969 replies to this topic

[ชาวสวน]

นัดนี้ คงต้องดูไป กินยาทำใจไปด้วย ส่งเด็กลงไม่เท่าไหร่

แต่ตัวเก๋าที่ส่งลงไปประคอง(คาราห์)น่าเป็นห่วงกว่า

[ข้ามศพกูไปก่อน]

ถึงแม้ "หงษ์แดง"จะเป็นทีมที่ผมไม่ชอบที่สุดในพรีเมียร์

แต่ผมก็เกลียด "ไอ้แม้ว" และ "ควายแดง" มากกว่าอ่า

[Lucas Leiva Benitez Rodger]

นัดนี้ คงต้องดูไป กินยาทำใจไปด้วย ส่งเด็กลงไม่เท่าไหร่

แต่ตัวเก๋าที่ส่งลงไปประคอง(คาราห์)น่าเป็นห่วงกว่า

เห็นด้วยกับท่านชาวสวนครับ ตัวเก่าๆที่รั่วๆเนี่ย ตัวดีเลย พาออกทะเล ดีไม่ดีพาน้องๆไปด้วย

ช่อง 5 ถ่ายหงส์นะครับคืนนี้ 00.00 น. ใครใช้จานดำ+กล่องรุ่นเก่าๆก็จอดำซวยไป

ถึงแม้ "หงษ์แดง"จะเป็นทีมที่ผมไม่ชอบที่สุดในพรีเมียร์

แต่ผมก็เกลียด "ไอ้แม้ว" และ "ควายแดง" มากกว่าอ่า

อิอิ เด็กผีหรือท่าน อย่าได้เกลียดทีมผมเล้ย

เด่วทีมผมไปแชมเปี้ยนชิพ ท่านจะคิดถึงนะ

[taze]

มีใครดูอยู่มั่ง รายงานครึ่งแรกนำอยู่ 2 - 1 เด็กลงเกือบทั้งทีม ขาดๆเกินๆกระท่อนกระแท่น

[taze]

สุดท้าย 5-3 รอดไป

[kop16]

นี่ดาวรุ่ง+ร่วง

ถ้าชุดใหญ่จบไปแล้ว

[Lucas Leiva Benitez Rodger]

มีใครดูอยู่มั่ง รายงานครึ่งแรกนำอยู่ 2 - 1 เด็กลงเกือบทั้งทีม ขาดๆเกินๆกระท่อนกระแท่น

สุดท้าย 5-3 รอดไป

ผมนั่งดูอยู่ครับเมื่อคืน แต่ไม่ได้เปิดคอมครับ แหะๆๆ

นี่ดาวรุ่ง+ร่วง

ถ้าชุดใหญ่จบไปแล้ว

ถูกต้องครับท่านสิงห์ วันนี้รุ่นน้องเล่นกันดีทุกคนครับ ซูโซ่เล่นได้อร่อยเหาะมาก

ตัวรุ่นพี่ออกทะเลกันหมดโดยเฉพาะ คาร่า ประกบกองหน้าเค้าไม่ดี กับเอนริเก้เล่นโฉ่งฉ่างมาก ลูกเสียประตูโทษแบรด โจนส์ไม่ได้เลย

นัดหน้าแดงเดือด ขอชุดนี้ไปลุยเลย เล่นได้ใจครับ เอาแอกเกอร์อุดแทนเอ็นริเก้ ผมว่าก็ใช้ได้แล้วครับ

[greeenday]

และแล้วก็เป็นไปตามคำทำนาย.....ฤดูกาลนี้แบ็คซ้ายจะเป็นปัญหาที่สุด แต่ก็มีเรื่องน่าดีใจอยู่บ้างนะครับ ดาวรุ่งบางคนหวังพึ่งได้ในอนาคตอันใกล้นี้ เป็นนัดที่โกงความตายได้อีกครั้ง เกมส์นี้ Young Boy FC เจาะทางด้านซ้ายเอ็นริเก้ล้วนๆ น่าใจหาย หากนัดวันอาทิตย์นี้เป็นแบบนี้ก็.............. หายไปสามวันมู้คึกคักดีครับ

[greeenday]

พรีวิวลิเวอร์พูล-แมนฯ ยูไนเต็ด(23/09/2012)
ลิเวอร์พูล (17) – แมนฯ ยูไนเต็ด(2)
วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2555
เวลา : 19.30 น.
สนาม : แอนฟิลด์ สเตเดียม

สภาพอากาศ : ฝนอาจจะตก อุณหภูมิสูงสุด 13 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 11 องศา
ผลการพบกัน 6 เกมหลังสุด

วัน/เดือน/ปี รายการ ผลการแข่งขัน

11/02/12 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
28/01/12 เอฟเอ คัพ ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1
15/10/11 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1
06/03/11 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1
09/01/11 เอฟเอ คัพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
19/09/10 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2

ผลงานในฤดูกาลนี้ของลิเวอร์พูล

วัน/เดือน/ปี ผลงาน รายการ

20/09/12 ชนะ ยัง บอย เบิร์นส์ 5-3(เยือน) ยูโรปา ลีก
16/09/12 เสมอ ซันเดอร์แลนด์1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
02/09/12 แพ้ อาร์เซน่อล 0-2(เหย้า) พรีเมียร์ลีก
30/08/12 เสมอ ฮาร์ตส์ 1-1(เหย้า) ยูโรปา ลีก
26/08/12 เสมอ แมนฯ ซิตี 2-2(เหย้า) พรีเมียร์ลีก
23/08/12 ชนะ ฮาร์ตส์ 1-0(เยือน) ยูโรปา ลีก
18/08/12 แพ้ เวสต์บรอมวิช 0-3(เยือน) พรีเมียร์ลีก
12/08/12 ชนะเลเวอร์คูเซน 3-1(เหย้า) กระชับมิตร
09/08/12 ชนะ โกเมล 3-0 (เหย้า) ยูโรปา ลีก
02/08/12 ชนะ โกเมล 1-0 (เยือน) ยูโรปา ลีก
28/07/12 เสมอ สเปอร์ส 0-0 (กลาง) กระชับมิตร
26/07/12 แพ้ โรมา 1-2 (กลาง) กระชับมิตร
21/07/12 เสมอ โตรอนโต เอฟซี 1-1 (เยือน) กระชับมิตร



ผลงาน 5 นัดหลังสุดแมนฯ ยูไนเต็ด

19/09/12 ชนะ กาลาตาซาราย 1-0(เหย้า) ชปล.
15/09/12 ชนะ วีแกน แอธเลติก 4-0(เหย้า) พรีเมียร์ลีก
02/09/12 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2(เยือน) พรีเมียร์ลีก
25/08/12 ชนะ ฟูแล่ม 3-2(เหย้า) พรีเมียร์ลีก
21/08/12 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1(เยือน) พรีเมียร์ลีก



โปรแกรม 2 นัดถัดไป

ลิเวอร์พูล

26/09/2012 เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน(เยือน, ลีก คัพ)
29/09/2012 นอริช ซิตี(เยือน)

แมนฯ ยูไนเต็ด

26/09/2012 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด(เหย้า, ลีก คัพ)
29/09/2012 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์(เหย้า)




เกร็ดที่น่าสนใจ

เฮด-ทู-เฮด

- นี่จะเป็นการพบกันเกมที่ 186 ระหว่างสองสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในอังกฤษ โดยแมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 72, ลิเวอร์พูล ชนะ 62 และเสมอกันมาแล้ว 51

- แต่ถ้านับในทุกๆ รายการสถิติยิ่งสูสีมากขึ้น

- ทั้งสองทีมเจอกันครั้งแรกในเดือนเมษายน 1894 ลิเวอร์พูลเอาชนะ 2-0 ในเกมเพลย์ออฟเลื่อนชั้น/ตกชั้นส่งให้แมนฯ ยูไนเต็ดกระเด็นจากลีกสูงสุด

- ลิเวอร์พูลไม่แพ้ใน 5 เกมลีก และบอลถ้วยหลังสุดที่แอนฟิลด์ในการเจอกับแมนฯ ยูไนเต็ด(ชนะ 4 เสมอ 1)

- ผลเสมอกันในพรีเมียร์ลีกเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว หยุดสถิติแพ้ 3 เกมรวดในโปรแกรมนี้ของแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งครั้งสุดท้ายที่พวกเขาบุกมาชนะทีแอนฟิลด์ในลีกต้องย้อนไปเดือน ธันวาคม 2007 ที่คาร์ลอส เตเวซ ทำประตูโทนในเกมดังกล่าว

- มีใบแดงเกิดขึ้นถึง 4 ใบจาก 5 เกมพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์หลังสุดที่ทั้งสองทีมเจอกัน โดยปีศาจแดงโดนไป 3 ใบ และหงส์แดงโดนไป 1 ใบ

ฟอร์มของลิเวอร์พูล

- ลิเวอร์พูลไม่ชนะเลย 4 เกมลีกในฤดูกาลนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 101 ปี ตั้งแต่ไม่ชนะ 5 เกมรวดในปี 1911-12 ที่พวกเขาเสมอ 2 และแพ้ 3 จาก 5 นัดแรก

- นี่ยังเป็นการไม่ชนะเลย 9 เกมรวดในช่วงต่อเนื่องฤดูกาล ตั้งแต่ฤดูกาล1894-95

- หงส์แดงชนะแค่ 1 จาก 7 เกมเหย้าในพรีเมียร์ลีก และเก็บได้แค่ 10 จาก 33 แต้มในแอนฟิลด์(ชนะ 2 เสมอ 4 และแพ้ถึง 5 เกม)

- นับตั้งแต่เข้าปี 2012 ลิเวอร์พูลได้แค่ 20 แต้มจาก 23 เกมลีก แย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากแอสตัน วิลล่าเท่านั้น(19 แต้มก่อนเข้าสู่สัปดาห์นี้)

- หลุยส์ ซัวเรซ ยิงได้ถึง 7 ประตูจาก 11 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุด แต่ในฤดูกาลนี้เขายิงไม่เข้ากรอบไปถึง 13 ครั้ง มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก เวลานี้

ฟอร์มของแมนฯ ยูไนเต็ด

- แมนฯ ยุไนเต็ด แพ้ด้วยสกอร์ 0-1ในเกมเยือน 3 จาก 3 เกมหลังสุดตั้งแต่เดือนเมษายน

- อย่างไรก็ตามพวกเขาชนะถึง 17 จาก 23 เกมลีกนับในปี 2012 ทำให้มีแต้มในช่วงดังกล่าวรวมถึง 53 แต้ม

- ปีศาจแดงได้จุดโทษมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้วสูงถึง 13 ครั้ง

- พวกเขายังเป็นทีมที่เก็บแต้มกลับมาจากสถานการณ์ที่เป็นรอง(6 ครั้ง) มากที่สุดในบรรดาทุกทีมฤดูกาลที่แล้ว

- โรบิน ฟาน เพอร์ซี ยิงไป 4 ประตูจาก 5 เกมหลังที่เจอกับลิเวอร์พูลในชุดของอาร์เซนอล

- เนมานยา วิดิช เจอไล่ออก 3 ครั้งในโรแกรมนี้ มากกว่าทุกๆ คนในพรีเมียร์ลีกจากทุกๆ โปรแกรมเดียวกัน

- ไมเคิล คาร์ริค ลุ้นลงเล่นเกมที่ 350 ในพรีเมียร์ลีก



ความพร้อมของลิเวอร์พูล

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือลิเวอร์พูล พักตัวหลักทั้งทีมในเกมบุกไปชนะ ยัง บอย เบิร์นส์ 5-3 ในเกมยูฟา ยูโรปา ลีก นัดล่าสุด โดยนักเตะที่พลาดเกมดังกล่าวไล่ตั้งแต่ โฆเซ เรนา, มาร์ติน เคลลี, แดเนียล แอ็กเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เกล็น จอห์นสัน, โจ อัลเลน, สตีเวน เจอร์ราร์ด หรือหลุยส์ ซัวเรซ ต่างพร้อมลงสนามทั้งหมด

รายของ ราฮีม สเตอร์ลิง กับฟาบิโอ บอรินี ที่เป็นแค่สำรองในเกมล่าสุดก็น่าจะได้เล่นตัวจริง ส่วน จอนโจ เชลวีย์ ที่ฟอร์มดีเหมา 2 ประตู และเป็นตัวสำรองมาด้วยก็น่าจะได้เป้นตัวจริง

ที่ชวดแน่ๆ ไม่อยู่ในโผมีเพียง ลูคัส เลวา ที่เจ็บสะโพก และต้นขา ส่วนโจ โคล ที่หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าแล้วยังไม่น่าจะมีส่วนในเกมนี้

11 ตัวจริงลิเวอร์พูลที่คาด

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : โฆเซ เรนา – มาร์ติน เคลลี, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนียล แอ็กเกอร์, เกล็น จอห์นสัน – สตีเวน เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน, จอนโจ เชลวีย์, – ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟาบิโอ บอรินี



หนังตัวอย่างคู่แข่ง

แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมดังใน เกรเตอร์ แมนเชสเตอร์ ก่อตั้งในชื่อ นิวตัน ฮีธ ในปี 1878 ก่อนจะใช้ชื่อปัจจุบันในปี 1902 โดยย้ายมาใช้ โอลด์แทร็ฟฟอร์ด ตั้งแต่ปี 1910 จนถึงปัจจุบัน ในอดีตสโมสรแห่งนี้เคยเกิดโศกนาฎกรรมทางอากาศที่มิวนิคในปี 1958 ทำให้มีนักเตะ 8 รายเสียชีวิต แต่ 10 ปีถัดมาภายใต้การคุมทีมของ แม็ตต์ บัสบี พวกเขาเป็นทีมแรกในอังกฤษที่คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ

ในขณะที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันที่คุมทีมตั้งแต่พฤศจิกายน 1986 ถือว่าเป็นช่วงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคว้าแชมป์ 24 สมัย นอกจากครองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษมากที่สุด 19 สมัย และเอฟเอ คัพ 11 สมัย พวกเขายังเคยคว้า “ทริปเปิล แชมป์” ในปีที่ 1999 ที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แบบที่ไม่มีทีมใดในอังกฤษทำได้มาก่อน แมนฯ ยูไนเต็ดมี แมนฯ ซิตีเป็นคู่ปรับร่วมเมือง และมีลิเวอร์พูลเป็นคู่แข่งสำคัญในเกาะอังกฤษที่ยามลงเล่นเกมดังกล่าวจะถูกเรียกว่าศึก “แดงเดือด”

สำหรับ ฤดูกาล 2012–13 เป็นฤดูกาลที่ 38 ติดต่อกันในลีกสูงสุดของแมนฯ ยูไนเต็ด และฤดูกาลที่ 21 ของพรีเมียร์ลีกหลังพลาดแชมป์สมัยที่ 20 อย่างหวุดหวิดฤดูกาลที่แล้ว พวกเขายังจะได้ลงเล่นแชมเปียนส์ลีกเป็นฤดูกาลที่ 17 ติดต่อกัน และกำลังลุ้นแชมป์สมัยที่ 4 โดยเป็นปีที่ 26 ภายใต้การคุมทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นฤดูกาลที่ 26

แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้เงินไปมหาศาลในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ในการคว้าตัวไม่ว่าจะเป็นการคว้าตัว โรบิน ฟาน เพอร์ซี(อาร์เซนอล, 24 ล้านปอนด์),ชินจิ คางาวะ (โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์, 17 ล้านปอนด์), นิค พาวล์ (ครูว์ อเล็กซานดรา, 4 ล้านปอนด์), อเล็กซานเดอร์ บุตเนอร์(วิเทสส์, 4 ล้านปอนด์), อันเจโล เอ็นริเก้(อูนิเวอร์ซิดาด เดอ ชิลี, ไม่เปิดเผย) รวมแล้วกว่า 50 ล้านปอนด์



ความพร้อมคู่แข่งล่าสุด

แมนฯ ยูไนเต็ด

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกมายืนยันว่า เวย์น รูนีย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษที่ได้แผลที่ต้นขาตั้งแต่เดือนที่แล้วยังไม่พร้อมลงเล่นเกมนี้ รวมถึง แอชลีย์ ยัง ที่มีปัญหากระดูกอ่อนต้องพักอีกอย่างน้อย 3 สัปดาห์ แต่ตำแหน่งอื่นๆ น่าจะพร้อมลงเล่นทั้งหมด รวมถึง ปาทริช เอวรา และโรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่ไม่ได้เป็นตัวจริงในเกมยำวีแกน 4-0 สื่อผู้ดีคาดว่าจะกลับมาเป็นตัวจริง แม้ อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ จะทำได้ดีในเกมสัปดาห์ที่แล้ว

เกมนี้ ฟิล โจนส์ (หลัง) และ คริส สมอลลิ่ง (เท้า) ยังคงหมดสิทธิ์ ส่วน ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ยังไม่พร้อมกลับมาเป็นตัวจริงหลังพักไปนาน

นอกจากนี้ยังไม่แน่ว่า เฟอร์กี้ จะส่ง ดาบิด เด เคอา หรือ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด เฝ้าเสา แต่คาดว่ารายแรกจะมีภาษีดีกว่า ส่วน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่ไม่ได้เล่นเกมกลางสัปดาห์น่าจะเป็นตัวจริงแทน จอนนี อีแวนส์

แดนกลาง พอล สโคลส์ กับ ไมเคิล คาร์ริค ยังน่าจะออกสตาร์ตโดยมี ไรอัน กิกส์ สอดแทรก

แนวรุกคาดว่า อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ชินจิ คางาวะ และ หลุยส์ นานี จะทำเกมอยู่หลัง โรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่เป็นหน้าเป้า โดยมี แดนนี เวลเบ็ค หรือฮาเวียร์ เอร์นานเดซ “ชิชาริโต” สอดแทรกลงเล่น



11 ตัวจริงที่คาดของแมนฯ ยูไนเต้ด

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริช เอวรา – พอล สโคลส์, ไมเคิล คาร์ริค – อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ชินจิ คางาวะ, หลุยส์ นานี – โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

คีย์แมนของเกม : หลุยส์ ซัวเรซ



แม้ว่าจะถูกวิจารณ์เรื่องการใช้โอกาสเปลือง แต่เกมนี้ซัวเรซยังเป็นจุดสำคัญที่จะตัดสินเกมให้กับเจ้าถิ่น แม้ยามลงเล่นในสนามอื่นๆ อาจจะเผชิญกับเสียงโห่ และเกมนี้ต้องถูกจับตามองตั้งแต่ก่อนเกมเริ่ม แต่ถ้าควบคุมให้เป็นพลังบวกได้ ซัวเรซ ยังมีความสำคัญต่อเกมนี้มากที่สุด

รูปเกมที่คาด

ใครได้ประตูก่อนจะเป็นฝั่งที่ครองบอลได้น้อยกว่า!!! นี่ดูเหมือนจะเป็นลักษณะของเกมแดงเดือดหลายปีหลัง แต่ในรูปเกมที่เจอกัน อย่างไรก็ตามนัดนี้เล่นในแอนฟิลด์ เชื่อว่าโดยส่วนใหญ่ลิเวอร์พูลจะครองบอลได้มากกว่า เพียงแต่จะสร้างโอกาสได้มากกว่าหรือไม่? ยังเป็นเรื่องน่าสงสัยอยู่พอสมควร เกมนี้สองทีมจะพยายามชิงจังหวะ เล่นผิดพลาด และเสี่ยงน้อยที่สุด เกมนี้จะต้องเล่นให้เนี๊ยบจริงๆ แต่ความกดดันในเกมอาจจะก่อให้เกิดความผิดพลาดได้อยู่ดี

จุดตัดสินเกม

หวังว่าเกมนัดนี้จะไม่มีการตัดสินด้วยไลน์แมนหรือผู้ตัดสิน!!! เราเห็นในเกมยูฟา แชมเปียนส์ลีก นัดชิง 2 ครั้ง ที่บอลอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด เสร็จสไตล์การเล่นแบบบาร์เซโลนา อย่างไรก็ตามลิเวอร์พูลยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น หากเกิดความผิดพลาดเพียงนิดในจังหวะจ่ายบอลอาจจะเสียหายถึงการตัดสินผลการแข่งขัน อย่างไรก็ตามบอลรูปแบบนี้แมนฯ ยูไนเต็ดไม่ค่อยชอบ พวกเขาอยากเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า หากทีมไหนชิงจังหวะแดนกลางได้มากกว่า(ไม่จำเป็นต้องครองบอลมากกว่า) ก็มีโอกาสเก็บ 3 แต้มได้

http://www.lovelfc.c...ไนเต็ด23092012/

เหมือนเดิมครับ PM มานะครับ ส่งลิ้งค์ให้หลังไมค์ครับ

Edited by greeenday, 22 September 2012 - 14:27.

[greeenday]

เจอร์ราร์ด : มาชนะเกมใหญ่เกมนี้ให้จงได้

วันนี้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ได้เปิดเผยความมุ่งมั่นตั้งใจของเขาที่จะช่วยให้ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยการเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในสุดสัปดาห์นี้ให้ได้ ซึ่งเกมนี้เป็นเกมที่เขายืนยันว่า เป็นเกมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกมหนึ่งในโลกฟุตบอล




ลิเวอร์พูลซึ่งต้องลงทำศึกกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในวันอาทิตย์นี้ ยังคงค้นหาชัยชนะนัดแรกในลีกของฤดูกาล 2012-2013

อย่างไรก็ตาม เจอร์ราร์ดยืนยันว่า ลิเวอร์พุลจะแสดงให้เห็นว่า ทีมของเขามีดีพอ และอีกไม่นานที่พวกเขาจะสามารถติดเครื่องได้สำเร็จ และเชื่อว่า ด้วยแรงเชียร์ในแอนฟิลด์ที่หนุนหลังพวกเขาอยู่พวกเขาสามารถที่จะคว้า 3 แต้มในการแข่งขันกับยูไนเต็ดได้

“สำหรับผม มันเป้นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะพรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลก และเพราะเราทั้งสองทีมต่างเป้นสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด”

“ผมไม่ได้อคตินะที่พูดแบบนั้น ผมคิดว่า ลิเวอร์พูล ปะทะ แมนยู คือเกมที่ใหญ่ที่สุด บางที บาร์ซากับมาดริดก็ใกล้เคียง แต่สำหรับผมแล้ว มันยังคงเป็นคู่ลิเวอร์พูลกับแมนยู”

“มันเป็นเกมที่หนักมาก เราตั้งตารอคอยชัยชนะแรกในลีกในฤดูกาลนี้ของพวกเรา และมันไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเริ่มเก็บชัยชนะจากเกมนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถคว้าชัยชนะและขยับตำแหน่งในตารางคะแนนได้ เพราะการเริ่มต้นฤดูกาลของเรามันน่าผิดหวังจริงๆ”

ลิเวอร์พูลเพิ่งเก็บได้เพียง 2 แต้มจาก 4 เกมลีกของพวกเขา

ฟอร์มการเล่นที่ห้าวหาญกับแมนเชสเตอร์ ซิตี และซันเดอร์แลนด์ นั้นคู่ควรที่จะได้ผลตอบแทนมากกว่าผลเสมอ แต่เจอร์ราร์ดก็ยอมรับว่าลิเวอร์พูลเล่นได้แย่จริงๆในเกมที่แพ้ เวสบรอมฯ และอาร์เซนอล

“ผมคิดว่าเราเข้าใกล้ชัยชนะอย่างมาก ที่เวสบรอมฯ เราไม่ดีพอและไม่สมควรได้อะไรจากเกมนั้นจริงๆ การถูกไล่ออกเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ”

เราสู้ได้อย่างยอดเยี่ยมกับแมน ซิตี และควรชนะได้อย่างสบายๆ ที่ซันเดอร์แลนด์ ก็เช่นกัน และเราควรได้รับชัยชนะ เราควรมี 6 แต้มในตารางคะแนนของเรา”

“เราไม่สมควรได้รับอะไรในเกมกับเวสบรอมฯ และอาร์เซนอล ดังนั้น มันสำคัญที่เราต้องพยายามและควานหนา 3 แต้มให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และถ้าคุณจะหาทีมซักทีมที่คุณต้องการคว้าชัยชนะแรกในลีกในฤดูกาลนี้ แน่นอน มันต้องเป็นยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์นี้แหละ”

“ชัยชนะจะทำให้ทีมมีความเชื่อมั่นและมั่นใจที่จะก้าวไปข้างหน้า ผมไม่คิดว่าทีมนี้ห่างไกลจากความลงตัวเลย เราได้แสดงสัญญาณออกมาแล้วว่าเราเป้นทีมที่ดี และมันจะมาในไม่ช้านี้ นั่นคือสิ่งที่เราเชื่อ”

จากการต้องเผชิญหน้ากับยูไนเต็ดมาถึง 28 ครั้ง จนถึงวันนี้ เจอร์ราร์ดรู้เป็นอย่างดีถึงสิ่งที่จะทำให้ได้รับชัยชนะ และรู้สึกด้วยว่า ความผิดพลาดรายบุคคลนั้นสามารถเป็นตัวตัดสินผู้ชนะและผู้แพ้ได้เลย

“มันยากที่จะชี้นิ้วไปที่สิ่งหนึ่ง และพูดว่านั้นคือกุญแจสำคัญ (ในชัยชนะ)” เขาอธิบาย “มันเป็นสองทีมชั้นยอด ผมคิดว่ายูไนเต็ดเป็นตัวเก็ง ก็เพราะวิธีการที่พวกเขาเริ่มต้นในลีก และคุณยังชนะเกมด้วย”

