ขอท้าล็อกอิน father แสดงหลักฐานกล่าวหาดิฉันว่าเป็น "ขี้ข้าทำงานรายวัน" ของประชาธิปัตย์
#151
Posted 17 October 2012 - 20:35
#152
Posted 17 October 2012 - 21:50
Edited by nadanai61, 17 October 2012 - 21:52.
#153
Posted 17 October 2012 - 22:31
ไม่ใช่หรอกครับ คนละคน กัน ครับ
ตะนิ่นตาญี
วันพุธที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๖.๓๓ นาฬิกา
ขอแจ้งให้ทราบ ถ้าคุณไม่เข้ามากระทู้นี้ ผมก็ลืมไปแล้วว่า
จิตกร บุษบาเคยปล่อยข่าวว่า astvกำลังจะถูกซื้อ พธม.จึงไม่ต้องบริจาคเข้าไปแล้ว
ถึงวันนี้ก็ปรากฎแล้วว่า ไม่จริงตามข่าว
เมื่อคุณปฎิเสธว่า คนละคน กัน ก็ดีแล้วครับ
ผมก็สามารถด่าไอ้สารเลวคนนี่ได้ โดยไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ
และผมต้องขอรบกวนใช้คำด่าของคุณตะนิ่นตาญีมาใช้
ก็อย่างที่คุณตอบไว้ก่อนหน้า ผมเห็นว่านำมาใช้ได้ จึงนำมาตัดต่อและเปลี่ยนสรรพนามเสียหน่อย
ก็จะได้คำด่าที่เผ็ดร้อน โดยไม่ต้องเปลืองสมอง ดังนี้
คุณพ่อ-คุณแม่ ของ คุณ จิตกร บุษบาคงจะไม่ได้ “อบรม-สั่งสอน” ให้เติบโต
ขึ้นมาเป็น คนดี-มีศีลธรรม และมีความเป็น คน มากเพียงพอก็เป็นได้กระมังครับ
เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ คุณ จิตกร บุษบา เธอจริงจริงครับ
ว่า ทำไมจึง “ไม่มีความกล้าหาญ” ในอันที่จะรับ ผิด-ชอบ ในการกระทำของตนเอง
คำว่า สุภาพบุรุษ นั้น ไม่ได้หมายความถึง ผู้ที่สวม Black Tie ใส่ Suit แต่มี วาจา และ จิตใจ
ที่โสมม ขี้ขลาดเกินกว่าที่จะ กล้า รับผิดชอบในการกระทำของตนเอง คนเช่นนั้น
ไม่อาจเรียกได้ว่า สุภาพบุรุษ หรอกนะครับ.....
แต่จะเรียกอะไรนั้น ผมขี้เกียจ บัญญัติ ศัพท์ใหม่ขึ้นมา และพูดกันตรงตรง
ยากไหมครับที่จะ ขอโทษ สนธิและastv ที่เราเข้าใจผิด
ยากไหมครับที่จะ ขอโทษ ใครสักคน เพราะความผิดพลาดในการสื่อสาร
อ่านดูแล้วก็ใช้ได้นะครับ จริงไหมครับ ท่านตะนิ่นตาญี
ปล.ไม่ทราบรีพลายนี้ของท่านตะนิ่นตาญีทำไมมันสั้นจังครับ
ข้อความที่สละสลวย อ้อมอ่าวไทยทั้งอ่าวก่อนจะเข้าเทียบท่าได้
มันหายไปโดยพลันได้อย่างไรครับ
อ้อ,ผมเพิ่งนึกได้ มีเพลงอยู่เพลงหนึ่ง มันร้องอยู่ท่อนเดียวกว่าครึ่งเพลง เนื้อเพลงว่า
โกหกน่ะตายตกนรก โกหกน่ะตายตกนรก โกหกน่ะตายตกนรก .........
ท่านท่านตะนิ่นตาญีที่เก่งเรื่องศิลปวัฒนธรรมมาก
พอจะทราบไหมครับว่า ชื่อเพลงอะไร รบกวนเท่านี้แหละ
father
วันพุธที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๒๒.๓๑ นาฬิกา
Edited by father, 17 October 2012 - 22:33.
#154
Posted 17 October 2012 - 22:35
มีนักการเมืองท้องถิ่นที่สงขลาคนหนึ่งเวลาไม่อยากจะเสวนากับคนบางคนก็จะพูดคำเดียวว่า"เปร๊ต"สั้นๆได้ใจความจบง่ายด้วย ใครจะยืมไปใช้บ้างท่านคงไม่ว่านะครับ
ผมอยากใช้ครับ
"เปร๊ต"
Edited by father, 17 October 2012 - 22:38.
#155
Posted 17 October 2012 - 22:37
คุณเจ้าของกระทู้ครับ ปล่อยวางเถอะครับ ถ้าเราไม่เป็นอย่างที่มันกล่าวหา ก็อย่าไปสน
ไม่ใช่เธอไม่อยากเป็นนะครับ
แต่เธอได้เป็นแล้ว
และผมเอามาแฉ
#156
Posted 17 October 2012 - 22:48
น่าจะเห่าเก่งเหมือนพ่อมัน จะเอามาไว้เฝ้าบ้านสักตัว
#157
Posted 17 October 2012 - 23:25
ดิฉันคิดว่าเธออยู่ในช่วงถือศิล กินเจ
ไม่ได้หนีกระทู้หรอกค่ะ
เป็นเช่นนั้นค่ะ
ดีครับ ถือศิล กินเจเป็นสิ่งที่ดี
แต่มนุษย์ทุกคนเมื่อสร้างกรรมกับใคร โดยเจตนา หรือไม่
ผลกรรมก็จะตกแก่ผู้สร้าง
อย่างไรเสียก็ต้องชดใช้กรรมนี้
เรื่องอย่างนี้ คุณคงทราบอยู่แล้วนะครับ
มันเป็นสัจธรรม
Edited by father, 17 October 2012 - 23:26.
#158
Posted 17 October 2012 - 23:29
father ถ้าเอ็งมีลูกเมื่อไหร่ ข้าขอลูกเอ็งสักตัวนึงน่ะ
น่าจะเห่าเก่งเหมือนพ่อมัน จะเอามาไว้เฝ้าบ้านสักตัว
ข้าว่าพ่อเอ็งให้ตัวเอ็งมาหนึ่งตัวแล้วไงครับ
ไม่รู้ตัวก็มองในกระจกสิครับ
สำคัญคือ อย่าเห่าดัง ชาวบ้านเขารำคาญว่ะ
Edited by father, 17 October 2012 - 23:29.
#159
Posted 18 October 2012 - 07:39
อุ้ยโทษทีเปลี่ยนใจแล้วเห็นสภาพพ่อของลูกเอ็งไม่เอาดีกว่า
father ถ้าเอ็งมีลูกเมื่อไหร่ ข้าขอลูกเอ็งสักตัวนึงน่ะ
น่าจะเห่าเก่งเหมือนพ่อมัน จะเอามาไว้เฝ้าบ้านสักตัว
ข้าว่าพ่อเอ็งให้ตัวเอ็งมาหนึ่งตัวแล้วไงครับ
ไม่รู้ตัวก็มองในกระจกสิครับ
สำคัญคือ อย่าเห่าดัง ชาวบ้านเขารำคาญว่ะ
ขี้เรื้อนยังไม่พอชอบกัดผู้หญิงอีกต่างหาก
#160
Posted 18 October 2012 - 09:45
#161
Posted 20 October 2012 - 02:22
อาจจะทำให้ได้ฉุกคิดอะไรขึ้นมาบ้าง
แต่ปรากฏว่า ยังมีบางท่าน ที่อาจจะยังไม่เข้าใจ
ผมจึงขออธิบายไว้ในเสรีไทย เพราะเชื่อว่า
อย่างไร พวกท่าน ก็คงจะเข้ามาอ่านเช่นเคย
ประเด็นแรก
หะแรก ผมไม่ได้รู้จักเวปของพวกท่าน
แต่ผมเพียงแค่พยายามหาข้อมูลบางอย่างของเด็ก
จึงเสิร์ชหาในกูเกิ้ล จึงปรากฏเวปนี้ขึ้นมา
และได้ผ่านตากับข้อครหา ด่าทอ มาถึงเวปนี้
ประเด็นที่สอง
เราด่ายิ่งลักษณ์ เพราะยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
หาใช่เพียงอิสตรีธรรมดา หรือแม่บ้านทหารบกท่านใดท่านหนึ่ง
หากจะนำมาเปรียบเทียบ กับการนำความคิด ความเห็นของสมาชิกสตรีที่นี่ไปนินทา
ผมว่า มันไม่สมเหตุที่จะนำมาเปรียบกัน
ตรงข้าม ผมไม่เคยว่าคุณ finder ที่มาต่อล้อต่อเถียงเอาชนะคะคานผู้หญิงถึงที่
เพราะอย่างน้อย ยังนับว่า คุณ finder ยังเข้ามาร่วมว่ากันซึ่งหน้า ไม่ใช่ลับหลัง
แต่กับการที่พวกคุณ นำข้อความ ความเห็น ไปด่าทอ เป็นแมงสาปเพศเมียอะไรนั่น
มันไม่แมนครับ
ผู้หญิงที่นี่ ไม่ได้ใช้ความเป้นผู้หญิงเข้าสู้
แต่ผู้ชายหลายท่านที่นั่น ใช้ความหน้า.....เมีย เข้าว่าครับ
ก่อนจะสำเร็จความใคร่ สำรวจก่อนดีมั๊ยครับ ว่าผมเคยด่าผู้หญิงพันธมิตรอย่างไรไว้บ้าง
ลองถามเพื่อนสมาชิกผู้หญิงที่เวปของท่าน หากพอจะยังจำผมได้
ลองดู ว่าผมเคยด่าทออะไรเขาไว้บ้างครับ
หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าพวกท่านจะเข้าใจความ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
#162
Posted 23 October 2012 - 23:44
อุ้ยโทษทีเปลี่ยนใจแล้วเห็นสภาพพ่อของลูกเอ็งไม่เอาดีกว่า
father ถ้าเอ็งมีลูกเมื่อไหร่ ข้าขอลูกเอ็งสักตัวนึงน่ะ
น่าจะเห่าเก่งเหมือนพ่อมัน จะเอามาไว้เฝ้าบ้านสักตัว
ข้าว่าพ่อเอ็งให้ตัวเอ็งมาหนึ่งตัวแล้วไงครับ
ไม่รู้ตัวก็มองในกระจกสิครับ
สำคัญคือ อย่าเห่าดัง ชาวบ้านเขารำคาญว่ะ
ขี้เรื้อนยังไม่พอชอบกัดผู้หญิงอีกต่างหาก
เข้าใจผืดแล้ว ไอ้ตัวในรูปนี่ ผมเก็บได้แถวบ้าน มีหมาเอามาทิ้งไว้
มีกระดาษเขียนข้อความทิ้งไว้ด้วย ข้อความว่า
กรุณาเลี้ยงดูมันด้วย ตั้งชื่อมันว่าDexter
จาก 'Morgan
ผมเห็นว่า ชื่อมันตรงกับครอบครัวคุณ ก็เลยส่งไปให้
เผื่อคุณจะรำลึกขึ้นมาได้
และต้องขอโทษที่เลี้ยงหมาตัวนี้ได้แค่นี้ แม้ผมพยายามให้มันกินมากๆก็แล้ว
คงเพราะยีนส์ของคุณมันไม่ดี
ไม่เกี่ยวกับอาหารของผมนะครับ
Edited by father, 23 October 2012 - 23:45.
#163
Posted 24 October 2012 - 09:42
อย่างว่าได้แค่ลอบกัดผู้หญิงเท่านั้น 5555555555
อุ้ยโทษทีเปลี่ยนใจแล้วเห็นสภาพพ่อของลูกเอ็งไม่เอาดีกว่า
father ถ้าเอ็งมีลูกเมื่อไหร่ ข้าขอลูกเอ็งสักตัวนึงน่ะ
น่าจะเห่าเก่งเหมือนพ่อมัน จะเอามาไว้เฝ้าบ้านสักตัว
ข้าว่าพ่อเอ็งให้ตัวเอ็งมาหนึ่งตัวแล้วไงครับ
ไม่รู้ตัวก็มองในกระจกสิครับ
สำคัญคือ อย่าเห่าดัง ชาวบ้านเขารำคาญว่ะ
ขี้เรื้อนยังไม่พอชอบกัดผู้หญิงอีกต่างหาก
เข้าใจผืดแล้ว ไอ้ตัวในรูปนี่ ผมเก็บได้แถวบ้าน มีหมาเอามาทิ้งไว้
มีกระดาษเขียนข้อความทิ้งไว้ด้วย ข้อความว่า
กรุณาเลี้ยงดูมันด้วย ตั้งชื่อมันว่าDexter
จาก 'Morgan
ผมเห็นว่า ชื่อมันตรงกับครอบครัวคุณ ก็เลยส่งไปให้
เผื่อคุณจะรำลึกขึ้นมาได้
และต้องขอโทษที่เลี้ยงหมาตัวนี้ได้แค่นี้ แม้ผมพยายามให้มันกินมากๆก็แล้ว
คงเพราะยีนส์ของคุณมันไม่ดี
ไม่เกี่ยวกับอาหารของผมนะครับ
#165
Posted 24 October 2012 - 15:51
น่าทึ่งมาก ที่ผู้ชายบางคน อายุก็มากถึงเพียงนี้แล้ว
แต่วุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำมาก
ต่ำจนอายเด็กอนุบาล
ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ชั่วไม่เลวเป็นเสื้อเหลืองไม่ได้หรอก
ส่วนคนดีๆ นะหรือ โดนแป๊ะเอาตะแกรงร่อนออกไปหมดแล้ว
- หนูน้อยอาเลย์นา likes this
#166
Posted 25 October 2012 - 00:12
จริงๆประเด็นนี้ ไม่น่ายืดยาวมาจนเข้าหน้า 2 น่าจะจบได้ในหน้าแรก
เพียงแค่ถ้าฝาท่อ ไม่มีเจตนากล่าวหาดิฉัน
ตั้งแต่แรกเขาน่าจะโพสต์แค่ 3 บรรทัดว่า
ผมไม่มีเจตนาจะกล่าวหาคุณอัศวินีว่าเป็นขี้ข้า
ผมต้องการตอบโต้แค่คุณแอมเพิลพัวร์ที่เหยียดหยามผม
ถ้าการโค้ทข้อความของผม ทำให้มีการเข้าใจผิด ผมก็ขออภัย
แค่นี้บรรยากาศก็จะดีขึ้นมากทีเดียว
