ขอร้องแอดมินและสมาชิกทุกท่าน ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลนี้หน่อยครับ
#201
ตอบ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 16:51
รัฐบาลทุกยุคยอมให้โรงกลั่นบวกค่าขนส่ง ค่าประกันภัย และค่าสูญเสียระหว่างขนส่งจากสิงคโปร์มาไทย รวมเข้าไปในราคาขายน้ำมันสำเร็จรูปด้วย ทั้งที่น้ำมันดีเซลและเบนซินที่คนไทยใช้มาจากโรงกลั่นที่ตั้งในประเทศทั้งหมด(ชลบุรี ระยอง กทม.) ไม่ได้นำเข้าจากสิงคโปร์
เหตุผลที่ให้ใช้เพราะกลัวโรงกลั่นได้กำไรน้อยเกินไป
โกงไม่โกงก็พิจดูกันเองนะครับพี่น้องไทย (ประเทศไทยมีโรงกลั่นใหญ่ 6 โรงเป็นของ ปตท.ที่ถือหุ้นใหญ่ 5 โรง)
http://www.facebook....&type=1
#202
ตอบ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 23:28
แล้วจะเหลือพลังงานอะไร ให้คนไทยภูมิใจว่า...
#203
ตอบ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 17:36
ในขณะที่กระทรวงพลังงานกำลังรณรงค์ “รวมพลังปลดดินพอกหางหมู” ซึ่งมีเนื้อหาเพื่อขอขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ให้เท่ากับราคาในตลาดโลก เพื่อไม่ให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องเป็นหนี้มากกว่านี้ คือประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท แต่ปรากฏว่า คณะอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงาน ในคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กลับสวนกระแสว่า ให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นำเงินที่ได้รับการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณหนึ่งแสนล้านบาทคืนให้แก่กองทุนน้ำมันฯ โดยเร็ว
อ้าว อย่างไรกันนี่!
ในตอนท้ายของบทความนี้ผมได้แนบเอกสารประกอบการแถลงข่าวของคณะอนุฯชุดดังกล่าวมาลงโดยไม่มีการตัดต่อแต่อย่างใด แต่ก่อนอื่นผมขอสรุปสั้นๆเพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน
ความเดิมมีอยู่ว่า เมื่อหลายปีก่อนประเทศไทยเคยผลิตก๊าซหุงต้มได้มากกว่าความต้องการใช้ภายในประเทศ จนต้องมีการส่งออก แหล่งที่มาของก๊าซหุงต้ม (หรือก๊าซปิโตรเลียมเหลว เรียกย่อๆ ว่าแอลพีจี) มาจากสองแหล่งคือโรงแยกก๊าซกับโรงกลั่นน้ำมัน
วัตถุดิบที่ใช้ป้อนเข้าโรงแยกก๊าซทั้งหมดมาจากแหล่งปิโตรเลียมภายในประเทศซึ่งถือว่าเป็นทรัพยากรของประชาชนไทยทั้งประเทศ สำหรับวัตถุดิบที่ป้อนเข้าโรงกลั่นน้ำมันนั้นส่วนมาก (ประมาณ 3 ใน 4) เป็นน้ำมันดิบซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ที่เหลืออีก 1 ใน 4 เป็นน้ำมันดิบที่ขุดได้จากประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม เฉพาะก๊าซแอลพีจีที่ผลิตได้จากโรงแยกก๊าซเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอสำหรับให้ภาคประชาชนใช้ซึ่งได้แก่ภาคครัวเรือนและภาคยานยนต์ใช้ แต่ต่อมาหลังปี 2551 อุตสาหกรรมปิโตรเคมีซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท. ได้นำก๊าซแอลพีจีเป็นจำนวนมากไปใช้เป็นวัตถุดิบ (ไม่ใช่เชื้อเพลิง) จึงส่งผลให้ต้องมีการนำเข้าก๊าซแอลพีจีจากต่างประเทศมาเพิ่ม
ที่เป็นปัญหามากกว่านั้นก็คือ ราคาก๊าซแอลพีจีที่ภาคอุตสาหกรรมซื้อไปใช้นั้นทั้งก่อนและหลังช่วงที่มีการนำเข้านั้นเป็นราคาที่ได้รับการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาจากไหน? ก็มาจากการเก็บไปจากผู้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกคนซึ่งก็คือประชาชนนั่นเอง มูลค่าที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีได้รับการชดเชยราคาไปแล้วก็ประมาณหนึ่งแสนล้านบาท
กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรักษาระดับราคาเชื้อเพลิงไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป ยามใดที่น้ำมันดิบมีราคาต่ำรัฐบาลก็เก็บเงินเข้ากองทุนฯ ยามใดที่น้ำมันดิบมีราคาสูงเกินไปก็ดึงเงินจากกองทุนมาอุดหนุน ยามใดที่รัฐบาลจะหาเสียงก็ดึงเงินกองทุนน้ำมันฯ มาชดเชยมากหน่อย แต่ต่อมารัฐบาลก็นำเงินกองทุนน้ำมันฯ มาชดเชยราคาก๊าซแอลพีจีด้วย ซึ่งก็ยังอยู่ในกรอบของ “เชื้อเพลิง” เหมือนเดิม แต่กองทุนน้ำมันฯ ไม่เคยมีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยราคาวัตถุดิบให้แก่อุตสาหกรรมใดเลย
แต่ในช่วงประมาณ 10 ปีมานี้ได้เกิดอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขึ้น ซึ่งวัตถุดิบของอุตสาหกรรมนี้ก็คือก๊าซแอลพีจี โรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเคมีส่วนใหญ่เป็นของ ปตท. จึงได้ซื้อวัตถุดิบไปใช้ในราคาที่ได้รับการชดเชยจากกองทุนน้ำมันซึ่งเป็นกองทุนที่เก็บหอมรอมริบมาจากประชาชน
นี่คือเหตุผลที่คณะอนุกรรมาธิการฯ อ้างให้ “การทวงคืนโดยเร็ว” (ในข้อ 4 ของใบแถลงข่าว)
อีกเหตุผลหนึ่งซึ่งปรากฏอยู่ในข้อที่ 3 ของเอกสารแถลงข่าวคือ การสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมในประเทศไทยนั้น รัฐบาลไทยคิดค่าตอบแทนในอัตราที่ต่ำมาก คือต่ำที่สุดในบรรดากลุ่มประเทศอาเซียน และต่ำกว่าราคาในตลาดโลกถึง 40% ส่งผลให้หน่วยธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีในปี 2554 ถึงกว่า 8.4 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 54.3% ของทุกธุรกิจในเครือ ปตท.ทั้งหมด
ตารางข้างล่างนี้ ได้แสดงถึงผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีรวม 6 หน่วยธุรกิจกว่า 1.55 แสนล้านบาท
แปลกดีแท้นะครับ ตอนขอสัมปทานแหล่งทรัพยากรปิโตรเลียม ปตท.สผ. (รวมทั้งบริษัทรับสัมปทานอื่นๆ ด้วย) บริษัทได้รับปิโตรเลียมในราคาที่ต่ำกว่าตลาดโลกถึง 40% แต่เวลาจะขายสินค้าให้กับเจ้าของทรัพยากรกลับขอขายในราคาตลาดโลก
เชิญอ่านต่อที่นี่ครับ เป็นเอกสารแถลงข่าวของคณะอนุฯทุกตัวอักษร
http://www.manager.c...D=9550000125953
**** เพิ่งเห็นว่ามีท่านสมาชิกตั้งกระทู้จากบทความนี้แล้ว แต่ผมคิดว่ากระทู้นี้มีประโยชน์ก็ขอเก็บรวบรวมไว้
Edited by กรกช, 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 17:44.
#204
ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:20
#206
ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:34
และถึงวันนี้ข้อมูลความบิดเบือนฉ้อฉลต่างๆได้ถูกเปิดโปงออกมามากมาย
แต่กลับไม่มีพรรคการเมืองไหนคิดจะนำความถูกต้องชอบธรรมเรื่องนี้กลับคืนสู่สังคมไทยเลย
กรณีพลังงาน ทั้งเพื่อไทย และ ปชป. ถึงจะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ แต่จากองค์ประกอบต่างๆ ผมว่ามันเข้าใจได้ไม่ยาก
รัฐบาลเพื่อไทยที่มีทักษิณอยู่เบื้องหลังนั้น ให้ข้อมูลที่บิดเบือน แม้กระทั่งคลิปที่ทำออกสู่สาธารณะยังบิดเบือน ตรงนี้บ่งชี้เจตนาได้เป็นอย่างดี
ส่วน ปชป. ไม่ต้องไปพูดถึงสมัยเป็นรัฐบาล เอาแค่ตอนนี้ที่เป็นฝ่ายค้านนี่แหละ
ถ้ารักชาติบ้านเมืองจริง รักประชาชนคนไทยจริง มีเจตนาทำเพื่อชาติบ้านเมืองจริง ไม่มีผลประโยชน์ใดๆมาเกี่ยวข้อง
ก็ย่อมต้องยื่นมือมาทำอะไรสักอย่าง ไม่ใช่ปล่อยให้คนไทยตาดำๆต่อสู้ตามมีตามเกิด
แม้กระทั่งคลิปปลดหนี้ LPG ที่บิดเบือนข้อมูลของกระทรวงพลังงาน ที่บิดเบือนชัดเจน ยังไม่เอาตรงนี้มาเล่น
ผมจำได้ว่าในบอร์ดนี้ สมาชิกที่ไม่ใช่เสื้อแดง เมื่อก่อนล้วนแล้วแต่รับไม่ได้กับการคอร์รัปชั่น รับไม่ได้กับการโกงแล้วทำงาน
ถึงวันนี้ จุดยืนของท่านทั้งหลายยังเหมือนเดิมหรือเปล่า ???
#207
ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 23:52
รายงานปริมาณปิโตรเลี่ยมในฝั่งไทยไม่ตรงกับของฝั่งมาเลเซีย
Edited by Stargate-1, 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 00:20.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#208
ตอบ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:36
ได้พบข้อความที่ไม่เหมาะสมในกระทู้หมายเลข V12800850 ขอให้ทีมงานพิจารณาลบ *ทั้งกระทู้* เนื่องจาก เสนอข้อความหรือเนื้อหาอันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ ...
การไปโพสต์เรื่องพลังงานในพันทิพย์ ให้พึงระวัง อย่าพยายาม หลงกลพวกล่อให้ถูกลบกระทู้ อย่าพยายามออกนอกเรื่องเด็ดขาด แม้จะถูกยั่ว มิฉะนั้นกระทู้และคห.ทุกอย่าง จะถูกลบ และยึด Ticket ID และขอใหม่ไม่ได้ จนกว่าจะติดต่อกับ WM ได้ ดูตย. ข้างล่างนี้
น้ำมัน, LPG จะถูก ถ้าเลิกอุดหนุน LPG ในภาคปิโตรเคมี (ปตท)
Debate กันในรัชดากันมาเป็นปีๆ สรุปได้ง่ายๆ สั้นๆคือ
ถ้าอยากให้ทั้งน้ำมันและ LPG (ครัวเรือน+ขนส่ง) มีราคาที่ไม่แพง(ชดเชยให้เหมือนปัจจุบัน) มีวิธีแก้ง่ายๆแต่ไม่กล้าทำกันคือ
LPG ที่ใช้ในภาคปิโตรเคมีซึ่งผู้ใช้หลักคือ กลุ่มปตท ต้องขายตามราคาตลาดโลก ไม่ต้องไปชดเชยให้มัน เงินกองทุนก็ไม่ต้องไปออกให้มัน
จากคุณ : ภีมะ เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 11:58:45 A:101.108.194.96 X: TicketID:364160
.
ความคิดเห็นที่ 11
อืม คุณ P_wut ด่าผมเป็นหมาไปแล้ว ผมไปทำอะไรให้คุณเดือดร้อนหรือ?
จากคุณ : ภีมะ เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 13:47:48 A:101.108.194.96 X: TicketID:364160
ความคิดเห็นที่ 12
เอางี้ดีกว่า ไม่อยากดราม่า
ผม จขกท เอง ผมขอให้คุณ P_wut หยุดตอบกระทู้นี้ต่อแล้วกันครับ เดี๋ยวจะยาว
ผมไล่คุณ P_wut ออกจากกระทู้นะครับ [ที่ post ไปแล้ว จะลบก็ลบได้นะครับไม่ว่าอะไร] และไม่ต้อนรับคุณ coolknott , ton99 ด้วย เอาแค่ 3 ท่านนี้แล้วกัน
จากคุณ : ภีมะ เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 13:57:09 A:101.108.194.96 X: TicketID:364160
ความคิดเห็นที่ 13
จะไปห้ามเขาทำไมล่ะครับ จขกท.เรื่องข้อมูลก็ว่ากันไป
ส่วนเรื่องที่ ด่า ก็ให้ผู้ดูแลเว็ปเป็นคนจัดการ (แจ้งเรื่องเข้าไปซิครับ)
ในความคิดผม ใครใช้เท่าไหร่ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่
ปตท.ได้รับการอุตหนุน ตั้งแต่ลิตรแรกที่ผลิต lpg ได้ ใช่ หรือ ไม่ใช่ครับ
จากคุณ : keaw_m เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 14:18:48
ความคิดเห็นที่ 22
เรื่องข้อมูล เอามายันกันเถียงกัน ผมก็โอเคนะครับ แต่พึงระลึกถึง กติกาและมารยาท ของ pantip.com ด้วยครับ
http://www.pantip.com/cafe/rules.html
2. **ใช้ข้อความที่สุภาพ** เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจในการเข้าร่วมกิจกรรมต่อสังคม
5. การเสนอความเห็นต่อกระทู้ใดๆ พึงระลึกเสมอว่า มีผู้อ่านที่แตกต่างกันทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ และวุฒิภาวะ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการใช้ข้อความ เช่น ข้อความที่ส่อไปในทางอนาจารเกินกว่าเหตุ หรือมีผลยั่วยุทางกามารมณ์ ข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด **ซึ่งอาจนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้ง** ข้อความที่มีเนื้อหาขัดต่อกฏหมาย หรือศีลธรรมอันดีของสังคม ข้อความที่พาดพิงบุคคลที่สามในทางหมิ่นประมาท เป็นต้น
ปล.1 ผมไม่อยากดราม่า ไม่อยากให้มาทะเลาะกัน ไม่อยากให้คุณ P_wut มาป่วนกระทู้ด้วยการ "ด่าว่า ดูถูก" อะไรทั้งสิ้นครับ ทำตามที่ผมบอกเถอะ ออกไปจากกระทู้ครับคุณ P_wut
ปล.2 ผมไล่คุณ P_wut แล้วนะครับ จะยังอยู่ต่ออีกหรือ?
