ใครยิงวสันต์ ภู่ทอง
#301
Posted 29 August 2012 - 15:09
ให้มีศพไปแห่
อยู่บ้านดี ๆ ไม่ชอบ
อยากเป็นสัมพเวสี ได้เป็นสมใจ เลยงานนี้
#302
Posted 29 August 2012 - 15:15
ไม่เกี่ยวกับกระทู้ ชื่นชมคุณกบครับ ที่พยายามพิจารณาจากข้อเท็จจริง
ผมเรียนถามนะครับ
ตอนนี้ ผมว่า เราสรุปได้หรือยังว่า
มันไม่ได้ยิงจากทหารพลเดินเท้า แน่นอน
คือ ตัดความน่าจะเป็นที่คลิปอีกคลิปนึงเอามาโยง
ออกไปได้หรือยังครับ
เพราะผมคิดว่า
การเล็งหัวคนนั้นมันยากมาก นอกจาก ติดกล้อง และมาร์คไว้แล้ว
ต้องสรุปที่ตรงนี้ก่อนหรือเปล่าครับ
ไม่ได้ครับ มันเป็นเหตุการณ์เดียวกันอย่างชัดเจน คุณดูได้จากเสียงปืนที่ตรงกันเป๊ะ
อย่าหลบหนีความจริงกันสิครับทุกท่าน
มากกว่าที่จะพยายามดึงเข้าหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ เหมือนกับหลายๆคน
จงกล้าที่จะใช้ปัญญาญาณของตนเอง โดยปราศจากการชี้นำจากผู้อื่น(คานท์)
#303
Posted 29 August 2012 - 15:18
คนที่ถ่ายคลิป ในกระทู้นี้ ถ่ายคลิปอยู่ที่ระดับ 120-150 cm
ข้างห้องเครืองรถกระบะ
ตรงทางเลี้ยวเข้าประตูโรงเรียนสตรีวิทย์
ภาพจากกล้องของผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น
รบกวนอีกทีครับ....คำว่าคนถ่ายคลิ๊ปในกระทู้ หมายถึง คลิ๊ปไหนครับ..
#304
Posted 29 August 2012 - 15:19
"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ"
นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง! รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง http://webboard.seri...แค/#entry842224 ; http://webboard.seri...-25#entry408954
#305
Posted 29 August 2012 - 15:20
จากคลิปหลายๆคนก้มต่ำ เพราะมีการยิงกันแล้ว
ต่อให้ยิงมุมสูง แต่ถ้าคนถูกยิง อยู่ในท่าก้มศรีษะให้ต่ำลง(ท่าหมอบหัว)
ก็น่าจะเกิดวิถึกระสุนแบบที่ว่าได้ รึใครว่าเป็นไปไม่ได้
คนอื่นๆผมไม่รู้นะ แต่นายวสันต์นี่ โดนทั้งๆที่ยืนอยู่แน่นอน
ซึ่งถ้าคนจะหมอบเพื่อหลบ น่าจะย่อลงทั้งตัว แล้วหมอบกึ่งคลาน มากกว่า
#306
Posted 29 August 2012 - 15:21
ถ้าเป็นไปตามนี้ คนยิงต้องอยู่ใกล้ๆ และนั่ง หรือ ย่อตัวต่ำยิง
ถ้ายืนยิงจากระยะไกลขนาดที่ทหารคนนั้นยิง เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
ผมขอแย้งว่า.. เส้นที่ลาก อย่างมั่วเลย....
1) ถ้า ดู จาก รูปการชันสูตรจากแพทย์... จุดที่เข้า 1.5x1 cm จากรูปจะเห็นว่า อยู่ บริเวณ เหนือ ใบหู.. ไม่ใช่ ใต้ใบหูเหมือนในถาพถ่าย...
คิดเองนะครับว่า คนตรวจจะมั่ว เขียนจุดผิด . หรือ ภาพถ่ายมันหลอกตาได้... คิดเอาเอง...
2) จุดออก... 5x20 cm เป็น บริเวณในรูป... อย่างกว้างเลย... ถามว่า ท่านทราบได้อย่างไรว่า.. จุดที่ท่านว่า คือ จุดกระสุนออก ทั้งๆที่ คนดูศพเอง เค้ายังบอกซะกว้างเลย...
เมื่อจุดออกไม่แน่ชัด ถามต่อว่า... เส้นที่เป็นไปได้ มีเส้นเดียวหรือไม่...
3) ที่สำคัญ ท่านทราบ ตำแหน่งองศาของ หัว ขณะที่ถูกกระสุนได้อย่างไร... ผู้ตายยืนก้มหน้า หรือ เงยหน้า... หรือ ป่าว...
คนปกติจะยืนคอตั้งหน้าตรงเหมือนถ่ายรูปหรือป่าว...
ถ้าคิดว่า อันนี้ไม่สำคัญ... ผมก็บอกได้ว่า กระสุนอีกนัดที่ยิงผู้ตาย... เข้า(3) ออก(4).. คงยิงมาจาก ใต้ดิน ระยะไม่เกิน 1 เมตร... ถ้า ผู้ตายโดนขณะยืนตรงอยู่...
นี่ยังไม่นับหลักฐานแวดล้อมที่ว่า ถ้า คนยิงใกล้ขนาดนั้น... สงสัย มือปื่นมีที่เก็บเสียง นั่งข้างๆคนถ่ายคลิบ.. ที่เก็บเสียงดีมาก... จนไม่มีใครรู้... คนยิงกะจังหวะดีมาก เข้ากับจังหวะ เสียงปืนกระสุนปลอมพอดี...
Quote ผิดขออภัยคุณ กรกช นะครับ...
Edited by hentai, 29 August 2012 - 15:26.
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#307
Posted 29 August 2012 - 15:23
ก็คลิปที่ วสันต์ล้ม ไง ....... อย่ามาป่วนดิ่ กระทู้มันยาวละ
"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ"
นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง! รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง http://webboard.seri...แค/#entry842224 ; http://webboard.seri...-25#entry408954
#308
Posted 29 August 2012 - 15:23
กลับไปดูภาพประกอบ 287 อีกครั้งนะครับ
ผมไม่ชอบวิธีโต้ตอบแบบนี้
287 มีข้อความตั้งกี่ย่อหน้า คุณต้องการบอกอะไร ก็พิมพ์ออกมาเลยตรงๆ
หรือเน้นข้อความที่ต้องการก็ได้
ต่อไปถ้าตอบแบบนี้ ผมจะถือว่าคุณหลบการโต้แย้งนะครับ
#309
Posted 29 August 2012 - 15:25
ไม่งั้นจะเดินไปทำไม จริงไหม
"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ"
นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง! รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง http://webboard.seri...แค/#entry842224 ; http://webboard.seri...-25#entry408954
#310
Posted 29 August 2012 - 15:27
มีใครทราบมั้ยครับ ว่าศีรษะคุณวสันต์อยู่ในลักษณะไหน? ใครมีรายละเอียดบ้าง?
ทำไมถึงมั่นใจมาก ว่าวิถีกระสุนต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#311
Posted 29 August 2012 - 15:27
คุณสิโกหก
ทุ่มกว่าๆ ยังมีเรียกประชุมระดับผบ.เหล่าทัพอยู่เลย พอตกดึกก็บอกให้...
ตรรกะนี่คุ้นๆ นะ เหมือนเรื่องตั้งรัฐบาลในค่ายทหารเลย พูดไปเรื่องข้อเท็จจริงไม่ต้องมี
amplepoor
ภาพ #287
#312
Posted 29 August 2012 - 15:28
#303
ก็คลิปที่ วสันต์ล้ม ไง ....... อย่ามาป่วนดิ่ กระทู้มันยาวละ
เอาไว้ให้เจ้าตัวเค้ามาตอบเองดีกว่าม่ะ...
ถ้าผมถามไปทั้งที่ไม่ใช่ เดี๋ยวต้องไปคุยประเด็นใหม่ อีก...
ส่วนนังแต๋ม มือตกไปแยะน๊ะเราอ่ะ..
Edited by 55555, 29 August 2012 - 15:30.
#313
Posted 29 August 2012 - 15:29
ไม่ได้ครับ มันเป็นเหตุการณ์เดียวกันอย่างชัดเจน คุณดูได้จากเสียงปืนที่ตรงกันเป๊ะ
อย่าหลบหนีความจริงกันสิครับทุกท่าน
คุณอธิบายต่อได้ใหม ว่าจากกระสุนนัดนี้ ทำให้เกิดแผลที่ศีรษะคุณวสันต์ได้อย่างไร
(รูปหวาดเสียวมาก ทำใจก่อนกดดู)
http://4.bp.blogspot...5_3581059_n.jpg
#314
Posted 29 August 2012 - 15:30
ผมถามหน่อย เห็นวิเคราะห์วิถีกระสุนกันมาตั้งนาน
มีใครทราบมั้ยครับ ว่าศีรษะคุณวสันต์อยู่ในลักษณะไหน? ใครมีรายละเอียดบ้าง?
ทำไมถึงมั่นใจมาก ว่าวิถีกระสุนต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
ไม่ว่าจะยืนอยู่ท่าไหน หัวก้มหรือเงย..มันก็ยิงมาจากฝั่งทหารไม่ได้ครับ
ผมก็งง..คุณจะไปอะไรกันนักหนากับเสียงปืน..เมื่อ วิถึกระสุนมันมาจากฝั่งทหารไม่ได้....
#315
Posted 29 August 2012 - 15:32
ทีบอกว่า ทหาร ถูกล้อมอยู่ ล้อมอย่างไร
#316
Posted 29 August 2012 - 15:33
ผมไปดูมาแล้ว มันมี 5 พารากราฟ คุณต้องการใช้ข้อความใหนคุณสิโกหก
ทุ่มกว่าๆ ยังมีเรียกประชุมระดับผบ.เหล่าทัพอยู่เลย พอตกดึกก็บอกให้...
ตรรกะนี่คุ้นๆ นะ เหมือนเรื่องตั้งรัฐบาลในค่ายทหารเลย พูดไปเรื่องข้อเท็จจริงไม่ต้องมี
amplepoor
ภาพ #287
อย่าทำให้เสียเวลาเสียพื้นที่เลยครับ....ประโยคใหน ข้อความอย่างไร ที่คุณต้องการใช้โต้แย้ง
#317
Posted 29 August 2012 - 15:33
ผมก็ไม่ชอบแดงครับ จัดอยู่ในระดับเกลียดยิ่งกว่าขี้ แต่การจะด่าหมาแดง ผมต้องการให้ด่าแบบวิชาการ เพราะหากด่าแบบไม่มีหลักฐาน หรือด่าแค่สนุกปาก เราเองก็จะมีสภาพไม่ต่างกับแดงตอบให้ ควายแดงยิง ควายแดง
ให้มีศพไปแห่
อยู่บ้านดี ๆ ไม่ชอบ
อยากเป็นสัมพเวสี ได้เป็นสมใจ เลยงานนี้
Edited by kuuga, 29 August 2012 - 15:52.
- Kyubey, Change 001 and กีรเต้ like this
#318
Posted 29 August 2012 - 15:37
ผมถามหน่อย เห็นวิเคราะห์วิถีกระสุนกันมาตั้งนาน
มีใครทราบมั้ยครับ ว่าศีรษะคุณวสันต์อยู่ในลักษณะไหน? ใครมีรายละเอียดบ้าง?
ทำไมถึงมั่นใจมาก ว่าวิถีกระสุนต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
รูปถ่ายศพ เห็นกายภาพชัด คุณไม่ใช้
ไปใช้เสียงปืนที่หาความแน่นอนไม่ได้ ยืนยันหัวชนฝาว่า คุณวสันต์ถูกทหารยิง
แต่ไม่สามารถตอบคำถามผมได้ว่า วสันต์มาโดนยิงล้มตรงทางม้าลายที่ผู้การเคยนอนได้อย่างไร
ในเมื่อทหารของคุณ ยิงปืนนัดนั้นตั้งแต่ผู้การยังนอนอยู่ แปลว่าอีกวินาทีเดียว คุณวสันต์จะมาล้มที่ทางม้าลายนี้
ความจริงของคุณสำหรับผมแล้วมันเป็นความมั่วครับ
- Change 001 likes this
#319
Posted 29 August 2012 - 15:39
เล่นกับ เขา หน่อย
กระทู้ ใครยิงวสันต์ ภู่ทอง
ความคิดเห็น = ตอบกระทู้นี้
Edited by mmmmm, 29 August 2012 - 15:40.
#320
Posted 29 August 2012 - 15:42
รบกวนอีกทีครับ....คำว่าคนถ่ายคลิ๊ปในกระทู้ หมายถึง คลิ๊ปไหนครับ..
เล่นกับ เขา หน่อย
กระทู้ ใครยิงวสันต์ ภู่ทอง
ความคิดเห็น = ตอบกระทู้นี้
ถ้างั้นก็ไปลบความเห็น # 210 กับรูปออกสิครับ...ถ้าที่ท่านเขียนมันไม่เกี่ยวกับทู้...
หรือว่าท่านมั่ว แล้วไม่รู้จะอธิบายยังไง...อันนี้ผมเดาน๊ะครับ..บางทีท่านอาจรู้จริงก็ได้
จะเล่นวาทะไปทำไม
Edited by 55555, 29 August 2012 - 15:46.
#321
Posted 29 August 2012 - 15:49
รบกวนอีกทีครับ....คำว่าคนถ่ายคลิ๊ปในกระทู้ หมายถึง คลิ๊ปไหนครับ..
เล่นกับ เขา หน่อย
กระทู้ ใครยิงวสันต์ ภู่ทอง
ความคิดเห็น = ตอบกระทู้นี้
ถ้างั้นก็ไปลบความเห็น # 210 กับรูปออกสิครับ...ถ้าที่ท่านเขียนมันไม่เกี่ยวกับทู้...
หรือว่าท่านมั่ว แล้วไม่รู้จะอธิบายยังไง...อันนี้ผมเดาน๊ะครับ..บางทีท่านอาจรู้จริงก็ได้
จะเล่นวาทะไปทำไม
ระวังการเบี่ยงเบนประเด็นครับ ท่าน 55555
ข้อโต้แย้งสำคัญๆ หลายข้อ ฝ่ายที่เชื่อว่าทหารยิง ไม่กล้าแตะเลย
มันก็เลยออกมาทางชวนทะเลาะเรื่อยเปื่อยอย่างนี้แหละครับ
Edited by amplepoor, 29 August 2012 - 15:49.
- Change 001 likes this
#322
Posted 29 August 2012 - 15:56
ถ่ายคนละกล้อง ก็เป็นไปได้ว่า เสียงคล้ายกัน จะกลายเป็นต่างกัน
หรือเสียงต่างกัน อาจจะกลายเป็นคล้ายกันก็เป็นได้
ส่วนเรื่องเสียงปืนที่ดังแล้วนายวสันต์ล้มลงเพราะถูกยิงนี่ แค่บอกได้ว่านายวสันต์ถูกยิงตายด้วยปืนนะครับ
จะสรุปว่าคุณวสันต์โดนยิงตายด้วยปืนกระบอกไหน ผมว่าต้องใช้ขอเท็จจริงมากกว่านี้ครับ
ประเด็นสำคัญว่ายิงจากไหน คือวิถีกระสุน
ถ้าพิสูจน์แล้วว่ายิงมาจากฝั่งทหาร ก็ต้องไปหาคนยิงที่อยู่ในกลุ่มทหาร
แต่ถ้าไม่ใช่ยิงมาจากฝั่งทหารหละ... ก็แสดงว่ามีกลุ่มอื่นที่ใช้อาวุธนอกจากทหาร
ผมคิดว่าเรื่องใครยิงนายวสันต์นี่ มีนัยยะสำคัญทีเดียว
- turbora, p-one and จูกัดขงเบ้ง like this
#323
Posted 29 August 2012 - 15:57
ก็เชื่อไปสิ ไร้หลักฐาน(อ่อน) ไร้หลักการ(อ่อน)
เราไม่ไร้สติ ไปเปลี่ยน ความเชื่อ หรอก
Edited by mmmmm, 29 August 2012 - 16:07.
