Jump to content


Photo
- - - - -

"นโยบายจำนำข้าวที่สูงเกินจริง สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้คนไทย"


  • Please log in to reply
424 ความเห็นในกระทู้นี้

#301 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:17

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"  :lol:  :lol:  :lol: 

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี เมิงอ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#302 ประชาธิปด

ประชาธิปด

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 448 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:28

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"  :lol:  :lol:  :lol: 

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ


Edited by ประชาธิปด, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:29.


#303 Shariff

Shariff

    สมาชิกหน้าตาดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,802 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:31

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"  :lol:  :lol:  :lol: 

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

 

 

แล้วไงครับ เงินภาษีแล้วไง

 

ทำมาบ่น  

 

ไอ้จำนำข้าวนั่นก็เงินผม


"การปลดปล่อยตัวเองออกจากความเป็นทาสทางความคิดมิใช่ใครอื่น, มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องกระทำ "จากเพลง Redemption song.

#304 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:31

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"  :lol:  :lol:  :lol: 

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

เมิงก้อเห็นว่า เค้าให้ สำนักงานประกันสังคม เป็นผุ้ดำเนินการทั้งหมด

 

 

มาตรการ “เช็คช่วยชาติ”นั้น นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน  กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยรัฐบาลขออนุมัติเงินจากงบประมาณกลางปี ตามที่หลายหน่วยงานเสนอขอต่อรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยให้ผู้ได้รับเช็ค จะสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

ทางด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านขนาดใหญ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวจนถึงโชห่วย แต่ขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะรับหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์กับบรรดาร้านค้าว่า หากร้านค้าใดต้องการได้เงินตรงนี้ ควรจะจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขาย เพื่อแข่งขันกันตามกลไกตลาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส่วนนพ.พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามกับภาคเอกชน 21 ราย  เช่น ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงภาพยนตร์  ซูเปอร์มาร์เก็ต  โรงพยาบาล  ร้านค้าทั่วไป  เพื่อร่วมโครงการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติและลดราคาสินค้า รวมถึงสามารถทอนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ  นอกจากนี้ ภาคธุรกิจสามารถร่วมลงนามหรืออาจสมัครใจในการรับเช็คจากประชาชนและมีส่วนลดให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เช็คได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการประเมินกันว่าภายในวันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.8 หมื่นล้านจาก “เช็คช่วยชาติ”

 

 

ผู้มีสิทธิ์รับ “เช็คช่วยชาติ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จะแบ่งการจ่ายเช็คเป็น 3 กลุ่ม รวมทั้งหมด 9.7 ล้านราย คือ

1.กลุ่มผู้ประกันตน 8.1 ล้านราย ซึ่งได้แก่ ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทและผู้ประกันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกโดยสมัครใจ และอยู่ระหว่างได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของเงินเดือนเป็นเวลา 8 เดือน ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเช็ค2,000 บาทเช่นกัน ซึ่งจะมีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นผู้รับผิดชอบ

2.กลุ่มข้าราชการเบี้ยหวัดบำนาญ 2.3 แสนราย ทางกรมบัญชีกลางจะรับผิดชอบเอง และ

3.บุคลากรภาครัฐ 1.4 ล้านราย มีส่วนราชการกว่า 300 องค์กรเป็นผู้รับผิดชอบ

 

เมิงอ่านเข้าใจไหมว่ะ


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#305 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:36

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#306 ประชาธิปด

ประชาธิปด

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 448 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:37

 

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"  :lol:  :lol:  :lol: 

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*ก้อเห็นว่า เค้าให้ สำนักงานประกันสังคม เป็นผุ้ดำเนินการทั้งหมด

 

 

มาตรการ “เช็คช่วยชาติ”นั้น นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน  กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยรัฐบาลขออนุมัติเงินจากงบประมาณกลางปี ตามที่หลายหน่วยงานเสนอขอต่อรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยให้ผู้ได้รับเช็ค จะสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

ทางด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านขนาดใหญ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวจนถึงโชห่วย แต่ขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะรับหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์กับบรรดาร้านค้าว่า หากร้านค้าใดต้องการได้เงินตรงนี้ ควรจะจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขาย เพื่อแข่งขันกันตามกลไกตลาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส่วนนพ.พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามกับภาคเอกชน 21 ราย  เช่น ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงภาพยนตร์  ซูเปอร์มาร์เก็ต  โรงพยาบาล  ร้านค้าทั่วไป  เพื่อร่วมโครงการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติและลดราคาสินค้า รวมถึงสามารถทอนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ  นอกจากนี้ ภาคธุรกิจสามารถร่วมลงนามหรืออาจสมัครใจในการรับเช็คจากประชาชนและมีส่วนลดให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เช็คได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการประเมินกันว่าภายในวันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.8 หมื่นล้านจาก “เช็คช่วยชาติ”

 

 

ผู้มีสิทธิ์รับ “เช็คช่วยชาติ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จะแบ่งการจ่ายเช็คเป็น 3 กลุ่ม รวมทั้งหมด 9.7 ล้านราย คือ

1.กลุ่มผู้ประกันตน 8.1 ล้านราย ซึ่งได้แก่ ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทและผู้ประกันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกโดยสมัครใจ และอยู่ระหว่างได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของเงินเดือนเป็นเวลา 8 เดือน ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเช็ค2,000 บาทเช่นกัน ซึ่งจะมีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นผู้รับผิดชอบ

2.กลุ่มข้าราชการเบี้ยหวัดบำนาญ 2.3 แสนราย ทางกรมบัญชีกลางจะรับผิดชอบเอง และ

3.บุคลากรภาครัฐ 1.4 ล้านราย มีส่วนราชการกว่า 300 องค์กรเป็นผู้รับผิดชอบ

 

*คุณ*อ่านเข้าใจไหมว่ะ

 

 

 

คุณไงที่อ่านไม่เข้าใจ

งบประมาณมันคือภาษีผม ไม่ใช่ของสามหน่วยงานที่คุณพูด

ที่เขามอบหมายทั้งสามหน่วย (สปส กรมบัญชีกลาง และส่วนราชการต่าง) เป็น "ผู้รับผิดชอบ" เพราะทั้ง 3 หน่วยมี "ฐานข่้อมูลรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย" ในการแจกเงิน

เขาจึงมอบหมายให้ "เอาเงินไปแจก" 

 

แต่เงินมันเอามาจากงบประมาณ ไม่ใช่เงินของสมาชิกของทั้ง 3 หน่วยงานนั้น

 

ปล. มีใครพอจะมีความอดทนอธิบายให้ไอ้ปัญญาอ่อนตัวนี้เข้าใจหน่อยไหมครับ  :D


Edited by ประชาธิปด, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:38.


#307 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:41

 

 

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"  :lol:  :lol:  :lol: 

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*ก้อเห็นว่า เค้าให้ สำนักงานประกันสังคม เป็นผุ้ดำเนินการทั้งหมด

 

 

มาตรการ “เช็คช่วยชาติ”นั้น นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน  กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยรัฐบาลขออนุมัติเงินจากงบประมาณกลางปี ตามที่หลายหน่วยงานเสนอขอต่อรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยให้ผู้ได้รับเช็ค จะสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

ทางด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านขนาดใหญ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวจนถึงโชห่วย แต่ขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะรับหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์กับบรรดาร้านค้าว่า หากร้านค้าใดต้องการได้เงินตรงนี้ ควรจะจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขาย เพื่อแข่งขันกันตามกลไกตลาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส่วนนพ.พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามกับภาคเอกชน 21 ราย  เช่น ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงภาพยนตร์  ซูเปอร์มาร์เก็ต  โรงพยาบาล  ร้านค้าทั่วไป  เพื่อร่วมโครงการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติและลดราคาสินค้า รวมถึงสามารถทอนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ  นอกจากนี้ ภาคธุรกิจสามารถร่วมลงนามหรืออาจสมัครใจในการรับเช็คจากประชาชนและมีส่วนลดให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เช็คได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการประเมินกันว่าภายในวันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.8 หมื่นล้านจาก “เช็คช่วยชาติ”

 

 

ผู้มีสิทธิ์รับ “เช็คช่วยชาติ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จะแบ่งการจ่ายเช็คเป็น 3 กลุ่ม รวมทั้งหมด 9.7 ล้านราย คือ

1.กลุ่มผู้ประกันตน 8.1 ล้านราย ซึ่งได้แก่ ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทและผู้ประกันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกโดยสมัครใจ และอยู่ระหว่างได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของเงินเดือนเป็นเวลา 8 เดือน ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเช็ค2,000 บาทเช่นกัน ซึ่งจะมีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นผู้รับผิดชอบ

2.กลุ่มข้าราชการเบี้ยหวัดบำนาญ 2.3 แสนราย ทางกรมบัญชีกลางจะรับผิดชอบเอง และ

3.บุคลากรภาครัฐ 1.4 ล้านราย มีส่วนราชการกว่า 300 องค์กรเป็นผู้รับผิดชอบ

 

*คุณ*อ่านเข้าใจไหมว่ะ

 

 

 

คุณไงที่อ่านไม่เข้าใจ

งบประมาณมันคือภาษีผม ไม่ใช่ของสามหน่วยงานที่คุณพูด

ที่เขามอบหมายทั้งสามหน่วย (สปส กรมบัญชีกลาง และส่วนราชการต่าง) เป็น "ผู้รับผิดชอบ" เพราะทั้ง 3 หน่วยมี "ฐานข่้อมูลรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย" ในการแจกเงิน

เขาจึงมอบหมายให้ "เอาเงินไปแจก" 

 

แต่เงินมันเอามาจากงบประมาณ ไม่ใช่เงินของสมาชิกของทั้ง 3 หน่วยงานนั้น

 

ปล. มีใครพอจะมีความอดทนอธิบายให้ไอ้ปัญญาอ่อนตัวนี้เข้าใจหน่อยไหมครับ  :D

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

ปี 52 มันมี  เงินกู้ 800000 ล้าน ในงบ โครงการไทยเข็มแข็งละ เหรอว่ะ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

*คุณ*อ่านให้หมด นะ 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

เค้าเอาเงินจากประกันสังคม คนที่อยู่้ในระบบ มาจ่ายว่ะ


Edited by พอล คุง, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:42.

ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#308 ประชาธิปด

ประชาธิปด

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 448 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:45

 

 

 

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"  :lol:  :lol:  :lol: 

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*ก้อเห็นว่า เค้าให้ สำนักงานประกันสังคม เป็นผุ้ดำเนินการทั้งหมด

 

 

มาตรการ “เช็คช่วยชาติ”นั้น นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน  กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยรัฐบาลขออนุมัติเงินจากงบประมาณกลางปี ตามที่หลายหน่วยงานเสนอขอต่อรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยให้ผู้ได้รับเช็ค จะสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

ทางด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านขนาดใหญ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวจนถึงโชห่วย แต่ขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะรับหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์กับบรรดาร้านค้าว่า หากร้านค้าใดต้องการได้เงินตรงนี้ ควรจะจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขาย เพื่อแข่งขันกันตามกลไกตลาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส่วนนพ.พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามกับภาคเอกชน 21 ราย  เช่น ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงภาพยนตร์  ซูเปอร์มาร์เก็ต  โรงพยาบาล  ร้านค้าทั่วไป  เพื่อร่วมโครงการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติและลดราคาสินค้า รวมถึงสามารถทอนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ  นอกจากนี้ ภาคธุรกิจสามารถร่วมลงนามหรืออาจสมัครใจในการรับเช็คจากประชาชนและมีส่วนลดให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เช็คได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการประเมินกันว่าภายในวันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.8 หมื่นล้านจาก “เช็คช่วยชาติ”

 

 

ผู้มีสิทธิ์รับ “เช็คช่วยชาติ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จะแบ่งการจ่ายเช็คเป็น 3 กลุ่ม รวมทั้งหมด 9.7 ล้านราย คือ

1.กลุ่มผู้ประกันตน 8.1 ล้านราย ซึ่งได้แก่ ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทและผู้ประกันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกโดยสมัครใจ และอยู่ระหว่างได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของเงินเดือนเป็นเวลา 8 เดือน ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเช็ค2,000 บาทเช่นกัน ซึ่งจะมีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นผู้รับผิดชอบ

2.กลุ่มข้าราชการเบี้ยหวัดบำนาญ 2.3 แสนราย ทางกรมบัญชีกลางจะรับผิดชอบเอง และ

3.บุคลากรภาครัฐ 1.4 ล้านราย มีส่วนราชการกว่า 300 องค์กรเป็นผู้รับผิดชอบ

 

*คุณ*อ่านเข้าใจไหมว่ะ

 

 

 

คุณไงที่อ่านไม่เข้าใจ

งบประมาณมันคือภาษีผม ไม่ใช่ของสามหน่วยงานที่คุณพูด

ที่เขามอบหมายทั้งสามหน่วย (สปส กรมบัญชีกลาง และส่วนราชการต่าง) เป็น "ผู้รับผิดชอบ" เพราะทั้ง 3 หน่วยมี "ฐานข่้อมูลรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย" ในการแจกเงิน

เขาจึงมอบหมายให้ "เอาเงินไปแจก" 

 

แต่เงินมันเอามาจากงบประมาณ ไม่ใช่เงินของสมาชิกของทั้ง 3 หน่วยงานนั้น

 

ปล. มีใครพอจะมีความอดทนอธิบายให้ไอ้ปัญญาอ่อนตัวนี้เข้าใจหน่อยไหมครับ  :D

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

ปี 52 มันมี  เงินกู้ 800000 ล้าน ในงบ โครงการไทยเข็มแข็งละ เหรอว่ะ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

*คุณ*อ่านให้หมด นะ 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

เค้าเอาเงินจากประกันสังคม คนที่อยู่้ในระบบ มาจ่ายว่ะ

 

 

คุณพนันกับผมไหมว่ามันเป็นเงินกองทุน (เงินสมทบของคุณเอง)  ไม่ใช่เงินงบประมาณ (ภาษีผมซึ่งไม่ได้รับเช็ค)?