“แต่ด้วยแรงเชียร์ที่หนุนหลังเราที่แอนฟิลด์ และช่วงเวลาของเกมนี้ ผมมั่นใจว่า ถ้าเราเล่นดี เราก็สามารถคว้าชัยชนะได้”

“เกมนี้มันขึ้นอยู่กับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และใครก็ตามที่ทำผิดพลาดมากที่สุด ผมคิดว่ามันจะมีความระมัดระมัดกันพอควรในช่วงเริ่มเกม และมันเป็นปกติที่ความผิดพลาดรายบุคคลจะจะชี้ผลชนะหรือแพ้ได้เลย หวังว่ามันจะไม่เกิดจากใครซักคนในทีมของเรา”

ยูไนเต็ดนั้นอยู่ที่ 2 ของตาราง ด้วยคะแนน 9 แต้มจาก 4 นัด

อย่างไรก้ตาม พวกเขาเริ่มต้นฤดูกาลด้วยการแพ้ 1-0 ต่อเอฟเวอร์ตัน และเจอร์ราร์ดรู้สึกว่าแผนการเล่นในนัดนั้นของเอฟเวอร์ตัน สามารถนำมาซึ่งผลชนะได้

“เอฟเวอร์ตันเล่นบีบเกมสูง และแฟนๆต่างก็หนุนหลังพวกเขา ซึ่งนั่นทำให้พวกเขามีแรงฮึดที่ยิ่งใหญ่ ถ้าเราสามารถทำเช่นนั้น บวกกับแรงเชียร์ที่หนุนหลังเรา เล่นด้วยจังหวะเกมของเรา มันจะทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องเล่นจากแดนหลัง และนั่แหละที่เราจะสามารถกดดันฝ่ายตรงข้ามให้เกิดข้อผิดพลาด”

“เราจำเป็นต้องใช้มันให้เกิดประโยชน์ และคว้าโอกาสของเรา ผมไม่คิดว่ามันจะมีโอกาสมากมายนักหรอกในเกม ดังนั้น เราต้องพร้อมฉวยโอกาสเมื่อมันผ่านเข้ามา”

เจอร์ราร์ดจะลงเล่นในเกมสุดสัปดาห์นี้ โดยได้พักมาจากเกมยูโรปา ลีกส์ กลางสัปดาห์ทซึ่งลิเวอร์พูลออกไปเยือนยังบอยส์ที่สวิสเซอร์แลนด์

มิดฟิลด์วัย 32 ปี รู้สึกว่าฟอร์การเล่นโดยส่วนตัวของเขายังไม่เข้าที่เข้าทางกับแบบแผนของทีมในฤดูกาลนี้นัก แต่ก็มั่นใจว่าเขาจะกลับมาสู่ฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาในไม่ช้านี้

“มันก็คล้ายๆกับทีมนะ ผมเล่นได้ดีในเกมกับแมนซิตี และที่ซันเดอร์แลนด์ แต่เล่นแย่ในเกมกับอาร์เซนอล และเวสบรอมฯ ฟอร์มของผมก็เหมือนกับทีมนั่นแหละ มันต้องปรับปรุงอีก แต่ไม่มากนักหรอก”

“ผมเล่นใน 2 ตำแหน่งที่แตกต่างกัน ดังนั้นผมต้องพยายาม และปรับเปลี่ยนไปตามบทบาทที่ผู้จัดการทีมต้องการจากตัวผม บทบาทที่เขาให้ผมเล่นในเกมกับซันเดอร์แลนด์นั้นเหมือนกับที่ผมเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ ดังนั้นผมเลยค่อนข้างสบายๆกับมัน”

เมื่อถามถึงข้อความที่อยากจะบอกแฟนบอลลิเวอร์พูล กับเกมวันอาทิตย์นี้ เจอร์ราร์ดตอบว่า

“ส่งเสียงให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหนุนหลังพวกเรา”

“พวกเขาตั้งใจจะเป็นส่วนหนึ่งในเกมวันอาทิตย์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นักเตะทุกคนจะสามารถเล่นในระดับของเรา และมันสามารถกลายเป็นวันอันสุดแสนมหัศจรรย์ที่ทุกคนจะสามารถจดจำได้ และพวกเราสามารถทำให้ดีที่สุดเพื่อพวกเขา”

ที่มา : เว็บทางการ
แปลโดย : howk_ky
http://www.lovelfc.com/blogs/2012/09/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89/

[greeenday]

เชลวีย์ : ผมอยากลงซัดยูไนเต็ดเต็มแก่แล้ว




จอนโจ เชลวีย์ หวังว่าการเหมาซัดสองประตูของเขาในชัยชนะเหนือยังบอยส์เมื่อคืนวันพฤหัสที่ผ่านมา จะทำให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส มั่นใจยิ่งขึ้นกับการเลือกเขาลงสนามทำศึกบิ๊กแมทช์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในสุดสัปดาห์นี้

นักเตะวัย 20 ลุกจากม้านั่งข้างสนาม ลงไปทำสองประตูด้วยการยิงที่เด็ดขาดสุดๆ บนชัยชนะ 5-3 ในฟุตบอลยูโรปาลีกที่สวิตเซอร์แลนด์

และตอนนี้เชลวีย์ก็กำลังหวังว่าตัวเขาจะได้ลงเล่นในเกมถัดไปที่ชวนให้น้ำลายสอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็อ ในวันอาทิตย์นี้

“ผมหวังว่าผมจะมีโอกาสได้ลงเล่นในวันอาทิตย์นี้นะ” เชลวีย์บอก “ผมไม่รู้หรอกว่าบอสของเราคิดอย่างไรบ้างกับเกมนี้ แต่ว่าตั้งแต่เขามาเป็นบิ๊กบอสที่นี่ มันยอดเยี่ยมมาก ผมมีความสุขสุดๆไปเลยล่ะ”

“เขาให้โอกาสผมมาตลอด และผมก็หวังว่าการที่ลุกจากม้านั่งสำรองและทำได้ถึงสองประตูเมื่อคืนนี้ จะเป็นการตอบแทนเขาได้อย่างดีเลยนะ”

“แต่คงไม่มีเกมไหนจะยิ่งใหญ่ไปกว่า การที่ได้ลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปอีกแล้ว มันเป็นความฝันของผมเชียวล่ะ”

“บรรยากาศในแอนฟิลด์มันน่าตื่นเต้นมากๆ และผมก็ต้องการมีส่วนร่วมไปกับมันนะ”

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เลือกที่จะส่งนักเตะวัยรุ่นลงสนามที่เบิร์น ซึ่งเป็นการประเดิมการลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสรทั้ง ซูโซ และ อังเดร วิสดอม ด้วย

“ผมผิดหวังนะที่ต้องเริ่มเกมด้วยการเป็นตัวสำรอง ซึ่งพอผมถูกเปลี่ยนลงสนาม มันทำให้เกิดแรงผลักดันสุดๆในตัวผมเลยล่ะ มันยอดเยี่ยมมากที่ทำได้สองประตู และคว้าชัยชนะให้กับทีม มันเป็นการเริ่มต้นที่ดีของเราเลยในกลุ่มนี้”

“แน่ล่ะว่าเจ้านายไม่พอใจหรอกที่เราเสียถึงสามประตูในการเล่นเป็นทีมเยือน แต่ผมคิดว่าเราก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทีมเราก็ยิงประตูได้มากเช่นกัน”

“แฟนบอลต่างก็มองว่านี่คือจุดอ่อนของเรา แต่นักเตะทุกคนต่างก็พยายามกันอย่างเต็มที่แล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ทุกครั้งแหละที่คุณได้ลงเล่นให้กับสโมสร”

“พวกเราทุ่มเทกัน 100 เปอร์เซ็นต์ และผมก็คิดว่ามันเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของนักเตะวัยรุ่นของเราทุกคน โดยเฉพาะๆเด็กๆอย่าง ซูโซ และ อังเดร วิสดอม”

แปลและเรียบเรียง : ติ่มซำรำพึง
ที่มา : เว็บทางการ
http://www.lovelfc.com/blogs/2012/09/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%87%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7/

[greeenday]

เช็คฟิตล่าสุด!!! โคลและลูคัส




วันนี้ แบรนเดน ร็อดเจอร์ส ออกมาอัพเดตความฟิตของโจ โคล และลูคัส เลวา

โคลยังไม่ได้ลงเล่นให้กับลิเวอร์พูลอีกเลยตั้งแต่บาดเจ็บเอ็นร้อยหวายในเก

มพรีเมียร์ ลีก นัดเปิดฤดูกาล กับเวสบรอมวิช อัลเบียน แต่ร็อดเจอร์สยืนยันว่าเขาสามารถกลับมาซ้อมได้แล้วในตอนนี้

ในขณะที่ลูคัสยังคงไม่สามารถกลับมาลงเล่นให้กับทีมได้หลังจากร่ายกายฟิตขึ้นจากอาการบาดเจ็บเมื่อเดือนที่แล้ว แม้ว่าร็อดเจอร์สจะพอใจกับความก้าวหน้าในการฟื้นฟูร่างกายของเขาก็ตาม

ร็อดเจอร์สบอกกับทาง Liverpoolfc.com ว่า “โจกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว เขายังต้องการเวลาอีกสักหน่อยก่อนที่เขาจะกลับมาลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ได้”

“เขาไม่ได้ลงเล่นมาสักพักแล้ว เขาจึงต้องใช้เวลาอีกสัก 2-3 สัปดาห์ ในการซ้อมและลงเล่นให้กับทีมสำรองสัก 1-2 เกม ก่อนที่เราจะพิจารณาให้เขากลับมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่”

“ลูคัสฟื้นฟูร่างกายได้ดีมาก เขาทำกายภาพทุกวัน เขาทำงานอย่างหนักร่วมกับทีมแพทย์”

“เขาทั้งคู่ทำได้ดีจริงๆ”

ที่มา : เวปทางการ
แปล : หมอก ม่าน สายฝน
http://www.lovelfc.com/blogs/2012/09/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B9%87%E0%B8%84%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%AA/

[greeenday]

ผล EPL เมื่อคืนนี้















โปรแกรมคืนนี้



แช่งบางทีมไม่สำเร็จแฮะ

[Lucas Leiva Benitez Rodger]

วันนี้ที่รอคอย ขอประเดิมชัยชนะนัดแรกใน EPL ก็แล้วกันนะครับ

ส่วนจะทำได้มั้ย ต้องลุ้นกันยาวๆ แต่ถ้าโดนเร็วก็ตัวใครตัวมันนะครับ อิอิ

11 ตัวจริงลิเวอร์พูลที่คาด

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : โฆเซ เรนา – มาร์ติน เคลลี, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนียล แอ็กเกอร์, เกล็น จอห์นสัน – สตีเวน เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน, จอนโจ เชลวีย์, – ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟาบิโอ บอรินี

ผมว่าบอรินี่กับซัวเรสเล่นไม่ค่อยเข้าขากันเท่าไหร่ครับ อยากเห็นซูโซ่ลงแทนบอรินี่

ไม่ก็เจิดไปเลย (ถ้าเล่นไม่ออกนะครับ)

ปล. อยากเห็นสกอร์ 4-3 5-3 บ้างครับ ไม่ค่อยเห็นหงส์ชนะสกอร์แบบนี้บน EPL มานานแล้ว

Edited by Lucas Leiva Benitez, 23 September 2012 - 12:17.

[Lucas Leiva Benitez Rodger]

ขอเจิมเอาฤกษ์เอาชัยก่อนนะ ตัดไม้ข่มนาม อิอิ (เกิดออกตรงข้าม อย่ากระทืบผมน้า อิอิ)

http://www.youtube.com/watch?v=3nUX4Gf59Uw&hd=1

[kop16]

อีก 30 นาที

เล่นไรกันดี เรา

ไม่รู้หนีตกชั้นป่าว 555

[MIRO]

ปลุกใจ

19 VS 18

http://youtu.be/6_Vt9nSRE2M

Edited by MIRO, 23 September 2012 - 19:08.

[ชาวสวน]

เกาะขอบจอ ด้วยใจระทึก

ลุ้นชนะ กับ ลุ้นให้ฟอร์มดี ยากพอๆกัน

[greeenday]

10 นาทีแรกดูดีมีสง่าราศีดีจริง

[kop16]

shelvy ใบแดง

อยู่ท้ายตารางต่อไป

[greeenday]

มันมีอะไรแปลกๆอยู่เรื่อยเลย......

