ไม่ได้เข้ามา Update ซะนาน
สัปดาห์นี้ EPL เริ่มกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งแล้วนะครับ หลังจากหยุดพักเบรคให้กับเกมส์ทีมชาติไป เมื่อวานนี้มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงเหตุการฮิลส์โบโร่ออกมาแล้ว ซึ่งกว่าจะมีการเปิดเผยก็ปาเข้าไปถึง 23 ปี วันนี้เราจะมาย้อนอดีตกันครับืก่อนที่เกมส์วันเสาร์นี้ LFC จะมีคิวที่จะออกไปเยือนซันเดอร์แลนด์ที่สเตเดี้ยมออฟไลห์
รำลึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ฮิลส์โบโร่เมื่อ 23 ปีก่อน สมัยนั้นการแข่งขัน FA Cup ยังเป็นการใช้สนามกลางอยู่ และทีมต้องแข่งขันกับน็อตติ้งแฮม ฟอร์เรส ที่ เมือง เชฟฟิลด์ ซึง สนามนี้ เป็นสนามเหย้าของ ทีม เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์
การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศระหว่างลิเวอร์พูลกับน็อตติ้งแฮมฟอเรสต์มีขึ้นที่สนามฮิลส์โบโร่ของเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ในวันเสาร์ที่ 15 เมษายน 1989
แฟนบอลลิเวอร์พูลหลายพันคนเดินทางมาเพื่อเป็นสักขีพยานในการแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญนัดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบยานพาหนะทุกคันเพื่อมิให้ผู้ใดนำเครื่องดื่ม
ที่มีแอกอฮอล์เข้าไปในสนาม ด้วยเหตุนี้เอง การจราจรจึงล่าช้าออกไป
คลื่นแฟนบอลลิเวอร์พูล 24,000 คนรวมตัวกันที่ประตูทางเข้าอัฒจรรย์ฝั่งเลพพิงส์ เลนตั้งแต่ก่อนเวลาบ่าย 2 โมง 30 นาที และเนื่องจากแฟนบอลทุกคนจะต้องผ่านด่านตรวจตรงประตูทางเข้าเพื่อค้นหาเครื่องดื่มที่มีแอกอฮอล์และอาวุธต่างๆ แถวของแฟนบอลที่ยืนอยู่อย่างเป็นระเบียบจึงค่อยๆกลายเป็นกลุ่มมหาชนขนาดยักษ์ที่พยายามเบียดเสียดแย่งกันเข้าสู่สนาม สถานการณ์ตรงทางเข้าที่คับแคบเหมือนคอขวดนั้น เริ่มจะควบคุมไม่ได้แล้ว หัวหน้าผู้บังคับการดั๊กเคนฟิลด์ซึ่งปฎิบัติหน้าที่อยู่ในวันนั้นจึงสั่งให้เปิดประตู C
แฟนบอลต่างพากันกรูเข้าสู่อุโมงค์มุ่งสู่สนามเพื่อหาที่นั่งบนอัฒจรรย์ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม อัฒจรรย์ฝั่ง 3 และ 4 ที่มีรั้วกั้นจึงอัดแน่นไปด้วยฝูงชน 24,000 คนซึ่งเกินอัตราจุของสนาม
เริ่มเกมไปได้เพียง 6 นาที ปีเตอร์ เบียร์ดส์ลีย์ยิงข้ามคานออกไป เพิ่งความบ้าคลั่งให้แฟนบอลที่ชมเกมอยู่เป็นทวีคูณ นั่นเป็นเหตุการณ์สุดท้ายที่เกิดขึ้น ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหยุดเกมเมื่อเวลาบ่าย 3 โมง 6 นาที แฟนบอลต่างลนลานหนีตายออกมาอยู่บริเวณรอบๆตัวสนาม ดั๊กเคนฟิลด์จึงได้ขอกำลังเสริมเพราะคิดว่าแฟนบอลบุกรุกลงมาในสนามฟุตบอล
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงจึงพบว่า แฟนบอลจำนวนมากอยู่ในอาการสาหัส แฟนบอลอีกจำนวนหนึ่งได้ปีนหนีไปทางอัฒจรรย์ที่อยู่ติดกันและพยายามจะเปิดประตูสนามเพื่อหนีคลื่นแฟนบอลด้วยกันเอง
เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายออกมาจากกลุ่มคนอันหนาแน่น ไม่นานนักพื้นสนามฟุตบอลก็เกลื่อนไปด้วยร่างของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ป้ายโฆษณาข้างสนามก็นำมาทำเป็นเปลหามแฟนบอลออกไป ด้วยความหวังว่า พวกเขาจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
หน่วยฉุกเฉินมาถึงล่าช้า ในสนามเต็มไปความโกลาหลเมื่อมีการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไปยังโรงยิมเนเซียมฮิลส์โบโร่
แฟนบอล 96 ชีวิตจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งทั้งหมดเป็นแฟนบอลของลิเวอร์พูลและมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 766 คนหลังจากนั้นทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ จึงได้ออกกฎให้ทุกสโมสรรื้ออัฒจันทร์ยืนออกให้หมด และสร้างอัฒจันทร์แบบนั่งแทนทำให้ยุคอัฒจันทร์แบบยืนสิ้นสุดลง โดย 1 ในนั้น เสียชีวิตอีก 4 ปีให้หลังเนื่องจากสมองได้รับความกระทบกระเทือน
ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยความโศกาอาดูร สมาชิกในครอบครัวต่างร่ำไห้คร่ำครวญหาคนรัก แอนฟิลด์กลายเป็นสุสานสำหรับเคารพศพ แฟนบอลผู้เศร้าโศกได้นำดอกไม้ ผ้าพันคอ และธงมาร่วมกันวางไว้บนอัฒจรรย์เดอะ ค็อป
ในปีนั้น สตีเฟ่น เจอร์ราด มีอายุได้เพียง 9 ขวบ และเจอร์ราด ก็ต้องสูญเสีย ญาติ คนหนึ่งที่อายุ แก่กว่ากัน หนึ่งปี ไปในวันนั้นด้วย
หลังจากนั้นอีก 23 ปี เหตุการณ์โศกนาฏกรรมสุดเศร้าที่ ฮิลส์โบโร เมื่อ 23 ปีก่อน ใกล้จะไขปริศนาสู่ความจริง หลังจากที่คณะลูกขุนอิสระในฮิลส์โบโรห์ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ กว่า 80 องค์กร เปิดเอกสารกว่า 450,000 หน้า ให้ญาติผู้เสียชีวิตได้ดูเพื่อไขข้อข้องใจ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ประวัติศาสตร์เศร้าของวงการลูกหนังเมืองผู้ดี ที่คาใจมานานกว่า 23 ปี เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 1989 ที่มีเหล่าแฟนบอล "หงส์แดง" ต้องเสียชีวิต 96 ศพ ในเกมฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศะหว่าง ลิเวอร์พูล และ นอตติงแฮม ฟอเรสต์ ที่ฮิลส์โบโร ของ เชฟฟิล เวนส์เดย์ เนื่องจากมีแฟนเข้ามาชมมากเกินกำหนดทำให้อัฐจรรย์พังลงมา กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดที่รวบรวมโดยหน่วยงานต่างๆ 80 องค์กร
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและสูญเสียทางฝั่ง "เดอะค็อปส์" ยังคาใจถึงความรับผิดชอบ ความช่วยเหลือจากฝ่ายรัฐบาลและตำรวจ บ้างถูกกล่าวหาจากหนังสือพิมพ์ชื่อดังของเมืองผู้ดีว่าเป็นฝ่ายผิดเองที่กรูกันเข้าไปชมเกมเยอะเกินกำหนดหรือแฟนบอลหลายรายอยู่ในสภาพมึนเมา และหนักถึงกล่าวหาว่าแฟนบอลบางรายเคยมีประวัติทางด้านความรุนแรงหรือก่ออาชญากรรมมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม การเปิดหลักฐานที่ได้รวบรวมโดยคณะลูกขุนอิสระในฮิลส์โบโร ตลอดระยะเวลาตลอด 18 เดือน ให้แก้ญาติผู้เสียชีวิตเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล ที่คับแค้นใจมายาวนานกว่า 20 ปี และต้องการพิสูนจ์ความจริงเกิดความพอใจขึ้น ขณะที่ทาง เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ออกมายอมขอโทษต่อแฟนๆ "เดอะค็อปส์" ที่ปล่อยเรื่องนี้นิ่งไปนานไม่มีการสอบสวนหาความจริง