#309 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:46

 

 

 

 

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"  :lol:  :lol:  :lol: 

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*ก้อเห็นว่า เค้าให้ สำนักงานประกันสังคม เป็นผุ้ดำเนินการทั้งหมด

 

 

มาตรการ “เช็คช่วยชาติ”นั้น นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน  กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยรัฐบาลขออนุมัติเงินจากงบประมาณกลางปี ตามที่หลายหน่วยงานเสนอขอต่อรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยให้ผู้ได้รับเช็ค จะสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

ทางด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านขนาดใหญ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวจนถึงโชห่วย แต่ขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะรับหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์กับบรรดาร้านค้าว่า หากร้านค้าใดต้องการได้เงินตรงนี้ ควรจะจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขาย เพื่อแข่งขันกันตามกลไกตลาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส่วนนพ.พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามกับภาคเอกชน 21 ราย  เช่น ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงภาพยนตร์  ซูเปอร์มาร์เก็ต  โรงพยาบาล  ร้านค้าทั่วไป  เพื่อร่วมโครงการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติและลดราคาสินค้า รวมถึงสามารถทอนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ  นอกจากนี้ ภาคธุรกิจสามารถร่วมลงนามหรืออาจสมัครใจในการรับเช็คจากประชาชนและมีส่วนลดให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เช็คได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการประเมินกันว่าภายในวันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.8 หมื่นล้านจาก “เช็คช่วยชาติ”

 

 

ผู้มีสิทธิ์รับ “เช็คช่วยชาติ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จะแบ่งการจ่ายเช็คเป็น 3 กลุ่ม รวมทั้งหมด 9.7 ล้านราย คือ

1.กลุ่มผู้ประกันตน 8.1 ล้านราย ซึ่งได้แก่ ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทและผู้ประกันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกโดยสมัครใจ และอยู่ระหว่างได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของเงินเดือนเป็นเวลา 8 เดือน ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเช็ค2,000 บาทเช่นกัน ซึ่งจะมีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นผู้รับผิดชอบ

2.กลุ่มข้าราชการเบี้ยหวัดบำนาญ 2.3 แสนราย ทางกรมบัญชีกลางจะรับผิดชอบเอง และ

3.บุคลากรภาครัฐ 1.4 ล้านราย มีส่วนราชการกว่า 300 องค์กรเป็นผู้รับผิดชอบ

 

*คุณ*อ่านเข้าใจไหมว่ะ

 

 

 

คุณไงที่อ่านไม่เข้าใจ

งบประมาณมันคือภาษีผม ไม่ใช่ของสามหน่วยงานที่คุณพูด

ที่เขามอบหมายทั้งสามหน่วย (สปส กรมบัญชีกลาง และส่วนราชการต่าง) เป็น "ผู้รับผิดชอบ" เพราะทั้ง 3 หน่วยมี "ฐานข่้อมูลรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย" ในการแจกเงิน

เขาจึงมอบหมายให้ "เอาเงินไปแจก" 

 

แต่เงินมันเอามาจากงบประมาณ ไม่ใช่เงินของสมาชิกของทั้ง 3 หน่วยงานนั้น

 

ปล. มีใครพอจะมีความอดทนอธิบายให้ไอ้ปัญญาอ่อนตัวนี้เข้าใจหน่อยไหมครับ  :D

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

ปี 52 มันมี  เงินกู้ 800000 ล้าน ในงบ โครงการไทยเข็มแข็งละ เหรอว่ะ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

*คุณ*อ่านให้หมด นะ 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

เค้าเอาเงินจากประกันสังคม คนที่อยู่้ในระบบ มาจ่ายว่ะ

 

 

คุณพนันกับผมไหมว่ามันเป็นเงินกองทุน (เงินสมทบของคุณเอง)  ไม่ใช่เงินงบประมาณ (ภาษีผมซึ่งไม่ได้รับเช็ค)?

 

 

 

ตกลงไม่ใช่เงินกู้แล้วรึ..

 

:lol:  :lol:  :lol: 



#310 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:48

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:


Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#311 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:49

 

 

 

 

 

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"  :lol:  :lol:  :lol: 

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*ก้อเห็นว่า เค้าให้ สำนักงานประกันสังคม เป็นผุ้ดำเนินการทั้งหมด

 

 

มาตรการ “เช็คช่วยชาติ”นั้น นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน  กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยรัฐบาลขออนุมัติเงินจากงบประมาณกลางปี ตามที่หลายหน่วยงานเสนอขอต่อรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยให้ผู้ได้รับเช็ค จะสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

ทางด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านขนาดใหญ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวจนถึงโชห่วย แต่ขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะรับหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์กับบรรดาร้านค้าว่า หากร้านค้าใดต้องการได้เงินตรงนี้ ควรจะจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขาย เพื่อแข่งขันกันตามกลไกตลาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส่วนนพ.พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามกับภาคเอกชน 21 ราย  เช่น ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงภาพยนตร์  ซูเปอร์มาร์เก็ต  โรงพยาบาล  ร้านค้าทั่วไป  เพื่อร่วมโครงการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติและลดราคาสินค้า รวมถึงสามารถทอนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ  นอกจากนี้ ภาคธุรกิจสามารถร่วมลงนามหรืออาจสมัครใจในการรับเช็คจากประชาชนและมีส่วนลดให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เช็คได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการประเมินกันว่าภายในวันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.8 หมื่นล้านจาก “เช็คช่วยชาติ”

 

 

ผู้มีสิทธิ์รับ “เช็คช่วยชาติ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จะแบ่งการจ่ายเช็คเป็น 3 กลุ่ม รวมทั้งหมด 9.7 ล้านราย คือ

1.กลุ่มผู้ประกันตน 8.1 ล้านราย ซึ่งได้แก่ ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทและผู้ประกันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกโดยสมัครใจ และอยู่ระหว่างได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของเงินเดือนเป็นเวลา 8 เดือน ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเช็ค2,000 บาทเช่นกัน ซึ่งจะมีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นผู้รับผิดชอบ

2.กลุ่มข้าราชการเบี้ยหวัดบำนาญ 2.3 แสนราย ทางกรมบัญชีกลางจะรับผิดชอบเอง และ

3.บุคลากรภาครัฐ 1.4 ล้านราย มีส่วนราชการกว่า 300 องค์กรเป็นผู้รับผิดชอบ

 

*คุณ*อ่านเข้าใจไหมว่ะ

 

 

 

คุณไงที่อ่านไม่เข้าใจ

งบประมาณมันคือภาษีผม ไม่ใช่ของสามหน่วยงานที่คุณพูด

ที่เขามอบหมายทั้งสามหน่วย (สปส กรมบัญชีกลาง และส่วนราชการต่าง) เป็น "ผู้รับผิดชอบ" เพราะทั้ง 3 หน่วยมี "ฐานข่้อมูลรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย" ในการแจกเงิน

เขาจึงมอบหมายให้ "เอาเงินไปแจก" 

 

แต่เงินมันเอามาจากงบประมาณ ไม่ใช่เงินของสมาชิกของทั้ง 3 หน่วยงานนั้น

 

ปล. มีใครพอจะมีความอดทนอธิบายให้ไอ้ปัญญาอ่อนตัวนี้เข้าใจหน่อยไหมครับ  :D

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

ปี 52 มันมี  เงินกู้ 800000 ล้าน ในงบ โครงการไทยเข็มแข็งละ เหรอว่ะ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

*คุณ*อ่านให้หมด นะ 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

เค้าเอาเงินจากประกันสังคม คนที่อยู่้ในระบบ มาจ่ายว่ะ

 

 

คุณพนันกับผมไหมว่ามันเป็นเงินกองทุน (เงินสมทบของคุณเอง)  ไม่ใช่เงินงบประมาณ (ภาษีผมซึ่งไม่ได้รับเช็ค)?

 

 

 

ตกลงไม่ใช่เงินกู้แล้วรึ..

 

:lol:  :lol:  :lol: 

 

 

ไปไม่ไหว เริ่มเปลี่ยนเรื่องเป็นเงินงบประมาณไปละ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#312 ประชาธิปด

ประชาธิปด

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 448 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:55

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้ คือ 1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน 18-19 โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ พนักงานราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม 2,328 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป



#313 ประชาธิปด

ประชาธิปด

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 448 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:57

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้ คือ 1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน 18-19 โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ พนักงานราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม 2,328 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป

 

 

 

พอลคุงกับผู้มีรายได้น้อยในตอนปี 52 ซึ่งรับเช็คช่วยชาติไปและยืนยันว่าเป็นเงินของกองทุน (ซึ่งเกิดจากการสมทบของคุณเอง) ไม่ใช่เงินกู้กับเงินภาษีแม่ค้าร้านข้าวมันไก้

 

มาพนันกับผมดีกว่า

 

หากผมผิด ผมจะไปจากบอร์ดนี้ทันที

 

หากคุณผิด ช่วยเอาเงิน 2,000 บาทไปคืนแม่ค้าร้านข้าวแกงร้านไหนก็ได้

 

ก้าวออกมาเลยครับ


Edited by ประชาธิปด, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:57.


#314 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:58

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้ คือ 1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน 18-19 โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ พนักงานราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม 2,328 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป

 

 

http://www.thaigoodg...vity.php?id=583

 

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งงบกลางมาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจยกแรก 1.167 แสนล้านบาทในงบประมาณปี 2552 ซึ่งงบก้อนนี้อยู่ในการบริหารจัดการของพรรคประชาธิปัตย์เป็นส่วนใหญ่ คือ 7.4 หมื่นล้านบาท และเกือบทุกโครงการเป็นโครงการที่ล้วนแต่ได้ชื่อว่าประชานิยม ได้แก่
 

โครงการช่วยเหลือบุคลากรภาครัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท ใช้งบ 2,652 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการค่าใช้จ่ายเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน 6,900 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทต่อผู้ประกันตน จำนวน 8,138,815 คน,โครงการ 5 มาตรการ 6 เดือนเพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะต้องจ่ายงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวม 11,409 ล้านบาท,โครงการเรียนฟรี 15 ปี ใช้งบประมาณ 2.46 หมื่นล้านบาท,โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน 15,200 ล้านบาท,โครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยให้กับข้าราชการตำรวจชั้นประทวน 1,808 ล้านบาท,โครงการปรับปรุงสถานีอนามัย 1,095 ล้านบาท

 

โครงการไทยเข้มแข็งนี้มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (2533-2555)โดยจะใช้งบมาจาก 3 ส่วนได้แก่ งบประมาณปี 2553 จำนวน 613,855 ล้านบาท เงินกู้จากพ.ร.ก.และพ.ร.บ. 8แสนล้านจำนวน 692,244 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 260,768 ล้านบาท อีกทั้งในปี 2554-2555 จะมีการใช้งบประมาณประจำปี 2554 และ 2555 มารวมด้วย จึงทำให้งบก้อนนี้เป็นงบก้อนใหญ่มหึมาและผูกพันเป็นระยะเวลาถึง 3 ปี
       
       แผนงานโครงการไทยเข้มแข็งนี้มีทั้งหมด 13 หมวด ได้แก่ สาขาทรัพยากรน้ำและการเกษตร,สาขาขนส่ง/โลจิสติกส์,สาขาพลังงาน,สาขาการสื่อสาร,สาขาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว,สาขาพัฒนาบุคลากรด้านสาธารณสุข,สาขาการศึกษา,สาขาสวัสดิภาพของประชาชน,สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี,สาขาสิ่งแวดล้อม,สาขาพัฒนาการท่องเที่ยว,สาขาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และสาขาการลงทุนในระดับชุมชน โดยเงินลงทุนที่ต้องการในปี 2552-2553 มีจำนวน 235,720 ล้านบาท และวงเงินลงทุนที่ต้องการในปี 2554-2555 มีจำนวน 685,796 ล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จแล้วเป็นจำนวนมากถึง 921,516 ล้านบาท โดยรัฐบาลประกาศว่าจะนำไปใช้ในโครงการขนาดเล็กได้มากถึง 6,000 โครงการ

 

"พอลคุงกับผู้มีรายได้น้อยในตอนปี 52 ซึ่งรับเช็คช่วยชาติไปและยืนยันว่าเป็นเงินของกองทุน (ซึ่งเกิดจากการสมทบของคุณเอง) ไม่ใช่เงินกู้กับเงินภาษีแม่ค้าร้านข้าวมันไก้

 

มาพนันกับผมดีกว่า

 

หากผมผิด ผมจะไปจากบอร์ดนี้ทันที

 

หากคุณผิด ช่วยเอาเงิน 2,000 บาทไปคืนแม่ค้าร้านข้าวแกงร้านไหนก็ได้

 

ก้าวออกมาเลยครับ"

 

แล้วถ้าคุณแพ้จะเลิกล้อกอิน "Mark lover" ไปด้วยไหม การกู้เพื่อชดเชยงบประมาณนั้น โดยปรกติทุกรัฐบาล ก็ทำอยู่ประจำอยู่แล้วหากเงินหมุนเวียนไม่ทันจ่าย รอเงินจากการเก็บภาษี (1) เอามาพูดได้ เขาทำกันทุกรัฐบาลโว้ย  ได้กู้จริงหรือไม่ เพราะบางครั้งเงินภาษีเก็บได้พอก่อนได้ใช้เงิน ก็ไม่มีการกู้ หรือ การสว๊อปเงินกันระหว่างธนาคารของรัฐ 

 

"(1) ส่วนกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้า เนื่องจากปีนี้ มีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ส่งผลให้ 11 เดือนของปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.32 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 95,860 ล้านบาท หรือ 6.8% และต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 205, 000 ล้านบาท หรือ 13.4% ซึ่งทั้ง 3 กรมภาษีจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการนำส่งรายได้เข้าคลังของรัฐวิสาหกิจก็ต่ำกว่าเป้าด้วย"


 

ที่เขาพูดกันมันเงินกู้ พรก. และพรบ.ไม่ใช่หรือ จะแถอีกล่ะซิ แบบนี้เองบอกว่าเอาเงินกู้มาใช้กันทุกรัฐบาลเลยว่ะ

 

เอาข่าวมาครึ่งเดียวอีกแล้ว
 

นายบัณฑูร   สุภัควณิช   ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า  งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน  18-19  โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ  วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ  2,000  บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ   พนักงานราชการ   กำนัน  และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม  2,328  ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ  3  ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป มนุษย์เงินเดือน 8 ล้านคนยิ้ม

นายไพฑูรย์  แก้วทอง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  กล่าวว่า  ครม.ได้เห็นชอบให้ใช้งบกลางปี  1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกันตนที่มีเงินเดือนไม่เกิน 1.4 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งมีทั้งสิ้น  8 ล้านคน  จากผู้ประกันตนกว่า  9  ล้านคน จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพรายละ 2,000 บาท  (ครั้งเดียวในรอบมาตรการ  6 เดือน) และโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน วงเงิน 6,900 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จะเบิกจ่ายได้ทันทีหากมีการอนุมัติเบิกจ่ายงบกลางปี


Edited by Stargate-1, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:48.

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#315 ประชาธิปด

ประชาธิปด

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 448 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:00

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้ คือ 1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน 18-19 โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ พนักงานราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม 2,328 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป

 

 

http://www.thaigoodg...vity.php?id=583

 

โครงการช่วยเหลือบุคลากรภาครัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท ใช้งบ 2,652 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการค่าใช้จ่ายเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน 6,900 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทต่อผู้ประกันตน จำนวน 8,138,815 คน,โครงการ 5 มาตรการ 6 เดือนเพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะต้องจ่ายงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวม 11,409 ล้านบาท,โครงการเรียนฟรี 15 ปี ใช้งบประมาณ 2.46 หมื่นล้านบาท,โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน 15,200 ล้านบาท,โครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยให้กับข้าราชการตำรวจชั้นประทวน 1,808 ล้านบาท,โครงการปรับปรุงสถานีอนามัย 1,095 ล้านบาท
 

 

 

 

STARGATE ตอนนั้นรับเช็คด้วยหรือเปล่า

 

ลงชื่อพนันกับผมได้เลยครับ  :D


Edited by ประชาธิปด, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:00.


#316 ประชาธิปด

ประชาธิปด

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 448 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:03

อภิประชานิยมเปลี่ยนฐานคะแนน!ทุ่มแสนล.แจกเงินสด2พันหัว

14 มกราคม 2552    กองบรรณาธิการ

เงินผันยุคศตวรรษที่ 21 "ซานตามาร์ค" ทุ่มเงินอนาคตสร้างฝัน เคาะตัวเลขงบกลางปี 1.15 แสนล้าน แจกสะบัด 18 โครงการใหญ่ พร้อมกันงบกว่า 2,000 ล้านไว้สำรอง

อ้างผลวิจัยทั่วโลกจ่ายเงินถึงมือประชาชนเห็นผลชัดกว่าทำโครงการ เผยกระทรวงในมือ ปชป.กวาดงบสูงสุด ทั้ง "ศึกษาธิการ-แรงงาน"  เอาใจมนุษย์เงินเดือน-ขรก.สุดลิ่ม  แจกเงินสด  2,000  บาทต่อราย คนแก่ได้ 500 บาท เห็นชอบเพิ่มเงินค่าตำแหน่ง "กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน" เท่าตัว นายกฯ ย้ำพาณิชย์กวดขันราคาสินค้าให้ลงตามน้ำมัน ประเมินอายุรัฐบาล 3 ปีละเลงงบ 7 ล้านล้านบาท

เมื่อวันที่  13  มกราคม ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีวาระหลักคือ การอนุมัติกรอบแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านงบประมาณกลางปี  โดยนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวภายผลการประชุมว่า  ครม.ได้อนุมัติแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจตามที่ ครม.เศรษฐกิจได้เห็นชอบมาตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.  และเห็นชอบงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมกลางปีงบประมาณ  2552  วงเงินทั้งสิ้น 115,000 ล้านบาท โดยมาตรการดังกล่าวใช้หลักที่ว่า ฟื้นเศรษฐกิจได้เร็ว ตรง และได้ผลที่สุด ซึ่งคือหามาตรการเพิ่มเงินในกระเป๋าให้กับประชาชน     

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า  เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้  คือ  1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท


Edited by ประชาธิปด, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:06.