[ชาวสวน]

แดงเดือดจริง..... กรรมการก็นะ มาร์ค ฮัลซี่ หงายปุ่มทั้งคู่ ใครถึงก่อนรอด ใครช้ากว่าแดง


นำแล้ว ได้เวลาอุด ซึ่งมักจะทำให้ลุ้นทุกนาทีจากนี้ไป

[kop16]

เสมอใล้ว

[Lucas Leiva Benitez Rodger]

เวรกรรมจริงๆ แพ้ 2-1 ทั้งๆที่เล่นดีกว่า เห้อเสียดายอ่ะ ใบแดงค่อนข้างชัดเจน แต่จุดโทษเนี่ยดิ

แต่ต้องชมนักเตะเราจริงๆ เล่นดีมากๆๆๆ ดีที่สุดใน 5 นัดที่ผ่านมาเลยครับ

เสียดายจุดโทษที่ไม่น่าเสียอย่างเดียวจริงๆ

[MIRO]

ขอชื่นชมนักเตะ ลิเวอร์พูลครับ
แม้ไอโฟน 4 ยังคงไม่สามารถเห็นลำดับที่ของ ลิเวอร์พูล
แต่การเล่นด้วยฟอร์มแบบนี้ นักเตะดาวรุ่งพุ่งแร๊งแรงแบบนี้
ผมเชื่อว่า จะสามารถอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้อีก 1 ปี อย่างแน่นอนครับ

Edited by MIRO, 23 September 2012 - 22:26.

[greeenday]

หลังจบเกมส์ "‎ถ้า จอนโจ เชลวีย์ โดนไล่ออกในจังหวะนั้น จอห์นนี อีแวนส์ ก็ควรจะโดนด้วย ผมผิดหวังมากๆกับการตัดสินของกรรมการที่มองเหตุการณ์แค่ด้านเดียว" เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ให้สัมภาษณ์หลังเกม
มาดูกันชัดๆซิ



จังหวะจุดโทษบ้าง ผู้บรรยายเกมภาษาอังกฤษให้ความเห็นเรื่องจุดโทษว่า เหตุผลเดียวที่เป็นจุดโทษคือมือของจีเจที่แตะที่หลังวาเลนเซียเบาๆ



ความจริงก็ไม่ได้หาข้ออ้างสำหรับความพ่ายแพ้ในนัดนี้หรอกนะครับ เพียงแต่ฤดูกาลนี้มันมีอะไรแปลกๆในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับลิเวอร์พูลเป็นประจำ ยังไงก็แล้วแต่แพ้นัดนี้ยังไงก็คือแพ้วันยังค่ำ ขอยอมรับความพ่ายแพ้ครับ ทีมที่ดีกว่าเป็นฝ่ายแพ้แม้จะเล่นแค่ 10 คนแต่ก็โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม ยังคงสู้ต่อไปกับการหาชัยชนะนัดแรกครับ YNWA ......

[greeenday]

ขอชื่นชมนักเตะ ลิเวอร์พูลครับ
แม้ไอโฟน 4 ยังคงไม่สามารถเห็นลำดับที่ของ ลิเวอร์พูล
แต่การเล่นด้วยฟอร์มแบบนี้ นักเตะดาวรุ่งพุ่งแร๊งแรงแบบนี้
ผมเชื่อว่า จะสามารถอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้อีก 1 ปี อย่างแน่นอนครับ

อยู่อันดับ 19 ครับ นำหน้าทีมนอริช ซิตี้ที่ยังไม่ชนะใครเลยอยู่สองแต้ม และนัดหน้าต้องเจอกันเองใน EPL ครับ คำถามคือ จะชนะหรือแพ้ ?

[greeenday]

เวรกรรมจริงๆ แพ้ 2-1 ทั้งๆที่เล่นดีกว่า เห้อเสียดายอ่ะ ใบแดงค่อนข้างชัดเจน แต่จุดโทษเนี่ยดิ

แต่ต้องชมนักเตะเราจริงๆ เล่นดีมากๆๆๆ ดีที่สุดใน 5 นัดที่ผ่านมาเลยครับ

เสียดายจุดโทษที่ไม่น่าเสียอย่างเดียวจริงๆ

ผมว่าจังหวะใบแดงมัน 50-50 อะครับ คนที่พุ่งเข้ามาสองเท้ากลับลงไปนอนดีดดิ้นแล้วรอด กลับกันคนโดนไล่ออกกลับแสดงแบบเค้าไม่เป็น จุดโทษเค้าทำได้เนียนและฤดูกาลนี้หรือฤดูกาลก่อนเค้าได้จุดโทษลักษณะนี้ประจำ

Edited by greeenday, 23 September 2012 - 22:33.

[ชาวสวน]

ผลออกมาแบบนี้ เสียดายมากกว่าเสียใจ

เล่นกันได้ดีกว่าที่คาด แม้เหลือ10คน

อีกปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกนอกจากการจบสกอร์คือ เล่นกับทีมใหญ่ดี(แม้ผลจะไม่ดี) แต่แย่เมือเจอทีมเล็ก

แอกเกอร์กะเคลลี่เจ็บ คนแรกออดๆแอดๆอยู่แล้ว คนหลังจากภาพช้า ขอภาวนาว่าอย่าเจ็บหนัก ไม่งั้นหลังบ้านสะเทือน

จอนโจ้โดนแบน ขณะที่ฟอร์มกำลังขึ้น คงไม่ช๊อตไปซะก่อน สมัยก่อนเจอร์ราดก็แบบนี้

เห็นซูโช่เล่นอย่างนี้แล้ว ดาวนิ่งกลายเป็นปีกธรรมดาไปเลย

ร็อดเจอร์ กล้าคิด กล้าทำ หลายอย่างเริ่มลงตัว อยู่ที่ว่าจะเมื่อใด

[Lucas Leiva Benitez Rodger]

ขอชื่นชมนักเตะ ลิเวอร์พูลครับ
แม้ไอโฟน 4 ยังคงไม่สามารถเห็นลำดับที่ของ ลิเวอร์พูล
แต่การเล่นด้วยฟอร์มแบบนี้ นักเตะดาวรุ่งพุ่งแร๊งแรงแบบนี้
ผมเชื่อว่า จะสามารถอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้อีก 1 ปี อย่างแน่นอนครับ

ขอบคุณท่าน Miro ที่ปลอบใจเด็กหงส์อย่างเราๆ อย่างที่ท่านว่าแหละครับ ปีนี้ผมได้ดูเด็กๆเล่นกัน มีความสุขมากครับ

เห็นซูโซ่ สเตอลิ่ง อัลเลน เล่นดีมากๆแล้วชื่นใจ เคลลี่ ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ยังไม่โดดเด่นมาก

หลังจบเกมส์ "‎ถ้า จอนโจ เชลวีย์ โดนไล่ออกในจังหวะนั้น จอห์นนี อีแวนส์ ก็ควรจะโดนด้วย ผมผิดหวังมากๆกับการตัดสินของกรรมการที่มองเหตุการณ์แค่ด้านเดียว" เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ให้สัมภาษณ์หลังเกม
มาดูกันชัดๆซิ



จังหวะจุดโทษบ้าง ผู้บรรยายเกมภาษาอังกฤษให้ความเห็นเรื่องจุดโทษว่า เหตุผลเดียวที่เป็นจุดโทษคือมือของจีเจที่แตะที่หลังวาเลนเซียเบาๆ



ความจริงก็ไม่ได้หาข้ออ้างสำหรับความพ่ายแพ้ในนัดนี้หรอกนะครับ เพียงแต่ฤดูกาลนี้มันมีอะไรแปลกๆในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับลิเวอร์พูลเป็นประจำ ยังไงก็แล้วแต่แพ้นัดนี้ยังไงก็คือแพ้วันยังค่ำ ขอยอมรับความพ่ายแพ้ครับ ทีมที่ดีกว่าเป็นฝ่ายแพ้แม้จะเล่นแค่ 10 คนแต่ก็โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม ยังคงสู้ต่อไปกับการหาชัยชนะนัดแรกครับ YNWA ......

เรื่องใบแดงผมยอมรับได้ครับท่าน Greenday คือจังหวะแบบนั้นถ้าไม่แดงก็ต้องเหลืองแก่ๆแล้วครับ

เซ็งเรื่องจุดโทษดีกว่าครับ ผมว่าจังหวะมันไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ไม่น่าให้นะเอาจริงๆ

เกมส์กำลังสูสีๆอยู่ด้วย การให้จุดโทษเหมือนยืมมือฆ่ากันชัดๆ

Edited by Lucas Leiva Benitez, 23 September 2012 - 22:39.

[greeenday]

เชลวีย์ทวีตขอโทษแฟนๆ:

ผมขอโทษแฟนบอลทุกคนที่ถูกไล่ออก แต่ไม่มีทางที่ผมจะลดการเข้าบอลที่จริงจังเช่นนั้นในเกมที่สำคัญขนาดนี้ ผมขอโทษ

ผมได้ขอโทษเซอร์ อเล็กซ์ไปแล้ว เพียงแต่ที่ๆ ผมโตมา พวกเราจะไม่เรียกร้องและฟ้องให้ใครถูกไล่ออกจากสนาม

ตกลงนี่สินะเป็นสาเหตุให้เค้าเดินเข้าไปชี้หน้าด่าหมีแพนด้า

Edited by greeenday, 23 September 2012 - 22:38.

[Lucas Leiva Benitez Rodger]

กำ โพสซ้ำ

Edited by Lucas Leiva Benitez, 23 September 2012 - 22:42.

[taze]

ใบแดงแบบไม่น่าโดน เพอซี่หงายปุ่มมาน่าแดงกว่าเยอะ จุดโทษก็นะ อย่างว่าแหละเขียนบทมาแบบนี้แล้ว ถ้าใบแดงไม่อยู่ก็จุดโทษมันไป เจอแบบนี้ชนะได้ก็แปลกละครับ

[greeenday]

รับทราบครับท่าน

[Lucas Leiva Benitez Rodger]

ผลออกมาแบบนี้ เสียดายมากกว่าเสียใจ

เล่นกันได้ดีกว่าที่คาด แม้เหลือ10คน

อีกปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกนอกจากการจบสกอร์คือ เล่นกับทีมใหญ่ดี(แม้ผลจะไม่ดี) แต่แย่เมือเจอทีมเล็ก

แอกเกอร์กะเคลลี่เจ็บ คนแรกออดๆแอดๆอยู่แล้ว คนหลังจากภาพช้า ขอภาวนาว่าอย่าเจ็บหนัก ไม่งั้นหลังบ้านสะเทือน

จอนโจ้โดนแบน ขณะที่ฟอร์มกำลังขึ้น คงไม่ช๊อตไปซะก่อน สมัยก่อนเจอร์ราดก็แบบนี้

เห็นซูโช่เล่นอย่างนี้แล้ว ดาวนิ่งกลายเป็นปีกธรรมดาไปเลย

ร็อดเจอร์ กล้าคิด กล้าทำ หลายอย่างเริ่มลงตัว อยู่ที่ว่าจะเมื่อใด

เห็นด้วยครับ แอกเกอร์ขออย่าให้เจ็บมากเลย ไม่อยากเห็นคาร่า+เอนริเก้ ลงเป็นบ่อเลยให้ตายจริง

ดาวนิ่งผมว่าแกน่าจะเล่นเป็นหน้าเป้าไปเลยนะครับ เท้่าซ้ายแกยิงหนักดี เอาไว้ลงสลับซัวเรสบ้าง

วันนี้แกก็ทำหกไปเยอะ โอกาสยิ่งมีน้อยๆอยู่ด้วย

[greeenday]

เอาไว้พรุ่งนี้มาสรุปผลและตารางคะแนนกันอีกทีนะครับ วันนี้ขออนุญาตไปก่อนนะครับ มีข่าวหลังเกมส์นี้ยังไงพรุ่งนี้ Update 9.00 น. นะครับ รึมีข่าวมา Update ก็ตามสะดวกนะครับแชร์ได้เลยครับ

[greeenday]

ผลออกมาแบบนี้ เสียดายมากกว่าเสียใจ

เล่นกันได้ดีกว่าที่คาด แม้เหลือ10คน

อีกปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกนอกจากการจบสกอร์คือ เล่นกับทีมใหญ่ดี(แม้ผลจะไม่ดี) แต่แย่เมือเจอทีมเล็ก

แอกเกอร์กะเคลลี่เจ็บ คนแรกออดๆแอดๆอยู่แล้ว คนหลังจากภาพช้า ขอภาวนาว่าอย่าเจ็บหนัก ไม่งั้นหลังบ้านสะเทือน

จอนโจ้โดนแบน ขณะที่ฟอร์มกำลังขึ้น คงไม่ช๊อตไปซะก่อน สมัยก่อนเจอร์ราดก็แบบนี้

เห็นซูโช่เล่นอย่างนี้แล้ว ดาวนิ่งกลายเป็นปีกธรรมดาไปเลย

ร็อดเจอร์ กล้าคิด กล้าทำ หลายอย่างเริ่มลงตัว อยู่ที่ว่าจะเมื่อใด

เห็นด้วยครับ แอกเกอร์ขออย่าให้เจ็บมากเลย ไม่อยากเห็นคาร่า+เอนริเก้ ลงเป็นบ่อเลยให้ตายจริง

ดาวนิ่งผมว่าแกน่าจะเล่นเป็นหน้าเป้าไปเลยนะครับ เท้่าซ้ายแกยิงหนักดี เอาไว้ลงสลับซัวเรสบ้าง

วันนี้แกก็ทำหกไปเยอะ โอกาสยิ่งมีน้อยๆอยู่ด้วย

ช่วงหลังๆจะจบเกมส์เห็นกองหน้าจำเป็นด้วยนะนั่น ท่าทางจะรุ่งอยู่เหมือนกัน 555+

[greeenday]

ทรรศนะหลังเกมส์




เป็นงั้นไป

Edited by greeenday, 23 September 2012 - 22:49.

