ไปอ่านมาจากเรือนไทย ถ้าจำได้ไม่ผิด เงินเดือนทหารรักษาพระองค์หรือค่าทำนุบำรุงวังต่างๆก็มาจากส่วนพระองค์ใช่มั้ยคะ แล้วก็ต้องจ่ายให้ครอบครัวต่างๆของพระองค์ท่านและของกษัตร์องค์ก่อนๆด้วยนี่ แล้วก็พอปีที่เปลี่ยนการปกครอง รัฐบาลนึกว่าเงินท่านเยอะแต่ที่ใหนได้มีไม่มากเท่าที่คิด ถ้าจำผิดพลาด ช่วยแก้ไขด้วยนะคะ
ผมไม่ทราบละเอียดขนาดนั้น (รบกวนขอลิ้งค์ด้วยครับ จะตามไปอ่าน)
แต่ผมประมวลจากพระราชหัตถเลขาหลายๆ แหล่งในการเสด็จประพาสครั้งนี้
ทรงระบุว่าสิ่งใดบ้างเป็นไปรเวท สิ่งใดบ้างเป็นส่วนของราชการ แม้แต่เรือโดยสารก็ทรงใช้ของเอกชน ครั้งที่แล้วเป็นเรือรบของกองทัพเรือ ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณส่วนกลางรองรับ และยังมีอีกที่บอกว่าครั้งนี้เอาคนไปน้อยเพราะเป็นเรื่องส่วนพระองค์
เรื่องเงินใช้สอยส่วนพระองค์ และมูลเหตุให้จัดทำงบประมาณ สมเด็จดำรงท่านเล่าไว้ในนิทานโบราณคดี "เรื่องสร้างตลาดสำหรับเมือง" (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ท่านยังเล่าต่อว่า หลังจากปันเงินเป็นหมวดแน่นอนแล้ว ต่อมาเงินนั้นก็กลับไม่พอใช้ แต่พระพุทธเจ้าหลวงถือว่าตรัสไปแล้ว ไม่แก้ไข ก็ทรงโปรดให้สมเด็จดำรงหาวิธี ท่านก็นึกถึงการนำที่ดินส่วนพระองค์มาทำประโยชน์ คือสร้างตลาด ซึ่งนับเป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต่อมาก็กลายเป็นสำนักทรัพย์สินนี่เอง
เรื่องที่ดินส่วนพระองค์นั้น อันที่จริงตามกฏหมายต้องไม่มี เพราะกฏหมายที่ดินรุ่นเก่าที่ใช้มาถึงเปลี่ยนการปกครอง มาตราแรกระบุว่า ที่ดินทั้งปวงเป็นของพระเจ้าแผ่นดิน หากโปรดให้ราษฎรใช้ประโยชน์....ตามนี้แล้ว จะต้องมีอะไรที่เป็นส่วนพระองค์อีก ที่มีก็เพราะสายพระเนตรรัชกาลที่ 4 ท่านแบ่งตัวเองออกเป็นสองส่วน คือส่วนที่เป็นพระเจ้าแผ่นดินกับส่วนที่เป็นบุคคล
ท่านก็เลยทำหลายอย่างที่แยกแยะชัดเจน เช่นซื้อที่ดินกลางนครสิงค์โปร์ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ แล้วแจ้งกับเสนาบดีว่า ถ้าลูกท่านไม่ได้เป็นกษัตริย์ ก็ขอพระราชาองค์ใหม่อย่าฆ่า ให้เนรเทศไปสิงคโปร์ที่ทรงเตรียมที่ดินให้พักพิงไว้แล้ว...ตรงนี้เห็นชัดว่า ทรงแยกชัดเจนว่า กษัตริย์คือตำแหน่ง แต่ไม่จำเป็นต้องมีการสืบทอด แม้แต่ตระกูลท่านก็อาจจะหลุดจากตำแหน่งได้ ไม่มีอะไรแน่นอน
เวลาที่ขุดคลอง เส้นใหนที่ท่านใช้เงินส่วนพระองค์ ก็ขอสิทธิซื้อที่ดินสองข้างเอาไว้ รวมทั้งสองฟากถนนเจริญกรุง ที่จริงแล้วสวนสราญรมย์กับกรมการรักษาดินแดนนั้น เป็นที่ดินที่ทรงซื้อไว้...แต่ทำไมฟากหนึ่งเป็นของกทม. อีกฟากเป็นของกองทัพบก ผมไม่มีเวลาจะค้นต่อว่าที่สองแปลงนี้เปลี่ยนมือไปอย่างไร อาจจะพระราชทานให้ในสมัยรัชกาลที่ 6 หรืออาจจะถูกยึดไปดื้อๆ สมัยหลัง 2475 ก็ได้
ที่พูดอย่างนั้นก็เพราะมีการตั้งสมาคมคณะราษฎรในสวนสราญรมย์หลัง 2475 อาคารก็ยังอยู่ เรื่องพวกนี้ยิงสอบสวนจะยิ่งเห็นความฉ้อฉลของคณะราษฎรก็เป็นได้ครับ