#317 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:23

สำหรับผู้ประกันตน ส่วนมากก็พนักงานบริษัท ลูกจ้าง มีรายได้แน่นอนเป็น รายเดือน รายครึ่งเดือน

เมื่อได้เงินไปจะมีแนวโน้มนำเงินไปซื้อสินค้า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

มากกว่าชาวนาชาวสวน หากได้เงินไปแล้วอาจจะนำไปเก็บ

ไปออมใช้เมื่อยามจำเป็น การกระตุ้นเศรษฐกิจก็อาจไม่ได้ผลเท่าที่ควรจะเป็น

 

อีกอย่าง เช็ค 2000 บาทที่จ่ายครั้งเดียวเรียกว่า สุดลิ่มทิ่มประตู

แต่เบี้ยยังชีพข้าราชการเท่าไหร่ที่จ่ายไปและไม่ใช่ครั้งเดียวเรียกกว่าอะไรดี

 

ปกติงบประมาณตั้งมาปีละ 2 ล้านล้านขึ้นอยู่แล้ว

3 ปี 7 ล้านล้านกลับมองว่าแปลก

 

คนเขียนบทความนี้วันนี้หากได้อ่าน บทความของตนอีกครั้ง

แล้วจะเขียนอะไรเกี่ยวกับรัฐบาลปูเมื่อครบรอบสามปี

ว่าใช้เงินไปเท่าไหร่แบบนี้บ้างหรือเปล่าหนอ


Edited by phoosana, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:30.

We love fender.

#318 ประชาธิปด

ประชาธิปด

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 448 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:27

อภิประชานิยมเปลี่ยนฐานคะแนน!ทุ่มแสนล.แจกเงินสด2พันหัว

14 มกราคม 2552    กองบรรณาธิการ

เงินผันยุคศตวรรษที่ 21 "ซานตามาร์ค" ทุ่มเงินอนาคตสร้างฝัน เคาะตัวเลขงบกลางปี 1.15 แสนล้าน แจกสะบัด 18 โครงการใหญ่ พร้อมกันงบกว่า 2,000 ล้านไว้สำรอง

อ้างผลวิจัยทั่วโลกจ่ายเงินถึงมือประชาชนเห็นผลชัดกว่าทำโครงการ เผยกระทรวงในมือ ปชป.กวาดงบสูงสุด ทั้ง "ศึกษาธิการ-แรงงาน"  เอาใจมนุษย์เงินเดือน-ขรก.สุดลิ่ม  แจกเงินสด  2,000  บาทต่อราย คนแก่ได้ 500 บาท เห็นชอบเพิ่มเงินค่าตำแหน่ง "กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน" เท่าตัว นายกฯ ย้ำพาณิชย์กวดขันราคาสินค้าให้ลงตามน้ำมัน ประเมินอายุรัฐบาล 3 ปีละเลงงบ 7 ล้านล้านบาท

เมื่อวันที่  13  มกราคม ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีวาระหลักคือ การอนุมัติกรอบแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านงบประมาณกลางปี  โดยนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวภายผลการประชุมว่า  ครม.ได้อนุมัติแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจตามที่ ครม.เศรษฐกิจได้เห็นชอบมาตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.  และเห็นชอบงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมกลางปีงบประมาณ  2552  วงเงินทั้งสิ้น 115,000 ล้านบาท โดยมาตรการดังกล่าวใช้หลักที่ว่า ฟื้นเศรษฐกิจได้เร็ว ตรง และได้ผลที่สุด ซึ่งคือหามาตรการเพิ่มเงินในกระเป๋าให้กับประชาชน     

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า  เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้  คือ  1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

 

 

 

ผู้มีรายได้น้อยใน สรท ที่รับเช็คช่วยชาติไปในปี 52 โดยตู่เอาว่าเป็นเงินสมทบกองทุนของตัวเอง แล้วไม่นำไปคืนแม่ค้าขายข้าวแกง หรือแม่ค้าขายข้าวมันไก่
 
ขอให้ขี้ไหลจู๊ดๆ ครับ  :D 


#319 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:29

 

 

แก้ไข โพสต์ผิด...  

 

แมงหวี่555บ้าบอ มันตอมไปตอมมา  เล่นเอา งง เลย :D

 

 

เอ็งงง หรือ เอ็งโง่ ว๊ะนังแต๋ม เพิ่งเข้ามาแท้ ๆ

 

.หรือเอ็งเขียนไปแล้วไม่แน่ใจ กลัวโดนอีก

 

หรือว่าเอ็งกำลังเขียนด้วยล้อคอินอื่นไปด้วยเลยงง

 

เอาให้ชัด.

 

 

 

:lol: 

 

 

 

ไอ่บ๊องส์เอ๊ยย   ก็มันผิดกระทู้ก็แค่นั้น     มารู้ได้ไงว่าเล่นหลายล๊อคอินวะ  มั่วๆๆ :unsure:

 

 

 

ตกลงเอ็งนึกออกยังว่าตั้งใจจะโพสต์ทู้ไหน

 

:lol: 



#320 -3-

-3-

    ตัวละครลับ

  • Moderators
  • 8,707 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:30

มันเริ่มไปไกลจากนโยบายจำนำข้าวแล้วนะครับ...

 

แต่ถ้าท่าน จขกท ยังไม่ว่าอะไร ผมก็นั่งดูต่อไป  B)


"I want you to form a contract with me and become magical girls!" - kyubey
 
/人 ‿‿ ◕人\

#321 ประชาธิปด

ประชาธิปด

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 448 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:31

มันเริ่มไปไกลจากนโยบายจำนำข้าวแล้วนะครับ...

 

แต่ถ้าท่าน จขกท ยังไม่ว่าอะไร ผมก็นั่งดูต่อไป  B)

 

อ๊ะ!!! รู้นะคิดไรอยู่  :D



#322 -3-

-3-

    ตัวละครลับ

  • Moderators
  • 8,707 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:33

 

มันเริ่มไปไกลจากนโยบายจำนำข้าวแล้วนะครับ...

 

แต่ถ้าท่าน จขกท ยังไม่ว่าอะไร ผมก็นั่งดูต่อไป  B)

 

อ๊ะ!!! รู้นะคิดไรอยู่  :D

 

 

ผมกำลังคิดอะไรเหรอครับ?  :lol:


"I want you to form a contract with me and become magical girls!" - kyubey
 
/人 ‿‿ ◕人\

#323 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:34

มันเริ่มไปไกลจากนโยบายจำนำข้าวแล้วนะครับ...

 

แต่ถ้าท่าน จขกท ยังไม่ว่าอะไร ผมก็นั่งดูต่อไป  B)

 

 

 

ผมดึงกลับแล้วแต่มันไม่กลับทำไงได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นังแต๋มรึ...

 

ตกลง เก่งอังกฤษ ลองบอกหน่อยดิ subsidy มันหมายถึงอะไรอ่ะ

 

ผมสับสน

 

:lol: 

 

 

อ้าว เวรกรรม   :unsure:

ถามแบบนี้เท่ากับ กระทู้นี้เริ่มต้นใหม่เลย  ต้องนับหนึ่งใหม่เลย 

บอกว่าให้ไปเล่นลูกข่างก่อนก็ไม่ฟัง เฮ้อ...ๆ

 

ไปถามคุณประชาธิปดโน่น เขาเป็นคนแรกที่ยกมา 

เคยอ่านเนื้อกระทู้เขาก่อนบ้างหรือป่าว    ก่อนมาโพสต์อะไรฮาๆน่ะ

 

 

ตกลงเอ็งรู้ป่าว..ถ้ารู้ก็ตอบ

 

ถ้าโง่มากไม่รู้ ก็อยู่เฉย ๆ ก็ได้

 

ทู้นี่ผู้ใหญ่เค้าคุยกัน เอ็งมันพวกผีข้างบ่อน กระจอก

 

ระดับเอ็งต้องไปเถียงกับไอ้ฟัดโน่น

 

ข้าไม่ได้กำลังวน ข้ากำลังจะปิดทู้

 

รอขี้แพ้มาตอบ..

 

แต่สงสัยขี้แพ้ มันก็พ่นไปงั้น เอาเข้าจริงไม่กล้าตอบ

 

ไม่งั้นมันคงมาอธิบายแล้่ว

 

ส่วนเอ็งนังแต๋ม ข้ายังฮาไม่หายเลยว่ะ

 

กลับไปอ่านเอาเองล่ะกัน

:lol:

 

http://webboard.seri...e-4#entry829639

 

 

 

เห็นม่ะนังแต๋ม ข้าบอกแล้ว ไอ้ขี้แพ้ มันไม่กล้าอธิบายคำว่า Subsidy

 

มันคงรู้แล้วล่ะ ว่าข้าจับได้ว่ามันมั่วมาให้พวกโง่ ๆ อย่างเอ็งตบมือกัน

 

 

 

:lol: 

 

 

:D


  • -3- likes this

#324 ประชาธิปด

ประชาธิปด

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 448 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:37

 

 

มันเริ่มไปไกลจากนโยบายจำนำข้าวแล้วนะครับ...

 

แต่ถ้าท่าน จขกท ยังไม่ว่าอะไร ผมก็นั่งดูต่อไป  B)

 

อ๊ะ!!! รู้นะคิดไรอยู่  :D

 

 

ผมกำลังคิดอะไรเหรอครับ?  :lol:

 

 

 

ไม่บอกหรอก  :D

 

ว่าแต่ว่า ตอนนั้น mod -3- ไปรับเช็คช่วยชาติกับเขาด้วยหรือเปล่าครับ

 

ปล> พอลคุงหนีไปเลย สงสัยกลัวผมทวงตังค์คืน 2,000  :D

 

พอลคุง ไม่ต้องกลัวหรอก ผมไม่ทวงตังค์คุณหรอก

 

หากคุณอยากคืน เอาไปคืนแม่ค้าร้านไหนก็ได้ครับ

 

พอดีผมมีธุระ ว่างๆ จะเข้ามาคุยใหม่

 

ไปหล่ะ


Edited by ประชาธิปด, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:40.


#325 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:54

 

 

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้ คือ 1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน 18-19 โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ พนักงานราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม 2,328 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป

 

 

http://www.thaigoodg...vity.php?id=583

 

โครงการช่วยเหลือบุคลากรภาครัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท ใช้งบ 2,652 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการค่าใช้จ่ายเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน 6,900 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทต่อผู้ประกันตน จำนวน 8,138,815 คน,โครงการ 5 มาตรการ 6 เดือนเพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะต้องจ่ายงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวม 11,409 ล้านบาท,โครงการเรียนฟรี 15 ปี ใช้งบประมาณ 2.46 หมื่นล้านบาท,โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน 15,200 ล้านบาท,โครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยให้กับข้าราชการตำรวจชั้นประทวน 1,808 ล้านบาท,โครงการปรับปรุงสถานีอนามัย 1,095 ล้านบาท
 

 

 

 

STARGATE ตอนนั้นรับเช็คด้วยหรือเปล่า

 

ลงชื่อพนันกับผมได้เลยครับ  :D

 

 

ได้เลย แต่ต้องเป็นเงินกู้จากพรก.และพรบ.ที่พวกเสื้อแดงชอบกล่าวหานะ ว่ากู้เงินพรก.มาให้เช็คช่วยชาติ ตกลงไหม เงินกู้ที่เอามาชดเชยการเก็บภาษีไม่ทัน ไม่ได้ตามเป้าในเดือนนั้น ไม่เอานะ
 

แล้วถ้าคุณแพ้จะเลิกล้อกอิน "Mark lover" ไปด้วยไหม การกู้เพื่อชดเชยงบประมาณนั้น โดยปรกติทุกรัฐบาล ก็ทำอยู่ประจำอยู่แล้วหากเงินหมุนเวียนไม่ทันจ่าย รอเงินจากการเก็บภาษี (1) เอามาพูดได้ เขาทำกันทุกรัฐบาลโว้ย  ได้กู้จริงหรือไม่ เพราะบางครั้งเงินภาษีเก็บได้พอก่อนได้ใช้เงิน ก็ไม่มีการกู้ หรือ การสว๊อปเงินกันระหว่างธนาคารของรัฐ

"(1) ส่วนกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้า เนื่องจากปีนี้ มีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ส่งผลให้ 11 เดือนของปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.32 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 95,860 ล้านบาท หรือ 6.8% และต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 205, 000 ล้านบาท หรือ 13.4% ซึ่งทั้ง 3 กรมภาษีจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการนำส่งรายได้เข้าคลังของรัฐวิสาหกิจก็ต่ำกว่าเป้าด้วย"

 

"วงเงินที่ว่านั้นจะต้องทำเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 เสนอให้รัฐสภาเห็นชอบเสียก่อนถึงจะนำไปใช้ได้
เพราะฉะนั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมตามสมควรในขั้นตอนของรัฐสภา แต่จะไม่มีการปรับเพิ่มปรับลดวงเงินดังกล่าว เพียงแต่ว่าจะเกลี่ยไปที่ไหนอย่างไรตามการต่อรองอย่างดุเดือดเผ็ดร้อนต่อไป
แม้จะมีวงเงินที่จะจ่ายได้ 115,000 ล้านบาท แต่ก็ต้องบอกเสียก่อนว่า จ่ายได้จริงๆ เพียงแค่
95,860 ล้านบาท เท่านั้น เพราะมีรายการจ่ายชดเชยเงินคงคลังที่มีการเบิกมาใช้จ่ายไปก่อนหน้านี้ 19,140 ล้านบาท รวมอยู่ด้วย
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าเงินจำนวนประมาณ 95,860 ล้านบาท ซึ่งตามหลักการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนั้น จะต้องไม่เป็นงบผูกพันข้ามปี และต้องเร่งรัดเบิกจ่ายให้หมดภายในระยะเวลา
ในกรณีนี้ ถ้าหากเริ่มใช้เงินได้จริงประมาณต้นเดือนเมษายน ก็จะมีเวลาใช้ให้หมดเกลี้ยงภายในเดือนกันยายน หรือ 6 เดือน
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีข้อสงสัยว่าทำไมโครงการที่จะต้องทำอะไรใช้เวลามากและเสียเวลาใน เรื่องขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง จึงไม่ได้อยู่ในรายการใช้จ่ายที่ว่า แต่จะไปอยู่ในก๊อกถัดไปแทน
คราวนี้ถ้าหากลองแยกแยะดูสักนิดว่า เงินกระจัดกระจายไปที่ไหนกันบ้าง คงต้องแยกออกเป็นสองก้อนใหญ่ๆ
ก้อนแรก มีเม็ดเงินเกี่ยวข้องประมาณ 37,465 ล้านบาทนั้น มุ่งไปที่การฟื้นฟูและเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ
งบแจกเงินหลักๆ ที่พูดกันมากเรื่องช่วยเหลือค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายประเภทไฟฟ้า น้ำประปา รถเมล์ และรถไฟฟรี จะอยู่ในเงินก้อนนี้เป็นสำคัญ
ก้อนที่สอง มีเม็ดเงินเกี่ยวข้องประมาณ 56,004 ล้านบาท มุ่งการสร้างรายได้และความมั่นคงทางด้านสังคม จะมีทั้งแจกเงินและจัดสรรเงินอุดหนุนให้ไปต่อยอดทำอะไรเพิ่มเติม
สำหรับก้อนเล็กๆ ที่คล้ายกับเป็นเงินที่คอยจุนเจือในกรณีติดขัดทำนองจำเป็นเร่งด่วนสำรองจ่ายไปก่อนนั้น ตกประมาณ 2,392 ล้านบาท
บอกเสียก่อนเลยว่างานนี้เอาด้วยครับ
ผมเคยเรียนไปแล้วว่า นาทีนี้ยังไงๆ ก็หนีไม่พ้นรายการประเภทฉีดเงินตรงแบบเจาะกลุ่มชัดเจน ทำง่ายเงินไปเร็ว เพราะนาทีนี้ไม่ใช่เรื่องการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจด้วยโครงการลง ทุนขนาดใหญ่เพราะจะใช้เวลามาก กว่าถั่วจะสุกงาจะไหม้เสียหมด
คิดอ่านกันได้ขนาดนี้ก็ถือว่าสอบผ่านแล้วครับ
ขออนุญาตพูดถึงเม็ดเงินที่จะจ่ายขาด ที่เข้าข่ายยืนกลางสี่แยกแจกเงินบางก้อนเสียก่อนอย่างเช่น
ค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท จ่ายขาดให้กับลูกจ้างที่อยู่ในระบบกองทุนประกันสังคมที่มีเงินเดือนน้อยกว่า 14,000 บาท จำนวน 8.09 ล้านคน จากจำนวนทั้งหมดประมาณ 9.3 ล้านคน และข้าราชการลูกจ้างภาครัฐประมาณ 1.47 ล้านคน
สรุปแจกเงิน 18,900 ล้าน มีคนได้ประโยชน์ประมาณ 9.5 ล้านคน"
รายการแจกเงินถึงตัวรายการที่สอง คือ เบี้ยยังชีพสำหรับผู้ชราภาพซึ่งในบ้านเราปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 7 ล้านคน ปัจจุบันผู้ชราและผู้ที่พิการได้รับความช่วยเหลือไปเรียบร้อยแล้วประมาณ 2 ล้านคน ยังเหลืออีก 5 ล้านคน ที่จะอยู่ในข่ายได้เบี้ยยังชีพ แต่ยังไม่มีการจัดสรรให้
งานนี้จะมีการแจกเงินให้เพิ่มเติมอีก 3 ล้านคน แจกให้เดือนละ 500 บาทต่อคนเป็นระยะเวลาแค่ 6 เดือน รวมเป็นเงินประมาณ 9,000 ล้านบาท
ผมเข้าใจว่าไม่ได้แจกตลอดไปเป็นลักษณะผูกพันเหมือนกับคนเก่าที่ลงทะเบียนรับเงินเป็นประจำอยู่แล้ว
น่าเสียดายว่ายังมีคนแก่ที่ไม่ได้รับอานิสงส์ครั้งนี้เหลืออีกมากพอสมควร และที่สำคัญ คือ ไม่ได้รับแบบถาวรจนเสียชีวิต