จขกท.ครับ รีบปิดกระทู้ทำไมครับ เห็นท่าทีขึงขังในตอนแรกที่เปิดกระทู้
ทำเอาผมขวัญเสียเลยนะครับ ถ้าคุณยื้อจนถึง 5 หน้า ผมอาจยอมแพ้แล้ว
จากข้อความสีแดง 2 บรรทัดนั้น คุณไม่เห็นหรือว่า ผมได้บอกคุณไปแล้วตั้งแต่ผมตอบคุณไปครั้งแรก
และผมได้บอกเพิ่มเติมไปอีกว่า ข้อคาวมที่โควทและสนทนาอย่างออกรสออกชาติระหว่างผมกับแอม
ผมไม่ได้หมายถึงคุณ พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบมากมาย แต่คุณกลับพยายามออกหน้าหาว่า
ผมหมายถึงคุณด้วย
ในเมื่อคุณอยากสมอ้างรับไว้เอง
มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องขอโทษครับ
ผมไม่ได้ทำให้คุณเข้าใจผิดนะครับ
แต่คุณอ่านแล้วคุณเข้าใจผิดเอง
เพราะเมื่อคุณถามหาหลักฐาน แสดงว่า คุณมั่นใจแน่ว่าผมหาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ท้าผม
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
ในที่ๆมีคนคุยกันหลายคน เวลาคนเราคุยกันต่อหน้า
เราจะมองหน้าคนที่คุย ไม่งั้นจะรู้ได้ไงว่าใครคุยกับใครอยู่
เปรียบก็เหมือนการโควทข้อความกันไปมา เพิ่อให้ทราบว่าใครกำลังคุยอยู่กับใคร
การที่ผมคุยอยู่กับคุณ แต่คุณยังไม่ตอบกลับ
จากนั้นamplepoorโควทเอาเฉพาะข้อความของผมมาด่า
ผมจึงตอบกลับเขาไปพร้อมดอกเบี้ย
ข้อความชุดนี้จึงเท่ากับผมกัยamplepooกำลังหันหน้ามาคุยกันอยู่
เมื่อผมตอบเขาเสร็จ คุณก็โผล่มาพร้อมกับโวยวายว่าผมด่าตุณด้วย
อ้าว,ตอนผมหันหน้าไปคุยกับคุณ(โดยการโควทข้อความของคุณ) ไม่มีคำด่านะครับ
มีเฉพาะตอนที่ผมหันหน้าไปด่ากับ amplepoor (โดยการโควทข้อความของเขา)
ถ้าคุณบอกว่าผมด่าคุณด้วยก็มีทางเดียวคือ
amplepoorแอบอยู่หลังกระโปรงคุณ เวลาผมด่าเขาจึงโดนคุณก่อน
มันเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า
ถ้าไม่ใช่ ผมก็ไม่ผิดนะครับ จึงไม่จำเป็นต้องขออภัยในความเข้าใจผิดของคุณเอง
ในทางตรงข้าม เมื่อคุณรู้ว่าคุณเข้าใจผิด คุณต้องเป็นฝ่ายขอโทษผมนะครับ เช่น
ถ้าความเข้าใจผิดของเดี๊ยน ทำให้คุณต้องเสียเวลามาชี้แจง
เดี๊ยนก็ขออภัย
อย่างนี้เป็นต้น
แค่นี้บรรยากาศก็จะดีขึ้นมากทีเดียว
เนื่องจากไม่มีการตอบกลับจากฝาท่อ
ดิฉันจึงขออนุญาตปิดกระทู้ไว้เพียงเท่านี้
ถ้าต่อจากนี้คุณฝาท่อ มีอะไรจะชี้แจงเพิ่มเติม
ก็เชิญได้ตามสบายค่ะ
คุณรีบร้อนปิดกระทู้เกินไปครับ ผมแค่ไม่ว่างมาตอบเพราะมัวไปทานปลาเก๋า4รส
อร่อยมาก ขอบอก
อะไรกัน แค่รอหน่อยก็ไม่ได้
#167
Posted 25 October 2012 - 00:13
จริงๆประเด็นนี้ ไม่น่ายืดยาวมาจนเข้าหน้า 2 น่าจะจบได้ในหน้าแรก
เพียงแค่ถ้าฝาท่อ ไม่มีเจตนากล่าวหาดิฉัน
ตั้งแต่แรกเขาน่าจะโพสต์แค่ 3 บรรทัดว่า
ผมไม่มีเจตนาจะกล่าวหาคุณอัศวินีว่าเป็นขี้ข้า
ผมต้องการตอบโต้แค่คุณแอมเพิลพัวร์ที่เหยียดหยามผม
ถ้าการโค้ทข้อความของผม ทำให้มีการเข้าใจผิด ผมก็ขออภัย
แค่นี้บรรยากาศก็จะดีขึ้นมากทีเดียว
จขกท.ครับ รีบปิดกระทู้ทำไมครับ เห็นท่าทีขึงขังในตอนแรกที่เปิดกระทู้
ทำเอาผมขวัญเสียเลยนะครับ ถ้าคุณยื้อจนถึง 5 หน้า ผมอาจยอมแพ้แล้ว
จากข้อความสีแดง 2 บรรทัดนั้น คุณไม่เห็นหรือว่า ผมได้บอกคุณไปแล้วตั้งแต่ผมตอบคุณไปครั้งแรก
และผมได้บอกเพิ่มเติมไปอีกว่า ข้อคาวมที่โควทและสนทนาอย่างออกรสออกชาติระหว่างผมกับแอม
ผมไม่ได้หมายถึงคุณ พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบมากมาย แต่คุณกลับพยายามออกหน้าหาว่า
ผมหมายถึงคุณด้วย
ในเมื่อคุณอยากสมอ้างรับไว้เอง
มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องขอโทษครับ
ผมไม่ได้ทำให้คุณเข้าใจผิดนะครับ
แต่คุณอ่านแล้วคุณเข้าใจผิดเอง
เพราะเมื่อคุณถามหาหลักฐาน แสดงว่า คุณมั่นใจแน่ว่าผมหาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ท้าผม
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
เดิมทีเมื่ออ่านคอมเมน์ของคุณเมาอยู่ ซึ่งได้ชี้ประเด็นว่าดิฉันอาจเข้าใจผิด
ดิฉันได้ทบทวนแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่ฝาท่อไฟนเดอร์จะตั้งใจถากถางกลับใส่คุณแอมเพียงคนเดียว
และคิดขอโทษที่ดิฉันเข้าใจผิดไปเอง
แม้ไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม
แต่ถ้าเรื่องนั้นนำความยุ่งยาก เดือดร้อนวุ่นวายในสังคมที่ตนอาศัยอยู่
และดิฉันเป็นผู้ก่อเหตุขึ้น ดิฉันก็พร้อมจะขอโทษ
เพราะ.....การขอโทษไม่ใช่เรื่องน่าอาย
การขอโทษไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี
ประทานโทษครับ
ผมเริ่มตอบตั้งแต่ตรงนี้นะครับ(มี ครับ ด้วยนะครับ)
ขอให้คุณอย่าลืมข้อความสีเขียวของคุณข้างบนนะครับ
ผมอ่านข้อความของคุณทั้งหมดแล้ว
รวมทั้งที่ผมตอบโต้พวกกองเชียร์ของคุณ แล้วคุณเอามาแปะ
คุณคงระวังมากขึ้น ไม่เช่นนั้นคงเหมาว่าผมว่าคุณอีกแล้ว
ดีแล้วครับที่ไม่รีบรับเหมาเอาเข้าตัว
เพราะหลังจากผมชี้ที่ผิดให้คุณเห็น ว่าคุณใช้ตรรกศาสตร์ผิดตรงไหน
คุณจะได้รู้ว่า
คุณทำผิดซ้ำซากเป็นครั้งที่3
ครั้งแรก คือกล่าวหาว่า ผมว่าคุณเป็นขี้ข้า
ครั้งที่2 คือหลังจากผมบอกแล้วว่าไม่ได้ว่าคุณเลย คุณกลับยกเหตุผลเรื่องปลายเปิด-ปลายปิดมาอ้าง
ครั้งที่3 คือหลังจากคุณ "เมาอยู่" อาสาเป็นคนกลาง แจกแจงแล้วว่า ผมพูดถูก
แต่คุณกลับมายกเอาประโยคน้อยๆที่ผมกล่าวไว้มาเป็นข้ออ้างว่า ผมว่าคุณจริงแล้ว คุณเข้าใจไม่ผิด
อีกเรื่องหนึ่งคือ
การอ้างว่า เป็นบอร์ดสาธารณะใครก็เข้ากระทู้นี้ได้ ผมก็อยากจะแย้งว่า คุณตั้งกระทู้ท้าผม
ผมทราบอยู่แล้วว่ากองเชียร์คุณต้องเข้ามาช่วยคุณ แต่ส่วนใหญ่มักจะเข้ามาด่าผมมากกว่า
ซึ่งผมทราบอยู่แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ ผมอุตส่าห์บอกเงื่อนไขไว้แล้วนะครับ
ถ้าคุณห้ามปรามพวกเขา ผมถือว่าคุณไม่เห็นด้วยกับคำด่าเหล่านี้ แต่
นอกจากคุณไม่ห้าม คุณกลับเอาคำตอบโต้ระหว่างผมกับพวกเขามาแสดง
เพื่ออยากให้คนอื่นๆเข้ามาเห็นว่า
ผมรังแกผู้หญิง
อย่าลืมนะครับว่า
1,คุณเป็นผู้ท้าผมให้มาที่นี่ ไม่ใช่ผมท้าคุณ
2.การตอบโต้ใช้ข้อความเท่านั้น ไม่ได้ใช้กำลัง คุณจึงไม่เสียเปรียบเรื่องเพศ หรือ สรีระ ใช้แค่สมองและมือเพื่อพิมพ์
3.อยู่ในบอร์ดสรท. ซึ่งสมาชิกเกือบทั้งหมดอยู่ฝ่ายคุณ ตนพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่อ่านข้อความของผมด้วยซ้ำ เพราะขนาดผมตอบไว้แล้ว
ยังกลับว่าผมว่า ไม่กล้ามาตอบ คุณดูเองก็ไว่าจริงไหม หรือถ้าอ่านแล้วก็มาแซว มาด่า แบบพวกไร้สมอง
ดังนั้นหลังสรุปได้ว่า
คุณผิดในเรื่องนี้
คุณต้องตั้งกระทู้ขอโทษผมแทนพวกเขาด้วย
แต่พอเลื่อนลงมาอ่านความเห็นของฝาท่อ
ดิฉันก็อึ้ง เมื่อเจอข้อความข้างล่างเพราะเมื่อคุณถามหาหลักฐาน แสดงว่า คุณมั่นใจแน่ว่าผมหาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ท้าผม
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
ตรรกะ คำว่า "หรือ" คืออะไรกัน????
นี่คือสิ่งที่ดิฉันพิจารณาใคร่ครวญ สิ่งที่ฝาท่อพิมพ์
ผมคิดว่า ในบอร์ดนี้คงไมมีผู้หญืงคนไหนใช้สมองในการคิดมากเท่าคุณแล้วละครับ
-คุณรับรองด้วยเกียรติว่า ไม่ได้รู้กันกับไอ้หมอนั่น เพื่อทะเลาะกับผมต่อหน้าธารกำนัลแทนเขา ผมเชื่อละกัน
ดังนั้นการพยายามพิจารณาใคร่ครวญในสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ไม่น่าเป็นประเด็นแล้ว จะให้ผมเข้าใจเป็นอื่นได้ไงครับว่า
คุณไม่มีอคติกับผมหลังจากสืบทราบว่า ผมเป็นใคร ( ซึ่งที่จริง ผมไม่ได้ต้องการปกปิดแต่อย่างใด แต่เพราะล๊อกอินfinderเข้ามาไม่ได้
ผมจึงต้องลงทะเบียนในชื่อใหม่ รายละเอียดเรื่องนี้ผมจะอธิบายภายหลัง )
เพราะพิจารณาได้จากคำพูดของคุณก่อนและหลังจากที่ทราบแล้ว มันดุเดือดผิดกัน เพื่อไม่ต้องการให้ดุเดือดเกินไป
ผมจึงทื้งช่วงเวลา ไม่มาตอบสักวันสองวัน แล้วไปกินปลาเก๋า 4 รสแทน
เพื่อให้อารมณ์ของคุณเบาลงก่อน จะได้ยอมรับฟังเหตุผลบ้าง
แต่คงไม่ได้ผล เพราะงานนี้งัดเอาตรรกศาสตร์มาใช้เลย แล้วผมควรเอาอะไรมาสู้ดีละ
จากตรรกศาสตร์การใช้ หรือ (or) ซึ่งเป็นตรรกศาสตร์การเลือก logical disjunctionคุณไม่ได้ทำ หรือ อาจทำแต่ทำน้อย ผมจึงหาหลักฐานไม่ได้
- T or T ----> T
- T or F ----> T
- F or T ----> T
- F or F ----> F
ผลลัพธ์คือ ผมจึงหาหลักฐานไม่ได้ เป็น true (T) แน่นอน เพราะฝาท่อบอกว่าดิฉันมั่นใจว่าฝาท่อหาไม่ได้ จึงกล้าท้าฝาท่อ
ข้อ 1 ใช้ไม่ได้ เพราะ ข้อความขัดแย้้งกัน ไม่มีทางเป็นจริงทั้งคู่
ข้อ 4 ก็ใช้ไม่ได้อีก เพราะผลลัพธ์ออกมาเป็น false
ที่เป็นได้คือข้อ 2 หรือ 3
นั่นคือ
คุณไม่ได้ทำ ผมจึงหาหลักฐานไม่ได้
หรือ
คุณอาจทำแต่ทำน้อย ผมจึงหาหลักฐานไม่ได้
สรุปคือ
ยังไงดิฉันก็ยังอาจเป็นขี้ข้าในสายตาของฝาท่ออยู่ดี
เพียงแต่เป็นขี้ข้าที่เป็นน้อยหน่อย
จนฝาท่อหาหลักฐานมายืนยันไม่เจอ
แถมเป็นมาตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องซะอีกแนะ
โอ้!!