โดย คาเมรอน แถลงการณ์ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดที่ปล่อยให้เรื่องมายาวนาน และยืนยันได้ว่าเหตุการณ์อื้อฉาวเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ตำรวจเองที่ละเลยหน้าที่ปล่อยให้แฟนบอลเข้าไปเกินความจุจนทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น และหลังจากเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นมาหน่วยพยาบาลก็ปฏิเสธที่จะให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจนมีตัวเลขผู้เสียชีวิตมากมาย
"หลักฐานเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าครอบครัวของผู้สูญเสียต้องอยู่กับการถูกกล่าวหาที่ไม่ยุติธรรมมายาวนาน พวกเขาต้องตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังต้องเจอกับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือ ในนามของรัฐบาลผมต้องขอกล่าวคำเสียใจต่อความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นและปล่อยให้ล่วงเลยมาเป็นเวลานาน" คาเมรอน กล่าว
12 กันยายน 2555: คณะกรรมการอิสระฮิลส์โบโร เปิดเผยรายงาน12 กันยายน 2555 เวลา 11โมงเช้า ที่เมืองลิเวอร์พูลจะมีการเผยข้อมูลจากคณะกรรมการอิสระกรณีฮิลส์โบโร (Hillsborough Independent Panel) ซึ่งทำหน้าที่เก็บ,จัดการ, และบันทึกข้อมูลทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโศกนาฎกรรมครั้งนี้ จากข้อมูลและการศึกษาเหล่านี้ น่าจะส่งผลให้กลุ่มผู้เสียหายจากกรณีฮิลส์โบโร ใช้เป็นหลักฐานใหม่และหลักฐานแวดล้อม ในการยื่นให้เปิดการสอบสวนและพิจารณาอีกครั้ง
ด้วยเพราะผลจากการตัดสินคดีในครั้งก่อน ทางกลุ่มพยานและผู้เสียหายได้ให้ความเห็นว่าเป็นการใช้กระบวนการยุติธรรมชี้นำและปกป้องความบกพร่องในการทำหน้าที่และตัดสินใจของหน่วยงานรัฐ เช่น ตำรวจ, รถฉุกเฉิน และ ทางสมาคมฟุตบอล เป็นต้น ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ขึ้น การตัดสินในครั้งก่อน ทางศาล ได้ชี้นำในประเด็นดังต่อไปนี้
1. จากการศึกษาสอบสอบเป็นระยะเวลา 90 วัน ว่าการเสียชีวิตของแฟนบอล 96 คน เป็น “การเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ”
2. ระบุการพิจารณาหลักฐานและสอบสวนเฉพาะที่เกิดก่อนเวลา 15 นาฬิกา 15 นาที (บ่าย 3 โมง 15 นาที) โดยให้ความเห็น “ควรจะมีกำหนดกรอบเวลาที่จะพิจารณาและเวลานี้เป็นเวลาที่รถพยาบาลคันแรกมาถึง”
3. ในการสอบสวนไม่เปิดให้พยานให้ความเห็นในทุกแง่มุม, และไม่ให้จดบันทึกใดๆในการให้ปากคำหรือแถลง ในขณะที่ทางตำรวจสามารถใช้ได้
4. สอบสวนโดนการเรียกโจทก์เข้าไปฟัง รายชื่อ พร้อมปริมาณ แอลกอฮอล์ในเลือด ของผู้เสียชีวิตทุกคน เพื่อให้ลูกขุน เข้าใจว่า “ความเมา และความรุนแรง” ของแฟนบอล คือเหตุของเหตุการณ์ และทำให้เกิด “การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ” และมีการให้ข้อมูลเช่นนี้กับสื่อ จนส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของครอบครัวผู้เสียหาย