 

เองว่าเงินที่จ่ายเช็ค 2,000 นี้ อยู่ใน 18,900 ล้านนี้ไหมว่ะ ถ้าใช่ ข้าขอรับคำท้าว่ะ เองอย่ารีบเปิดตูดไปไหนนะ เหมือนกระทู้เขาพระวิหาร แบน 1 เดือน มันหลอกข้าครั้งหนึ่งแล้ว


Edited by Stargate-1, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:27.

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#326 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:58

ผมไม่ได้รับ ครับ หึหึ ออกตัวไว้ก่อน :D


We love fender.

#327 -3-

-3-

    ตัวละครลับ

  • Moderators
  • 8,707 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 15:58

 

ไม่บอกหรอก  :D

 

ว่าแต่ว่า ตอนนั้น mod -3- ไปรับเช็คช่วยชาติกับเขาด้วยหรือเปล่าครับ

 

 

 

 

รับครับ มีปัญหาอะไรเหรอ?  :rolleyes:


"I want you to form a contract with me and become magical girls!" - kyubey
 
/人 ‿‿ ◕人\

#328 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:05

 

 

 

มันเริ่มไปไกลจากนโยบายจำนำข้าวแล้วนะครับ...

 

แต่ถ้าท่าน จขกท ยังไม่ว่าอะไร ผมก็นั่งดูต่อไป  B)

 

อ๊ะ!!! รู้นะคิดไรอยู่  :D

 

 

ผมกำลังคิดอะไรเหรอครับ?  :lol:

 

 

 

ไม่บอกหรอก  :D

 

ว่าแต่ว่า ตอนนั้น mod -3- ไปรับเช็คช่วยชาติกับเขาด้วยหรือเปล่าครับ

 

ปล> พอลคุงหนีไปเลย สงสัยกลัวผมทวงตังค์คืน 2,000  :D

 

พอลคุง ไม่ต้องกลัวหรอก ผมไม่ทวงตังค์คุณหรอก

 

หากคุณอยากคืน เอาไปคืนแม่ค้าร้านไหนก็ได้ครับ

 

พอดีผมมีธุระ ว่างๆ จะเข้ามาคุยใหม่

 

ไปหล่ะ

 

ถ้าใครอยากจะไปไหนมาไหน  จะตอบหรือไม่ตอบกระทู้  ต้องบอกคนอื่นเหมือนที่คุณทำ  แบบว่า  มีธุระ หรือไม่ก็ ง่วงนอนแล้ว  ไม่งั้นจะกลายเป็นหนีกระทู้ใช่ป่ะ



#329 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:20

 

 

 

 

มันเริ่มไปไกลจากนโยบายจำนำข้าวแล้วนะครับ...

 

แต่ถ้าท่าน จขกท ยังไม่ว่าอะไร ผมก็นั่งดูต่อไป  B)

 

อ๊ะ!!! รู้นะคิดไรอยู่  :D

 

 

ผมกำลังคิดอะไรเหรอครับ?  :lol:

 

 

 

ไม่บอกหรอก  :D

 

ว่าแต่ว่า ตอนนั้น mod -3- ไปรับเช็คช่วยชาติกับเขาด้วยหรือเปล่าครับ

 

ปล> พอลคุงหนีไปเลย สงสัยกลัวผมทวงตังค์คืน 2,000  :D

 

พอลคุง ไม่ต้องกลัวหรอก ผมไม่ทวงตังค์คุณหรอก

 

หากคุณอยากคืน เอาไปคืนแม่ค้าร้านไหนก็ได้ครับ

 

พอดีผมมีธุระ ว่างๆ จะเข้ามาคุยใหม่

 

ไปหล่ะ

 

ถ้าใครอยากจะไปไหนมาไหน  จะตอบหรือไม่ตอบกระทู้  ต้องบอกคนอื่นเหมือนที่คุณทำ  แบบว่า  มีธุระ หรือไม่ก็ ง่วงนอนแล้ว  ไม่งั้นจะกลายเป็นหนีกระทู้ใช่ป่ะ

 

 

โอ้วววววววววววววววววววววววววววว

 

มายก๊อดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 

ผมไปรับลูกแป๊ป เดียว ไอ้กากลี หาว่า ผมหนี อีกเหรอ

 

โอ้วววววววววววววววววววววววววววว

 

ตั้งแต่ผมเล่นบอร์ดนี้มา ผมไม่เคยหนีตอบคำถามเลย

 

มีแต่ไอ้กากลี หนีตอบ แล้วไปสมัครล๊อคอินใหม่


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#330 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:22

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้ คือ 1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน 18-19 โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ พนักงานราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม 2,328 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป

 

 

 

พอลคุงกับผู้มีรายได้น้อยในตอนปี 52 ซึ่งรับเช็คช่วยชาติไปและยืนยันว่าเป็นเงินของกองทุน (ซึ่งเกิดจากการสมทบของคุณเอง) ไม่ใช่เงินกู้กับเงินภาษีแม่ค้าร้านข้าวมันไก้

 

มาพนันกับผมดีกว่า

 

หากผมผิด ผมจะไปจากบอร์ดนี้ทันที

 

หากคุณผิด ช่วยเอาเงิน 2,000 บาทไปคืนแม่ค้าร้านข้าวแกงร้านไหนก็ได้

 

ก้าวออกมาเลยครับ

 

 

เอาไง แน่ ว่ะ เป็นเงินกู้ จาก โครงการไทยเข็มแข็ง ปะ

 

เอาให้แน่ ๆ ก่อน อ้อ อีกอย่าง เงินสมทบ เข้าประกันสังคม เงินก้ออยู่ที่รัฐ 

 

ก้อสามารถโยกเอาิเงินส่วนนี้มาใช้ก้อได้


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#331 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:27

 

 

 

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้ คือ 1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน 18-19 โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ พนักงานราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม 2,328 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป

 

 

http://www.thaigoodg...vity.php?id=583

 

โครงการช่วยเหลือบุคลากรภาครัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท ใช้งบ 2,652 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการค่าใช้จ่ายเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน 6,900 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทต่อผู้ประกันตน จำนวน 8,138,815 คน,โครงการ 5 มาตรการ 6 เดือนเพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะต้องจ่ายงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวม 11,409 ล้านบาท,โครงการเรียนฟรี 15 ปี ใช้งบประมาณ 2.46 หมื่นล้านบาท,โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน 15,200 ล้านบาท,โครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยให้กับข้าราชการตำรวจชั้นประทวน 1,808 ล้านบาท,โครงการปรับปรุงสถานีอนามัย 1,095 ล้านบาท
 

 

 

 

STARGATE ตอนนั้นรับเช็คด้วยหรือเปล่า

 

ลงชื่อพนันกับผมได้เลยครับ  :D

 

 

ได้เลย แต่ต้องเป็นเงินกู้จากพรก.และพรบ.ที่พวกเสื้อแดงชอบกล่าวหานะ ว่ากู้เงินพรก.มาให้เช็คช่วยชาติ ตกลงไหม เงินกู้ที่เอามาชดเชยการเก็บภาษีไม่ทัน ไม่ได้ตามเป้าในเดือนนั้น ไม่เอานะ
 

แล้วถ้าคุณแพ้จะเลิกล้อกอิน "Mark lover" ไปด้วยไหม การกู้เพื่อชดเชยงบประมาณนั้น โดยปรกติทุกรัฐบาล ก็ทำอยู่ประจำอยู่แล้วหากเงินหมุนเวียนไม่ทันจ่าย รอเงินจากการเก็บภาษี (1) เอามาพูดได้ เขาทำกันทุกรัฐบาลโว้ย  ได้กู้จริงหรือไม่ เพราะบางครั้งเงินภาษีเก็บได้พอก่อนได้ใช้เงิน ก็ไม่มีการกู้ หรือ การสว๊อปเงินกันระหว่างธนาคารของรัฐ

"(1) ส่วนกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้า เนื่องจากปีนี้ มีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ส่งผลให้ 11 เดือนของปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.32 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 95,860 ล้านบาท หรือ 6.8% และต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 205, 000 ล้านบาท หรือ 13.4% ซึ่งทั้ง 3 กรมภาษีจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการนำส่งรายได้เข้าคลังของรัฐวิสาหกิจก็ต่ำกว่าเป้าด้วย"

 

"วงเงินที่ว่านั้นจะต้องทำเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 เสนอให้รัฐสภาเห็นชอบเสียก่อนถึงจะนำไปใช้ได้
เพราะฉะนั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมตามสมควรในขั้นตอนของรัฐสภา แต่จะไม่มีการปรับเพิ่มปรับลดวงเงินดังกล่าว เพียงแต่ว่าจะเกลี่ยไปที่ไหนอย่างไรตามการต่อรองอย่างดุเดือดเผ็ดร้อนต่อไป
แม้จะมีวงเงินที่จะจ่ายได้ 115,000 ล้านบาท แต่ก็ต้องบอกเสียก่อนว่า จ่ายได้จริงๆ เพียงแค่
95,860 ล้านบาท เท่านั้น เพราะมีรายการจ่ายชดเชยเงินคงคลังที่มีการเบิกมาใช้จ่ายไปก่อนหน้านี้ 19,140 ล้านบาท รวมอยู่ด้วย
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าเงินจำนวนประมาณ 95,860 ล้านบาท ซึ่งตามหลักการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนั้น จะต้องไม่เป็นงบผูกพันข้ามปี และต้องเร่งรัดเบิกจ่ายให้หมดภายในระยะเวลา
ในกรณีนี้ ถ้าหากเริ่มใช้เงินได้จริงประมาณต้นเดือนเมษายน ก็จะมีเวลาใช้ให้หมดเกลี้ยงภายในเดือนกันยายน หรือ 6 เดือน
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีข้อสงสัยว่าทำไมโครงการที่จะต้องทำอะไรใช้เวลามากและเสียเวลาใน เรื่องขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง จึงไม่ได้อยู่ในรายการใช้จ่ายที่ว่า แต่จะไปอยู่ในก๊อกถัดไปแทน
คราวนี้ถ้าหากลองแยกแยะดูสักนิดว่า เงินกระจัดกระจายไปที่ไหนกันบ้าง คงต้องแยกออกเป็นสองก้อนใหญ่ๆ
ก้อนแรก มีเม็ดเงินเกี่ยวข้องประมาณ 37,465 ล้านบาทนั้น มุ่งไปที่การฟื้นฟูและเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ
งบแจกเงินหลักๆ ที่พูดกันมากเรื่องช่วยเหลือค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายประเภทไฟฟ้า น้ำประปา รถเมล์ และรถไฟฟรี จะอยู่ในเงินก้อนนี้เป็นสำคัญ
ก้อนที่สอง มีเม็ดเงินเกี่ยวข้องประมาณ 56,004 ล้านบาท มุ่งการสร้างรายได้และความมั่นคงทางด้านสังคม จะมีทั้งแจกเงินและจัดสรรเงินอุดหนุนให้ไปต่อยอดทำอะไรเพิ่มเติม
สำหรับก้อนเล็กๆ ที่คล้ายกับเป็นเงินที่คอยจุนเจือในกรณีติดขัดทำนองจำเป็นเร่งด่วนสำรองจ่ายไปก่อนนั้น ตกประมาณ 2,392 ล้านบาท
บอกเสียก่อนเลยว่างานนี้เอาด้วยครับ
ผมเคยเรียนไปแล้วว่า นาทีนี้ยังไงๆ ก็หนีไม่พ้นรายการประเภทฉีดเงินตรงแบบเจาะกลุ่มชัดเจน ทำง่ายเงินไปเร็ว เพราะนาทีนี้ไม่ใช่เรื่องการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจด้วยโครงการลง ทุนขนาดใหญ่เพราะจะใช้เวลามาก กว่าถั่วจะสุกงาจะไหม้เสียหมด
คิดอ่านกันได้ขนาดนี้ก็ถือว่าสอบผ่านแล้วครับ
ขออนุญาตพูดถึงเม็ดเงินที่จะจ่ายขาด ที่เข้าข่ายยืนกลางสี่แยกแจกเงินบางก้อนเสียก่อนอย่างเช่น
ค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท จ่ายขาดให้กับลูกจ้างที่อยู่ในระบบกองทุนประกันสังคมที่มีเงินเดือนน้อยกว่า 14,000 บาท จำนวน 8.09 ล้านคน จากจำนวนทั้งหมดประมาณ 9.3 ล้านคน และข้าราชการลูกจ้างภาครัฐประมาณ 1.47 ล้านคน
สรุปแจกเงิน 18,900 ล้าน มีคนได้ประโยชน์ประมาณ 9.5 ล้านคน"
รายการแจกเงินถึงตัวรายการที่สอง คือ เบี้ยยังชีพสำหรับผู้ชราภาพซึ่งในบ้านเราปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 7 ล้านคน ปัจจุบันผู้ชราและผู้ที่พิการได้รับความช่วยเหลือไปเรียบร้อยแล้วประมาณ 2 ล้านคน ยังเหลืออีก 5 ล้านคน ที่จะอยู่ในข่ายได้เบี้ยยังชีพ แต่ยังไม่มีการจัดสรรให้
งานนี้จะมีการแจกเงินให้เพิ่มเติมอีก 3 ล้านคน แจกให้เดือนละ 500 บาทต่อคนเป็นระยะเวลาแค่ 6 เดือน รวมเป็นเงินประมาณ 9,000 ล้านบาท
ผมเข้าใจว่าไม่ได้แจกตลอดไปเป็นลักษณะผูกพันเหมือนกับคนเก่าที่ลงทะเบียนรับเงินเป็นประจำอยู่แล้ว
น่าเสียดายว่ายังมีคนแก่ที่ไม่ได้รับอานิสงส์ครั้งนี้เหลืออีกมากพอสมควร และที่สำคัญ คือ ไม่ได้รับแบบถาวรจนเสียชีวิต