#324
Posted 29 August 2012 - 16:06
ขอเอามาให้พิจารณาอีกครั้ง เพราะผมคิดว่าภาพนี้มันชัดเจนแล้วว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่ทหารคนนี้จะยิงคุณ วสันต์
1. ภาพนี้เป็นวินาทีที่ได้ยินเสียงปืน ถ้าดูคลิปต่อจากเสี้ยววินาทีนี้จะเห็นคุณ วสันต์ล้มลง
2 . มีทหารอีกคนยืนขวางคุณ วสันต์เป็นเส้นตรง แล้วลูกปืนจะผ่านไปโดนคุณวสันต์ได้ยังไง ?
ที่ตรงนี้มองเห็นธงก็เพราะธงสูงกว่าหัวคน แต่ถ้าไปดูอีกคลิปก็เห็นว่า มีเสื้อแดงหลายคนยืนบังคุณ วสันต์อยู่อีกชั้น
3 . การที่มีเพื่อนทหารยืนขวางทางปืนอยู่แต่ยังยิงใส่ อย่างนี้มันใช่เหรอ ?
ข้อนี้ลองสมมุติว่าตัวท่านสมาชิกเองเป็นทหารคนนั้นก็ได้ แล้วจะเข้าใจเอง
4. การที่ทหารจะยิงใส่ฝูงชน ทำไมเขาไม่แอบยิง ? ทำไมออกมายืนโล่งๆโจ่งแจ้งโชว์ให้คนเห็น ?
เช่นกัน ข้อนี้ก็ลองสมมุติว่าตัวท่านสมาชิกเป็นทหารที่จะยิงใส่ฝูงชน
ก็จะเข้าใจเองว่าจะแอบยิง หรือ เดินออกไปที่โล่งๆโจ่งแจ้งให้คนเห็นแล้วยิง
จากเหตุผลตรงนี้ ผมคิดว่าเปอร์เซนต์มันแทบจะเป็น 0 ที่ทหารคนนี้จะยิงคุณ วสันต์
และถึงตอนนี้ มีสมาชิกเสื้อแดงบางท่านว่า คนยิงเป็นทหารอีกคน ที่ยืนบังคุณวสันต์ไปแล้ว
- Change 001 likes this
#325
Posted 29 August 2012 - 16:10
เอาละ วางตำแหน่ง(มีรูป+คลิปที่พร้อมใส่เข้าไป 15.00-22.00)ให้ ตามแผนที่
ทีบอกว่า ทหาร ถูกล้อมอยู่ ล้อมอย่างไร
ค้นมาจาก
http://prachatai.com...l/2012/07/41418
สั่งถอนทหารก่อน 5 โมงเย็น สั่งทางวิทยุ
นอกจากนี้ยังเข้าเบิกความถึงเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.53 ซึ่งมีการ “ขอคืนพื้นที่” จากผู้ชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าว่า ในวันดังกล่าวมีการปะทะกันแต่ไม่มีใครเสียชีวิต กระทั่งก่อนเวลา 17.00 น. เริ่มมีการปะทะกันมากขึ้นขณะที่แสงสว่างกำลังจะหมด ศอฉ.จึงมีคำสั่งให้ทุกหน่วยหยุดปฏิบัติการและถอนตัว เพราะในยามคำคืนอาจมีคนสวมรอยมาทำร้ายผู้ชุมนุมหรือเจ้าหน้าที่ได้ แต่บริเวณสี่แยกคอกวัวเจ้าหน้าที่ถอนกำลังไม่ได้เนื่องจากถูกผู้ชุมนุมปิดล้อมทั้งด้านหน้าด้านหลัง ขณะที่ชายชุดดำที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้อาวุธยิงเข้ามาจนทำให้มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตตามที่เป็นข่าว รวมถึง พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ด้วย
และในของเสรีไทยเอง
10 เมษา ทหารถูกสั่งให้ใช้กระสุนยางและโลห์เท่านั้น....
โดย amplepoor, 15 มีนาคม 2555 02:11
http://webboard.seri...่งให้ใช้กระสุน/
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 08:38
เครดิต facebook คุณ Sirichok Sopha
ครอบครัวทหารตายในม็อบแดงจี้ ทบ.สอบเผาเมือง- “ภริยาร่มเกล้า” ซัด “ประชา” อ้างหาคนร้ายไม่ได้ ลั่นคนผิดรับเงินเยียวยา 7.75 ล้านไม่ได้
ข้อเท็จจริงอีกด้านที่คนไม่รู้
บันทึกของแพทย์ทหารผู้หนึ่ง ที่เขียนบันทึกไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.04 น.
การสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 เมษายน ผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ซีดี.ภาพเหตุการณ์มีทั้งเวอร์ชั้น ศอฉ. และเวอร์ชั่นคนเสื้อแดง ได้ปั๊มกันออกมา เกลื่อนเมือง
แต่ท่ามกลาง การช่วงชิงมวลชน ปรากฏมีบันทึกของแพทย์ทหารผู้หนึ่ง ที่เขียนบันทึกไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.04 น. มีหลายประเด็นน่าสนใจ ลองใช้ดุลยพินิจของท่าน
ผมในฐานะแพทย์ทหารคนหนึ่งที่ปฎิบัติงานในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. 53 อยากจะเขียนบันทึกความทรงจำเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อเก็บไว้เป็นบทเรียน เป็นอุทาหรณ์ หรือเป็นสิ่งเตือนใจให้แก่ตนเอง และประชาชนชาวไทย ไม่ให้ลืมเลือนบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปกับกาลเวลา
ผมได้รับภารกิจในฐานะ ผบ.มว.สร.พัน.ร. (ผู้บังคับหมวดเสนารักษ์ กองพันทหารราบ) หรือก็คือแพทย์ทหารประจำกองพัน หน้าที่ของผมคือติดตามดูแลกำลังพลเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย การป้องกันโรค การส่งกำลังบำรุงทางสายแพทย์ รวมถึงงานอื่นๆตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย ผมมาภารกิจในครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 53 ย้ายสถานที่พักไปตามภารกิจต่างๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นการตั้งด่านตรวจ และเฝ้าระวังเหตุร้ายตามสถานที่สำคัญ เช่น ที่ ร.1 พัน.1 รอ., ร.11 รอ., สนามบินสุวรรณภูมิ, ลาดหลุมแก้ว และที่สุดท้าย คือ สี่แยกคอกวัวบริเวณถนนตะนาวศรี (ข้างวัดบวรนิเวศฯ ย่านบางลำภู) ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย. 53
หน่วยของเราได้รับภารกิจในการขอพื้นที่คืนจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ออกจากที่ตั้งปกติโดยรู้ก่อนล่วงหน้าไม่ถึง 1 ชม.
หลังจากเข้าที่รวมพลซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสี่แยกคอกวัวไม่นานก็ต้องเคลื่อนย้ายราวสักบ่ายโมง ผมขึ้นบนหลังคารถฮัมวี่คันแรกสุด (หากใครเห็นในรูปถ่าย ก็คงจะเห็นทหารคนหนึ่งบนหลังคารถฮัมวี่ที่ติดปลอกแขนกาชาด ถือโล่บังตัวเอง นั่นก็ผมล่ะครับ) จนกระทั่งถึงบริเวณถนนตะนาวศรี กำลังพลรวมทั้งผู้พันก็ลงจากรถ ไปตั้งแนวโล่หน้ากลุ่มผู้ชุมนุม ผู้พันผมบอกให้ผมรออยู่ในรถก่อน เนื่องจากกลัวว่าผมอาจโดนสิ่งของขว้างปามาจะเกิดอันตราย ซึ่งอีกไม่นานก็เกิดขึ้นจริงๆ
ทหารของเราตั้งแนวโล่ มีเพียงชุดเกราะป้องกัน (ผมเรียกว่า ชุดโรโบคอป) หมวกกันน๊อค โล่ และกระบองป้องกันตัว เราถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปาของทุกอย่างที่คิดว่าจะปาได้ ทั้งขวดเบียร์ ขวดกระทิงแดง ไม้ อิฐบล๊อค กระถางต้นไม้ บันได ขวดน้ำ ฯลฯ อีกสารพัด รถบางคนกระจกถูกปาแตก แต่อาจเป็นเพราะรถฮัมวี่ของผมคงจะแข็งมากมั้งครับ กระจกเลยไม่เป็นไร
หลังจากนั้นไม่นาน ผมเริ่มเห็นมีคนเจ็บจากของที่ถูกขว้างปา เลยตัดสินใจบอกพลขับว่าผมจะลงจากรถไปดูคนเจ็บ ฝากตอบ ว. (วิทยุ) ให้ด้วยนะครับ หลังจากนั้นก็ลงไปดูคนเจ็บและสถานการณ์อยู่หลังแนวโล่ ซึ่งในระหว่างนั้นก็ต้องคอยหลบซ้าย หลบขวา ก้มหัว หลบบรรดาสิ่งของที่ขว้างมา แต่ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าผมโชคดีมาก เพราะหลังจากผมตัดสินใจลงจะรถไม่นาน กลุ่มผู้ชุมนุมก็รุกไล่แนวโล่มาจนถึงรถฮัมวี่ที่ผมเคยนั่งอยู่ก่อนไม่ถึง 5 นาที ทุบรถ ทุบกระจก แล้วขึ้นไปบนช่องของพลสังเกตการณ์ (บนเพดานรถจะมีช่องไว้สำหรับให้ทหารนั่งคอยสังเกตการณ์ หรือติดปืนกล แต่นี่เป็นรถธุรการของผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่ฮัมวี่รบ เลยไม่ได้ติดอาวุธ) พลขับของผมถูกผู้ชุมนุมใช้เท้ายันศีรษะกับพวงมาลัยรถ ลากลงมารุมกระ..ทืบ แล้วจ้วงแทงด้วยมีด แต่เขาก็ยังโชคดีมากที่ใส่เกราะ มีดเลยไม่เข้า ไม่อย่างนั้นก็คงไส้ทะลักแน่ๆ
ผมทำหน้าที่ช่วยกันกับทหารและนายสิบพยาบาลลำเลียงผู้ป่วยจากด้านหน้าแนวมาไว้ที่รวบรวมผู้ป่วยเจ็บด้านหลัง ซึ่งผมกำหนดไว้ที่ริมกำแพงข้างวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นการปะทะกันของแนวโล่กับกลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ป่วยเจ็บส่วนใหญ่จึงมักเกิดจากการขว้างของแข็งเข้าใส่ มีบาดแผลแตกหรือบาดแผลที่ศีรษะ รวมทั้งผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะตื่นตระหนกทำให้เกิดอาการหายใจเร็วเกินไป (ผมขอเรียกตามศัพท์ทางแพทย์ว่า Hyperventilation syndrome) ในส่วนของผมมีผู้ป่วยอยู่ในเวลานั้นประมาณ 20-30 คน การทำงานชุลมุนมาก เพราะเรามีคนน้อยแค่ผมกับนายสิบพยาบาลรวมกันไม่ถึง 6-7 คน แต่ต้องขอขอบคุณพี่ๆน้องๆกู้ภัย เจ้าหน้าที่ EMS ของวชิรพยาบาล รวมทั้งพ่อแม่พี่น้องประชาชนละแวกนั้นที่ให้ความช่วยเหลือ คอยติดต่อเอารถกู้ภัยมารับคนป่วยไป รพ.ศิริราช และ รพ.วชิรพยาบาล คุณยายบางคนไม่รู้จะช่วยยังไงก็ควักยาดมให้ พี่ๆหลายคนก็วิ่งไปหาน้ำเย็น น้ำแข็ง ผ้าเย็น แอมโมเนีย ให้คนไข้ หรือแม้แต่น้องผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงที่ผมจำได้ดี น้องเค้าวิ่งหาท๊อฟฟี่คอยแจกพี่ๆทหารและคนที่มาช่วย พนักงานเดอะพิซซ่าก็คอยเอากระดาษลังมาพัดให้ผู้ป่วย
แต่มีนายสิบกับพลทหารอีกคนหนึ่งของหน่วยผมที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณต้นขา ถามเขาบอกว่าเขาอยู่บริเวณแถวหน้าสุดของแนวโล่ มีการ์ด นปช. คนนึงถูกยิงด้วยกระสุนยางที่ไหล่ เขาโมโห เขาพูดว่า moong ยิง goo เหรอ หลังจากนั้นก็ชักปืนพก 11 มม. ยิงใส่ทหาร ถูกนายสิบคนหนึ่งมีบาดแผลรูกระสุนที่ต้นขาซ้าย และถูกพลทหารอีกคนที่บริเวณขา ผมได้ทำการห้ามเลือดด้วยผ้าแต่งแผลและสายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) แล้วส่งรถกู้ภัยต่อ
หลังจากเหตุปะทะช่วงแรกสักราวๆ 1 ชม. ทั้ง 2 ฝ่ายก็เจรจากัน ผู้ชุมนุมขอให้ทหารถอยออกไป ส่วนทหารขอให้ผู้ชุมนุมถอยเพื่อลากเอารถที่เสียหายออกมา ก็ตกลงกันได้ ต่างฝ่ายจึงถอยออกห่างจากกันประมาณ 20 เมตร ซึ่งช่วงนั้นผมและเจ้าหน้าที่ได้ทำการลำเลียงผู้ป่วยเจ็บออกไปได้หมดแล้ว ทั้งผู้ชุมนุมและทหารก็ต่างนั่งพักตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ของตน
ในระหว่างนั้นก็มีประชาชนเอาน้ำ เอาของกิน เอาผ้าเย็นมาให้ทั้งฝ่ายทหารและผู้ชุมนุม เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงราวๆหกโมงเย็น (หลังเคารพธงชาติ) ทางทหารจึงได้รับคำสั่งให้ทำการขอคืนพื้นที่ชุมนุมอีกครั้ง โดยตั้งขบวนแถวแรกจำนวน 1 กองร้อย ด้วยแนวโล่และกระบอง และมีกำลังด้านหลังมีปืน M16 เพื่อทำการยิงขู่ขึ้นฟ้าในกรณีที่จำเป็น กำลังของทหารสามารถผลักดันผู้ชุมนุมให้ถอยร่นจากบริเวณปากทางเข้าถนนข้าวสารจนเกือบจะถึงถนนราชดำเนินนอก ซึ่งตอนนั้นผมอยู่หลังกองร้อยที่อยู่ด้านหน้า (ชุดโรโบคอป โล่ กระบอง) โดยมีผู้บังคับกองพันและผู้บังคับการกรมคอยสั่งการอยู่ด้านหน้าของผม (หลังแถวกองร้อย)
ลักษณะการจัดแนวจะเป็นแถวหน้ากระดานประมาณ 4-6 แถว ขณะนั้นผมอยู่ที่ริมฟุตบาทถนนข้าวสาร ในระหว่างนั้นผู้ชุมนุมเริ่มมีการใช้อาวุธที่ร้ายแรงมากขึ้น เช่น ขว้างแก๊สน้ำตาใส่ ขว้างระเบิดเพลิง (โมโรตอฟ) จนกระทั่งมีการเปิดถังแก๊สใส่ทหาร (โชคดีที่ไม่มีใครจุดไฟ มิเช่นนั้นทหารรวมทั้งผมคงถูกไฟคลอกตายแน่) จนกระทั่งเหตุการณ์สำคัญที่สุดก็เกิดขึ้น ...
