ก๊ากกก....ภาษาอังกฤษของคนที่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศได้แค่นี้เองเหรอ
#51
Posted 17 November 2011 - 11:19
#52
Posted 17 November 2011 - 11:20
#53
Posted 17 November 2011 - 11:26
ออกไปอ่านผิดๆ ถูกๆ อ่านผิด อ่านใหม่กี่สิบรอบ กี่ร้อยคำ
แกไม่อาย คนไทยก็อายเค้านะเว้ย ขายขี้หน้าคนไทยทั้งประเทศมั๊ยเล่า
รู้ตัวมั่งสิว่าตัวเองน่ะ โง่ อ่านซะก่อนซักรอบสองรอบ
เผื่อจะได้ไม่อ่านผิดอ่านถูก
ไว้หน้าให้คนไทยมั่งสิโว้ยยยย
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
#54
Posted 17 November 2011 - 11:29
#55
Posted 17 November 2011 - 12:01
I am sure that Madam Secretary, she has been briefed by the US ambassador EVERYTHING about this 'leader' already.
And yet, no matter what she might think of us right now, of course not, she wouldn't say a word but to inform her president afterward.
Let's hope that whatever she has seen, heard and witnessed won't give her a second thought on the US foreign policy to Thailand.
English is not my native tongue but I strongly believe that practice makes perfect. Especially, when you live abroad that's a good opportunity to do so.
But it's kinda make me wonder how the PM survived all those years she studied in the United States with so limited English skills, still like this.
Americans, they speak American. They have their own way and you need to keep up with them. And since she graduated from the Kentucky State.
Then she had to be exposed to an accent, the unique southern state style which is pretty hard to understand if you're not familiar to it.
I don't know how long she spent her time in the US but the longer the time period was, the more chance she might pick up one or two habits
from where she was accustomed to in those years. Like Abhisit adopted the English accent over the years he spent his time in England.
And it's kinda make me wonder even more that how she understood those Americans, how they even understood her and how the assignments
from her professors were handled? So what we can do is keep on wondering, huh?
Yeah agree, even if English is not our mother language, I've seen a lot of figure spoke it flawlessly, even ones who never graduated from aboard. Now is really the time of shame for our beloved country that the world knew now what kind of a PM we have. Inevitably, they will no doubt reflect that Thai people surely has the same level of intelligent as we are stupid enough to elect her as a PM.
BTW I am your secret fan of English comment, Your sense of word choosing is superb, Bravo!
#56
Posted 17 November 2011 - 12:11
#57
Posted 17 November 2011 - 12:20
#58
Posted 17 November 2011 - 12:23
Yeah agree, even if English is not our mother language, I've seen a lot of figure spoke it flawlessly, even ones who never graduated from aboard. Now is really the time of shame for our beloved country that the world knew now what kind of a PM we have. Inevitably, they will no doubt reflect that Thai people surely has the same level of intelligent as we are stupid enough to elect her as a PM.
BTW I am your secret fan of English comment, Your sense of word choosing is superb, Bravo!
My English is far from flawless.
There are some mistakes I made in an earlier post
which you may have seen them already.
But thank you so much for the secret admiration. I'm flattered.
Edited by Apparently, 17 November 2011 - 12:30.
#59
Posted 17 November 2011 - 12:36
#60
Posted 17 November 2011 - 13:15
#61
Posted 17 November 2011 - 13:19
จบ USA มาจริงเหรอป่าว หรือนอนนั่งอยู่ไทยจ่ายเงินแล้วใบจบการศึกษาลอยมาหน้าบ้าน
มันมีประเภทที่ไปเรียนที่โน่นจริง แต่อยู่ในกลุ่มคนไทยตลอดเวลา คอร์สที่เรียนก็เป็นคอร์สสำหรับ international ไม่ใช่คอร์สปกติของนักศึกษาท้องถิ่น การบ้านก็ลอกเอาจากของเก่าที่รุ่นพี่ทิ้งไว้ให้ บางครั้งก็ไปจ้างคนอื่นทำการบ้านให้ แล้วก็เวลาสอบก็ฝิ่นใส่กล่องดินสอเข้าไปสอบ (แบบโอ๊คทำ) ก็จบกันมาได้ด้วยวิธีแบบนี้ก็เยอะแยะค่ะ
โอ้ย จบเพราะโพยอีกแล้ว
นางโพยเอ๋ยนายกเรา โพยตั้งแต่เกิดยันตายเลยมั่ง
#62
Posted 17 November 2011 - 13:52
Do you have a bias to it.
#63
Posted 17 November 2011 - 13:56
But she's so perfect it. Haๆ
Do you have a bias to it.
แปลว่าไรอ่ะ
#64
Posted 17 November 2011 - 14:03
But she's so perfect it. Haๆ
Do you have a bias to it.
Perfect Kindergarten
idiot !!!
#65
Posted 17 November 2011 - 14:04
นักเรียนนอกมาอีกคนแล้ววุ้ยBut she's so perfect it. Haๆ
Do you have a bias to it.
