เอามาต่อจากเมื่อวานครับ
บทความต้อนรับการกลับมาของลูคัส แทคติคที่เติมเต็ม Analysis: The impact of Lucas’ return on Joe Allen By : Sami Faizullah ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขวัญใจเดอะค็อปอย่าง ลูคัส เลว่า ได้ลงเล่นร่วมกับน้องๆในU21เพื่อเรียกความฟิต หลังจากที่หายหน้าหายตาไปทำหน้าที่แมวมองชั่วคราว พร้อมด้วยอาการบาดเจ็บในเกมส์กับเรือใบในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ในอีกช่วงหนึ่งถึงสองสัปดาห์ข้างหน้านี้เราจะได้เห็นมิดฟิลด์วัย25คนนี้กลับมาลงเล่นในทีมชุดใหญ่อีกครั้ง.
BR มีผู้เล่นแผงกลางเยอะแยะมากมายจนบางครั้งต้องแบ่งหน้าที่อื่นๆให้ทำบ้าง เช่น โยกไปเล่นเป็นแบ๊ค เอาแบ๊คมาเล่นปีก ถึงแม้นจะมีสิทธิลองทีมได้อย่างอิสระ แต่กับผู้เล่นที่รับหน้าที่มิดฟิลด์ตัวตัดเกมส์ก็ยังมีแค่คนเดียว นั่นก็คือ ลูลู่ นั่นเอง.
ดังนั้นแล้วหวยจึงไปออกที่หนุ่มน้อยหน้ามนผู้มาใหม่อย่าง โจ อัลเลน ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นการเซ็นต์สัญญาที่ดีที่สุดในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา.
มิดฟิลด์ชาวเวลส์ผู้นี้มีผลงานเริ่มต้นที่ดีกับสีเสื้อใหม่ของเขา แต่ในเกมส์กับเชลซีที่ผ่านมาก็เริ่มทำให้เหล่าแฟนๆเริ่มจะหวั่นๆเหมือนกัน เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปว่าในเกมส์นั้นเขาเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ตอนต้นซีซั่นอัลเลนแทบจะเป็นหัวใจในแดนกลาง บอลแทบทุกจังหวะจะต้องมาฝากมาพักไว้ที่เขา แต่กับเกมส์วันนั้นทุกอย่างดูเนือยๆลงไป การครองบอลก็เลยแย่ตามไปด้วย.
อัลเลนมีผลงานที่ดีในครั้งที่เล่นอยู่กับสวอนซี เขาได้เล่นเคียงข้างกับผู้เล่นอย่าง Leon Britton และทั้งคู่ก็ได้รับคำชมมากมาย แน่นอนว่าผจก.ทีมย่อมได้อานิสงค์ไปด้วย เหล่าแฟนๆสวอนจึงรู้สึกหวั่นๆและคาดหวังว่าการย้ายทีมของร็อดเจอร์สจะไม่หนีบเอาอัลเลนไปด้วย(แต่ก็เสร็จจนได้ อิอิ)
แต่คำชมเชยที่คู่หู อัลเลนและบริทตัน ได้รับนั้น(รวมถึงการนำไปเปรียบเทียบกับ ชาบี-อิเนียสต้า)ก็เป็นการทำงานภายใต้กุนซือวัยหนุ่มอย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์สที่สวอนซี บริทตันในตำแหน่งกลางรับ และอัลเลนที่ขยับสูงขึ้นอีกนิดเพื่อเล่นเกมส์รุกแต่ก็มีบ้างที่ลงมาช่วยเกมส์รับเช่นกัน หากจะพูดกันในศัพท์ฟุตบอลสมัยใหม่คงต้องใช้คำว่า box-to-box midfielder การที่จะได้เห็นเขาวิ่งขึ้นวิ่งลงได้เต็มที่กำลังจะปรากฎแก่สายตาแฟนๆลิเวอร์พูล ดังที่ร็อดเจอร์สได้กล่าวมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ว่า
“คุณจะได้เห็นความยืดหยุ่นในการเล่นของเขา ว่าสามารถขึ้นเติมเกมส์ได้น่าดูขนาดไหน เขามีพลังในการเคลื่อนที่บริเวณกลางสนามและบริเวณFinal third ในบางจังหวะคุณจะเห็นการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจจากอัลเลน”
หลายๆคนมักจะพูดว่าคนที่ช่วยทีมทำประตูคือกุญแจไขความสำเร็จ กับบางคนก็อาจจะบอกว่าเกมส์รับที่เหนียวแน่นสิถึงจะดีกว่า เหล่านั้นล้วนเป็นความคิดเห็นส่วนตัว แต่ส่วนตัวผมเองผมคิดว่าการแบ่งหน้าที่ของกองกลางสามคนต่างหาก ที่เป็นส่วนสำคัญของทีมใดๆ หรือแทคติคใดๆก็ตาม.