แก้ไขพิมพ์ตก
ผมจะใช้หลายวิธีเพื่อชี้ว่าคุณผิด ถ้าคุณเป็นนักวิชาการ ซึ่งผมก็เชื่อว่าคุณเป็น
เพราะไม่มีใครงัดเอาตรรกศาสตร์มาใช้อธิบายเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้หรอกครับ
เขาอธิบายด้วยคำพูดก็เข้าใจแล้ว คงกะจะจับให้มั่นคั้นให้ตาย
ขอบอกก่อนว่า ผมไม่ใช่นักวิชาเกินอะไรกับเขา เป็นพวกหาเช้ากินเช้า - หาค่ำกินค่ำ เรียนหนังสือไม่สูงเท่าไร
แถมตอนเรียนก็ขี้เกียจมาก ตอนนี้ถึงต้องมาเล่นเวบบอร์ดการเมืองไง แล้วมาเจอกระทู้ของคุณเข้านี่หละ
แต่กระนั้นก็ตาม เพื่อให้ดูสมน้ำสมเนื้อ ผมจึงขอเสนอผลงานการสู้กับนักวิชาการของบอร์ดนี้มาแสดง
เพื่อให้คุณรู้สึกไม่เสียศักดิ์ศรีที่ต้องมาสู้กับผม
ผมเคยโต้กับ
-ท่าน sanddolphin เรื่องเกี่ยวกับคดีที่ศาลโลกและกฎหมายปิดปาก แกเป็นนักกฎหมายที่คร่ำหวอดมาก
แคนไทยังมาช่วยเชียร์แกออกหน้าออกตา เกือบจะเอาผมอยู่แล้ว ผลสุดท้าย ผมเอาคำพิพากษาที่แกเอามาใช้โต้ผมนั่นแหละ
เป็นอุปกรณ์ในการตีโต้กลับไป ด้วยภาษาบ้านๆ เข้าใจง่าย
หลังจากนั้นมา ผมไม่เคยเห็นชื่อ sanddolphin อีกเลย และแคนไทก็ไม่กล้ามาช่วยโต้แทนเขาด้วย
ผมดันกระทู้และรออยู่1-2อาทิตย์ จึงปิดกระทู้
อย่างนี้พอได้ไหมครับ
-คนที่สองเป็นนักกฎหมายหญิงอีกละ ช่วยแก้แทนท่านตอแหลว่า สาเหตุที่ท่านตอแหลไม่ยอมลงชื่อในกฎหมายเกี่ยวกับ
การก่ออาชญากรรมสากล(ชื่อประมาณนี้) (กฎหมายนี้ถ้าลงชื่อ แล้วนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อลงพระปรมาภิไธย
จะสามารถจับแม้วมาลงโทษได้ กรณีตากใบ กรือเซะ เป็นต้น) คุณเธอว่า ท่านตอแหลไม่ควรรับกฎหมายนี้
เพราะถ้าในหลวงลงชื่อ ท่านต้องรับผิดชอบด้วย ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น คุณคงเดาได้นะครับว่าผลจะเป็นอย่างไรต่อไป
เพราะผมยังอยู่ แต่เธอไปแล้ว
แค่นี้คงพอใช้ได้นะครับ
มาเริ่มกันเลย ดึกแล้ว จะได้รีบไปนอน
ตรรกศาสตร์
1.โชคดีที่ผมได้ร่ำเรียนมาบ้าง หลังจากดูสูตรของคุณแล้วปรากฎว่า สูตรถูก
แต่การแทนค่าในสูตร ผิด เพราะ ประโยคนี้เป็นประโยคคำถาม ที่ต้องการคำตอบ เชิญดู
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
เพราะขึ้นด้วยคำว่า " ทำไม +คุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้"
ต่อจากนั้น ผมก็เดาความคิดของคุณว่า ทำไมคุณถึงคิดเช่นนั้น " เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย "
ซึ่งถ้าผมพิมพ์คำว่า "ใช่ไหม" ต่อท้ายประโยค ความหมายก็สมบูรณ์ (เหมือนประโยคquestion tag) ก็จะเป็นว่า
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย, ใช่ไหม
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
ตามด้วยประโยคสุดท้ายนี้ก็ช่วยเน้นว่า ผมไม่ได้ปรับแต่งความหมายใดๆ
การที่คุณเอาเพียงท่อนเดียวไปตีความจึงผิด
2.การแทนค่าด้วยประโยคที่ยังไม่รู้ตรรกที่ชัดเจน ไม่ควรจะใช้ได้
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
คำว่าอาจทำ แต่ทำน้อย
ยังไม่ชี้ชัดเลยว่าเป็น T หรือ F เพราะคำว่า อาจทำ มีความหมายว่า ยังไม่แน่
คุณเอาไปแทนค่าในสูตรได้อย่างไรครับ
ผมเห็นการเขียนโปรแกรม เขาก็ใช้คำเงื่อนไขของวิชา ตรกศาสตร์ไปใช้บังคับฮาร์ดแวร์
ให้ทำงานด้วยสัญญาณ 0 หรือ 1 (ปิด หรือเปิด) ถ้าเงื่อนไขของโปรแกรมไม่ชัดเจน มันรันไม่ได้ครับ
limit
เพื่อความรวดเร็ว ผมต้องนอนแล้ว
เพราะตรรกศาสตร์เป็นเรื่องหนึ่งทางคณิตศาสตร์ ผมอนุมานว่าคุณรู้เรื่อง limit นี้ด้วย
ถ้าคุณยังไม่เชื่อว่าคุณคิดผิด ตุณกล่าวสรุปไว้ว่า
สรุปคือ
ยังไงดิฉันก็ยังอาจเป็นขี้ข้าในสายตาของฝาท่ออยู่ดี
เพียงแต่เป็นขี้ข้าที่เป็นน้อยหน่อย
จนฝาท่อหาหลักฐานมายืนยันไม่เจอ
ให้ดูสูตรนี้
Y = limit X
ถ้า X ----> 0 คือ อาจทำ แต่ทำน้อย
ผล Y = 0 หาหลักฐานไม่ได้
คราวนี้ เมื่อ X ----> 0 มากๆ มีผลอย่างไร เราจะพิสูจน์ว่า 4.999999 ไม่รู้จบ = 5
ให้ X = 4.999999 ไม่รู้จบ .....................................1
เอา 10 คูณ สมการ 1 จะได้
10X = 49.999999 ไม่รู้จบ ..........................................2
เอา สมการ 2 ลบ สมการ 1 จะได้
9X = 45 (ส่วนท้ายที่ไม่รู้จบมันหักกันไปหมด)
X = 5
จะเห็นว่า ค่าที่น้อย ซึ่งคุณเอามาคิด ในทางคณิตศาสตร์เขาถึอว่าไม่มีค่านี้อยู่ก็ได้
ไม่เช่นนั้น 4.9999 ไม่รู้จบ = 5 ได้ไง
ผมสู้กับคุณด้วยเงื่อนไขของคูณเลยนะครับ
-
#168
Posted 25 October 2012 - 00:14
ตอบคุณฝาท่อฟายเด้อ
เบื่อเหมือนกันนะคะที่ต้องมาพิมพ์ย้ำซ้ำๆ
ทั้งหมดที่คุณพยายามอ้างอยู่เสมอว่า ผมโควทข้อความของคุณ ผมก็อ้างเหตุผลต่างๆและหลักฐานเพื่อแสดงว่า
ผมไม่ได้ทำเช่นคุณว่า
คุณพยายามอ้างวิธีคิดของคุณว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อ้างว่า ทำไมไม่ตัดนั่นตัดนี่ออกเพื่อคุณจะได้ไม่นำคุณเข้ามาเกี่ยวข้อง
คุณครับ ทำไมผมต้องทำอย่างที่คุณต้องการครับ ในเมื่อผมเล่นบอร์ดการเมืองมาหลายปี ผมไม่เคยเจอคนอย่างคุณเลยครับ
และก็ไม่เคยเห็นใครคนใดในบอร์ดนี้หรือบอร์ดใดๆที่ผมเล่นมาเขาเอากรณีลักษณะนี้มาใช้อย่างคุณด้วย
คุณพิจารณาตัวคุณเองนะครับว่า วิธีคิดของคุณผิดปกติหรือเปล่า
ในเมื่อผมบอกแล้วว่า ไม่เกี่ยวกับคุณ
แต่คุณกลับบอกว่า ไม่ได้ ถ้ามารูปนี้ เดี๊ยนถือว่าต้องเกี่ยวกับเดี๊ยน และยังกล่าวว่า
เพียงแค่ถ้าฝาท่อ ไม่มีเจตนากล่าวหาดิฉัน
ตั้งแต่แรกเขาน่าจะโพสต์แค่ 3 บรรทัดว่า
ผมไม่มีเจตนาจะกล่าวหาคุณอัศวินีว่าเป็นขี้ข้า
ผมต้องการตอบโต้แค่คุณแอมเพิลพัวร์ที่เหยียดหยามผม
ถ้าการโค้ทข้อความของผม ทำให้มีการเข้าใจผิด ผมก็ขออภัย
คำพูดของคุณทั้งหมดที่ผ่านมาสรุปได้ว่า เดี๊ยนจะเอาเหตุผลอย่างไรมาอ้างก็ได้ ก็เดี๊ยนคิดได้อย่างนี้และต้องการอย่างนี้
เดี๊ยนไม่สนว่าคู่กรณีเขาจะอ้างอย่างไร เดี๊ยนมองไม่เห็นว่าเหตุผลของเขาจะสามารถมาลบความคิดของเดี๊ยนได้ไง
เพราะเหตุผลของเดี๊ยนขั้นเทพ
ต้องเอาตามเหตุผลของเดี๊ยนเท่านั้น
และเมื่อเดี๊ยนบอกว่า เขาผิด ก็คือ ผิด เพราะเดี๊ยนตัดสินได้เอง
ผลต่อมาก็คือครั้งที่3 คือหลังจากคุณ "เมาอยู่" อาสาเป็นคนกลาง แจกแจงแล้วว่า
ผมพูดถูก
แต่คุณกลับมายกเอาประโยคน้อยๆที่ผมกล่าวไว้มาเป็นข้ออ้างว่า ผมว่าคุณจริงแล้ว คุณเข้าใจไม่ผิด
ดิฉันรับฟังความคิดของคนอื่น โดยไม่มุทะลุดึงดัน มุ่งแต่จะเอาชนะใคร
เมื่อคุณเมาอยู่ซึ่งเป็นบุคคลที่สามออกความเห็นไปในทางสอดคล้องกับคุณ ดิฉันก็รับฟัง
และเพื่อไม่ให้เปลืองเนื้อที่บอร์ดไปกับเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทำให้กระทู้ดีๆต้องตกลงไป จึงอยากให้เรื่องจบลง
ถ้าคุณคิดอย่างนี้จริงๆ คุณตั้งกระทู้นี้ทำไม
คุณบอกว่า จะปกป้องสิทธิ์และศักดิ์ศรีของตนเอง และต้องการให้ผม ขอขมาไม่ใช่หรือ
และมีคนเข้ามาเชียร์คุณเยอะมาก การเดินกระทู้นี้ต่อไป จึงชอบธรรม เพราะมีผู้สนับสนุน
คนเราต้องรักศักดิ์ศรีของตนเอง
ไม่ใช่ไปห่วงกระทู้ห่วยๆที่อวยกันเองครับ
หรือคุณคิดว่ากระทู้เหล่านั้นห่วย แต่กระทู้คุณห่วยกว่าครับ
แต่อย่างที่บอก พอเจอความเห็นของคุณที่ว่าเพราะเมื่อคุณถามหาหลักฐาน แสดงว่า คุณมั่นใจแน่ว่าผมหาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ท้าผม
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
ทำไมคุณไม่พิมพ์อย่างนี้ล่ะคะ
เพราะเมื่อคุณถามหาหลักฐาน แสดงว่า คุณมั่นใจแน่ว่าผมหาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ท้าผม
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
การที่คุณไม่ตัดวลีนั้นทิ้ง แสดงจิตเจตนาของคุณออกมานะคะ
มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องทำอย่างที่คุณต้องการครับ ผมก็บอกแล้วว่า
1.โชคดีที่ผมได้ร่ำเรียนมาบ้าง หลังจากดูสูตรของคุณแล้วปรากฎว่า สูตรถูก
แต่การแทนค่าในสูตร ผิด เพราะ ประโยคนี้เป็นประโยคคำถาม ที่ต้องการคำตอบ เชิญดู
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
เพราะขึ้นด้วยคำว่า " ทำไม +คุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้"
ต่อจากนั้น ผมก็เดาความคิดของคุณว่า ทำไมคุณถึงคิดเช่นนั้น " เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย "
ซึ่งถ้าผมพิมพ์คำว่า "ใช่ไหม" ต่อท้ายประโยค ความหมายก็สมบูรณ์ (เหมือนประโยคquestion tag) ก็จะเป็นว่า
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย, ใช่ไหม
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
ตามด้วยประโยคสุดท้ายนี้ก็ช่วยเน้นว่า ผมไม่ได้ปรับแต่งความหมายใดๆ
การที่คุณเอาเพียงท่อนเดียวไปตีความจึงผิด
2.การแทนค่าด้วยประโยคที่ยังไม่รู้ตรรกที่ชัดเจน ไม่ควรจะใช้ได้
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
คำว่าอาจทำ แต่ทำน้อย
ยังไม่ชี้ชัดเลยว่าเป็น T หรือ F เพราะคำว่า อาจทำ มีความหมายว่า ยังไม่แน่
คุณเอาไปแทนค่าในสูตรได้อย่างไรครับ
ผมเห็นการเขียนโปรแกรม เขาก็ใช้คำเงื่อนไขของวิชา ตรกศาสตร์ไปใช้บังคับฮาร์ดแวร์
ให้ทำงานด้วยสัญญาณ 0 หรือ 1 (ปิด หรือเปิด) ถ้าเงื่อนไขของโปรแกรมไม่ชัดเจน มันรันไม่ได้ครับ
คุณยกเอาตรรกศาสตร์มาใช้แย้งผม ผมก็ตอบคุณด้วยตรรกศาสตร์
แต่ทำไมคุณตัดประเด็นนี้ทิ้ง ไม่เอามาพูดต่อ
มันเป็นประเด็นชี้เป็นชี้ตายเลยนะครับว่า ใครถูกใครผิด
ถ้าคุณไม่ยอมโต้แย้งประเด็นนี้
ผมจะถือว่าคุณยอมรับว่าคุณเป็นฝ่ายผิด
ผมจะส่งรีพลายนี้ไปให้คุณในกล่องด้วย
3 ในกระทู้สาธารณะ เมื่อมีคนออกความเห็น ดิฉันจะไปห้ามปรามได้อย่างไรว่า อย่าออกความเห็น
เช่นเดียวกับที่คุณออกความเห็น ดิฉันก็ไม่เคยห้าม
เพราะดิฉันไม่ใช่ผู้ดูแลกำกับบอร์ด
สมมตินะคะ สมมติว่า ดิฉันห้ามปรามคนที่เข้ามาว่าคุณ แล้วเกิดมีสมาชิกตอกกลับว่า "เขารู้ แต่อยากเกรียน มีไรมั๊ย" แล้วดิฉันควรทำอย่างไร
ดิฉันไม่สามารถล่วงรู้จิตเจตนาของใครได้ว่า เขาเข้ามาในกระทู้นี้ เพื่อเป้าหมายบวก ลบ ดี งาม มากน้อยเพียงใด
ประเด็นอยู่ตรนี้ครับ อย่าไขสือ
ถ้าคุณห้ามปรามพวกเขา ผมถือว่าคุณไม่เห็นด้วยกับคำด่าเหล่านี้ แต่
นอกจากคุณไม่ห้าม คุณกลับเอาคำตอบโต้ระหว่างผมกับพวกเขามาแสดง
เพื่ออยากให้คนอื่นๆเข้ามาเห็นว่า
ผมรังแกผู้หญิง
หน้าที่นี้จึงควรเป็นของคุณที่จะอธิบายให้เข้าใจนะคะ
โปรดสังเกตดีๆ มีสมาชิกเยาะหยันความเป็นเพศหญิงของดิฉัน ดิฉันก็ไม่ได้ห้ามและได้ตอบไปบนหลักการและเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง
ถ้าคุณรู้สึกว่าถูกรุม ทำไมไม่ตอบด้วยหลักการ เหตุผล อ้างอิงถึงreply ต่างๆที่คุณตอบไป ด้วยปิยวาจาล่ะคะ
คุณสามารถเลือกตอบกลับแบบสุภาพชน มีเหตุผล ให้คนที่คุณรู้สึกว่าหยาบคายใส่คุณ ได้หน้าหงายได้
แต่คุณก็ไม่ทำ
น่าหัวเราะยิ่งนัก
แค่ 1 คนที่แนะนำคุณ แต่คุณกลับไม่ฟัง สุดท้ายก็มากล่าวอำลาด้วยเหตุผลห่วยๆ
ถ้าเชื่อเขาตั้งแต่แรก คุณก็ไม่จำเป็นต้องขายหน้าขนาดนี้แล้วครับ
ส่วนพวกหมาหมู่ที่มารุมผม มันมาตัวเดียวไหมครับ
ถ้าคุณคิดว่าใช้ปิยะวาจาได้ กรุณาไปตอบแทนผมที ให้ครบทุกคนเลยนะครับ
ถ้าทำได้ค่อยมาแนะนำผม
อย่าดีแต่พูด เหมือนไอ้ตอแหลที่คุณเชียร์
4 ดิฉันไม่ใช่นักวิชาการใดๆ ไม่เคยเขียนหนังสือวิชาการ ไม่เคยมีตำแหน่งทางวิชาการ อย่าคาดเดาไปเองเลย
ดิฉันก็คนธรรมดา เรียนหนังสือมาบ้างเท่านั้น
และไม่ได้ตั้งใจจะอวดภูมิความรู้ เพื่อข่มคุณเรื่องตรรกศาสตร์ เพราะสิ่งที่ดิฉันคิดและพิมพ์ไปในประเด็นนี้ มันอยู่ในหลักสูตร ม. ปลาย
ดิฉันนำมาใช้เพื่อตีความ ความหมายที่คุณต้องการจะสื่อ
มาถึงตอนนี้กลับบอกว่า ไม่ต้องการข่มผมเรื่องตรรกศาสตร์ ถ้าคุณเรียนถึงม.ปลาย แสดงว่าคุณต้องเรียนถีง มหาวิทยาลัย
และผมเดาว่า คงจบแล้ว และทำงานแล้ว เพราะลักษณะการใช้คำพูดของคุณเป็นลักษณะเหมือนคนที่มีตำแหน่งสั่งงานลูกน้อง
คือต้องตามที่เดี๊ยนพูด ผิดจากนี้ไม่ได้ อีกพวกคือ พวกเด็กที่พ่อแม่เอาใจตั้งแต่เล็กจนติดเป็นนิสัย ใครขัดใจไม่ได้ ใครห้ามก็ไม่ฟัง
ถ้ามี(amplepoor) ยุส่ง พวกนี้กู่กลับยาก
พวกนี้จึงติดนิสัยไม่ยอมใครแม้แต่father (finder)ก็ตาม ก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา โต้ทุกดอกที่ทำได้
พอไปต่อไม่เป็นก็งัดเอาความรู้ขั้นเทพมาใช้ นั่นคือ
ความรู้ระดับ ม.ปลาย
แต่กลับใช้ผิด
โชคของผมยังดีที่ได้ร่ำเรียนมาบ้าง ถึงได้รู้ ไม่งั้นคุณเธอคงสับผมเละ
แล้วชื่อเสียงที่สร้างมายาวนานของผมเกือบต้องมาดับวูบเพราะความรู้ระดับม.ปลายนี่แหละ
ส่วนที่คุณคิดว่าดิฉัน "อคติ" ต่อคุณ เมื่อดิฉันสืบทราบว่าคุณเป็นใคร
ในตอนแรก ดิฉันไม่ทราบว่าคุณคือใคร แต่ได้อ่านข้อความที่คุณเมนท์ในกระทู้อื่นในห้วงเวลานั้น ความเห็นของคุณเป็นแบบเดียวกับที่มีอยู่ในเว็บ ป.... ดิฉันจึงตั้งข้อสังเกตว่า คุณน่าจะเป็นสมาชิกใหม่ แต่คร่ำหวอดในวงการ และเป็น พธม.
ล็อกอินfinder ดิฉันยังไม่รู้จัก แม้กระทั่งหลายวันต่อมา คุณโทนีบอกใบ้ ดิฉันยังบอกว่า จะยังไม่ถามคุณโทนี ขอไปค้นหาเองก่อน
พอค้นจึงพบว่ามีหลายล็อกอินมากที่ขึ้นด้วย f และลงท้ายด้วย r ดิฉันก็ยังไม่ได้ไปถามคุณโทนีต่อว่า เป็นล็อกอินไหน
จนกระทั่งคุณผึ้งน้อยและคุณ eAT เฉลย จึงได้ทราบตอนนั้น
คุณจะมากล่าวหาว่าดิฉันอคติด้วยประวัติของคุณได้อย่างไร ในเมื่อดิฉันไม่ได้เอาการเมนท์ของคุณในล็อกอินฟายเด้อ มาพิจารณาร่วมด้วยเลย
ไปเกี่ยวอะไรกับชื่อfinder อย่าเบี่ยงประเด็น ตอนแรกคุณเห็นชื่อ father คุณยังมีความเห็นเป็นกลางๆ แต่พอคุณไปไล่ดูประวัติfatherแล้ว
คุณบอกว่า ไม่น่าใช่แดง น่าจะเป็นพธม. แต่มาถากถางบอร์ด คุณจึงเริ่มแรงขึ้นทันที รักบอร์ดยิ่งกว่าเจ้าของบอร์ดเสียอีก ใครแตะไม่ได้
5 อาจทำ แต่ทำน้อย
คุณแน่ใจว่า การ"ทำน้อย" มันเป็นการเข้าใกล้ศูนย์ได้เพียงประการเดียวหรือ????