 

เองว่าเงินที่จ่ายเช็คให้ 2,000 บาท นี้ อยู่ใน 18,900 บาทนี้ไหมว่ะ ถ้าใช่ ข้าขอรับคำท้าว่ะ เองอย่ารีบเปิดตูดไปไหนนะ เหมือนกระทุ้แบน 1 เดือน มันหลอกข้าครั้งหนึ่งแล้ว

 

 

ขอโค๊ดท่าน stargate-1 ครับ แล้วทำตัวใหญ่ ไม่ใช่อะไรนะ 

 

ตาผมไม่ดี อ่านไม่ออก เลยขอโค๊คแล้วขนาดนิด ครับ


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#332 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:34

 

 

 

 

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้ คือ 1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน 18-19 โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ พนักงานราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม 2,328 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป

 

 

http://www.thaigoodg...vity.php?id=583

 

โครงการช่วยเหลือบุคลากรภาครัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท ใช้งบ 2,652 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการค่าใช้จ่ายเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน 6,900 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทต่อผู้ประกันตน จำนวน 8,138,815 คน,โครงการ 5 มาตรการ 6 เดือนเพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะต้องจ่ายงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวม 11,409 ล้านบาท,โครงการเรียนฟรี 15 ปี ใช้งบประมาณ 2.46 หมื่นล้านบาท,โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน 15,200 ล้านบาท,โครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยให้กับข้าราชการตำรวจชั้นประทวน 1,808 ล้านบาท,โครงการปรับปรุงสถานีอนามัย 1,095 ล้านบาท
 

 

 

 

STARGATE ตอนนั้นรับเช็คด้วยหรือเปล่า

 

ลงชื่อพนันกับผมได้เลยครับ  :D

 

 

ได้เลย แต่ต้องเป็นเงินกู้จากพรก.และพรบ.ที่พวกเสื้อแดงชอบกล่าวหานะ ว่ากู้เงินพรก.มาให้เช็คช่วยชาติ ตกลงไหม เงินกู้ที่เอามาชดเชยการเก็บภาษีไม่ทัน ไม่ได้ตามเป้าในเดือนนั้น ไม่เอานะ
 

แล้วถ้าคุณแพ้จะเลิกล้อกอิน "Mark lover" ไปด้วยไหม การกู้เพื่อชดเชยงบประมาณนั้น โดยปรกติทุกรัฐบาล ก็ทำอยู่ประจำอยู่แล้วหากเงินหมุนเวียนไม่ทันจ่าย รอเงินจากการเก็บภาษี (1) เอามาพูดได้ เขาทำกันทุกรัฐบาลโว้ย  ได้กู้จริงหรือไม่ เพราะบางครั้งเงินภาษีเก็บได้พอก่อนได้ใช้เงิน ก็ไม่มีการกู้ หรือ การสว๊อปเงินกันระหว่างธนาคารของรัฐ

"(1) ส่วนกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้า เนื่องจากปีนี้ มีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ส่งผลให้ 11 เดือนของปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.32 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 95,860 ล้านบาท หรือ 6.8% และต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 205, 000 ล้านบาท หรือ 13.4% ซึ่งทั้ง 3 กรมภาษีจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการนำส่งรายได้เข้าคลังของรัฐวิสาหกิจก็ต่ำกว่าเป้าด้วย"

 

"วงเงินที่ว่านั้นจะต้องทำเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 เสนอให้รัฐสภาเห็นชอบเสียก่อนถึงจะนำไปใช้ได้
เพราะฉะนั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมตามสมควรในขั้นตอนของรัฐสภา แต่จะไม่มีการปรับเพิ่มปรับลดวงเงินดังกล่าว เพียงแต่ว่าจะเกลี่ยไปที่ไหนอย่างไรตามการต่อรองอย่างดุเดือดเผ็ดร้อนต่อไป
แม้จะมีวงเงินที่จะจ่ายได้ 115,000 ล้านบาท แต่ก็ต้องบอกเสียก่อนว่า จ่ายได้จริงๆ เพียงแค่
95,860 ล้านบาท เท่านั้น เพราะมีรายการจ่ายชดเชยเงินคงคลังที่มีการเบิกมาใช้จ่ายไปก่อนหน้านี้ 19,140 ล้านบาท รวมอยู่ด้วย
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าเงินจำนวนประมาณ 95,860 ล้านบาท ซึ่งตามหลักการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนั้น จะต้องไม่เป็นงบผูกพันข้ามปี และต้องเร่งรัดเบิกจ่ายให้หมดภายในระยะเวลา
ในกรณีนี้ ถ้าหากเริ่มใช้เงินได้จริงประมาณต้นเดือนเมษายน ก็จะมีเวลาใช้ให้หมดเกลี้ยงภายในเดือนกันยายน หรือ 6 เดือน
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีข้อสงสัยว่าทำไมโครงการที่จะต้องทำอะไรใช้เวลามากและเสียเวลาใน เรื่องขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง จึงไม่ได้อยู่ในรายการใช้จ่ายที่ว่า แต่จะไปอยู่ในก๊อกถัดไปแทน
คราวนี้ถ้าหากลองแยกแยะดูสักนิดว่า เงินกระจัดกระจายไปที่ไหนกันบ้าง คงต้องแยกออกเป็นสองก้อนใหญ่ๆ
ก้อนแรก มีเม็ดเงินเกี่ยวข้องประมาณ 37,465 ล้านบาทนั้น มุ่งไปที่การฟื้นฟูและเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ
งบแจกเงินหลักๆ ที่พูดกันมากเรื่องช่วยเหลือค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายประเภทไฟฟ้า น้ำประปา รถเมล์ และรถไฟฟรี จะอยู่ในเงินก้อนนี้เป็นสำคัญ
ก้อนที่สอง มีเม็ดเงินเกี่ยวข้องประมาณ 56,004 ล้านบาท มุ่งการสร้างรายได้และความมั่นคงทางด้านสังคม จะมีทั้งแจกเงินและจัดสรรเงินอุดหนุนให้ไปต่อยอดทำอะไรเพิ่มเติม
สำหรับก้อนเล็กๆ ที่คล้ายกับเป็นเงินที่คอยจุนเจือในกรณีติดขัดทำนองจำเป็นเร่งด่วนสำรองจ่ายไปก่อนนั้น ตกประมาณ 2,392 ล้านบาท
บอกเสียก่อนเลยว่างานนี้เอาด้วยครับ
ผมเคยเรียนไปแล้วว่า นาทีนี้ยังไงๆ ก็หนีไม่พ้นรายการประเภทฉีดเงินตรงแบบเจาะกลุ่มชัดเจน ทำง่ายเงินไปเร็ว เพราะนาทีนี้ไม่ใช่เรื่องการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจด้วยโครงการลง ทุนขนาดใหญ่เพราะจะใช้เวลามาก กว่าถั่วจะสุกงาจะไหม้เสียหมด
คิดอ่านกันได้ขนาดนี้ก็ถือว่าสอบผ่านแล้วครับ
ขออนุญาตพูดถึงเม็ดเงินที่จะจ่ายขาด ที่เข้าข่ายยืนกลางสี่แยกแจกเงินบางก้อนเสียก่อนอย่างเช่น
ค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท จ่ายขาดให้กับลูกจ้างที่อยู่ในระบบกองทุนประกันสังคมที่มีเงินเดือนน้อยกว่า 14,000 บาท จำนวน 8.09 ล้านคน จากจำนวนทั้งหมดประมาณ 9.3 ล้านคน และข้าราชการลูกจ้างภาครัฐประมาณ 1.47 ล้านคน
สรุปแจกเงิน 18,900 ล้าน มีคนได้ประโยชน์ประมาณ 9.5 ล้านคน"
รายการแจกเงินถึงตัวรายการที่สอง คือ เบี้ยยังชีพสำหรับผู้ชราภาพซึ่งในบ้านเราปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 7 ล้านคน ปัจจุบันผู้ชราและผู้ที่พิการได้รับความช่วยเหลือไปเรียบร้อยแล้วประมาณ 2 ล้านคน ยังเหลืออีก 5 ล้านคน ที่จะอยู่ในข่ายได้เบี้ยยังชีพ แต่ยังไม่มีการจัดสรรให้
งานนี้จะมีการแจกเงินให้เพิ่มเติมอีก 3 ล้านคน แจกให้เดือนละ 500 บาทต่อคนเป็นระยะเวลาแค่ 6 เดือน รวมเป็นเงินประมาณ 9,000 ล้านบาท
ผมเข้าใจว่าไม่ได้แจกตลอดไปเป็นลักษณะผูกพันเหมือนกับคนเก่าที่ลงทะเบียนรับเงินเป็นประจำอยู่แล้ว
น่าเสียดายว่ายังมีคนแก่ที่ไม่ได้รับอานิสงส์ครั้งนี้เหลืออีกมากพอสมควร และที่สำคัญ คือ ไม่ได้รับแบบถาวรจนเสียชีวิต

 

เองว่าเงินที่จ่ายเช็คให้ 2,000 บาท นี้ อยู่ใน 18,900 บาทนี้ไหมว่ะ ถ้าใช่ ข้าขอรับคำท้าว่ะ เองอย่ารีบเปิดตูดไปไหนนะ เหมือนกระทุ้แบน 1 เดือน มันหลอกข้าครั้งหนึ่งแล้ว

 

 

ขอโค๊ดท่าน stargate-1 ครับ แล้วทำตัวใหญ่ ไม่ใช่อะไรนะ 

 

ตาผมไม่ดี อ่านไม่ออก เลยขอโค๊คแล้วขนาดนิด ครับ

 

 

พอลคุงช่วย บวกลบคูณหาร หน่อยซิว่า 8.09 ล้านคน x 2,000 มันเท่าไหร่ เกิน เงินจาก 2) ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท ไหม

 


Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#333 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:39

 

 

 

 

 

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้ คือ 1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน 18-19 โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ พนักงานราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม 2,328 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป

 

 

http://www.thaigoodg...vity.php?id=583

 

โครงการช่วยเหลือบุคลากรภาครัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท ใช้งบ 2,652 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการค่าใช้จ่ายเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน 6,900 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทต่อผู้ประกันตน จำนวน 8,138,815 คน,โครงการ 5 มาตรการ 6 เดือนเพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะต้องจ่ายงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวม 11,409 ล้านบาท,โครงการเรียนฟรี 15 ปี ใช้งบประมาณ 2.46 หมื่นล้านบาท,โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน 15,200 ล้านบาท,โครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยให้กับข้าราชการตำรวจชั้นประทวน 1,808 ล้านบาท,โครงการปรับปรุงสถานีอนามัย 1,095 ล้านบาท
 

 

 

 

STARGATE ตอนนั้นรับเช็คด้วยหรือเปล่า

 

ลงชื่อพนันกับผมได้เลยครับ  :D

 

 

ได้เลย แต่ต้องเป็นเงินกู้จากพรก.และพรบ.ที่พวกเสื้อแดงชอบกล่าวหานะ ว่ากู้เงินพรก.มาให้เช็คช่วยชาติ ตกลงไหม เงินกู้ที่เอามาชดเชยการเก็บภาษีไม่ทัน ไม่ได้ตามเป้าในเดือนนั้น ไม่เอานะ
 

แล้วถ้าคุณแพ้จะเลิกล้อกอิน "Mark lover" ไปด้วยไหม การกู้เพื่อชดเชยงบประมาณนั้น โดยปรกติทุกรัฐบาล ก็ทำอยู่ประจำอยู่แล้วหากเงินหมุนเวียนไม่ทันจ่าย รอเงินจากการเก็บภาษี (1) เอามาพูดได้ เขาทำกันทุกรัฐบาลโว้ย  ได้กู้จริงหรือไม่ เพราะบางครั้งเงินภาษีเก็บได้พอก่อนได้ใช้เงิน ก็ไม่มีการกู้ หรือ การสว๊อปเงินกันระหว่างธนาคารของรัฐ

"(1) ส่วนกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้า เนื่องจากปีนี้ มีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ส่งผลให้ 11 เดือนของปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.32 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 95,860 ล้านบาท หรือ 6.8% และต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 205, 000 ล้านบาท หรือ 13.4% ซึ่งทั้ง 3 กรมภาษีจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการนำส่งรายได้เข้าคลังของรัฐวิสาหกิจก็ต่ำกว่าเป้าด้วย"

 

"วงเงินที่ว่านั้นจะต้องทำเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 เสนอให้รัฐสภาเห็นชอบเสียก่อนถึงจะนำไปใช้ได้
เพราะฉะนั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมตามสมควรในขั้นตอนของรัฐสภา แต่จะไม่มีการปรับเพิ่มปรับลดวงเงินดังกล่าว เพียงแต่ว่าจะเกลี่ยไปที่ไหนอย่างไรตามการต่อรองอย่างดุเดือดเผ็ดร้อนต่อไป
แม้จะมีวงเงินที่จะจ่ายได้ 115,000 ล้านบาท แต่ก็ต้องบอกเสียก่อนว่า จ่ายได้จริงๆ เพียงแค่
95,860 ล้านบาท เท่านั้น เพราะมีรายการจ่ายชดเชยเงินคงคลังที่มีการเบิกมาใช้จ่ายไปก่อนหน้านี้ 19,140 ล้านบาท รวมอยู่ด้วย
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าเงินจำนวนประมาณ 95,860 ล้านบาท ซึ่งตามหลักการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนั้น จะต้องไม่เป็นงบผูกพันข้ามปี และต้องเร่งรัดเบิกจ่ายให้หมดภายในระยะเวลา
ในกรณีนี้ ถ้าหากเริ่มใช้เงินได้จริงประมาณต้นเดือนเมษายน ก็จะมีเวลาใช้ให้หมดเกลี้ยงภายในเดือนกันยายน หรือ 6 เดือน
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีข้อสงสัยว่าทำไมโครงการที่จะต้องทำอะไรใช้เวลามากและเสียเวลาใน เรื่องขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง จึงไม่ได้อยู่ในรายการใช้จ่ายที่ว่า แต่จะไปอยู่ในก๊อกถัดไปแทน
คราวนี้ถ้าหากลองแยกแยะดูสักนิดว่า เงินกระจัดกระจายไปที่ไหนกันบ้าง คงต้องแยกออกเป็นสองก้อนใหญ่ๆ
ก้อนแรก มีเม็ดเงินเกี่ยวข้องประมาณ 37,465 ล้านบาทนั้น มุ่งไปที่การฟื้นฟูและเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ
งบแจกเงินหลักๆ ที่พูดกันมากเรื่องช่วยเหลือค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายประเภทไฟฟ้า น้ำประปา รถเมล์ และรถไฟฟรี จะอยู่ในเงินก้อนนี้เป็นสำคัญ
ก้อนที่สอง มีเม็ดเงินเกี่ยวข้องประมาณ 56,004 ล้านบาท มุ่งการสร้างรายได้และความมั่นคงทางด้านสังคม จะมีทั้งแจกเงินและจัดสรรเงินอุดหนุนให้ไปต่อยอดทำอะไรเพิ่มเติม
สำหรับก้อนเล็กๆ ที่คล้ายกับเป็นเงินที่คอยจุนเจือในกรณีติดขัดทำนองจำเป็นเร่งด่วนสำรองจ่ายไปก่อนนั้น ตกประมาณ 2,392 ล้านบาท
บอกเสียก่อนเลยว่างานนี้เอาด้วยครับ
ผมเคยเรียนไปแล้วว่า นาทีนี้ยังไงๆ ก็หนีไม่พ้นรายการประเภทฉีดเงินตรงแบบเจาะกลุ่มชัดเจน ทำง่ายเงินไปเร็ว เพราะนาทีนี้ไม่ใช่เรื่องการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจด้วยโครงการลง ทุนขนาดใหญ่เพราะจะใช้เวลามาก กว่าถั่วจะสุกงาจะไหม้เสียหมด
คิดอ่านกันได้ขนาดนี้ก็ถือว่าสอบผ่านแล้วครับ
ขออนุญาตพูดถึงเม็ดเงินที่จะจ่ายขาด ที่เข้าข่ายยืนกลางสี่แยกแจกเงินบางก้อนเสียก่อนอย่างเช่น
ค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท จ่ายขาดให้กับลูกจ้างที่อยู่ในระบบกองทุนประกันสังคมที่มีเงินเดือนน้อยกว่า 14,000 บาท จำนวน 8.09 ล้านคน จากจำนวนทั้งหมดประมาณ 9.3 ล้านคน และข้าราชการลูกจ้างภาครัฐประมาณ 1.47 ล้านคน
สรุปแจกเงิน 18,900 ล้าน มีคนได้ประโยชน์ประมาณ 9.5 ล้านคน"
รายการแจกเงินถึงตัวรายการที่สอง คือ เบี้ยยังชีพสำหรับผู้ชราภาพซึ่งในบ้านเราปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 7 ล้านคน ปัจจุบันผู้ชราและผู้ที่พิการได้รับความช่วยเหลือไปเรียบร้อยแล้วประมาณ 2 ล้านคน ยังเหลืออีก 5 ล้านคน ที่จะอยู่ในข่ายได้เบี้ยยังชีพ แต่ยังไม่มีการจัดสรรให้
งานนี้จะมีการแจกเงินให้เพิ่มเติมอีก 3 ล้านคน แจกให้เดือนละ 500 บาทต่อคนเป็นระยะเวลาแค่ 6 เดือน รวมเป็นเงินประมาณ 9,000 ล้านบาท
ผมเข้าใจว่าไม่ได้แจกตลอดไปเป็นลักษณะผูกพันเหมือนกับคนเก่าที่ลงทะเบียนรับเงินเป็นประจำอยู่แล้ว
น่าเสียดายว่ายังมีคนแก่ที่ไม่ได้รับอานิสงส์ครั้งนี้เหลืออีกมากพอสมควร และที่สำคัญ คือ ไม่ได้รับแบบถาวรจนเสียชีวิต