[greeenday]

ผล EPL เมื่อคืนนี้

[นายตัวเกร็ง]

เข้ามารายงานตัวฮะ เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของเด็กผีฮะ ถึงแม้จะรู้ตัวว่าทีมแมนยูจะเล่นแบบน่าแพ้ก็ตาม แต่ผลมันออกมาเป็นที่น่าพอใจ สนุกดีนัดนี้เจอกันอีกที่โรงละครแห่งความฝัน

[greeenday]

เข้ามารายงานตัวฮะ เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของเด็กผีฮะ ถึงแม้จะรู้ตัวว่าทีมแมนยูจะเล่นแบบน่าแพ้ก็ตาม แต่ผลมันออกมาเป็นที่น่าพอใจ สนุกดีนัดนี้เจอกันอีกที่โรงละครแห่งความฝัน

นอนไม่หลับเลยครับ.....ขอบอก

[greeenday]

Rodgers : เป็นการตัดสินที่มั่วมากของ นายมาร์ค ฮัลซีย์




เบรนเดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ออกโรงจวกกรรมการผู้ตัดสินนัดแดงเดือด มาร์ค ฮัลซีย์ ว่าเป็นการตัดสินได้แย่มากจนทำให้ ทีมลิเวอร์พูล ต้องแพ้ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาบ้านด้วยสกอร์ 2 - 1

เบรนเดน ร็อดเจอร์ส ได้ให้สัมภาษณ์กับ สกายสปอร์ต ว่า " ในความคิดของผม ผมคิดว่าลูกทีมของผมทุกคนเล่นได้ดี เล่นได้อย่างเต็มที่ พวกเขามีทั้งประสิทธิภาพและจิตวิญญาณของนักสู้ "




" ผมไม่พอใจเป็นอย่างมากกับการตัดสินที่แย่แบบนี้ของ มาร์ค ฮัลซีย์ เขาทำได้ไงที่ให้ใบแดงกับ เชลวี ถ้าเป็นอย่างนั้นน อีแวนส์ ก็ต้องโดนใบแดงด้วยสิ เพราะต่างคนต่างเปิดปุ่มเข้าหาด้วยกันทั้งคู่ มันเป็นการตัดสินที่แย่มาก มันไม่เป็นธรรมกับทีมของผมเลยสักนิด "

" อีกอย่างนึงที่ผมไม่สามารถที่จะยอมรับคำตัดสินได้เลยคือจังหวะจุดโทษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นจุดโทษ แล้วทำไมจังหวะที่ ซัวเรส โดนในจุดโทษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำไมถึงไม่เป่าให้ ทั้งๆ ที่จังหวะของ ซัวเรส ชัดเจนกว่าตั้งเยอะ " เบรนเดน ร็อดเจอร์ส กล่าวปิดท้าย...


ที่มา : TheSportsCampus

แปล : M.79 • www.thekop.in.th

[greeenday]

หลังเกมกับบีร็อด:ยูไนเต็ด, บอรินี และแอ็กเกอร์




เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัการทีมลิเวอร์พูลเชื่อว่าลูกทีมทำผลงานได้ดีกว่าที่ควรจะพ่ายแมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 ในแอนฟิลด์วันอาทิตย์ นอกจากนั้นยังพูดถึงอาการบาดเจ็บของ ฟาบิโอ บอรินี และแดเนียล แอ็กเกอร์ รายแรกเจ็บข้อเท้า ส่วนรายหลังเจ็บเข่า
บีร็อด กล่าวหลังเกมว่า “ฟาบิโอมีปัญหาข้อเท้าบิดรุนแรง และไม่อาจจะลงฝ่าเท้าลงเต็มฟื้นได้ ซึ่งเราจะเช็กกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ว่าเขาจะเป็นยังไงบ้าง แต่มันดูแย่ในช่วงพักครึ่ง ส่วน แดเนียล แอ็กเกอร์นั้นเราต้องรอดูกันต่อไป มันดูไม่ดีเหมือนกันกับการเจ็บที่เข่าของเขา และต้องใช้การปฐมพยาบาลก่อนรอดูว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเอ็นหรือไม่ แต่เราต้องรอดูใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า และเช็กอีกครั้งในวันพรุ่งนี้”
เกี่ยวกับการแข่งขัน ร็อดเจอร์ส กล่าวถึงจังหวะใบแดงที่จอนโจ เชลวีย์ ปะทะกับ จอนนี อีแวนส์ ของทีมเยือน และการเสียจุดโทษปริศนาใน 14 นาทีสุดท้ายว่า “ผมรู้สึกขมขื่นมากกับผลการแข่งขัน ผมคิดว่าทีมที่ดีกว่าตกเป็นผู้แพ้ในเกมนี้ เราคุมเกม และผมคิดว่านักเตะ และทีมเล่นกันได้โดดเด่น”
“แต่สิ่งที่เราควบคุมไม่ได้คือการตัดสินหลายๆ ครั้งของกรรมการ”
“เราผิดหวังอย่างน่าขมขื่นที่มันไม่เป็นไปตามแนวทางอย่างที่เราต้องการในวันนี้ แต่สำหรับฟอร์มการเล่นผมคิดว่านักเตะของเราทำได้อย่างโดดเด่น”
“ในเกมการแข่งขันเราทำได้เหนือกว่า แม้จะเหลือนักเตะแค่ 10 คน แต่มันไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น”
“ถ้าจอนโจ เชลวีย์ได้ใบแดงอย่างนี้ จอนนี อีแวนส์ ก็น่าจะถูกไล่ออกด้วย ถ้าเราดูภาพช้า ถ้าจอนโจถูกไล่ออกจากสนามแบบนั้น อีแวนส์ก็ควรจะถูกไล่ออกมาเหมือนกัน มันเป็นการเข้าสกัดของเรา และนักเตะของแมนฯ ยูไนเต็ดก็พุ่งเข้าหาเหมือนกัน แต่กลายเป็นว่านักเตะลิเวอร์พูลถูกไล่ออก และนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดกลับได้อยู่ในสนามต่อ”
“ผมคิดว่ามันเ็ป็นการตัดสินที่โคตรเลวร้ายมากๆ และตลดทั้งเกมคงได้เห็นว่ามันสวนทางกับเรา หลายๆ ครั้งในการตัดสินมันเล่นงานแต่ฝั่งเรา และ(การถูกไล่ออก)นั่นเปลี่ยนโฉมของการแข่งขันสำหรับเราอย่างร้ายแรง”
“ผมคิดว่าทุกๆ คนคงเห็นว่ามันไม่มีทางเป็นจุดโทษแน่ เกล็น จอห์นสันอุตส่าห์แย่งบอลได้อย่างมหัศจรรย์ และผมไม่รู้ว่าทำไมตอนนั้น วาเลนเซีย ล้มลงไปได้(สงสัยผีผลัก ผู้แปล) มันไม่มีทางเป็นจุดโทษ และตอนเท้าหลุยส์ ซัวเรซ ที่โดนมากกว่าจากกองหลังหลายๆ คนกลับไม่ได้จุดโทษ”

“สิ่งที่ช่วยเราในวันนี้คือผู้ชมมันเป็นปรากฎการณ์ที่ทุกอย่างไปในแนวทางที่เหมาะสม ผมคิดว่าพวกเขาเคารพ และยินดีกับสิ่งที่เราพยายามจะทำ แต่การตัดสินหลายๆ ครั้งไม่ได้เข้าทางเรา ผมแน่ใจ”
แม้ว่าจะได้แค่ 2 แต้มจาก 5 นัดแรก แต่ร็อดเจอร์ส ยังมั่นใจว่าทีมเดินมาถูกทาง

“ผมจำอาร์เซนอลปีที่แล้วไ้ด้ที่เริ่มต้นไม่ดี ผมคิดว่าฟอร์มการเล่นสำคัญมากทุกๆ คนจะเห็นการเติบโตร่วมกันของทีม มีนักเตะหนุ่มๆ เรียนรู้สไตล์การเล่นของทีม ผมคิดว่าเรากำลังเห็นมัน และทุกอย่างเป็นไปในทางบวกยิ่งตลอดสองสัปดาห์หลัง”

“ทุกอย่างชัดเจนว่ากำลังเติบโต และผมรู้สึกได้ความมั่นใจขึ้นมาก เราจะต้องกลับมาเปลี่ยนแปลงโชคชะตะในเร็วที่สุด และเราจะชนะติดต่อกันหลายๆ เกม และเมื่อเราทำได้ผมเชื่อมั่นว่าเราจะโบยบิน”

บีร็อดยังกล่าวถึงนักเตะหนุ่มๆ ว่า “ฟาบิโอถูกเปลี่ยนออก และซูโซลงแทน และผมคิดว่าคุณคงเห็นว่ามันน่าตื่นตาเพียงใด เรามีกลุ่มเด็กๆ ที่เต็มไปด้วยความหวังที่จะก้าวขึ้นมาในไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจจะต้องรอดูนักเตะที่บาดเจ็ฐ แต่ในแง่นึงมันเป็นโอกาสให้นักเตะหนุ่มลงเล่น และทำผลงานได้ดี”

ก่อนเกมมีการรำลึกถึงผู้จากไปในโศกนาฏกรรม ที่ฮิลสโบโร 96 ชีวิต ที่เอียน รัช กับเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน นำธงลงสนามด้วยกันซึ่ง ร็อดเจอร์ส กล่าวถึงเรื่องนี้วา “ผมทำงานร่วมกับเอียน อายร์ และการสรรเสริญผู้เสียชีวิตครั้งนี้ที่ผมมีส่วนเป็นครั้งแรกมันมหัศจรรย์มาก ซึ่งผมกล่าวตั้งแต่ก่อเกนมว่าทั้งสองทีมคือผู้นำ ทั้งสัญลักษณ์ของสโมสร และพันธะสัญญา ทั้งเรื่องคุณธรรม และสังคม มันเป็นการแสดงออกว่าเราเคารพ และผมรู้สึกได้ในวันนี้”

“ทั้งสองทีมมีความเป็นคู่ปรับกันอย่างมาก และคุณไม่ต้องการให้มันจบ เพราะนั่นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้นี่เป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลของสหราชอาณาจักร”

แหล่งข่าว : เว็บฯทางการ

แปล/เรียบเรียง : จิน อะตะมะ
http://www.lovelfc.com/blogs/2012/09/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%87%E0%B8%94-%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C/

[greeenday]

คะแนนความสามารถลิเวอร์พูล-แมนฯ ยูฯ:(1-2)

อาจจะอารมณ์ขุ่นมัวหลังเกมแดงเดือด แต่ทีมงาน LoveLFC.com ต้องทำหน้าที่ต่อไป ข้อมูลส่วนนี้เป็นทรรศนะส่วนตัวของทีมงาน อาจจะไม่ตรงกับความเห็นบางส่วนหากชอบช่วย ไลค์ แชร์ ผ่านเฟชบุก หรือแสดงความเห็นกันได้ ในอนาคตทางเว็บไซต์อาจจะมีส่วนให้คะแนนความสามารถกันครับ

ลิเวอร์พูล

โฆเซ เรนา (6/10)

- ไม่ได้มีส่วนมากมายนักในเกมนี้ และโชคร้ายที่ไม่สามารถป้องกันจุดโทษของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ได้ทั้งที่พุ่งถูกทาง โดยรวมก็ไม่ได้มีข้อผิดพลาด และไม่มีโอกาสป้องกันทั้งสองประตูในเกมนี้มากนัก
มาร์ติน เคลลี(7/10)
- ทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดีทั้งเกมรุก และเกมรับ ไม่ได้มีส่วนกับทั้งสองประตูที่เสียไป และเกือบช่วยทำประตูตีเสมอให้กับทีมได้
แดเนียล แอ็กเกอร์(5.5/10)
- ผิดพลาดจนเสียบอลให้วาเลนเซีย ก่อนที่ทีมจะเสียจุดโทษน่ากังขา และการบาดเจ็บจากจังหวะดังกล่าวทำให้ต้องออกจากสนาม โดยรวมเป็นเกมที่ทำได้ไม่ดีนัก จังหวะเข้าสกัด ราฟาเอล ห่างในจังหวะถูกตีเสมอ แม้ว่าจะเป็นการทำได้ดีของดาวเตะบราซิเลี่ยนก็ตาม
มาร์ติน สเคอร์เทล(ุ6.5/10)
- รับมือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ได้แบบไม่มีปัญหาแม้ว่าทีมจะต้องเเหลือแค่ 10 คน และไม่ก่อความผิดพลาดมากนัก แม้
เกล็น จอห์นสัน(ุ6/10)
- ทำหน้าที่โดยรวมในเกมริมเส้นด้านซ้ายได้ดี แม้จะมีส่วนกับจังหวะเสียจุดโทษสุดท้าย แต่เกมรุกด้านซ้ายหายไปพอสมควรตั้งแต่ครึ่งแรก
สตีเวน เจอร์ราร์ด(8.5/10)
- ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาล สมกับตำแหน่งกัปตันทีม และยิงประตูด้วยเท้าซ้ายสุดสวย ลงไปช่วยเกมรับได้ดี และเชื่อมเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยม
โจ อัลเลน(7.5/10)
- ช่วยแดนกลางได้เยอะมากโดยเฉพาะช่วงที่ทีมเหลือสิบคน เล่นไม่มีข้อผิดพลาด และเป็นผู้เล่นที่สม่ำเสมอที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาลของลิเวอร์พูล แม้จะไม่เด่นมากในเกมนี้ก็ตาม
จอนโจ เชลวีย์(5.5/10)