เต็ม 10 ทำ 1 2 3 4 หรือแม้กระทั่ง 4 กว่าๆ แบบ 4.999... ก็ยังจัดว่าน้อย เพราะไม่เกินครึ่ง
ถ้าคุณอยากให้มันคือการเข้าใกล้ศูนย์ คุณน่าจะพิมพ์ว่า
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อยมากๆๆๆๆๆๆๆ
ผมคิดว่าคุณมีปัญหาในการอ่านและตีความหมายนะครับ
การทำน้อยจนหาหลักฐานไม่ได้ มีความหมายว่า น้อยมากๆอยู่แล้วครับ
มิเช่นนั้นก็ คุณแกล้งโง่แล้วครับ คนที่เรียนม.ปลายตีความเรื่องนี้ไม่ออก
ได้อย่างไร จริงไหมครับ
กลับไปเรียนประถมอีกทีดีไหม เผื่อจะดีขึ้นกว่านี้
นี่ก็เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของเรื่องนี้อีกจุดหนึ่ง ไม่พูดไม่ได้ จึงต้องตัวใหญ่หน่อย กลัวคุณไม่เห็น
6 เพราะฉะนั้น จากข้อ 5 ประโยค อาจทำ แต่ทำน้อย จึงนำมาใช้ในการวิเคราะห์ T F
ก็ผมบอกไว้แล้วว่าคุณวิเคราะห์ผิดอย่างไร แต่คุณกลับลบออก แล้วมาพูดสั้นๆแค่เนี๊ยะ
กลับไปตอบข้างบนเลย ผมแปะให้ใหม่แล้ว เรียนม.ปลายต้องแก้โจทย์ยากๆบ่อยๆ ถึงจะเข้ามหาลัยได้ เชื่อผมสิ
7 4.999 ไม่รู้จบ เท่ากับ 5 ได้ ต้องผ่านกระบวนการแปรรูปก่อนนะคะ อย่าลืม
ด้วยตัวของมันเอง อยู่เฉยๆ 4.999 ไม่รู้จบ ยังไงก็ไม่เท่ากับ 5 หรอกค่ะ
โอ้ไห เก่งขนาดนี้ทำไมแทนค่าผิดได้ครับ ตรรกศาสตร์ที่คุณยกมา แค่แทนค่าในสูตรก็ได้คำตอบ
แต่ที่ผมทำให้ดู เป็นหลักการที่ใครๆก็ใช้คำนวณกัน หรือว่าคุณมีแปลกกว่านี้ครับ เอามาเปิดหูเปิดตาหน่อย
ถ้าไม่มีอย่าข้างๆคูๆ
8 ดิฉันสังเกตเห็นว่าคุณใช้คำว่า "สู้" หลายครั้งหลายหน ผิด
ผิด ผมใช้แค่ประโยคปิดท้ายเท่านั้น หรือถ้ามีอีกก็น้อยมาก
ดิฉันสู้คุณไม่ได้หรอกค่ะ
ดิฉันขอยอมแพ้นะคะ
ไม่ขอถกเถียงกับคุณอีกแล้ว
เพราะจากประวัติการโต้ตอบในบอร์ดเก่าซึ่งคุณนำมาอ้างอิง บวกกับที่คุณเอ่ยถึงดิฉันในการตอบโต้กับสมาชิกท่านอื่น คราวนี้ดิฉันก็พอทราบแล้วว่า คุณเป็นคนเช่นไร
จึงขอยุติ เพียงเท่านี้
อ้าว,ไหงยอมกันดื้อๆล่ะครับ ตอนคุณตั้งกระทู้นี้ รู้สึกคุณฮึกเหิม ต้องการให้ผมขอขมา วัตถุประสงค์ยังไม่บรรลุนะครับ
และที่สำคัญ
ในเมื่อคุณอยากสมอ้างรับไว้เอง
ผมไม่ได้ทำให้คุณเข้าใจผิดนะครับ
แต่คุณอ่านแล้วคุณเข้าใจผิดเอง
คุณทำผิดซ้ำซาก
ครั้งแรก คือกล่าวหาว่า ผมว่าคุณเป็นขี้ข้า
ครั้งที่2 คือหลังจากผมบอกแล้วว่าไม่ได้ว่าคุณเลย คุณกลับยกเหตุผลเรื่องปลายเปิด-ปลายปิดมาอ้าง
ครั้งที่3 คือหลังจากคุณ "เมาอยู่" อาสาเป็นคนกลาง แจกแจงแล้วว่า ผมพูดถูก
แต่คุณกลับมายกเอาประโยคน้อยๆที่ผมกล่าวไว้มาเป็นข้ออ้างว่า ผมว่าคุณจริงแล้ว คุณเข้าใจไม่ผิด
อีกเรื่องหนึ่งคือ
การอ้างว่า เป็นบอร์ดสาธารณะใครก็เข้ากระทู้นี้ได้ ผมก็อยากจะแย้งว่า คุณตั้งกระทู้ท้าผม
ผมทราบอยู่แล้วว่ากองเชียร์คุณต้องเข้ามาช่วยคุณ แต่ส่วนใหญ่มักจะเข้ามาด่าผมมากกว่า
ซึ่งผมทราบอยู่แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ ผมอุตส่าห์บอกเงื่อนไขไว้แล้วนะครับ
ถ้าคุณห้ามปรามพวกเขา ผมถือว่าคุณไม่เห็นด้วยกับคำด่าเหล่านี้ แต่
นอกจากคุณไม่ห้าม คุณกลับเอาคำตอบโต้ระหว่างผมกับพวกเขามาแสดง
เพื่ออยากให้คนอื่นๆเข้ามาเห็นว่า
ผมรังแกผู้หญิง
อย่าลืมนะครับว่า
1,คุณเป็นผู้ท้าผมให้มาที่นี่ ไม่ใช่ผมท้าคุณ
2.การตอบโต้ใช้ข้อความเท่านั้น ไม่ได้ใช้กำลัง คุณจึงไม่เสียเปรียบเรื่องเพศ หรือ สรีระ ใช้แค่สมองและมือเพื่อพิมพ์
3.อยู่ในบอร์ดสรท. ซึ่งสมาชิกเกือบทั้งหมดอยู่ฝ่ายคุณ ตนพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่อ่านข้อความของผมด้วยซ้ำ เพราะขนาดผมตอบไว้แล้ว
ยังกลับว่าผมว่า ไม่กล้ามาตอบ คุณดูเองก็ไว่าจริงไหม หรือถ้าอ่านแล้วก็มาแซว มาด่า แบบพวกไร้สมอง
ดังนั้นหลังสรุปได้ว่า
คุณผิดในเรื่องนี้
คุณต้องตั้งกระทู้ขอโทษผมแทนพวกเขาด้วย
อย่าหนี
#169
Posted 14 November 2012 - 00:36
ตอบคุณฝาท่อฟายเด้อ
เบื่อเหมือนกันนะคะที่ต้องมาพิมพ์ย้ำซ้ำๆ
ทั้งหมดที่คุณพยายามอ้างอยู่เสมอว่า ผมโควทข้อความของคุณ ผมก็อ้างเหตุผลต่างๆและหลักฐานเพื่อแสดงว่า
ผมไม่ได้ทำเช่นคุณว่า
คุณพยายามอ้างวิธีคิดของคุณว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อ้างว่า ทำไมไม่ตัดนั่นตัดนี่ออกเพื่อคุณจะได้ไม่นำคุณเข้ามาเกี่ยวข้อง
คุณครับ ทำไมผมต้องทำอย่างที่คุณต้องการครับ ในเมื่อผมเล่นบอร์ดการเมืองมาหลายปี ผมไม่เคยเจอคนอย่างคุณเลยครับ
และก็ไม่เคยเห็นใครคนใดในบอร์ดนี้หรือบอร์ดใดๆที่ผมเล่นมาเขาเอากรณีลักษณะนี้มาใช้อย่างคุณด้วย
คุณพิจารณาตัวคุณเองนะครับว่า วิธีคิดของคุณผิดปกติหรือเปล่า
ในเมื่อผมบอกแล้วว่า ไม่เกี่ยวกับคุณ
แต่คุณกลับบอกว่า ไม่ได้ ถ้ามารูปนี้ เดี๊ยนถือว่าต้องเกี่ยวกับเดี๊ยน และยังกล่าวว่า
เพียงแค่ถ้าฝาท่อ ไม่มีเจตนากล่าวหาดิฉัน
ตั้งแต่แรกเขาน่าจะโพสต์แค่ 3 บรรทัดว่า
ผมไม่มีเจตนาจะกล่าวหาคุณอัศวินีว่าเป็นขี้ข้า
ผมต้องการตอบโต้แค่คุณแอมเพิลพัวร์ที่เหยียดหยามผม
ถ้าการโค้ทข้อความของผม ทำให้มีการเข้าใจผิด ผมก็ขออภัย
คำพูดของคุณทั้งหมดที่ผ่านมาสรุปได้ว่า เดี๊ยนจะเอาเหตุผลอย่างไรมาอ้างก็ได้ ก็เดี๊ยนคิดได้อย่างนี้และต้องการอย่างนี้
เดี๊ยนไม่สนว่าคู่กรณีเขาจะอ้างอย่างไร เดี๊ยนมองไม่เห็นว่าเหตุผลของเขาจะสามารถมาลบความคิดของเดี๊ยนได้ไง
เพราะเหตุผลของเดี๊ยนขั้นเทพ
ต้องเอาตามเหตุผลของเดี๊ยนเท่านั้น
และเมื่อเดี๊ยนบอกว่า เขาผิด ก็คือ ผิด เพราะเดี๊ยนตัดสินได้เอง
ผลต่อมาก็คือครั้งที่3 คือหลังจากคุณ "เมาอยู่" อาสาเป็นคนกลาง แจกแจงแล้วว่า
ผมพูดถูก
แต่คุณกลับมายกเอาประโยคน้อยๆที่ผมกล่าวไว้มาเป็นข้ออ้างว่า ผมว่าคุณจริงแล้ว คุณเข้าใจไม่ผิด
ดิฉันรับฟังความคิดของคนอื่น โดยไม่มุทะลุดึงดัน มุ่งแต่จะเอาชนะใคร
เมื่อคุณเมาอยู่ซึ่งเป็นบุคคลที่สามออกความเห็นไปในทางสอดคล้องกับคุณ ดิฉันก็รับฟัง
และเพื่อไม่ให้เปลืองเนื้อที่บอร์ดไปกับเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทำให้กระทู้ดีๆต้องตกลงไป จึงอยากให้เรื่องจบลง
ถ้าคุณคิดอย่างนี้จริงๆ คุณตั้งกระทู้นี้ทำไม
คุณบอกว่า จะปกป้องสิทธิ์และศักดิ์ศรีของตนเอง และต้องการให้ผม ขอขมาไม่ใช่หรือ
และมีคนเข้ามาเชียร์คุณเยอะมาก การเดินกระทู้นี้ต่อไป จึงชอบธรรม เพราะมีผู้สนับสนุน
คนเราต้องรักศักดิ์ศรีของตนเอง
ไม่ใช่ไปห่วงกระทู้ห่วยๆที่อวยกันเองครับ
หรือคุณคิดว่ากระทู้เหล่านั้นห่วย แต่กระทู้คุณห่วยกว่าครับ
แต่อย่างที่บอก พอเจอความเห็นของคุณที่ว่าเพราะเมื่อคุณถามหาหลักฐาน แสดงว่า คุณมั่นใจแน่ว่าผมหาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ท้าผม
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
ทำไมคุณไม่พิมพ์อย่างนี้ล่ะคะ
เพราะเมื่อคุณถามหาหลักฐาน แสดงว่า คุณมั่นใจแน่ว่าผมหาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ท้าผม
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
การที่คุณไม่ตัดวลีนั้นทิ้ง แสดงจิตเจตนาของคุณออกมานะคะ
มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องทำอย่างที่คุณต้องการครับ ผมก็บอกแล้วว่า
1.โชคดีที่ผมได้ร่ำเรียนมาบ้าง หลังจากดูสูตรของคุณแล้วปรากฎว่า สูตรถูก
แต่การแทนค่าในสูตร ผิด เพราะ ประโยคนี้เป็นประโยคคำถาม ที่ต้องการคำตอบ เชิญดู
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
เพราะขึ้นด้วยคำว่า " ทำไม +คุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้"
ต่อจากนั้น ผมก็เดาความคิดของคุณว่า ทำไมคุณถึงคิดเช่นนั้น " เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย "
ซึ่งถ้าผมพิมพ์คำว่า "ใช่ไหม" ต่อท้ายประโยค ความหมายก็สมบูรณ์ (เหมือนประโยคquestion tag) ก็จะเป็นว่า
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย, ใช่ไหม
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
ตามด้วยประโยคสุดท้ายนี้ก็ช่วยเน้นว่า ผมไม่ได้ปรับแต่งความหมายใดๆ
การที่คุณเอาเพียงท่อนเดียวไปตีความจึงผิด
2.การแทนค่าด้วยประโยคที่ยังไม่รู้ตรรกที่ชัดเจน ไม่ควรจะใช้ได้
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
คำว่าอาจทำ แต่ทำน้อย
ยังไม่ชี้ชัดเลยว่าเป็น T หรือ F เพราะคำว่า อาจทำ มีความหมายว่า ยังไม่แน่
คุณเอาไปแทนค่าในสูตรได้อย่างไรครับ
ผมเห็นการเขียนโปรแกรม เขาก็ใช้คำเงื่อนไขของวิชา ตรกศาสตร์ไปใช้บังคับฮาร์ดแวร์
ให้ทำงานด้วยสัญญาณ 0 หรือ 1 (ปิด หรือเปิด) ถ้าเงื่อนไขของโปรแกรมไม่ชัดเจน มันรันไม่ได้ครับ
คุณยกเอาตรรกศาสตร์มาใช้แย้งผม ผมก็ตอบคุณด้วยตรรกศาสตร์
แต่ทำไมคุณตัดประเด็นนี้ทิ้ง ไม่เอามาพูดต่อ
มันเป็นประเด็นชี้เป็นชี้ตายเลยนะครับว่า ใครถูกใครผิด
ถ้าคุณไม่ยอมโต้แย้งประเด็นนี้
ผมจะถือว่าคุณยอมรับว่าคุณเป็นฝ่ายผิด
ผมจะส่งรีพลายนี้ไปให้คุณในกล่องด้วย
3 ในกระทู้สาธารณะ เมื่อมีคนออกความเห็น ดิฉันจะไปห้ามปรามได้อย่างไรว่า อย่าออกความเห็น
เช่นเดียวกับที่คุณออกความเห็น ดิฉันก็ไม่เคยห้าม
เพราะดิฉันไม่ใช่ผู้ดูแลกำกับบอร์ด
สมมตินะคะ สมมติว่า ดิฉันห้ามปรามคนที่เข้ามาว่าคุณ แล้วเกิดมีสมาชิกตอกกลับว่า "เขารู้ แต่อยากเกรียน มีไรมั๊ย" แล้วดิฉันควรทำอย่างไร
ดิฉันไม่สามารถล่วงรู้จิตเจตนาของใครได้ว่า เขาเข้ามาในกระทู้นี้ เพื่อเป้าหมายบวก ลบ ดี งาม มากน้อยเพียงใด
ประเด็นอยู่ตรนี้ครับ อย่าไขสือ
ถ้าคุณห้ามปรามพวกเขา ผมถือว่าคุณไม่เห็นด้วยกับคำด่าเหล่านี้ แต่
นอกจากคุณไม่ห้าม คุณกลับเอาคำตอบโต้ระหว่างผมกับพวกเขามาแสดง
เพื่ออยากให้คนอื่นๆเข้ามาเห็นว่า
ผมรังแกผู้หญิง
หน้าที่นี้จึงควรเป็นของคุณที่จะอธิบายให้เข้าใจนะคะ
โปรดสังเกตดีๆ มีสมาชิกเยาะหยันความเป็นเพศหญิงของดิฉัน ดิฉันก็ไม่ได้ห้ามและได้ตอบไปบนหลักการและเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง
ถ้าคุณรู้สึกว่าถูกรุม ทำไมไม่ตอบด้วยหลักการ เหตุผล อ้างอิงถึงreply ต่างๆที่คุณตอบไป ด้วยปิยวาจาล่ะคะ
คุณสามารถเลือกตอบกลับแบบสุภาพชน มีเหตุผล ให้คนที่คุณรู้สึกว่าหยาบคายใส่คุณ ได้หน้าหงายได้
แต่คุณก็ไม่ทำ
น่าหัวเราะยิ่งนัก
แค่ 1 คนที่แนะนำคุณ แต่คุณกลับไม่ฟัง สุดท้ายก็มากล่าวอำลาด้วยเหตุผลห่วยๆ
ถ้าเชื่อเขาตั้งแต่แรก คุณก็ไม่จำเป็นต้องขายหน้าขนาดนี้แล้วครับ
ส่วนพวกหมาหมู่ที่มารุมผม มันมาตัวเดียวไหมครับ
ถ้าคุณคิดว่าใช้ปิยะวาจาได้ กรุณาไปตอบแทนผมที ให้ครบทุกคนเลยนะครับ
ถ้าทำได้ค่อยมาแนะนำผม
อย่าดีแต่พูด เหมือนไอ้ตอแหลที่คุณเชียร์
4 ดิฉันไม่ใช่นักวิชาการใดๆ ไม่เคยเขียนหนังสือวิชาการ ไม่เคยมีตำแหน่งทางวิชาการ อย่าคาดเดาไปเองเลย
ดิฉันก็คนธรรมดา เรียนหนังสือมาบ้างเท่านั้น
และไม่ได้ตั้งใจจะอวดภูมิความรู้ เพื่อข่มคุณเรื่องตรรกศาสตร์ เพราะสิ่งที่ดิฉันคิดและพิมพ์ไปในประเด็นนี้ มันอยู่ในหลักสูตร ม. ปลาย
ดิฉันนำมาใช้เพื่อตีความ ความหมายที่คุณต้องการจะสื่อ
มาถึงตอนนี้กลับบอกว่า ไม่ต้องการข่มผมเรื่องตรรกศาสตร์ ถ้าคุณเรียนถึงม.ปลาย แสดงว่าคุณต้องเรียนถีง มหาวิทยาลัย
และผมเดาว่า คงจบแล้ว และทำงานแล้ว เพราะลักษณะการใช้คำพูดของคุณเป็นลักษณะเหมือนคนที่มีตำแหน่งสั่งงานลูกน้อง
คือต้องตามที่เดี๊ยนพูด ผิดจากนี้ไม่ได้ อีกพวกคือ พวกเด็กที่พ่อแม่เอาใจตั้งแต่เล็กจนติดเป็นนิสัย ใครขัดใจไม่ได้ ใครห้ามก็ไม่ฟัง
ถ้ามี(amplepoor) ยุส่ง พวกนี้กู่กลับยาก
พวกนี้จึงติดนิสัยไม่ยอมใครแม้แต่father (finder)ก็ตาม ก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา โต้ทุกดอกที่ทำได้
พอไปต่อไม่เป็นก็งัดเอาความรู้ขั้นเทพมาใช้ นั่นคือ
ความรู้ระดับ ม.ปลาย
แต่กลับใช้ผิด
โชคของผมยังดีที่ได้ร่ำเรียนมาบ้าง ถึงได้รู้ ไม่งั้นคุณเธอคงสับผมเละ
แล้วชื่อเสียงที่สร้างมายาวนานของผมเกือบต้องมาดับวูบเพราะความรู้ระดับม.ปลายนี่แหละ
ส่วนที่คุณคิดว่าดิฉัน "อคติ" ต่อคุณ เมื่อดิฉันสืบทราบว่าคุณเป็นใคร
ในตอนแรก ดิฉันไม่ทราบว่าคุณคือใคร แต่ได้อ่านข้อความที่คุณเมนท์ในกระทู้อื่นในห้วงเวลานั้น ความเห็นของคุณเป็นแบบเดียวกับที่มีอยู่ในเว็บ ป.... ดิฉันจึงตั้งข้อสังเกตว่า คุณน่าจะเป็นสมาชิกใหม่ แต่คร่ำหวอดในวงการ และเป็น พธม.