ลูคัส เลว่า เป็นคนที่ถูกพูดถึงมากมายในอาชีพค้าแข้งของเขา และเป็นที่คาดหวังจากแฟนๆลิเวอร์พูล ว่าจะได้เห็นการทำงานร่วมกันในแดนกลางที่ยอดเยี่ยมเหมือนกับทีมในสมัยที่มี ชาบี อลองโซ่.
แต่ก่อนที่จะไปเจาะลึกถึงเรื่องลูคัส เราควรจะคุยเรื่อง โจ อัลเลน ให้จบกันก่อนดีกว่า.
แม้นอัลเลนนั้นจะถูกจับให้เล่นเป็นตัวตัดเกมส์ และถูกลดบทบาทในการเล่นเกมส์รุกลงไปเยอะ แต่ผลงานการส่งบอลของเขานั้นกลับฟ้องว่าเขาคือคนที่จ่ายบอลได้ขมังเวทย์ที่สุดในทีม จาก13นัดในเกมส์ลีคที่ผ่านมาอัลเลนผ่านบอลได้แม่นยำถึง 91.7% ด้วยการผ่านบอลสำเร็จ827ครั้งจากทั้งหมด902ครั้ง.
แต่ก็ยังมีเสียงนกเสียงกาพูดว่า ภายใต้ความสำเร็จนั้นเป็นการจ่ายบอลแบบ แปะคืนหลัง จ่ายไปด้านข้าง บ้างก็ว่าไร้จุดหมาย แต่ถ้าดูจากผังการจ่ายบอลของเขาจะเห็นว่า เป็นการจ่ายขึ้นหน้าถึง65% และแทบทั้งหมดเป็นการจ่ายบอลสั้นๆเท้าสู่เท้า นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมBRถึงต้องหนีบเอาเขามาด้วยเพื่อปฏิรูปการเล่นที่ลิเวอร์พูล.
รูปด้านบนเป็นผังการจ่ายบอลของอัลเลนในเกมส์เจอนอริช 96%ของการผ่านบอลได้สำเร็จ ถือว่าสูงสุดสำหรับเขาในซีซั่นนี้ เขาผ่านบอลสำเร็จ91ครั้งจากทั้งหมด95ครั้ง การจ่ายแทบทั้งหมดอยู่ในพื้นที่กลางสนาม และก็อีกเล็กน้อยที่ผ่านขึ้นหน้าเข้าในกรอบเขตโทษ.
ในเกมส์รับของอัลเลนก็ไม่น้อยหน้า เขาเล่นได้น่าประทับใจถึงแม้จะไม่ใช่ตำแหน่งถนัด จากรูปข้างล่างนี้ท่านจะเห็นถึงตัวเลขสถิติของเขา ถึงจะดูไม่ได้ดีมากนักอันเนื่องมาจากในเกมส์ช่วงไม่กี่นัดก่อนหน้านี้ แต่โดยภาพรวมแล้วถือว่าทำได้ดี.
หากเราจะเปรียบเทียบฟอร์มการเล่นของอัลเลนกับผลงานในซีซั่นที่แล้ว ตัวเลขก็จะคล้ายๆกัน(อ้างอิงตัวเลขจากเว็บทางการ
http://www.liverpool...-the-opta-stats)เขามีการผ่านบอลสำเร็จที่สวอนซีด้วยตัวเลข91.2% จากการผ่านทั้งหมด2177ครั้ง อีกทั้งยังมีตัวเลขถึง85.5%ที่ผ่านบอลในแดนฝั่งตรงข้าม เขาชนะแท็กเกิ้ลได้74.5% และดวลตัวต่อตัวผ่าน54.5%
ตัวเลขสถิติเหล่านี้มันช่างน่าทึ่งที่ได้เห็นโจเล่นได้ยืดหยุ่นมากขนาดนี้เมื่อซีซั่นก่อน.
แน่นอนว่าข่าวการกลับมาของเทพลูคัสในเร็วๆนี้ จะทำให้โลกของอัลเลนสดใสขึ้นทันที BRจะได้ใช้ศักยภาพในแผงกลางอย่างเต็มความสามารถ รูปแบบการเล่นนั้นอาจจะเข้าใกล้ tiki-taka ที่กำลังเลื่องชื่ออยู่ขณะนี้ การทำเกมส์บุกเข้ายังพื้นที่Final third(กรอบซ้าย-จุดโทษ-กรอบขวา) จะได้รับการยกระดับขึ้นอีก และซัวเรสจะถูกบรรจุในตำแหน่งที่พร้อมจบสกอร์อย่างเต็มรูปแบบ.
ร็อดเจอร์สในระบบ4-3-3 และการพลิกแพลงตำแหน่งผู้เล่นที่สามารถทำได้ตลอด อาจจะกล่าวได้ว่าร็อดเจอร์สนั้นจะวาง3แดนกลางที่ไว้ใจได้ตามแต่แทคติคในแต่ละเกมส์.