- เล่นโฉ่งฉ่างไปไม่น้อยสำหรับเกมนัดนี้ และขึ้นเกมรุกไม่ดีนัก ยังต้องการเพิ่มพูนประสบการณ์ในเกมแบบนี้ น่าเสียดายที่ได้ลงเล่นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และน่าจะอุทธรณ์ใบแดงผ่าน

ราฮีม สเตอร์ลิง(7/10)

- เป็นเกมที่เงียบกว่าหลายๆ นัดที่ผ่านมา เล่นได้วูบวาบ แต่รีบร้อนไม่น้อยในหลายจังหวะ กระนั้นก็ช่วยทีมได้ดีในช่วงเหลือสิบคน เล่นงาน ปาทริช เอวรา จนหัวหมุนในเกมนี้

หลุยส์ ซัวเรซ(6.5/10)

- ต้องลงมาช่วยแดนกลางค่อนข้างเยอะในครึ่งหลัง ทำให้ไม่อาจจะเล่นได้วูบวาบมากนัก หลายจังหวะทำได้แค่ “เกือบ”

ฟาบิโอ บอรินี(6/10)

- ได้ลงสนามเพียงครึ่งเดียวเนื่องจากทีมต้องเปลี่ยนแทกติกจากการเหลือผู้เล่นแค่สิบคน ทำให้ไม่อาจจะแสดงประโยชน์จากความขยันในเกมนี้ได้มากพอ

สำรอง

ซูโซ(7/10) น.45

- ลงมาเชื่อมเกมแดนกลางกับแนวรุกได้เป็นอย่างดี เ่เล่นได้แบบไม่เกรงศักดิ์ศรีนักเตะอาวุโสของทีมเยือน มีส่วนกับการทำประตูแรกในเกมนี้



จอร์แดน เฮนเดอร์สัน(6/10) น.66

- ลงมาในสถานการณ์ที่ทีมต้องการเก็บบอล ทำหน้าที่ได้ไม่เด่นมาก เกือบจะมีส่วนในจังหวะโต้กลับ แต่เวลาน้อยเกินไป

เจมี คาร์ราเกอร์(ไม่มีการให้คะแนน) น.80

- เวลาน้อยเกินไปในการให้คะแนนสำหรับเกมนี้ ลงมาช่วงท้ายที่ทีมต้องเล่นแค่ 9 คน

ผู้จัดการทีม
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส(8/10)
- แก้ไขทีมได้เหมาะกับสถานการณ์แล้วในเกมนี้ สั่งการ และวางแผนได้ไม่เป็นรองกุนซือทีมเยือน แต่ปัญหานักเตะบาดเจ็บทำให้ไม่มีโอกาสเปลี่ยนตัวอย่างที่ต้องการเพิ่มเติมท้ายเกม ไม่อย่างนั้นอาจจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : สตีเวน เจอร์ราร์ด

เพิ่มเติมฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด
คัดมาเฉพาะคนที่เล่นได้ดี
อันเดอร์ ลินเดการ์ด(7.5/10)
- เอ๋อในช่วงต้น แต่เซฟจังหวะสำคัญของซัวเรซ และทำให้ทีมเยือนไม่เสียประตูเพิ่ม
ราฟาเอล ดา ซิลวา(8/10)
- เล่นได้ดีที่สุดในฝั่งทีมเยือน ทั้งรุก และรับ รวมถึงทำประตูสุดสวย
ชินจิ คางาวะ(8/10)
- ทำเกมได้อย่างเฉลียวฉลาด มีส่่วนสำคัญกับประตูตีเสมอ และอันตรายทุกจังหวะสำหรับเจ้าถิ่นเมื่อยามบอลอยู่กับเท้าของนักเตะรายนี้
ปาทริช เอวรา(5/10), ริโอ เฟอร์ดินานด์(ุ6/10), จอนนี อีแวนส์(ุ6+1ตุ๊กตาทอง), อันโตนิโอ วาเลนเซีย(7.5คะแนนพุ่ง), ไรอัน กิกส์(6.5/10), ไมเคิล คาร์ริค(6/10) , นานี(5/10), โรบิน ฟาน เพอร์ซี(ุ6.5/10)
สำรอง : พอล สโคลส์(7/10), ชิชาริโต และแดนนี เวลเบ็ค(ไม่มีเวลามากพอ)
ผู้จัดการทีม
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน(7.5/10)
- เขี้ยวเหมือนเดิมเรื่องการกดดันกรรมการ แก้เกมได้ดีในครึ่งหลังอาศัยความได้เปรียบจากการเป็นผู้เล่นมากกว่าได้ดี และเปลี่ยน พอล สโคลส์ลงมาให้แดนกลางได้เปรียบ
ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซีย์+ไลน์แมน(-1/10)
- ทำให้เกมที่เดือดอย่างไม่จำเป็น ตัดสินผิดพลาดจนฝั่งทีมเยือนได้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัดในหลายจังหวะน่าจะทำได้ดีกว่านี้มาก การตัดสินใจครั้งใหญ่จากสถานการณ์ที่ตัวเองเห็นชัดไม่มากพอทำให้ส่งผลเสียหายต่อการแข่งขันของลูกผู้ชายที่มีบรรยากาศก่อนเกมทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถูกทำลายด้วยการนกหวีดของชายผู้นี้ หากเกมจบลงแบบแฟร์ๆ ไม่ว่าฝั่งไหนชนะแฟนบอลทั้งสองฝ่ายคงไม่ขัดแย้งกันแบบไม่จำเป็น จุดเริ่มต้นมาจากการทำหน้าที่ของชายคนนี้ที่ควรจะถูกลงโทษมากที่สุด เชื่อว่าเป็นเกมที่แฟนบอลทั้งสองทีมจะไม่ย้อนกลับไปดูเพราะเสียความรู้สึก

http://www.lovelfc.com/blogs/2012/09/%E0%B8%84%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%A5-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%AF-%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B8%AF1-2/

[Lucas Leiva Benitez Rodger]

เข้ามารายงานตัวฮะ เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของเด็กผีฮะ ถึงแม้จะรู้ตัวว่าทีมแมนยูจะเล่นแบบน่าแพ้ก็ตาม แต่ผลมันออกมาเป็นที่น่าพอใจ สนุกดีนัดนี้เจอกันอีกที่โรงละครแห่งความฝัน

ยินดีด้วยกับชัยชนะ 3 แต้มของแมนยูด้วยครับท่านตัวเกร็ง

แต่จะว่าไปหงส์เนี่ยโชคไม่ดีจริงๆ ตั้งแต่นัดแมนซิแล้ว นัดนั้นเสมอทั้งๆที่น่าชนะ

สเคอเทลมอบโชคให้เตเบซ นัดนี้ กรรมการก็สมนาคุณจุดโทษ+ใบแดงอีก -*-

ปีนี้หงส์แดงต้องทำบุญ 9 วัดแล้วมั้ง

คะแนนความสามารถลิเวอร์พูล-แมนฯ ยูฯ:(1-2)

อาจจะอารมณ์ขุ่นมัวหลังเกมแดงเดือด แต่ทีมงาน LoveLFC.com ต้องทำหน้าที่ต่อไป ข้อมูลส่วนนี้เป็นทรรศนะส่วนตัวของทีมงาน อาจจะไม่ตรงกับความเห็นบางส่วนหากชอบช่วย ไลค์ แชร์ ผ่านเฟชบุก หรือแสดงความเห็นกันได้ ในอนาคตทางเว็บไซต์อาจจะมีส่วนให้คะแนนความสามารถกันครับ

ลิเวอร์พูล

โฆเซ เรนา (6/10)

- ไม่ได้มีส่วนมากมายนักในเกมนี้ และโชคร้ายที่ไม่สามารถป้องกันจุดโทษของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ได้ทั้งที่พุ่งถูกทาง โดยรวมก็ไม่ได้มีข้อผิดพลาด และไม่มีโอกาสป้องกันทั้งสองประตูในเกมนี้มากนัก
มาร์ติน เคลลี(7/10)
- ทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดีทั้งเกมรุก และเกมรับ ไม่ได้มีส่วนกับทั้งสองประตูที่เสียไป และเกือบช่วยทำประตูตีเสมอให้กับทีมได้
แดเนียล แอ็กเกอร์(5.5/10)
- ผิดพลาดจนเสียบอลให้วาเลนเซีย ก่อนที่ทีมจะเสียจุดโทษน่ากังขา และการบาดเจ็บจากจังหวะดังกล่าวทำให้ต้องออกจากสนาม โดยรวมเป็นเกมที่ทำได้ไม่ดีนัก จังหวะเข้าสกัด ราฟาเอล ห่างในจังหวะถูกตีเสมอ แม้ว่าจะเป็นการทำได้ดีของดาวเตะบราซิเลี่ยนก็ตาม
มาร์ติน สเคอร์เทล(ุ6.5/10)
- รับมือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ได้แบบไม่มีปัญหาแม้ว่าทีมจะต้องเเหลือแค่ 10 คน และไม่ก่อความผิดพลาดมากนัก แม้
เกล็น จอห์นสัน(ุ6/10)
- ทำหน้าที่โดยรวมในเกมริมเส้นด้านซ้ายได้ดี แม้จะมีส่วนกับจังหวะเสียจุดโทษสุดท้าย แต่เกมรุกด้านซ้ายหายไปพอสมควรตั้งแต่ครึ่งแรก
สตีเวน เจอร์ราร์ด(8.5/10)
- ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาล สมกับตำแหน่งกัปตันทีม และยิงประตูด้วยเท้าซ้ายสุดสวย ลงไปช่วยเกมรับได้ดี และเชื่อมเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยม
โจ อัลเลน(7.5/10)
- ช่วยแดนกลางได้เยอะมากโดยเฉพาะช่วงที่ทีมเหลือสิบคน เล่นไม่มีข้อผิดพลาด และเป็นผู้เล่นที่สม่ำเสมอที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาลของลิเวอร์พูล แม้จะไม่เด่นมากในเกมนี้ก็ตาม
จอนโจ เชลวีย์(5.5/10)

- เล่นโฉ่งฉ่างไปไม่น้อยสำหรับเกมนัดนี้ และขึ้นเกมรุกไม่ดีนัก ยังต้องการเพิ่มพูนประสบการณ์ในเกมแบบนี้ น่าเสียดายที่ได้ลงเล่นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และน่าจะอุทธรณ์ใบแดงผ่าน

ราฮีม สเตอร์ลิง(7/10)

- เป็นเกมที่เงียบกว่าหลายๆ นัดที่ผ่านมา เล่นได้วูบวาบ แต่รีบร้อนไม่น้อยในหลายจังหวะ กระนั้นก็ช่วยทีมได้ดีในช่วงเหลือสิบคน เล่นงาน ปาทริช เอวรา จนหัวหมุนในเกมนี้

หลุยส์ ซัวเรซ(6.5/10)

- ต้องลงมาช่วยแดนกลางค่อนข้างเยอะในครึ่งหลัง ทำให้ไม่อาจจะเล่นได้วูบวาบมากนัก หลายจังหวะทำได้แค่ “เกือบ”

ฟาบิโอ บอรินี(6/10)

- ได้ลงสนามเพียงครึ่งเดียวเนื่องจากทีมต้องเปลี่ยนแทกติกจากการเหลือผู้เล่นแค่สิบคน ทำให้ไม่อาจจะแสดงประโยชน์จากความขยันในเกมนี้ได้มากพอ

สำรอง

ซูโซ(7/10) น.45

- ลงมาเชื่อมเกมแดนกลางกับแนวรุกได้เป็นอย่างดี เ่เล่นได้แบบไม่เกรงศักดิ์ศรีนักเตะอาวุโสของทีมเยือน มีส่วนกับการทำประตูแรกในเกมนี้