ช่วงนี้ คนเป่านกหวีดเสียงดังกันเยอะ ปีนี้เลยกลายเป็น " ปี แสบ หู "
#66
Posted 17 November 2011 - 14:07
รู้ว่าตัวเองภาษาอังกฤษแย่ แล้วงานแถลงข่าวสำคัญขนาดนี้ ทำไมไม่รู้จักทำการบ้าน
ท่องเอาสัก 4-5 รอบยังจะออกมาพูดคล่องกว่านี้ วันๆก็ไม่เห็นจะทำอะไร
#67
Posted 17 November 2011 - 14:10
#68
Posted 17 November 2011 - 14:16
#69
Posted 17 November 2011 - 14:25
#70
Posted 17 November 2011 - 14:41
But she's so perfect it. Haๆ
Do you have a bias to it.
Perfect Kindergarten
idiot !!!
I am not good at English, I'm not. !!!!
You were crazy.
ผมไม่ใช้เจ้าของภาษาแค่อย่างลองเล่น นักเรียนนอกนะไม่ใช้ มีแต่นอกกะลา ฮาๆๆ
และเอ็งละบ้า
#71
Posted 17 November 2011 - 14:45
โดยส่วนตัวคิดว่าสำเสียงภาษาอังกฤษของท่านนายกไม่ใช่ปัญหาเพราะเราคนไทย ไม่จำเป็นต้องไปเลียนเสียงให้เหมือนอังกฤษจ๋าหรอก มันไม่จำเป็น ยังไงฝรั่งก็เข้าใจอยู่แล้ว และทีมงานคงจะเขียนโพยให้นายกคงไม่เขียนเองหรอก สิ่งที่พวกเรากังวลคือท่านนายกอาจจะไม่เก่งภาษาอังกฤษจริงเท่าท่านนายกอภิสิทธิ์ที่เรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นน่าจะอ่านหรือพูดเป็นภาษาไทยจะดีกว่า อีกอย่างภาษาอังกฤษสำหรับคนไทยโดยทั่วไปเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะระบบการสอนที่ผ่านมาของสถานศึกษาเราเน้นการเรียนไวยากรณ์ก่อนซึ่งผิดหลักธรรมชาติ ดังนั้นจะไม่กล้าพูดเพราะกลัวผิดหลักไวยากรณ์ คุณดูคนเราพูดภาษาไทยได้ก่อนแล้วเข้าโรงเรียนไปเรียนภาษาไทย ผมถามหน่อยพวกท่านทั้งหลายเรียนจบอะไรกันบ้างผมว่าอย่างต่ำก็ปริญญาตรี ท่านพูดภาษาอังกฤษได้คล่องมั๊ย เอาแค่แนะนำตัวเองก็พอ ฝรั่งบอกว่าคนไทยมีนิสัยขี้อาย ไม่กล้าพูด ฝรั่งเขาไม่รู้หรอกว่าเรากลัวพูดผิดและเราไม่เข้าใจที่เขาพูดเพราะฟังสำเนียงไม่ออก ไม่รู้ศัพท์ ทั้งที่เวลาฝรั่งพูดไทยถูกบ้างผิดบ้างเรายังเดาออกเลย ทำไมคนฟิลิบปินส์ จึงเก่งภาษาอังกฤษมากกว่าคนไทย อันนี้ผมไม่ได้อ้างตำรามานะ แต่ผมคุยกับเพื่อนชาวฟิลิบปินส์ ด้วยภาษาอังกฤษงูๆปลาๆที่ผมเรียนมาทั้งหมดประมาณ 10 ปี ตั้งแต่ป.5- ปริญญาตรี เขาบอกว่าตั้งแต่มัธยมเป็นต้นไปเขาสอนเป็นภาษาอังกฤษ แต่เมืองไทยเราก็มีบ้างเฉพาะโรงเรียนนานาชาติ หรือพวกโปรแกรมพิเศษอะไรพวกนี้ ดังนั้นการที่คนไทยจะเก่งภาษาอังกฤษได้ขั้นแรกต้องเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ใหม่ เราต้องพูดให้ได้ก่อนเหมือนภาษาไทย ท่านจะพูดโดยไม่ต้องมานึกก่อนประโยคต่างๆก็จะอยู่ในสมอง สมองก็จะสั่งให้ท่านพูดโดยไม่ต้องคิดเรียบเรียงประโยค การสอนก็สอนโดยฝรั่งเลยจะได้คุ้นเคยกับสำเนียง เอาแค่ภาษาไทยพอให้พูดเป็นพิธีการก็พูดไม่ได้แล้ว และอย่าไปคาดหวังอะไรมากจบเมืองนอกใช่ว่าจะเก่งภาษาทุกคน ที่ทำงานผม จบโทนอกตั้งหลายคนพูดอังกฤษไม่รู้เรื่อง บางคนก็พูดไม่ได้ พวกจบดอกเตอร์ก็เหมือนกันโดยเฉพาะจบญี่ปุ่นพูดอังกฤษก็แค่งูๆ ดีกว่าผมหน่อยเดียว เราอย่าไปซ้ำเติมท่านนายกเลยในเรื่องนี้ มีเรื่องอื่นให้ซ้ำเติมท่านอีกเยอะ
แล้วทำไมนางยกไม่ใช้ภาษาไทยแล้วให้ล่ามแปลแทนละครับ... แบบที่ผู้นำประเทศอื่นๆ เช่น จีน ทำกัน แทนที่จะกระแดะพูดอังกฤษทั้งๆ ที่ตัวเองมีความรู้เท่าหางอึ่งเนี่ยนะ ถ้าไม่เป็น "โง่" แล้วอวด "ฉลาด" ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้ว...ทำประเทศขายหน้ามากๆ
ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ
#72
Posted 17 November 2011 - 14:54