จากคุณ ภีมะ
เขียนเมื่อ: 17 ต.ค. 55 16:37:34 A:101.108.194.96 X: TicketID:364160
ความคิดเห็นที่ 27
จขกท. แค่แสดงความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ได้ด่าพ่อใครเสียหน่อย
ถึงกลับด่าว่าเป็น " หมา "
คนดีมันคืออะไรว่ะ
การศึกษาไม่ได้ช่วยให้คุณเป็นคนประเสริฐเลย
จากคุณ : flux.mut เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 16:57:42
ความคิดเห็นที่ 36
ปล.1 ผมไม่อยากดราม่า ไม่อยากให้มาทะเลาะกัน ไม่อยากให้คุณ P_wut มาป่วนกระทู้ด้วยการ "ด่าว่า ดูถูก" อะไรทั้งสิ้นครับ ทำตามที่ผมบอกเถอะ ออกไปจากกระทู้ครับคุณ P_wut
ปล.2 ผมไล่คุณ P_wut แล้วนะครับ จะยังอยู่ต่ออีกหรือ?
อีกที
จากคุณ : ภีมะ เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 18:27:10 A:101.108.194.96 X: TicketID:364160
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#209
ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 22:07
ส่วนกรณีที่กระทรวงพลังงานเตรียมหารือร่วมกับกระทรวงเศรษฐกิจในวันที่ 25 ต.ค. นี้ เพื่อพิจารณาแนวทางกำหนดราคาก๊าซหุงต้ม หรือ LPG เป็นราคาเดียวนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดีและควรรีบดำเนินการเพื่อลดภาระการอุดหนุนราคาก๊าซ LPG โดยมองว่า LPG ราคาเดียว ควรเป็นราคาหารเฉลี่ยระหว่างราคา LPG หน้าโรงแยกก๊าซ LPG หน้าโรงกลั่น และ LPG นำเข้า โดยรัฐบาลควรคำนวณราคากลางออกมาก่อน แล้วค่อยทยอยปรับขึ้นราคา LPG แต่ละภาคไปสู่ราคากลาง โดยเฉพาะ LPG ภาคขนส่ง ที่ควรมีการปรับขึ้นราคาก่อนในปีนี้ แล้วค่อยทยอยปรับขึ้นราคา LPG ภาคครัวเรือน ตามในปีหน้า ขณะที่การอุดหนุนราคา LPG เป็นรายภาคเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนั้น ยังเป็นเรื่องที่ควรดำเนินการ แต่รัฐบาลจะต้องกำหนดกลุ่มให้การช่วยเหลือที่ชัดเจน
http://www.matichon....5&subcatid=0505
PTTGC อนุมัติปรับสูตรซื้อขายวัตถุดิบปิโตรฯ กับ PTT
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า บริษัทมีมติอนุมัติให้ปรับสูตรราคาซื้อขายวัตถุดิบปิโตรเคมีจากก๊าซธรรมชาติ ระหว่างบริษัทฯ และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตวัตถุดิบได้เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สูตรราคาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไม่สะท้อนหลักการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน การปรับสูตรราคาซื้อขายครั้งนี้ จึงใช้หลักการที่ทั้งสองฝ่ายตกลงแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2555 นี้ เป็นต้นไป
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ยังได้กล่าวถึงผลกระทบของการใช้สูตรราคาซื้อขายใหม่ ที่ระดับราคาน้ำมันดิบปัจจุบัน ว่าจะมีผลให้ราคาวัตถุดิบปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นประมาณ 40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเมตริกตัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8 โดยสมมุติฐานในการกำหนดสูตรราคาใหม่จะอยู่บนช่วงระดับน้ำมันดิบ 70-130 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และอ้างอิงเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายการผลิตและจำหน่าย ตามมาตรฐานสากล เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในระยะยาว ซึ่งบริษัทฯจะดำเนินการร่วมกับ ปตท. เพื่อพิจารณาการสร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจปลายน้ำและการจัดหาก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสำหรับโครงการขยายการลงทุน (Debottlenecking) ของบริษัทฯในฐานะที่บริษัทฯเป็นแกนหลักในธุรกิจปิโตรเคมีของกลุ่ม ปตท. ต่อไป
ในเมื่อโรงปิโตรฯต้องการซื้อในราคานำเข้า ทำไมไม่นำเข้ามาเองเสียเลย มันแตกต่างกันตรงไหน แลวยกเลิกคำสั่งใหม่สมัยสมชายทิ้งไปเสีย ให้ภาคครัวเรือน ภาคยานยนต์ และภาคอุตสาหกรรม ใช้จากโรงแยกแก๊สเท่านั้น ซึ่งเพียงพออยู่แล้ว สำหรับจำนวนทั้ง 3 ภาค กำลังการผลิตของโรงแยกแก๊สทั้ง 6 โรงดูได้จาก
http://www.pttplc.co...tion-plant.aspx
ครัวเรือนใช้ -------------------------- 2,656,215 ตัน
ยานยนต์ใช้ -----------------------------919,872 ตัน
อุตสาหกรรมทั่วไปใช้ -----------------717,660 ตัน
ปิโตรเคมี------------------------------2,413,413 ตัน
--------------------------------------- -------------------
--------------------------------------- -6,707,180 ตัน
---------------------------------------- ==========
วัตถุประสงค์ของการก่อสร้างโรงแยกก๊าซธรรมชาติมีดังนี้
1. เพื่อผลิตก๊าซหุงต้มหรือ แอล พี จี (Propane และ Butane) สำหรับสนองความต้องการภายในประเทศ
2. เพื่อแยกก๊าซอีเทน (Ethane) สำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐาน อันจะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต่อเนื่องในสาขาต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง
3. เพื่อแยกก๊าซมีเทน (Methane) สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเตาในโรงไฟฟ้า และโรงงานอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในอนาคต นอกจากนั้นยังสามารถนำก๊าซมีเทนไปใช้ เป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมี ผลิตแอมโมเนียและยูเรีย ตลอดจนใช้ผลิตเมธานอลได้ด้วย
• กระบวนการผลิตของโรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง
• ประโยชน์จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ดังนี้
1. ก๊าซมีเทน (Methane) ใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม ปุ๋ยเคมี และเมื่อนำไปอัดใส่ถังด้วยความดันสูง เรียกว่า ก๊าซธรรมชาติอัด (Compressed Natural Gas - CNG) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (Natural Gas Vehicles - NGV) สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ได้
2. ก๊าซอีเทน (Ethane) ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้น ที่ใช้ผลิตเม็ดพลาสติก เส้นใยพลาสติกชนิดต่างๆ
3. ก๊าซโปรเพน (Propane) และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquidfied Petroleum Gas - LPG)
ก๊าซโปรเพนใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้น ส่วนก๊าซ LPG (ก๊าซหุงต้ม) เป็นส่วนผสมของก๊าซโปรเพน (Propane) และก๊าซบิวเทน (Butane) ใช้เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือน รถยนต์ การเชื่อมโลหะ โรงงานอุตสาหกรรมบางประเภท ซึ่งปัจจุบันประมาณร้อยละ 70 แห่ง ทั่วประเทศไทย
4. ก๊าซธรรมชาติเหลว (Natural Gasoline - NGL) นำเข้าโรงกลั่นน้ำมันจะได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป และสามารถใช้ทำตัวทำละลายได้ ที่มาของข้อมูล : โรงแยกก๊าซธรรมชาติ จ.ระยอง
Edited by Stargate-1, 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:31.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#210
ตอบ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 15:28
ที่เพขรบูรณ์...ปตท...แก๊ส...กองทุนน้ำมัน...กระทรวงพลังงาน...28 ต.ค.
ชาวลำปางจึงหันมาขุดน้ำมันกันเอง
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#211
ตอบ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 15:57
“พลังงาน” ความยั่งยืนบนผลประโยชน์ของประชาชน
รายการ Intelligence ประจำวันที่ 6 ม.ค. 2555
ประเทศไทยผลิตน้ำมันได้มากกว่าบรูไน ทำไมยังต้องใช้น้ำมันแพง ชัยนิรันดร์ พยอมแย้ม แกนนำเครือข่ายพลังงาน สภาพัฒนาการเมือง, วินัย เสวกวิ, รัฐเขต แจ้งจำรัส นักวิชาการเครือข่ายพลังงาน เปิดตัวเลขให้เห็นว่าประเทศไทยผลิตน้ำมันดิบได้วันละ 35 ล้านลิตร ก๊าซธรรมชาติ 7.8 แสนล้านลิตร มากกว่าบรูไนมาหลายปี แต่ประชาชนกลับต้องใช้น้ำมันแพง สาเหตุเพราะสัมปทานไม่เป็นธรรม โครงสร้างราคาแพงเกินจริง และการเก็บภาษีซ้ำซ้อน สัมปทานน้ำมันที่ให้กับบริษัทต่างชาติตั้งแต่ปี 2524 เก็บค่าภาคหลวงเพียง 12.5% ขณะที่อัตราทั่วโลก อยู่ที่ 40-50% ทำให้ประเทศมีรายได้จากค่าภาคหลวงเพียง 5 หมื่นล้านบาท แทนที่จะได้ปีละ 2-3 แสนล้าน
นอกจากนี้ยังมีปัญหา ปตท.คิดราคาน้ำมันโดยอิงตลาดสิงคโปร์ รวมค่าขนส่งทางเรือ ค่าประภันภัย ซึ่งเป็นต้นทุนเทียม แม้แต่ราคาก๊าซธรรมชาติก็เป็นต้นทุนเทียม ขณะที่อัตราภาษีน้ำมันในปัจจุบัน แม้ยกเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันแล้ว ก็ยังสูงกว่ารัฐบาลทักษิณ 1 ถึงสองเท่า และกลายเป็นตัวฉุดรั้งเศรษฐกิจ
Edited by Stargate-1, 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 15:59.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#212
ตอบ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:34
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#213
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:29
ความคิดเห็นที่ 58
//////////////////
มันจะเป็นไปได้อย่างไร โรงกลั่นมาตรฐานยูโร 4 หมดล้ว มีโรงไหนกลั่นแบบที่คุณว่า ลองยกตัวอย่างมา
//////////////////
มันไม่ใช่หน้าที่ผมนะ ผมเจอมาจากเว็บของราชการ
ถ้าคุณคิดว่าราชการเขาโกหก คุณต่างหากที่ต้องไปหาข้อมูลมา
ไม่ใช่มาใส่ความลอยๆ
และถ้ายังหาหลักฐานมาไม่ได้รีบกลับแมททริกซ์เสรีไทยไปซะดีกว่า
ผมไม่เอาเรื่องคุณหรอก
///////////
หมายเหตุ : น้ำมันเบนซิน 91 ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นน้ำมันที่ไม่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดคุณภาพน้ำมันที่จำหน่ายในประเทศ จึงต้องส่งออก
//////////
ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณไม่เข้าใจประโยคนี้
เขาบอกว่าไม่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนด ไม่ได้บอกว่าต่ำกว่ามาตรฐาน
ยูโร4 อาจจะมาตรฐานใหม่กว่าจริง แต่ค่าบางอย่างมันไม่ได้ตามข้อกำหนดของเบนซิน91 ที่ประกาศใช้กันอยู่
มันก็คือ "ไม่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนด"
จากคุณ : ton99
เขียนเมื่อ: 24 ต.ค. 55 23:18:32
ไล่กลับเสรีไทย เหรอ น่าจะไล่กลับพันทิพย์มากกว่า ลองดูที่นี่ก็ได้
http://webboard.seri...750#entry464596
มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ครั้งที่ 19/2555 (ครั้งที่ 116)
วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฏาคม 2555 เวลา 16.30 น.
ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 15 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (ENCO) อาคารบี
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ) กรรมการและเลขานุการ
เรื่องที่ 1 การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบหลักเกณฑ์การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ และระยะเวลาให้มีความเหมาะสมภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การมอบหมาย ดังนี้
1.1 น้ำมันดีเซล การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาสูงขึ้นจนทำให้มีผลกระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสารเกินสมควรให้ กบง.พิจารณาปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้ตามความเหมาะสม การปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลให้พิจารณาจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หากมีราคาต่ำจนทำให้ผู้ประกอบการขนส่งและโดยสารสมควรปรับอัตราค่าบริการลงให้ กบง. ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่กระทบเกินสมควรต่อค่าขนส่งและโดยสาร
1.2 น้ำมันเบนซิน/น้ำมันแก๊สโซฮอล การปรับเพิ่ม/ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลให้พิจารณาปรับเพื่อรักษาระดับส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมันแก๊สโซฮอล เพื่อจูงใจให้มีการใช้พลังงานทดแทน (เอทานอล) มากขึ้น
2. ราคาน้ำมันตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยราคาปิดตลาด ณ วันที่ 11 กรกฎาคม 2555 น้ำมันดิบดูไบ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 96.45, 109.57 และ 114.84 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ น้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงจากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2555 (ราคาปิดตลาดวันที่ 5 กรกฎาคม 2555) 1.59 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.93 และ 0.34 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ จากราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลงและราคาไบโอดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันในประเทศเพิ่มสูงตามไปด้วย โดยมีโครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2555 ดังนี้
โครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2555
3. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2555 มีทรัพย์สินรวม 7,526 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 25,530 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 15,709 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 171 ล้านบาท และเงินกู้ยืม 8,650 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิติดลบ 17,004 ล้านบาท
4. จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาดีเซลตลาดโลก ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลงและราคาไบโอดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูง โดยค่าการตลาดเฉลี่ยน้ำมันดีเซล 5 วัน (8 - 12 กรกฎาคม 2555) อยู่ที่ 1.1816 บาทต่อลิตร ดังนั้น เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้กระทบต่อภาคขนส่งและค่าโดยสาร และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซล ลง 0.50 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกยังคงอยู่ที่ 29.83 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ จะมีรายรับลดลงประมาณวันละ 29 ล้านบาท จากวันละ 177 ล้านบาท เป็นวันละ 148 ล้านบาท
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลลง 0.50 บาทต่อลิตร จาก 2.00 บาทต่อลิตร เป็น 1.50 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2555 เป็นต้นไป<a name="2">
เรื่องที่ 2 สถานการณ์การจัดหาน้ำมันเบนซินพื้นฐาน
สรุปสาระสำคัญ
1. เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2555 เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นบางจาก ส่งผลให้หน่วยกลั่นที่ 3 กำลังการผลิต 80,000 บาร์เรลต่อวัน ต้องหยุดการผลิตประมาณ 3 เดือน จนถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2555 และหน่วยกลั่นที่ 2 กำลังการผลิต 40,000 บาร์เรลต่อวัน ต้องหยุดผลิตถึงช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2555 และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) จะหยุดซ่อมหน่วย FCC (หน่วยผลิตน้ำมันองค์ประกอบที่ใช้ผลิตเบนซินพื้นฐาน) ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - วันที่ 7 กันยายน 2555 และหยุดซ่อมหน่วย CDU-1 HDT-1 และ HVU-1 ตั้งแต่วันที่ 5 - 29 สิงหาคม 2555 รวมทั้ง บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หยุดซ่อมหน่วย DCC (หน่วยผลิตเบนซิน) ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2555 ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการผลิตเบนซินพื้นฐานไม่เพียงพอตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - กันยายน 2555
หมายเหตุ : น้ำมันเบนซิน 91 ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นน้ำมันที่ไม่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดคุณภาพน้ำมันที่จำหน่ายในประเทศ จึงต้องส่งออก
2. เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2555 ธพ. ได้เชิญประชุมผู้ผลิตและผู้จำหน่ายน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล โดยสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาได้ดังนี้ (1) ให้ผู้ค้าน้ำมันนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐาน (ปตท. บางจาก เชลล์) (2) ให้โรงกลั่นน้ำมันผลิตเพิ่ม (SPRC) (3) ผ่อนผันคุณภาพน้ำมันบางตัวที่ไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์เป็นการชั่วคราว และ (4) ผ่อนผันการสำรองน้ำมันให้ผู้ค้าน้ำมันตามความจำเป็น โดยสรุปแนวทางการแก้ปัญหาได้ดังนี้
3. เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบและรับทราบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 โดยเห็นชอบในหลักการให้ยกเลิกน้ำมันเบนซิน 91 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป และมอบหมายให้กระทรวงพลังงานรับไปแก้ไขปัญหาการผลิตและการนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐาน (G-Base) และนำเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาต่อไป
4. จากปัญหาเพลิงไหม้โรงกลั่นบางจาก ในเบื้องต้นคาดว่าโรงกลั่นบางจากจะต้องหยุดผลิตประมาณ 3 เดือน ประกอบกับโรงกลั่นไทยออยล์ต้องหยุดซ่อมบำรุงตามแผน ส่งผลกระทบต่อการผลิตและการจัดหาน้ำมันเบนซินพื้นฐาน ทำให้ต้องนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐาน และนำน้ำมันสำรองตามกฎหมายที่มีอยู่ออกมาจำหน่ายจนกว่าโรงกลั่นทุกโรงจะกลับมาผลิตได้ตามปกติ และหลังจากนั้น จะต้องใช้ระยะเวลาในการจัดหาน้ำมันมาเก็บสำรองตามกฎหมายให้ครบถ้วนตามเดิมอีกระยะหนึ่ง ดังนั้น จึงเห็นควรเลื่อนกำหนดเวลายกเลิกน้ำมันเบนซิน 91 ออกไปอีกระยะหนึ่งประมาณ 3 เดือนหลังจากที่โรงกลั่นบางจากกลับมาผลิตตามปกติ
มติของที่ประชุม
1. รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาการจัดหาและการผลิตน้ำมันเบนซินพื้นฐาน
2. เห็นชอบในหลักการให้เลื่อนกำหนดการยกเลิกน้ำมันเบนซิน 91 ออกไปอีกระยะหนึ่งในเบื้องต้นประมาณ 3 เดือน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำมันเบนซินพื้นฐานและใช้กลไกราคาในการปรับความต้องการน้ำมันกลุ่มเบนซินแต่ละเกรดให้สมดุลกับความสามารถในการผลิตของโรงกลั่นในประเทศ และนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเพื่อพิจารณาต่อไป
ความจริงแล้วเขาส่งออกเพราะไม่ให้ขายแล้ว กลับมาบอกว่าไม่ได้คุณภาพจึงส่งออก ถ้าไม่ส่งออก แล้วจะไม่ให้ไปขายใคร แต่พอต่ออายุไปอีก 3 เดือนก็ได้มาตรฐานขึ้นมาทันที เด็กซิ่งคนนี้เลือกเอาแต่ประโยคที่ตัวเองชอบเท่านั้น แล้วยังแจ้งให้ยึด Ticket ID อีก ระ....จริงๆ
Edited by Stargate-1, 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:43.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#214
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 14:51
ฟังแล้วช้ำจริงๆ เคยทราบแต่ว่าราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นจริงๆแล้วไม่กี่บาทแต่มันบวกนู่นบวกนี่ จาก9บาท 10 บาทกลายเป็น 40-50บาท
#215
ตอบ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:15
#12
ต้นทุนที่แท้จริง เป็นความลับทางธุรกิจ แต่บอกได้เลยว่าภาพรวมแล้ว PTT กำไรน้อยกว่าบ.น้ำมันต่างชาติ เคยมีคนเอาตัวเลขมาให้ดูชัดๆกันแล้ว ว่าสัดส่วนรายได้กับกำไร ของเราน้อยกว่าบ.อื่นหมด เพราะโดนกดบังคับให้ขาดทุนหลายเรื่องมากกว่า
ถ้าคิดว่าบ.น้ำมันกำไรมากจริง ทำไมบ.น้ำมันต่างชาติถอนตัวจากไทยไปเกือบหมด จนต้องเลหลังขายโรงกลั่นถูกๆให้PTT เมือ่หลายปีก่อน?
สิ่งที่คุณพูดมันขัดแย้งกับข้อเท็จจริงนะครับ
จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 19:11:41
http://www.pantip.co.../U12728106.html
ความคิดเห็นที่ 21
ผมเชื่อว่ามีคนอยากทำ แต่ ณ เวลานี้คนทำต้องคิดหนัก ลิเบีย ซีเรียเป็นตัวอย่างอยู่ คงไม่ง่ายๆเหมือนสมัยก่อน ข่าวปล่อยมาเพื่อสร้างกระแสปลุกระดมให้กำลังใจม๊อบเหลืองเท่านั้นแหละ ยิ่งช่วงนี้ มีการเดินสายจัดเวทีหลายๆจังหวัดโดยเครือข่ายสีเหลืองกันยกใหญ่เช่นกัน เขาก็ต้องปล่อยข่าวระดมเงินกันบ้าง
จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 55 16:32:44 A:110.49.249.37 X:
http://www.pantip.co.../P12831808.html
ยังมี ค... บาง... ในพันทิพย์เที่ยวหลอกชาวบ้านว่าราคาต้นทุนน้ำมันดิบเป็นความลับทางธุรกิจอีก พอจนแต้มจริงๆก็แจ้ง WM ยึด Login โดยการโยงไปเกี่ยวกับการเมือง
Edited by Stargate-1, 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:32.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#216
ตอบ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:26
ให้ดูที่ อัตรากำไรสุทธิ (%) เพราะตัวเลข % มันบอกได้ชัดเจนว่า สินค้าทุกๆ อย่าง ราคาขาย 100 บาท กำไรมันเหลือแค่กี่บาท
ที่มันกำไรเป็นหมื่น เป็นแสนล้าน เพราะยอดขายมันเยอะมากกกกก ระดับล้านล้านบาท ถ้าไม่เอากำไรเลย (ลดกำไรเหลือ " ศูนย์ " บาท) ราคาสินค้าที่คุณซื้อ ก็จะลดลงไปได้แค่ 3-4% แค่นั้นแหละ
>>>>>>> ไอ้พวกที่ด่า ปตท. ว่า เอากำไรจากน้ำมัน ไปกำไรเป็นแสนล้านน่ะ ถ้ามันไม่โง่จริงๆ
มันก็เป็น " *** " เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า กำไรมาจากอะไร แต่มันบิดเบือนไปเป็นเรื่องอื่น "
------------------------------------------------------------------
อ่านความเห็นของกองเชียร์ ปตท.จากลิ๊งค์ของพันทิพย์ที่คุณ Stargate-1 เอามาแปะแล้วอนาถใจจริงๆ
คนเราถ้าหน้าไม่ด้านพอคงพิมพ์ออกมาแบบนี้ไม่ได้
หลักฐานข้อมูลต่างๆก็ถูกแฉออกมามากมายว่า กำไรส่วนหนึ่งมาจากการบิดเบือน บวกโน่น บวกนี่จากต้นทุนปลอมๆก็มี
แต่ก็ทำเนียนมาอ้างแบบนี้ แถมยังมาหลอกด่าคนที่รู้ทันว่าโง่ ว่าเลว.... สัน ดานเสียจริงๆ
และกำไรแสนล้านมันคือตัวเลขตามบัญชี มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่ยังมีหน้ามาบอกว่าแค่ตัวเลขหลอกลวงความรู้สึก
นี่เห็นคนไทยเป็นวัวเป็นควายกันหมดรึไง ?
ที่มันหลอกลวงความรู้สึกน่ะคือ ปตท.กำไรแสนล้าน แต่ชาวบ้านเดือดร้อนจากราคาน้ำมันแพงเว้ย
Edited by กรกช, 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:27.
- สงสารสาวจันทร์ likes this
#217
ตอบ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:50
วันที่: ธันวาคม 2554
ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่า เอทานอล(Ethanol) แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ที่ผลิตได้จากพืช เช่น มันสำปะหลังและอ้อย เป็นพลังงานทางเลือกที่สามารถใช้ทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดีและใช้ได้อย่างยั่งยืนเพราะผลิตจากพืชซึ่งสามารถปลูกหมุนเวียนได้ไม่มีวันหมดสิ้น
การใช้เอทานอลผสมในน้ำมันเบนซิน ได้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่เรียกว่า “น้ำมันแก๊สโซฮอล์” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นโดยลำดับ เพราะมีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซิน ที่สำคัญช่วยให้เครื่องยนต์สะอาด ลดมลพิษ ลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ สร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ และสร้างเสถียรภาพราคาพืชผลให้แก่เกษตรกร เอทานอลจึงมีส่วนสำคัญยิ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
การผลิตเอทานอล
เอทานอล ผลิตได้จากวัตถุดิบทางการเกษตรหลายชนิด ทั้งวัตถุดิบประเภทแป้งและน้ำตาล เช่น มันสำปะหลัง ธัญพืช อ้อย และกากน้ำตาล และวัตถุดิบที่เป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมเกษตร เช่น กากอ้อย ฟางข้าว ซังข้าวโพด และของเสียจากอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ เป็นต้น สำหรับประเทศไทยในปัจจุบัน วัตถุดิบที่มีความเหมาะสม คือ มันสำปะหลังและอ้อย (กากน้ำตาลหรือโมลาส) เนื่องจากมีปริมาณมาก เมื่อนำมาผลิตเอทานอลก็ไม่ส่งผลกระทบให้เกิดการขาดแคลนอาหารอย่างที่หวั่นเกรงกัน
ต้นทุนในการผลิตเอทานอล
ประกอบด้วยต้นทุนผันแปรที่สำคัญ 2 หมวด ได้แก่ ต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต กับต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตเอทานอล
1. ต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเอทานอล ขึ้นอยู่กับราคาวัตถุดิบที่เปลี่ยนแปลงไปตามกลไกตลาด และอัตราการแปรสภาพของวัตถุดิบแต่ละชนิดในการผลิตเอทานอล ดังนี้
- มันสำปะหลังสด 1 ตัน ผลิตเอทานอลได้ 140 ลิตร
- มันเส้น 1 ตัน ผลิตเอทานอลได้ 333 ลิตร
- แป้งมัน 1 ตัน ผลิตเอทานอลได้ 500 ลิตร
- อ้อยสด 1 ตัน ผลิตเอทานอลได้ 70 ลิตร
- กากน้ำตาลหรือโมลาส 1 ตัน ผลิตเอทานอลได้ 238 ลิตร
เมื่อรวมต้นทุนวัตถุดิบ ณ ราคาต่างๆ กับต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตเข้าด้วยกันก็จะคำนวณต้นทุนรวมในการผลิตเอทานอลแต่ละลิตรได้ดังตาราง
ศักยภาพของประเทศไทยในการผลิตเอทานอล
ประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการผลิตและจำหน่ายเอทานอลอย่างมาก พิจารณาได้จากปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ความพร้อมด้านวัตถุดิบ ความพร้อมของโรงงานผลิตเอทานอล และความพร้อมของภาครัฐในการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมเอทานอล
ความพร้อมด้านวัตถุดิบ
ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งในภาคการผลิตพืชพลังงาน เรามีผลผลิตมันสำปะหลังและอ้อย (กากน้ำตาล) จำนวนมาก และมากเกินกว่าปริมาณที่ต้องใช้เพื่อการผลิตเอทานอลตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี ประเมินให้เห็นภาพโดยสังเขปได้ ดังนี้
มันสำปะหลัง ประเทศไทยมีผลผลิตเฉลี่ยในช่วงปี 2550/51-2553/54 ประมาณ 26.98 ล้านตัน ใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคภายในประเทศประมาณ 7.68 ล้านตัน คงเหลือประมาณ 19.30 ล้านตัน หากนำมาใช้ก็จะผลิตเอทานอลได้ประมาณปีละ 2,702 ล้านลิตร หรือประมาณวันละ 7.40 ล้านลิตร
อ้อย ประเทศไทยมีผลผลิตอ้อยเฉลี่ยในปี 2550/51-2553/54 ประมาณ 68.67 ล้านตันอ้อย ใช้สำหรับผลิตน้ำตาลทรายเพื่อบริโภคภายในประเทศประมาณ 25 ล้านตันอ้อย คงเหลือประมาณ 43.67 ล้านตันอ้อย หากนำมาใช้ ก็จะผลิตเอทานอลได้ประมาณปีละ 3,057 ล้านลิตร หรือวันละ 8.38 ล้านลิตร
ความพร้อมของโรงงานผลิตเอทานอลและกำลังการผลิต
