ไม่ได้ผล ผมฟันธง
ทุกวันนี้ หากยังไม่แก้ไขปัญหา ความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ระหว่าง ชาวบ้าน และ ข้าราชการ ก็ยังคงไม่รู้ถึงปัญหาที่แท้จริง
ตามปรัชชา เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา
ทุกวันนี้ บอกตรงๆ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง น่าจะยังไม่เข้าใจ และจะเข้าถึงชาวบ้านได้อย่างไร
อะไรคือ สาเหตุที่แท้จริง ถ้า บอกว่า เป็นการแบ่งแยกดินแดน มันก็ยังไม่ครบองค์ประกอบ มีหลายสาเหตุที่ยังน่าสงสัย
ใครเป็นผู้นำ ที่แท้จริงของฝ่ายโจรก่อการร้าย ก็ยังไม่รู้
ที่สำคัญ หยุด ไม่ให้ปัญหาขยายออกไปได้หรือยัง เจ้าหน้าที่ ที่ลงพื้นที่ไป แน่ใจอย่างไรว่าไม่ไปก่อปัญหา เพิ่ม เหมือนที่ผ่านมา
คำถามที่ว่า ใครเป็นผู้นำที่แท้จริงของฝ่ายโจรก่อการร้าย เป็นปัญหาที่แหลมคม และซับซ้อนครับ แต่ผมมีคำตอบง่ายๆให้
อย่างที่ผ่านๆหูแว่วๆกันมาบ้างว่าทางการมีการติดต่อเจรจากับกลุ่มก่อการร้าย เป็นต้นว่าการได้รับข้อเสนอ 3 ข้อจากกลุ่ม RKK หรือการเปิดการเจราจาทางลับกับ BRN หรือจิปาถะห่าจิกอะไรต่อมิอะไรสารพัด
ผมบอกอย่างนี้ครับ เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ณ.ชั่วโมงปัจจุบัน มันไม่มีหัวหน้ากลุ่มอย่างเป็นทางการแบบที่จะควบคุมกองกำลังติดอาวุธทุกคนให้ปฏิบัติตาม แบบที่สามารถสั่งปุ้บแล้วทุกคนเอาอาวุธมาคืนทางการเลย มันไม่มีแบบนั้น การปฏิบัตการสร้างความรุนแรงในพื้นที่ มันกลายเป็นเรื่องส่วนตัวของประชาชนในพื้นที่เป็นด้านหลัก ที่สั่งสมความโกรธแค้นภาครัฐและเจ้าหน้าที่ ที่ส่งไปจากส่วนกลาง เป็นการรวมตัวกันแบบหลวมๆ ประมาณว่าถ้าใครมีจังหวะเหมาะๆก็ซัดแม่งเลย ประมาณนี้ครับ อันมีสาเหตุของความโกรธแค้นมาจากปี 2546 ตามที่ผมได้บรรยายมาแล้ว
ดังนั้นการจี้จุดลงไปที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น RKK หรือ BRN หรือ พูโลใหม่ ฯลฯ มันก็เลยไร้สาระเหมือนการวิ่งไล่จับเงาตัวเองครับ(ยิ่งกวดฝีเท้าเร็วขึ้นเท่าไหร่ เงามันก็ยิ่งวิ่งหนีเร็วขึ้นในอัตราเดียวกัน) เนื่องจากแต่ละกลุ่มไปจนถึงหน่วยย่อยๆ(มีอยู่สาม-สี่คน แต่มีปืน M 16 หนึ่งกระบอก เวลาจะทำการก็นัดกันสอง-สามกลุ่มย่อย ก็มีอาวุธสงครามหลายกระบอกแล้ว) ซึ่งมันไม่มีอำนาจที่จะไปบังคับกลุ่มอื่นๆให้ปฏิบัติตามได้ กลายเป็นว่าที่ผ่านๆมาที่มีการเจรจานั้น เป็นการโดนหลอกแดรกฟรีครับ
ดังนี้เองจึงกลั่นออกมาเป็นแนวทางปฏิบัติ 12 ข้อ เพื่อยุติความรุนแรงจากทุกหน่วย-ทุกกลุ่มพร้อมๆกัน ตามขั้นตอนหนึ่งสองสามสี่ ....