 

เองว่าเงินที่จ่ายเช็คให้ 2,000 บาท นี้ อยู่ใน 18,900 บาทนี้ไหมว่ะ ถ้าใช่ ข้าขอรับคำท้าว่ะ เองอย่ารีบเปิดตูดไปไหนนะ เหมือนกระทุ้แบน 1 เดือน มันหลอกข้าครั้งหนึ่งแล้ว

 

 

ขอโค๊ดท่าน stargate-1 ครับ แล้วทำตัวใหญ่ ไม่ใช่อะไรนะ 

 

ตาผมไม่ดี อ่านไม่ออก เลยขอโค๊คแล้วขนาดนิด ครับ

 

 

พอลคุงช่วย บวกลบคูณหาร หน่อยซิว่า 8.09 ล้านคน x 2,000 มันเท่าไหร่ เกิน เงินจาก 2) ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท ไหม

 

 

 

ถ้าเอาตาม จำนวนผู้ประักันตน ไม่เกินครับ คำนวณแล้ว 16180 ล้านบาท

 

แต่ถ้านับรวมไปถึง ข้าราชการและ ลูกจ้าง จะเกินมา ราว ๆ 100 ล้านบาท ประมาณนั้น


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#334 อย่าเหวง

อย่าเหวง

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 90 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:47

ประเด็นน่าจะอยู่ที่ว่า ประกันข้าวทำไปแล้ว ได้และเสียอะไร แต่ถ้านำประเด็นอื่นมาถกเพิ่ม ก็น่าจะเปรียบเทียบกันว่า ได้และเสียอะไร ดีกว่ามั้ยครับ
รู้สึกว่าจะได้ปลากันเยอะเกินไปแล้ว

#335 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 16:49

 

 

 

 

 

 

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้ คือ 1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน 18-19 โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ พนักงานราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม 2,328 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป

 

 

http://www.thaigoodg...vity.php?id=583

 

โครงการช่วยเหลือบุคลากรภาครัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท ใช้งบ 2,652 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการค่าใช้จ่ายเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน 6,900 ล้านบาท (งบกลาง),โครงการเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทต่อผู้ประกันตน จำนวน 8,138,815 คน,โครงการ 5 มาตรการ 6 เดือนเพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะต้องจ่ายงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวม 11,409 ล้านบาท,โครงการเรียนฟรี 15 ปี ใช้งบประมาณ 2.46 หมื่นล้านบาท,โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน 15,200 ล้านบาท,โครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยให้กับข้าราชการตำรวจชั้นประทวน 1,808 ล้านบาท,โครงการปรับปรุงสถานีอนามัย 1,095 ล้านบาท
 

 

 

 

STARGATE ตอนนั้นรับเช็คด้วยหรือเปล่า

 

ลงชื่อพนันกับผมได้เลยครับ  :D

 

 

ได้เลย แต่ต้องเป็นเงินกู้จากพรก.และพรบ.ที่พวกเสื้อแดงชอบกล่าวหานะ ว่ากู้เงินพรก.มาให้เช็คช่วยชาติ ตกลงไหม เงินกู้ที่เอามาชดเชยการเก็บภาษีไม่ทัน ไม่ได้ตามเป้าในเดือนนั้น ไม่เอานะ
 

แล้วถ้าคุณแพ้จะเลิกล้อกอิน "Mark lover" ไปด้วยไหม การกู้เพื่อชดเชยงบประมาณนั้น โดยปรกติทุกรัฐบาล ก็ทำอยู่ประจำอยู่แล้วหากเงินหมุนเวียนไม่ทันจ่าย รอเงินจากการเก็บภาษี (1) เอามาพูดได้ เขาทำกันทุกรัฐบาลโว้ย  ได้กู้จริงหรือไม่ เพราะบางครั้งเงินภาษีเก็บได้พอก่อนได้ใช้เงิน ก็ไม่มีการกู้ หรือ การสว๊อปเงินกันระหว่างธนาคารของรัฐ

"(1) ส่วนกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้า เนื่องจากปีนี้ มีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ส่งผลให้ 11 เดือนของปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.32 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 95,860 ล้านบาท หรือ 6.8% และต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 205, 000 ล้านบาท หรือ 13.4% ซึ่งทั้ง 3 กรมภาษีจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการนำส่งรายได้เข้าคลังของรัฐวิสาหกิจก็ต่ำกว่าเป้าด้วย"

 

"วงเงินที่ว่านั้นจะต้องทำเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 เสนอให้รัฐสภาเห็นชอบเสียก่อนถึงจะนำไปใช้ได้
เพราะฉะนั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมตามสมควรในขั้นตอนของรัฐสภา แต่จะไม่มีการปรับเพิ่มปรับลดวงเงินดังกล่าว เพียงแต่ว่าจะเกลี่ยไปที่ไหนอย่างไรตามการต่อรองอย่างดุเดือดเผ็ดร้อนต่อไป
แม้จะมีวงเงินที่จะจ่ายได้ 115,000 ล้านบาท แต่ก็ต้องบอกเสียก่อนว่า จ่ายได้จริงๆ เพียงแค่
95,860 ล้านบาท เท่านั้น เพราะมีรายการจ่ายชดเชยเงินคงคลังที่มีการเบิกมาใช้จ่ายไปก่อนหน้านี้ 19,140 ล้านบาท รวมอยู่ด้วย
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าเงินจำนวนประมาณ 95,860 ล้านบาท ซึ่งตามหลักการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนั้น จะต้องไม่เป็นงบผูกพันข้ามปี และต้องเร่งรัดเบิกจ่ายให้หมดภายในระยะเวลา
ในกรณีนี้ ถ้าหากเริ่มใช้เงินได้จริงประมาณต้นเดือนเมษายน ก็จะมีเวลาใช้ให้หมดเกลี้ยงภายในเดือนกันยายน หรือ 6 เดือน
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีข้อสงสัยว่าทำไมโครงการที่จะต้องทำอะไรใช้เวลามากและเสียเวลาใน เรื่องขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง จึงไม่ได้อยู่ในรายการใช้จ่ายที่ว่า แต่จะไปอยู่ในก๊อกถัดไปแทน
คราวนี้ถ้าหากลองแยกแยะดูสักนิดว่า เงินกระจัดกระจายไปที่ไหนกันบ้าง คงต้องแยกออกเป็นสองก้อนใหญ่ๆ
ก้อนแรก มีเม็ดเงินเกี่ยวข้องประมาณ 37,465 ล้านบาทนั้น มุ่งไปที่การฟื้นฟูและเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ
งบแจกเงินหลักๆ ที่พูดกันมากเรื่องช่วยเหลือค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายประเภทไฟฟ้า น้ำประปา รถเมล์ และรถไฟฟรี จะอยู่ในเงินก้อนนี้เป็นสำคัญ
ก้อนที่สอง มีเม็ดเงินเกี่ยวข้องประมาณ 56,004 ล้านบาท มุ่งการสร้างรายได้และความมั่นคงทางด้านสังคม จะมีทั้งแจกเงินและจัดสรรเงินอุดหนุนให้ไปต่อยอดทำอะไรเพิ่มเติม
สำหรับก้อนเล็กๆ ที่คล้ายกับเป็นเงินที่คอยจุนเจือในกรณีติดขัดทำนองจำเป็นเร่งด่วนสำรองจ่ายไปก่อนนั้น ตกประมาณ 2,392 ล้านบาท
บอกเสียก่อนเลยว่างานนี้เอาด้วยครับ
ผมเคยเรียนไปแล้วว่า นาทีนี้ยังไงๆ ก็หนีไม่พ้นรายการประเภทฉีดเงินตรงแบบเจาะกลุ่มชัดเจน ทำง่ายเงินไปเร็ว เพราะนาทีนี้ไม่ใช่เรื่องการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจด้วยโครงการลง ทุนขนาดใหญ่เพราะจะใช้เวลามาก กว่าถั่วจะสุกงาจะไหม้เสียหมด
คิดอ่านกันได้ขนาดนี้ก็ถือว่าสอบผ่านแล้วครับ
ขออนุญาตพูดถึงเม็ดเงินที่จะจ่ายขาด ที่เข้าข่ายยืนกลางสี่แยกแจกเงินบางก้อนเสียก่อนอย่างเช่น
ค่าครองชีพคนละ 2,000 บาท จ่ายขาดให้กับลูกจ้างที่อยู่ในระบบกองทุนประกันสังคมที่มีเงินเดือนน้อยกว่า 14,000 บาท จำนวน 8.09 ล้านคน จากจำนวนทั้งหมดประมาณ 9.3 ล้านคน และข้าราชการลูกจ้างภาครัฐประมาณ 1.47 ล้านคน
สรุปแจกเงิน 18,900 ล้าน มีคนได้ประโยชน์ประมาณ 9.5 ล้านคน"
รายการแจกเงินถึงตัวรายการที่สอง คือ เบี้ยยังชีพสำหรับผู้ชราภาพซึ่งในบ้านเราปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 7 ล้านคน ปัจจุบันผู้ชราและผู้ที่พิการได้รับความช่วยเหลือไปเรียบร้อยแล้วประมาณ 2 ล้านคน ยังเหลืออีก 5 ล้านคน ที่จะอยู่ในข่ายได้เบี้ยยังชีพ แต่ยังไม่มีการจัดสรรให้
งานนี้จะมีการแจกเงินให้เพิ่มเติมอีก 3 ล้านคน แจกให้เดือนละ 500 บาทต่อคนเป็นระยะเวลาแค่ 6 เดือน รวมเป็นเงินประมาณ 9,000 ล้านบาท
ผมเข้าใจว่าไม่ได้แจกตลอดไปเป็นลักษณะผูกพันเหมือนกับคนเก่าที่ลงทะเบียนรับเงินเป็นประจำอยู่แล้ว
น่าเสียดายว่ายังมีคนแก่ที่ไม่ได้รับอานิสงส์ครั้งนี้เหลืออีกมากพอสมควร และที่สำคัญ คือ ไม่ได้รับแบบถาวรจนเสียชีวิต

 

เองว่าเงินที่จ่ายเช็คให้ 2,000 บาท นี้ อยู่ใน 18,900 ล้านบาทนี้ไหมว่ะ ถ้าใช่ ข้าขอรับคำท้าว่ะ เองอย่ารีบเปิดตูดไปไหนนะ เหมือนกระทุ้แบน 1 เดือน มันหลอกข้าครั้งหนึ่งแล้ว

 

 

ขอโค๊ดท่าน stargate-1 ครับ แล้วทำตัวใหญ่ ไม่ใช่อะไรนะ 

 

ตาผมไม่ดี อ่านไม่ออก เลยขอโค๊คแล้วขนาดนิด ครับ

 

 

พอลคุงช่วย บวกลบคูณหาร หน่อยซิว่า 8.09 ล้านคน x 2,000 มันเท่าไหร่ เกิน เงินจาก 2) ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท ไหม

 

 

 

ถ้าเอาตาม จำนวนผู้ประักันตน ไม่เกินครับ คำนวณแล้ว 16180 ล้านบาท

 

แต่ถ้านับรวมไปถึง ข้าราชการและ ลูกจ้าง จะเกินมา ราว ๆ 100 ล้านบาท ประมาณนั้น

 

 

เงินก้อนนี้เป็นเงินที่มีการเบิกมาใช้จ่ายไปก่อน 19,140 ล้านบาท ที่จะมีการทำเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 เสนอให้รัฐสภาเห็นชอบเสียก่อนถึงจะนำไปใช้ได้ พูดง่ายๆ เงินก้อนนี้ เอามาจากงบเก่า ที่มีอยู่ในคลังตอนนั้น


Edited by Stargate-1, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:01.