รัฐบาลดำเนินนโยบายส่งเสริมการผลิตและจำหน่ายเอทานอลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนด้วยการเปิดเสรีในการขอจัดตั้งโรงงานผลิตเอทานอล คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2549 เห็นชอบให้กระทรวงการคลังจัดทำประกาศ เรื่อง การตั้งโรงงานผลิตเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง แทนการบังคับใช้ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง วิธีการบริหารงานสุรา พ.ศ.2543 นอกจากนั้น รัฐบาลยังได้ออกนโยบายกระตุ้นให้เกิดการลงทุนด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การให้สิทธิพิเศษทางภาษี การประกาศให้ผสมเอทานอลในน้ำมันเบนซินเรียกว่า “น้ำมันแก๊สโซฮอล์” เพื่อใช้ในรถยนต์และรถจักรยานยนต์ การส่งเสริมสนับสนุนทางการเงิน การประกาศสนับสนุนด้านภาษีเพื่อส่งเสริมการนำเข้ารถยนต์ FFV (Flex-fuel vehicle) และวัสดุอุปกรณ์สำหรับรถยนต์ FFV รวมทั้งการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ FFV ภายในประเทศ เป็นต้น นโยบายและมาตรการดังกล่าวทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น และขออนุญาตจัดตั้งโรงงานผลิตเอทานอลกันเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่ามีโรงงานที่ได้รับอนุญาตทั้งสิ้น 47 โรงงาน มีกำลังการผลิตเอทานอลรวมกันมากถึง 12.295 ล้านลิตรต่อวัน
ความพร้อมของภาครัฐในการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมเอทานอล
กระทรวงพลังงานได้จัดทำแผนพัฒนาพลังงานทดแทนแห่งชาติ เป็นแผนระยะยาว 15 ปี โดยกำหนดเป้าหมายส่งเสริมให้มีการใช้เอทานอลภายในประเทศวันละ 3 ล้านลิตรในปี 2551 – 2554 เพิ่มเป็นวันละ 6.2 ล้านลิตรในปี 2555 – 2559 และเพิ่มเป็นวันละ 9.0 ล้านลิตรในปี 2560 – 2565
นอกจากนี้ ยังได้วางแนวทางการส่งเสริมไว้หลายประการ ครอบคลุมทั้งด้านการตลาด ด้านการผลิต ด้านวัตถุดิบ และด้านการวิจัยและพัฒนา หากมีการลงมือปฏิบัติการตามแนวทางดังกล่าวอย่างจริงจัง มีกรอบเวลาดำเนินการและตัวชี้วัดที่ชัดเจน ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเอทานอลของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม แนวทางการส่งเสริมดังกล่าว ได้แก่
ด้านตลาด โดยการสร้างเสถียรภาพปริมาณของเอทานอล การสนับสนุนระบบขนส่งเอทานอลที่มีประสิทธิภาพ และการสนับสนุนคลังเก็บเอทานอลส่งออก
ด้านการผลิต โดยการส่งเสริมการผลิตเอทานอลจากกากน้ำตาลและมันสำปะหลัง การส่งเสริมการผลิตเอทานอลจากอ้อย และการส่งเสริมอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากเอทานอล เช่น กรดอะซิติก เอทิลอะซิเตท
ด้านวัตถุดิบ โดยการสร้างเสถียรภาพปริมาณวัตถุดิบสำหรับผลิตเอทานอล ส่งเสริมเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง 3.5 ตันต่อไร่เป็น 4.5 ตันต่อไร่ภายในปี 2555 และเพิ่มผลผลิตอ้อยจาก 11.8 ตันต่อไร่เป็น 15 ตันต่อไร่ภายในปี 2555
ด้านการวิจัยและพัฒนา โดยการวิจัยและส่งเสริมการผลิตเอทานอลจากเซลลูโลสและสาหร่าย สร้างมูลค่าเพิ่มจากของเสียหรือกากน้ำส่า และวิจัยและทดลองการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85
ผลการส่งเสริมเอทานอล/น้ำมันแก๊สโซฮอล์ในช่วงที่ผ่านมา
จากตัวเลขการใช้เอทานอลของประชาชนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน พบว่าการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ยังอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านลิตรต่อวัน เท่ากับมีการใช้เอทานอลได้เพียงประมาณ 1.2 ล้านลิตรต่อวันหรือเพียงร้อยละ 40 ของเป้าหมายที่กำหนดไว้คือ 3 ล้านลิตรในช่วงปี 2551-2554 โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานชี้แจงว่า เป็นเพราะผู้บริโภคจำนวนมากยังคงเลือกใช้น้ำมันเบนซิน และมีแนวโน้มว่ากรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯ จะแก้ปัญหาด้วยการปรับเลื่อนแผนออกไปเป็นปี 2556 จากเดิมที่กำหนดไว้ในปี 2554
ก็ได้แต่หวังว่า กระทรวงพลังงาน ในฐานะที่เป็นเรกูเลเตอร์ ที่มีความรับผิดชอบและภารกิจสำคัญในการส่งเสริมพลังงานทดแทน จะเร่งแก้ปัญหาเพิ่มปริมาณการใช้เอทานอลให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แทนการเลื่อนเวลาออกไป ซึ่งก็มีวิธีการที่ทำได้หลายอย่าง เช่น ประกาศให้น้ำมันเบนซินทุกชนิดมีส่วนผสมของเอทานอล 10% รณรงค์ส่งเสริมรถจักรยานยนต์ให้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์อย่างจริงจัง ออกนโยบายให้กระจายสถานีบริการน้ำมันแก๊สโซฮอล์ออกไปทั่วประเทศเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดโดยง่าย
ยิ่งในปี 2554 นี้ จะมีโรงงานผลิตเอทานอลเกิดขึ้นอีก 5 โรงงาน ทำให้มีโรงงานเกิดขึ้นรวมทั้งสิ้น 24 โรงงาน มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 4.745 ล้านลิตร คิดเป็น 4 เท่าของปริมาณการใช้ที่มีอยู่ หากการส่งเสริมการใช้ยังไม่ทันกับกำลังการผลิตที่เกิดขึ้น ปีนี้จึงเป็นปีที่อุตสาหกรรมเอทานอลจะต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างแสนสาหัสต่อไปอีก เว้นแต่จะได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
แนวโน้มของอุตสาหกรรมเอทานอล
แม้ว่าอุตสาหกรรมเอทานอลไทยจะต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคอย่างมากมาย แต่ที่ผ่านมา เอทานอลยังคงเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในการส่งเสริมพลังงานทดแทนตามแผนพัฒนา 15 ปี และเป็นพลังงานทดแทนที่เหมาะสมกับประเทศไทยมากที่สุดทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เนื่องจากเป็นพลังงานที่ผลิตได้จากพืชที่เราเพาะปลูกเอง สามารถทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงจากฟอสซิลที่มีจำกัด ใช้แล้วหมดไป และมีราคาสูงขึ้นทุกวัน
การใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์หรือเอทานอลน่าจะเพิ่มปริมาณได้มาก หากมีการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เอทานอลอย่างจริงจัง เพราะรถยนต์ส่วนใหญ่และรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ที่เป็นระบบหัวฉีดสามารถใช้เอทานอลได้ดี รถยนต์และจักรยานยนต์อีกหลายรุ่นที่ผลิตขึ้นก็มาสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 ได้โดยตรง นอกจากนี้ การที่รัฐบาลได้ออกนโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ FFV ซึ่งใช้เชื้อเพลิงได้ทั้งน้ำมันเบนซินและน้ำมันเบนซินผสมเอทานอลทุกชนิด ก็เพื่อส่งเสริมการใช้เอทานอลให้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น รัฐบาลน่าจะประกาศให้มีการขยายสถานีบริการน้ำมันแก๊สโซฮอล์ขึ้นมารองรับให้ทั่วถึงทั้งประเทศ ประชาชนจะได้มีโอกาสเข้าถึงน้ำมันแก๊สโซฮอล์ได้มากขึ้น
สำหรับรถยนต์เก่า ปัจจุบันประชาชนสามารถปรับปรุงเครื่องยนต์รถเก่าให้เป็นรถยนต์ FFV ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85 และน้ำมันเบนซินที่ผสมเอทานอลทุกชนิดได้โดยง่าย ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ที่เรียกว่า Conversion kit อุปกรณ์นี้มีจำหน่ายในบ้านเราอย่างแพร่หลายแล้ว ใช้งบประมาณไม่มากนักก็สามารถติดตั้งใช้ได้
ปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น พอที่จะทำให้เรามองเห็นอนาคตที่ดีของเอทานอลอยู่บ้าง แม้ว่าในปีนี้จะมีกำลังการผลิตเอทานอลเพิ่มขึ้นจนล้นเกินความต้องการใช้ในประเทศก็ตาม หากภาครัฐสนับสนุนให้มีการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้น ทั้งที่ใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงและที่ใช้เป็นสารตั้งต้นของอุตสาหกรรมอื่นภายในประเทศ ส่งเสริมให้มีการจำหน่ายเอทานอลส่วนเกินออกไปจำหน่ายต่างประเทศ รวมทั้งช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางจำหน่ายเอทานอลในภูมิภาค ปัญหาเอทานอลล้นตลาดก็จะลดน้อยลง อุตสาหกรรมเอทานอลสามารถก้าวเดินต่อไปได้ เกิดกระแสเงินหมุนเวียนในระบบ มีการกระจายรายได้ไปยังเกษตรกรชาวไร่อ้อยและชาวไร่มันสำปะหลัง เป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
และเป็นที่น่ายินดีต่อพี่น้องเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังด้วยว่า โรงงานผลิตเอทานอลที่จะเปิดเพิ่มขึ้นในปีนี้ล้วนเป็นโรงงานที่ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อรวมกับโรงงานที่เปิดทำการผลิตอยู่แล้ว ก็จะทำให้มีโรงงานที่ใช้มันสำปะหลังมีกำลังการผลิตรวมกันมากถึง 3.20 ล้านลิตรต่อวัน สามารถรองรับวัตถุดิบมันสำปะหลังได้ถึงวันละประมาณ 22,400 ตันหรือปีละประมาณ 4.14 - 7.39 ล้านตัน นับเป็นโอกาสดีของชาวไร่มันสำปะหลังที่มีอุตสาหกรรมเอทานอลเข้ามาเป็นตลาดรับซื้อผลผลิตเพิ่มขึ้น
อนาคตของอุตสาหกรรมเอทานอลจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเกษตรกร ทั้งชาวไร่มันสำปะหลังและชาวไร่อ้อย ซึ่งพี่น้องเกษตรกรควรจะร่วมมือกันสนับสนุนให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตเป็นตลาดสำคัญของพืชผล ในขณะเดียวกันเกษตรกรต้องหมั่นดูแลบำรุงรักษาไร่ของตนให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นด้วยการใช้ปัจจัยการผลิตที่เหมาะสม อาทิ การใช้พันธุ์ดี การใส่ปุ๋ยบำรุงดิน การกำจัดวัชพืช และการปรับปรุงระบบชลประทาน อาจต้องลงทุนเพิ่มขึ้นแต่ก็หมายถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการประกอบอาชีพที่มั่นคง และยังจะได้ภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนสำคัญในการร่วมสร้างมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ พลังงานสะอาดที่เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติอีกด้วย ผู้เขียน : นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี
นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#218
ตอบ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:56
๑. ปริมาณก๊าซที่อ้างว่าจะมีการใช้เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนใหญ่เป็นก๊าซธรรมชาติที่ใช้สำหรับโรงไฟฟ้าที่อยู่ในแผนการสร้างโรงไฟฟ้าพีดีพี ๒๐๑๐ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ ๓ ซึ่งเป็นแผนที่ถูกนักวิชาการอีกส่วนทักท้วงว่ามีการเขียนแผนเวอร์สูงเกินจริง และอยู่ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจแบบ White lie เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจแบบลวงๆ ด้วยการให้เงินลงทุนกับโรงไฟฟ้าเอกชนที่ส่วนใหญ่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง และมักเกิดปัญหาต่อเนื่องในเรื่องการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้ามากเกินความจำเป็น แต่คนที่ได้ประโยชน์คือกลุ่มผุ้ถือหุ้นในกิจการโรงไฟฟ้าเอกชนและกลุ่มผู้ถือหุ้นในบริษัท ปตท. ที่เป็นฝ่ายขายก๊าซให้กับโรงไฟฟ้าเหล่านี้ ดังนั้น ตัวเลขการใช้ก๊าซดังกล่าวจึงเป็นตัวเลขปั่นให้สูงขึ้นบนแผ่นกระดาษไม่ใช่เกิดจากการใช้จริงทั้งหมดแต่อย่างใด ตัวเลขการใช้ก๊าซที่ว่าจึงไม่น่าเชื่อถือเอาอย่างมาก
๒. สนพ. หรือกระทรวงพลังงาน ขาดความน่าเชื้อถือเอาอย่างมาก เพราะข้าราชการไล่ตั้งแต่ปลัดยันไปถึงระดับอธิบดีล้วนมีส่วนได้เสียกับบริษัทขายก๊าซคือ ปตท. ด้วยการเป็นประธานกรรมการ เป็นกรรมการ และรับเงินโบนัสปีละเป็นล้านๆ บาท การปั่นตัวเลขการใช้ก๊าซจึงมีมาอย่างต่อเนื่อง ประเทศชาติประชาชนจะย่อยยับอย่างไรไม่ว่า เพราะจะมีนักวิชาการอิสระมาทำทีเป็นฝ่ายตรงข้ามเขียนบทความให้ขึ้นราคาอย่างนี้มาโดยตลอด อย่างนี้เรียกว่าชงเองกินเองหรือไม่ พิจารณาดูกันชิดๆ
http://www.facebook....483357985029949
-----------------------------------------------------------------------------------------
คลิปลอยตัวก๊าซของกระทรวงพลังงานที่บิดเบือนข้อมูลก็ทำออกมาแล้ว
วันนี้ถูกเพิ่มเติมด้วยมุขเดิมๆของทุกรัฐบาล นั่นคือถ้าต้องการอะไร ก็จะจ้างนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆมาสนับสนุนนโยบาย
#219
ตอบ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 10:57
http://www.pantip.co.../V12797656.html
http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-97.htm
3. ปัจจุบันหลักเกณฑ์การคำนวณราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) มีหลักเกณฑ์ ดังนี้
6.1 หลักเกณฑ์การคำนวณราคาหน้าโรงกลั่น เพื่อให้การคำนวณราคาหน้าโรงกลั่นสะท้อนต้นทุนการผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 4 จึงควรปรับหลักเกณฑ์การคำนวณราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมัน ดังนี้
6.2 การปรับต้นทุนส่วนเพิ่มยูโร 4 ต้องคำนึงถึงสต๊อกที่คลังน้ำมันก่อนวันที่ 1 มกราคม 2555 และคุณภาพน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน ดังนั้น การปรับราคาหน้าโรงกลั่นจึงควรทยอยปรับเพื่อไม่ให้ผู้บริโภครับภาระจากการปรับราคาหน้าโรงกลั่นทันทีและคุณภาพที่ยังไม่ได้มาตรฐานยูโร4 โดยน้ำมันดีเซลใช้เวลาปรับคุณภาพให้ได้มาตรฐานยูโร 4 จากคลังไปจนถึงสถานีบริการน้ำมันประมาณ 9 สัปดาห์ ส่วนน้ำมันเบนซิน ในช่วงแรกยังมีน้ำมันจากโรงกลั่น SPRC เข้ามาในระบบ หลังจากสัปดาห์ที่ 9 SPRC จะนำเข้าน้ำมันเบนซินมาตรฐานยูโร 4 เข้ามาจำหน่าย ทำให้ใช้ระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเป็นมาตรฐานยูโร 4 ประมาณ 15 สัปดาห์ ดังนั้น จึงขอความเห็นชอบระยะเวลาและต้นทุนส่วนเพิ่มยูโร 4 สำหรับการปรับหลักเกณฑ์การคำนวณราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น ดังนี้
6.3 เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันบริษัท สตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง จำกัด (SPRC) ถูกคำสั่งศาลปกครองระงับโครงการที่ดำเนินการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 2 ธันวาคม 2552 ทำให้การดำเนินการติดตั้งการผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 4 ล่าช้า SPRC ได้ยื่นหนังสือขอผ่อนผันคุณภาพน้ำมันเบนซินกับกรมธุรกิจพลังงาน ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับโรงกลั่นอื่นที่ผลิตน้ำมันมาตรฐานยูโร 4 ได้ตามกำหนด จึงควรกำหนดให้ SPRC ส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ส่วนเพิ่มสำหรับน้ำมันที่จำหน่ายในราชอาณาจักรที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานน้ำมันยูโร 4 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 จนถึงวันที่สามารถจำหน่ายน้ำมันมาตรฐานยูโร 4 ได้ ดังนี้
โดยมอบหมายให้ สนพ. รับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
มติของที่ประชุม
1. เห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมัน ดังนี้
2. เห็นชอบระยะเวลาและต้นทุนส่วนเพิ่มยูโร 4 สำหรับการปรับหลักเกณฑ์การคำนวณราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น ดังนี้
3. เห็นชอบให้โรงกลั่นน้ำมันบริษัท สตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง จำกัด (SPRC) ส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนเพิ่มสำหรับน้ำมันที่จำหน่ายในราชอาณาจักรที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานน้ำมันยูโร 4 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 จนถึงวันที่สามารถจำหน่ายน้ำมันมาตรฐานยูโร 4 ได้ ดังนี้
โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานรับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
คำถามคือ น้ำมันแก๊สโซฮอลยังต้องอิงราคาตลาดสิงค์โปร์อีกไหม ในเมื่อราคาต้นทุนน้ำมันดิบ คือ 10 - 11 บาทต่อลิตร เอทานอล 17 - 20 บาทต่อลิตร
Edited by Stargate-1, 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:01.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#220
ตอบ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 07:46
ครัวเรือนใช้ -------------------------- 2,656,215 ตัน
ยานยนต์ใช้ -----------------------------919,872 ตัน
อุตสาหกรรมทั่วไปใช้ -----------------717,660 ตัน
ปิโตรเคมี------------------------------2,413,413 ตัน
--------------------------------------- -6,707,180 ตัน
http://www.pantip.co.../V12840019.html
@@ โฆษณาการใช้แก้ส กับการโยนผิดให้กลุ่มคน ?