ท่านเช ไม่สงสัยหรือครับ ว่า สตูล ติดชายแดนทั้งมาเลย์ และลงทะเลได้ทางอันดามัน ทำไมถึงได้สงบเงียบมากไม่มีเหตุรุนแรงเลย
อันนี้อยากรู้เหมือนกันครับ เล่าสู่กันฟังหน่อย
แต่ถ้าให้ผมเดานะ (อันนี้เดาล้วนๆ) สตูลไม่อยู่ในพื้นที่ ที่ประกาศใช้กฏหมายพิเศษ เงื่อนไขในการสร้างความรุนแรง การสร้างแนวร่วมขึ้นในพื้นที่ จึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ กับอีกส่วนหนึ่ง สตูลมีสภาพเศรษฐกิจดีในระดับเดียวกับ ตรัง พังงา กระบี่ ประมาณว่า "ถ้าไม่มีฟืน ต่อให้ขีดไม้ขีดไฟจนหมดกล่อง มันก็จุดไฟไม่ได้" ประมาณนี้ครับ
กับ
ส่วนท่านอื่นจะมีข้อมูลอะไรก็นำมาแชร์กันครับ
ท่านเช คงเข้าใจคำว่า "ทางผ่านและสถานที่หลบภัย" พอสมควร ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างจะคุยด้วยได้ยาวๆ แต่จากการที่ได้ไปอยู่ในพื้นที่มาพอสมควร วันหน้าจะมาชี้แจงประเด็นให้ แต่จะให้เอาเป็นหลักฐาน หรือ ลิงค์ หรือ อื่นๆ คงไม่มี มีแต่คำบอกเล่าจากคนในพื้นที่และสหาย ที่เคยเดินอยู่บนเทือกเขาบรรทัด แถบ ควนกาหลง ครับ
อ๋อ.. อันนี้เคยได้ยินมาบ้างครับ แต่ไม่รู้สิครับ ผมว่ามันไม่ชอบมาพากลเท่าไหร่ พูดกันไปถึงว่ามีหน่วยวินาศกรรมจากประเทศซาอุฯ ใช้เป็นเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ เพราะโดนทางการกดดันในพื้นที่สามจังหวัดชายแดน ใจผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งครับ
คำถามก็คือใครได้ประโยชน์ ถ้าสตูลระเบิดเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งจังหวัด ชาวบ้านในพื้นที่หรือก็คงไม่ใช่ ฝ่ายผู้ก่อการหรือยิ่งไม่ใช่ใหญ่ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่หรือ ไม่รู้สิครับ ผมมีความรู้สึกว่าถ้าสตูลระเบิดขึ้นมาอีกหนึ่งจังหวัด คนที่จะได้ประโยชน์เต็มๆ ก็คือคนเดียวกับที่ได้ประโยชน์จากการที่สามจังหวัดชายแดนใต้ลุกเป็นไฟ
การโยนกำปั้นเหล็กใส่สตูลเพิ่มอีกหนึ่งจังหวัด มันจริงไหมที่จะทำให้ต้องเพิ่มงบลับ แล้วงบลับนี้ก็ไม่รู้ไปเข้ากระเป๋าใคร ยังไม่ต้องพูดถึงการเบิกจ่ายงบประมาณที่ต้องเพิ่มกำลังพลลงไปในพื้นที่สตูลอีก (เบิกมา 10 คน ไปจริงไม่ถึง 5 คน) และรวมไปถึงงบประมาณด้านอื่นๆ ที่ปัจจุบันถูกทุ่มลงไปปีละเป็นหลายหมื่นล้านบาท ถ้ามันปลิวไปเข้ากระเป๋าวอร์ลอร์ดซัก 20% ก็เป็นเงินหลายพันล้านบาท เงินจะนวนนี้มันหอมหวานพอที่จะต้องยื้อให้เกิดความไม่สงบต่อไปเรื่อยๆครับ
ไล่เรียงลำดับมาให้ดูใหม่ ...
กุมพาพันธ์ 2546 ทักษินเริ่มนโยบาย "กำปั้นเหล็ก (อย่างไม่เป็นทางการ)"
มกราคม 2547 เกิด "ยุทธการใบไม้ร่วง" ตอบโต้ทักษิน
พอถึงปี 2548 ทักษินประกาศใช้ "กฎหมายพิเศษ" ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้
และตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 7 - 8 ปี ที่ชาวบ้านแถวนั้นต้องมีชีวิตอยู่อย่างหวาดผวากับ "กฏหมายพิเศษของทักษิน" "กำปั้นเหล็กของทักษิน" และภัยจากการตอบโต้กำปั้นเหล็กของทักษิน อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อเตือนสติคนไทยทั้งชาติว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราไม่เคยใช้ "ถุงมือกำมะหยี่" สำหรับการแก้ปัญหาในพื้นที่นี้เลย
ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราครับ
Edited by เช neverdie, 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:23.