ผมจำได้ติดตาเลยว่า ตอนนั้นมีระเบิดควันลูกหนึ่งโยนมาตกที่บริเวณแถวทหารหน้าสุด ซึ่งตอนแรกทุกคนคิดว่าเป็นแก๊สน้ำตา จึงรีบนำผ้าพันคอปิดจมูก และเตรียมถอยกลับออก แต่ตอนนั้นทั้งทหารและผมก็โดนแก๊สน้ำตา 3-4 ครั้งแล้ว จึงรู้โดยทันทีว่านั่นไม่ใช่แก๊สน้ำตา เป็นระเบิดควันเฉยๆ ผมได้ยินเสียงผู้พันสั่งว่า ไม่ใช่แก๊ส ไม่ต้องถอย ตั้งแนวต่อไป แถวทหารก็เริ่มตั้งแนวและผลักดันต่อ ผมเองก็ค่อยๆเดินตามหลังแถวทหารไป หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาที ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณหน้าแถวทหาร (ห่างจากเท้าของทหารแถวแรกไม่กี่เมตร)
ผมยอมรับตามตรงว่าทั้งชีวิตไม่เคยเห็นระเบิด M79 มาก่อน แต่สิ่งที่เห็นคล้ายกับประทัดยักษ์ระเบิดที่พื้นถนน แต่ปกติประทัดยักษ์ควรจะมีแต่เสียงดังกับควัน แต่สิ่งที่เห็นกลับมีประกายไฟกระจายออกมาด้วย ผมก็คิดอยู่ว่า ทำไมประทัดมันมีประกายไฟด้วย จุดที่ระเบิดตกห่างจากผมไปราวๆ 10 เมตร หลังจากนั้นก็มีอีกลูกหนึ่งตกหลังผมไปทางหน้าแนวทหารที่ 2 ผมได้ยินเสียงผู้การสั่งว่า มันเล่นของจริง ทุกคนถอย หลังจากนั้นแถวของเราก็แตกถอยมาด้านหลัง นายสิบพยาบาลของผมคนหนึ่งดึงผมให้หลบออกมาทางฟุตบาทให้หลบ ผมหันหลังกลับมาทางถนน เห็นคนเจ็บนอนเลือดอาบอยู่ราวๆ 10-20 คน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นทหารเป็นลูกน้องในกองพันของผม บางคนเมื่อวานเพิ่งมาขอยา บางคนยังเคยกินข้าวด้วยกันไม่นานนี้เอง
ตอนนั้นผมยอมรับจริงๆว่าเบลอไปหมดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปทำด้วยสัญชาตญาณ ภาพที่เห็นคือทหารนอนเลือดอาบ ตาลอย ตามร่างกายมีสะเก็ดระเบิด และบางคนมีรูกระสุนปืนด้วย เพื่อนทหารต่างพากันช่วยลากออกมาจากจุดที่ระเบิด ร้องเรียก หมอ ช่วยด้วย หมอ ดูเพื่อนผมด้วยหมอ หมอ ช่วยเพื่อนผมด้วย บรรยากาศตอนนั้นหลาย
ท่านคงเห็นจากในคลิปวีดีโอหรือในสื่อต่างๆ แต่ ณ สถานที่เกิดเหตุจริงมันยิ่งกว่านั้น มันไม่รู้จะอธิบายยังไง ทั้งตกใจ ทั้งหดหู่ ทั้งเศร้าใจ แม้ว่าผมจะเป็นแพทย์
แต่สิ่งที่ทำได้ผมก็ทำได้เพียงเข้าไปช่วยลากคนเจ็บ เข้าไปช่วยกันห้ามเลือดด้วยผ้าพันคอ เพราะตอนนั้นทั้งตัวไม่มีอุปกรณ์อะไรติดตัวเลย มีแต่ stethtoscope (หูฟัง) ไม่มีสายรัดห้ามเลือด ไม่มีผ้าพันแผล สมัยเป็น นพท.ปี 6 ผมเคยเรียนวิชาเวชปฎิบัติการยุทธ (ปฎิบัติการเพชราวุธ) ผมรู้ว่าสถานการณ์แบบนี้คือ Care under fire แต่ผมเพิ่งจะเข้าใจจริงๆว่า หัวใจของ care under fire คือ เอาชีวิตตัวเองให้รอด แล้วเอาคนเจ็บออกจากบริเวณสังหาร (Killing zone) ให้เร็วที่สุด ลืมเรื่องการปฐมพยาบาล ลืมเรื่อง primary survey หรือ ABCD ที่เคยเรียนไปได้เลย เพราะขณะช่วยเอาคนไข้ออก ก็มีทั้งระเบิด M79 ระเบิดขว้างลูกเกลี้ยง M26 เสียงปืน (ตอนหลังเพื่อนผู้หมวดบอกว่าเขามีทั้ง M16, AK47 และปืนพก)
ขณะนั้นรถกู้ภัย รถพยาบาล จอดอยู่บริเวณหัวถนนตะนาว ใกล้กับวงเวียนบางลำพู รถไม่กล้าขับเข้ามาเพราะยังมีระเบิดตกอยู่เรื่อยๆและมีเสียงปืนดังอยู่ตลอดจากฝั่งผู้ชุมนุม ผมวิ่งไปเรียกตรงกลางทางให้รถพยาบาลเข้ามา (แต่ตอนนั้นก็รู้อยู่แล้วว่า ถ้าเป็นตัวเองก็คงไม่กล้าขับรถเข้ามาหรอก) ขอบคุณพี่ๆกู้ภัยหลายคนช่วงนั้นที่เสี่ยงตายวิ่งเข้ามาช่วยพวกเราลากผู้ป่วย ตอนนั้นผู้ป่วยทั้งหมดถูกลำเลียงออกมารวมกันบริเวณเกาะกลางถนนตรงแยกบางลำพู ผมช่วยกันลำเลียงผู้ป่วยออกมาได้ 2-3 คน ใส่รถกู้ภัย หลังจากนั้นพอจะกลับเข้าไปช่วย
สิ่งที่เห็นก็คือฝ่ายตรงข้ามก็ยิงระเบิดไล่หลังมาเรื่อยๆจนเกือบถึงหัวถนนตะนาวตรงหัวมุมวัดบวรนิเวศฯ ทหารฝ่ายเราต้องเริ่มคว้าปืนมายิงคุ้มกันให้พวกที่ลำเลียงผู้ป่วยออกมาตรงฟุตบาท 2 ข้างของถนนตะนาว ผมไม่สามารถเข้าไปในบริเวณถนนตะนาวได้อีกแล้วเพราะบริเวณนั้นกลายเป็น killing zone ผมจึงต้องหลบอยู่หลังรถกู้ภัยตรงวงเวียนบางลำพู (พร้อมๆกับบอกให้พี่ๆกู้ภัยก้มหัวหมอบ ต้องเอาชีวิตตัวเองรอดก่อนไปช่วยคนอื่น) จุดนั้นมีการปะทะอยู่นานประมาณ 15-20 นาที
ฝ่ายอำนวยการของผมแจ้งให้ทราบในภายหลังว่านับระเบิด M79 ได้เกือบ 15 ลูก ระเบิดขว้าง M26 อีก 2 ลูก รวมทั้งมีพลทหารคนหนึ่งซึ่งผมไปรับหลังจากกลับจาก รพ. บอกผมว่า เขาเห็นแสง laser pointer สีเขียวคอยส่องอยู่แถวศีรษะของทหารแถวหน้า คาดว่าน่าจะมีคนซุ่มยิงมาจากบริเวณอาคารสูงบริเวณแยกคอกวัว แต่คงไม่พบเป้าหมายซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา เพราะแต่ละคนต่างกระจาย ไม่รวมกัน และมี รปภ. คุ้มกันไม่มากนัก หลังจากนั้นเราได้ลำเลียงผู้ป่วยทั้งหมดขึ้นรถพยาบาลได้หมด ฝ่ายนั้นเริ่มยิงตอบโต้มากขึ้น ผมเห็นไม่ปลอดภัยจึงขอให้รถกู้ภัย รวมทั้งรถจี๊ปพยาบาลไปหลบอยู่ในซอยบางลำภู ฝ่ายนั้นก็ยังคงพยายามยิงระเบิดใส่ท้ายขบวนรถของเราที่จอดอยู่ถนนริมวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีทหารของเราที่คอยยิงคุ้มกันตอนลำเลียงผู้ป่วยและถอยกลับ รถหลายคันคงถูกยิงระเบิด ทหารและประชาชนแถวนั้นคงตายอีกเป็นจำนวนมาก
ต่อมาผู้บังคับหน่วยของเราจึงขอหน่วยเหนือในการถอนกำลัง ซึ่งกว่าจะเคลื่อนย้ายออกไปได้หมด ก็ต้องใช้เวลานานเพราะรถมีจำนวนมาก และการจราจรแถวนั้นก็ถูกปิดกั้นบางส่วน แถมตอนเราถอนตัวฝ่ายตรงข้ามก็ยังพยายามยิงระเบิดใส่พวกเราอีกด้วย ในช่วงก่อนถอนตัวผมจำได้ว่ามีเด็กวัยรุ่นใส่เสื้อแดง 2 คน ขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดข้างๆรถจี๊ปพยาบาล แล้วพูดด้วยน้ำเสียงยั่วโมโหว่า หน่วยพยาบาลคงไม่โดนอะไรหรอกมั้ง มีคนตายด้วย พวกพี่ยิงคนเหรอ
ผมยอมรับว่าแม้ว่าปกติผมจะไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน แต่จากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาที่ประสบ ผมเลือดขึ้นหน้า อารมณ์ตอนนั้นคุกรุ่นเต็มที่ ผมพูดจริงๆ ผมอยากลงไปต่อยเด็กคนนั้น แต่ผมก็อดทนแล้วตอบกลับไปว่า แล้วทีพวกน้องยิงระเบิดใส่พวกพี่ล่ะ น้องยิงทั้งระเบิด น้องขว้างทั้งระเบิด แถมเอาอาวุธสงครามยิงใส่ทหาร ทหารแถวหน้าเค้ามีแต่โล่กับกระบอง ป้องกันตัวเองอะไรไม่ได้เลย เค้าก็มีครอบครัว มีลูกมีเมีย แล้วนี่ที่ทหารยิงก็เพื่อคุ้มกันคนเจ็บกับตอนถอนตัว แล้วน้องจะให้ทหารเอาโล่กับกระบองไปไล่ตีไอ้พวกที่ยิงระเบิดใส่หรือไง น้องไส..หัวไปเลย ไส..หัวไปหลบระวังลูกหลงจากระเบิดที่พวกน้องยิงมาด้วยแล้วกัน
เด็กคนนั้นอึ้งไปแล้วก็ขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกไป
เราถอนตัวออกจากจุดตรงแยกคอกวัวเป็นหน่วยสุดท้ายกลับที่ร่วมพลเดิม ซึ่งก็หลงทางไปทางวังสวนจิตรลดา เนื่องจากเราไม่ใช่ทหารกรุงเทพจึงไม่รู้เส้นทาง คืนนั้นพอผมกลับมาได้ พบกับผู้พัน พบกับผู้กองและเพื่อนผู้หมวด จึงได้รู้ว่าในขณะที่หน่วยของผมถอนตัวออกมาทางถนนตะนาว มีอีกกองร้อยที่ต้องถอยร่นออกมาทางถนนข้าวสาร โดยมีผู้บังคับกองพันอีก 2 คน และรองผู้บังคับกองพันอีกคน ผู้พันคนหนึ่งถูกยิงจากฝั่งตรงข้ามเข้าที่สีข้าง เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามกราดยิงปืนซึ่งคาดว่าเป็น M16 เพื่อนผมบังผู้พันของเขาอยู่แต่กระสุนเฉี่ยวข้างตัวไปถูกผู้พัน แต่ที่น่าเศร้าคือมีนายสิบของต่างหน่วยอีกคนถูกยิงทะลุหมวกเหล็ก เสียชีวิตคาที่ นายสิบที่เป็น รปภ. หลายคนก็ถูกยิงเข้าที่ขา
โชคดีมากๆและต้องขอขอบคุณเจ้าของผับแห่งหนึ่งที่ถนนข้าวสาร ที่เปิดร้านนำคนเจ็บเข้ามา ให้เด็กในร้านช่วยปฐมพยาบาล ทำแผล ห้ามเลือด ปิดประตูหน้าร้าน และติดต่อตำรวจและรถกู้ภัยให้มารับที่หลังร้านซึ่งทะลุออกทางถนนอีกเส้นหนึ่ง มีทหารประมาณ 1 กองร้อยที่ไม่สามารถออกมาขึ้นรถได้เพราะหลงเข้าไปในถนนข้าวสารและถูกปิดทางด้านถนนตะนาวไว้ ก็ต้องวิ่งออกมาทางถนนสามเสนไปยังที่รวมพลซึ่งอยู่ห่างเกือบ 5 กม. แต่อย่างไรก็ตามทุกคนปลอดภัยดี (ขณะนี้ผมได้ไปเยี่ยมทหารทุกคนที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ทุกคนปลอดภัยดี และออกจาก ICU ได้หมดแล้ว)
ในขณะที่เกิดเหตุการณ์โทรศัพท์มือถือของผมแบตหมด พอกลับมาชาร์ทแบต ก็พบว่ามีหลายคนโทรเข้ามา หนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนของผมที่ วพม. ผมโทรกลับไปจึงทราบว่ามีนายทหารหลายคนถูกระเบิด หนึ่งในนั้น arrest (เสียชีวิต) ก่อนมา รพ. ต่อมา CPR (ปั๊มหัวใจ) ขึ้น และต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองด่วน ซึ่งนายทหารคนนั้นเป็นเพื่อนกับอาจารย์ที่พระมงกุฎของผม แต่อาจารย์จำผิดคนคิดว่าเป็นผู้บังคับกองพันของผมจึงรีบโทรหาผม แต่มือถือผมแบตหมด จึงให้เพื่อนติดต่อ ในภายหลังจึงทราบว่าคือ พี่เปา (พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม) ซึ่งอยู่รุ่นเดียวกับผู้พันของผม คืนนั้นผมกินข้าวไม่ลง กว่าจะนอนตาหลับได้ก็เกือบตี 3 ซึ่งภายหลังอาจารย์ก็โทรมาบอกว่า พี่เปา
...ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด
...ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว
...ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่
...ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่ากับ"" ดินสุดท้าย ของเผ่าพันธุ์
รายงานสดจาก เนชั่น และ เอเอสทีวี
http://www.oknation....t.php?id=582238
http://www.manager.c...D=9530000050401
http://www.manager.c...D=9530000050350
Edited by Stargate-1, 19 September 2012 - 09:51.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#326
Posted 29 August 2012 - 16:15
เห็นว่าสิงห์สนามหลวงเริ่มจะลากออกไปเรื่องทุ่มนึงยังมีประชุมอยู่
อีกคนก็มีเรื่องจำนวนผู้บาดเจ็บ มีhentai นี่ดีหน่อยที่คุยเรื่องวิถีกระสุน
แต๋มก็จะพูดเรื่องวิถีกระสุนแต่ไม่ชัด เรื่องวิถีกระสุนนี่ผมก็เห็นแย้งนิด
นึงตรงที่ถ้านายวสันต์ก้มหน้ามองพื้นก็จะเป็นข้อหักล้างของการ
ต้องนั่งยิง ระนาบของกระสุนที่ยืนยิงเข้าได้พอดี แต่เป็นเพียงการคิด
ไม่มีหลักฐานว่านายวสันต์ก้มหน้าจริง หรือถ้ามีหลักฐานมาก็ต้องหา
อีกว่าวิถีกระสุนควรจะมาได้จากทางไหนบ้างในทุกๆ ด้าน
ขอติคุณGopหน่อยคุณGop เคยมีความคิดเห็นที่ดีกว่านี้แต่กระทู้นี้
ดูคุณGop จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องเสียงปืนอย่างเดียวเรื่องวิถีกระสุนหรือ
องค์ประกอบโดยรวมอย่างอื่นคุณGop ดูจะไม่สนใจที่จะออกความ
เห็นเลย ถ้าอาจารย์แอมบอกว่าเสียงไม่ตรงกันคุณก็น่าจะหยุด
ประเด็นนี้เอาไว้ก่อน ให้ถามจี้อย่างไรก็เชื่อว่าอาจารย์แอมจะยืนยัน
เหมือนเดิม พิจารณาเรื่องอื่นให้มันตกผลึกเสียก่อนแล้ว
ค่อยย้อนกลับมาเรื่องเสียงปืนอีกที เพราะถ้าไม่เปิดใจไปประเด็นอื่น
มันก็จนหยุดอยู่กับแค่ประเด็นนี้ ไม่ทำให้คุณGopคิดประเด็นอื่นมา
ประกอบมองภาพรวมด้วย ถ้าจะคิดแค่เสียงปืน แล้วปิดกั้นองค์ประกอบ
โดยรวมทั้งหมดถือว่าคุณGop ปิดกั้นตัวเองอย่างมากเลย
ผมดูอาจารย์แอมแล้วผมยังชมเลย เปิดกระทู้มาถามว่าใครยิงวสันต์
ในความเห็นของอาจารย์แอมต้นๆ ก็ว่าไว้ว่าจากสไนเปอร์นปช.