บอกก่อนว่า ผมก็เอารถไปติดแก้สตั้งแต่วันที่ค่าน้ำมันเบนซินไปเกือบแตะ 50 บาท
และในปัจจุบัน ใครๆ ก็เห็นว่า ภาครัฐรณรงค์ ออกรายการ ออกโฆษณา เจาะจงต่อว่าการใช้แก้สอย่างเอาเป็นเอาตาย
ผมก็เป็นคนดีของสังคมคนนึงอ่ะนะ ก็พิจารณา วิเคราะห์ การใช้คำสวยหรู โน้มน้าวจิตใจ ให้เห็นว่าคนใช้แก้สผิดประเภทมันบ่อนทำลายชาติ
มันจริง .. ในส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ส่วนหลักทั้งหมด
อยากให้คิดดูว่า ... ทำไมคนเอารถไปติดแก้ส ?
ส่วนตัวผมคำเดียว เงินเดือนข้าราชการใหม่ อยู่บ้านนอก ใช้รถเป็นหลักเยอะ เติมน้ำมันตายสถานเดียว
ไม่ต้องไล่ไปใช้รถยนต์สาธารณะหรอก มันเป็นไปไม่ได้แน่นอนกับการใช้ชีวิตประจำวัน
คราวนี้ คิดดูมันก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะจะไปทำให้การใช้ในภาคครัวเรือนแพงไปด้วย แต่มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นตามทางของมัน
คราวนี้ มาคิดดูว่า คนไปติดแก้สเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนบางที แทบจะเห็นรถติดแก้สเยอะกว่ารถไม่ติดแก้สในบางจุด
ทำไมมันถึงได้เยอะขนาดนี้ ? แน่นอน ค่าน้ำมันแพง เติมน้ำมันขับ ค่าใช้จ่ายในครอบครัวจะสูงมากไป
คราวนี้ มาดูอีก ยิ่งปัจจุบัน รถออกใหม่เยอะมาก อาจจะทั้งเก่าและใหม่ แต่ก็เห็นๆ กันอยู่ รถมันเยอะมากจริงๆ
แน่นอน รถติดแก้สก็เยอะตามไปด้วย และในปัจจุบัน แม้แต่ป้ายแดงก็ต้องเอาไปติดแก้สกันแล้ว
สรุป ปัจจุบัน รถยนต์เต็มถนนไปหมด ทั้ง กทม. ทั้ง บ้านนอกผม อย่างเห็นได้ชัด (ผมไปมา กทม.-บ้านนอกผมประจำ)
คราวนี้ ภาครัฐ หน่วยงานรัฐ ออกโฆษณา ต่อว่า พวกใช้แก้สในรถอย่างเอาเป็นเอาตาย ดูไปมันก็ถูก.. แต่ไม่ทั้งหมด
สมมุติ นะครับ สมมุติ ถ้ารถยนต์ไม่สามารถใช้แก้สได้ แก้สไม่สามารถใช้ในรถยนต์ได้
คุณว่า รถยนต์จะน้อยลงไหม ? คุณว่า น้ำมันที่ต้องเติมรถยนต์ได้เท่านั้นเนี้ย จะราคาแบบไหน ?
สมมุติ รถทุกคันต้องใช้น้ำมันเท่านั้น คุณจะเห็นโฆษณา ต่อว่าคนใช้น้ำมันอย่างเอาเป็นเอาตายไหม ?
สมมุติ รถยนต์ใช้แก้สไม่ได้ ทุกคันเติมน้ำมัน ผมว่า จำนวนรถบนถนนก็ไม่ต่างกันนัก (ไม่อยากแตะโครงการรถคันแรกเข้าไปอีก)
และที่ต่างกันคือ จะมีโฆษณาต่อว่าคนใช้น้ำมันเยอะอีกไหม ? ราคาน้ำมันจะเป็นยังไง ? ค่าครองชีพจะเป็นยังไง(ค่าขนส่ง) ?
คิดย้อนต้นตอเข้าไปอีก ทำไมพวกเรา หน่วยงานรัฐ ถึงมาอีลุงตุงนังกับเรื่องการใช้แก้สในรถยนต์มากมายแบบนี้ ?
ถ้าภาครัฐ มีแนวทางลด รถยนต์บนท้องถนนลง มันดีกว่าไหม ? ถามว่า ภาครัฐมาเที่ยวต่อว่า ด่าคนใช้รถแก้สเนี้ย มันถูกจริงๆ หรือ ?
ภาครัฐเอาเงินภาษีเราไปทำอะไร ? นโยบายอะไร ?
โดยเฉพาะนโยบายที่จะลดการใช้แก้สในรถยนต์ตรงๆ เนี้ย มีอะไรบ้าง ?
กลับไปดูภาครัฐเองก่อนไหมว่า คุณสนใจการลดจำนวนการใช้รถยนต์บนท้องถนนอย่างถูกต้อง และจริงจังแค่ไหน ?
ดูภาครัฐ ดูนโยบาย ดูการแก้ปัญหา การพัฒนาของภาครัฐเองก่อนไหม ?
ก่อนที่จะมาต่อว่าประชาชนที่ใช้แก้สในรถยนต์
มันเหมือนกับการลูบหน้าปะจมูก การแก้ปัญหาผักชีโรยหน้า เรื่องการต่อว่าผู้ใช้รถแก้สปัจจุบัน
แต่ไม่ต่อว่า นโยบายต้นตอของสาเหตุนี้ มาจากอะไร ? รถเยอะเต็มท้องถนนแบบนี้ได้ยังไง ?
มีรถใหม่ ก็มีรถติดแก้สใหม่เช่นกัน เงาตามตัว แล้วมาบอก ประเทศไทยใช้แก้สเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว..
การพัฒนาการคมนาคมสาธารณะ ไม่สนใจ มันเพราะอะไร ส่วนแบ่งน้อยเหรอ ? เห็นผลงานช้าเหรอ ?
รถไฟความเร็วสูงระหว่างจังหวัดดีไหม ? ระหว่างเมืองใหญ่เท่านั้นก็ยังดี ? สนใจทำไหม ? ไม่เริ่มซักที
มาเที่ยวต่อว่าคนใช้รถแก้สมันง่ายดีงั้นเหรอ ? เห็นผลชัดเจนกว่าเหรอ ?
สุดท้าย ประชาชนก็แก้ปัญหาตัวเอง หารถมาขับ ติดแก้สประหยัดๆ กันรอรถสาธารณะสะดวกก่อนละกัน
ปล. เห็นโฆษณาแต่ละอย่างแล้ว อนาจใจประเทศไทย เล่นงี้ง่ายกว่าว่างั้น เฮ้อ
จากคุณ : MachineGun เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 10:54:41
ถูกใจ : : + Jay lo leaW + :, ปลาทองน้อยตากล๊มกลม, squeezy, deletenumlock, jamjung, บรรยากาศพาไป, เต่ากระดองแข็ง
ความคิดเห็นที่ 5
ก็ไปดูตารางโครงสร้างราคาน้ำมันสิครับ เขาเอาเงินจากกองทุนน้ำมันไปอุ้มแก็ส LPG/NGV กันจนหลังแอ่น
ก็ต้องยอมรับความจริง ว่าทุกวันนี้LPGถูกเพราะเอาเงินคนอื่นมาอุ้มนั่นแหละ
ภาคปิโตรฯที่หลายคนชอบด่ามั่วๆก็จ่ายราคาตลาดโลกไปแล้ว ภาคอุตฯก็รองลงมา เหลือภาคขนส่ง กับภาคครัวเรือนที่ยังใช้ราคาถูกมาก ใช้เงินจากกองทุนมหาศาลอุ้มไปเรื่อยๆนี่แหละครับ
จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 11:44:31
http://www.pantip.co.../V12838407.html
ปรับราคาแอลพีจี
รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจหลบฉากเลื่อนถกปรับโครงสร้างราคาแอลพีจีที่นัดหารือวันนี้ (25 ต.ค.) ออกไปไร้กำหนด หลังรายชื่อรัฐมนตรี ครม.ปู 3 โผล่ออกมาไร้ชื่อรัฐมนตรีบางคนโดยเฉพาะ รมว.พลังงาน โยนเผือกร้อนรัฐมนตรีใหม่ตัดสินใจ จับตาเฮียเพ้งรับหน้าเสื่อหากได้เก้าอี้พลังงานจริง
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า การประชุมกระทรวงเศรษฐกิจที่นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน ได้นัดหารือร่วมกันถึงการปรับโครงสร้างราคาแอลพีจีวันนี้ (25 ต.ค.) ต้องถูกยกเลิกกะทันหันและเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดภายหลังมีกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 3 โดยเฉพาะหัวเรือใหญ่กระทรวงพลังงานที่ปรับเป็นนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ที่เข้ามาควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงานคนใหม่
“เมื่อมีกระแสข่าวการปรับโผ ครม.3 ออกมาก็ถือเป็นมารยาททางการเมืองที่จะให้รัฐมนตรีใหม่เข้ามาตัดสินใจดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ถือเป็นการโยนเผือกร้อนให้กับ ครม.ใหม่อะไร เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงความคิดเห็นแต่ละคนย่อมอาจไม่เหมือนกันก็คงจะต้องมากรองกันอีกขั้น แต่รายละเอียดก็เชื่อว่าทุกหน่วยงานได้ทำไว้พร้อมหมดแล้ว เหลือเพียงการตัดสินใจในระดับนโยบาย” แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ หาก รมว.พลังงานคนใหม่เป็นนายพงษ์ศักดิ์จริงจึงถือเป็นงานหินเรื่องแรกที่จะต้องมาตัดสินใจ เนื่องจากกระทรวงพลังงานได้จัดทำรายละเอียดไว้ซึ่งที่สุดจะต้องเดินหน้าปรับราคาแอลพีจีทั้งระบบเนื่องจากเฉลี่ยราคาแอลพีจี 1,001 เหรียญต่อตัน (ยังไม่รวมค่าขนส่งและบริหารจัดการ) คิดเป็นราคาแอลพีจี 40 บาทต่อกิโลกรัม หรือเฉลี่ย 20 บาทต่อลิตร หากเทียบกับราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินยังคงถูกกว่ามาก
ขณะที่ราคาแอลพีจีของไทยซึ่งเฉลี่ยราคาแอลพีจีนำเข้ากับแอลพีจีที่ผลิตได้ในประเทศเฉลี่ยแอลพีจีที่แท้จริงจะอยู่ที่ 24-25 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาภาคปิโตรเคมีสะท้อนกลไกตลาดแล้ว ขณะที่ 3 ส่วน คือ ภาคอุตสาหกรรมราคาอยู่ที่ 31.13 บาทต่อ กก. แอลพีจีขนส่งอยู่ที่ 21.38 บาทต่อ กก. และแอลพีจีครัวเรือนอยู่ที่ 18.13 บาทต่อ กก. ซึ่งจำเป็นต้องปรับโครงสร้างราคาให้เหมาะสมเพราะการอุดหนุนราคาเป็นการดึงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เก็บจากผู้ใช้กลุ่มเบนซินมาอุดหนุนซึ่งไม่เป็นธรรม โดยตั้งแต่มีการอุดหนุนราคาแอลพีจีนับตั้งแต่ปี 2551 จนถึง ก.ย. 55 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องชดเชยการนำเข้าแอลพีจีและโรงกลั่นรวมแล้ว 8.92 หมื่นล้านบาท
จากคุณ: ผู้ไม่ประสงค์เอ่ยนาม
เขียนเมื่อ: 25 ต.ค. 55 22:31:04
ความคิดเห็นที่ 8
เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว ว่าเราขุดLPGได้พอใช้ ทุกวันนี้นำเข้าLPG30% แล้วเอากองทุนน้ำมันไปอุ้มฯ
เลิกบิดเบือนโครงสร้าง เก็บตามจริงซะ จะได้ปรับตัวตามสภาพการณ์ของโลกจริงๆกันบ้าง
จะอุ้มก็แค่ภาคครัวเรือนเท่านั้นพอ ภาคขนส่งขึ้นราคาตลาดโลกยังไงก็ถูกกว่าน้ำมัน จะเรียกร้องอะไรมากอีก? ผมก็ใช้LPGในรถยนต์แต่ยินดีใช้ในราคาตลาดโลกครับ
จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 07:34:55
ถูกใจ : Some-One
Edited by Stargate-1, 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 08:16.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#221
ตอบ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 09:02
ราคาแอลพีจีของไทยซึ่งเฉลี่ยราคาแอลพีจีนำเข้ากับแอลพีจีที่ผลิตได้ในประเทศเฉลี่ยแอลพีจีที่แท้จริงจะอยู่ที่ 24-25 บาทต่อกิโลกรัม
หลักๆแบ่ง 3 ส่วน คือ
1. ภาคอุตสาหกรรมราคาอยู่ที่ 31.13 บาทต่อ กก.