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#336 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 18:29

 

 

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"  :lol:  :lol:  :lol: 

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*ก้อเห็นว่า เค้าให้ สำนักงานประกันสังคม เป็นผุ้ดำเนินการทั้งหมด

 

 

มาตรการ “เช็คช่วยชาติ”นั้น นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน  กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยรัฐบาลขออนุมัติเงินจากงบประมาณกลางปี ตามที่หลายหน่วยงานเสนอขอต่อรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยให้ผู้ได้รับเช็ค จะสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

ทางด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านขนาดใหญ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวจนถึงโชห่วย แต่ขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะรับหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์กับบรรดาร้านค้าว่า หากร้านค้าใดต้องการได้เงินตรงนี้ ควรจะจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขาย เพื่อแข่งขันกันตามกลไกตลาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส่วนนพ.พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามกับภาคเอกชน 21 ราย  เช่น ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงภาพยนตร์  ซูเปอร์มาร์เก็ต  โรงพยาบาล  ร้านค้าทั่วไป  เพื่อร่วมโครงการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติและลดราคาสินค้า รวมถึงสามารถทอนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ  นอกจากนี้ ภาคธุรกิจสามารถร่วมลงนามหรืออาจสมัครใจในการรับเช็คจากประชาชนและมีส่วนลดให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เช็คได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการประเมินกันว่าภายในวันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.8 หมื่นล้านจาก “เช็คช่วยชาติ”

 

 

ผู้มีสิทธิ์รับ “เช็คช่วยชาติ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จะแบ่งการจ่ายเช็คเป็น 3 กลุ่ม รวมทั้งหมด 9.7 ล้านราย คือ

1.กลุ่มผู้ประกันตน 8.1 ล้านราย ซึ่งได้แก่ ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทและผู้ประกันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกโดยสมัครใจ และอยู่ระหว่างได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของเงินเดือนเป็นเวลา 8 เดือน ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเช็ค2,000 บาทเช่นกัน ซึ่งจะมีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นผู้รับผิดชอบ

2.กลุ่มข้าราชการเบี้ยหวัดบำนาญ 2.3 แสนราย ทางกรมบัญชีกลางจะรับผิดชอบเอง และ

3.บุคลากรภาครัฐ 1.4 ล้านราย มีส่วนราชการกว่า 300 องค์กรเป็นผู้รับผิดชอบ

 

*คุณ*อ่านเข้าใจไหมว่ะ

 

 

 

คุณไงที่อ่านไม่เข้าใจ

งบประมาณมันคือภาษีผม ไม่ใช่ของสามหน่วยงานที่คุณพูด

ที่เขามอบหมายทั้งสามหน่วย (สปส กรมบัญชีกลาง และส่วนราชการต่าง) เป็น "ผู้รับผิดชอบ" เพราะทั้ง 3 หน่วยมี "ฐานข่้อมูลรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย" ในการแจกเงิน

เขาจึงมอบหมายให้ "เอาเงินไปแจก" 

 

แต่เงินมันเอามาจากงบประมาณ ไม่ใช่เงินของสมาชิกของทั้ง 3 หน่วยงานนั้น

 

ปล. มีใครพอจะมีความอดทนอธิบายให้ไอ้ปัญญาอ่อนตัวนี้เข้าใจหน่อยไหมครับ  :D

 

 

 

      ผม เข็ด แล้ว  ไม่เอาด้วยนะ  :D      .......    ไอ่นี่มัน บร้า 

และดูตัว นส. น้ำเงินโตๆนะ     พลทหารพอลคุงมันหยิบมาแปะแย้งตัวเองแท้ๆ


"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#337 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 18:34

 

 

 

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"  :lol:  :lol:  :lol: 

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*ก้อเห็นว่า เค้าให้ สำนักงานประกันสังคม เป็นผุ้ดำเนินการทั้งหมด

 

 

มาตรการ “เช็คช่วยชาติ”นั้น นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน  กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยรัฐบาลขออนุมัติเงินจากงบประมาณกลางปี ตามที่หลายหน่วยงานเสนอขอต่อรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยให้ผู้ได้รับเช็ค จะสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

ทางด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านขนาดใหญ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวจนถึงโชห่วย แต่ขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะรับหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์กับบรรดาร้านค้าว่า หากร้านค้าใดต้องการได้เงินตรงนี้ ควรจะจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขาย เพื่อแข่งขันกันตามกลไกตลาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส่วนนพ.พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามกับภาคเอกชน 21 ราย  เช่น ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงภาพยนตร์  ซูเปอร์มาร์เก็ต  โรงพยาบาล  ร้านค้าทั่วไป  เพื่อร่วมโครงการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติและลดราคาสินค้า รวมถึงสามารถทอนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ  นอกจากนี้ ภาคธุรกิจสามารถร่วมลงนามหรืออาจสมัครใจในการรับเช็คจากประชาชนและมีส่วนลดให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เช็คได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการประเมินกันว่าภายในวันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.8 หมื่นล้านจาก “เช็คช่วยชาติ”

 

 

ผู้มีสิทธิ์รับ “เช็คช่วยชาติ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จะแบ่งการจ่ายเช็คเป็น 3 กลุ่ม รวมทั้งหมด 9.7 ล้านราย คือ

1.กลุ่มผู้ประกันตน 8.1 ล้านราย ซึ่งได้แก่ ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทและผู้ประกันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกโดยสมัครใจ และอยู่ระหว่างได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของเงินเดือนเป็นเวลา 8 เดือน ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเช็ค2,000 บาทเช่นกัน ซึ่งจะมีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นผู้รับผิดชอบ

2.กลุ่มข้าราชการเบี้ยหวัดบำนาญ 2.3 แสนราย ทางกรมบัญชีกลางจะรับผิดชอบเอง และ

3.บุคลากรภาครัฐ 1.4 ล้านราย มีส่วนราชการกว่า 300 องค์กรเป็นผู้รับผิดชอบ

 

*คุณ*อ่านเข้าใจไหมว่ะ

 

 

 

คุณไงที่อ่านไม่เข้าใจ

งบประมาณมันคือภาษีผม ไม่ใช่ของสามหน่วยงานที่คุณพูด

ที่เขามอบหมายทั้งสามหน่วย (สปส กรมบัญชีกลาง และส่วนราชการต่าง) เป็น "ผู้รับผิดชอบ" เพราะทั้ง 3 หน่วยมี "ฐานข่้อมูลรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย" ในการแจกเงิน

เขาจึงมอบหมายให้ "เอาเงินไปแจก" 

 

แต่เงินมันเอามาจากงบประมาณ ไม่ใช่เงินของสมาชิกของทั้ง 3 หน่วยงานนั้น

 

ปล. มีใครพอจะมีความอดทนอธิบายให้ไอ้ปัญญาอ่อนตัวนี้เข้าใจหน่อยไหมครับ  :D

 

 

 

      ผม เข็ด แล้ว  ไม่เอาด้วยนะ  :D      .......    ไอ่นี่มัน บร้า 

และดูตัว นส. น้ำเงินโตๆนะ     พลทหารพอลคุงมันหยิบมาแปะแย้งตัวเองแท้ๆ

 

 

นังแต๋ม *คุณ*ได้อ่าน ปะ 

 

ไอ้กากลี บอกว่า เช็คช่วยชาติ นะ เอางบมาจากงบไทยเข็มแข็ง ว่ะ

 

แล้วปี 2552 มันมีงบไทยเข็มแข็งละ เหรอว่ะ 

 

หัดอ่านซะบ้างนะ นังแต๋ม

 

เอ๊ง ก้อยังบอกนะ ว่า เช็คช่วยชาติ เอามาจาก งบไทยเข็มแข็งว่ะ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา


Edited by พอล คุง, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 18:38.

ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#338 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 18:41

 

 

 

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"   

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*ก้อเห็นว่า เค้าให้ สำนักงานประกันสังคม เป็นผุ้ดำเนินการทั้งหมด

 

 

มาตรการ “เช็คช่วยชาติ”นั้น นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน  กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยรัฐบาลขออนุมัติเงินจากงบประมาณกลางปี ตามที่หลายหน่วยงานเสนอขอต่อรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยให้ผู้ได้รับเช็ค จะสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

ทางด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านขนาดใหญ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวจนถึงโชห่วย แต่ขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะรับหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์กับบรรดาร้านค้าว่า หากร้านค้าใดต้องการได้เงินตรงนี้ ควรจะจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขาย เพื่อแข่งขันกันตามกลไกตลาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส่วนนพ.พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามกับภาคเอกชน 21 ราย  เช่น ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงภาพยนตร์  ซูเปอร์มาร์เก็ต  โรงพยาบาล  ร้านค้าทั่วไป  เพื่อร่วมโครงการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติและลดราคาสินค้า รวมถึงสามารถทอนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ  นอกจากนี้ ภาคธุรกิจสามารถร่วมลงนามหรืออาจสมัครใจในการรับเช็คจากประชาชนและมีส่วนลดให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เช็คได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการประเมินกันว่าภายในวันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.8 หมื่นล้านจาก “เช็คช่วยชาติ”

 

 

ผู้มีสิทธิ์รับ “เช็คช่วยชาติ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จะแบ่งการจ่ายเช็คเป็น 3 กลุ่ม รวมทั้งหมด 9.7 ล้านราย คือ

1.กลุ่มผู้ประกันตน 8.1 ล้านราย ซึ่งได้แก่ ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทและผู้ประกันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกโดยสมัครใจ และอยู่ระหว่างได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของเงินเดือนเป็นเวลา 8 เดือน ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเช็ค2,000 บาทเช่นกัน ซึ่งจะมีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นผู้รับผิดชอบ

2.กลุ่มข้าราชการเบี้ยหวัดบำนาญ 2.3 แสนราย ทางกรมบัญชีกลางจะรับผิดชอบเอง และ

3.บุคลากรภาครัฐ 1.4 ล้านราย มีส่วนราชการกว่า 300 องค์กรเป็นผู้รับผิดชอบ

 

*คุณ*อ่านเข้าใจไหมว่ะ

 

 

 

คุณไงที่อ่านไม่เข้าใจ

งบประมาณมันคือภาษีผม ไม่ใช่ของสามหน่วยงานที่คุณพูด

ที่เขามอบหมายทั้งสามหน่วย (สปส กรมบัญชีกลาง และส่วนราชการต่าง) เป็น "ผู้รับผิดชอบ" เพราะทั้ง 3 หน่วยมี "ฐานข่้อมูลรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย" ในการแจกเงิน

เขาจึงมอบหมายให้ "เอาเงินไปแจก" 

 

แต่เงินมันเอามาจากงบประมาณ ไม่ใช่เงินของสมาชิกของทั้ง 3 หน่วยงานนั้น

 

ปล. มีใครพอจะมีความอดทนอธิบายให้ไอ้ปัญญาอ่อนตัวนี้เข้าใจหน่อยไหมครับ 

 

 

 

      ผม เข็ด แล้ว  ไม่เอาด้วยนะ        .......    ไอ่นี่มัน บร้า 

และดูตัว นส. น้ำเงินโตๆนะ     พลทหารพอลคุงมันหยิบมาแปะแย้งตัวเองแท้ๆ

 

 

ไม่ใช่เงินกู้แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:


Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#339 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 18:44

 

 

 

 

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"   

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*ก้อเห็นว่า เค้าให้ สำนักงานประกันสังคม เป็นผุ้ดำเนินการทั้งหมด

 

 

มาตรการ “เช็คช่วยชาติ”นั้น นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน  กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยรัฐบาลขออนุมัติเงินจากงบประมาณกลางปี ตามที่หลายหน่วยงานเสนอขอต่อรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยให้ผู้ได้รับเช็ค จะสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

ทางด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านขนาดใหญ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวจนถึงโชห่วย แต่ขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะรับหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์กับบรรดาร้านค้าว่า หากร้านค้าใดต้องการได้เงินตรงนี้ ควรจะจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขาย เพื่อแข่งขันกันตามกลไกตลาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส่วนนพ.พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามกับภาคเอกชน 21 ราย  เช่น ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงภาพยนตร์  ซูเปอร์มาร์เก็ต  โรงพยาบาล  ร้านค้าทั่วไป  เพื่อร่วมโครงการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติและลดราคาสินค้า รวมถึงสามารถทอนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ  นอกจากนี้ ภาคธุรกิจสามารถร่วมลงนามหรืออาจสมัครใจในการรับเช็คจากประชาชนและมีส่วนลดให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เช็คได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการประเมินกันว่าภายในวันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.8 หมื่นล้านจาก “เช็คช่วยชาติ”

 

 

ผู้มีสิทธิ์รับ “เช็คช่วยชาติ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จะแบ่งการจ่ายเช็คเป็น 3 กลุ่ม รวมทั้งหมด 9.7 ล้านราย คือ

1.กลุ่มผู้ประกันตน 8.1 ล้านราย ซึ่งได้แก่ ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทและผู้ประกันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกโดยสมัครใจ และอยู่ระหว่างได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของเงินเดือนเป็นเวลา 8 เดือน ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเช็ค2,000 บาทเช่นกัน ซึ่งจะมีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นผู้รับผิดชอบ

2.กลุ่มข้าราชการเบี้ยหวัดบำนาญ 2.3 แสนราย ทางกรมบัญชีกลางจะรับผิดชอบเอง และ

3.บุคลากรภาครัฐ 1.4 ล้านราย มีส่วนราชการกว่า 300 องค์กรเป็นผู้รับผิดชอบ

 

*คุณ*อ่านเข้าใจไหมว่ะ

 

 

 

คุณไงที่อ่านไม่เข้าใจ

งบประมาณมันคือภาษีผม ไม่ใช่ของสามหน่วยงานที่คุณพูด

ที่เขามอบหมายทั้งสามหน่วย (สปส กรมบัญชีกลาง และส่วนราชการต่าง) เป็น "ผู้รับผิดชอบ" เพราะทั้ง 3 หน่วยมี "ฐานข่้อมูลรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย" ในการแจกเงิน

เขาจึงมอบหมายให้ "เอาเงินไปแจก" 

 

แต่เงินมันเอามาจากงบประมาณ ไม่ใช่เงินของสมาชิกของทั้ง 3 หน่วยงานนั้น

 

ปล. มีใครพอจะมีความอดทนอธิบายให้ไอ้ปัญญาอ่อนตัวนี้เข้าใจหน่อยไหมครับ 

 

 

 

      ผม เข็ด แล้ว  ไม่เอาด้วยนะ        .......    ไอ่นี่มัน บร้า 

และดูตัว นส. น้ำเงินโตๆนะ     พลทหารพอลคุงมันหยิบมาแปะแย้งตัวเองแท้ๆ

 

 

ไม่ใช่เงินกู้แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

แรก ๆ มาบอก มาจากเงินกู้

 

ไป ๆ มา ๆ เป็น มาจากงบประมาณ 

 

ไม่รู้ว่าต่อไปจะมาจากไหนอีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาา


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#340 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 18:52

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

เงินกู้ ถือเป็นรายได้     http://www.cs.ssru.a...conomics/6.html

 

 

 

แล้วกู้เท่าไรมาดูกัน    ดู 2552 นะ เยอะกว่าเค๊าหมดเบยนะ :lol:   ละลายไปหมดอีกต่างหาก

 

%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%


"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#341 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 18:55

 

 

 

 

 

 

 

 

ขี้เกียจพิมพ์เถียงกับพี่  เพราะสุดท้ายพี่ก็จะบังคับให้คนอื่นหมุนติ้วๆๆๆๆๆ ตามพี่ตลอด  :lol:  :lol:  :lol:

 

แต่ผมจะพิมพ์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นอ่านละกัน

 

หลักการคร่าวๆ ของการจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้ประกันตนคือ  มันเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายของประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเค้ามองว่าเงินบางส่วนของผู้ประกันตนมันควรที่จะเอาออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เก็บเข้ากองทุนเฉยๆ คือในปี 2552 เงินกองทุนประกันสังคมมันมีกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.8% ของ GDP (ไม่ใช่ 2.9 หมืนล้านตามความเข้าใจผิดๆของใครบางคนนะครับ)
 
ทีนี้เค้าของมองว่าเงินไปจมอยู่เฉยๆ ตั้ง 7 แสนล้าน  ถ้านำเอาบางส่วนมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็คงจะดี  เค้าเลยให้เงินผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทเพื่อชดเชยกับการที่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสั่งคม (อันนี้ตอบคำถามว่าทำไมสามล้อไม่ได้  ก็สามล้อเกิดมาไม่เคยจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมเลยไงครับ)
 
ซึ่งคำถามต่อมาคือ  ประเทศอื่นๆเค้าทำกันมั๊ย  ตอบว่าเค้าทำกันทุกประเทศนั่นแหละครับเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจาก sub-prime เช่น  
 
ตอนปี 2552 (ปีเดียวกับที่ไทยทำ) รัฐบาลญี่ปุ่นแจกเงินประชาชนคนละ 12,000 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี   จะได้รับ 20,000 เยน ครอบครัวที่มีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไประหว่างอายุ 3-5 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 36,000 เยน (http://www.fpo.go.th...ryID=CAT0000736)
 
หรือ USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญ หรือที่เราเรียกว่า QE นั่นแหละครับ  ถือเป็นการแจกเงินแบบนึงเหมือนกัน  แต่เค้าแจกเงินให้กับผู้ที่ถือพันธบัตร  
 
ตกลงเรื่องเงินประกันตน 2,000 บาทจบนะครับ
 
ถ้าใครยังมาเถียงข้างๆ คูๆ อีกคงต้องบอกว่า "คนโง่นี่มันโง่จริงๆ"   

 

 

 

โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน  (เช็คช่วยชาติ  2,000 บาท) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐบาล ช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ   15,000  บาท เป็นเงินคนละ  2,000  บาท ไม่ว่าช่วงนั้นเราจะวิพากษ์วิจารณ์กันยังไงก็ตามครับ สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตน  โดย  ณ  วันนี้มีการจ่ายเช็คช่วยชาติ ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติแล้วกว่า 6,473,358 ฉบับ

 

---

 

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นควรระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน (เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท) ที่จะต้องจ่ายให้กับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการและหน่วยงานอื่ เพราะหากรัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 52 จะต้องใช้เงินจำนวนมากอาจมีผลต่องบประมาณที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านอุบัติภัย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

 

เอาตัวเลขกองทุนมาดูกันเลยครับว่าเงินกองทุนส่วนไหนที่จ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ

 

 

ไอ้กากลี *คุณ*อ่าน        สำนักงานประกันสังคม  ก็ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ

 

 

เข้าใจไหมว่ะ 

 

 

 

เงินงบประมาณนะครับ ไม่ใชเงินกองทุนที่คุณสมทบเข้าไป

เข้าใจไหมวะ?