จอร์แดน เฮนเดอร์สัน(6/10) น.66

- ลงมาในสถานการณ์ที่ทีมต้องการเก็บบอล ทำหน้าที่ได้ไม่เด่นมาก เกือบจะมีส่วนในจังหวะโต้กลับ แต่เวลาน้อยเกินไป

เจมี คาร์ราเกอร์(ไม่มีการให้คะแนน) น.80

- เวลาน้อยเกินไปในการให้คะแนนสำหรับเกมนี้ ลงมาช่วงท้ายที่ทีมต้องเล่นแค่ 9 คน

ผู้จัดการทีม
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส(8/10)
- แก้ไขทีมได้เหมาะกับสถานการณ์แล้วในเกมนี้ สั่งการ และวางแผนได้ไม่เป็นรองกุนซือทีมเยือน แต่ปัญหานักเตะบาดเจ็บทำให้ไม่มีโอกาสเปลี่ยนตัวอย่างที่ต้องการเพิ่มเติมท้ายเกม ไม่อย่างนั้นอาจจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : สตีเวน เจอร์ราร์ด

เพิ่มเติมฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด
คัดมาเฉพาะคนที่เล่นได้ดี
อันเดอร์ ลินเดการ์ด(7.5/10)
- เอ๋อในช่วงต้น แต่เซฟจังหวะสำคัญของซัวเรซ และทำให้ทีมเยือนไม่เสียประตูเพิ่ม
ราฟาเอล ดา ซิลวา(8/10)
- เล่นได้ดีที่สุดในฝั่งทีมเยือน ทั้งรุก และรับ รวมถึงทำประตูสุดสวย
ชินจิ คางาวะ(8/10)
- ทำเกมได้อย่างเฉลียวฉลาด มีส่่วนสำคัญกับประตูตีเสมอ และอันตรายทุกจังหวะสำหรับเจ้าถิ่นเมื่อยามบอลอยู่กับเท้าของนักเตะรายนี้
ปาทริช เอวรา(5/10), ริโอ เฟอร์ดินานด์(ุ6/10), จอนนี อีแวนส์(ุ6+1ตุ๊กตาทอง), อันโตนิโอ วาเลนเซีย(7.5คะแนนพุ่ง), ไรอัน กิกส์(6.5/10), ไมเคิล คาร์ริค(6/10) , นานี(5/10), โรบิน ฟาน เพอร์ซี(ุ6.5/10)
สำรอง : พอล สโคลส์(7/10), ชิชาริโต และแดนนี เวลเบ็ค(ไม่มีเวลามากพอ)
ผู้จัดการทีม
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน(7.5/10)
- เขี้ยวเหมือนเดิมเรื่องการกดดันกรรมการ แก้เกมได้ดีในครึ่งหลังอาศัยความได้เปรียบจากการเป็นผู้เล่นมากกว่าได้ดี และเปลี่ยน พอล สโคลส์ลงมาให้แดนกลางได้เปรียบ
ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซีย์+ไลน์แมน(-1/10)
- ทำให้เกมที่เดือดอย่างไม่จำเป็น ตัดสินผิดพลาดจนฝั่งทีมเยือนได้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัดในหลายจังหวะน่าจะทำได้ดีกว่านี้มาก การตัดสินใจครั้งใหญ่จากสถานการณ์ที่ตัวเองเห็นชัดไม่มากพอทำให้ส่งผลเสียหายต่อการแข่งขันของลูกผู้ชายที่มีบรรยากาศก่อนเกมทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถูกทำลายด้วยการนกหวีดของชายผู้นี้ หากเกมจบลงแบบแฟร์ๆ ไม่ว่าฝั่งไหนชนะแฟนบอลทั้งสองฝ่ายคงไม่ขัดแย้งกันแบบไม่จำเป็น จุดเริ่มต้นมาจากการทำหน้าที่ของชายคนนี้ที่ควรจะถูกลงโทษมากที่สุด เชื่อว่าเป็นเกมที่แฟนบอลทั้งสองทีมจะไม่ย้อนกลับไปดูเพราะเสียความรู้สึก

http://www.lovelfc.c...ูล-แมนฯ-ยูฯ1-2/

+1 ครับ เห็นตามนั้น

Edited by Lucas Leiva Benitez, 24 September 2012 - 10:44.

[greeenday]

มารู้จักกับเจ้าหนูซ้ายธรรมชาติ Fernandez Suso






Suso มีชื่อเต็มๆว่า Jesus Joaquin Fernandez Saez de la Torre เกิดวันที่ 19 พฤศจิกายน 1993 (พ.ศ. 2536) ที่ Cadiz ประเทศสเปน สูง 176 เซนติเมตร ตำแหน่งที่ถนัดคือมิดฟิลด์ตัวรุก

Suso เริ่มต้นเล่นฟุตบอลให้กับสโมส Cadiz F.C. โดยเทรนเนอร์ของทีมที่ชื่อ Quique Gonzalez บอกกับ Goal.com ว่า Suso อยู่กับ Cadiz มาตั้งแต่อายุประมาณ 11 ขวบ (ในสัมภาษณ์บอก 4-5 ปีก่อนวันที่จะย้ายมาลิเวอร์พูล) เขาเจอ Suso ที่กำลังเล่นให้กับทีมท้องถิ่น Centro Berman หลังจากนั้น Cadiz ก็ได้พูดคุยกับครอบครัวของ Suso ให้ไปอยู่กับสโมสร และที่นั่น Suso ลงเล่นทีมชุดเล็กทุกระดับของทีม รวมทั้งทีมเยาวชนของ Cadiz และของแคว้น Andalucia ซึ่งอยู่ทางใต้ของสเปนแต่ Gonzalez เองแปลกใจที่ Suso ไม่ถูกเรียกติดทีมชาติสเปนชุด U16

Gonzalez นิยาม Suso ว่า เป็นกองกลางเท้าซ้ายพรสวรรค์ เป็นเด็กหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ยิงประตูดี มีสายตาที่เฉียบแหลมและมีการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม


Suso ในชุดของ Cadiz


แต่ถึงแม้ไม่ติดทีม U16 ของสเปน ก็มีสโมสรหลายสโมสรสนใจในตัว Suso ซึ่งก็มี Almeria, Villarreal, Sevilla ต่อด้วย 2 ยักษ์ใหญ่ในวงการฟุตบอลสเปนอย่าง Barcelona ที่สนใจเจ้าหนูรายนี้ โดยเฉพาะ Real Madrid ที่ Suso ถึงกับปฎิเสธคำชวนแต่หันมาอยู่เกาะอังกฤษแทน ซึ่ง Suso บอกว่า ตัวเขาจะไป Real Madrid แล้ว เพียงแต่ว่า Rafael Banitez ได้พูดกับเขาและบอกเขาว่า Liverpool คือสโมสรที่เหมาะสมกับเขา แล้วเขาก็เลือกที่จะมาอยู่กับ Liverpool แต่คนที่พา Suso มาอยู่กับลิเวอร์พูลจริงๆเป็น Pep Segura ซึ่งเคยทำหน้าที่เทรนเนอร์ชุดเยาวชนของหงส์แดง

Suso มาร่วมชายคา Anfield ช่วงพักซีซั่นปี 2010 แต่ตอนที่มาถึง Suso ยังไม่สามารถเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพได้ เพราะอายุยังไม่ครบ 17 ปีเต็ม ดังนั้น Liverpool จึงทำได้แค่สัญญายืมตัว และต้องรอจนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2010 จึงเซ็นสัญญานักเตะอาชีพกับ Suso



Suso ได้สวมชุดสโมสรลงสนามเกมแรกในนัดอุ่นเครื่องกับ Borussia Monchengladback ที่เยอรมัน เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2010 โดยลงไปแทน Jovanovic ในนาทีที่ 89 เกมนั้นฝั่งเจ้าบ้านเอาชนะหงส์แดงไป 1-0 และในเกมเทสติโมเนี่ยลของ Jamie Carragher เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2010 เจ้าหนู Suso ก็ได้รับเกียรติลงสนามให้กับรุ่นพี่ด้วย โดยได้ลงเล่นในนาทีที่ 78 ของเกม

ฤดูกาล 2010-11 Suso ได้ลงเล่นทั้งในทีมชุดเยาวชนและทีมสำรองของสโมสร โดยทั้งฤดูกาลลงเล่นไป 17 เกม ยิงประตูได้ 3 ประตู และฤดูกาล 2011-12 ที่ผ่านมา Suso ก็ได้ลงเล่นไป 17 เกมเช่นเดิม แต่จำนวนประตูที่ทำได้เพิ่มขึ้นเป็น 5 ประตู รวมทั้งได้ลงเล่นในทีมชุด NexGen อีกด้วย




และเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา Suso ก็ได้ลงเล่นชุดใหญ่เป็นเกมแรกในศึก Europa League ที่ออกไปเอาชนะ Young Boys 5-3 โดนลงเล่นเต็มเกมตลอด 90 นาที และล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาสดๆร้อนๆก็เป็นเกมแรกในพรีเมียร์ลีกของเจ้าหนูรายนี้ ที่สำคัญในเกมเขาผ่านบอลสำเร็จ 22 ครั้งจากบอลที่ออกเท้า 22 ครั้งเช่นกัน

สำหรับในนามทีมชาติสเปน Suso ลงเล่นมาแล้ว 3 ชุด คือ ทีมชาติสเปนชุด U17 ลงเล่นไป 5 นัด ชุด U18 3 นัด และชุด U19 ที่เขาลงเล่นไป 9 นัด ยิง 1 ประตู และชุดนี้ก็คว้าแชมป์ U19 European Championships 2012 มาครอง กับชุด U19 ซึ่ง Suso ลงเล่นทุกเกมในทัวร์นาเม้นต์นี้




Suso เคยพูดไว้ว่า "ผมหวังว่าจะได้รับโอกาสสัก 2-3 นาทีเพื่อได้แสดงให้เห็นว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้างในทีมของ Brendan Rodgers"

Suso ต้องการเวลาแค่สองหรือสามนาที แต่ที่ได้รับจากผู้จัดการทีมคือครึ่งหนึ่งของเกม นั่นแสดงให้เห็นว่า BR ก็เห็นว่าเจ้าหนูมีดี และเราคงจะได้เห็นเจ้าหนูรายนี้วาดลวดลายในเวทีพรีเมียร์ลีกอีกหลายเกมต่อจากนี้ไปแน่นอน


ข้อมูลจาก Wikipedia, Goal.com, Liverpoolfc.com
เรียบเรียงโดย KRP (krp@thekop.in.th)

[greeenday]

ว่าจะนำมาลงตั่งแต่เมื่อวานแล้วครับ แต่บอร์ดสภากาแฟร้อนแรงเหลือเกิน

พรีวิวลีก คัพ เวสต์บรอมวิช-ลิเวอร์พูล(26/09/2012)

ลีก คัพ(แคปปิตอล วัน คัพ) รอบ 3

เวสต์บรอมวิช (พรีเมียร์ลีก, 4) – ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก, 18)

คืนวันพุธที่ 26 กันยายน 2555

เวลา : 02.00 น.

สนาม : เดอะ ฮอว์ธอร์นส์

สภาพอากาศ : อาจจะตกฝนตก

อุณหภูมิสูงสุด : 15 องศาฯ, อุณหภูมิต่ำสุด : 8 องศาฯ

ผลการพบกัน 6 นัดหลังสุด

18/08/12 พรีเมียร์ลีก เวสต์บรอมวิช 3 – 0 ลิเวอร์พูล

22/04/12 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 0 – 1 เวสต์บรอมวิช

29/10/11 พรีเมียร์ลีก เวสต์บรอมวิช 0 – 2 ลิเวอร์พูล

02/04/11 พรีเมียร์ลีก เวสต์บรอมวิช 2 – 1 ลิเวอร์พูล

29/08/10 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 1 – 0 เวสต์บรอมวิช

17/05/09 พรีเมียร์ลีก เวสต์บรอมวิช 0 – 2 ลิเวอร์พูล



ผลงาน 5 นัดหลังสุดเวสต์บรอมวิช

11/08/12 ชนะ ฟอเรสต์ 2-0(เยือน) กระชับมิตร

08/08/12 ชนะ วอลซอลล์ 3-1(เยือน) กระชับมิตร

04/08/12 เสมอ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ 1-1(เยือน) กระชับมิตร