2. แอลพีจีขนส่งอยู่ที่ 21.38 บาทต่อ กก.
3. แอลพีจีครัวเรือนอยู่ที่ 18.13 บาทต่อ กก.
ซึ่งจำเป็นต้องปรับโครงสร้างราคาให้เหมาะสมเพราะการอุดหนุนราคาเป็นการดึงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เก็บจากผู้ใช้กลุ่มเบนซินมาอุดหนุนซึ่งไม่เป็นธรรม โดยตั้งแต่มีการอุดหนุนราคาแอลพีจีนับตั้งแต่ปี 2551 จนถึง ก.ย. 55 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องชดเชยการนำเข้าแอลพีจีและโรงกลั่นรวมแล้ว 8.92 หมื่นล้านบาท จิงๆให้แต่ละภาคส่วนแยกราคาไปเลยก็ดีนะ จะได้ชัดเจนแล้วไม่มีครายบ่นว่าใช้แก็สผิดประเภท
จากคุณ : ผู้ไม่ประสงค์เอ่ยนาม เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 21:02:15
http://www.pantip.co.../V12840019.html
@@ โฆษณาการใช้แก้ส กับการโยนผิดให้กลุ่มคน ?
มันบล็อกเดียวกันเลยนะขณะที่ราคาแอลพีจีของไทยซึ่งเฉลี่ยราคาแอลพีจีนำเข้ากับแอลพีจีที่ผลิตได้ในประเทศเฉลี่ยแอลพีจีที่แท้จริงจะอยู่ที่ 24-25 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาภาคปิโตรเคมีสะท้อนกลไกตลาดแล้ว ขณะที่ 3 ส่วน คือ ภาคอุตสาหกรรมราคาอยู่ที่ 31.13 บาทต่อ กก. แอลพีจีขนส่งอยู่ที่ 21.38 บาทต่อ กก. และแอลพีจีครัวเรือนอยู่ที่ 18.13 บาทต่อ กก. ซึ่งจำเป็นต้องปรับโครงสร้างราคาให้เหมาะสมเพราะการอุดหนุนราคาเป็นการดึงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เก็บจากผู้ใช้กลุ่มเบนซินมาอุดหนุนซึ่งไม่เป็นธรรม โดยตั้งแต่มีการอุดหนุนราคาแอลพีจีนับตั้งแต่ปี 2551 จนถึง ก.ย. 55 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องชดเชยการนำเข้าแอลพีจีและโรงกลั่นรวมแล้ว 8.92 หมื่นล้านบาท
Edited by Stargate-1, 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 21:23.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#222
ตอบ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:23
ผมก็ขอชื่นชม เพราะต้องใช้ความพยายามและอดทนอย่างมาก ทั้งการค้นหาข้อมูล และตอบโต้กับพวกทีมงาน ปตท.
ผมเองก็เคยไปตอบโต้ที่คลิปปลดหนี้ LPG ของกระทรวงพลังงานตั้งแต่ออกมาใหม่ๆ
พวกนั้นมากันเป็นทีม ทำพูดนิ่มๆ แต่แฝงด้วยความเห็นแก่ตัวที่อำมหิต
แต่ตอนนี้ผมโดนบล็อคไปแล้วทั้งที่ไม่เคยหยาบคาย
ส่วนที่อ้างว่าใช้แก๊สผิดประเภท เพื่อโยนความผิดมาให้คนใช้รถ ก็ขอบอกว่า ตอแหลมาก
เพราะปัจจุบันปั๊ม LPG ของ ปตท.ขยายตัวสูงสุด หลักฐานอยู่ในกระทู้นี้แหละ แต่จำไม่ได้ว่า คห.ไหน
ส่วนเรื่องหนี้กองทุน ที่ชอบมาโยนความผิดให้คนใช้แก๊สก็ลองย้อนอ่านคห. 203 กันดู
โขมย โจร ไม่มีถึงปล้น แต่คนสารเลวพวกนี้ รวยๆทั้งนั้น แต่ก็ยังเป็นกันแบบนี้
คนโลภมาก บ้าเงิน เห็นแก่ได้ โดยไม่สนใจถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น
ผมยอมรับว่าผมรังเกียจคนจำพวกนี้จริงๆ
- สงสารสาวจันทร์ likes this
#223
ตอบ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:57
๑. นับแต่ ปตท. ถูกแปรรูปกลายเป็นบริษัทมหาชนจำกัด กระทรวงพลังงานมิได้ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลกิจการพลังงานให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี มีความเป็นธรรม โดยอาศัยกลไกตลาดที่แท้จริงแต่อย่างใด ปล่อยให้มีการผูกขาดตัดตอนทั้งทางตรงและทางอ้อม ด้วยการให้สิทธิแก่บริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ผูกขาดการจัดหา และจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติแต่เพียงรายเดียวของประเทศโดยไม่มีการแข่งขัน ราคาซื้อขายก๊าซธรรมชาติที่บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) จำหน่ายให้กับผู้ใช้ก๊าซรายใหญ่อย่างโรงไฟฟ้าทั้งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และของโรงไฟฟ้าเอกชน มิได้เป็นไปตามกลไกตลาดที่แท้จริง แต่เป็นไปตามการสูตรคำนวณราคาก๊าซธรรมชาติและค่าใช้บริการท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่กระทรวงพลังงานกำหนด ซึ่งมีราคาที่สูงกว่าราคาก๊าซที่บริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) จำหน่ายให้กับโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่เป็นธุรกิจในกลุ่มของตน ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในราคาที่สูงเกินควร
๒. ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำตัดสินในคดีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและประชาชนร่วมฟ้องขอให้เพิกถอนการแปรรูปบริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) ว่า การที่ ปตท. ได้เปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชนจำกัดแล้ว จึงไม่ได้มีสถานะเป็นองคาพยพของรัฐอีกต่อไป พิพากษาให้ ปตท. ต้องคืนท่อส่งก๊าซธรรมชาติและอุปกรณ์ที่ประกอบกันเป็นระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ รวมถึงท่อส่งน้ำมัน คืนให้แก่รัฐทั้งหมด เพราะถือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินเป็นทรัพย์สินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน จะให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชนไม่ได้ แต่จนถึงปัจจุบันปรากฏหลักฐานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินว่า บริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) ยังดำเนินการคืนทรัพย์สินไม่ครบโดยเฉพาะท่อส่งก๊าซทางทะเล นอกจากกระทรวงพลังงานจะไม่ดำเนินการติดตามตรวจสอบการคืนทรัพย์สินให้ครบแล้ว กระทรวงพลังงานยังกำหนดสูตรการคำนวณราคาก๊าซธรรมชาติและค่าใช้บริการท่อส่งก๊าซธรรมชาติโดยยอมให้บริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ประเมินมูลค่าท่อส่งก๊าซได้ใหม่เสมือนว่า ท่อส่งก๊าซยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) ซึ่งขัดกับคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด ทำให้บริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) ได้รับประโยชน์จากการขึ้นค่าผ่านท่อก๊าซที่ได้จากการประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ประเมินเพิ่มขึ้นอีกด้วย
๓. ระบบท่อส่งก๊าซถือเป็นระบบที่ผูกขาดโดยธรรมชาติ จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐจะต้องเข้าไปควบคุมดูแลโดยตรง การละเลยของกระทรวงพลังงานเช่นนี้ ทำให้บริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) กลายเป็นธุรกิจที่ดำเนินกิจการก๊าซธรรมชาติแบบผูกขาดโดยไม่มีคู่แข่งทั้งธุรกิจการจัดหา การให้บริการท่อส่งก๊าซ การแยกก๊าซ และการจัดจำหน่าย ปตท. จึงสามารถกำหนดราคาก๊าซธรรมชาติได้อย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งที่การกระทำดังกล่าวขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ปรากฏว่าข้าราชการที่เข้าไปเป็นกรรมการในฐานะตัวแทนของรัฐซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จะมีการคัดค้านหรือกำกับดูแลให้บริษัทต้องดำเนินการตามที่กฎหมายบัญญัติ
๔. กระทรวงพลังงานปล่อยให้บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในกิจการโรงกลั่นน้ำมัน ๕ แห่งจากที่มีโรงกลั่นขนาดใหญ่ในประเทศทั้งหมด ๖ แห่ง ทำให้บริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) เป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด ไม่เกิดการแข่งขันด้านราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นอย่างแท้จริง ขณะที่ กระทรวงพลังงานมิได้พยายามแก้ปัญหานี้ แต่กลับกำหนดราคาจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศอิงราคานำเข้าจากสิงคโปร์ซึ่งเป็นการสร้างกลไกตลาดเทียม ที่ไม่ได้อิงอุปสงค์อุปทานภายในประเทศแต่อย่างใด
๕. กระทรวงพลังงาน ยอมให้มีการนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เรียกเก็บจากประชาชนไปอุดหนุนการใช้แอลพีจีที่เป็นวัตถุดิบของธุรกิจปิโตรเคมี และทำการโฆษณาที่เป็นเท็จกล่าวหาผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้แอลพีจีว่าเป็นสาเหตุทำให้ก๊าซแอลพีจีไม่พอเพียงและพยายามให้ปรับขึ้นราคาแอลพีจีกับภาคประชาชน การนำเงินกองทุนน้ำมันฯ ไปอุดหนุนให้ภาคปิโตรเคมีดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนน้ำมันฯ ตั้งแต่แรกเริ่ม ที่มีขึ้นเพื่อรักษาระดับราคาพลังงาน มิใช่เพื่อไปอุดหนุนราคาวัตถุดิบในอุตสาหกรรมใดโดยเฉพาะ จึงเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่ออุตสาหกรรมอื่นที่ไม่ได้รับการอุดหนุน และยังเป็นการเอาเปรียบประชาชน ผู้เป็นเจ้าของกองทุนน้ำมันฯ อีกด้วย
#224
ตอบ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:00
เพื่อป้องกันการก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนโดยส่วนรวม สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมรายชื่อประชาชนจำนวน ๓,๑๘๖ คน ใคร่ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐๐ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว เร่งพิจารณากำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามความในบทบัญญัติดังกล่าวเพิ่มเติมโดยเร็ว คือ
๑. ปลัดกระทรวงพลังงาน
๒. รองปลัดกระทรวงพลังงาน
๓. อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
๔. อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน
๕. อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และ
๖. ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
ตารางแสดงการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล
และประโยชน์ส่วนรวมของเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงในกระทรวงพลังงาน (ช่วงปี ๒๕๕๔-๒๕๕๕)
http://www.consumert...5-31&Itemid=313
#225
ตอบ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:25
clip นี้มาหลายรอบ โดนห้องหว้ากอแฉคลิปกลับว่ามั่วเละเทะไปหลายรอบเช่นกัน
คำตอบสั้นๆ
น้ำมันดิบ ประเทศไทยขุดได้เองได้แค่10%ของปริมาณการใช้งานในประเทศ นำเข้าน้ำมันดิบ90%มากลั่นขายในไทย เหลือส่งออกนิดหน่อย(ส่งออกจากส่วนที่นำเข้ามากลั่น และส่งออกน้ำมันดิบตรงๆแค่ 3%ของปริมาณการใช้งานต่อวันเพราะ ข้อจำกัดด้านคุณภาพน้ำมันดิบที่กลั่นเองในไทยไม่คุ้ม(ห่วยนั่นเอง)
แก็สธรรมชาติ ไทยใช้เองหมด และส่วนที่เป็นLPGไม่พอจนต้องนำเข้ากว่า 30%ของปริมาณการใช้งานในประเทศ ที่เคยส่งออกมันแต่NGL เป็นแค่ของเหลือจากการผลิต
ปตท.ถือหุ้นโดยกระทรวงการคลัง 51% และถ้านับการถือทางอ้อมจะรวมเป็นเกือบๆ 70% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด ที่รายย่อยไม่มีวันมีอำนาจเหนือกว่าได้เลย อำนาจการบริหารเป็นสิทธิ์เด็ดขาดจากตัวแทนของรบ.(จะเป็นรบ.เหลี่ยม มาร์ค หรือรบ.ทหารก็ตาม) ไม่ใช่นอมินีรายย่อยเล็กน้อยที่ไหน
อ้อเมื่อสิบกว่าปีก่อน บ.ค้าน้ำมันต่างชาติเป็นผู้กำหนดทิศทางราคาน้ำมันในไทย ถือสัมปทานในไทยทั้งหมด แต่พอปตท.แปรรูปทำให้เราสามารถกำหนดทิศทางราคาน้ำมันได้เอง(ลงก่อน ขึ้นทีหลัง) และถือสัมปทานขุดเองได้บางส่วนครับ
ใครบอกว่าโดนปตท.ครอบงำสงสัยเพิ่งเกิด
จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 07:45:41 ถูกใจ : NoFlyZone
จากคลิป จริงไหมครับที่ไทยมีปิโตเลียมในประเทศมากมาย แต่ผลประโยชน์ตกอยู่ที่คนบางกลุ่ม
http://www.pantip.co.../V12861370.html
ความคิดเห็นที่ 6
ตอนนี้สาวก ปตท ลับมีดเตรียมสับ จขกท แล้วครับ ระวังด้วย ก็รู้ ๆ อยู่ว่า ปตท แตะต้องไม่ได้
เกิดเป็นคนไทย ก็ต้องรับกรรมกันไป
จากคุณ : ขอลุงก่อน ลุงแก่แล้ว (ขอลุงก่อน ลุงแก่แล้ว) เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 15:20:16
รถบรรทุกน้ำมันที่วิเชียรบุรี จอดพักกินข้าว
การซ่อนกลของ ปตท.
