ว่า จะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร แต่ผมกลับตอบไม่ได้ว่าทำไมผมจึงยังมีชีวิตอยู่


ตอนนี้กรูเห็นในมุมมองตัวเอง ว่าสุดท้ายไอ้'สิ่งปฏิกูล'อย่างมรึง ก็มีชีวิตอยู่เพื่อเป็น'แนวร่วมมุมกลับ'ให้กับทรราชตัวใหม่และกลุ่มฝูงชนถ่อย ที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าฝ่ายขวาเมื่อปี 2519 ยิ่งนัก!
(อย่างน้อยกระทิงแดงหรือนวพลมันยังไม่อาละวาดกับชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ใช่ศัตรูทางการเมืองน่ะ แต่ควายแดงมันอาละวาดไปทั่วไม่เว้นแม้แต่โรงพยาบาล!)
*ไอ้ธงชัย สิ่งปฏิกูล เคยด่าเสื้อเหลืองตอนปิดสนามบิน อันนี้ผมก็ไม่ได้ค้านมัน...แต่ตอนควายแดงบุกโรงบาลมันกลับเฉย!*

Edited by Huligan, 14 August 2012 - 21:20.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#539 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

Posted 14 August 2012 - 21:39

มีข้อข้องใจอยู่อย่าง ในบทที่ 4

เราคาดไม่ถึงว่าตึกบัญชีจะกลายเป็นเป้ากระสุนที่ยิงมาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจนผู้​คนเคลื่อนย้ายไปไหนไม่ได้ตลอดเช้าวันนั้น


การยิงจากพิพิธภัณฑ์ ต้องผ่านตึกนิติศาสตร์ ข้ามสนามฟุตบอล เพื่อมาลงที่คณะบัญชี

ทำได้ยังไง??
ใครทราบช่วยอธิบายทีค่ะ

#540 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

Posted 14 August 2012 - 22:01

.. ให้ชาว ม.ธ. มาตอบดีกว่า ทิ้งแผนที่ไว้ให้ :)
Posted Image

Edited by หนูอ้อย, 14 August 2012 - 22:47.

 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#541 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

Posted 14 August 2012 - 23:26

ถ้าจำไม่ผิด ข้อความนี้มาจากหนักสือสารคดีเมื่อสิบกว่าปีก่อนหรือเปล่าครับ?

#542 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

Posted 14 August 2012 - 23:39

ตามอ่านต่อ

ขอบคุณที่สละเวลาหาข้อมูลมาแชร์กันค่ะ

#543 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 14 August 2012 - 23:52

สองสาวนี่ ไม่ไว้หน้าศาสตราจารย์เลยนะ

เอ้า เอาด้วย ธงชัยนี่มันมั่วโดยสังดานอยู่แล้ว ใน"อ่าน" มค.2554
เขาเขียนว่า กศร. กุหลาบ เป็นไพร่....กรรมเลยศาสตราจารย์ประวัติศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่
ไม่รู้เลยหรือว่าลูกสาวรัชกาลที่ 3 รับนายกุหลาบเป็นลูกบุญธรรม
แล้วนายกุหลาบ ก็บวชเป็นลูกศิษย์ของกรมสมเด็จพระปรมาฯ เจ้าอาวาสและสมเด็จพระสังฆราชแห่งวัดโพธิ์ ผู้ซึ่งเป็นลูกรัชกาลที่ 1

กล้าเขียนเรื่องเจ้าเรื่องไพร่ แต่ใครเป็นไพร่ ธงชัยซึ่งยังไม่รู้ ก็สามารถเขียนด่าเจ้าได้แล้ว
http://readjournal.o...ongchai_kularp/
-------------

กุ ลอบ ลอก แต่งแบบไพร่ๆ ความผิดของ ก.ศ.ร. กุหลาบที่ตัดสินโดยนักประวัติศาสตร์อำมาตย์