การวางลูคัสในมิดฟิลด์ตัวตัดเกมส์(Defending/Holding midfielder -DM) เพื่อทำหน้าที่หยุดยั้งการบุกของฝั่งตรงข้ามและทำหน้าที่ holding ball ไปด้วยก่อนที่เพื่อนๆในเกมส์รุกจะวิ่งไปยังตำแหน่งที่ต้องการ.
โจ อัลเลน จะรับหน้าที่ยืนสูงขึ้นอีกนิด และเล่นได้อย่างอิสระ(Central/Box-to-box midfielder -CM) เพื่อให้ตัวเขาเองเล่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พื้นที่ในกรอบสีฟ้าคือ พ.ท.รับผิดชอบของอัลเลน ในเกมส์รุกจะวิ่งเติมขึ้นช่วย-ในเกมส์รับจะวิ่งลงต่ำเพื่อช่วยลูคัส. (เป็นเหตุผลว่าทำไม ชาฮิน-เฮนโด้ ถึงต้องสลับกันลงสนามในยามนี้ บางเกมส์ต้องการปะทะหนัก บางเกมส์ต้องการโฮลด์บอล)
โจ จะขยับพื้นที่เล่นเพิ่มมากขึ้นแต่จะไม่วิ่งออกปีก การเคลื่อนที่ลักษณะนี้จะช่วยรับ-ส่งบอลได้กว้างขึ้น.
หน้าที่แรกเมื่อต้องตั้งรับสำหรับอัลเลน คือการวิ่งเข้าบอลก่อนลูคัส(double line of defence) มากกว่าที่จะรีบวิ่งไปยืนข้างๆลูลู่เพื่อตั้งโซน.
โจ จะพยายามเข้าบอลในจังหวะแรกเมื่อคู่ต่อสู้เริ่มเล่นเกมส์รุก ตามแต่ตำแหน่งที่ฝั่งตรงข้ามจะบุกเข้ามา ลูลู่จะช่วยซ้อนและบล๊อคหากบอลหลุดจากพื้นที่อัลเลนออกมา สังเกตุที่เส้นสีเหลืองคือการแบ่งหน้าที่กันระหว่างสองมิดฟิลด์.
แต่เมื่อถึงจังหวะบุก อัลเลนจะมีพื้นที่เล่นอย่างอิสระ และผมจะสมมุติว่าเจอราร์ดคือกองกลางผู้ทำหน้าที่ในโซนFinal third ดังที่จะเห็นได้จากรูปด้านล่างต่อไป.
เมื่อทีมเปลี่ยนจังหวะมาเล่นเกมส์บุก ลูคัสจะเป็นคนยืนต่ำกว่าใครเพื่อน ปล่อยให้อัลเลนขยับขึ้นไปชงบอลให้เจอราร์ด แผนแบบนี้คุณคาดหวังได้เลยว่าฟูลแบ๊คสองข้างของเราจะขึ้นมากระหนาบซ้าย-ขวาแน่นอน โดยจะยืนอยู่บริเวณระหว่างกรอบสีฟ้าทั้งสองกรอบ เพื่อเพิ่มมิติในการโจมตีด้านข้าง.
การเล่นของอัลเลนที่สวอนซีนั้นจะมีการเติมเกมส์ค่อนข้างมาก หลายๆครั้งที่เขามักจะไปกับบอลได้ดี แต่ในทีมลิเวอร์พูลแล้ว การเล่นแบบนี้จะคล้ายๆสไตล์ของเจอราร์ดมากกว่า แต่อย่างที่เราๆได้เห็นกันว่าเจอราร์ดไม่ได้วิ่งเติมเกมส์ได้มากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว การเคลื่อนที่ของอัลเลนจึงช่วยเติมเต็มในส่วนนี้ นี่แล่ะหน้าที่ของ box-to-box midfielder เติมเมื่อรุก-ลงเมื่อรับ.
ด้วยการเล่นในลักษณะแบบนี้จะช่วยเพิ่มมิติในเกมส์รุกให้หลากหลายมากขึ้น ข้างหน้าที่มีทั้งหน้าเป้าและหน้ากึ่งปีกอีกสองข้าง แผงมิดฟิลด์ที่เติมขึ้นไปช่วยอีกสามคน แถมด้วยฟูลแบ๊คอีกสองข้าง จะทำให้เกมส์รุกบุกกันเพลินจนสาแก่ใจแฟนๆ.
การกลับมาของลูคัสจะช่วยยกระดับทีมได้แน่ๆหากเขายังอยู่ในฟอร์มเดิมก่อนเจ็บ ลูลู่คือคนที่เป็นหัวใจในเกมส์รับในไม่กี่ซีซั่นที่ผ่านมา หากถูกผนวกเข้ากับการเล่นได้อย่างอิสระของอัลเลน การเดินเกมส์แดนกลางได้เต็มสูบจะกลับมาสู่สายตาอีกครั้ง ที่นี่..เร็วๆนี้.
ที่มา thisisanfield.com Nov 27, 2012 แปลและเรียบเรียง : Pitbullhttp://www.thekop.in.th/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=129303#2459906