http://www.pantip.co.../V12853502.html
Edited by Stargate-1, 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 22:30.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#226
ตอบ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 15:08
http://www.pantip.co...502.html</span>
ความคิดเห็นที่ 23
ปัจจุบันค่าภาคหลวงไทยใช้แบบ ไทยแลนด์ 3 (คือ ไทยแลนด์ 1 + 3 )
แก้มาแล้ว 3 รอบ
จากคุณ : วีรบุรุษไหปลาร้า เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 13:22:53
ความคิดเห็นที่ 24
ไทยเคยแก้ไขเกี่ยวกับการจัดเก็บค่าภาคหลวงในปี 2525 มาแล้วครับ ผลที่ได้คือไม่มีบริษัทเอกชนเข้ามาสัมปทานเลย เพราะค่าภาคหลวงสูงเกินไปไม่คุ้มกับการลงทุน ไม่ใช่ว่าประเทศไทยเพิ่งมีกลุ่มคนกลุ่มนี้คิดได้ แต่เคยมีคนคิดและทำมาแล้วแต่มันไม่เวิร์ค เลยต้องยกเลิก ค่าภาคหลวงไทยแลนด์2 แล้วมาใช้ไทยแลนด์3
จากคุณ : วีรบุรุษไหปลาร้า เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 13:23:44
จากรายงานประจำปี 2553 ของกระทรวงพลังงาน ในการเก็บผลประโยชน์ปิโตรเลียมปี 2553
ดังนั้น หากคำนวนด้วยหลักคณิตศาสตร์จะพบว่า
ก. รายได้ที่รัฐบาลได้รับ คือ ภาษีปิโตรเลียม + ค่าภาคหลวง + ผลประโยชน์พิเศษ จะเท่ากับ 29 % ส่วนบริษัทได้รับ คือ กำไรสุทธิของบริษัท จะเท่ากับ 33.7 % หรือสัดส่วนการได้รับประโยชน์ รัฐ : บริษัท เท่ากับ 46 : 54
ข. กำไรสุทธิของบริษัทเทียบกับเงินลงทุน โดยนำกำไรสุทธิของบริษัท หารเงินลงทุนของบริษัท แล้วคูณด้วย 100 จะเท่ากับ 90.3 %
ค. รัฐได้รับจากมูลค่าปิโตรเลียมทั้งหมด 29 % ส่วนที่เหลือ 71 % เป็นของบริษัท
เขมรได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์จากรายได้ทั้งหมดประมาณ 70-80 %ในบริเวณ บล็อก A ที่ติดกับ บล็อก 3 ของไทย แล้วไทยจะได้ผลประโยชน์เท่าไหร่จากบล็อก 3 นี้
http://webboard.seri...150#entry433612
Edited by Stargate-1, 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 15:50.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#227
ตอบ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:36
2ก.ย.55 งานประชาเสวนา สานปัญญา สู้ปัญหาพลังงาน ตอน "เมื่อผมถูกบังคับให้ใช้ NGV" พบกับ มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี อนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงานวุฒิสภา คุณบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานสหพันธ์รถเมล์ กทม. คุณธารินทร์ แกมขุนทด เลขาธิการสภาแท็กซี่ไทย คุณทรงพล พวงทอง อุปนายกสมาคมรถตู้โดยสารต่างจังหวัดแห่งประเทศไทย ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ
แก๊สโซฮอลผลิตจากน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากน้ำมันดิบและจากเอทานอลจากพืชซึ่งไม่จำเป็นต้องอ้างอิงราคาตลาดสิงคโปร์ เพราะไม่ต้องประกาศราคาหน้าโรงกลั่นให้ใครรู้ ควรสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงได้ ซึ่งไม่เกิน 18 บาท เหตุใดจึงกำหนดราคาขายแก๊สโซฮอลสูงกว่าต้นทุนมาก และทำไมต้องนำเงินจากกองทุนมาชดเชยราคา ในเมื่อขายไม่ขาดทุนอะไร ดีเซล เบนซิน ถ้าขายราคาสูงกว่านำเข้าก็ไม่ควรผลิตเอง ใช้ไบโอดีเซล แก๊สโซฮอลในประเทศ ในส่วนที่ไม่พอใช้ก็นำเข้าดีเซล และเบนซินมาเสียให้หมด โรงกลั่นในประเทศก็กลั่นแต่น้ำมันพื้นฐานแก๊สโซฮอลและไบโอดีเซลเท่านั้น ไม่ต้องผลิตเบนซิน 91 95 อีกต่อไป
Edited by Stargate-1, 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 23:07.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#228
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:35
โรงแยกก๊าซ LPG ของปตท.ที่มาบตาพุด ตั้งอยู่บริเวณชุมชน
ปริมาณก๊าซเท่ากับรถก๊าซ 4200 คัน แต่กลับสร้างโดยไม่ตอกเสาเข็ม หอกลั่นก็สูงถึง 40 เมตร
ก็ลองนึกภาพกรณีรถแก๊ส 1 คัน ระเบิดที่ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่เมื่อ 20 ปีก่อนดูว่ารุนแรงแค่ไหน
ลองคลิ๊กอ่านดู มีข้อมูลรายละเอียดเยอะรวมทั้งภาพประกอบ
http://www.boonchoo....RESENTATION.pdf
#229
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:04
มาดูคนที่พันทิพย์เขาคุยกันเรื่องก๊าซธรรมชาติในอาวไทย
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#230
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 13:57
ผมจะออกเดินทางไปแล้วนะครับ
/人◕ ‿‿ ◕人\
แล้วถึงยัง มีรถนาโย้ะฯผ่านป่าวววว ต้องรีบกลับย้าน ว.5 ด่วนนะ
#231
ตอบ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 14:48
กระทู้พันทิพย์ เป็นที่รวมตัวของสาวกปตท.
Edited by Stargate-1, 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:50.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#232
ตอบ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:18
เชิญชมรายการเกี่ยวกับพลังงาน ทุกวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 21:00 - 22:00 น.ทางสถานีสุวรรณภูมิ
ในรายการจับข่าวคุย
http://www.suwannabhumi.tv/index.html
ฟังทางวิทยุ FM 92.25 MHz
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#233
ตอบ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:39
ข้อมูลเหล่านี้ไม่อาจตรวจสอบได้ ปตท.ไม่ยอมเปิดเผยให้กมธ.พลังงานฯวุฒิสภา เนื่องจากถูกคุ้มครองโดย มาตรา 76 พ.ร.บ.ปิโตรเลี่ยม
........ มาตรา ๗๖ ผู้รับสัมปทานต้องรายงานผลการประกอบกิจการปิโตรเลียม แผนงานและงบประมาณประจำปีตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่อธิบดีกำหนด
............. รายงานตามวรรคหนึ่งให้ถือเป็นความลับและมิให้เปิดเผยจนกว่าจะพ้นหนึ่งปี นับแต่วันที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ*ได้รับรายงานหรือพึงได้รับรายงานตามวรรคหนึ่ง เว้นแต่
(๑) เป็นการเปิดเผยในการปฏิบัติราชการแก่ส่วนราชการหรือบุคคลซึ่งมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการ
(๒) เป็นการนำข้อสนเทศจากรายงานนั้นไปใช้ในการเรียบเรียงและเผยแพร่รายงานหรือบันทึกทางวิทยาศาสตร์ เทคนิคหรือสถิติ โดยได้รับอนุมัติจากอธิบดีแล้ว ทั้งนี้ ต้องหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อสนเทศด้านพาณิชย์ให้มากที่สุด หรือ
(๓) ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้รับสัมปทานให้เปิดเผยได้ แต่การให้หรือไม่ให้ความยินยอมของผู้รับสัมปทานต้องกระทำโดยไม่ชักช้า
...............ความในวรรคสองไม่ใช้บังคับแก่รายงานเกี่ยวกับการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ผลิตและรายงานเกี่ยวกับพื้นที่ที่ผู้รับสัมปทานได้คืนพื้นที่แล้วตามมาตรา ๓๖ หรือ ๓๗
และไม่อาจเอาผิดได้ทางศาล เนื่องจากได้รับการคุมครองได้จาก มาตรา 13 พ.ร.บ.ปิโตรเลี่ยม
............. มาตรา ๑๓ สิทธิในการถือสัมปทานไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#234
ตอบ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:37
มาไวเคลมไว อภิโปรเจ็คเฮียเพ้ง...
ข่าว 13 พ.ย.55 พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ได้เร่งรัดให้กรมธุรกิจพลังงาน กรมที่มีอธิบดีเป็นกรรมการบริษัท ปตทสผ. ได้รับเบี้ยประชุม เงินประจำเดือน รวมถึงโบนัส รวมปีละไม่น้อยกว่า 3.7 ล้านบาท ให้ไปทำแผนลงทุนโครงการท่อขนส่งน้ำมัน 2 เ้ส้นทาง ให้เสร็จภายใน 1 เดือน แบ่งเป็นเส้นสายเหนือ สระบุรี-พิษณุโลก-ลำปาง และสายอีสาน สระบุรี-โคราช-ขอนแก่น ใช้เงินลงทุนระบบท่อ 1.37 ล้านบาท และคลังจ่ายน้ำมัน 3,607 ล้านบาท รวมมูลค่า 1.73 หมื่นล้านบาท คำถามคือ... ใช้เงินใครลงทุน ? รัฐหรือ ปตท. ? ที่รู้คือรายได้เข้า ปตท.ทั้งหมดแน่ ถ้ารัฐลงทุน 100% แต่รัฐถือหุ้นอยู่ 51 ก็ถือว่าขาดทุน เพราะที่เหลือเอกชนรับไปหมด แต่ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย อีกเรื่องหนึ่งที่ชวนติดตาม
http://www.facebook....490563267642754
#235
ตอบ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 16:00
#236
ตอบ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 00:30
#238
ตอบ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:12
อิฐบูรณ์ อ้นวงษา
#239
ตอบ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:21
ซึ่งฝ่ายค้านต้องผ่านด่านอธิบดี ที่จะเอามาตรา 76 พ.ร.บ.ปิโตรเลี่ยมมาอ้างเพื่อปกปิดข้อมูลที่ปกปิดมานับสิบๆปี
- กรรมกรไอที and กรกช like this
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#240
ตอบ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:31
สรุปก็อย่างที่เคยว่า...มันก็เลวพอกันหมด...ทุกอย่างเพื่อกรูก่อน...ผลพลอยได้จากการแดรกของพวกกรูคือ...ความเจริญที่กรูบอกพวกเมิงเสมอไงว่า...กรูทำเพื่อเมิ๊งงงงงงๆๆๆ...
วังเวง...ด้วยประการล่ะฉะนี้...
#241
ตอบ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 07:02
http://www.pantip.co.../X12728371.html
ปตท. เร่งหาพื้นที่สร้างคลังก๊าซแห่งใหม่ หลังความต้องการใช้ทั้งก๊าซทั้งแอลพีจี-เอ็นจีวีพุ่ง ในขณะที่พม่าประเทศไม่ส่งออกก๊าซเพิ่ม และก๊าซในอ่าวไทยจะเริ่มหมดในอีก 13 ปีข้างหน้า โดยกลุ่ม ปตท.กำลังจัดหาที่ปรึกษา เพื่อจัดหาพื้นที่สำหรับสร้างคลังก๊าซแอลเอ็นจีแห่งที่ 2 และคลังก๊าซแอลพีจีแห่งใหม่ เพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น โดยเฉพาะแอลเอ็นจีเริ่มมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นมากในอนาคต แต่การผลิตในประเทศเริ่มมีข้อจำกัดจากปริมาณก๊าซฯ ในอ่าวไทย มีแนวโน้มจะผลิตในระดับที่คงที่และลดลง เนื่องจากในปัจจุบันได้ผลิตสูงสุดถึง 3,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และจากนี้ไปปริมาณสำรองที่พิสูจน์ได้รองรับความต้องการผลิตได้เพียงอีก 13 ปีข้างหน้าเท่านั้น
ขณะที่แผนการจัดหาก๊าซธรรมชาติจากเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นทำได้ยาก นอกจากจะมีข้อตกลงในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา หากเจรจากันได้จะต้องใช้เวลาพัฒนาอย่างน้อย 10 ปี ในขณะที่ทางรัฐบาลพม่าแจ้งแล้วว่าไม่มีนโยบายส่งออกก๊าซเพิ่มเติม
ทุกคนมีความคิดเห็นยังไรกับข่าวนี้บ้างคร๊าบบบ คิดว่าจริงมั้ย แล้วถ้าหมดไปจะทำยังไง หรือว่าแค่จะขึ้นราคาก๊าซ ?