http://www.youtube.com/watch?v=ovdG5b1pE2E
ผู้นำพูดอังกฤษไม่เก่งไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ผู้นำที่"โง่"แล้วอวดฉลาดอยากอวดภูมิภาษาทั้งๆที่พูดภาษาอังกฤษยังกะเด็กประถมแต่ไม่ยอมใช้ล่าม อยากโชว์ควายว่าพูดปะกิตเป็น อันนี้สมแล้วที่โดนด่า ฮ่าฮ่าฮ่า
Fusionists
Women อ่านว่า วี-เมน ไม่ใช่ วู-เมน
อีห่า กรูรู้เพราะกรูเคยเรียนตอน ป.2 ครูย้ำด้วยว่าห้ามอ่าน วูเมน
ไม่ไหวจะเคลียร์!!!!!!!!
TangmoChan
Just to be clear for foreigners who might watch this clip, if u don't understand what she said, you are alright. The woman can't communicate even when she speaks (or should I say READ) in THAI !!! The only thing she is capable of is to put on make up and try to look pretty. fact !!
Patrick0215270
ภาษาอังกฤษสำเนียงไทยเป็นบางช่วง คนต่างชาติเขาคงฟังแล้วคงจะงง
spiritman2011
ท่านนายก ผมมีอะไรจะแนะนำ ผมว่าท่านก็ไม่ได้เป็นคิดนโยบายแก้ไขน้ำท่วมเองอยู่แล้ว
ฉะนั้นอย่าเสียเวลาเดินไปเดินมาเลยตีหน้าสงสารประชาชน ไปเรียนกันดีกว่าเผื่อจะช่วยท่านได้
ภาษาอังกฤษ
british council ,Edu fist, AUA,Fast English,ครูพี่แนน,ครูพี่แนน
ภาษาไทยกับสังคม(หากมีเวลาเหลืออีก)
อาจารย์ปิง ,ครูลิลลี่ , อาจารย์กอล์ฟ
search ใน google มีอีพเพียบครับ สักเดือนนึงน่าจะช่วยให้ประชาชนตาดำๆมีความมั่นใจในตัวท่านสักนิดนึงครับ
mintrockstar1
ผู้นำพูดอังกฤษไม่เก่งไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ผู้นำที่"โง่"แล้วอวดฉลาดอยากอวดภูมิภาษาทั้งๆที่พูดภาษาอังกฤษยังกะเด็กประถมแต่ไม่ยอมใช้ล่าม อยากโชว์ควายว่าพูดปะกิตเป็น อันนี้สมแล้วที่โดนด่า ฮ่าฮ่าฮ่า
Fusionists
#73
Posted 17 November 2011 - 15:26
#74
Posted 17 November 2011 - 15:29
โถ ท่าน ตำแหน่งนี้ คัดเลือกจากคน 65 ล้านคน เพื่อมาดูแลประเทศ ถ้าเอาแบบควายๆ โง่้กว่าชาวบ้านชาวช่องเค้า งั้นก็เอาชาวไร่ ชาวนามาเป็นนายกก็ได้มั้งโดยส่วนตัวคิดว่าสำเสียงภาษาอังกฤษของท่านนายกไม่ใช่ปัญหาเพราะเราคนไทย ไม่จำเป็นต้องไปเลียนเสียงให้เหมือนอังกฤษจ๋าหรอก มันไม่จำเป็น ยังไงฝรั่งก็เข้าใจอยู่แล้ว และทีมงานคงจะเขียนโพยให้นายกคงไม่เขียนเองหรอก สิ่งที่พวกเรากังวลคือท่านนายกอาจจะไม่เก่งภาษาอังกฤษจริงเท่าท่านนายกอภิสิทธิ์ที่เรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นน่าจะอ่านหรือพูดเป็นภาษาไทยจะดีกว่า อีกอย่างภาษาอังกฤษสำหรับคนไทยโดยทั่วไปเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะระบบการสอนที่ผ่านมาของสถานศึกษาเราเน้นการเรียนไวยากรณ์ก่อนซึ่งผิดหลักธรรมชาติ ดังนั้นจะไม่กล้าพูดเพราะกลัวผิดหลักไวยากรณ์ คุณดูคนเราพูดภาษาไทยได้ก่อนแล้วเข้าโรงเรียนไปเรียนภาษาไทย ผมถามหน่อยพวกท่านทั้งหลายเรียนจบอะไรกันบ้างผมว่าอย่างต่ำก็ปริญญาตรี ท่านพูดภาษาอังกฤษได้คล่องมั๊ย เอาแค่แนะนำตัวเองก็พอ ฝรั่งบอกว่าคนไทยมีนิสัยขี้อาย ไม่กล้าพูด ฝรั่งเขาไม่รู้หรอกว่าเรากลัวพูดผิดและเราไม่เข้าใจที่เขาพูดเพราะฟังสำเนียงไม่ออก ไม่รู้ศัพท์ ทั้งที่เวลาฝรั่งพูดไทยถูกบ้างผิดบ้างเรายังเดาออกเลย ทำไมคนฟิลิบปินส์ จึงเก่งภาษาอังกฤษมากกว่าคนไทย อันนี้ผมไม่ได้อ้างตำรามานะ แต่ผมคุยกับเพื่อนชาวฟิลิบปินส์ ด้วยภาษาอังกฤษงูๆปลาๆที่ผมเรียนมาทั้งหมดประมาณ 10 ปี ตั้งแต่ป.5- ปริญญาตรี เขาบอกว่าตั้งแต่มัธยมเป็นต้นไปเขาสอนเป็นภาษาอังกฤษ แต่เมืองไทยเราก็มีบ้างเฉพาะโรงเรียนนานาชาติ หรือพวกโปรแกรมพิเศษอะไรพวกนี้ ดังนั้นการที่คนไทยจะเก่งภาษาอังกฤษได้ขั้นแรกต้องเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ใหม่ เราต้องพูดให้ได้ก่อนเหมือนภาษาไทย ท่านจะพูดโดยไม่ต้องมานึกก่อนประโยคต่างๆก็จะอยู่ในสมอง สมองก็จะสั่งให้ท่านพูดโดยไม่ต้องคิดเรียบเรียงประโยค การสอนก็สอนโดยฝรั่งเลยจะได้คุ้นเคยกับสำเนียง เอาแค่ภาษาไทยพอให้พูดเป็นพิธีการก็พูดไม่ได้แล้ว และอย่าไปคาดหวังอะไรมากจบเมืองนอกใช่ว่าจะเก่งภาษาทุกคน ที่ทำงานผม จบโทนอกตั้งหลายคนพูดอังกฤษไม่รู้เรื่อง บางคนก็พูดไม่ได้ พวกจบดอกเตอร์ก็เหมือนกันโดยเฉพาะจบญี่ปุ่นพูดอังกฤษก็แค่งูๆ ดีกว่าผมหน่อยเดียว เราอย่าไปซ้ำเติมท่านนายกเลยในเรื่องนี้ มีเรื่องอื่นให้ซ้ำเติมท่านอีกเยอะ
ถ้าคนทำงานบริษัท พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ตำแหน่งก็อยู่แค่นั้นแหละท่าน แต่นี่ผู้นำสูงสุดนะ ถ้าประเทศนี้ เอาเงินของอีปูโง่ี มาบริหารประเทศ ผมจะไม่ว่าเลย เหมือนเจ้าสัวซีพี จะจบแค่ ป.4 เป็นเจ้าของบริษัท จะเจ๊งก็เงินของเค้านะท่่าน
#75
Posted 17 November 2011 - 15:38
โดยส่วนตัวคิดว่าสำเสียงภาษาอังกฤษของท่านนายกไม่ใช่ปัญหาเพราะเราคนไทย ไม่จำเป็นต้องไปเลียนเสียงให้เหมือนอังกฤษจ๋าหรอก มันไม่จำเป็น ยังไงฝรั่งก็เข้าใจอยู่แล้ว และทีมงานคงจะเขียนโพยให้นายกคงไม่เขียนเองหรอก สิ่งที่พวกเรากังวลคือท่านนายกอาจจะไม่เก่งภาษาอังกฤษจริงเท่าท่านนายกอภิสิทธิ์ที่เรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นน่าจะอ่านหรือพูดเป็นภาษาไทยจะดีกว่า อีกอย่างภาษาอังกฤษสำหรับคนไทยโดยทั่วไปเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะระบบการสอนที่ผ่านมาของสถานศึกษาเราเน้นการเรียนไวยากรณ์ก่อนซึ่งผิดหลักธรรมชาติ ดังนั้นจะไม่กล้าพูดเพราะกลัวผิดหลักไวยากรณ์ คุณดูคนเราพูดภาษาไทยได้ก่อนแล้วเข้าโรงเรียนไปเรียนภาษาไทย ผมถามหน่อยพวกท่านทั้งหลายเรียนจบอะไรกันบ้างผมว่าอย่างต่ำก็ปริญญาตรี ท่านพูดภาษาอังกฤษได้คล่องมั๊ย เอาแค่แนะนำตัวเองก็พอ ฝรั่งบอกว่าคนไทยมีนิสัยขี้อาย ไม่กล้าพูด ฝรั่งเขาไม่รู้หรอกว่าเรากลัวพูดผิดและเราไม่เข้าใจที่เขาพูดเพราะฟังสำเนียงไม่ออก ไม่รู้ศัพท์ ทั้งที่เวลาฝรั่งพูดไทยถูกบ้างผิดบ้างเรายังเดาออกเลย ทำไมคนฟิลิบปินส์ จึงเก่งภาษาอังกฤษมากกว่าคนไทย อันนี้ผมไม่ได้อ้างตำรามานะ แต่ผมคุยกับเพื่อนชาวฟิลิบปินส์ ด้วยภาษาอังกฤษงูๆปลาๆที่ผมเรียนมาทั้งหมดประมาณ 10 ปี ตั้งแต่ป.5- ปริญญาตรี เขาบอกว่าตั้งแต่มัธยมเป็นต้นไปเขาสอนเป็นภาษาอังกฤษ แต่เมืองไทยเราก็มีบ้างเฉพาะโรงเรียนนานาชาติ หรือพวกโปรแกรมพิเศษอะไรพวกนี้ ดังนั้นการที่คนไทยจะเก่งภาษาอังกฤษได้ขั้นแรกต้องเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ใหม่ เราต้องพูดให้ได้ก่อนเหมือนภาษาไทย ท่านจะพูดโดยไม่ต้องมานึกก่อนประโยคต่างๆก็จะอยู่ในสมอง สมองก็จะสั่งให้ท่านพูดโดยไม่ต้องคิดเรียบเรียงประโยค การสอนก็สอนโดยฝรั่งเลยจะได้คุ้นเคยกับสำเนียง เอาแค่ภาษาไทยพอให้พูดเป็นพิธีการก็พูดไม่ได้แล้ว และอย่าไปคาดหวังอะไรมากจบเมืองนอกใช่ว่าจะเก่งภาษาทุกคน ที่ทำงานผม จบโทนอกตั้งหลายคนพูดอังกฤษไม่รู้เรื่อง บางคนก็พูดไม่ได้ พวกจบดอกเตอร์ก็เหมือนกันโดยเฉพาะจบญี่ปุ่นพูดอังกฤษก็แค่งูๆ ดีกว่าผมหน่อยเดียว เราอย่าไปซ้ำเติมท่านนายกเลยในเรื่องนี้ มีเรื่องอื่นให้ซ้ำเติมท่านอีกเยอะ
ส่วนตัว โปจิพูดคล่องพอสมควรฮะ ตั้งแต่เด็กแล้ว