ล็อกอินfinder ดิฉันยังไม่รู้จัก แม้กระทั่งหลายวันต่อมา คุณโทนีบอกใบ้ ดิฉันยังบอกว่า จะยังไม่ถามคุณโทนี ขอไปค้นหาเองก่อน
พอค้นจึงพบว่ามีหลายล็อกอินมากที่ขึ้นด้วย f และลงท้ายด้วย r ดิฉันก็ยังไม่ได้ไปถามคุณโทนีต่อว่า เป็นล็อกอินไหน
จนกระทั่งคุณผึ้งน้อยและคุณ eAT เฉลย จึงได้ทราบตอนนั้น
คุณจะมากล่าวหาว่าดิฉันอคติด้วยประวัติของคุณได้อย่างไร ในเมื่อดิฉันไม่ได้เอาการเมนท์ของคุณในล็อกอินฟายเด้อ มาพิจารณาร่วมด้วยเลย
ไปเกี่ยวอะไรกับชื่อfinder อย่าเบี่ยงประเด็น ตอนแรกคุณเห็นชื่อ father คุณยังมีความเห็นเป็นกลางๆ แต่พอคุณไปไล่ดูประวัติfatherแล้ว
คุณบอกว่า ไม่น่าใช่แดง น่าจะเป็นพธม. แต่มาถากถางบอร์ด คุณจึงเริ่มแรงขึ้นทันที รักบอร์ดยิ่งกว่าเจ้าของบอร์ดเสียอีก ใครแตะไม่ได้
5 อาจทำ แต่ทำน้อย
คุณแน่ใจว่า การ"ทำน้อย" มันเป็นการเข้าใกล้ศูนย์ได้เพียงประการเดียวหรือ????
เต็ม 10 ทำ 1 2 3 4 หรือแม้กระทั่ง 4 กว่าๆ แบบ 4.999... ก็ยังจัดว่าน้อย เพราะไม่เกินครึ่ง
ถ้าคุณอยากให้มันคือการเข้าใกล้ศูนย์ คุณน่าจะพิมพ์ว่า
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อยมากๆๆๆๆๆๆๆ
ผมคิดว่าคุณมีปัญหาในการอ่านและตีความหมายนะครับ
การทำน้อยจนหาหลักฐานไม่ได้ มีความหมายว่า น้อยมากๆอยู่แล้วครับ
มิเช่นนั้นก็ คุณแกล้งโง่แล้วครับ คนที่เรียนม.ปลายตีความเรื่องนี้ไม่ออก
ได้อย่างไร จริงไหมครับ
กลับไปเรียนประถมอีกทีดีไหม เผื่อจะดีขึ้นกว่านี้
นี่ก็เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของเรื่องนี้อีกจุดหนึ่ง ไม่พูดไม่ได้ จึงต้องตัวใหญ่หน่อย กลัวคุณไม่เห็น
6 เพราะฉะนั้น จากข้อ 5 ประโยค อาจทำ แต่ทำน้อย จึงนำมาใช้ในการวิเคราะห์ T F
ก็ผมบอกไว้แล้วว่าคุณวิเคราะห์ผิดอย่างไร แต่คุณกลับลบออก แล้วมาพูดสั้นๆแค่เนี๊ยะ
กลับไปตอบข้างบนเลย ผมแปะให้ใหม่แล้ว เรียนม.ปลายต้องแก้โจทย์ยากๆบ่อยๆ ถึงจะเข้ามหาลัยได้ เชื่อผมสิ
7 4.999 ไม่รู้จบ เท่ากับ 5 ได้ ต้องผ่านกระบวนการแปรรูปก่อนนะคะ อย่าลืม
ด้วยตัวของมันเอง อยู่เฉยๆ 4.999 ไม่รู้จบ ยังไงก็ไม่เท่ากับ 5 หรอกค่ะ
โอ้ไห เก่งขนาดนี้ทำไมแทนค่าผิดได้ครับ ตรรกศาสตร์ที่คุณยกมา แค่แทนค่าในสูตรก็ได้คำตอบ
แต่ที่ผมทำให้ดู เป็นหลักการที่ใครๆก็ใช้คำนวณกัน หรือว่าคุณมีแปลกกว่านี้ครับ เอามาเปิดหูเปิดตาหน่อย
ถ้าไม่มีอย่าข้างๆคูๆ
8 ดิฉันสังเกตเห็นว่าคุณใช้คำว่า "สู้" หลายครั้งหลายหน ผิด
ผิด ผมใช้แค่ประโยคปิดท้ายเท่านั้น หรือถ้ามีอีกก็น้อยมาก
ดิฉันสู้คุณไม่ได้หรอกค่ะ
ดิฉันขอยอมแพ้นะคะ
ไม่ขอถกเถียงกับคุณอีกแล้ว
เพราะจากประวัติการโต้ตอบในบอร์ดเก่าซึ่งคุณนำมาอ้างอิง บวกกับที่คุณเอ่ยถึงดิฉันในการตอบโต้กับสมาชิกท่านอื่น คราวนี้ดิฉันก็พอทราบแล้วว่า คุณเป็นคนเช่นไร
จึงขอยุติ เพียงเท่านี้
อ้าว,ไหงยอมกันดื้อๆล่ะครับ ตอนคุณตั้งกระทู้นี้ รู้สึกคุณฮึกเหิม ต้องการให้ผมขอขมา วัตถุประสงค์ยังไม่บรรลุนะครับ
และที่สำคัญ
ในเมื่อคุณอยากสมอ้างรับไว้เอง
ผมไม่ได้ทำให้คุณเข้าใจผิดนะครับ
แต่คุณอ่านแล้วคุณเข้าใจผิดเอง
คุณทำผิดซ้ำซาก
ครั้งแรก คือกล่าวหาว่า ผมว่าคุณเป็นขี้ข้า
ครั้งที่2 คือหลังจากผมบอกแล้วว่าไม่ได้ว่าคุณเลย คุณกลับยกเหตุผลเรื่องปลายเปิด-ปลายปิดมาอ้าง
ครั้งที่3 คือหลังจากคุณ "เมาอยู่" อาสาเป็นคนกลาง แจกแจงแล้วว่า ผมพูดถูก
แต่คุณกลับมายกเอาประโยคน้อยๆที่ผมกล่าวไว้มาเป็นข้ออ้างว่า ผมว่าคุณจริงแล้ว คุณเข้าใจไม่ผิด
อีกเรื่องหนึ่งคือ
การอ้างว่า เป็นบอร์ดสาธารณะใครก็เข้ากระทู้นี้ได้ ผมก็อยากจะแย้งว่า คุณตั้งกระทู้ท้าผม
ผมทราบอยู่แล้วว่ากองเชียร์คุณต้องเข้ามาช่วยคุณ แต่ส่วนใหญ่มักจะเข้ามาด่าผมมากกว่า
ซึ่งผมทราบอยู่แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ ผมอุตส่าห์บอกเงื่อนไขไว้แล้วนะครับ
ถ้าคุณห้ามปรามพวกเขา ผมถือว่าคุณไม่เห็นด้วยกับคำด่าเหล่านี้ แต่
นอกจากคุณไม่ห้าม คุณกลับเอาคำตอบโต้ระหว่างผมกับพวกเขามาแสดง
เพื่ออยากให้คนอื่นๆเข้ามาเห็นว่า
ผมรังแกผู้หญิง
อย่าลืมนะครับว่า
1,คุณเป็นผู้ท้าผมให้มาที่นี่ ไม่ใช่ผมท้าคุณ
2.การตอบโต้ใช้ข้อความเท่านั้น ไม่ได้ใช้กำลัง คุณจึงไม่เสียเปรียบเรื่องเพศ หรือ สรีระ ใช้แค่สมองและมือเพื่อพิมพ์
3.อยู่ในบอร์ดสรท. ซึ่งสมาชิกเกือบทั้งหมดอยู่ฝ่ายคุณ ตนพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่อ่านข้อความของผมด้วยซ้ำ เพราะขนาดผมตอบไว้แล้ว
ยังกลับว่าผมว่า ไม่กล้ามาตอบ คุณดูเองก็ไว่าจริงไหม หรือถ้าอ่านแล้วก็มาแซว มาด่า แบบพวกไร้สมอง
ดังนั้นหลังสรุปได้ว่า
คุณผิดในเรื่องนี้
คุณต้องตั้งกระทู้ขอโทษผมแทนพวกเขาด้วย
อย่าหนี
#171
Posted 14 November 2012 - 13:37
#172
Posted 14 November 2012 - 13:40
ใน สมัยพุทธกาล ที่วัดพระเชตวันมหาวิหาร มีภิกษุรูปหนึ่ง มีอุปนิสัยใจคอดุร้ายหยาบคาย พระภิกษุสามเณรที่วัดพระเชตวันต่างรู้จักอัธยาศัยของภิกษุรูปนี้เป็นอย่างดี ส่วนวัดที่อยู่ชนบทอีกแห่งหนึ่งก็มีภิกษุที่มีอุปนิสัยใจคอดุร้ายหยาบคายอีก รูปหนึ่งเช่นกัน วันหนึ่งภิกษุชนบทรูปนี้ เดินทางมาที่วัดพระเชตวันมหาวิหาร พวกภิกษุสามเณรที่วัดพระเชตวันได้ล่วงรู้อัธยาศัยของท่าน จึงไม่อยากให้พักอาศัยอยู่ด้วย แต่ได้นิมนต์ให้ท่านไปพักอยู่กับภิกษุผู้มีอารมณ์ร้ายเหมือนกัน
เหล่า ภิกษุสามเณรเมื่อส่งท่านไปแล้ว ต่างหวั่นใจกลัวว่าภิกษุทั้งสองรูปนี้จะทะเลาะโต้เถียงกันลั่นวัด แต่เหตุการณ์กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาดคิด เพราะเมื่อภิกษุทั้ง ๒ รูป เห็นหน้ากันเท่านั้น กลับมีความสนิทสนมคุ้นเคย มีความรักความสมัครสมานสามัคคีกัน พูดคุยกันอย่างถูกคอ ทั้งยังผลัดกันนวดให้กันและกันอีกด้วย ครั้นเหล่าภิกษุรู้เรื่อง จึงสงสัยและพูดคุยสนทนาไปต่างๆ นานา
วัน หนึ่ง เหล่าภิกษุได้พูดคุยสนทนากันที่โรงธรรมสภาว่า “ภิกษุทั้งสองรูปนี้ มีใจคอดุร้าย หยาบคายเฉพาะกับบุคคลอื่น แต่ทำไมเมื่อทั้งสองรูปนี้อยู่กุฏิเดียวกัน กลับไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันเลย ทั้งยังมีความรักสนิทสนมกันดีมาก” ขณะที่เหล่าภิกษุกำลังสนทนากัน พระบรมศาสดาได้เสด็จมาและตรัสถามว่า “ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอกำลังสนทนาพูดคุยเรื่องอะไรกันอยู่” เหล่าภิกษุได้กราบทูลให้ทรงทราบ พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “ไม่ใช่เฉพาะในชาตินี้เท่านั้น ที่ภิกษุทั้งสองรูปนี้ มีอุปนิสัยดุร้ายหยาบคาย แต่พอเห็นหน้ากันแล้วกลับมีความรัก มีความสามัคคี มีความสนิทสนมกัน แม้ในชาติก่อนเธอทั้งสองก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน” เมื่อได้ฟังพระดำรัสดังนั้น เหล่าภิกษุอยากจะรู้เรื่องราวในอดีต จึงกราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์ตรัสเล่าให้ฟัง พระบรมศาสดาจึงทรงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่าว่า
ใน อดีตกาล ครั้งที่พระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในเมืองพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เป็นอำมาตย์ สำเร็จราชการทุกอย่างแทนพระราชา ทั้งยังเป็นผู้ถวายอรรถและธรรมให้กับพระราชาอีกด้วย ส่วนพระราชามีอุปนิสัยละโมบในพระราชทรัพย์ และทรงมีม้าอยู่ตัวหนึ่งชื่อมหาโสณะ
วัน หนึ่ง พวกพ่อค้าม้าชาวเมืองอุตตราบถ นำม้า ๕๐๐ ตัว มาขายที่เมืองพาราณสี พวกอำมาตย์จึงเข้าไปกราบทูลให้พระองค์ทรงทราบ ช่วงแรก พระโพธิสัตว์เป็นคนตีราคาม้า จึงตีราคาตามรูปร่างของม้า และตามความเหมาะสม แล้วจ่ายทรัพย์ให้กับพวกพ่อค้าม้าด้วยตนเอง แต่ช่วงหลัง พระราชาเห็นพระโพธิสัตว์ไม่ต่อรองลดราคาม้าลง จึงเกิดความเสียดายพระราชทรัพย์ จึงตรัสเรียกอำมาตย์คนอื่นมาเข้าเฝ้าแล้วตรัสบอกว่า “ท่านจงไปทำหน้าที่ตีราคาม้า ก่อนจะตีราคาม้า ให้ปล่อยม้ามหาโสณะเข้าไปกัดม้าทั้งหลายให้เป็นแผลเสียก่อน เพื่อจะได้กดราคาม้าลงมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้”
เมื่อ อำมาตย์ได้รับพระบัญชาแล้ว ก็ทำตามพระประสงค์ทันที ฝ่ายพ่อค้าเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ที่เห็นอำมาตย์คนใหม่ปล่อยม้ามากัดม้าของพวกตน แล้วกดราคาม้าลง จึงนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าไปหาอำมาตย์พระโพธิสัตว์ ซึ่งมีความคุ้นเคยกันเมื่อตอนมาขายม้าใหม่ๆ พระโพธิสัตว์ได้ถามว่า “ที่เมืองของพวกท่าน มีม้าอย่างม้ามหาโสณะไหม พวกพ่อค้าตอบว่า มีอยู่ตัวหนึ่งชื่อสุหนุ ม้าตัวนี้หยาบคายมาก” พระโพธิสัตว์จึงบอกว่า “คราวหน้า เมื่อพวกท่านนำม้ามาขายอีก ให้นำม้าตัวนี้เดินทางมาด้วย” พวกพ่อค้าม้าก็รับคำ
เมื่อ พวกพ่อค้าชาวเมืองอุตตราบถเดินทางเอาม้ามาขายอีก ก็ได้นำม้าสุหนุติดมาด้วย พระราชาทรงรู้ว่า พวกพ่อค้าชาวเมืองอุตตราบถนำม้ามาขายอีก จึงรับสั่งให้เปิดสีหบัญชร เพื่อทอดพระเนตรดูม้าทั้งหลาย แล้วมีพระบัญชาให้ปล่อยม้ามหาโสณะออกไปทำงานทันที พวกพ่อค้าเห็นม้ามหาโสณะเข้ามากัดม้าของพวกตน จึงรีบปล่อยม้าสุหนุออกไปทันที พอม้าทั้งสองประจัญหน้ากัน ก็กลับเลียตัวให้กันและกัน ไม่ทำร้ายกัน มีท่าทีสนิทสนมกันมาก เหตุการณ์จึงไม่เป็นอย่างที่ตั้งพระทัยไว้
พระ ราชาทอดพระเนตรเห็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที ได้ตรัสถามพระโพธิสัตว์ว่า “ม้าสองตัวนี้ ทำไมไม่กัดกัน แต่จะดุร้ายหยาบคายกัดเฉพาะม้าตัวอื่น มิหนำซ้ำ ม้าสองตัวนี้เห็นกันแล้ว กลับเลียตัวให้กันและกัน มีท่าทีสนิทสนม เหมือนเคยได้อยู่ร่วมกันมานาน เป็นเพราะเหตุใดหนอ”
พระ โพธิสัตว์กราบทูลให้ทรงทราบว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ม้าสองตัวนี้มันมีปกติเสมอกัน มีธาตุเสมอกัน” แล้วกราบทูลอธิบายว่า “ม้าทั้งสองตัวนี้ มีความรักสนิทสนมกัน เพราะมีอุปนิสัยดุร้ายหยาบคายเหมือนกัน และยังเสมอกัน ทั้งชอบวิ่ง ชอบคะนอง และชอบกัดเชือกที่ล่ามอยู่เป็นประจำ ความที่มีอัธยาศัยเสมอกัน จึงไม่กัดไม่ทำร้ายกัน” เมื่อพระโพธิสัตว์กราบทูลจบ ก็ถวายโอวาทให้กับพระราชาอีกว่า “ข้าแต่มหาราช ธรรมดาพระราชาพึงอย่ามีความโลภจนเกินงาม อย่ารังแกผู้น้อย ทำสมบัติของคนอื่นให้เสียหาย ขอให้พระองค์ตีราคาม้า และจ่ายทรัพย์ให้กับพวกพ่อค้าม้าไปตามความเหมาะสมเถิด พระเจ้าข้า” เมื่อพวกพ่อค้าม้าได้ราคาตามเป็นจริง ต่างพากันร่าเริงยินดีกันถ้วนหน้า แล้วพากันกลับเมืองไป