5. ความพยายามที่จะสอบสวนและเสนอข้อมูลด้านเดียวในชั้นศาลนี้ไม่เปิดให้ โต้เถียงหรือแย้ง เนื่องจากศาลที่พิจารณาคดีนี้ เป็นศาลที่มีลักษณพิเศษคือ ทำหน้าที่เพียง ใครเสียชีวิต, อย่างไร, ที่ไหน, และ เมื่อไหร่ ตามกฎหมายลงทะเบียนมรณบัตร ไม่มีสิทธิ์ในการ ฟ้องความผิด
และหลังจากที่การพิจารณาคดีนี้จบ ทางผู้เสียหายไม่ได้รับการดูแล หรือช่วยในช่องทางทางกฎหมายเพื่อ ทำการฟ้องร้องได้ใหม่ ด้วยเหตุผลที่ว่า “ไม่มีหลักฐานใหม่” ดังนั้น การเปิดเผยข้อมูลศึกษาจากคณะกรรมการอิสระในครั้งนี้ ถูกคาดหวังว่า เป็นข้อมูลที่ได้รับการยอมรับ, เป็นข้อมูลที่แวดล้อมเหตุการณ์ และน่าจะสามารถนำมาเป็น “หลักฐานใหม่” เพื่อยื่นในการฟ้องร้อง และประกอบการพิจารณาคดีต่อไปได้ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในกรณีฮิลส์โบโร
Kenny Dalglish : ผมรู้สึกยินดีมากกับความจริงของ Hillsboroughอดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลและตำนานที่ยังมีลมหายใจอยู่ Kenny Dalglish บอกว่ารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่เหตุการณ์หายนะ Hillsborough ได้ถูกเปิดเผยความจริงออกมาเสียที
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 เมษายน 1989 ในฟุตบอล FA Cup รอบรองชนะเลิศระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ณ สนาม ฮิลโบโร่ จำนวนแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมส์เกินความจุของสนาม ส่งผลให้อัฒจันทร์ได้ถล่มลงมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 96 คนและทั้งหมดนั้นเป็นแฟนของทีม ลิเวอร์พูล ทั้งสิ้น
และในอีก 21 เดือนต่อมา Kenny Dalglish ก็เดินทางออกจากสโมสรอันเป็นที่รักของเขาเพราะทนต่อความเครียดในขณะนั้นไม่ไหวและยังรวมไปถึงอารณ์ที่ไม่พร้อมจะก้าวต่อไปมันจึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ชายคนนี้เดินออกจากสโมสร
อีก 23 ปีต่อมา ความจริงทุกอย่างได้ปรากฏ ซึ่งนั่นทำให้ Kenny Dalglish รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้รับความเป็นธรรมแล้ว
นายกรัฐมนตรีอังกฤษขอโทษต่อโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร่แล้วแถลงการณ์ขอโทษนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ทั้งหมดของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนที่กล่าวต่อสภาผู้แทนราษฏร์ ตอนนี้ได้ฉบับเต็มจาก BBC แล้ว แต่เนื่องจากยาวมาก ขอแปลส่วนนี้มาให้อ่านกันก่อนครับ
แถลงการณ์ขอโทษ APOLOGY
ท่านประธานฯที่เคารพ ผมต้องการจะทำให้กระจ่างถึงมุมมองของรัฐบาลที่มีต่อผลการสืบค้นและทำความเข้าใจว่าทำไมหลังจากที่ผ่านไป 23 ปี ประเด็นนี้จึงยังคงอยู่และมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อครอบครัวผู้สูญเสียเท่านั้น แต่รวมถึงเมืองลิเวอร์พูล และเพื่อประเทศของเราโดยส่วนรวมด้วย
ท่านประธานที่เคารพ, อะไรที่เกิดขึ้นในวันนั้นและตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา - มันผิด
มันผิดทีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบต่างรู้ว่าระดับความปลอดภัยของสนามฮิลส์โบโร่ไม่ถึงมาตรฐานขั้นต่ำที่ควรจะเป็นแต่ก็ยังอนุญาตให้แมทช์การแข่งขันดำเนินต่อไปได้
มันผิดที่เหล่าครอบครัวผู้สูญเสียต้องรอเป็นเวลายาวนานเหลือเกิน - และต่อสู้มาอย่างหนัก - เพียงเพื่อจะให้ได้มาซึ่งความจริงของเหตุการณ์
และมันผิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเปลี่ยนแปลงบันทีกทางการในสิ่งที่เกิดขึ้นและได้พยายามจะโยนความผิดไปยังแฟนๆ
เราขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเรื่องที่ยากและมักจะอันตรายให้กับตัวเราเสมอมา และหน่วยตำรวจ South Yorkshire ในทุกวันนี้ก็เป็นหน่วยงานที่แตกต่างไปจากที่มันเคยเป็นมา
แต่เราเองก็คงจะทำให้ตำรวจที่มีเกียรติ (ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราว) ต้องเสื่อมเกียรติไปหากเราพยายามจะแก้ต่างกับสิ่งที่ไม่ควรจะแก้ตัวนี้
มันก็ผิดอีกเช่นกันที่ทั้งผู้พิพากษา Lord Justice Taylor และหน่วยงานนิติเวชต่างไม่ได้ให้ความสนใจอย่างทีควรจะเป็นต่อปฏิกริยาหรือการร้องขอบริการฉุกเฉินอื่นๆ (ในขณะเกิดเหตุ)
เช่นกัน นี่คือกลุ่มคนที่อุทิศตนในการทำงานพิเศษเฉพาะเพื่อให้บริการต่อสาธารณะ (เหมือนตำรวจ แต่เกิดบกพร่องต่อหน้าที่)
แต่หลักฐานที่ปรากฏในรายงานที่เปิดเผยในวันนี้ทำให้เป็นการยากที่จะอ่านให้ผ่านไปได้
ท่านประธานที่เคารพ, ด้วยน้ำหนักของหลักฐานใหม่ที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ นี่คือการกระทำที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับผมในฐานะนายกรัฐมนตรีที่จะแสดงการขอโทษอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 96 ท่าน สำหรับสิ่งที่พวกเขาต้องทนทุกข์ตลอดเวลา 23 ปีที่ผ่านมา
เป็นความจริงอย่างที่สุดที่หลักฐานใหม่ที่เรารับแจ้งในวันนี้ได้สร้างความกระจ่างว่าครอบครัวเหล่านี้ยังต้องปวดร้าวกับความอยุติธรรมซ้ำสองอีกด้วย ( a double injustice)
ความอยุติธรรมที่เกิดในเหตุการณ์ - คือความผิดพลาดของหน่วยงานในการให้การปกป้องบุคคลอันเป็นที่รักของพวกเขาและการรอคอยที่ไม่ควรจะเกิดเพื่อให้ได้มาซึ่งความจริง
และความอยุติธรรมที่เกิดจากการใส่ร้ายป้ายสีต่อผู้สูญเสียชีวิต - ว่าพวกเขาเป็นสาเหตุแห่งการเสียชีวิตของพวกเขาเอง
ในนามของรัฐบาล - และแน่นอนที่สุดในนามของประเทศของเรา - ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความอยุติธรรมซ้ำสองที่ถูกทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการแก้ไขเป็นเวลายาวนานเหลือเกิน
เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ออกแถลงการณ์ขอโทษกรณีฮิลส์โบโร่สโมสรเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ขอแสดงความต้อนรับต่อการเปิดเผยรายงานกรณีฮิลส์โบโร่ของคณะกรรมการอิสระ Hillsborough Independent Panel และใคร่ขอขอบคุณต่อการทำงานอย่างหนักของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการทำงานที่น่าสะเทือนใจ
ตลอดขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล สโมสรได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมการฯและองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มั่นใจว่าการเปิดเผยข้อมูลสามารถกระทำได้อย่างเต็มที่และโปร่งใส
สโมสรเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ใคร่ขอแสดงความเสียใจอย่างเป็นทางการต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต, คณะกรรมการ Hillsborough Family Support Group, และตัวแทน ที่ได้ร่วมกันปรึกษาในรายละเอียดกับสโมสร
ตั้งแต่การจัดตั้งสโมสรเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์เมื่อธันวาคม 2010 และการตัดสินใจที่จะหยุดการดำเนินงานของอดีตบริษัทฯแม่ของสโมสรคือ บริษัท เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ มหาชน จำกัด, ท่านประธานสโมสรมิลาน มานดาริชและบอร์ดบริหารตั้งใจสนับสนุนและตอบสนองต่อการร้องขอของคณะกรรมการอิสระ Hillsborough Independent Panel และในนามของสโมสร สโมสรเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ขอแสดงความเสียใจอย่างจริงใจและขอโทษต่อทุกๆครอบครัวที่ต้องได้รับความเสียใจและทรมานจากโศกนาฏกรรมเมื่อวันที่ 15 เมษายน 1989
พวกเราได้แต่หวังว่าการเปิดเผยรายงานของคณะกรรมการอิสระ Hillsborough Independent Panel สู่สาธารณชนจะเป็นไปตามที่ทุกฝ่ายประสงค์ให้เป็น
ความอาทรเสียใจของทุกคนที่สโมสรเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์จะคงอยู่กับแฟนๆผู้เสียชีวิตทั้ง 96 คน, ครอบครัวของพวกเขา, และชุมชนเมืองลิเวอร์พูลโดยรวมที่ต้องได้รับผลกระทบอย่างปวดร้าวจากโศกนาฏกรรมเมื่อ 23 ปีที่แล้ว
แถลงการณ์จากสโมสรลิเวอร์พูลต่อรายงานฮิลล์สโบโรวันที่ 15 เมษายน 1989 จะจำหลักอยู่ในใจของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรลิเวอร์พูลตลอดไป มันเป็นวันที่แฟนบอลของเรา จำนวน 96 คน ได้ตามไปเชียร์ทีมรักของพวกเขา และไม่เคยได้กลับบ้าน
กว่า 23 ปีมาแล้วที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก รวมถึงผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่แสนจะเลวร้ายได้แสดงให้เห็นถึงศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่ และต่อสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยเพื่อทวงถามความยุติธรรม
ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้รณรงค์เพื่อให้มีการเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และเรียกร้องให้บางคนออกมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น …วันนี้ หลังจากหลายปีที่เรียกร้อง การสืบสวนและผลการสืบสวน คณะกรรมการอิสระฮิลล์สโบโร ได้ประกาศผลจากการสืบสวนต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
สโมสรลิเวอร์พูลขอสรรเสริญต่อคณะกรรมการอิสระฮิลล์สโบโรซึ่งได้ยอมรับต่อการหลบเลี่ยงในความผิดต่อเหตุร้ายทั้งก่อนเกิด ระหว่างเกิดและหลังเหตุการณ์ สดมสรมีความยินดีกับคำขอโทษจากนายกรัฐมนตรีต่อครอบครัวผู้สูญเสียและผู้รอดชีวิตในนามของรัฐบาล และรอคอยการสอบทานรายงานโดยอัยการสูงสุด หลังจาก 23 ปีที่ยาวนานและเจ็บปวด ในที่สุด แฟนบอลของเราจะได้รับการปลดเปลื้องจากข้อกล่าวหาทั้งหมด วันนี้ โลกจะได้รู้ในสิ่งที่เรารู้กันมาเสมอ ว่า แฟนบอลลิเวอร์พูลไม่ได้เพียงแต่เป็นผู้บริสุทธิ์จากเหตุร้ายนั้น แต่ได้มีการบิดเบือนความจริงที่อันตรายและสมควรถูกประนาม