#76
Posted 17 November 2011 - 16:12
We have heard those nationals speak English with their own accents, Indians, Koreans, Singaporeans including Australians.
There's nothing wrong with that but what I concern is how you comprehend your English skills, read, write, speak and the most important and difficult one, listen. They all have to be blended in together, so it will come out as a communication that other people understand you in a same single way.
After watching both press conferences, I found myself not irritated but unsatisfied with the PM's answers given to the press.
Source: http://www.state.gov...1/11/177263.htm
The question: "And if I can kind of follow up to the prime minister, there have been reports that your cabinet is working on an amnesty that could potentially affect former Prime Minister Thaksin. I wanted to see if you could comment on that, say whether that is true, and if so, why?"
The answer: "(Inaudible) to go back to your questions, your question is – sorry that I missed this cabinet meeting because by coincident of the trip that – to go back, was on Monday night. And in this detail, I think I’ll – the deputy prime minister will handle this. But normally in the process, that will be the common process, and everything we have to make sure that it’s (inaudible) law and then will be applied for everyone. Thank you."
Honestly, (this word is pronounced with an O sound, silent H not like the way the PM spoke), I didn't get anything useful out of this at all.
Her answer was not even an answer, it's incomprehensible in any way. It didn't make any sense. She could have shortened it by saying "No comment".
That would have been better! I could only guess whether she was prepared for this press or thought that this was just another media presentation.
And after that I only heard Secretary Clinton did the rest, then the press conference ended and that was it. Whose problem is this, the US or Thailand?
I believe many people are intimidated by Mrs. Hillary Rodham Clinton, men and women and that is very understandable. But still, shaking up by her but making an excuse that you didn't know what was going on in your own cabinet which is currently running the country is frowned upon.
#77
Posted 17 November 2011 - 18:01
พุดไม่เก่ง ก็ควรใช้ล่ามจะดีกว่านะ อ่านผิด ๆ ถูก ๆ อายแขกบ้านแขกเมืองเปล่า ๆ
ฟังสำเนียง เด็กนักเรียนนา ๆชาติ ระดับประถม ยังพูดดีกว่านี้เลย
#78
Posted 17 November 2011 - 18:04
#79
Posted 17 November 2011 - 18:06
#80
Posted 17 November 2011 - 20:03
เพราะฟังไม่รู้เรื่อง เพราะการออกเสียง สำเนียงผิดไปหมด
การเว้นวรรค ทำให้ไม่รู้ว่าประโยคจบตรงไหน
อย่าสร้างความอับอาย และอาจสื่อสารผิด มากไปกว่านี้เลย
#81
Posted 17 November 2011 - 20:05
คนนั้นเขาอยู่อังกฤษตั้งแต่เด็ก
#82
Posted 17 November 2011 - 20:22
1. ไม่จำเป็นต้องไปเลียนเสียงให้เหมือนอังกฤษจ๋าหรอก มันไม่จำเป็น ยังไงฝรั่งก็เข้าใจอยู่แล้ว
...
2. และอย่าไปคาดหวังอะไรมากจบเมืองนอกใช่ว่าจะเก่งภาษาทุกคน ที่ทำงานผม จบโทนอกตั้งหลายคนพูดอังกฤษไม่รู้เรื่อง บางคนก็พูดไม่ได้ พวกจบดอกเตอร์ก็เหมือนกัน
...
3. โดยเฉพาะจบญี่ปุ่นพูดอังกฤษก็แค่งูๆ ดีกว่าผมหน่อยเดียว
I'd like to comment on the above three points.
1. This is not true. Accent plays quite an important role to listeners.
Unless listeners are familiar with Thai accent, they will have a hard time understanding the speaker.
Though not perfect accent, speaking with confidence and correct pronunciation would certainly help.
2. Where did your friends go to schools? English speaking countries?
There are several tiers for graduate schools abroad.
Normally, it takes about 2 years to complete master's degree in USA, 9 months in UK.
During these 2 years, how your friends lived their lives matter for picking up language skills.
It's too short to be really fluent in English.
It's even more difficult for shorter period like 9 months.
For PhD, it takes much longer, about 3 years in UK, and longer than that in USA like 3-8 years.
If they got master's degree in those countries too, their language skills should be quite okay depending on how long they were there.
These skills include reading, listening, speaking, and writing.
That would be quite strange that your friends' skills are so poor.
3. Not many Japanese universities offer international programs.
Some Thai students may have to use Japanese only since their schools do not have international programs.
At those international programs, students can use English at school only.
They have to use native language outside for their daily lives.
Basically, they have to use two different second languages, Japanese and English.
This would not be easy for anyone.
It is pretty much the same case as those in Austria, Germany, Sweden, Finland, and so on.
Red shirts perhaps were not born idiots, but are acting idiotically and will die idiots. What a poor creature!
Red shirts in the cyber world are merely contract posters. These dumb fucks are worthless pieces of shit.
Stupidity and incompetence of the walking botox will run have run Thailand to the ground.
The magnitude of this disaster would have decreased exponentially if proper water management had been applied in time like since the inception of the Bang-Ra-Kum model.
#83
Posted 17 November 2011 - 20:26
#84
Posted 17 November 2011 - 20:33
" Lady and Gentlemen, Let me begin by overcome Secretary Clinton to thailand once agian . " ประมาณ นาทีที่ 1.3-1.5
#85
Posted 17 November 2011 - 20:34
ที่มา : http://www.oknation....1/11/15/entry-1นับวันฉันยิ่งไม่แน่ใจ
ว่านี่คือประเทศไทยของฉัน
ปกครองด้วยระบอบใดกัน
คล้ายระบอบแดกดันอธิปไตย
มีนารีขี่อะไรก็ไม่รู้
มานำเป็นแม่ปูดูเฉไฉ
เดินลดเลี้ยวเคี้ยวคดตามสั่งใคร
แถมพูดภาษาไทยไม่แข็งแรง
“พฤศจิกาคม” เดือนใหม่เธอจำแนก
“หญ้าแฝก”เป็น”หญ้าแพรก”ยิ่งแปลกแปร่ง
“สระแก้ว”เป็น”สระบุรี “ ชีพลิกแพลง
ไปเมืองสิงห์ก็ยังแสร้งเรียกสระบุรี
จะเบลอเบลอเฟอะฟะไปถึงไหน
ก็มีโพยอยู่ร่ำไปใช่ไหมนี่
พูดผิดลิ้นพันกันทุกที
จะโพยมีไม่มีก็เหมือนกัน
แถลงร่างงบประมาณต่อรัฐสภา
ยังอ่านโพยต่อหน้าให้ขำขัน
หน่วยสิบร้อยพันพัลวัน
หมื่นก่อนแสน จึงเฮลั่นกันทั้งสภา
“ห้าหมื่นสามแสนเก้าร้อยสิบแปดล้านบาท”
คำแถลงผิดพลาดขายขี้หน้า
จะบันทึกกันอย่างไรในรัฐสภา
งบประมาณจะพิจารณากันอย่างไร
มีผู้นำเฟอะฟะประมาณนี้
เป็นนารีขี่ปู ดูเฉไฉ
เดินลดเลี้ยวเคี้ยวคดตามสั่งใคร
ขายขี้หน้าประเทศไทย ไม่ไหวแล้วโว้ย `!
ว.แหวนลงยา
"ดีใดไม่มีโทษ ดีนั้นชื่อว่าดีเลิศ" - หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
"คนเราสามารถเปลี่ยนต้นไม้ประหลาด ให้เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนคนผิดให้เป็นพระเจ้า เปลี่ยนสีขาวให้เป็นสีดำ เพียงเพราะความเชื่อของตัวเองเพียงเท่านั้น"
#86
Posted 17 November 2011 - 20:44
ที่มีผู้วิจารณ์ว่าผมเป็นคนล้าสมัย.ตกยุค.คิดย้อนยุค เพราะเรื่องที่ผมให้ความเห็นว่าผู้นำรัฐบาลจำต้องใช้ภาษาอังกฤษได้ดี หากใช้ไม่ได้ดีก็ให้ใช้ภาษาไทยแล้วใช้ล่ามแทนนั้น ผมมีความเห็นดังนี้:
ผมอายุ 63 ปี คนยุคผมต่างหากที่ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อภาษาอังกฤษแต่ก็ใช้ชีวิตเป็นปรกติและมีความก้าวหน้าได้ แต่ยุค analogue ของผมนั้น ถ้าใครมีความรู้ภาษาอังกฤษดีเป็นพิเศษก็เรียนสูงขึ้นได้ ไปเรียนในต่างประเทศได้สะดวกขึ้น ภาษาอังกฤษดีก็สอบชิงทุนไปเรียนต่างประเทศได้ง่าย ชีวิตก็ได้ความรู้หลากหลายไปพัฒนาอาชีพการงานให้สมบูรณ์ขึ้นดีกว่า ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ, ดร.สุกรี เจริญสุข และ ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล เป็นตัวอย่างของคนรุ่นผม ที่ถูกประทับตราว่าเป็นรุ่น analogue
มาถึงยุคของคนรุ่นใหม่ รุ่นปัจจุบันนี้ ที่เรียกว่ายุค digital นั้น ภาษาอังกฤษเป็นความจำเป็นพื้นฐานของรุ่นลูกหลานทุกคน ไม่ใช่ภาษาที่จะให้ความพิเศษแก่ชีวิตอีกต่อไปแล้ว จากนี้ไปใครที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ ใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้ หรือใช้ไม่เป็นหรือใช้พอได้แต่ไม่ดี อนาคตหน้าที่การงานจะตีบตัน แถมจะถูกเพื่อนจากอาเซียนมาแย่งงานถึงหน้าประตูบ้านได้ จากนี้ไปอาเซียนจะเป็นตลาดเดียวกัน ฐานการผลิตเดียวกัน มีการเคลื่อนย้านแรงงานอย่างเสรี ภาษาอังกฤษถูกประกาศโดยกฎบัตรอาเซียนให้เป็น working language ของอาเซียน คนอาเซียนรุ่นใหม่จะต้องพูดภาษาอังกฤษได้จึงจะหางานที่ดีทำได้ ส่วนนักการเมือง หรือผู้นำรัฐบาล หรือผู้นำสังคมในด้านอื่นๆนั้น จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษได้ดีโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ผู้ใช้แรงงานก็ต้องใช้ภาษาอังกฤาได้ดีเป็นมาตรฐานบังคับด้วย กษตรกร ชาวไร่ชาวนาก็ต้องรู้ภาษาอังกฤษด้วยเพื่อคุณภาพการผลิตที่ก้าวทันโลก
ผมจะไม่เลือกนักการเมืองที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้หรืออ่านหนังสือภาษาอังกฤษไม่เป็น เพราะการใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้แสดงถึงความคับแคบของขอบฟ้าแห่งความรู้ ผมจะไม่เลือกคนที่ไม่อ่านหนังสือภาษาอังกฤษด้วยนั้นความรู้จะไม่กว้างขวางเป็นสากล จะมาเป็นผู้นำของผมไม่ได้แน่นอน
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทำงานของอาเซียน เมื่อนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้ก็ทำงานกับอาเซียนไม่ได้ พรรคการเมืองไทยทุกพรรคจะต้องปรับตัว สร้างนักการเมืองยุคประชาคมอาเซียนกันอย่างจริงจัง
ดังนั้น ความคิดที่ว่าภาษาอังกฤษไม่สำคัญเป็นความคิดยุคผม ส่วนที่ผมคิดว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสำคัญนั้นหมายความว่าผมคิดล้ำเข้ามาในยุคของลูกหลานของผมแล้ว เป็นการสะท้อนความคิดแห่งยุคสมัยปัจจุบันอย่างแท้จริง ด้วยความห่วงใยเยาวชนคนรุ่นใหม่จริงๆ
สมเกียรติ อ่อนวิมล
17 พฤศจิกายน 2554
#87
Posted 17 November 2011 - 20:56
#88
Posted 17 November 2011 - 21:01
#89
Posted 17 November 2011 - 21:02
#90
Posted 17 November 2011 - 21:08
#91
Posted 17 November 2011 - 21:56
คอมเม้นต์ใต้ clip ทั้งสองคลิป LOL !! ไม่ไหวจะเคลียร์
to my fellow Thais, listen to her reply to Thaksin's amnesty question@14.03. If our country's bar for a leader is this low then we deserve to be at the bottom of this shit hole, seriously.