ธงชัย วินิจจะกูล

ไม่น่าเชื่อว่ากรณี ก.ศ.ร. กุหลาบ ที่เราท่านอาจจะไม่สนใจอีกแล้ว กลับมีประเด็นให้ขบคิดมากมายขนาดนี้ แถมยังเป็นประเด็นทันสมัยอีกด้วย เพราะเราจะเห็นกันต่อไปว่า ความผิดของกุหลาบและเกณฑ์ตัดสินความถูกผิดของการ
กุ ลอบ ลอก ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญมากอีกประการหนึ่ง นั่นคือ วัฒนธรรมทางปัญญาหรือวงวิชาการแบบอำมาตย์ (“อำมาตยาวิชาการ”)
*
กุหลาบเป็นไพร่ จึงผิดแหงๆ เพราะการกุ ลอบ ลอก ก็มีสองมาตรฐาน เหมือนอีกหลายเรื่องในสังคมชนชั้นแบบไทยๆ


#544 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

Posted 15 August 2012 - 00:15

@เจ็ดซ้าย@โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

@ หนึ่งคือซ้ายดัดจริตไร้เดียงสา
อหังการ์เป็นใหญ่ก็ซ้ายได้
สองคือซ้ายซ่าระเบิดเถิดเทิงไป
ได้บาทใหญ่อย่างไม่ได้เคยเป็น

@ สามคือซ้ายมาสายเพิ่งได้รู้
การต่อสู้เพื่อคนผู้ทุกข์เข็ญ
สี่คือซ้ายตกขอบชอบคั้นเค้น
ชูประเด็นทฤษฎีบทชี้นำ

@ ห้าคือซ้ายกลไกแบบไขลาน
เป็นหุ่นยนต์บริการวันยังค่ำ
หกคือซ้ายเจ้าเล่ห์สาริยำ
ทำเพื่อทำประโยชน์ได้แต่ฝ่ายตัว

@ เจ็ดคือซ้ายสามานย์ก่อการร้าย
จนเป็นซ้ายทรราชอุบาทว์ชั่ว
ทั้งเจ็ดซ้ายเจ็ดอสัตย์กัดกันนัว
ล้วนน่ากลัวเพราะเป็นซ้ายที่ไม่จริง

@ ผู้รู้ว่าหนุ่มสาวทันสมัย
ไม่เป็นซ้ายก็ไร้ใจเป็นที่ยิ่ง
แต่แก่แล้วยังเป็นซ้ายไม่ประวิง
ก็เป็นสิ่งไร้สมอง...พึงตรองดู !


เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
พฤ ๑๔/๖/๕๕




ป.ล. ในวรรคสุดท้ายท่านเนาวรัตน์ขยายความไว้ว่า เมื่อยังหนุ่มสาวอ่อนประสบการณ์เป็นซ้ายเพราะใผ่หาความยุติธรรมในสังคมเป็นเรื่องที่ถูกต้องแต่พออายุเริ่มมากขึ้นแล้ว ก็ควรมีวิจารณญาณว่าเป็นซ้ายอย่างไรถึงจะดีต่อประชาชนส่วนรวม

ท่ายยังพูดต่อไปว่าเมื่อ6ตุลา ศัตรูของประชาชนมี ศักดินา ขุนศึก ทุน แต่ตอนนั้นศักดินาและขุนศึกยังเข้มแข็งเราต้องสู้กับขุนศึกก่อน (ทุนยังอ่อนแอ) แต่หลังปี40 ศักดินาและขุนศึกจบสิ้นไปแล้ว

ประเทศพัฒนาจนตอนนี้ทุนต่างหากที่ครองทุกสิ่งดังนั้น ทุนสามานย์คือศัตรุอันดับหนึ่ง (แต่ท่านบอกว่าทุนสัมมาไม่เป็นไรเพราะเป็นทุนที่มีคุณธรรม คำนึงถึงประชาชน)

ตอนนี้กลายเป็นทุนสามานย์ต่างหากที่เป็นศัตรูต่อประชาชน ดังนั้นเราควรร่วมใจมาจัดการทุนสามานย์ก่อนเป็นอันดับแรก

(ทั้งหมดที่ผมเขียนพึ่งฟังท่านเนาวรัตน์พูดในตอบโจทย์วันนี้ จึงถอดความเท่าที่จำได้ต่อคำอธิบายในบทกวีชิ้นนี้)

*เข้าใจว่าศักดินาในความหมายของท่านเนาวรัตน์คือข้าราชการ ส่วนขุนศึกคือทหาร



นับถือและจะระลึกถึงทุกท่านที่ทำเพื่อชาติบ้านเมืองเสมอ คิดถึงดราม่า ดราม่าอยู่กับท่าน ถ้าฝ่ายของท่านคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และคุณธรรม ดราม่าคนนี้อยู่เคียงข้างท่านเสมอ ด้วยความเคารพอย่างสูง ด้วยภาระที่บีบเค้นขอกราบลาทุกท่านที่6395 _/\_

Edited by ดราม่า, 15 August 2012 - 00:20.