แต่ท้ายๆ ก็สรุปออกมาเป็นสองด้านเพราะมีการหักล้างกันต่างๆนาๆ
และหลักฐานมันก็ยังไม่ชัดเจนทั้งหมด ก็ไม่ควรปิดกั้นข้อสันนิษฐาน
ที่เหลือ เพื่อเอาเพียงข้อสันนิษฐานที่ถูกกับจริตของตน
ผมว่าอาจารย์แอมจงใจเปิดกระทู้ล่อเป้าแต่ท้ายสุดก็แสดงให้เห็นว่า
เมื่อมีการพูดคุยหักล้างก็ควรนำข้อคิดต่างๆ ที่ไม่ชัดเจนมาเป็นข้อ
กล่าวหาทั้งสองฝ่าย
อาจารย์ก็แมนดีนี่นาเปิดใจทั้งสองด้านไม่ปิดกั้นเอาเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง
ตอนนี้ ผมสรุปว่ามีข้อโต้แย้งหลักๆ 3 ข้อ ที่สงสัยว่า ทหารจะยิงโดนคุณวสันต์ได้อย่างไร
1 คุณกรกชถามว่า http://webboard.seri...200#entry396148
คนถือธงแดงจะล้มลงจากการยิงของทหารในรูปได้อย่างไร ในเมื่อมีทหารอีกคนบังอยู่เต็มๆ
2 หลายท่าน ตั้งคำถามว่า จากคลิบ วินาทีที่คุณวสันต์ถูกยิง เขาหันหัวอย่างไร
ประเด็นนี้สำคัญมาก เพราะเรารู้รูกระสุนเข้าและออก จึงทำแนววิ่งของกระสุนได้ จากแนวนี้ ถ้ารู้ลักษณะการหันหัว ก็รู้ทิศทางการยิง
3 ผมตั้งคำถามว่า ถ้าคุณวสันต์ถูกยิงล้มลงตรงทางม้าลายที่ผู้การร่มเกล้าเคยนอนรับการปฐมพยาบาล กระสุนจากทหารที่ยิงเพื่อคุ้มครองท่านจะโดนคนที่เดิมมายังที่ที่ท่านนอนได้อย่างไร
ส่วนข้อกล่าวหา ยังมีสองข้อเช่นเดิม
1 คุณวสันต์ถูกทหารยิง
กรณีนี้แยกเป็น 2 สมมติฐาน
1.1 ถูกยิงจากสไนเปอร์ที่ทหารส่งไปแฝงตัวบนตึก
1.2 ถูกยิงจากระยะไกล จากทหารที่พยายามควบคุมฝูงชน
2 คุณวสันต์ถูกกองกำลังติดอาวุธของนปช. ลอบสังหาร
เพื่อเอาศพไปใส่ร้ายรัฐบาล
ผมขอตั้งข้อสังเกตอีกสักประเด็นว่า
หลังจาก 10 เมษาแล้ว มีกรณีถูกยิงศีรษะอีก เพียง 2 ครั้ง คือพลทหารณรงค์ฤทธิ์ที่ถนนวิภาวดี
กับเสธ.แดง ที่ศาลาแดง
ทำไมการยิงหัว จึงหายไป
- คุณฉงน and Change 001 like this
#327
Posted 29 August 2012 - 16:23
เอาละ วางตำแหน่ง(มีรูป+คลิปที่พร้อมใส่เข้าไป 15.00-22.00)ให้ ตามแผนที่
ทีบอกว่า ทหาร ถูกล้อมอยู่ ล้อมอย่างไร
ค้นมาจาก
http://www.thaifreen...04/10-2553.html
เหตุการณ์ สลายการชุมนุม 10 เมษา
1.รัฐบาลคิดว่ากลไกที่สำคัญที่เป็นตัวเชื่อม ของคนเสื้อแดงคือพีทีวีหรือทีวีจอแดง ดังนั้นก่อนจะเริ่มแผนสลายการชุมนุม รัฐบาลจึงบุกเข้าไปบังคับปิดสถานี ว่ากันว่างานนี้ถึงขนาดใช้ปืนจี้บังคับดับสัญญาณที่สถานีโทรคมนาคมที่ลาด หลุมแก้ว ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงก็ยกขบวนเข้าไปทวงคืนในวันถัดไปทันที การปะทะกันครั้งแรกเราจะเห็นภาพก้อนดินจากท้องนาที่คนเสื้อแดงระดมขว้างใส่ ทหาร ซึ่งใช้แก๊สน้ำตาโต้ตอบประปราย ในที่สุดฝ่ายทหารก็ต้องยอมถอยและคนเสื้อแดงก็ต่อสัญญาณใช้ได้ต่อมาอีกเพียง หนึ่งวัน หลังจากนั้นก็ถูกวิชามาร คือการปล่อยสัญญาณรบกวนจนใช้การไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะแก้ได้ก็เพียงชั่วครู่ชั่วยามแล้วก็กลับมาใช้ไม่ได้เหมือนเดิม
2.แนว ความคิดมาจากความต้องการของรัฐในการสร้างความเชื่อมั่นว่าตัวเองยังมีอำนาจ ในการปกครองและบริหารบ้านเมืองได้ ตัวนายกและรัฐมนตรียังมีความสามารถทำงานได้ แต่ผู้ชุมนุมได้แสดงออกโดยไม่สนใจประกาศต่าง ๆของรัฐบาลเลย ไม่ว่ารัฐบาลจะห้ามอะไร ผู้ชุมนุมก็จะทำสิ่งนั้น ห้ามไปที่ไหน ผู้ชุมนุมก็จะไปที่นั่น
มีแรงบีบจากรอบด้านที่ไม่เห็นด้วยกับคนเสื้อ แดง ว่ารัฐบาลต้องจัดการเรื่องนี้ให้จบก่อนสงกรานต์ ถ้าหลังเทศกาลสงกรานต์แล้วกลับมา ยังมีผู้ชุมนุมอยู่เต็มเมือง ก็แสดงว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจที่จะดูแลบ้านเมืองได้ แผนการต่าง ๆจึงถูกกำหนดขึ้น การปิดทีวีจอแดงดูจะเป็นบันไดขั้นแรกของการสลายการชุมนุม แม้เสื้อแดงจะทำให้ทหารถอยร่นไปจากสถานีไทยคมได้ แต่ผลที่สุดแล้ว ทีวีจอแดงก็ใช้งานไม่ได้ นี่เท่ากับว่าแผนขั้นแรกของรัฐบาลได้บรรลุผลแล้ว
3.ทุก ฝ่ายคาดว่าหลังวันที่ 9 เมษาจะเป็นวันหยุดยาว จำนวนผู้ชุมนุมคงมีไม่มาก เพราะคนส่วนหนึ่งจะต้องกลับไปเทศกาลสงกรานต์
การชุมนุมสองจุดที่ ผ่านฟ้าและราชประสงค์ ทำให้กำลังคนถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ช่วงบ่ายที่อากาศร้อนจะมีผู้ชุมนุมน้อยมากทั้งสองแห่ง มีคนสรุปว่าผู้ชุมนุมกลัวอากาศร้อนมากกว่าคำประกาศข่มขู่ของศอฉ.
ทำไม ต้องเป็นวันที่ 10 เมษา ไม่ใช่ 11 หรือ 12 เรื่องนี้ไม่มีใครรู้แน่ชัดแต่เข้าใจว่าแผนการสลายการชุมนุมอาจจะตั้งเวลา ไว้กว้าง ๆ จังหวะเหมาะสมวันไหนก็ทำได้เลย วันที่ 10 อาจจะเป็นเพียงการทดลองก็ได้
4.วันที่ 10 เมษา มีการออกข่าวว่าจะสลายผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์ เพราะรัฐบาลขอร้องมาหลายครั้งหลายวันแล้ว ให้ผู้ชุมนุมย้ายจากราชประสงค์ไปรวมที่ผ่านฟ้า ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจและการจราจร ตอนสายของวันที่ 10 มีการส่งกำลังตำรวจจำนวนมากไปที่เพลินจิต ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากราชประสงค์นัก ทางกลุ่มผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์จึงส่งคนเสื้อแดงจำนวนมากไปกดดันให้ตำรวจออก จากที่ตั้ง
ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมที่ผ่านฟ้าก็รู้ว่ามีการส่งกำลัง ทหารเข้ามาเสริมที่กองทัพภาค 1 บนถนนราชดำเนินจำนวนมาก จึงใช้แผนเดิมคือส่งกำลังไปกดดันให้ออกจากที่ตั้งเหมือนเคย เพราะเคยทำได้สำเร็จเมื่อครั้งที่กดดันให้ทหารออกจากวัดต่าง ๆ แต่คราวนี้ทหารไม่ยอม ใช้รถฉีดน้ำและเคลื่อนกำลังออกมากดดันให้ผู้ชุมนุมถอยร่นไปอย่างไม่เป็นขบวน
5.เวลาบ่ายโมงเศษ กองทหารเคลื่อนมาจากกองทัพภาค 1 และรุกไล่ผู้ชุมนุมเสื้อแดงให้ถอยร่นไปอย่างไม่ยากนัก ช่วงเวลานี้เองน่าจะเป็นจุดตัดสินใจว่าสามารถปฏิบัติการได้เพราะยังมีเวลา อีกสี่ถึงห้าชั่วโมงกว่าจะมืดค่ำ เป้าหมายการสลายการชุมนุมที่ผ่านฟ้าก่อนหกโมงเย็นจึงถูกกำหนดขึ้น และแผนที่วางเอาไว้จึงถูกนำมาใช้เพื่อให้บรรลุผลตามเวลาที่กำหนด
การ บุกกลับของทหารในชั่วโมงแรกได้ผล แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ทำให้ผู้ชุมนุมเสื้อแดงถอยร่นไปได้พอสมควร แม้ได้รับบาดเจ็บแต่ก็ไม่มีผู้เสียชีวิต
6.การปฏิบัติการรุกต่อบนถนน ราชดำเนินนอกของฝ่ายทหารยังดำเนินต่อไป แต่ปฏิกิริยาของคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์คือยังนิ่งอยู่ไม่มีการส่งกำลังมา ช่วยเพราะเนื่องจากช่วงบ่ายเป็นช่วงที่มีคนน้อย
บ่ายสองโมงครึ่ง รถไฟฟ้าประกาศหยุดเดินรถ รถเมล์ที่วิ่งผ่านที่ชุมนุมทั้งสองแห่งเปลี่ยนเส้นทาง นั่นหมายความว่าผู้ที่จะเดินทางเข้าไปร่วมกับผู้ชุมนุมสมทบทั้งสองแห่งจะ เดินทางเข้ามาได้ยากขึ้น
แกนนำผู้ชุมนุมคาดการณ์ว่าฝ่ายรัฐบาลต้อง การให้ทางราชประสงค์ส่งคนไปช่วยผ่านฟ้า แล้วนำกำลังมาสลายที่ราชประสงค์ จึงยังไม่ส่งคนไปสนับสนุนผ่านฟ้า แต่กลับเตรียมแผนไว้ว่า ถ้าที่ผ่านฟ้าถูกกดดันหนัก ๆก็จะยอมถอยจากผ่านฟ้ามารวมกันที่ราชประสงค์ โดยถอยเป็นแนวตรงจากหลานหลวงมาที่ราชประสงค์ซึ่งเป็นระยะทางไม่ยาวนัก
7.การ บุกของฝ่ายทหารเริ่มพบแรงต้านที่มากขึ้น ผู้ชมจะเห็นได้ผ่านจอโทรทัศน์ เสียงปืนที่ยิงกระสุนยาง แก๊สน้ำตาดังสนั่นหวั่นไหว เริ่มมีการใช้กระสุนจริงเล็กน้อย ผู้สื่อข่าวได้ถ่ายภาพรถที่ถูกกระสุนและนำหัวกระสุนออกมาให้ดู
ประมาณ สี่โมงเย็น เวลาเหลือน้อยแล้วกองทหารที่เข้าเคลียร์พื้นที่ เปิดแนวรุกเพิ่มขึ้นโดยการตีโอบด้านหลังอีกสองแนวคือเจาะเข้าทางถนนดินสอมา โผล่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตรงหน้าโรงเรียนสตรีวิทย์ อีกแนวหนึ่งเข้าทางบางลำพูผ่านถนนตะนาว โผล่ที่สี่แยกคอกวัว ถ้าถึงถนนราชดำเนินกลางทั้งสองจุดจะร่วมผลักดันผู้ชุมนุมให้ถอยร่นไปที่หน้า เวทีบนสะพานผ่านฟ้าและจะบีบให้ถอยออกไปทางถนนหลานหลวงซึ่งคาดว่าจะเป็นทาง ถอยของผู้ชุมนุมอยู่แล้ว
8.สิ่งที่ไม่คาดคิดสิ่งแรกก็คือ การต่อสู้ต้านทานอย่างทรหดชนิดไม่ยอมถอย ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถนนวิสุทธิกษัตริย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทหารเคลื่อนเข้ามา สาว ๆที่แต่งตัวเพื่อประกวดนางสงกรานต์ก็ยังแต่งตัวกันอยู่ไม่ไปไหน แต่สักครู่หลังจากกระสุนยางปลิวว่อน เสียงกระสุนปืนและแก๊สน้ำตา ทำให้สาวทั้งหมดที่ยังแต่งหน้าไม่เสร็จวิ่งกันสไบปลิว ชาวบ้านชาวช่องปิดประตูร้านกันอุตลุด สำหรับคนเสื้อแดง วัตถุสิ่งของทุกอย่างที่ขว้างได้ จะถูกนำมาขว้างใส่ทหาร แต่ก็ถูกยิงโต้ตอบด้วยกระสุนยางและแก๊สน้ำตาใส่อย่างไม่ยั้งเช่นกัน ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก แต่ในที่สุดฝ่ายเสื้อแดงก็ต้านไม่ไหว รถสายพานหุ้มเกราะสามคันได้บุกมาจนถึงข้างโรงเรียนสตรีวิทย์ แถวสองยังมีอีกสามคันและยังมีรถฮัมวี่สองคันที่น่าจะเป็นของผู้บัญชาการ ระดับสูง รถลำเลียงทหารอีกต่างหาก ทางด้านถนนตะนาว กองทหารก็บุกตะลุยเข้ามาแล้ว แต่ไม่มีรถสายพานหุ้มเกราะ ด้านนี้ฝ่ายเสื้อแดงนำรถห้าหกคันมาจอดขวางไว้ ดังนั้นแม้หากเอารถสายพานเข้ามาก็ไม่มีประโยชน์เพราะไม่น่าจะฝ่ารถห้าหกคัน นั้นเข้ามาได้