สโมสรลิเวอร์พูลอยากจะขอบคุณต่อคณะกรรมการอิสระฮิลล์สโบโร สำหรับการทำงานอย่างเคร่งครัดตลอด 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา เพื่อเผยแพร่รายงานอันมีพื้นฐานจากการค้นหาและวิเคราะห์ในเชิงลึกกับเอกสารหลายร้อยหลายพันหน้า
ทอม เวอร์เนอร์ ประธานสโมสร ได้กล่าวว่า “ในนามของตัวผมเอง, จอห์น เฮนรี และทุกคนที่สโมสร ผมอยากจะส่งผ่านความคิดถึงและคำสวดมนต์ภาวนาต่อสิ่งสำคัญอันยิ่งใหญ่นี้และวันแห่งอารมณ์ความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ถึงทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฮิลล์สโบโร วันนี้ โลกได้รับรู้ความจริงแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นที่ฮิลล์สโบโร”
“ในฐานะสโมสรฟุตบอล เราจะยังคงจดจำเหล่าผู้คนที่ต้องตายจากไป และสนับสนุนช่วยเหลือครอบครัวของผู้ซึ่งสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในวันที่แสนเลวร้านนั้น เราหวังว่าการค้นพบในวันนี้ จะเป็นเหมือนการปลอบประโลมต่อครอบครัวผู้สูญเสียและผู้รอดชีวิต และนำไปสู่หนทางในการตอบบางคำถามสำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเมื่อ 23 ปีที่แล้ว”
แถลงการณ์ของ ‘สตีเวน เจอร์ราร์ด’ ในกรณีโศกนาฎกรรมที่ฮิลล์สโบโรห์สตีเวน เจอร์ราร์ด ได้ออกแถลงการณ์เป็นการส่วนตัว ในกรณีโศกนาฎกรรมที่ฮิลล์สโบโรห์
ความกล้าหาญและสง่าผ่าเผยที่เราได้เห็นจากครอบครัวผู้สูญเสียจาก ‘โศกนาฏกรรมที่ฮิลล์สโบโรห์’ เป็นตัวอย่างสำหรับพวกเราทุกคน
ช่วงเวลา 23 ปีที่พวกเขาได้ต่อสู้เพื่อค้นหาความจริง และความยุติธรรม ในนามของเหยื่อผู้สูญเสีย, ผู้รอดชีวิตจากโศกนาฎกรรมที่น่าสะพรึงกลัว และในนามของแฟนบอลลิเวอร์พูลทุกๆคน
ไม่ว่าจะเป็นเหยื่อผู้เสียชีวิตและผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ ต่างก็ได้รับความเจ็บปวดด้วยกันทั้งสิ้น และไม่เพียงแต่ในวันที่ 15 เมษายน 1989 ที่เชฟฟิลด์เท่านั้น แต่มันเป็นเวลานานถึงสองทศวรรษหลังจากนั้นเลยทีเดียว ที่พวกเขาต้องทนรับคำปรามาสอย่างน่าอดสูจากผู้คนที่ไม่ให้ความเป็นธรรมกับพวกเขาเลย
นี่เป็นการกล่าวอย่างครอบครัวของผู้สูญเสียโดยตรง ผมรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดนั้นดี และบาดแผลนี้ก็ยังคงอยู่
อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่ารายงานที่แสดงออกมาในวันนี้จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของพวกเขาลงได้บ้าง เพราะตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่า วันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ไม่ได้เข้ามานานเล่นซะยาวจนเพลินเลยครับ www.thekop.in.thwww.lovelfc.comwww.liverpoolthailand.comwww.siamsport.co.thwww.google.com (หารูป )