28/07/12 เสมอ บาร์นสลีย์ 0-0(เยือน) กระชับมิตร

26/07/12 ชนะ เอฟซี โคเปนเฮเกน 3-0(เยือน) กระชับมิตร



ผลงานในฤดูกาลนี้ของลิเวอร์พูล
วัน/เดือน/ปี ผลงาน รายการ

23/09/12 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2(เหย้า) พรีเมียร์ลีก
20/09/12 ชนะ ยัง บอย เบิร์นส์ 5-3(เยือน) ยูโรปา ลีก
16/09/12 เสมอ ซันเดอร์แลนด์1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
02/09/12 แพ้ อาร์เซน่อล 0-2(เหย้า) พรีเมียร์ลีก
30/08/12 เสมอ ฮาร์ตส์ 1-1(เหย้า) ยูโรปา ลีก
26/08/12 เสมอ แมนฯ ซิตี 2-2(เหย้า) พรีเมียร์ลีก
23/08/12 ชนะ ฮาร์ตส์ 1-0(เยือน) ยูโรปา ลีก
18/08/12 แพ้ เวสต์บรอมวิช 0-3(เยือน) พรีเมียร์ลีก
12/08/12 ชนะเลเวอร์คูเซน 3-1(เหย้า) กระชับมิตร
09/08/12 ชนะ โกเมล 3-0 (เหย้า) ยูโรปา ลีก
02/08/12 ชนะ โกเมล 1-0 (เยือน) ยูโรปา ลีก
28/07/12 เสมอ สเปอร์ส 0-0 (กลาง) กระชับมิตร
26/07/12 แพ้ โรมา 1-2 (กลาง) กระชับมิตร
21/07/12 เสมอ โตรอนโต เอฟซี 1-1 (เยือน) กระชับมิตร

เกร็ดที่น่าสนใจ

- ทั้งสองทีมไม่เคยเสมอกันเลยตลอด 13 เกมก่อนหน้านี้ และ 12 เกมจากจำนวนดังกล่าวทีมที่ชนะจะไม่เสียประตู

- เวสต์บรอมฯ เคยแพ้เยอะสุดในพรีเมียร์ลีกก็เจอกับลิเวอร์พูลนี่แหล่ะ เมื่อหงส์แดงบุกมาทุบ 6-0 ในเดือนเมษายน 2003 วันที่ ไมเคิล โอเวน ซัดไป 4 ลูก

- ลิเวอร์พูลแพ้แค่ 2 จาก 12 เกมลีกที่มาเยือน เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ตลอด 31 ปี

- ฤดูกาลที่แล้วเวสต์บรอมร่วงในรอบนี้ด้วยมือเอฟเวอร์ตันคู่ปรับร่วมเมืองลิเวอร์พูลจากประตูในนาทีที่ 103 ของฟิล เนวิลล์

- เวสต์บรอมชนะ 4 จาก 6 เกมหลัีงสุดทุกรายการในนั้นมีเกมถล่ม ลิเวอร์พูล 3-0 วันเปิดฤดูกาลรวมอยู่ด้วย

- เจ้าถิ่นได้แชมป์รายการนี้ในปี 1966 ก่อนเป็นรองแชมป์ในปีต่อมา ซึ่งเป็นปีเดียวที่มีการแข่งขันมากกว่า 1 นัดในเกมชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์

- ลิเวอร์พูลได้แชมป์เกมนี้ 8 สมัยมากที่สุดในเวลานี้

- สจ็วร์ต ดาวนิง เป็นแชมป์รายการนี้กับ 2 สโมสรคือลิเวอร์พูลฤดูกาลที่แล้ว และมิดเดิลสโบรช์ในปี 2004

หนังตัวอย่างคู่แข่ง

เวสต์บรอมวิช อัลเบียน มีหลายฉายา แต่ที่แฟนบอลชอบเรียกกันมากหน่อยตือ “เดอะ แบ็กกีส์” หรือทีม “ดับเบิ้ลยูบีเอ” ล้อกับเข็มขัดแชมป์มวยโลกสโมสรแห่งนี้ก่อตั้งมายาวนานในปี 1878 และเล่นในฟุตบอลลีก 3 ปีถัดมา โดยเป็นหนึ่งในทีมที่ก่อตั้งฟุตบอลลีกในปี 1888 เรียกว่าเป็นทีมยุคแรกของพรีเมียร์ลีก

เดอะ แบ็กกีส์ เคยเป็นแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษในฤดูกาล 1919–20 แต่ความสำเร็จที่น่าจดจำมากที่สุดคือการเป็นทีมแชมป์เอฟเอ คัพ 5 สมัย พวกเขาเคยอยู่ในลีกสูงสุดยาวนานระหว่างปี 1949-1973 และระหว่างปี 1986-2002 ก่อนจะใช้เวลาตกชั้นยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ และกลับมาในปี 2011–12

เวสต์บรอมวิช มีคู่ปรับร่วมถิ่นภาคกลางหลายสโมสรอาทิ แอสตัน วิลล่า แต่ที่เป็นศัตรูตัวสำคัญคือ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่เรียกว่า “แบล็ค เคาน์ตี ดาร์บี” ทีมปัจจจุบันมี เจเรมี เพียร์ซเป็นประธานสโมสร และเป็นทีมที่ดึงผู้จัดการทีมที่มีส่วนกับลิเวอร์พูลเป็นรายที่ 2 ติดต่อกันหลังจาก รอย ฮ็อดจ์สัน ที่เคยคุมทีม “หงส์แดง” ล่าสุด พวกเขาแต่งตั้ง สตีฟ คลาร์ก เข้ามาคุมทีมหลังฤดูกาลที่แล้วเขาเป็นมือขวาของ เคนนี ดัลกลิช ในทีมหงส์แดง

ความพร้อมคู่แข่งล่าสุด

สตีฟ คลาร์ก กุนซือเดอะ แบ็กกีส์ใช้ตัวสำรองในเกมถล่ม โยวิล 4-2 ในรอบที่แล้ว เกมนี้แม้ว่าจะเจอกับลิเวอร์พูล แต่เชื่อว่าคงจะหมุนเวียนนักเตะหลายตำแหน่งแน่ เพราะรู้ดีว่าทีมเยือนก็คงจัดทัพเด็กลงเล่นเช่นกัน

ล่าสุดทีมของคลาร์กเฉือนชนะ เรดดิง 1-0 ในลีก รั้งอันดับ 4 ของตารางคะแนน ผลงานยอดเยี่ยมมาก แต่เกมนี้นักเตะที่ชวดแน่ คือ ปีเตอร์ โอเด็มวิงกีกองหน้าตัวเก่งชาวไนจีเรียนยังติดโทษแบนเป็นเกมที่ 3 นัดสุดท้ายหลังถูกไล่ออกตั้งแต่เกมกับฟูแลม ส่วน เจมส์ มอร์ริสัน และเจอโรม โธมัสที่เจ็บขาทั้งคู่คงได้่พักไป รายของ โกรัน โปปอฟ ยังไม่สมบูรณ์ก็น่าจะไม่ได้เล่นต่อเช่นกันกับ สตีเฟน รีด ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าจากเกมที่เจอกันในลีกเดือนที่แล้วยากจะฟิตทัน

ไล่ตำแหน่งต่อตำแหน่ง โบอาซ มายฮิลล์ จได้เฝ้าเสา ในเกมนี้ แบ็กขวาน่าจะเป็น บิลลี โจนส์ ช่วงที่รีดไม่ฟิต ตำแนห่งอื่นๆ ในแนวรับ แกเร็ธ แม็คออลีย์, โยนาส โอลส์สัน และ เลียม ริดจ์เวลล์เป็นตัวยืน แต่อาจจะปรับใช้ กาเบรียล ทามส, เคร็ก ดอว์สัน หรือกอนซาโล ฮารา ลงมาบ้าง

แดนกลาง ยาสซีน เอล กานาสซี่ คงได้สอดแทรกลงเล่นกับกลุ่มตัวหลัก โดย มาร์คุส โรเซนเบิร์ก กองหน้าตัวใหม่น่าจะได้โอกาสในเกมนี้ เช่นเดียวกับเชน ลอง กองหน้าไอร์แลนด์จะกลับมาเป็นตัวจริง

11 ตัวจริงเวสต์บรอมวิชที่คาด

เวสต์บรอมฯ (4-2-3-1) : โบอาซ มายฮิลล์ – บิลลี โจนส์, กาเบรียล ทามาส, เคร็ก ดอว์สัน, กอนซาโล ฮารา – ยุสซูฟ มูลุมบู, ยาสซีน เอล กานาสซี -โซลตาน เกรา, มาร์คุส โรเซนเบิร์ก, คริส บรันต์ – เชน ลอง

ความพร้อมของลิเวอร์พูล

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือลหงส์แดงเจอปัญหาเพิ่มเมื่อ มาร์ติน เคลลี, แดเนียล แอ็กเกอร์ และฟาบิโอ บอรินี มาเจ็บจากเกมล่าสุดที่พ่ายในแอนฟิลด์ต่อแมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 แบบสุดซวย โดย จอนโจ เชลวีย์จะเริ่มใช้โทษแบน 3 นัดตั้งแต่เกมนี้ด้วย

อย่างไรก็ตามคาดกันได้อยู่แล้วว่าเกมนี้ บีร็อด จะจัดสำรอง และดาวรุ่งลงเล่น คาดว่านักเตะหลักจากเกมยูฟา ยูโรปา ลีก ที่บุกชนะยัง บอย เบิร์นส์ 5-3 จะได้ทำหน้าที่ คาดว่า สตีเวน เจอร์ราร์ด กับหลุยส์ ซัวเรซ คงได้พักไป เช่นเดียวกับขาประจำตัวจริงที่เหลือ

แนวรับเป็นไปได้เหมือนกันที่แจ็ค โรบินสันจะได้เล่นด้านซ้ายแทนที่จะเป็น โฆเซ เอ็นริเก เนื่องจากเคลลีพักยาวทำให้อาจจะเก็บแบ็กสแปนิชไว้เล่นสุดสัปดาห์มากกว่า ส่วนคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ เซบาสเตียน โกอาเตส กับ เจมี คาร์ราเกอร์จะเป็นตัวยืน สอดแทรกด้วย แดนนี วิลสัน ที่มีชื่อเป็นสำรองในเกมยุโรปด้วย แต่แบ็กขวาไม่น่าจะหนีจากอังเดร วิสดอม ที่ำทำได้ดีในเกมยุโรป

แดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นูริ ซาฮิน และ ซูโซ มีแววได้เล่นร่วมกัน ตัวรุกริมเส้น อุสซามา อัสไซดี กับ สจ็วร์ต ดาวนิง คงได้ทำหน้าที่ แต่หน้าเป้าตรงกลาง ซาเหม็ด เยซิล อาจจะเซอไพรซ์ลงเล่น มี อดัม มอร์แดน และดานี ปาเชโก ชิงลงสนาม

11 ตัวจริงลิเวอร์พูลที่คาด

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : แบร็ด โจนส์ – อังเดร วิสดอม, เซบาสเตียน โกอาเตส, เจมี คาร์ราเกอร์, แจ็ค โรบินสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นูริ ซาฮิน, ซูโซ -อุสซามา อัสไซดี, ซาเหม็ด เยซิล, สจ็วร์ต ดาวนิง

คีย์แมนของเกม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

การจัดทัพให้สมดุลกับการลงสนามต่อเนื่องหลายรายกาสรมีความสำคัญอย่างมาก หากบีร็อดเด็ดขาดพอก็ไม่จำเป็นต้องส่งตัวหลักทำหน้าที่เลย เชื่อว่าไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไรแฟนบอลหงส์แดงคงพอใจหากกล้าจัดเด็ก และเล่นเกมรุก

จุดตัดสินเกม

ความเร็วของเกมมีความสำคัญอย่างมาก หากลิเวอร์พูลเล่นในจังหวะที่เร็วแต่ไม่เร่งจนเกินไปในแบบที่กลุ่มดาวรุ่งคุ้นเคยมากกว่า มีโอกาสทะลุทะลวงทำประตูเจ้าถิ่น

รูปเกมที่คาด

ไม่ง่ายที่ลิเวอร์พูลจะบุกมาครองบอลมากกว่าในเกมแบบนี้ที่คาดว่าเจ้าถิ่นจะส่งแข้งที่มีประสบการณ์โดยรวมมากกว่า อย่างไรก็ตามเด็กดาวรุ่งหงส์แดงแสดงให้เห็นในเกมยุโรปมาแล้ว และถ้ากล้าเล่นแบบไม่กลัว นักเตะตัวสำรองแม้ชื่อชั้นจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็พร้อมเปลี่ยนแปลงเกมได้ แม้เล่นนอกบ้านแต่หงส์แดงมีลุ้นล้างตา

ได้เวลาเอาคืน รึจะถูกย้ำแค้น

[ชาวสวน]

ได้นอนดึกอีกแล้วคืนนี้ แถมต้องหาลิ๊งค์ดู เพราะไม่มีกล่องจีเอ็มเอ็ม

ในช่วงนี้ ดูชุดเด็ก แล้วตื่นตาตื่นใจดีแท้

[kop16]

พวกอำมาตย์ กรุณาอย่าดูถูก เสื้อแดง

[greeenday]

ได้นอนดึกอีกแล้วคืนนี้ แถมต้องหาลิ๊งค์ดู เพราะไม่มีกล่องจีเอ็มเอ็ม

ในช่วงนี้ ดูชุดเด็ก แล้วตื่นตาตื่นใจดีแท้

ถ้าจะดูคืนนี้มาแชร์ Link กันนะครับ ส่วนตัวผมจะดูทุกนัดในฤดูกาลนี้ครับ