เรา จะเห็นได้ว่า คนเราจะอยู่ร่วมกันหรือคบหาสมาคมกันด้วยธาตุในตัว คือ มีอุปนิสัยใจคอตรงกัน มีศีลและทิฐิเสมอกัน มีความประพฤติที่เหมือนๆ กัน จึงสามารถไปด้วยกันได้ คนดีคบหากับคนดี คนพาลก็คบกับคนพาล บัณฑิตนักปราชญ์คบหาสมาคมกับบัณฑิตนักปราชญ์ เพราะเหตุนั้น สังคมจึงแยกกันด้วยความประพฤติที่แตกต่างกันโดยธาตุ เพราะสัตว์ทั้งหลายคบกันโดยธาตุ ดังนั้น เราควรจะมีธาตุที่บริสุทธิ์ คบหาแต่ผู้บริสุทธิ์ มีศีลมีธรรม เพื่อชีวิตของเราจะได้เจริญรุ่งเรืองสูงส่งยิ่งๆ ขึ้นไป
สัตว์ทั้งหลายคบกันโดยธาตุ
#173
Posted 14 November 2012 - 13:44
ในกลุ่มหนึ่งซึ่งกำลังสนทนากันอยู่ 4 คน เป็นชาย 3 คน เป็นหญิง 1 คน
ชายคนที่หนึ่ง แจ้งข่าว
ชายคนที่สอง แสดงอาการดีใจ
ชายคนที่สาม เพิ่มเติมรายละเอียดข่าว
หญิงคนเดียวในกลุ่ม เสนอข้อเสนอแนะ
ผู้หญิงเพิ่งกล่าวคำสนทนาจบ ก็มีนายเกรียนเดินตรงเข้ามาพูดกับผู้หญิงตั้งคำถามด้วยวาจาเยาะเย้ย
ผู้ชายคนที่สองไม่พอใจ ตอบกลับพร้อมด่า นายเกรียนว่า คนที่เขาพูดด้วยเป็นขี้ข้าเพื่อทุย
นายเกรียนไม่พอใจ ด่าใส่หน้าชายคนที่สองว่า คนที่เขาพูดด้วยเป็นขี้ข้ารายวันพวกแมงสาป
ในช่วงเวลานั้น คนที่นายเกรียนพูดด้วย มีอยู่ 2 คน
“คนที่เขาพูดด้วย” มันคนไหน หรือทั้งสองคน
ถ้าตีความได้ว่า คนที่เขาพูดด้วย เป็นผู้ชายคนที่สอง เพราะกำลังหันหน้าไปยังชายคนที่สอง
แล้วผู้หญิง ไม่ใช่ “ คนที่เขาพูดด้วย” หรอกหรือ?????
ถ้าอยากด่าใส่หน้าชายคนที่สอง ก็ควรใช้คำเจาะจงไปเลยว่า
“คนที่เขากำลังพูดด้วย”
เพื่อให้เกิดความชัดเจน เฉพาะเจาะจง คำขยายความในภาษาไทยมีมากมายไม่รู้จักใช้ สักแต่ลอกเอาแต่ข้อความของคนอื่นมาพูด
#174
Posted 14 November 2012 - 13:44
มีการ quote ข้อความ 2 ครั้ง
เจ้าของข้อความที่ผมโควทมา
ลอกเขามา ไม่ดูเลยว่าเจาะจงหรือไม่
พิมพ์ไปแบบกำกวม
ถ้าอยากเจาะจงด่าเจ้าของข้อความที่เป็นผู้ชาย-
- เจ้าของข้อความเสียดสีที่ผมโควทมา
- เจ้าของข้อความครั้งที่สองที่ผมโควทมา
- เจ้าของข้อความที่ผมโควทมานี้
ถ้ายืนยันว่าไม่ได้เจตนากล่าวหาเจ้าของข้อความคนแรก คนพิมพ์ก็มีปัญหาการสื่อสารภาษาไทยให้ชัดเจนแล้ว
#175
Posted 14 November 2012 - 13:46
“รู้ได้ไงครับว่าเขาเข้ามาอ่าน......”
พอมีคนตอบด้วยข้อมูลว่าสายล่อฟ้าเคยเอาข้อมูลที่นี่ไปใช้ แถมด่าให้
กลับอ่านไม่เจอข้อมูล เจอแค่คำด่า
“เขาเหยียดหยามผมครับ ไม่ใช่ตอบคำถาม”
อย่างนี้คนพิมพ์คำถามเยาะเย้ยมีปัญหาการอ่านและตีความภาษาไทยแล้ว
อ้อ! แล้วอย่าย้อนนะว่า คนอื่น ก็เอามาแต่คำตอบ คำด่าไม่พูดถึง เพราะคนอื่น พิมพ์ไปว่า
“มีสมาชิกท่านอื่นตอบคำถามนี้ของคุณ”
สาระสำคัญคือ เมื่อมีการถาม จึงมีการตอบ “คำถามนี้ของคุณ” ด้วยข้อมูล
ส่วนจะเพิ่มคำด่าในเนื้อความ ก็เป็นของแถม
#176
Posted 14 November 2012 - 13:48
ด้วยข้อความนี้ พอมีสมาชิก 1 ท่าน ตีความสอดคล้องกับตนเอง
จัดแจงพิมพ์บอกว่า
สมาชิกท่านนั้น “อาสาเป็นคนกลาง แจกแจงแล้วว่า ผมพูดถูก”
“หลังจากผมได้รับการตัดสินว่า เป็นฝ่ายถูก.....”
แล้วที่มีสมาชิกตีความตรงข้าม กลับเหมารวมว่าเขาไม่ได้อ่าน เข้ามารุมด่า.......
ประเด็นนี้ สมาชิกตีความแตกต่างกัน ยังตัดสินไม่ได้ ก็รีบเข้าข้างตัวเองว่าเป็นฝ่ายถูก
อย่างนี้คนที่บอกว่าได้รับการตัดสินแล้ว มีปัญหาการใช้วิจารณญาณแล้ว
#177
Posted 14 November 2012 - 13:49
ประเด็นนี้ เมื่อสมาชิกมีความเห็นไม่ตรงกัน นั่นยิ่งแสดงให้เห็นว่า วลีดังกล่าวมีความคลุมเครือ ไม่เจาะจง
ตีความได้สองอย่าง
อย่างนี้คนที่พิมพ์ข้อความข้างต้น มีปัญหาการสื่อสารภาษาไทยให้ชัดเจนแล้ว
#178
Posted 14 November 2012 - 13:50
ในหนึ่ง reply พิมพ์คำว่า “สู้” 3 ครั้ง
พอเขาบอกว่า ใช้คำว่า “สู้” หลายครั้งหลายหน
ยังบอกว่า ผิด ผมใช้แค่ประโยคปิดท้ายเท่านั้น หรือถ้ามีอีกก็น้อยมาก
พิมพ์ “สู้” ทั้งหมด 3 ครั้ง ใช้ในประโยคปิดท้าย 1 ครั้ง มีที่อื่นอีก 2 ครั้ง
มีที่อื่นอีก สองในสาม ยังบอกว่า น้อยมาก
อย่างนี้คนพิมพ์มีปัญหาการคำนวณแล้ว
แล้วถ้าจะแถว่า คนอื่นพิมพ์ 4.99... ยังจัดว่าน้อย
4.99… เทียบกับ 10 จัดว่าน้อย
2 เทียบกับ 3 จัดว่ามาก
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ likes this
#179
Posted 14 November 2012 - 13:53
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้
เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย
นี่คือประโยคที่พิมพ์ถามเอง- ตอบเอง ดั้งเดิม
พิจารณาประโยคคำถาม “ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้”
เป็นประโยคความซ้อน
- ทำไม- คำถาม
- คุณถึงคิด - ประโยคหลัก (คุณเป็นประธาน คิด เป็นกริยา ถึง เป็นคำช่วย)
- ว่า เป็น คำเชื่อม
- ผมหาหลักฐานไม่ได้ - ประโยคย่อย (ผมเป็นประธาน หา เป็นกริยา หลักฐานเป็นกรรม ไม่ได้เป็นปฏิเสธ)
พิจารณาประโยคคำตอบ
“เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย”
เป็นประโยคความรวม 2 ประโยคเท่าเทียมกัน
- เพราะ - ตอบคำถามที่ว่า “ทำไม”
- ประโยคที่ 1 คุณไม่ได้ทำ
- หรือ -คำเชื่อม
- ประโยคที่ 2 คุณอาจทำ แต่ทำน้อย
พิมพ์แก้ตัวภายหลังไปได้ว่า
เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อยจนหาหลักฐานไม่ได้
“จนหาหลักฐานไม่ได้” มาจากไหน
เอาข้อความจาก ประโยคย่อยของประโยคความซ้อน ซึ่งอยู่ในรูปคำถาม
มาใส่เติมลงในประโยคความรวม ซึ่งอยู่ในรูปคำตอบ
เอา ส่วนขยายภาคแสดงของ “ผม” มาใส่เป็นส่วนขยายภาคแสดงของ “คุณ”
อย่างนี้คนพิมพ์มีปัญหาการใช้ภาษาไทยแล้ว
#180
Posted 14 November 2012 - 13:55
เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย
เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อยจนหาหลักฐานไม่ได้
“น้อย” แตกต่างจาก “น้อยจนหาหลักฐานไม่ได้”
น้อย เทียบได้กับ a few
น้อยจนหาหลักฐานไม่ได้ เทียบได้กับ trace
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้
เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย
ทำน้อย แปลว่ามีการกระทำเป็นเรื่องเป็นราว มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ทำไม่มาก อาจแค่หนึ่งชิ้น หรือสองชิ้น ทว่า “ผม” ควานหาหลักฐานการกระทำนั้นในเว็บบอร์ดไม่เจอ
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้
เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อยจนหาหลักฐานไม่ได้
ทำน้อยจนหาหลักฐานไม่ได้ แปลว่า มีแต่เป็นเศษๆ ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน นำมาเป็นหลักฐานไม่ได้
แยกแยะ “น้อย” กับ “น้อยจนหาหลักฐานไม่ได้” ไม่ถูก
อย่างนี้คนพิมพ์มีปัญหาการใช้ภาษาไทยแล้ว
#181
Posted 14 November 2012 - 13:56
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้
เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย
คุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย- เป็นเหตุ
คุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ - เป็นผล
พิมพ์แก้ตัวไปได้ว่า
คุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อยจนหาหลักฐานไม่ได้
“จนหาหลักฐานไม่ได้” มาจากไหน
เอาข้อความในส่วนเหตุ มาใส่ในส่วนผล
เติมเอาเอง ดัดแปลงเอาเองเพื่อแก้ตัวในภายหลัง
อย่างนี้คนพิมพ์มีปัญหาการใช้เหตุผลแล้ว
#182
Posted 14 November 2012 - 13:57
พิมพ์แก้ตัวเพิ่มอีกว่า
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้
เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย, ใช่ไหม
Question tag “ใช่ไหม” เติมเอาเอง ดัดแปลงเอาเองเพื่อแก้ตัวในภายหลัง
อย่างนี้คนพิมพ์มีปัญหาการสื่อสารภาษาไทยแล้ว
#183
Posted 14 November 2012 - 13:58
พิจารณาคำว่า “อาจ”
อาจ แปลว่า คำช่วยที่บอกการคาดคะเน
คาด แปลว่า นึกไว้ หมายไว้ มักใช้เข้าคู่กับคำ คะเน หรือ หมาย เป็น คาดคะเน คาดหมาย
(พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542)
ดังนั้น ความหมายของการใช้ “อาจ” คือ
1 “ตรงตามรูปประโยค” ก็ได้
2 “ตรงข้ามรูปประโยค” ก็ได้
โดยที่ผู้พูดนึกไว้ หมายไว้ว่าน่าจะเป็นไปตามกรณีที่ 1
#184
Posted 14 November 2012 - 13:59
ถ้าสาวกแป๊ะลิ้มไม่บริจาค ASTV อาจจอดับ
กรณีที่ 1 ถ้าสาวกแป๊ะลิ้มไม่บริจาค ASTV จอดับ ........ก็ได้
กรณีที่ 2 ถ้าสาวกแป๊ะลิ้มไม่บริจาค ASTV จอไม่ดับ........ก็ได้
โดยที่ผู้พูดนึกไว้ หมายไว้ว่าน่าจะเป็นไปตามกรณีที่ 1 คือ
ถ้าสาวกแป๊ะลิ้มไม่บริจาค ASTV จอดับ
ตัวอย่างประโยค
เขาอาจมาสาย
กรณีที่ 1 เขามาสาย........ก็ได้
กรณีที่ 2 เขามาไม่สาย (ทันเวลา)........ก็ได้
โดยที่ผู้พูดนึกไว้ หมายไว้ว่าน่าจะเป็นไปตามกรณีที่ 1 คือ
เขามาสาย
#185
Posted 14 November 2012 - 14:00
การใช้ “อาจ” ในประโยคความรวม
ตัวอย่างประโยค
เนื่องจากรถติด เขาจึงมาไม่ได้ หรืออาจมา แต่มาสาย
โดยที่ผู้พูดนึกไว้ หมายไว้ว่าน่าจะเป็นไปตามกรณีที่ 1 นั่นคือ
กรณีที่ 1 เนื่องจากรถติด เขาจึงมาไม่ได้ หรือมา แต่มาสาย
หันมาดูกรณีที่ 2
กรณีที่ 2 เนื่องจากรถติด เขาจึงมาไม่ได้ หรือไม่มา (แต่มาสาย เป็นส่วนขยายของกริยา “มา” กรณีนี้จึงตัดออก)
กรณีที่ 2 นี้ขาดความสมเหตุสมผล จึงใช้ไม่ได้
ประโยคความรวมนี้ จึงเป็นได้ตามกรณีที่ 1 เท่านั้น
#186
Posted 14 November 2012 - 14:01
นายยกตนข่มท่านคิดว่ากระทู้ที่ สรท ห่วย เพราะไม่ถูกจริต หรืออาจถูกจริตแต่ถูกน้อย
โดยที่ผู้พูดนึกไว้ หมายไว้ว่าน่าจะเป็นไปตามกรณีที่ 1 นั่นคือ
กรณีที่ นายยกตนข่มท่านคิดว่ากระทู้ที่ สรท ห่วย เพราะไม่ถูกจริต หรือถูกจริต แต่ถูกน้อย
หันมาดูกรณีที่ 2
กรณีที่ นายยกตนข่มท่านคิดว่ากระทู้ที่ สรท ห่วย เพราะไม่ถูกจริต หรือไม่ถูกจริต
กรณีที่ 2 นี้ขาดความสมเหตุสมผล จึงใช้ไม่ได้
ประโยคความรวมนี้ จึงเป็นได้ตามกรณีที่ 1 เท่านั้น
#187
Posted 14 November 2012 - 14:01
โดยที่ผู้พูดนึกไว้ หมายไว้ว่าน่าจะเป็นไปตามกรณีที่ 1 นั่นคือ
กรณีที่ 1 เพราะคุณไม่ได้ทำ หรือทำ แต่ทำน้อย
หันมาดูกรณีที่ 2
กรณีที่ 2 เพราะคุณไม่ได้ทำ หรือไม่ทำ
กรณีที่ 2 นี้ขาดความสมเหตุสมผล จึงใช้ไม่ได้
ประโยคความรวมนี้ จึงเป็นได้ตามกรณีที่ 1 เท่านั้น
#188
Posted 14 November 2012 - 14:02
จึงมีความหมายเท่ากับ กรณีที่ 1 เพราะคุณไม่ได้ทำ หรือ ทำ แต่ทำน้อย
ในประโยคความรวมที่มีการให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
เมื่อใช้ คำว่า “อาจ” อย่างฟุมเฟือย