การที่ปตท.ออกมาร้องว่าแก๊สจะหมดใน 13 ปีนั้น มันส่งสัญญาณอะไร ประเด็นการสร้างคลังแก๊ส การย้ายคลังน้ำมันของบางจาก ทุกประเด็น ล้วนมีเงื่อนงำ
การที่พม่าไม่ส่งออกก๊าซเพิ่ม แต่ไทยกลับเพิ่มปริมาณก๊าซที่ขุดได้ใน JDA ให้มาเลเซีย ตามhttp://webboard.seri...150#entry396199
แล้วที่ปตท.เปิดแท่นเจาะใหม่ http://webboard.seri...150#entry426747 ส่งสัญญาณอะไร ยิ่งประเด็นดิ้นแก้กฎหมายเพื่อต่อสัมปทานออกไปอีกทั้งๆที่หมดสิทธิ์ต่อแล้ว ตามใน http://webboard.seri...100#entry368507
ประเด็นที่เชพร่อนมีส่วนในโครงการที่อู่ตะเภา มีสัมปทานใน บล็อก 3 ในไทย บล็อก A ในกัมพูชา ที่กำลังจะเริ่มขุดเจาะ ตามข่าวของพนมเปญโพสต์ในวันที่ 29 ก.ย. นี้ การแต่งงานระหว่างสองตระกูลใหญ่ของไทย-เขมร การเจรจา JDA ไทย-เขมร
สุดท้ายก็ได้ตำตอบ
โพสต์ทูเดย์– สรุปข่าวหน้า 5 ประจำวันที่ 5 ต.ค.55
05/10/2012 , 06:19
นายกฯจี้กพช.ถกแหล่งก๊าซทับซ้อนเขมร
ยิ่งลักษณ์ สั่งเจรจากัมพูชาเปิดทางสำรวจขุดเจาะก๊าซพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา กพช.เลิกแน่เบนซิน 91 ม.ค.ปีหน้า
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้กระทรวงพลังงานเร่งรัดจัดแหล่งก๊าซสำรองในระยะยาวเพื่อสนับสนุนความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการจัดหาก๊าซจากพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา ที่นายกฯ ต้องการให้การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพื่อจะได้สำรวจและขุดเจาะก๊าซ และสร้างท่อก๊าซมายังไทย
V12936802 ไทยต้องเร่งหาแหล่งก๊าซใหม่ คาดอีกไม่เกิน 20 ปีก๊าซหมดอ่าวไทย
ขณะนี้ไทยผลิตก๊าซธรรมชาติสูงเต็มกำลังการผลิตแล้ว และหากไม่ดำเนินการหาแหล่งก๊าซแห่งใหม่มาเพิ่มเติม ภายใน 20 ปีข้างหน้าก๊าซจากอ่าวไทยจะหมดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคอุตสาหกรรม เพราะปัจจุบันไทยใช้ก๊าซผลิตไฟฟ้าเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 โดยปีนี้ประเทศไทยใช้ก๊าซสูงถึง 4,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็นการผลิตในประเทศร้อยละ 75 และนำเข้าร้อยละ 25 ซึ่งก๊าซในประเทศจะมีกำลังการผลิตสูงสุดในปีหน้า จากนั้นจะเริ่มลดน้อยลง
ดังนั้น กระทรวงพลังงานจึงได้ทำแผนจัดหาก๊าซเพิ่มเติม ประกอบไปด้วย การเจรจาจัดซื้อก๊าซจากประเทศในอาเซียน ได้แก่ พม่า และอินโดนิเซีย ซึ่งพม่าจะเปิดสัมปทานครั้งใหม่ภายในปลายปีนี้ คาดว่าจะมีการแข่งขันรุนแรง และทางกลุ่ม ปตท.จะเข้าร่วมเสนอสัมปทานด้วย ส่วนแหล่งที่อินโดนีเซีย คาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ หลังจากปัจุบันทาง บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) หรือ ปตท.สผ. เข้าไปร่วมลงทุนในแหล่งนาทูนา โดยจะต้องสร้างท่อก๊าซอาเซียนเชื่อมโยงจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย มายังไทย
นอกจากนี้ ไทยยังรอความหวังจากพื้นที่คาบเกี่ยวไทย-กัมพูชา ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณสำรองเป็นจำนวนมาก แต่ยังต้องรอข้อตกลงระหว่างรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ หากตกลงกันได้คาดว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาแหล่งก๊าซอีก 10 ปี ขณะเดียวกัน ไทยเตรียมนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพิ่ม แต่ต้นทุนการนำเข้าจะสูงมาก ซึ่งอาจกระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าได้
จากคุณ : ผู้ไม่ประสงค์เอ่ยนาม
เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 22:27
จำนวนปีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่เหมือนกันคือ ให้เจรจากับเขมร เดียวแก๊สหมด
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#242
ตอบ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:39
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#243
ตอบ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:22
เรียน คุณ Pantip
เห็นพูดถึงกรณีการเจาะหลุมสำรวจปิโตรเลียมที่เขตทวีวัฒนา และท่านก็ยังยืนยันอยู่หลายหนว่าทวีวัฒนามีปิโตรเลียม แต่มีการปกปิดข้อมูลอะไรทำนองนี้ เท่าที่ผมได้ทราบจากข่าวหลุมเจาะที่ทวีวัฒนานั้น เจาะลงไปจนถึงความลึกสุดท้ายแล้วไม่พบชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม หรือร่องรอยปิโตรเลียมใด ๆ เลย และได้มีการสละหลุมไปแล้ว
หากท่านยังคงยืนยันว่ามีการพบจริง ๆ ผมก็อยากจะทราบถึงผลการหยั่งธรณี (well logging) ของหลุมเจาะนั้น หรือผลการทดสอบพลังผลิตของหลุมเจาะ หรือลำดับชั้นหินของหลุมเจาะนั้น หรือข้อมูลอื่นใดที่จะยืนยันการมีอยู่ของปิโตรเลียมในหลุมเจาะนั้น ข้อมูลที่จะแสดงนั้นไม่ต้องเป็นเอกสารทางการก็ได้ครับ จะเป็นข่าว คำสัมภาษณ์ หรือความเห็นของท่าน หรืออื่น ๆ ก็ได้ครับ แต่ไม่ใช่การพูดเพียงแค่ให้คอยดูกันต่อไปอะไรแบบนี้ การพูดแบบนี้แสดงว่าท่านก็ทราบข้อมูลมาบ้างแล้วจึงพูด ยังไงถ้าจะเป็นการกรุณาก็ขอได้เปิดออกมาเถอะครับ จะได้รู้ ๆ กันไปอย่าเก็บเงียบเอาไว้เลยครับ ไม่เกิดประโยชน์อะไรหรอกครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ปล. ผมมีประเด็นเพียงเท่านี้แหละครับ และคงจะไม่ต่อเรื่องอื่น ๆ ให้ยืดยาวไปอีก
จากคุณ : EniviEng เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 21:35:17 A:122.155.42.103 X: TicketID:369562
มีชาวบ้านแถวทวีวัฒนาโทร.เข้ารายการสภาปฏิรูปพลังงานว่ามีรถน้ำมันมาตอนดึกๆ
Edited by Stargate-1, 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:23.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#244
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:18
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#245
ตอบ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:46
ไม่มีการน้ำเข้า LPG
แผนที่เดินเรือ เห็น แหล่งน้ำมันในอ่าวไทย จากทหารเรือ
Edited by Stargate-1, 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:51.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#246
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 14:24
แหล่งน้ำมันดิบจะเกิดขึ้นได้ต้องมี 3 เงื่อนไข คือ หินกำเนิดซึ่งอุดมไปด้วยสารไฮโดรคาร์บอนฝังอยู่ลึกเพียงพอที่ความร้อนใต้พิภพจะเปลี่ยนให้เป็นน้ำมัน, หินกักเก็บมีรูพรุนและซึมผ่านได้เพื่อให้น้ำมันไปสะสม และหินครอบหรือหินปิดกั้น หรือกลไกอื่นซึ่งกันมิให้มันไหลออกสู่พื้นผิว
ภายในแหล่งน้ำมันเหล่านี้ ของเหลวจะจัดเรียงเป็น 3 ชั้น โดยมีน้ำอยู่ข้างใต้ น้ำมันอยู่กลาง และแก๊สอยู่บน แม้ชั้นต่างๆ จะมีขนาดแตกต่างกันไปตามแหล่ง เพราะไฮโดรคาร์บอนส่วนใหญ่เบากว่าหินหรือน้ำ จึงมักไหลตัวขึ้นข้างบนผ่านชั้นหินที่อยู่ติดกันกระทั่งถึงพื้นผิวหรือถูกกักไว้ในหินรูพรุน (ซึ่งรู้จักกันว่า แหล่งกักเก็บ) โดยมีชั้นหินที่ผ่านไม่ได้อยู่ข้างบน
อย่างไรก็ดี กระบวนการนี้ได้รับอิทธิพลจากการไหลของน้ำบาดาล ทำให้น้ำมันพลอยเคลื่อนตัวได้หลายร้อยกิโลเมตรตามแนวระดับ หรือแม้ไหลลงไประยะสั้นๆ ก่อนจะถูกขังในแหล่งกักเก็บ เมื่อไฮโดรคาร์บอนเข้มข้นขึ้นในแหล่งกักนั้น ก็จะเกิดเป็นบ่อน้ำมัน ซึ่งสามารถสกัดออกมาได้ด้วยการขุดเจาะและการปั๊ม
ซามูเอล เอ็ม เกียร์ เป็นบุคคลแรกที่ถือได้ว่าขุดพบน้ำมัน โดยในปี พ.ศ.2391 เขาได้ขุดพบน้ำมันโดยบังเอิญจากบ่อที่เขาขุดขึ้นบนฝั่งแม่น้ำอัลเลเกนี ในมลรัฐเพนซิลเวเนีย และตั้งชื่อน้ำมันดังกล่าวว่า น้ำมันซีนีกา (Seneca oil) ซึ่งเป็นชื่อพื้นเมืองอเมริกัน
ต่อมาเมื่อเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันปลาวาฬ ซึ่งขณะนั้นนิยมใช้เป็นเชื้อเพลิงให้แสงสว่าง และใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์ต่างๆ กันอย่างแพร่หลาย จึงเป็นแรงผลักดันให้มีการแสวงหาปิโตรเลียมมาใช้ทดแทน และนำไปสู่การจัดตั้งบริษัทเจาะหาน้ำมันชื่อ บริษัท ซีนีกาออยล์ จำกัด ขึ้นมา
ในช่วงปี พ.ศ.2402 เป็นช่วงของยุคตื่นน้ำมัน ซึ่งเริ่มจากการที่ เอ็ดวิน แอล เดรก ถูกส่งไปเจาะสำรวจหาน้ำมันที่เมืองทิทัสวิลล์ ในมลรัฐเพนซิลเวเนีย และเขาได้ขุดพบน้ำมันที่ระดับความลึก 69.5 ฟุต โดยมีน้ำมันไหลออกมาด้วยอัตรา 10 บาร์เรลต่อวัน จึงถือเป็นการเริ่มต้นธุรกิจน้ำมันในเชิงพาณิชย์ของโลกนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
สำหรับประเทศไทยนั้นมีหลักฐานปรากฏนับเป็นเวลามากกว่าร้อยปีมาแล้วว่า เจ้าหลวงเชียงใหม่ได้รับรายงานว่ามีการไหลซึมออกมาของปิโตรเลียมที่ฝาง และชาวบ้านในบริเวณนั้นได้ใช้น้ำมันดิบนี้เป็นยาทาแก้โรคผิวหนัง จึงได้รับสั่งให้มีการขุดบ่อตื้นขึ้น เพื่อกักเก็บน้ำมันดิบที่ไหลซึมออกมานี้ไว้ และเป็นที่เรียกขานกันในเวลาต่อมาว่า "บ่อหลวง"
ต่อมาในปี พ.ศ.2464 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน เมื่อครั้งทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการรถไฟ ได้ทรงริเริ่มนำเข้าเครื่องเจาะมาเพื่อทำการเจาะสำรวจหาน้ำมันดิบ ในบริเวณที่มีผู้พบน้ำมันดิบไหลขึ้นมาบนผิวดินที่บ่อหลวง และยังทรงว่าจ้างนักธรณีวิทยาชาวอเมริกันเข้ามาสำรวจหาน้ำมันดิบ และถ่านหินในประเทศไทยอีกด้วย
ตรงกับทฤษฎีที่ว่าน้ำมันมาจากแกนโลก ไม่มีการใช้หมดของรัสเซีย (ค้นหาข้อมูลเพิ่มจากกูเกิ้ลในหัวข้อทีเกี่ยวกับ "Abiotic Oil")
ทำให้รัสเซยขุดน้ำมันขึ้นมาใช้อย่างไม่ยั้ง ต่างจากสหรัฐที่ไม่ยอมขุดน้ำมันของตัวเองออกมาใช้ กลัวหมด นำเข้าจากที่อื่นมาใช้ก่อน
แล้วทฤษฎีที่ว่าน้ำมันมาจากซากพืชซากสัตว์นั้นจริงหรือเปล่า รัฐบาลปธน.โอบามาเริ่มรู้แล้ว
จึงประกาศว่าจะขุดน้ำมันในประเทศขึ้นมาใช้ และจะทำให้เป็นประเทศส่งออกน้ำมันอันดับหนึ่งแทนรัสเซีย
http://www.youtube.com/watch?v=ck01KhuQYmE&feature=related
Edited by Stargate-1, 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 16:15.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#247
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:51
Edited by Stargate-1, 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:53.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#248
ตอบ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 11:53
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://www.facebook....&type=1
อีกไม่นาน เราคนไทยจะฉิบหายกันทั่วหน้าหนักกว่าวันนี้
และทั้งที่กระทรวงพลังงานบิดเบือนข้อมูลความจริงในการลอยตัวก๊าซกันเห็นๆ
แต่คนไทยตาดำๆก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ก้มหน้ารอรับกรรม มันช่างน่าสมเพท เวทนาจริงๆ
นี่คือผลกรรมของคนไทยที่ไปยอมรับสนับสนุนพวกสารเลว
ไปยอมรับให้วังวนน้ำเน่าแห่งการคอร์รัปชั่นคงอยู่กับประเทศไทย
ก็ไม่รู้เหมือนว่าเมื่อไหร่คนไทยที่ยึดติดบ้าคลั่งพวกนักการเมืองจะหูตาสว่างสักที
เวรกรรมของประเทศไทยจริงๆ
#249
ตอบ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:59
มาตรฐานยูโร 4 ของไทยหาใช้ไม่ได้ในอาเซี่ยน
Edited by Stargate-1, 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 11:08.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#250
ตอบ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 11:33
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน