จะเถียงเอาถ้วย จะแถเอาเท่ห์ ลองพักอ่านข่าวนี้ก่อนละกัน..
เผื่อจะได้เลิกเพ้อเจ้อ 
http://web.parliamen...php?prid=361319
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556
เพื่อไทยส่อยื้อแก้ รธน. ยืดอายุรัฐบาล
โยนมหาวิทยาลัยศึกษาแนวทางแก้ไขให้เสร็จภายใน 45-60 วัน
ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยเสนอรัฐบาลดึงสถาบันการศึกษาคิดแนวทางแก้รัฐธรรมนูญ สรุปภายใน 45-60 วัน ชูศักดิ์ชี้การแก้ไขรายมาตราไม่ใช่เรื่องง่าย
พรรคเพื่อไทย(พท.)ได้จัดสัมมนาใหญ่ ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวานนี้(6 ม.ค.) โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำประชามติ หรือโหวตวาระ 3 แม้จะต้องใช้เวลานาน แต่สุดท้ายแล้วจะต้องได้ข้อยุติ ถึงอย่างไรก็ต้องเดินหน้าต่อ เว้นแต่จะทำไม่ได้ในแง่ของข้อกฎหมาย เนื่องจากอาจจะมีการยื่นตีความอะไรต่างๆ ทำให้การแก้ไขต้องสะดุดลง
อย่างไรก็ตาม หากมองไปที่การแก้ไขแบบรายมาตราก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแค่แตะเรื่องที่มาขององค์กรอิสระ แค่นี้ก็วุ่นวายแล้ว จะต้องมีคนไปร้องศาลอีก ไม่ง่ายแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้แกนนำพรรคเพื่อไทยได้วางยุทธศาสตร์ทางการเมือง ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออก พ.ร.บ.ปรองดอง ไว้คร่าวๆ ว่า ทั้งสองเรื่องจะต้องยื้อออกไปก่อน เพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลไว้ให้นานที่สุด เนื่องจากมีการประเมินว่า ขณะนี้หากรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย พยายามเดินหน้าชนอย่างไรก็ไม่ชนะ
ดังนั้น ถ้ารู้ว่าไม่ชนะ ก็ต้องถอยออกมาก่อน การจะเดินหน้าต่อจะต้องดูสถานการณ์ให้เหมาะสม โดยจะต้องถามความเห็นจากประชาชนและได้รับการยอมรับจากประชาชนผ่านการทำประชามติ ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่า เขาจะได้อะไรจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสัมมนาของพรรคเพื่อไทยในช่วงเย็น หัวข้อ ทางออกประเทศไทย รัฐธรรมนูญต้องเป็นประชาธิปไตย คนไทย ต้องมีความสุข ปรากฏว่ามีการเปิดเผยทางออกในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญออกมาจากแกนนำพรรคเพื่อไทยกลางวงสัมมนาและมีการเปิดโอกาสให้ ส.ส.และสมาชิกพรรคได้อภิปรายแสดงความเห็นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ โดยมีการอภิปรายกันอย่างเข้มข้นต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่นั่งฟังการสัมมนาอยู่ด้วย
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากความเห็นที่ต่างกันของพรรคเพื่อไทยใน 3 แนวทาง คือ การโหวตวาระ 3 การแก้รายมาตรา และการทำประชามติ ขอบอกว่าพรรคได้หาเสียงในช่วงเลือกตั้งจะแก้รัฐธรรมนูญ ตกลงรับปากกับประชาชนเอาไว้ วันนี้เราอยู่ในจุดที่ไม่ว่าจะเลือกการแก้ไขรัฐธรรมนูญทางไหนก็มีข้อโต้แย้งทั้งสิ้น
ก่อนมาสัมมนาได้มีการหารือพูดคุยกัน ก็จะมีการเสนอให้สถาบันการศึกษามาช่วยหาคำตอบเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการ โดยจะขอให้สถาบันวิชาการ คือคณะนิติศาสตร์ ประมาณ 3-4 สถาบัน อย่างจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ รามคำแหง สุโขทัยธรรมาธิราช มาช่วยหาคำตอบให้เราว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรทำอย่างไร
โดยให้มีการระดมให้ประชาชนรับรู้มากที่สุด เป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ไม่ใช่เร่งด่วนที่สุด นี่เป็นทางออกที่ได้หารือกัน ข้อเสนอนี้คือ รัฐบาลยังเดินหน้าต่อไป แต่ให้สถาบันการศึกษามาเกี่ยวข้องมาศึกษาเรื่องนี้ว่าจะแก้ไขอย่างไร แก้แบบไหนภายใน 45-60 วัน โดยให้สถาบันการศึกษาเอาไปบอกประชาชนให้รู้มากที่สุดเป็นกระแสสังคม แนวคิดนี้จะนำเสนอต่อไป แล้วเดินหน้าแนวนี้ไปตลอดทั้งปี
.....หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
โยนมหาวิทยาลัยศึกษาแนวทางแก้ไขให้เสร็จภายใน 45-60 วัน
ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยเสนอรัฐบาลดึงสถาบันการศึกษาคิดแนวทางแก้รัฐธรรมนูญ สรุปภายใน 45-60 วัน ชูศักดิ์ชี้การแก้ไขรายมาตราไม่ใช่เรื่องง่าย
พรรคเพื่อไทย(พท.)ได้จัดสัมมนาใหญ่ ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวานนี้(6 ม.ค.) โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำประชามติ หรือโหวตวาระ 3 แม้จะต้องใช้เวลานาน แต่สุดท้ายแล้วจะต้องได้ข้อยุติ ถึงอย่างไรก็ต้องเดินหน้าต่อ เว้นแต่จะทำไม่ได้ในแง่ของข้อกฎหมาย เนื่องจากอาจจะมีการยื่นตีความอะไรต่างๆ ทำให้การแก้ไขต้องสะดุดลง
อย่างไรก็ตาม หากมองไปที่การแก้ไขแบบรายมาตราก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแค่แตะเรื่องที่มาขององค์กรอิสระ แค่นี้ก็วุ่นวายแล้ว จะต้องมีคนไปร้องศาลอีก ไม่ง่ายแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้แกนนำพรรคเพื่อไทยได้วางยุทธศาสตร์ทางการเมือง ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออก พ.ร.บ.ปรองดอง ไว้คร่าวๆ ว่า ทั้งสองเรื่องจะต้องยื้อออกไปก่อน เพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลไว้ให้นานที่สุด เนื่องจากมีการประเมินว่า ขณะนี้หากรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย พยายามเดินหน้าชนอย่างไรก็ไม่ชนะ
ดังนั้น ถ้ารู้ว่าไม่ชนะ ก็ต้องถอยออกมาก่อน การจะเดินหน้าต่อจะต้องดูสถานการณ์ให้เหมาะสม โดยจะต้องถามความเห็นจากประชาชนและได้รับการยอมรับจากประชาชนผ่านการทำประชามติ ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่า เขาจะได้อะไรจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสัมมนาของพรรคเพื่อไทยในช่วงเย็น หัวข้อ ทางออกประเทศไทย รัฐธรรมนูญต้องเป็นประชาธิปไตย คนไทย ต้องมีความสุข ปรากฏว่ามีการเปิดเผยทางออกในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญออกมาจากแกนนำพรรคเพื่อไทยกลางวงสัมมนาและมีการเปิดโอกาสให้ ส.ส.และสมาชิกพรรคได้อภิปรายแสดงความเห็นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ โดยมีการอภิปรายกันอย่างเข้มข้นต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่นั่งฟังการสัมมนาอยู่ด้วย
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากความเห็นที่ต่างกันของพรรคเพื่อไทยใน 3 แนวทาง คือ การโหวตวาระ 3 การแก้รายมาตรา และการทำประชามติ ขอบอกว่าพรรคได้หาเสียงในช่วงเลือกตั้งจะแก้รัฐธรรมนูญ ตกลงรับปากกับประชาชนเอาไว้ วันนี้เราอยู่ในจุดที่ไม่ว่าจะเลือกการแก้ไขรัฐธรรมนูญทางไหนก็มีข้อโต้แย้งทั้งสิ้น
ก่อนมาสัมมนาได้มีการหารือพูดคุยกัน ก็จะมีการเสนอให้สถาบันการศึกษามาช่วยหาคำตอบเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการ โดยจะขอให้สถาบันวิชาการ คือคณะนิติศาสตร์ ประมาณ 3-4 สถาบัน อย่างจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ รามคำแหง สุโขทัยธรรมาธิราช มาช่วยหาคำตอบให้เราว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรทำอย่างไร
โดยให้มีการระดมให้ประชาชนรับรู้มากที่สุด เป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ไม่ใช่เร่งด่วนที่สุด นี่เป็นทางออกที่ได้หารือกัน ข้อเสนอนี้คือ รัฐบาลยังเดินหน้าต่อไป แต่ให้สถาบันการศึกษามาเกี่ยวข้องมาศึกษาเรื่องนี้ว่าจะแก้ไขอย่างไร แก้แบบไหนภายใน 45-60 วัน โดยให้สถาบันการศึกษาเอาไปบอกประชาชนให้รู้มากที่สุดเป็นกระแสสังคม แนวคิดนี้จะนำเสนอต่อไป แล้วเดินหน้าแนวนี้ไปตลอดทั้งปี
เค้ายื้อกันแล้ว..