ช่วงเวลานั้นบนเวทีก็ยังมีการปราศรัยกันอยู่ ฝ่ายเสื้อแดงคิดว่าใกล้ค่ำแล้วทหารคงจะหยุดปฏิบัติการ และมีการพูดเตือนจากเวทีว่าฝ่ายทหารไม่ควรสลายการชุมนุมในตอนค่ำเพราะจะควบ คุมไม่ได้
ช่วงเวลานั้นยังไม่มีการปะทะหนัก ผู้ควบคุมการเคลียร์พื้นที่คงเห็นว่ายังไม่มืดสนิท และไหน ๆก็บุกมาจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยซึ่งเป็นด่านสุดท้ายแล้ว อีกนิดเดียวก็น่ะผลักดันผู้ชุมนุมให้ถอยไปจากผ่านฟ้าได้ จะเป็นผลงานที่ทำให้รัฐบาลไม่เสียหน้า ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถสลายฝูงชนที่ราชประสงค์ได้ก็ตาม และก็จะเป็นการข่มขวัญให้ผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์หวาดกลัว อาจยอมพักรบในช่วงสงกรานต์ การเคลียร์พื้นที่จึงดำเนินต่อไป การตัดสินใจณ.เวลานั้น ไม่ทราบว่ามีใครได้โทรศัพท์ปรึกษากับใครบ้าง และการตัดสินใจลุยต่อในขณะที่จะมืดค่ำนี้เป็นการตัดสินใจของใคร ? อันนี้ต้องไปสืบกันเอาเอง
9.ในที่สุดความมืดก็มาเยือน ถึงตอนนี้มีการใช้กระสุนจริงบ้างแล้ว มีการยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม แล้วพวกผู้ชุมนุมก็จะคว้ากระป๋องแก๊สน้ำตาขว้างเข้าใส่รถหุ้มเกราะและทหาร ซึ่งอยู่บริเวณนั้น ซึ่งลมพัดไปทางทหารพอดี ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว แนวรับที่สี่แยกคอกวัว เสื้อแดงยังต้านทหารไว้ได้เหลืออีกเพียง20-30 เมตร ทหารก็จะถึงถนนราชดำเนิน ในขณะที่แนวถนนดินสอรถสายพานหุ้มเกราะสามารถพาทหารเข้าสู่ถนนราชดำเนินได้ แล้ว แต่มวลชนเสื้อแดงก็ไม่ยอมถอย ระดมขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ทหารอย่างไม่คิดชีวิต สำหรับฝ่ายทหารแล้ว อีกนิดเดียวก็จะสำเร็จ การใช้กระสุนจริงขณะนี้มีมากขึ้น ผู้ชุมนุมหลายคนชี้ให้ดูกระสุนที่วิ่งกระทบพื้น และชี้ไปตามตึกข้างบน ทหารบางคนที่อยู่บนรถหุ้มเกราะก็แหงนหน้าขึ้นมองเช่นกัน แต่ลูกปืนยังพุ่งใส่ประชาชนที่ยังอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแต่ก็ไม่ มากนัก และเป็นการยิงทีละนัด แต่ส่วนที่เดินเท้าก็บุกตะลุยเข้ามาบนถนนหน้าแมคโดนัลด์
ข่าวผู้ เสียชีวิตไปถึงรัฐบาลแล้ว รัฐบาลน่าจะรู้ข่าวนี้ก่อนคนเสื้อแดง เพราะเป็นการเสียชีวิตจากคนที่บาดเจ็บและไปตายที่โรงพยาบาลของรัฐ คนเสื้อแดงก็รู้ว่ามีคนเสียชีวิตเช่นกันเพราะมีคนวิ่งมาบอกที่เวทีว่า มีผู้เสียชีวิตในแนวปะทะ
แกนนำที่ราชประสงค์ระดมคน เข้าไปช่วยสกัดทหารที่ผ่านฟ้า ทางฝ่ายรัฐบาลพยายามติดต่อแกนนำเสื้อแดงเพื่อหย่าศึกชั่วคราว
วิเคราะห์
ช่วง เวลานี้ผู้บังคับบัญชาฝ่ายทหารซึ่งอยู่ในสนามคงต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร ต่อไป ในเวลาเดียวกันแกนนำเสื้อแดงก็ต้องตัดสินใจว่าจะสู้ไหวมั้ย ถ้าถอยจะถอยอย่างไร แต่ละนาทีในช่วงนี้มีความหมาย เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการผันแปรที่จะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งชั่วโมงข้าง หน้า
10.สภาพเหตุการณ์จริงในสนาม เหตุการณ์ที่ดูจากคลิปวีดิโอที่ถ่ายมา ขณะนี้มืดสนิทแล้ว ถ้าไม่มีแสงไฟกล้องจะจับภาพได้ไม่ชัด การดันกันทั้งสองแนว คือที่สี่แยกคอกวัวทหารยังรุกเข้ามาไม่ได้ แต่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทหารรุกคืบมาถนนราชดำเนินได้แล้ว การปะทะทั้งสองแนวยังดำเนินต่อไป สิ่งของทุกชนิดที่ใช้ขว้างปาได้ ถูกระดมขว้างใส่ทหาร
ในความมืดนั้นคนชุดดำปรากฏตัวขึ้นแล้ว
แนว ปะทะที่สี่แยกคอกวัว มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บถูกหามออกมา ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้น ภาพที่เห็นจากคลิปวีดิโอ ระเบิดเอ็ม 79 น่าจะตกกลางแถวทหารประมาณแถวที่สอง ทหารล้มลงหลายคน และพยายามลากผู้บาดเจ็บถอยหลังหนี ระเบิดลูกที่สองซึ่งน่าจะมาจากคนยิงคนเดิมยิงลึกเข้าไปทางด้านขวามือของ ระเบิดลูกแรก ลูกนี้ก็น่าจะทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก ส่วนระเบิดลูกที่สามเห็นไม่ชัดเจน แต่ยิงลึกเข้าไปอีกเพื่อจะให้ทหารถอยออกไป ลูกที่สี่ภาพจากคลิปวีดิโอตกที่ทางแยกเข้าถนนข้าวสาร เป็นการสกัดไม่ให้ทหารที่ถนนข้าวสารถอยกลับมาที่ถนนตะนาวได้ ช่วงนี้กระสุนจริงถูกยิงตอบโต้เข้ามาเยอะ และก็น่าจะเป็นช่วงที่คนชุดดำยิงตอบโต้กลับไป ในภาวะนี้ใครหลบไม่ทันก็ต้องเจอลูกปืนจริง ๆแน่นอน มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเวลานี้หลายคน
ที่อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยทหารดูเหมือนจะยึดพื้นที่ได้เกือบครึ่งหนึ่งแล้ว เสียงทหารพูดผ่านลำโพงดังสนั่นว่าให้ประชาชนออกไปจากพื้นที่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แก๊สน้ำตาปลิวว่อน เศษไม้ ก้อนหิน ขวดน้ำก็ปลิวว่อน ช่วงขณะหนึ่งกำลังของฝ่ายเสื้อแดงผลักดันให้ทหารถอยร่นกลับไป ทำให้ทหารจากบริเวณอนุสาวรีย์ทั้งหมดถอยเข้าไปอยู่หลังรถหุ้มเกราะข้าง โรงเรียนสตรีวิทย์ ในแนวถนนดินสอ ฝ่ายเสื้อแดงรู้สึกเหมือนตัวเองได้รับชัยชนะแล้ว
คนเสื้อแดงประมาณ สองสามพันคนมาชุมนุมกันอยู่รอบฐานอนุสาวรีย์ บางส่วนไปยืนออกันอยู่หน้ารถสายพานหุ้มเกราะ ห่างจากทหารไม่กี่เมตรเพราะทหารก็ยืนอยู่ท้ายรถสายพานหุ้มเกราะ คนเสื้อแดงส่งเสียงไชโยโห่ร้องและก็มีการเปิดเพลงเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ทั่วถนนรอบอนุสาวรีย์ ทหารก็ไม่ได้ถอยไปไหนยืนอยู่หลังรถหุ้มเกราะและตั้งแนวรับอยู่ในถนนดินสอ
เสียง เพลงของคนเสื้อแดงยังไม่ทันจบเพลงแรก บรรยากาศก็เปลี่ยนไป มีเสียงปืนดังขึ้น ขวดน้ำและสารพัดวัสดุก็ถูกเขวี้ยงเข้าใส่ ช่วงนี้ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บรรยากาศที่สงบและมีเสียงเพลงจึงเปลี่ยนเป็นฉากบู๊อีกครั้ง มีเสียงจากบนรถตะโกนว่าทหารอย่าฆ่าประชาชน เหตุการณ์อย่างนี้ดำเนินต่อไปครู่หนึ่ง จากคลิปวีดิโอจะเห็นมีแสงสว่างวาบอยู่ไกลด้านหลังกองทหาร เหมือนมีการระเบิด จากนั้นอีกครู่หนึ่งก็มีการระเบิดระหว่างรถหุ้มเกราะซึ่งมีผลให้ทหารบาดเจ็บ ระเบิดลูกที่สองมีผลทำให้ทหารถอยทันที
พวกเสื้อแดงบุกตามแต่คนบนรถ ได้ตะโกนห้ามไว้ บอกว่าถ้าใครบุกตามเข้าไปถือว่าแดงเทียม เหตุการณ์ตรงนี้เป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งถ้ามีการบุกตะลุมบอนกันเข้าไป น่าจะมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตมากมายทั้งสองฝ่าย แต่เหตุการณ์ยุติเพียงแค่นั้นทำให้ทหารที่ถนนดินสอถอยออกไปได้ พวกเสื้อแดงลำเลียงผู้บาดเจ็บที่มีทั้งทหารและคนเสื้อแดงขึ้นรถของมูลนิธิไป โรงพยาบาลต่าง ๆ
ทหารบางส่วนที่ยังติดอยู่ในรถสายพานหุ้มเกราะก็ถูก เรียกให้ออกมาโดยไม่ทำอันตราย สภาพการณ์คล้าย ๆจะสงบลงแล้ว แต่ยังมีการยิงจากที่สูงลงมาประปราย หลายนัดยิงใส่ผนังตึก และบางนัดยิงใส่ผู้ชุมนุม ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า การซุ่มยิงอย่างนี้มีต่อไปอีกหลังจากทหารถอนกำลังไปแล้วประมาณหนึ่งชั่วโมง จากคลิปวีดิโอ จะมีภาพชายเสื้อแดงคนหนึ่งถูกยิงที่ศีรษะบนถนนรอบอนุสาวรีย์ และคลิปอีกอันหนึ่งมีผู้ชุมนุมตะโกนห้ามปรามกันว่า
“อย่าเข้าไป พวกมันลงมาจากตึกแล้ว เดี๋ยวพวกมันจะยิงเอา”
ในขณะที่มองเห็นเป็น เพียงเงาดำ ๆของคนที่เคลื่อนไหวอยู่ข้างตึก
หลังจากนั้นเสื้อแดงก็ เข้าไปรื้อทำลายรถ ก่อนหน้านี้มีการติดต่อขอรถคืน มีเสียงคนที่ยืนอยู่บนรถหุ้มเกราะตะโกนว่า “ทหารเขาติดต่อขอรถคืน” เสียงผู้ชุมนุมตะโกตอบไม่ยอมให้รถคืน เข้าใจว่ารถคงถูกรื้อพังหลังจากนั้นไม่กี่นาที แต่มีคนห้ามไม่ให้เผา เพราะอาจมีการระเบิดหรือไฟไหม้รอบบริเวณนั้นได้ ขณะนั้นไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฝ่ายทหาร
วิเคราะห์
ช่วง เวลาต่างๆที่เกิดเหตุการณ์หลายเหตุการณ์น่าจะใกล้เคียงกัน ระบบของฝ่ายเสื้อแดงไม่น่าจะบันทึกเวลาได้ แต่ฝ่ายทหารน่าจะบันทึกเวลาได้ ปรากฏว่ามีระเบิดซึ่งยืนยันไม่ได้ว่าเป็นชนิดใดตกที่เต็นท์บัญชาการ ทำให้มีนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาเสียชีวิตหนึ่งคน บาดเจ็บสองคน และจุดนี้น่าจะเป็นผลให้เกิดการถอยและยกเลิกปฏิบัติการในค่ำนั้นทันที การตกลงหย่าศึกระหว่างคนเสื้อแดงกับรัฐบาลจึงเกิดขึ้นและมีผลในทางปฏิบัติ ณ.เวลานั้น
ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสน่าจะถูกยิงในชั่วโมงสุดท้าย ของการสลายผู้ชุมนุม
คำถาม นินจาที่ยิงเอ็ม 79 เข้าใส่ทั้งสองจุด (บางจุดอาจเป็นการขว้างระเบิด )ยังไม่มีใครรู้แน่ว่าเป็นใคร ? แต่พอเหตุการณ์สงบก็หายไป คนชุดดำที่ยิงปืนใส่ทหารเป็นใคร? พลซุ่มยิงที่อยู่บนตึกยิงใส่คนเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นใคร ?