ทำให้ประโยคไม่เป็นเหตุเป็นผล
อย่างนี้คนพิมพ์มีปัญหาการใช้ภาษาไทยแล้ว
#189
Posted 14 November 2012 - 14:03
แปลว่า ประโยคความรวม “เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย”
ผู้พูดจึงนึกไว้ หมายไว้ว่าเป็นดัง กรณีที่ 1 คือ เพราะคุณไม่ได้ทำ หรือ ทำ แต่ทำน้อย
เป็นการยืนยันเจตนาของการกล่าวหา
ถ้ายังแก้ตัวว่าไม่ได้เจตนา
อย่างนี้คนพิมพ์มีปัญหาการใช้ภาษาไทยแล้ว
#190
Posted 14 November 2012 - 14:05
เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย
ตัดคำฟุ่มเฟือย “อาจ” ทิ้งไปได้
เพราะมีความหมายเช่นเดียวกับ เพราะคุณไม่ได้ทำ หรือทำ แต่ทำน้อย
ดังนั้นนำมาวิเคราะห์ตรรกศาสตร์ได้
ซึ่งผลการวิเคราะห์แสดงว่า ผู้พิมพ์ข้อความมีเจตนาจะกล่าวหา
ถ้ายังแก้ตัวว่าไม่ได้เจตนา
อย่างนี้คนพิมพ์มีปัญหาการใช้ภาษาไทยแล้ว
#191
Posted 14 November 2012 - 14:05
ใครพิมพ์ข้อความนี้ไว้ จำไว้ให้ดี
#192
Posted 14 November 2012 - 14:06
ซึ่งการคุกคามทางเพศนั้น ไม่เกี่ยวกับเพศของผู้กระทำหรือถูกกระทำ
http://www.mohanamai...7-6/P.31-34.pdf
ใช้กริยา วาจา ข้อความ คำพูด ที่ส่อนัยทางเพศ ถือเป็นการคุกคามทางเพศทั้งนั้น
http://www.do.se/th/1/1/2/
การล้อเล่นแบบลามก ถือเป็นการคุกคามทางเพศ
ใครที่พิมพ์ข้อความล้อเล่นแบบลามก
รู้ตัวหรือยัง
ถ้ายังไม่รู้ตัว อย่างนี้มีปัญหาด้านจริยธรรมแล้ว
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ likes this
#193
Posted 14 November 2012 - 14:07
กล่าวหากันอีกแล้ว ของเก่ายังไม่จบ ของใหม่เพิ่มมาอีกแล้ว
และที่พิมพ์ข้อความเช่นนี้ มีหลักฐานอะไรยืนยัน ใช้แนวคิด ทฤษฎี การทดลองทางจิตวิทยาใดสนับสนุน
ถ้าพิมพ์อย่างนี้ มีปัญหาการจินตนาการแล้ว
#194
Posted 14 November 2012 - 14:08
แต่ไม่เคย อธิบายในแต่ละกระทู้ว่า ห่วยอย่างไร
มิหนำซ้ำยังเข้ามาร่วมสนทนาในบางกระทู้อีกด้วย
อย่างนี้มีปัญหาด้านพฤติกรรมแล้ว
#195
Posted 14 November 2012 - 14:13
เรียนมอดที่เคารพ
จากกฎการใช้บอร์ด ห้ามสมาชิกมีการใช้ล็อกอินซ้อนกัน
ปรากฏว่า คุณ finder ได้ใช้ล็อกอิน father ด้วย ดัง quote นี้
ตอบคุณฝาท่อฟายเด้อ
เบื่อเหมือนกันนะคะที่ต้องมาพิมพ์ย้ำซ้ำๆ
ทั้งหมดที่คุณพยายามอ้างอยู่เสมอว่า ผมโควทข้อความของคุณ ผมก็อ้างเหตุผลต่างๆและหลักฐานเพื่อแสดงว่า
ผมไม่ได้ทำเช่นคุณว่า
คุณพยายามอ้างวิธีคิดของคุณว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อ้างว่า ทำไมไม่ตัดนั่นตัดนี่ออกเพื่อคุณจะได้ไม่นำคุณเข้ามาเกี่ยวข้อง
คุณครับ ทำไมผมต้องทำอย่างที่คุณต้องการครับ ในเมื่อผมเล่นบอร์ดการเมืองมาหลายปี ผมไม่เคยเจอคนอย่างคุณเลยครับ
และก็ไม่เคยเห็นใครคนใดในบอร์ดนี้หรือบอร์ดใดๆที่ผมเล่นมาเขาเอากรณีลักษณะนี้มาใช้อย่างคุณด้วย
คุณพิจารณาตัวคุณเองนะครับว่า วิธีคิดของคุณผิดปกติหรือเปล่า
ในเมื่อผมบอกแล้วว่า ไม่เกี่ยวกับคุณ
แต่คุณกลับบอกว่า ไม่ได้ ถ้ามารูปนี้ เดี๊ยนถือว่าต้องเกี่ยวกับเดี๊ยน และยังกล่าวว่า
เพียงแค่ถ้าฝาท่อ ไม่มีเจตนากล่าวหาดิฉัน
ตั้งแต่แรกเขาน่าจะโพสต์แค่ 3 บรรทัดว่า
ผมไม่มีเจตนาจะกล่าวหาคุณอัศวินีว่าเป็นขี้ข้า
ผมต้องการตอบโต้แค่คุณแอมเพิลพัวร์ที่เหยียดหยามผม
ถ้าการโค้ทข้อความของผม ทำให้มีการเข้าใจผิด ผมก็ขออภัย
คำพูดของคุณทั้งหมดที่ผ่านมาสรุปได้ว่า เดี๊ยนจะเอาเหตุผลอย่างไรมาอ้างก็ได้ ก็เดี๊ยนคิดได้อย่างนี้และต้องการอย่างนี้
เดี๊ยนไม่สนว่าคู่กรณีเขาจะอ้างอย่างไร เดี๊ยนมองไม่เห็นว่าเหตุผลของเขาจะสามารถมาลบความคิดของเดี๊ยนได้ไง
เพราะเหตุผลของเดี๊ยนขั้นเทพ
ต้องเอาตามเหตุผลของเดี๊ยนเท่านั้น
และเมื่อเดี๊ยนบอกว่า เขาผิด ก็คือ ผิด เพราะเดี๊ยนตัดสินได้เอง
ผลต่อมาก็คือครั้งที่3 คือหลังจากคุณ "เมาอยู่" อาสาเป็นคนกลาง แจกแจงแล้วว่า
ผมพูดถูก
แต่คุณกลับมายกเอาประโยคน้อยๆที่ผมกล่าวไว้มาเป็นข้ออ้างว่า ผมว่าคุณจริงแล้ว คุณเข้าใจไม่ผิด
ดิฉันรับฟังความคิดของคนอื่น โดยไม่มุทะลุดึงดัน มุ่งแต่จะเอาชนะใคร
เมื่อคุณเมาอยู่ซึ่งเป็นบุคคลที่สามออกความเห็นไปในทางสอดคล้องกับคุณ ดิฉันก็รับฟัง
และเพื่อไม่ให้เปลืองเนื้อที่บอร์ดไปกับเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทำให้กระทู้ดีๆต้องตกลงไป จึงอยากให้เรื่องจบลง
ถ้าคุณคิดอย่างนี้จริงๆ คุณตั้งกระทู้นี้ทำไม
คุณบอกว่า จะปกป้องสิทธิ์และศักดิ์ศรีของตนเอง และต้องการให้ผม ขอขมาไม่ใช่หรือ
และมีคนเข้ามาเชียร์คุณเยอะมาก การเดินกระทู้นี้ต่อไป จึงชอบธรรม เพราะมีผู้สนับสนุน
คนเราต้องรักศักดิ์ศรีของตนเอง
ไม่ใช่ไปห่วงกระทู้ห่วยๆที่อวยกันเองครับ
หรือคุณคิดว่ากระทู้เหล่านั้นห่วย แต่กระทู้คุณห่วยกว่าครับ
แต่อย่างที่บอก พอเจอความเห็นของคุณที่ว่าเพราะเมื่อคุณถามหาหลักฐาน แสดงว่า คุณมั่นใจแน่ว่าผมหาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ท้าผม
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
ทำไมคุณไม่พิมพ์อย่างนี้ล่ะคะ
เพราะเมื่อคุณถามหาหลักฐาน แสดงว่า คุณมั่นใจแน่ว่าผมหาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ท้าผม
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
การที่คุณไม่ตัดวลีนั้นทิ้ง แสดงจิตเจตนาของคุณออกมานะคะ
มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องทำอย่างที่คุณต้องการครับ ผมก็บอกแล้วว่า
1.โชคดีที่ผมได้ร่ำเรียนมาบ้าง หลังจากดูสูตรของคุณแล้วปรากฎว่า สูตรถูก
แต่การแทนค่าในสูตร ผิด เพราะ ประโยคนี้เป็นประโยคคำถาม ที่ต้องการคำตอบ เชิญดู
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
เพราะขึ้นด้วยคำว่า " ทำไม +คุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้"
ต่อจากนั้น ผมก็เดาความคิดของคุณว่า ทำไมคุณถึงคิดเช่นนั้น " เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย "
ซึ่งถ้าผมพิมพ์คำว่า "ใช่ไหม" ต่อท้ายประโยค ความหมายก็สมบูรณ์ (เหมือนประโยคquestion tag) ก็จะเป็นว่า
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย, ใช่ไหม
ผมอ่านคุณออกตั้งแต่กระทู้ต้นเรื่องแล้ว
ตามด้วยประโยคสุดท้ายนี้ก็ช่วยเน้นว่า ผมไม่ได้ปรับแต่งความหมายใดๆ
การที่คุณเอาเพียงท่อนเดียวไปตีความจึงผิด
2.การแทนค่าด้วยประโยคที่ยังไม่รู้ตรรกที่ชัดเจน ไม่ควรจะใช้ได้
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อย
คำว่าอาจทำ แต่ทำน้อย
ยังไม่ชี้ชัดเลยว่าเป็น T หรือ F เพราะคำว่า อาจทำ มีความหมายว่า ยังไม่แน่
คุณเอาไปแทนค่าในสูตรได้อย่างไรครับ
ผมเห็นการเขียนโปรแกรม เขาก็ใช้คำเงื่อนไขของวิชา ตรกศาสตร์ไปใช้บังคับฮาร์ดแวร์
ให้ทำงานด้วยสัญญาณ 0 หรือ 1 (ปิด หรือเปิด) ถ้าเงื่อนไขของโปรแกรมไม่ชัดเจน มันรันไม่ได้ครับ
คุณยกเอาตรรกศาสตร์มาใช้แย้งผม ผมก็ตอบคุณด้วยตรรกศาสตร์
แต่ทำไมคุณตัดประเด็นนี้ทิ้ง ไม่เอามาพูดต่อ
มันเป็นประเด็นชี้เป็นชี้ตายเลยนะครับว่า ใครถูกใครผิด
ถ้าคุณไม่ยอมโต้แย้งประเด็นนี้
ผมจะถือว่าคุณยอมรับว่าคุณเป็นฝ่ายผิด
ผมจะส่งรีพลายนี้ไปให้คุณในกล่องด้วย
3 ในกระทู้สาธารณะ เมื่อมีคนออกความเห็น ดิฉันจะไปห้ามปรามได้อย่างไรว่า อย่าออกความเห็น
เช่นเดียวกับที่คุณออกความเห็น ดิฉันก็ไม่เคยห้าม
เพราะดิฉันไม่ใช่ผู้ดูแลกำกับบอร์ด
สมมตินะคะ สมมติว่า ดิฉันห้ามปรามคนที่เข้ามาว่าคุณ แล้วเกิดมีสมาชิกตอกกลับว่า "เขารู้ แต่อยากเกรียน มีไรมั๊ย" แล้วดิฉันควรทำอย่างไร
ดิฉันไม่สามารถล่วงรู้จิตเจตนาของใครได้ว่า เขาเข้ามาในกระทู้นี้ เพื่อเป้าหมายบวก ลบ ดี งาม มากน้อยเพียงใด
ประเด็นอยู่ตรนี้ครับ อย่าไขสือ
ถ้าคุณห้ามปรามพวกเขา ผมถือว่าคุณไม่เห็นด้วยกับคำด่าเหล่านี้ แต่
นอกจากคุณไม่ห้าม คุณกลับเอาคำตอบโต้ระหว่างผมกับพวกเขามาแสดง
เพื่ออยากให้คนอื่นๆเข้ามาเห็นว่า
ผมรังแกผู้หญิง
หน้าที่นี้จึงควรเป็นของคุณที่จะอธิบายให้เข้าใจนะคะ
โปรดสังเกตดีๆ มีสมาชิกเยาะหยันความเป็นเพศหญิงของดิฉัน ดิฉันก็ไม่ได้ห้ามและได้ตอบไปบนหลักการและเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง
ถ้าคุณรู้สึกว่าถูกรุม ทำไมไม่ตอบด้วยหลักการ เหตุผล อ้างอิงถึงreply ต่างๆที่คุณตอบไป ด้วยปิยวาจาล่ะคะ
คุณสามารถเลือกตอบกลับแบบสุภาพชน มีเหตุผล ให้คนที่คุณรู้สึกว่าหยาบคายใส่คุณ ได้หน้าหงายได้
แต่คุณก็ไม่ทำ
น่าหัวเราะยิ่งนัก
แค่ 1 คนที่แนะนำคุณ แต่คุณกลับไม่ฟัง สุดท้ายก็มากล่าวอำลาด้วยเหตุผลห่วยๆ
ถ้าเชื่อเขาตั้งแต่แรก คุณก็ไม่จำเป็นต้องขายหน้าขนาดนี้แล้วครับ
ส่วนพวกหมาหมู่ที่มารุมผม มันมาตัวเดียวไหมครับ
ถ้าคุณคิดว่าใช้ปิยะวาจาได้ กรุณาไปตอบแทนผมที ให้ครบทุกคนเลยนะครับ
ถ้าทำได้ค่อยมาแนะนำผม
อย่าดีแต่พูด เหมือนไอ้ตอแหลที่คุณเชียร์
4 ดิฉันไม่ใช่นักวิชาการใดๆ ไม่เคยเขียนหนังสือวิชาการ ไม่เคยมีตำแหน่งทางวิชาการ อย่าคาดเดาไปเองเลย
ดิฉันก็คนธรรมดา เรียนหนังสือมาบ้างเท่านั้น
และไม่ได้ตั้งใจจะอวดภูมิความรู้ เพื่อข่มคุณเรื่องตรรกศาสตร์ เพราะสิ่งที่ดิฉันคิดและพิมพ์ไปในประเด็นนี้ มันอยู่ในหลักสูตร ม. ปลาย
ดิฉันนำมาใช้เพื่อตีความ ความหมายที่คุณต้องการจะสื่อ
มาถึงตอนนี้กลับบอกว่า ไม่ต้องการข่มผมเรื่องตรรกศาสตร์ ถ้าคุณเรียนถึงม.ปลาย แสดงว่าคุณต้องเรียนถีง มหาวิทยาลัย
และผมเดาว่า คงจบแล้ว และทำงานแล้ว เพราะลักษณะการใช้คำพูดของคุณเป็นลักษณะเหมือนคนที่มีตำแหน่งสั่งงานลูกน้อง
คือต้องตามที่เดี๊ยนพูด ผิดจากนี้ไม่ได้ อีกพวกคือ พวกเด็กที่พ่อแม่เอาใจตั้งแต่เล็กจนติดเป็นนิสัย ใครขัดใจไม่ได้ ใครห้ามก็ไม่ฟัง
ถ้ามี(amplepoor) ยุส่ง พวกนี้กู่กลับยาก
พวกนี้จึงติดนิสัยไม่ยอมใครแม้แต่father (finder)ก็ตาม ก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา โต้ทุกดอกที่ทำได้
พอไปต่อไม่เป็นก็งัดเอาความรู้ขั้นเทพมาใช้ นั่นคือ
ความรู้ระดับ ม.ปลาย
แต่กลับใช้ผิด
โชคของผมยังดีที่ได้ร่ำเรียนมาบ้าง ถึงได้รู้ ไม่งั้นคุณเธอคงสับผมเละ
แล้วชื่อเสียงที่สร้างมายาวนานของผมเกือบต้องมาดับวูบเพราะความรู้ระดับม.ปลายนี่แหละ
ส่วนที่คุณคิดว่าดิฉัน "อคติ" ต่อคุณ เมื่อดิฉันสืบทราบว่าคุณเป็นใคร
ในตอนแรก ดิฉันไม่ทราบว่าคุณคือใคร แต่ได้อ่านข้อความที่คุณเมนท์ในกระทู้อื่นในห้วงเวลานั้น ความเห็นของคุณเป็นแบบเดียวกับที่มีอยู่ในเว็บ ป.... ดิฉันจึงตั้งข้อสังเกตว่า คุณน่าจะเป็นสมาชิกใหม่ แต่คร่ำหวอดในวงการ และเป็น พธม.
ล็อกอินfinder ดิฉันยังไม่รู้จัก แม้กระทั่งหลายวันต่อมา คุณโทนีบอกใบ้ ดิฉันยังบอกว่า จะยังไม่ถามคุณโทนี ขอไปค้นหาเองก่อน
พอค้นจึงพบว่ามีหลายล็อกอินมากที่ขึ้นด้วย f และลงท้ายด้วย r ดิฉันก็ยังไม่ได้ไปถามคุณโทนีต่อว่า เป็นล็อกอินไหน
จนกระทั่งคุณผึ้งน้อยและคุณ eAT เฉลย จึงได้ทราบตอนนั้น
คุณจะมากล่าวหาว่าดิฉันอคติด้วยประวัติของคุณได้อย่างไร ในเมื่อดิฉันไม่ได้เอาการเมนท์ของคุณในล็อกอินฟายเด้อ มาพิจารณาร่วมด้วยเลย
ไปเกี่ยวอะไรกับชื่อfinder อย่าเบี่ยงประเด็น ตอนแรกคุณเห็นชื่อ father คุณยังมีความเห็นเป็นกลางๆ แต่พอคุณไปไล่ดูประวัติfatherแล้ว
คุณบอกว่า ไม่น่าใช่แดง น่าจะเป็นพธม. แต่มาถากถางบอร์ด คุณจึงเริ่มแรงขึ้นทันที รักบอร์ดยิ่งกว่าเจ้าของบอร์ดเสียอีก ใครแตะไม่ได้
5 อาจทำ แต่ทำน้อย
คุณแน่ใจว่า การ"ทำน้อย" มันเป็นการเข้าใกล้ศูนย์ได้เพียงประการเดียวหรือ????
เต็ม 10 ทำ 1 2 3 4 หรือแม้กระทั่ง 4 กว่าๆ แบบ 4.999... ก็ยังจัดว่าน้อย เพราะไม่เกินครึ่ง
ถ้าคุณอยากให้มันคือการเข้าใกล้ศูนย์ คุณน่าจะพิมพ์ว่า
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำหรืออาจทำ แต่ทำน้อยมากๆๆๆๆๆๆๆ
ผมคิดว่าคุณมีปัญหาในการอ่านและตีความหมายนะครับ
การทำน้อยจนหาหลักฐานไม่ได้ มีความหมายว่า น้อยมากๆอยู่แล้วครับ
มิเช่นนั้นก็ คุณแกล้งโง่แล้วครับ คนที่เรียนม.ปลายตีความเรื่องนี้ไม่ออก
ได้อย่างไร จริงไหมครับ
กลับไปเรียนประถมอีกทีดีไหม เผื่อจะดีขึ้นกว่านี้
นี่ก็เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของเรื่องนี้อีกจุดหนึ่ง ไม่พูดไม่ได้ จึงต้องตัวใหญ่หน่อย กลัวคุณไม่เห็น
6 เพราะฉะนั้น จากข้อ 5 ประโยค อาจทำ แต่ทำน้อย จึงนำมาใช้ในการวิเคราะห์ T F
ก็ผมบอกไว้แล้วว่าคุณวิเคราะห์ผิดอย่างไร แต่คุณกลับลบออก แล้วมาพูดสั้นๆแค่เนี๊ยะ
กลับไปตอบข้างบนเลย ผมแปะให้ใหม่แล้ว เรียนม.ปลายต้องแก้โจทย์ยากๆบ่อยๆ ถึงจะเข้ามหาลัยได้ เชื่อผมสิ
7 4.999 ไม่รู้จบ เท่ากับ 5 ได้ ต้องผ่านกระบวนการแปรรูปก่อนนะคะ อย่าลืม
ด้วยตัวของมันเอง อยู่เฉยๆ 4.999 ไม่รู้จบ ยังไงก็ไม่เท่ากับ 5 หรอกค่ะ
โอ้ไห เก่งขนาดนี้ทำไมแทนค่าผิดได้ครับ ตรรกศาสตร์ที่คุณยกมา แค่แทนค่าในสูตรก็ได้คำตอบ
แต่ที่ผมทำให้ดู เป็นหลักการที่ใครๆก็ใช้คำนวณกัน หรือว่าคุณมีแปลกกว่านี้ครับ เอามาเปิดหูเปิดตาหน่อย
ถ้าไม่มีอย่าข้างๆคูๆ
8 ดิฉันสังเกตเห็นว่าคุณใช้คำว่า "สู้" หลายครั้งหลายหน ผิด
ผิด ผมใช้แค่ประโยคปิดท้ายเท่านั้น หรือถ้ามีอีกก็น้อยมาก
ดิฉันสู้คุณไม่ได้หรอกค่ะ
ดิฉันขอยอมแพ้นะคะ
ไม่ขอถกเถียงกับคุณอีกแล้ว
เพราะจากประวัติการโต้ตอบในบอร์ดเก่าซึ่งคุณนำมาอ้างอิง บวกกับที่คุณเอ่ยถึงดิฉันในการตอบโต้กับสมาชิกท่านอื่น คราวนี้ดิฉันก็พอทราบแล้วว่า คุณเป็นคนเช่นไร
จึงขอยุติ เพียงเท่านี้
อ้าว,ไหงยอมกันดื้อๆล่ะครับ ตอนคุณตั้งกระทู้นี้ รู้สึกคุณฮึกเหิม ต้องการให้ผมขอขมา วัตถุประสงค์ยังไม่บรรลุนะครับ
และที่สำคัญ
ในเมื่อคุณอยากสมอ้างรับไว้เอง
ผมไม่ได้ทำให้คุณเข้าใจผิดนะครับ
แต่คุณอ่านแล้วคุณเข้าใจผิดเอง
คุณทำผิดซ้ำซาก
ครั้งแรก คือกล่าวหาว่า ผมว่าคุณเป็นขี้ข้า
ครั้งที่2 คือหลังจากผมบอกแล้วว่าไม่ได้ว่าคุณเลย คุณกลับยกเหตุผลเรื่องปลายเปิด-ปลายปิดมาอ้าง
ครั้งที่3 คือหลังจากคุณ "เมาอยู่" อาสาเป็นคนกลาง แจกแจงแล้วว่า ผมพูดถูก
แต่คุณกลับมายกเอาประโยคน้อยๆที่ผมกล่าวไว้มาเป็นข้ออ้างว่า ผมว่าคุณจริงแล้ว คุณเข้าใจไม่ผิด
อีกเรื่องหนึ่งคือ
การอ้างว่า เป็นบอร์ดสาธารณะใครก็เข้ากระทู้นี้ได้ ผมก็อยากจะแย้งว่า คุณตั้งกระทู้ท้าผม
ผมทราบอยู่แล้วว่ากองเชียร์คุณต้องเข้ามาช่วยคุณ แต่ส่วนใหญ่มักจะเข้ามาด่าผมมากกว่า
ซึ่งผมทราบอยู่แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ ผมอุตส่าห์บอกเงื่อนไขไว้แล้วนะครับ
ถ้าคุณห้ามปรามพวกเขา ผมถือว่าคุณไม่เห็นด้วยกับคำด่าเหล่านี้ แต่
นอกจากคุณไม่ห้าม คุณกลับเอาคำตอบโต้ระหว่างผมกับพวกเขามาแสดง
เพื่ออยากให้คนอื่นๆเข้ามาเห็นว่า
ผมรังแกผู้หญิง
อย่าลืมนะครับว่า
1,คุณเป็นผู้ท้าผมให้มาที่นี่ ไม่ใช่ผมท้าคุณ
2.การตอบโต้ใช้ข้อความเท่านั้น ไม่ได้ใช้กำลัง คุณจึงไม่เสียเปรียบเรื่องเพศ หรือ สรีระ ใช้แค่สมองและมือเพื่อพิมพ์
3.อยู่ในบอร์ดสรท. ซึ่งสมาชิกเกือบทั้งหมดอยู่ฝ่ายคุณ ตนพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่อ่านข้อความของผมด้วยซ้ำ เพราะขนาดผมตอบไว้แล้ว
ยังกลับว่าผมว่า ไม่กล้ามาตอบ คุณดูเองก็ไว่าจริงไหม หรือถ้าอ่านแล้วก็มาแซว มาด่า แบบพวกไร้สมอง
ดังนั้นหลังสรุปได้ว่า
คุณผิดในเรื่องนี้
คุณต้องตั้งกระทู้ขอโทษผมแทนพวกเขาด้วย
อย่าหนี
จึงขอเรียนให้มอดพิจารณา ตัดสินด้วยค่ะ
ใช้ 2 ล็อกอิน ได้ด้วย!!!
กฎ มีไว้แหกสินะ
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ likes this
#196
Posted 14 November 2012 - 14:16
มีพยานหลายคนได้กล่าวตรงกันว่า
ทหารยิงลงมาจากรางรถไฟใส่น้องเกด
แต่ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ระบุวิถีกระสุน ซึ่งขัดแย้งต่อคำให้การของพยานทั้งหลายนั้น
เก่งกู้ภัย หมอเหวง วิชาญ นางพะเยาว์ ได้กล่าวตรงกันว่า
น้องเกดเสียชีวิตในชุดอาสากาชาด
แต่จากคลิป และเสื้อกาชาดซึ่งไม่มีรอยกระสุน ขัดแย้งกับคำกล่าวของคนเหล่านั้น
ถ้ามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แย้งคำกล่าวหา
ทุกอย่างเป็นอันสิ้นสุด
#197
Posted 14 November 2012 - 14:17
http://webboard.seri...ืองคอน-ใจป้ำ-อ/
ตำหนิมาร์กซะด้วยซ้ำ
เป็นขี้ข้า ต้องอวยนาย ตำหนินายได้ยังไง
#198
Posted 14 November 2012 - 14:18
ถ้าคนคนนั้นอยาก ตอบโต้ ก็เชิญ
จะลอกข้อความมาใช้ตอบโต้ ก็เชิญ
จะประกาศชัยชนะ ก็เชิญ
จะปิดกระทู้ ก็เชิญ
จะขุดกระทู้ขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้ เชิญ
จะเอาชัยชนะจากกระทู้นี้ไปสะสมไว้ในชื่อเสียงของตนเอง ไปป่าวประกาศที่นี่ ที่ป่าช้า หรือที่ไหนๆ ก็เชิญ
#199
Posted 17 November 2012 - 01:33
ต่อมาเรื่อง
ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้
เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย
นี่คือประโยคที่พิมพ์ถามเอง- ตอบเอง ดั้งเดิม
พิจารณาประโยคคำถาม “ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้”
เป็นประโยคความซ้อนพิจารณาประโยคคำตอบ
- ทำไม- คำถาม
- คุณถึงคิด - ประโยคหลัก (คุณเป็นประธาน คิด เป็นกริยา ถึง เป็นคำช่วย)
- ว่า เป็น คำเชื่อม
- ผมหาหลักฐานไม่ได้ - ประโยคย่อย (ผมเป็นประธาน หา เป็นกริยา หลักฐานเป็นกรรม ไม่ได้เป็นปฏิเสธ)
“เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย”
เป็นประโยคความรวม 2 ประโยคเท่าเทียมกัน
- เพราะ - ตอบคำถามที่ว่า “ทำไม”
- ประโยคที่ 1 คุณไม่ได้ทำ
- หรือ -คำเชื่อม
- ประโยคที่ 2 คุณอาจทำ แต่ทำน้อย
พิมพ์แก้ตัวภายหลังไปได้ว่า
เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อยจนหาหลักฐานไม่ได้
“จนหาหลักฐานไม่ได้” มาจากไหน
เอาข้อความจาก ประโยคย่อยของประโยคความซ้อน ซึ่งอยู่ในรูปคำถาม
มาใส่เติมลงในประโยคความรวม ซึ่งอยู่ในรูปคำตอบ
เอา ส่วนขยายภาคแสดงของ “ผม” มาใส่เป็นส่วนขยายภาคแสดงของ “คุณ”
อย่างนี้คนพิมพ์มีปัญหาการใช้ภาษาไทยแล้ว
ผมแย้งตรงนี้ ก็ชี้ได้หมด
“ทำไมคุณถึงคิดว่าผมหาหลักฐานไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้ทำ หรืออาจทำ แต่ทำน้อย (น้อยจนผมหาหลักฐานไม่ได้)
คำว่า ผมหาหลักฐานไม่ได้ มันบอกในตัวอยู่แล้วว่า ทำน้อยมากๆๆๆๆๆ ผมใช้ขึ้นต้นเลย
สองประโยคนี้เป็นเหตุเป็นผลกัน ชัดเจนในความหมายอยู่แล้ว
แต่คุณเอามาแยกวิเคราะห์ทีละประโยค
มีเจตนาลดหรือเปลี่ยนความหมายของมัน
ซึ่งคุณชอบที่จะทำเช่นนี้ เพื่อที่จะเอาชนะผม
จากที่ผมแย้งคุณที่ผ่านมามันชี้เช่นนั้นมาตลอด
กรุณาอย่าทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนี้บ่อยๆ
มันแสดงถึงความไม่มีศักดิ์ศรี ซึ่งคุณบอกใครๆว่าต้องการปกป้องในตอนตั้งกระทู้
แต่วิธีการที่คุณใช้โต้ตอบ มันฟ้องว่า คุณไม่มีศักดิ์ศรีเลยครับ
นอกจากนี้ยังพยายามเอาเรื่องข่มขู่ทางเพศมากล่าวหาผม
รู้สึกว่าคุณนี่นอกจากไม่มีศักดิ์ศรีแล้ว ยังน่ารังเกียจอย่างมากนะครับ
วิธีอื่นไม่มีแล้วหรือครับ ถึงต้องงัดเอาเรื่องนี้มาสู้
เป็นท่าไม้ตายที่นิยมใช้เวลาเข้าตาจนสินะ
แค่นี้ก็ชี้ชัดว่าคุณเป็นคนแบบไหน คนที่มีใจเป็นธรรมมาอ่านเข้าก็จะทราบได้
2 user(s) are reading this topic
0 members, 2 guests, 0 anonymous users