--------------------------------
She could have send the damn letter to Hilary instead of reading it on National Television though :\
--------------------------------
Gosh, it took me tremendous effort in order to watch toward the end of the clip. Madame PM, if it was too much for you, why didn't deliver speech in Thai and let the interprets do their job then? Moreover, it seemed that you didn't do your homework and even need help from Madame Secretary of State while struggled to answer the questions tut tut. Such a contradiction between this two ladies.
--------------------------------
I am so ashamed of our Thai PM Yingluck !!!!!!!!! This is the result of DEMOCRACY. The under educated majority elect the under educated person to the post of PM and lead the educated people and the country . So sad.......
-----------------------------------
After Yingkuck I am sure even a seleng(Tricycle rider) can be a prime minister. She lowers all standards for the "retarded", "dumb bimbo", "nonsense", "never know a clue", "self-sabotaged" and "puppet" to achieve this dream. LMAO.
-------------------------------------
Bet she doesn't even know a damn thing about what she's struggling to "read".
---------------------------------------
I truly belived that she doesn't know what she read! Can she summerize what she spoke? I don't think she can. The statement was written by someone else, perhaps this statement was translated into karaoke language! What a shame to be her. LOL !!
-------------------------------------
Yingluck is the best example of the saying "money can't buy brain". T_T
------------------------------------
*face palms
------------------------------------
hahaha .... "human rice"????? aren't you talking about human rights??? Ms. Yingluck . You'd better take English 101 once again Maa'm
----------------------------------------
Kentucky state uni alumni!! Really? How much did you pay for your degree?
----------------------------------------
They're discussing "DISASTER" ..
Mrs.Clinton. There, you see, the answer is standing right next to you... a real human-being natural disaster for this country
-----------------------------------------------------
Some people are stupid but mostly don't make grave mistake in speech. This Thai PM is at the bottom of stupidity by saying "Let me overcome Secretary Clinton...." It's a shame for all Thai people who understand English to have such a national leader. Thailand has lost a lot of face. Losing face at a high place is disastrous in terms of national pride...
Tatchai
#92
Posted 17 November 2011 - 22:14
img src=
#93
Posted 17 November 2011 - 22:16
ส่งนางโพยออกมาอ่านภาษาอังกฤษ นอกจากคนไทยที่รู้ว่าเรามีผู้นำโง่ ตอนนี้ต่างชาติก็รู้กันทั่วไปหมดแล้ว โอ๊ยอับอาย
รังเกียจประชาธิปไตยจอมปลอมของระบอบทักษิณ
#94
Posted 17 November 2011 - 22:16
But she's so perfect it. Haๆ
Do you have a bias to it.
Perfect Kindergarten
idiot !!!
I am not good at English, I'm not. !!!!
You were crazy.
ผมไม่ใช้เจ้าของภาษาแค่อย่างลองเล่น นักเรียนนอกนะไม่ใช้ มีแต่นอกกะลา ฮาๆๆ
และเอ็งละบ้า
น้องไปให้กูเกิ้ลแปลมารึไง
You were crazy. น่ะ ไม่ได้แปลว่าเอ็งละบ้าแต่แปลว่า เอ็งเคยบ้า (แต่ตอนนี้ไม่บ้าแล้ว) มันเป็นเรื่องของอดีต
ไอ้ที่น้องพยายามด่า่น่ะ กลายเป็นไม่ได้ด่าอะไรเลย
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#95
Posted 17 November 2011 - 22:37
ไปแปลกันเองนะ ..... เด๋วโดนแบน
#96
Posted 17 November 2011 - 22:43
#97
Posted 17 November 2011 - 22:44
แล้วทำไมนางต้อง Uniteds State บ่อย ๆ ถ้าเข้าใจภาษาอังกฤษเสียนิดหน่อยก็จะพูดไม่ผิดบ่อย ๆ แล้วล่ะ ประเทศสหรัฐอเมริกาคือประเทศที่มีหลาย ๆ รัฐรวมกันเป็นประเทศจึงเป็น The United States of America เรียนจบเมกามาได้ไงวุ้ย......
ส่วนฟังเสียงคำว่า "กิน" ของคำว่า begin ราวกับว่านางอยากจะไปกินแหนมป้าย่นอะไรที่ไหนเลยอ่ะ
รังเกียจประชาธิปไตยจอมปลอมของระบอบทักษิณ
#98
Posted 17 November 2011 - 22:44
อันที่ตลกที่สุดคือ "my government works around the clock" แต่ชีดันออกเสียงว่า "cock"
ไปแปลกันเองนะ ..... เด๋วโดนแบน
รู้แระ ที่มาของคำว่า "เอาอยู่" ฮามากมายค่ะ
รังเกียจประชาธิปไตยจอมปลอมของระบอบทักษิณ
#99
Posted 17 November 2011 - 22:46
#100
Posted 17 November 2011 - 22:49
เด็กมัธยมสายศิลป์-ภาษา สำเนียงยังดีกว่าหล่อนอีก
เงินไม่ช่วยอะไร 555
ชอบเม้นท์นี้ Kentucky state uni alumni!! Really? How much did you pay for your degree?