ใน ความเป็นจริงคนบาดเจ็บต้องมีเกินหนึ่งพัน ไม่ใช่แค่แปดร้อยกว่า แต่มีคนจำนวนมากที่ถูกกระสุนยางแล้วไม่ไปแจ้งความ เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เขาอาจถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายก็ได้
ก่อนสี่ทุ่มผู้ ที่อยู่ในเหตุการณ์ประเมินว่า อาจมีผู้เสียชีวิตถึงสามสิบราย เขาสังเกตคนที่ถูกหามขึ้นรถว่าบาดแผลที่ถูกยิงมีอาการสาหัสมาก ขณะนั้นผู้ประเมินไม่รู้ว่าฝ่ายทหารมีคนบาดเจ็บเท่าไหร่ เขาประเมินจากฝ่ายประชาชนเท่านั้น วันนี้เรียบเรียงเหตุการณ์และลำดับภาพเพื่อให้ผู้อ่านได้มองภาพรวมได้ ส่วนการวิเคราะห์จะหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเขียนต่อตอน 2
โปรดติดตาม เมื่อหายนะมาเยือน...ตอน 2 ต่อไป
และในของเสรีไทยเอง
10 เมษา ทหารถูกสั่งให้ใช้กระสุนยางและโลห์เท่านั้น....
โดย amplepoor, 15 มีนาคม 2555 02:11
http://webboard.seri...่งให้ใช้กระสุน/
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 08:38
เครดิต facebook คุณ Sirichok Sopha
ครอบครัวทหารตายในม็อบแดงจี้ ทบ.สอบเผาเมือง- “ภริยาร่มเกล้า” ซัด “ประชา” อ้างหาคนร้ายไม่ได้ ลั่นคนผิดรับเงินเยียวยา 7.75 ล้านไม่ได้
ข้อเท็จจริงอีกด้านที่คนไม่รู้
บันทึกของแพทย์ทหารผู้หนึ่ง ที่เขียนบันทึกไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.04 น.
การสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 เมษายน ผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ซีดี.ภาพเหตุการณ์มีทั้งเวอร์ชั้น ศอฉ. และเวอร์ชั่นคนเสื้อแดง ได้ปั๊มกันออกมา เกลื่อนเมือง
แต่ท่ามกลาง การช่วงชิงมวลชน ปรากฏมีบันทึกของแพทย์ทหารผู้หนึ่ง ที่เขียนบันทึกไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.04 น. มีหลายประเด็นน่าสนใจ ลองใช้ดุลยพินิจของท่าน
ผมในฐานะแพทย์ทหารคนหนึ่งที่ปฎิบัติงานในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. 53 อยากจะเขียนบันทึกความทรงจำเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อเก็บไว้เป็นบทเรียน เป็นอุทาหรณ์ หรือเป็นสิ่งเตือนใจให้แก่ตนเอง และประชาชนชาวไทย ไม่ให้ลืมเลือนบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปกับกาลเวลา
ผมได้รับภารกิจในฐานะ ผบ.มว.สร.พัน.ร. (ผู้บังคับหมวดเสนารักษ์ กองพันทหารราบ) หรือก็คือแพทย์ทหารประจำกองพัน หน้าที่ของผมคือติดตามดูแลกำลังพลเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย การป้องกันโรค การส่งกำลังบำรุงทางสายแพทย์ รวมถึงงานอื่นๆตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย ผมมาภารกิจในครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 53 ย้ายสถานที่พักไปตามภารกิจต่างๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นการตั้งด่านตรวจ และเฝ้าระวังเหตุร้ายตามสถานที่สำคัญ เช่น ที่ ร.1 พัน.1 รอ., ร.11 รอ., สนามบินสุวรรณภูมิ, ลาดหลุมแก้ว และที่สุดท้าย คือ สี่แยกคอกวัวบริเวณถนนตะนาวศรี (ข้างวัดบวรนิเวศฯ ย่านบางลำภู) ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย. 53
หน่วยของเราได้รับภารกิจในการขอพื้นที่คืนจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ออกจากที่ตั้งปกติโดยรู้ก่อนล่วงหน้าไม่ถึง 1 ชม.
หลังจากเข้าที่รวมพลซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสี่แยกคอกวัวไม่นานก็ต้องเคลื่อนย้ายราวสักบ่ายโมง ผมขึ้นบนหลังคารถฮัมวี่คันแรกสุด (หากใครเห็นในรูปถ่าย ก็คงจะเห็นทหารคนหนึ่งบนหลังคารถฮัมวี่ที่ติดปลอกแขนกาชาด ถือโล่บังตัวเอง นั่นก็ผมล่ะครับ) จนกระทั่งถึงบริเวณถนนตะนาวศรี กำลังพลรวมทั้งผู้พันก็ลงจากรถ ไปตั้งแนวโล่หน้ากลุ่มผู้ชุมนุม ผู้พันผมบอกให้ผมรออยู่ในรถก่อน เนื่องจากกลัวว่าผมอาจโดนสิ่งของขว้างปามาจะเกิดอันตราย ซึ่งอีกไม่นานก็เกิดขึ้นจริงๆ
ทหารของเราตั้งแนวโล่ มีเพียงชุดเกราะป้องกัน (ผมเรียกว่า ชุดโรโบคอป) หมวกกันน๊อค โล่ และกระบองป้องกันตัว เราถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปาของทุกอย่างที่คิดว่าจะปาได้ ทั้งขวดเบียร์ ขวดกระทิงแดง ไม้ อิฐบล๊อค กระถางต้นไม้ บันได ขวดน้ำ ฯลฯ อีกสารพัด รถบางคนกระจกถูกปาแตก แต่อาจเป็นเพราะรถฮัมวี่ของผมคงจะแข็งมากมั้งครับ กระจกเลยไม่เป็นไร
หลังจากนั้นไม่นาน ผมเริ่มเห็นมีคนเจ็บจากของที่ถูกขว้างปา เลยตัดสินใจบอกพลขับว่าผมจะลงจากรถไปดูคนเจ็บ ฝากตอบ ว. (วิทยุ) ให้ด้วยนะครับ หลังจากนั้นก็ลงไปดูคนเจ็บและสถานการณ์อยู่หลังแนวโล่ ซึ่งในระหว่างนั้นก็ต้องคอยหลบซ้าย หลบขวา ก้มหัว หลบบรรดาสิ่งของที่ขว้างมา แต่ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าผมโชคดีมาก เพราะหลังจากผมตัดสินใจลงจะรถไม่นาน กลุ่มผู้ชุมนุมก็รุกไล่แนวโล่มาจนถึงรถฮัมวี่ที่ผมเคยนั่งอยู่ก่อนไม่ถึง 5 นาที ทุบรถ ทุบกระจก แล้วขึ้นไปบนช่องของพลสังเกตการณ์ (บนเพดานรถจะมีช่องไว้สำหรับให้ทหารนั่งคอยสังเกตการณ์ หรือติดปืนกล แต่นี่เป็นรถธุรการของผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่ฮัมวี่รบ เลยไม่ได้ติดอาวุธ) พลขับของผมถูกผู้ชุมนุมใช้เท้ายันศีรษะกับพวงมาลัยรถ ลากลงมารุมกระ..ทืบ แล้วจ้วงแทงด้วยมีด แต่เขาก็ยังโชคดีมากที่ใส่เกราะ มีดเลยไม่เข้า ไม่อย่างนั้นก็คงไส้ทะลักแน่ๆ
ผมทำหน้าที่ช่วยกันกับทหารและนายสิบพยาบาลลำเลียงผู้ป่วยจากด้านหน้าแนวมาไว้ที่รวบรวมผู้ป่วยเจ็บด้านหลัง ซึ่งผมกำหนดไว้ที่ริมกำแพงข้างวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นการปะทะกันของแนวโล่กับกลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ป่วยเจ็บส่วนใหญ่จึงมักเกิดจากการขว้างของแข็งเข้าใส่ มีบาดแผลแตกหรือบาดแผลที่ศีรษะ รวมทั้งผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะตื่นตระหนกทำให้เกิดอาการหายใจเร็วเกินไป (ผมขอเรียกตามศัพท์ทางแพทย์ว่า Hyperventilation syndrome) ในส่วนของผมมีผู้ป่วยอยู่ในเวลานั้นประมาณ 20-30 คน การทำงานชุลมุนมาก เพราะเรามีคนน้อยแค่ผมกับนายสิบพยาบาลรวมกันไม่ถึง 6-7 คน แต่ต้องขอขอบคุณพี่ๆน้องๆกู้ภัย เจ้าหน้าที่ EMS ของวชิรพยาบาล รวมทั้งพ่อแม่พี่น้องประชาชนละแวกนั้นที่ให้ความช่วยเหลือ คอยติดต่อเอารถกู้ภัยมารับคนป่วยไป รพ.ศิริราช และ รพ.วชิรพยาบาล คุณยายบางคนไม่รู้จะช่วยยังไงก็ควักยาดมให้ พี่ๆหลายคนก็วิ่งไปหาน้ำเย็น น้ำแข็ง ผ้าเย็น แอมโมเนีย ให้คนไข้ หรือแม้แต่น้องผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงที่ผมจำได้ดี น้องเค้าวิ่งหาท๊อฟฟี่คอยแจกพี่ๆทหารและคนที่มาช่วย พนักงานเดอะพิซซ่าก็คอยเอากระดาษลังมาพัดให้ผู้ป่วย
แต่มีนายสิบกับพลทหารอีกคนหนึ่งของหน่วยผมที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณต้นขา ถามเขาบอกว่าเขาอยู่บริเวณแถวหน้าสุดของแนวโล่ มีการ์ด นปช. คนนึงถูกยิงด้วยกระสุนยางที่ไหล่ เขาโมโห เขาพูดว่า moong ยิง goo เหรอ หลังจากนั้นก็ชักปืนพก 11 มม. ยิงใส่ทหาร ถูกนายสิบคนหนึ่งมีบาดแผลรูกระสุนที่ต้นขาซ้าย และถูกพลทหารอีกคนที่บริเวณขา ผมได้ทำการห้ามเลือดด้วยผ้าแต่งแผลและสายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) แล้วส่งรถกู้ภัยต่อ
หลังจากเหตุปะทะช่วงแรกสักราวๆ 1 ชม. ทั้ง 2 ฝ่ายก็เจรจากัน ผู้ชุมนุมขอให้ทหารถอยออกไป ส่วนทหารขอให้ผู้ชุมนุมถอยเพื่อลากเอารถที่เสียหายออกมา ก็ตกลงกันได้ ต่างฝ่ายจึงถอยออกห่างจากกันประมาณ 20 เมตร ซึ่งช่วงนั้นผมและเจ้าหน้าที่ได้ทำการลำเลียงผู้ป่วยเจ็บออกไปได้หมดแล้ว ทั้งผู้ชุมนุมและทหารก็ต่างนั่งพักตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ของตน
ในระหว่างนั้นก็มีประชาชนเอาน้ำ เอาของกิน เอาผ้าเย็นมาให้ทั้งฝ่ายทหารและผู้ชุมนุม เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงราวๆหกโมงเย็น (หลังเคารพธงชาติ) ทางทหารจึงได้รับคำสั่งให้ทำการขอคืนพื้นที่ชุมนุมอีกครั้ง โดยตั้งขบวนแถวแรกจำนวน 1 กองร้อย ด้วยแนวโล่และกระบอง และมีกำลังด้านหลังมีปืน M16 เพื่อทำการยิงขู่ขึ้นฟ้าในกรณีที่จำเป็น กำลังของทหารสามารถผลักดันผู้ชุมนุมให้ถอยร่นจากบริเวณปากทางเข้าถนนข้าวสารจนเกือบจะถึงถนนราชดำเนินนอก ซึ่งตอนนั้นผมอยู่หลังกองร้อยที่อยู่ด้านหน้า (ชุดโรโบคอป โล่ กระบอง) โดยมีผู้บังคับกองพันและผู้บังคับการกรมคอยสั่งการอยู่ด้านหน้าของผม (หลังแถวกองร้อย)
ลักษณะการจัดแนวจะเป็นแถวหน้ากระดานประมาณ 4-6 แถว ขณะนั้นผมอยู่ที่ริมฟุตบาทถนนข้าวสาร ในระหว่างนั้นผู้ชุมนุมเริ่มมีการใช้อาวุธที่ร้ายแรงมากขึ้น เช่น ขว้างแก๊สน้ำตาใส่ ขว้างระเบิดเพลิง (โมโรตอฟ) จนกระทั่งมีการเปิดถังแก๊สใส่ทหาร (โชคดีที่ไม่มีใครจุดไฟ มิเช่นนั้นทหารรวมทั้งผมคงถูกไฟคลอกตายแน่) จนกระทั่งเหตุการณ์สำคัญที่สุดก็เกิดขึ้น ...
