ถ้าตรูเ้ด็ก 12 ตรูว่า ตรูเก่งกว่า*คุณ*ว่ะ
ขนาด*คุณ*อายุเยอะกว่า แต่*คุณ*โคตรโง่เลย
ให้ตรูตบเกรียนอย่าง*คุณ*เล่นทุกวันเลยว่ะ ไอ้กากลี
พอลคุง คนอ่านเขาอ่านเขาดูออกว่าใครตบเกรียนใครอ่ะนะ
1. เช็คช่วยชาติมาจากเงินกู้ไทยเข้มแข็ง
2. US subsidy เกษตรกรเพื่อความมั่นคงด้านอาหาร
3. ชาวนาขายข้าวเปลือกโลละ 15 บาท ต่ำเกินจริง (เมื่อสีแล้วได้ข้าวสารประมาณ 54%) ลองพิจารณากับราคาข้าวถุง 5โล ณ ปัจจุบัน
คุณนี่มั่วเหมือนเด็กฝึกหัดคุย
เพราะหากคุณหาหลักฐานมาแย้งไม่ได้ ว่า รบ.มาร์คไม่ได้เอาเงินกู้มาแจก คุณก็ไม่ควรสรุปเองเพื่อเอาชนะเขานะ
แล้วไอ้ืที่พวกคุณ มั่วว่าเป็นเงินจากกองทุนประกันสังคมน่ะ ไม่ตำหนิกันเองมั่งหล่ะ ทู่เรศมากเลย
แล้วเอาเข้าจริง มันอาจจะใช่เงินกู้ไทยเข้มแข็งจริง! ตามที่คุณประชาธิปดบอกไว้หรือเปล่า??
เพราะมาร์คมันกู้ไทยเข้มแข็งมาไม่นานเอง ต่อมาก็เอามาแจก และมาร์คก็พูดเองว่าเป็นการกระตุ้น
อภิสิทธิ์" ใช้สิทธิ์พาดพิง ชี้ ออก พ.ร.บ.เงินกู้งบไทยเข้มแข็ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เทียบไม่ได้กับครั้ง ที่นำไปลงทุนโครงการอื่นต่อ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นชี้แจงใช้สิทธิ์ถูกพาดพิง ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท โดยระบุว่า การออก พ.ร.บ.เงินกู้ 800,000 ล้านบาท หรือ งบไทยเข้มแข็ง ในช่วงที่ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพราะหนี้สาธารณะในขณะนั้นลดลง ซึ่งเปรียบเทียบไม่ได้กับการออก พ.ร.บ.เงินกู้ ในครั้งนี้ ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่า การออก พ.ร.บ.เงินกู้ ครั้งนี้ เพื่อนำไปลงทุนในโครงการอื่นต่อ พร้อมย้ำว่า โครงการต่าง ๆ ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องกู้เงินมาลงทุน
ขณะเดียวกัน ยังขอให้รัฐมนตรี ชี้แจงตามข้อเท็จจริง อย่าชี้แจงสับสน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลบรรจุข้อเสนอทั้ง 7 ข้อ ที่พรรรคประชาธิปัตย์ เสนอไปก่อนหน้านี้ ลงในร่างกฎหมาย
http://www.bangkokbi...ทยเข้มแข็ง.html
นายวัชระแถลงว่า นายอภิสิทธิ์เคยกล่าวว่า เงินกู้นั้นจะนำไปใช้ใน 7 วัตถุประสงค์ 13 สาขา รวมทั้งสิ้น 231,311 ล้านบาท แบ่งได้ดังนี้
1. สร้างความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานรวมทั้งการอนุรักษ์ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม โดยเป็นสาขาทรัพยากรน้ำและการเกษตร วงเงิน 62,422 ล้านบาท
2. ปรับปรุงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมที่ทันสมัยและจำเป็นต่อการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเป็นสาขาขนส่ง วงเงิน 47,875 ล้านบาท สาขาสวัสดิภาพของประชาชน 4,826 ล้านบาท สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2,636 ล้านบาท สาขาสิ่งแวดล้อม 1,417 ล้านบาท
3. การเร่งรัดและสร้างศักยภาพในการหารายได้จากการท่องเที่ยว สาขาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว วงเงิน 1,159 ล้านบาท สาขาพัฒนาการท่องเที่ยว วงเงิน 2,559 ล้านบาท
4. สร้างรายได้ใหม่ของประเทศจากเศรษฐกิจความคิดสร้างสรรค์หรือเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ สาขาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ วงเงิน 1,379 ล้านบาท
5. ยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ทั้งระบบให้ทันสมัย สาขาการศึกษา วงเงิน 43923 ล้านบาท
6.ปฏิรูประบบคุณภาพสาธารณสุขที่มีมาตรฐานสูงสำหรับคนไทย สาขาด้านสาธารณสุข วงเงิน 31,776 ล้านบาท 7. สร้างอาชีพและรายได้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในระดับชุมชน สาขาการลงทุนในระดับชุมชน วงเงิน 31,339 ล้านบาท
Edited by Tam-mic-ra., 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 06:43.