"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#545 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 15 August 2012 - 00:31

หลายปีต่อมา ความรู้สึกโกรธแค้นยังคงอยู่ ความหวังว่าชัยชนะของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จะตอบแทนความทารุณโหดร้ายที่กระทำต่อพวกเรา ช่วยกดเก็บความสับสนและรู้สึกผิดที่หนีออกมาจากธรรมศาสตร์เอาไว้ได้พอควร แต่เมื่อมันเป็นความหวังที่ไร้เดียงสาและน่าอเนจอนาถไปอีกแบบ จนความหวังนั้นล่มสลายในเวลาต่อมา ความสับสนและรู้สึกผิดก็เริ่มกลับมาเยี่ยมเยือนผมอีกครั้ง ฝันร้ายเริ่มกลับมาหาผมบ่อยขึ้น

ซ้ายสามานย์เป็นอย่างไร ประโยคนี้ของไอ้ธง บ่งบอกหมดสิ้น
1 มันยอมรับว่ามันฝักไฝ่คอมมิวนิสต์
2 มันหวังให้คอมมิวนิสต์ชนะ
3 คอมมิวนิสต์ชนะก็หมายความว่า ไทยจะเป็นอย่างโซเวียต จีน เกาหลีเหนือ เวียตนาม เขมร ลาว
4 มันรู้สึกผิดที่หนี...โถ แล้วที่หลอกเพื่อนมาตาย ไม่รู้สึกเลยหรือ
5 สรุปว่า 6 ตุลา คือสงครามปราบคอมมิวนิสต์.....


นี่เป็นคำประกาศที่ชั่วฃ้าสามานย์ที่สุด
เพราะถ้าคอมมิวนิสต์อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
การฆ่า ก็เป็นคำตอบสำหรับการถูกฆ่า

ไม่มีการเปลี่ยนเป็นคอมมิวนิสต์ที่ไม่นองเลือด
และไม่มีคอมมิวนิสต์ที่มีกษัตริยรอดชีวิต
ประวัติศาสตร์สอนไว้อย่างนั้น

#546 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

Posted 15 August 2012 - 09:22

@เจ็ดซ้าย@โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

@ หนึ่งคือซ้ายดัดจริตไร้เดียงสา
อหังการ์เป็นใหญ่ก็ซ้ายได้
สองคือซ้ายซ่าระเบิดเถิดเทิงไป
ได้บาทใหญ่อย่างไม่ได้เคยเป็น

@ สามคือซ้ายมาสายเพิ่งได้รู้
การต่อสู้เพื่อคนผู้ทุกข์เข็ญ
สี่คือซ้ายตกขอบชอบคั้นเค้น
ชูประเด็นทฤษฎีบทชี้นำ

@ ห้าคือซ้ายกลไกแบบไขลาน
เป็นหุ่นยนต์บริการวันยังค่ำ
หกคือซ้ายเจ้าเล่ห์สาริยำ
ทำเพื่อทำประโยชน์ได้แต่ฝ่ายตัว

@ เจ็ดคือซ้ายสามานย์ก่อการร้าย
จนเป็นซ้ายทรราชอุบาทว์ชั่ว
ทั้งเจ็ดซ้ายเจ็ดอสัตย์กัดกันนัว
ล้วนน่ากลัวเพราะเป็นซ้ายที่ไม่จริง

@ ผู้รู้ว่าหนุ่มสาวทันสมัย
ไม่เป็นซ้ายก็ไร้ใจเป็นที่ยิ่ง
แต่แก่แล้วยังเป็นซ้ายไม่ประวิง
ก็เป็นสิ่งไร้สมอง...พึงตรองดู !


เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
พฤ ๑๔/๖/๕๕




ป.ล. ในวรรคสุดท้ายท่านเนาวรัตน์ขยายความไว้ว่า เมื่อยังหนุ่มสาวอ่อนประสบการณ์เป็นซ้ายเพราะใผ่หาความยุติธรรมในสังคมเป็นเรื่องที่ถูกต้องแต่พออายุเริ่มมากขึ้นแล้ว ก็ควรมีวิจารณญาณว่าเป็นซ้ายอย่างไรถึงจะดีต่อประชาชนส่วนรวม

ท่ายยังพูดต่อไปว่าเมื่อ6ตุลา ศัตรูของประชาชนมี ศักดินา ขุนศึก ทุน แต่ตอนนั้นศักดินาและขุนศึกยังเข้มแข็งเราต้องสู้กับขุนศึกก่อน (ทุนยังอ่อนแอ) แต่หลังปี40 ศักดินาและขุนศึกจบสิ้นไปแล้ว

ประเทศพัฒนาจนตอนนี้ทุนต่างหากที่ครองทุกสิ่งดังนั้น ทุนสามานย์คือศัตรุอันดับหนึ่ง (แต่ท่านบอกว่าทุนสัมมาไม่เป็นไรเพราะเป็นทุนที่มีคุณธรรม คำนึงถึงประชาชน)

ตอนนี้กลายเป็นทุนสามานย์ต่างหากที่เป็นศัตรูต่อประชาชน ดังนั้นเราควรร่วมใจมาจัดการทุนสามานย์ก่อนเป็นอันดับแรก

(ทั้งหมดที่ผมเขียนพึ่งฟังท่านเนาวรัตน์พูดในตอบโจทย์วันนี้ จึงถอดความเท่าที่จำได้ต่อคำอธิบายในบทกวีชิ้นนี้)

*เข้าใจว่าศักดินาในความหมายของท่านเนาวรัตน์คือข้าราชการ ส่วนขุนศึกคือทหาร



นับถือและจะระลึกถึงทุกท่านที่ทำเพื่อชาติบ้านเมืองเสมอ คิดถึงดราม่า ดราม่าอยู่กับท่าน ถ้าฝ่ายของท่านคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และคุณธรรม ดราม่าคนนี้อยู่เคียงข้างท่านเสมอ ด้วยความเคารพอย่างสูง ด้วยภาระที่บีบเค้นขอกราบลาทุกท่านที่6395 _/\_


อะไรคือ 6395 คะ
ภาระนั้น ขอให้ลุล่วงโดยไว
ยังรอเสมอ เพราะอยู่ฝ่ายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และคุณธรรมค่ะ

#547 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 15 August 2012 - 09:59

ไม่มีการเปลี่ยนเป็นคอมมิวนิสต์ที่ไม่นองเลือด
และไม่มีคอมมิวนิสต์ที่มีกษัตริยรอดชีวิต
ประวัติศาสตร์สอนไว้อย่างนั้น


มาเสริมว่า....เป็นสำนวนนะครับ
คือ "ตายทั้งเป็น"

#548 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

Posted 15 August 2012 - 12:00


@เจ็ดซ้าย@โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

@ หนึ่งคือซ้ายดัดจริตไร้เดียงสา
อหังการ์เป็นใหญ่ก็ซ้ายได้
สองคือซ้ายซ่าระเบิดเถิดเทิงไป
ได้บาทใหญ่อย่างไม่ได้เคยเป็น

@ สามคือซ้ายมาสายเพิ่งได้รู้
การต่อสู้เพื่อคนผู้ทุกข์เข็ญ
สี่คือซ้ายตกขอบชอบคั้นเค้น
ชูประเด็นทฤษฎีบทชี้นำ

@ ห้าคือซ้ายกลไกแบบไขลาน
เป็นหุ่นยนต์บริการวันยังค่ำ
หกคือซ้ายเจ้าเล่ห์สาริยำ
ทำเพื่อทำประโยชน์ได้แต่ฝ่ายตัว

@ เจ็ดคือซ้ายสามานย์ก่อการร้าย
จนเป็นซ้ายทรราชอุบาทว์ชั่ว
ทั้งเจ็ดซ้ายเจ็ดอสัตย์กัดกันนัว
ล้วนน่ากลัวเพราะเป็นซ้ายที่ไม่จริง

@ ผู้รู้ว่าหนุ่มสาวทันสมัย
ไม่เป็นซ้ายก็ไร้ใจเป็นที่ยิ่ง
แต่แก่แล้วยังเป็นซ้ายไม่ประวิง
ก็เป็นสิ่งไร้สมอง...พึงตรองดู !


เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
พฤ ๑๔/๖/๕๕




ป.ล. ในวรรคสุดท้ายท่านเนาวรัตน์ขยายความไว้ว่า เมื่อยังหนุ่มสาวอ่อนประสบการณ์เป็นซ้ายเพราะใผ่หาความยุติธรรมในสังคมเป็นเรื่องที่ถูกต้องแต่พออายุเริ่มมากขึ้นแล้ว ก็ควรมีวิจารณญาณว่าเป็นซ้ายอย่างไรถึงจะดีต่อประชาชนส่วนรวม

ท่ายยังพูดต่อไปว่าเมื่อ6ตุลา ศัตรูของประชาชนมี ศักดินา ขุนศึก ทุน แต่ตอนนั้นศักดินาและขุนศึกยังเข้มแข็งเราต้องสู้กับขุนศึกก่อน (ทุนยังอ่อนแอ) แต่หลังปี40 ศักดินาและขุนศึกจบสิ้นไปแล้ว

ประเทศพัฒนาจนตอนนี้ทุนต่างหากที่ครองทุกสิ่งดังนั้น ทุนสามานย์คือศัตรุอันดับหนึ่ง (แต่ท่านบอกว่าทุนสัมมาไม่เป็นไรเพราะเป็นทุนที่มีคุณธรรม คำนึงถึงประชาชน)

ตอนนี้กลายเป็นทุนสามานย์ต่างหากที่เป็นศัตรูต่อประชาชน ดังนั้นเราควรร่วมใจมาจัดการทุนสามานย์ก่อนเป็นอันดับแรก

(ทั้งหมดที่ผมเขียนพึ่งฟังท่านเนาวรัตน์พูดในตอบโจทย์วันนี้ จึงถอดความเท่าที่จำได้ต่อคำอธิบายในบทกวีชิ้นนี้)

*เข้าใจว่าศักดินาในความหมายของท่านเนาวรัตน์คือข้าราชการ ส่วนขุนศึกคือทหาร



นับถือและจะระลึกถึงทุกท่านที่ทำเพื่อชาติบ้านเมืองเสมอ คิดถึงดราม่า ดราม่าอยู่กับท่าน ถ้าฝ่ายของท่านคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และคุณธรรม ดราม่าคนนี้อยู่เคียงข้างท่านเสมอ ด้วยความเคารพอย่างสูง ด้วยภาระที่บีบเค้นขอกราบลาทุกท่านที่6395 _/\_


อะไรคือ 6395 คะ
ภาระนั้น ขอให้ลุล่วงโดยไว
ยังรอเสมอ เพราะอยู่ฝ่ายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และคุณธรรมค่ะ


น่าจะหมายถึงโพสของท่าน # 6395
พี่ดราม่าที่น่ารักของพวกเราจะไม่เข้ามาโพสอีกด้วยภาระของท่าน

ว่างเมื่อไรเข้ามาอีก อย่าจากไปตลอดกาล ... ขอให้พี่ปลดภาระได้สำเร็จนะคะ :)

 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#549 norrakrok

norrakrok

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 64 posts

Posted 15 August 2012 - 12:52

น่าสนใจยิ่งครับ ติดตามด้วยใจจดจ่อ

#550 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

Posted 15 August 2012 - 13:42

พี่ดราม่าที่น่ารักของพวกเราจะไม่เข้ามาโพสอีกด้วยภาระของท่าน
ว่างเมื่อไรเข้ามาอีก อย่าจากไปตลอดกาล ... ขอให้พี่ปลดภาระได้สำเร็จนะคะ :)


+1,000,000




1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users