ผมจำได้ติดตาเลยว่า ตอนนั้นมีระเบิดควันลูกหนึ่งโยนมาตกที่บริเวณแถวทหารหน้าสุด ซึ่งตอนแรกทุกคนคิดว่าเป็นแก๊สน้ำตา จึงรีบนำผ้าพันคอปิดจมูก และเตรียมถอยกลับออก แต่ตอนนั้นทั้งทหารและผมก็โดนแก๊สน้ำตา 3-4 ครั้งแล้ว จึงรู้โดยทันทีว่านั่นไม่ใช่แก๊สน้ำตา เป็นระเบิดควันเฉยๆ ผมได้ยินเสียงผู้พันสั่งว่า ไม่ใช่แก๊ส ไม่ต้องถอย ตั้งแนวต่อไป แถวทหารก็เริ่มตั้งแนวและผลักดันต่อ ผมเองก็ค่อยๆเดินตามหลังแถวทหารไป หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาที ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณหน้าแถวทหาร (ห่างจากเท้าของทหารแถวแรกไม่กี่เมตร)
ผมยอมรับตามตรงว่าทั้งชีวิตไม่เคยเห็นระเบิด M79 มาก่อน แต่สิ่งที่เห็นคล้ายกับประทัดยักษ์ระเบิดที่พื้นถนน แต่ปกติประทัดยักษ์ควรจะมีแต่เสียงดังกับควัน แต่สิ่งที่เห็นกลับมีประกายไฟกระจายออกมาด้วย ผมก็คิดอยู่ว่า ทำไมประทัดมันมีประกายไฟด้วย จุดที่ระเบิดตกห่างจากผมไปราวๆ 10 เมตร หลังจากนั้นก็มีอีกลูกหนึ่งตกหลังผมไปทางหน้าแนวทหารที่ 2 ผมได้ยินเสียงผู้การสั่งว่า มันเล่นของจริง ทุกคนถอย หลังจากนั้นแถวของเราก็แตกถอยมาด้านหลัง นายสิบพยาบาลของผมคนหนึ่งดึงผมให้หลบออกมาทางฟุตบาทให้หลบ ผมหันหลังกลับมาทางถนน เห็นคนเจ็บนอนเลือดอาบอยู่ราวๆ 10-20 คน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นทหารเป็นลูกน้องในกองพันของผม บางคนเมื่อวานเพิ่งมาขอยา บางคนยังเคยกินข้าวด้วยกันไม่นานนี้เอง
ตอนนั้นผมยอมรับจริงๆว่าเบลอไปหมดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปทำด้วยสัญชาตญาณ ภาพที่เห็นคือทหารนอนเลือดอาบ ตาลอย ตามร่างกายมีสะเก็ดระเบิด และบางคนมีรูกระสุนปืนด้วย เพื่อนทหารต่างพากันช่วยลากออกมาจากจุดที่ระเบิด ร้องเรียก หมอ ช่วยด้วย หมอ ดูเพื่อนผมด้วยหมอ หมอ ช่วยเพื่อนผมด้วย บรรยากาศตอนนั้นหลาย
ท่านคงเห็นจากในคลิปวีดีโอหรือในสื่อต่างๆ แต่ ณ สถานที่เกิดเหตุจริงมันยิ่งกว่านั้น มันไม่รู้จะอธิบายยังไง ทั้งตกใจ ทั้งหดหู่ ทั้งเศร้าใจ แม้ว่าผมจะเป็นแพทย์
แต่สิ่งที่ทำได้ผมก็ทำได้เพียงเข้าไปช่วยลากคนเจ็บ เข้าไปช่วยกันห้ามเลือดด้วยผ้าพันคอ เพราะตอนนั้นทั้งตัวไม่มีอุปกรณ์อะไรติดตัวเลย มีแต่ stethtoscope (หูฟัง) ไม่มีสายรัดห้ามเลือด ไม่มีผ้าพันแผล สมัยเป็น นพท.ปี 6 ผมเคยเรียนวิชาเวชปฎิบัติการยุทธ (ปฎิบัติการเพชราวุธ) ผมรู้ว่าสถานการณ์แบบนี้คือ Care under fire แต่ผมเพิ่งจะเข้าใจจริงๆว่า หัวใจของ care under fire คือ เอาชีวิตตัวเองให้รอด แล้วเอาคนเจ็บออกจากบริเวณสังหาร (Killing zone) ให้เร็วที่สุด ลืมเรื่องการปฐมพยาบาล ลืมเรื่อง primary survey หรือ ABCD ที่เคยเรียนไปได้เลย เพราะขณะช่วยเอาคนไข้ออก ก็มีทั้งระเบิด M79 ระเบิดขว้างลูกเกลี้ยง M26 เสียงปืน (ตอนหลังเพื่อนผู้หมวดบอกว่าเขามีทั้ง M16, AK47 และปืนพก)
ขณะนั้นรถกู้ภัย รถพยาบาล จอดอยู่บริเวณหัวถนนตะนาว ใกล้กับวงเวียนบางลำพู รถไม่กล้าขับเข้ามาเพราะยังมีระเบิดตกอยู่เรื่อยๆและมีเสียงปืนดังอยู่ตลอดจากฝั่งผู้ชุมนุม ผมวิ่งไปเรียกตรงกลางทางให้รถพยาบาลเข้ามา (แต่ตอนนั้นก็รู้อยู่แล้วว่า ถ้าเป็นตัวเองก็คงไม่กล้าขับรถเข้ามาหรอก) ขอบคุณพี่ๆกู้ภัยหลายคนช่วงนั้นที่เสี่ยงตายวิ่งเข้ามาช่วยพวกเราลากผู้ป่วย ตอนนั้นผู้ป่วยทั้งหมดถูกลำเลียงออกมารวมกันบริเวณเกาะกลางถนนตรงแยกบางลำพู ผมช่วยกันลำเลียงผู้ป่วยออกมาได้ 2-3 คน ใส่รถกู้ภัย หลังจากนั้นพอจะกลับเข้าไปช่วย
สิ่งที่เห็นก็คือฝ่ายตรงข้ามก็ยิงระเบิดไล่หลังมาเรื่อยๆจนเกือบถึงหัวถนนตะนาวตรงหัวมุมวัดบวรนิเวศฯ ทหารฝ่ายเราต้องเริ่มคว้าปืนมายิงคุ้มกันให้พวกที่ลำเลียงผู้ป่วยออกมาตรงฟุตบาท 2 ข้างของถนนตะนาว ผมไม่สามารถเข้าไปในบริเวณถนนตะนาวได้อีกแล้วเพราะบริเวณนั้นกลายเป็น killing zone ผมจึงต้องหลบอยู่หลังรถกู้ภัยตรงวงเวียนบางลำพู (พร้อมๆกับบอกให้พี่ๆกู้ภัยก้มหัวหมอบ ต้องเอาชีวิตตัวเองรอดก่อนไปช่วยคนอื่น) จุดนั้นมีการปะทะอยู่นานประมาณ 15-20 นาที
ฝ่ายอำนวยการของผมแจ้งให้ทราบในภายหลังว่านับระเบิด M79 ได้เกือบ 15 ลูก ระเบิดขว้าง M26 อีก 2 ลูก รวมทั้งมีพลทหารคนหนึ่งซึ่งผมไปรับหลังจากกลับจาก รพ. บอกผมว่า เขาเห็นแสง laser pointer สีเขียวคอยส่องอยู่แถวศีรษะของทหารแถวหน้า คาดว่าน่าจะมีคนซุ่มยิงมาจากบริเวณอาคารสูงบริเวณแยกคอกวัว แต่คงไม่พบเป้าหมายซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา เพราะแต่ละคนต่างกระจาย ไม่รวมกัน และมี รปภ. คุ้มกันไม่มากนัก หลังจากนั้นเราได้ลำเลียงผู้ป่วยทั้งหมดขึ้นรถพยาบาลได้หมด ฝ่ายนั้นเริ่มยิงตอบโต้มากขึ้น ผมเห็นไม่ปลอดภัยจึงขอให้รถกู้ภัย รวมทั้งรถจี๊ปพยาบาลไปหลบอยู่ในซอยบางลำภู ฝ่ายนั้นก็ยังคงพยายามยิงระเบิดใส่ท้ายขบวนรถของเราที่จอดอยู่ถนนริมวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีทหารของเราที่คอยยิงคุ้มกันตอนลำเลียงผู้ป่วยและถอยกลับ รถหลายคันคงถูกยิงระเบิด ทหารและประชาชนแถวนั้นคงตายอีกเป็นจำนวนมาก
ต่อมาผู้บังคับหน่วยของเราจึงขอหน่วยเหนือในการถอนกำลัง ซึ่งกว่าจะเคลื่อนย้ายออกไปได้หมด ก็ต้องใช้เวลานานเพราะรถมีจำนวนมาก และการจราจรแถวนั้นก็ถูกปิดกั้นบางส่วน แถมตอนเราถอนตัวฝ่ายตรงข้ามก็ยังพยายามยิงระเบิดใส่พวกเราอีกด้วย ในช่วงก่อนถอนตัวผมจำได้ว่ามีเด็กวัยรุ่นใส่เสื้อแดง 2 คน ขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดข้างๆรถจี๊ปพยาบาล แล้วพูดด้วยน้ำเสียงยั่วโมโหว่า หน่วยพยาบาลคงไม่โดนอะไรหรอกมั้ง มีคนตายด้วย พวกพี่ยิงคนเหรอ
ผมยอมรับว่าแม้ว่าปกติผมจะไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน แต่จากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาที่ประสบ ผมเลือดขึ้นหน้า อารมณ์ตอนนั้นคุกรุ่นเต็มที่ ผมพูดจริงๆ ผมอยากลงไปต่อยเด็กคนนั้น แต่ผมก็อดทนแล้วตอบกลับไปว่า แล้วทีพวกน้องยิงระเบิดใส่พวกพี่ล่ะ น้องยิงทั้งระเบิด น้องขว้างทั้งระเบิด แถมเอาอาวุธสงครามยิงใส่ทหาร ทหารแถวหน้าเค้ามีแต่โล่กับกระบอง ป้องกันตัวเองอะไรไม่ได้เลย เค้าก็มีครอบครัว มีลูกมีเมีย แล้วนี่ที่ทหารยิงก็เพื่อคุ้มกันคนเจ็บกับตอนถอนตัว แล้วน้องจะให้ทหารเอาโล่กับกระบองไปไล่ตีไอ้พวกที่ยิงระเบิดใส่หรือไง น้องไส..หัวไปเลย ไส..หัวไปหลบระวังลูกหลงจากระเบิดที่พวกน้องยิงมาด้วยแล้วกัน
เด็กคนนั้นอึ้งไปแล้วก็ขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกไป
เราถอนตัวออกจากจุดตรงแยกคอกวัวเป็นหน่วยสุดท้ายกลับที่ร่วมพลเดิม ซึ่งก็หลงทางไปทางวังสวนจิตรลดา เนื่องจากเราไม่ใช่ทหารกรุงเทพจึงไม่รู้เส้นทาง คืนนั้นพอผมกลับมาได้ พบกับผู้พัน พบกับผู้กองและเพื่อนผู้หมวด จึงได้รู้ว่าในขณะที่หน่วยของผมถอนตัวออกมาทางถนนตะนาว มีอีกกองร้อยที่ต้องถอยร่นออกมาทางถนนข้าวสาร โดยมีผู้บังคับกองพันอีก 2 คน และรองผู้บังคับกองพันอีกคน ผู้พันคนหนึ่งถูกยิงจากฝั่งตรงข้ามเข้าที่สีข้าง เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามกราดยิงปืนซึ่งคาดว่าเป็น M16 เพื่อนผมบังผู้พันของเขาอยู่แต่กระสุนเฉี่ยวข้างตัวไปถูกผู้พัน แต่ที่น่าเศร้าคือมีนายสิบของต่างหน่วยอีกคนถูกยิงทะลุหมวกเหล็ก เสียชีวิตคาที่ นายสิบที่เป็น รปภ. หลายคนก็ถูกยิงเข้าที่ขา
โชคดีมากๆและต้องขอขอบคุณเจ้าของผับแห่งหนึ่งที่ถนนข้าวสาร ที่เปิดร้านนำคนเจ็บเข้ามา ให้เด็กในร้านช่วยปฐมพยาบาล ทำแผล ห้ามเลือด ปิดประตูหน้าร้าน และติดต่อตำรวจและรถกู้ภัยให้มารับที่หลังร้านซึ่งทะลุออกทางถนนอีกเส้นหนึ่ง มีทหารประมาณ 1 กองร้อยที่ไม่สามารถออกมาขึ้นรถได้เพราะหลงเข้าไปในถนนข้าวสารและถูกปิดทางด้านถนนตะนาวไว้ ก็ต้องวิ่งออกมาทางถนนสามเสนไปยังที่รวมพลซึ่งอยู่ห่างเกือบ 5 กม. แต่อย่างไรก็ตามทุกคนปลอดภัยดี (ขณะนี้ผมได้ไปเยี่ยมทหารทุกคนที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ทุกคนปลอดภัยดี และออกจาก ICU ได้หมดแล้ว)
ในขณะที่เกิดเหตุการณ์โทรศัพท์มือถือของผมแบตหมด พอกลับมาชาร์ทแบต ก็พบว่ามีหลายคนโทรเข้ามา หนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนของผมที่ วพม. ผมโทรกลับไปจึงทราบว่ามีนายทหารหลายคนถูกระเบิด หนึ่งในนั้น arrest (เสียชีวิต) ก่อนมา รพ. ต่อมา CPR (ปั๊มหัวใจ) ขึ้น และต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองด่วน ซึ่งนายทหารคนนั้นเป็นเพื่อนกับอาจารย์ที่พระมงกุฎของผม แต่อาจารย์จำผิดคนคิดว่าเป็นผู้บังคับกองพันของผมจึงรีบโทรหาผม แต่มือถือผมแบตหมด จึงให้เพื่อนติดต่อ ในภายหลังจึงทราบว่าคือ พี่เปา (พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม) ซึ่งอยู่รุ่นเดียวกับผู้พันของผม คืนนั้นผมกินข้าวไม่ลง กว่าจะนอนตาหลับได้ก็เกือบตี 3 ซึ่งภายหลังอาจารย์ก็โทรมาบอกว่า พี่เปา
...ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด
...ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว
...ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่
...ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่ากับ"" ดินสุดท้าย ของเผ่าพันธุ์
อยาก บอกอะไรทราบ บ่ายวันที่ 11 เมษายน 2553 ที่ ช่อง 11
มี นายไก่อู หมอทหาร ทหารที่อยู่ถนนดินสอ โดยนายแทนคุณเป็นพิธี ออกรายการ ประมาณ 1.30 ชั่วโมง
ให้การขัดแย้ง บทความของคุุณ และมีแสดงคลิป -หลาย- คลิป
และ ทหารทั้ง 3 นาย โกหก ออกรายการตั้งมากมาย
มีคลิป ใน ยูทูป กรุณา หามาดูด้วย
มี map ให้ แล้ว บอกให้ดูหน่อย ว่า 17-18.00 ทหาร จะถูกล้อมด้วย วิธีใด จนไม่สร้างถอนกำลังได้
.
Edited by mmmmm, 29 August 2012 - 16:28.
#328
Posted 29 August 2012 - 16:27
ผมเรียนถามนะครับ
ตอนนี้ ผมว่า เราสรุปได้หรือยังว่า
มันไม่ได้ยิงจากทหารพลเดินเท้า แน่นอน
คือ ตัดความน่าจะเป็นที่คลิปอีกคลิปนึงเอามาโยง
ออกไปได้หรือยังครับ
เพราะผมคิดว่า
การเล็งหัวคนนั้นมันยากมาก นอกจาก ติดกล้อง และมาร์คไว้แล้ว
ต้องสรุปที่ตรงนี้ก่อนหรือเปล่าครับ
มันเป็นการยิงมั่วตอบโต้สะเปะสะปะครับ ไม่ได้ยิงมาร์ค หรือ ล็อกเป้า
ช่างเป็นการยิงมั่วสะเปะสะปะ ขั้นเทพ รูปผลสันสูตรด้านล่าง
หัวหลังไปหน้า 2 ศพ อกซ้าย 2 ศพ สะเปะสะปะ ขั้นเทพ
วสันต์ ภู่ทอง
ข้องใจเรื่องเอกสารนี้ที่สรุปว่ายิงที่หัวและขา
แต่เห็นเพื่อนๆ คุยกันแค่เรื่องหัวไม่คุยเรื่องขาเลย
น่าจะเพิ่มเติมเรื่องขาด้วยนะครับว่ายิงก่อน
หรือหลังหัว และยิงมาจากทางไหน ด้วยกระสุนปืนอะไร
ถ้ายิงขาก่อนต้องล้มลงก่อนโดนยิงหัวหรือเปล่า
หรือยิงหัวก่อนแล้วก็โดนยิงที่ขาทีหลัง หรือโดนยิงพร้อมกัน
Edited by Kepler-22b, 29 August 2012 - 16:28.
#329
Posted 29 August 2012 - 16:30
- จูกัดขงเบ้ง likes this
#330
Posted 29 August 2012 - 16:31
Edited by Stargate-1, 29 August 2012 - 16:52.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#331
Posted 29 August 2012 - 16:36
ข้อโต้แย้งสำคัญๆ หลายข้อ ฝ่ายที่เชื่อว่าทหารยิง ไม่กล้าแตะเลย
ก็เชื่อไปสิ ไร้หลักฐาน(อ่อน) ไร้หลักการ(อ่อน)
เราไม่ไร้สติ ไปเปลี่ยน ความเชื่อ หรอก
นี่ด่าตัวเองหลายชั้นเลยนะ อันแรกนี่ด่าพวกที่เชื่อว่าทหารยิง
ฝ่ายที่เชื่อว่าทหารยิง ไม่กล้าแตะเลย ก็เชื่อไปสิ ไร้หลักฐาน(อ่อน) ไร้หลักการ(อ่อน)
อันที่สองนี้ ตลก ถ้าความเห็นฝ่ายตรงข้ามมันอ่อน คุณต้องจี้ให้ตาย
ในเมื่อเขาไร้หลักฐาน(อ่อน) ไร้หลักการ(อ่อน) คุณก็เอาหลักฐานที่แน่นหนากว่ามาถล่มให้ราบ
ไม่ใช่บอกว่า ไม่สนหรอก....ฮา
เอาเป็นว่า นามแฝงนี้ออกอาการแล้วว่า จะไม่เล่นกับข้อเท็จจริง
แต่จะว่าตามที่ตัวเองพอใจ....ก็ดีครับ แสดงตัวอย่างนี้เพื่อนสมาชิกจะได้ข้ามชื่อนี้ไปไวๆ
#332
Posted 29 August 2012 - 16:39
กระสุนแหวกแนวเสื้อแดง 2 นัด ใน 2 ตำแหน่ง
เอ้าเมื่อเกินเลยมาขนาดนี้ผมขออีกซักความเห็นนึง
ฝากถึงเรื่องเสียงของคุณGopโดยเฉพาะ ขอออกตัว
ก่อนเลยว่าเรื่องเสียงผมเคยฟังเทียบกันเมื่อตอนคลิป
ออกใหม่ๆ แต่ล่าสุดผมยังไม่ได้ฟัง แต่ก็คงจะเป็นอัน
เดียวกันทีนี้ เมื่อมีข้อมูลใหม่จากคุณคูก้าผมขอเสนอ
ความเห็นหน่อยว่าถ้าเสียงปืนดังแล้วนายวสันต์ล้มลง
ควรจะเป็นนัดไหน หัวหรือขา หรือถ้านายวสันต์ล้ม
เพราะโดนยิงพร้อมกัน เสียงปืนก็น่าจะเป็นปัง ปัง
แต่ในคลิปไม่ได้ยินเสียงซ้อนกัน(ไม่แน่ใจ)
ก็น่าจะเป็นการยิงที่ขาทีหลัง แล้วใครไปยิงตอนไหน
เพื่ออะไร แต่ถ้ายิงพร้อมกันเทพมากเลยยิงให้โดนหัว
ก่อนแล้วล้มพร้อมขา หรือยิงขาก่อนนิดนึงแล้วใส่ที่หัวต่อ
วสันต์ก็ทยอยล้มพอดี โอยคิดไปคิดมางง ใครคิดให้
ดูหน่อยสิ มันจะออกเป็นแบบไหนได้
#333
Posted 29 August 2012 - 16:40
- จูกัดขงเบ้ง likes this
#334
Posted 29 August 2012 - 16:42
กระสุนแหวกแนวเสื้อแดง 2 นัด ใน 2 ตำแหน่ง
อบคุณครับ รูปเยี่ยมมาก
รูปนี้คงชัดเจนแล้วนะครับ ว่ากระสุนเข้าอย่างไร ออกอย่างไร
ที่จริงผมยังคิดว่ามุมจริงอาจจะชันกว่านี้ เพราะกระโหลกถูกเปิดตอนบนทั้งลูก
ทีนี้เราก็เอาวิถีกระสุนนี้ ไปปรับเข้ากับทฤษฎีส่วนตัว
ใครเชื่อว่าก้มหน้า ก็จะยกแนวกระสุนด้านปลายกระบอกปืนให้สูงขึ้นได้อีก
ใครเชื่อว่าคนยิงอยู่ฟุตบาธไกล้ๆ ก็อธิบายไปว่าคุณวสันต์หันหน้าอย่างไร จึงถูกกระสุนเปิดสมองได้
และจะต้องไม่ลืมว่า มีผู้ประม้วงหลายสิบ อยู่ระหว่างปืนกับคุณวสันต์
#335
Posted 29 August 2012 - 16:48
#336
Posted 29 August 2012 - 16:56
ผมกลับไปดูคลิป เราไม่สามารถมีวิธีดูได้
เหรอว่ากระสุนมันวิ่งมายังไงจากทางคลิป
ที่ถ่ายไว้ มีโปรแกรมหรือวิธีไหนไหม
เรื่องที่ขาถูกยิงดูในคลิปก็ไม่มีลักษณะ
กระทบตอนยิงเข้าในตอนล้มลงนะ
อ้าวแล้วไปโดนยิงตอนไหน ก็ต้องตอน
หลังจากโดนยิงหัวน่ะสิ แล้วยิงไปเพื่ออะไรล่ะ
แต่ในภาพเขียนว่าเข้าหลังขาไปออกหน้า
ขานะ ไม่อยากใช้ความคิดที่ว่ายิงเพิ่มเพื่อให้
เป็นเหมือนว่ายิงมาจากฝั่งทหารเลย
แล้วมันจะมีความเป็นไปได้ทางด้านไหนอีกบ้างล่ะ
#337
Posted 29 August 2012 - 16:58
ถ้าไม่มีแล้วไป สงสัยผมจินตนาการเยอะไปหน่อย หรือถ้ามีพิสูจน์
ได้มันก็จะเห็นทางด้านซ้ายว่ามีกระสุนวิ่งมาจากทางนั้นเพราะ
กล้องถ่ายฝั่งนั้นไว้เยอะสุด
#338
Posted 29 August 2012 - 17:03
ภาพจำลองเอาคนมายืนเรียงกันต่อเป็นแถวแนวเดียวกัน นี่คิดและวาดเอาเองใช่ไหมครับ
ผมขอตอบนะครับวาดจากหลักฐานที่พิสูจน์แล้วว่ากระสุนเข้าทางไหนออกทางไหน
และลักษณะองค์ประกอบโดยรอบพื้นที่ ที่มีบุคคลอยู่ในเหตุการณ์ เพื่อเป็นข้อสันนิษ
ฐานประกอบหลักฐาน
ถ้าสิงห์สนามหลวงจะเห็นแย้งควรจะวาดในมุมที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานที่พิสูจน์แล้ว
เหมือนกันนะ เหมือนที่เขาโยงเส้นแดงเส้นเขียวที่ผ่านมา
แต่ถ้าใช้การแย้งด้วยคำพูดบรรทัดเดียวนี่ดูถูกความคิดของสิงห์สนามหลวงไปเยอะเลยนะ
ลองวาดในมุมของสิงห์สนามหลวงมาแสดงหน่อยสิ จากหลักฐานที่ชันสูตรมาสิงห์
สนามหลวงคิดว่ามันจะเป็นแบบไหน ลองมาเปิดความคิดคุยกันหน่อยสิ
#339
Posted 29 August 2012 - 17:04
โดยเฉพาะ ฝั่ง นปช และคนเสื้อดำ ที่ใช้พวกบ้าบิ่น จราชน มาเป้นหัวขบวน มือสังหาร
และการต่อสู้ จัดการก็ไร้ระเบียบ แบบแผน เอาความบ้าคลั่งเป็นหลัก แถมมีอาวุธในมือด้วย
เกิดมีการยิงโดนฝั่งตัวเอง โดยไม่ได้ตั้งใจ
แต่ไหนๆๆก็ตายแล้ว เลยโยนความผิดมาที่รัฐบาลดีกว่า ???
#340
Posted 29 August 2012 - 17:10
- Petunia, จูกัดขงเบ้ง and ด้อยความรู้ like this
#341
Posted 29 August 2012 - 17:13
มุมด้านข้างไม่พอ มีมุมสูงให้ด้วย จัดแบบสามมิติ 360 องศามาเลยดีมะ
#342
Posted 29 August 2012 - 17:15
1 กล้องที่เลนส์อมเขียวตัวนี้ ไม่พบว่าถ่ายคลิบอื่นอีกเลย อันนี้น่าประหลาดใจมาก
2 คลิบที่พบ บางชิ้นมีตัวเลขวันเวลา (เป็นตัวอักษรสีดำอยู่มุมขวาล่าง) แต่ที่ไอ้ตู่เอาไปใช้กล่าวหา ในคลิบชื่อว่า 3 คลิป ยืนยันทหารฆ่าคุณวสันต์ ภู่ทอง 10 เมษายน 2553 ความจริงวันนี้ ไม่มีวันเวลา
3 ผมลองปิดเสียงแล้วดู พบว่าตากล้องใช้คนเสื้อแดงใส่หมวกเป็นเป้าหมาย เขาพยายามรักษาตำแหน่งให้อยู่กลางจอเสมอ
4 คนใส่หมวกเป็นตัวละครสำคัญ เขายืนคร่อมร่างเอาไว้ ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นการยึดมุมที่จะถ่ายศพได้ดีที่สุด
5 มีกล้องถึงสองตัว ที่เก็บภาพวินาทีโหดนี้ กล้องเคลื่อนไหวที่ใช้ชายสวมหมวกเป็นจุดโฟกัส และภาพนิ่งที่ชายสวมหมวกเรียกเข้ามาเก็บภาพ ทั้งๆ ที่ข้างๆ เขาเลย มีชายถือกล้องอีกตัว เขากลับกวักมือสูงเรียกตากล้องอีกคนเข้ามา
ทั้งหมดนี้ ทำให้ผมต้องสรุปว่า ชายสวมหมวกคือคนชี้เป้า และการยิงต้องไม่เฉียดเขาเลย
ถ้าสมองเปิดไปทางซ้ายมากกว่าทางขวา กระสุนก็มาจากข้างหลังชายสวมหมวก คือระหว่างเขากับชายเสื้อดำทับเสื้อขาวดำที่ถือหมวกกันน๊อคที่เดินผ่านมาทางขวาของจอพอดี
#343
Posted 29 August 2012 - 17:16
Edited by kuuga, 29 August 2012 - 17:17.
#344
Posted 29 August 2012 - 17:16
ในเมื่อคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง จากความทรงจำกันสดๆตรงนี้เลย (ไม่ใช่ไปเอามาแปะนะ) ก็ต้องใช้วิธีสืบจากศพกันล่ะภาพจำลองเอาคนมายืนเรียงกันต่อเป็นแถวแนวเดียวกัน นี่คิดและวาดเอาเองใช่ไหมครับ
Edited by Stargate-1, 29 August 2012 - 17:17.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#345
Posted 29 August 2012 - 17:17
ผมขอปิดกระทู้ก่อนแล้วช่วงดึกจะมาเปิดกระทู้อีกที
#346
Posted 29 August 2012 - 17:19
ผมถามหน่อย เห็นวิเคราะห์วิถีกระสุนกันมาตั้งนาน
มีใครทราบมั้ยครับ ว่าศีรษะคุณวสันต์อยู่ในลักษณะไหน? ใครมีรายละเอียดบ้าง?
ทำไมถึงมั่นใจมาก ว่าวิถีกระสุนต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
รูปถ่ายศพ เห็นกายภาพชัด คุณไม่ใช้
ไปใช้เสียงปืนที่หาความแน่นอนไม่ได้ ยืนยันหัวชนฝาว่า คุณวสันต์ถูกทหารยิง
แต่ไม่สามารถตอบคำถามผมได้ว่า วสันต์มาโดนยิงล้มตรงทางม้าลายที่ผู้การเคยนอนได้อย่างไร
ในเมื่อทหารของคุณ ยิงปืนนัดนั้นตั้งแต่ผู้การยังนอนอยู่ แปลว่าอีกวินาทีเดียว คุณวสันต์จะมาล้มที่ทางม้าลายนี้
ความจริงของคุณสำหรับผมแล้วมันเป็นความมั่วครับ
๑ใจเย็นๆครับ กระทู้วิ่งเร็ว ผมแค่อยากได้การยอมรับความจริงจากคุณเท่านั้น เราจะได้มีจุดเริ่มต้นที่ตรงกันก่อน
๒ ผมพูดถึงลักษณะการวางตัวของศีรษะขณะถูกยิง ไม่ทราบว่าคุณ amplepoor มีมั้ยครับ หรือว่าท่านอื่นก็ได้ มีรูปมั้ยครับ ว่าศีรษะหันอย่างไรตอนถูกยิง
๓ งงครับ ผู้การเค้านอนอยู่เพราะวิ่งไม่ได้ ผ่านไปหลายนาที ก็ยังอยู่ตรงนั้น มันแปลกตรงไหนครับ? แล้วคุณเอามาจากไหนครับ ว่าคุณวสันต์ล้มตรงที่เดียวกับผู้การเคยนอน
๔ ผู้การที่คุณบอก คงไม่ใช่ผู้การร่มเกล้านะครับ?
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#347
Posted 29 August 2012 - 17:21
น่าขัน แค่ 1 คลิป วิเคราะห์ อย่างกับ ผู้เชี่ยวชาญ ว่าถูกล็อกเป้า
มาบอกความจริงให้ทราบ
กระสุน 7-8 นัด ใน 3-4 วินาทีนั้น จาก 4 คลิป และ ภาพที่มีทั้งหมด
มีคนตาย 4 คนและบาดเจ็บ 3 คน
1. คนเสื้อแดงตาย 2 คน
2. นักข่าวชาวญี่ปุ่นตาย 1 คน
3. ทหารตาย 1 คน
4. มีทหาร+เสื้อแดง บาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน
ทุกอย่าง มี การอ้างอิงจาก คลิป,ภาพ และลำดับเวลา
เมื่อ ตั้งตนเป็นผู้เชี่ยวชาญใน 1 คลิป
ลองมาแย้ง หลักฐานจาก คลิปและภาพ 1,2,3,4 กัน
ว่าภาพใหน ไม่เกิดจาก กระสุน 7-8 นัด นั้น
เป็นการตาย หรือ บาดเจ็บก่อน หน้านั้น
1. คนเสื้อแดงตาย 2 คน
2. นักข่าวชาวญี่ปุ่นตาย 1 คน
3. ทหารตาย 1 คน
4. มีทหาร+เสื้อแดง บาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน
ทุกอย่าง มี การอ้างอิงจาก คลิป,ภาพ และลำดับเวลา
เมื่อ ตั้งตนเป็นผู้เชี่ยวชาญใน 1 คลิป
ลองมาแย้ง หลักฐานจาก คลิปและภาพ 1,2,3,4 กัน
ว่าภาพใหน ไม่เกิดจาก กระสุน 7-8 นัด นั้น
เป็นการตาย หรือ บาดเจ็บก่อน หน้านั้น
การ ตอบกระทู้นี้ ก่อนนี้จะัเป็นยืนยันจากคลิปอื่น
รูปต่อไป เป็นการ ยืนยันจาก รูปต้นฉบับ ที่เรามีอยู่
http://www.pantip.co...2410597.html#50
#348
Posted 29 August 2012 - 17:24
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#349
Posted 29 August 2012 - 17:26
เมาเหล้าอยู่หลังอนุสาวรีย์ ...............คุณmmmmm คุณอยู่ที่ไหนในวันนั้น
#350
Posted 29 August 2012 - 17:26
แต่ถ้าจะให้ดี ผมว่าน่าจะมีการเขียนสรุปพร้อมคำโต้แย้ง
วิเคราะห์กันในแต่ละจุด พร้อมภาพประกอบด้วยจะดีมากเลยครับ
/人^ ‿‿ ^人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
3 user(s) are reading this topic
0 members, 3 guests, 0 anonymous users