 

เงินงบประมาณคือเงินภาษีผมและของแม่ค้าร้านขายข้าวแกงที่เขาเสียภาษี

ส่วนว่ามันกู้มาหรือเปล่ามันพิสูจน์ยากว่ามันก้อนนี้หรือก่อนไหน

แต่ชัวร์ๆ ว่ามันเป็นเงินภาษี ไม่ใช่เงินกองทุนที่คุณสมทบ

 

สำนักงานประกันสังคมเขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จ่ายเช็คเพราะฐานข้อมูลกลุ่มคนเป้าหมาย 8-10 ล้านคนอยู่ที่เขา

 

แต่เงินหน่ะมันเงินผมครับ

 

 

ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

*คุณ*ก้อเห็นว่า เค้าให้ สำนักงานประกันสังคม เป็นผุ้ดำเนินการทั้งหมด

 

 

มาตรการ “เช็คช่วยชาติ”นั้น นับเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน  กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยรัฐบาลขออนุมัติเงินจากงบประมาณกลางปี ตามที่หลายหน่วยงานเสนอขอต่อรัฐบาล

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด โดยให้ผู้ได้รับเช็ค จะสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

ทางด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านขนาดใหญ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวจนถึงโชห่วย แต่ขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะรับหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ประชาสัมพันธ์กับบรรดาร้านค้าว่า หากร้านค้าใดต้องการได้เงินตรงนี้ ควรจะจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการขาย เพื่อแข่งขันกันตามกลไกตลาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปยุ่ง

ส่วนนพ.พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามกับภาคเอกชน 21 ราย  เช่น ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงภาพยนตร์  ซูเปอร์มาร์เก็ต  โรงพยาบาล  ร้านค้าทั่วไป  เพื่อร่วมโครงการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติและลดราคาสินค้า รวมถึงสามารถทอนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ  นอกจากนี้ ภาคธุรกิจสามารถร่วมลงนามหรืออาจสมัครใจในการรับเช็คจากประชาชนและมีส่วนลดให้ผู้มีสิทธิ์ใช้เช็คได้เพิ่มเติม

ทั้งนี้มีการประเมินกันว่าภายในวันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1.8 หมื่นล้านจาก “เช็คช่วยชาติ”

 

 

ผู้มีสิทธิ์รับ “เช็คช่วยชาติ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จะแบ่งการจ่ายเช็คเป็น 3 กลุ่ม รวมทั้งหมด 9.7 ล้านราย คือ

1.กลุ่มผู้ประกันตน 8.1 ล้านราย ซึ่งได้แก่ ผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทและผู้ประกันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออกโดยสมัครใจ และอยู่ระหว่างได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของเงินเดือนเป็นเวลา 8 เดือน ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเช็ค2,000 บาทเช่นกัน ซึ่งจะมีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นผู้รับผิดชอบ

2.กลุ่มข้าราชการเบี้ยหวัดบำนาญ 2.3 แสนราย ทางกรมบัญชีกลางจะรับผิดชอบเอง และ

3.บุคลากรภาครัฐ 1.4 ล้านราย มีส่วนราชการกว่า 300 องค์กรเป็นผู้รับผิดชอบ

 

*คุณ*อ่านเข้าใจไหมว่ะ

 

 

 

คุณไงที่อ่านไม่เข้าใจ

งบประมาณมันคือภาษีผม ไม่ใช่ของสามหน่วยงานที่คุณพูด

ที่เขามอบหมายทั้งสามหน่วย (สปส กรมบัญชีกลาง และส่วนราชการต่าง) เป็น "ผู้รับผิดชอบ" เพราะทั้ง 3 หน่วยมี "ฐานข่้อมูลรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย" ในการแจกเงิน

เขาจึงมอบหมายให้ "เอาเงินไปแจก" 

 

แต่เงินมันเอามาจากงบประมาณ ไม่ใช่เงินของสมาชิกของทั้ง 3 หน่วยงานนั้น

 

ปล. มีใครพอจะมีความอดทนอธิบายให้ไอ้ปัญญาอ่อนตัวนี้เข้าใจหน่อยไหมครับ 

 

 

 

      ผม เข็ด แล้ว  ไม่เอาด้วยนะ        .......    ไอ่นี่มัน บร้า 

และดูตัว นส. น้ำเงินโตๆนะ     พลทหารพอลคุงมันหยิบมาแปะแย้งตัวเองแท้ๆ

 

 

ไม่ใช่เงินกู้แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

แรก ๆ มาบอก มาจากเงินกู้

 

ไป ๆ มา ๆ เป็น มาจากงบประมาณ 

 

ไม่รู้ว่าต่อไปจะมาจากไหนอีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

 

มาจากอากาศ

 

:lol: 



#342 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 18:58

กรณีเงินกู้ ผมกำลังหาอยู่ ว่าที่กรณ์บอกว่าเป็นเงินงบประมาณกลางปี เอามาแจก2000น่ะ

แน้วโน้มมันเป็นกลางปีของ 2552 แน่ๆ เพราะคิดแบบง่ายๆว่า ใครหนอมันจะสามารถเอางบของปี 2551 ที่ไม่ใช่รัฐบาลตัวเองมาใช้

 

ยังไงจะชี้ขาดอะไร ผมว่าช่วยกันหาข้อมูลกันก่อนนะ

อย่าเพิ่งนั่งเทียน คิดเอง เออเอง ชี้ขาดเอง   แบบนาย  "starเก๋ง ติงต๊องส์"  และนาย "พอลคุง พลทหารอายุ18"   :lol:  :lol:  :lol:


Edited by Tam-mic-ra., 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:21.

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#343 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:00

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

เงินกู้ ถือเป็นรายได้     http://www.cs.ssru.a...conomics/6.html

 

 

 

แล้วกู้เท่าไรมาดูกัน    ดู 2552 นะ เยอะกว่าเค๊าหมดเบยนะ :lol:   ละลายไปหมดอีกต่างหาก

 

%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%

 

 

" และเงินกู้เพื่อรองรับกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ จำนวน 94.000 ล้านบาท  ตามมติ ครม. 17 เมษายน 2552"

 

แล้วมันไปเกี่ยวกับ เช็ค 2000 บาทตรงไหนว๊ะนังแต๋ม

 

หันไปดูข้างบน เศือกบอกให้คนอื่นไปหาข้อมูลอีก

 

โง่ไม่มีขีดจำกัดจริง ๆ

 

โชว์โง่เรื่องข้าวในทู้นี้มาแหมบ ๆ ...นี่เอาอีกแระ

 

:lol:


Edited by 55555, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:02.


#344 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:01

กรณีเงินกู้ ผมกำลังหาอยู่ ว่าที่กรณ์บอกว่าเป็นเงินงบประมาณกลางปี เอามาแจก2000น่ะ

แน้วโน้มมันเป็นกลางปีของ 2552 แน่ๆ เพราะคิดแบบง่ายๆว่า ใครหนอมันจะสามารถเอางบของปี 2551 ที่ไม่ใช่รัฐบาลตัวเองมาใช้

 

ยังไงจะชี้ขาดอะไร ผมว่าช่วยกันหาข้อมูลกันก่อนนะ

อย่าเพิ่งนั่งเทียน คิดเอง เออเอง ชี้ขาดเอง   แบบนาย  "starก๋งติงต๊องส์"  และนาย "พอลคุงพลทหารอายุ18"   :lol:  :lol:  :lol:

 

 

เอ็งจินตนาการน้ำแตกทีไร โดนตบทุกทีเลยนังแต๋ม

 

นี่เอาอีกแระ

 

:lol: 



#345 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:04

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เงินงบกลางปี 115,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแหล่งเงินที่นำมาใช้ คือ 1.เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 95,860 ล้านบาท และ 2.ภาษีและรายได้อื่น 19,139 ล้านบาท

นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายตามนโยบายเร่งด่วน 18-19 โครงการนั้น มาตรการที่สำคัญคือ การช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ วงเงินกว่า 18,800 ล้านบาท แยกเป็นเงินช่วยมนุษย์เงินเดือน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 8 ล้านคน ทั้งพวกที่ตกงานและพวกที่ยังมีงานทำอยู่ ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อรายครั้งเดียว คิดเป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท และรวมถึงข้าราชการ พนักงานราชการ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวนกว่า 1.23 ล้านราย ให้ได้รับเงินพิเศษ 2,000 บาทต่อคนเช่นกัน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณรวม 2,328 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.52 เป็นต้นไป และยังเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ 3 ล้านคน 500 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่ส่งผ่านให้กองทุนหมู่บ้านจะรอใช้งบประมาณจากส่วนอื่นๆ ต่อไป

 

 

 

พอลคุงกับผู้มีรายได้น้อยในตอนปี 52 ซึ่งรับเช็คช่วยชาติไปและยืนยันว่าเป็นเงินของกองทุน (ซึ่งเกิดจากการสมทบของคุณเอง) ไม่ใช่เงินกู้กับเงินภาษีแม่ค้าร้านข้าวมันไก้

 

มาพนันกับผมดีกว่า

 

หากผมผิด ผมจะไปจากบอร์ดนี้ทันที

 

หากคุณผิด ช่วยเอาเงิน 2,000 บาทไปคืนแม่ค้าร้านข้าวแกงร้านไหนก็ได้

 

ก้าวออกมาเลยครับ

 

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

เงินกู้ ถือเป็นรายได้     http://www.cs.ssru.a...conomics/6.html

 

 

 

แล้วกู้เท่าไรมาดูกัน    ดู 2552 นะ เยอะกว่าเค๊าหมดเบยนะ    ละลายไปหมดอีกต่างหาก

 

 

 

 

ไม่รู้มันจะเอาอย่างไรแน่  ม่าท้าเขาแหยงๆ ว่าเอามาจากเงินกู้ เขาเอาเงินในงบเหลือปี 2552 จ่ายไป 18,900 ล้านบาท แล้วให้คน 8 ล้านคน คนละ 2 พัน


Edited by Stargate-1, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:06.

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#346 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:12

กรณีเงินกู้ ผมกำลังหาอยู่ ว่าที่กรณ์บอกว่าเป็นเงินงบประมาณกลางปี เอามาแจก2000น่ะ

แน้วโน้มมันเป็นกลางปีของ 2552 แน่ๆ เพราะคิดแบบง่ายๆว่า ใครหนอมันจะสามารถเอางบของปี 2551 ที่ไม่ใช่รัฐบาลตัวเองมาใช้

 

งบกลางปี 2552 ต้องเข้าสภาก่อน เองซิ "แต๋มติงต๊องส์" เขาจ่ายไปก่อนแล้ว ไม่รอเงินกู้ โว้ย

 

"วงเงินที่ว่านั้นจะต้องทำเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2552 เสนอให้รัฐสภาเห็นชอบเสียก่อนถึงจะนำไปใช้ได้
เพราะฉะนั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมตามสมควรในขั้นตอนของรัฐสภา แต่จะไม่มีการปรับเพิ่มปรับลดวงเงินดังกล่าว เพียงแต่ว่าจะเกลี่ยไปที่ไหนอย่างไรตามการต่อรองอย่างดุเดือดเผ็ดร้อนต่อไป
แม้จะมีวงเงินที่จะจ่ายได้ 115,000 ล้านบาท แต่ก็ต้องบอกเสียก่อนว่า จ่ายได้จริงๆ เพียงแค่
95,860 ล้านบาท เท่านั้น เพราะมีรายการจ่ายชดเชยเงินคงคลังที่มีการเบิกมาใช้จ่ายไปก่อนหน้านี้ 19,140 ล้านบาท รวมอยู่ด้วย
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าเงินจำนวนประมาณ 95,860 ล้านบาท ซึ่งตามหลักการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนั้น จะต้องไม่เป็นงบผูกพันข้ามปี และต้องเร่งรัดเบิกจ่ายให้หมดภายในระยะเวลา
ในกรณีนี้ ถ้าหากเริ่มใช้เงินได้จริงประมาณต้นเดือนเมษายน ก็จะมีเวลาใช้ให้หมดเกลี้ยงภายในเดือนกันยายน หรือ 6 เดือน"

 


Edited by Stargate-1, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:29.

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#347 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:19

"นโยบายจำนำข้าวที่สูงเกินจริง สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้คนไทย"

 

ประมูลข้าวเปลือกทำข้าวนึ่งราคาถูก กดราคาในตลาดเหลือ 8,300 บาทต่อตัน โรงสีมั่นใจโกดังพอ

 

แหล่งข่าวจากสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยว่า การที่กระทรวงพาณิชย์เปิดประมูลข้าวเปลือกเจ้าเพื่อนำไปทำเป็นข้าวนึ่งส่งออกนั้น ราคาที่เอกชนประมูลได้อยู่ที่ 8,450-8,500 บาทต่อตัน จากราคาตลาดที่ข้าวเปลือกในตลาดที่อยู่ที่ 1 หมื่นบาทต่อตัน ส่งผลให้ข้าวเปลือกในท้องตลาดลดลงเหลือ 8,300-8,400 บาทต่อตัน

“เอกชนที่ประมูลซื้อข้าวเปลือกได้ เขาบอกว่าเสนอราคาไปที่ 8,450 บาทต่อตัน เมื่อรัฐบาลขายข้าวเปลือกไป ก็กลายเป็นว่าราคาข้าวที่ขายไปนั้นเป็นราคาชี้นำตลาดไป ทำให้ราคาข้าวเปลือกตกลงทั้งตลาด”แหล่งข่าวเปิดเผย

แหล่งข่าวยังเปิดเผยว่า เชื่อว่าขณะนี้รัฐบาลน่าจะเหลือข้าวสารในสต๊อกไม่ถึง 15-17 ล้านตัน เพราะล่าสุดรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า รัฐบาลมีข้าวสารต่ำกว่า 10 ล้านตัน แต่หากกระทรวงพาณิชย์ระบายข้าวออกไปจำนวนมากจริง แต่ส่งเงินคืนเพียง 1.4 แสนล้านบาท เท่ากับว่ารัฐบาลขาดทุนจากการขายข้าวในวงเงินที่สูง

นายมานัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า การส่งข้าวสารเข้าโกดังกลางไม่มีปัญหาเหมือนเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว เห็นได้จากเมื่อรถขนส่งข้าวสารไปถึงโกดังจะลงข้าวได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ส่วนข้าวสารในฤดูกาลใหม่ที่จะเข้าโครงการตั้งแต่เดือน ต.ค.นั้น ไม่น่าจะมีปัญหาเช่นกัน เพราะมีการจำกัดปริมาณรับจำนำต่อราย

ทั้งนี้ โครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมากำหนดปริมาณรับจำนำข้าวไม่เกิน 5 แสนบาทต่อครัวเรือน คิดเป็นปริมาณข้าวเปลือก 31-32 ตัน แต่เมื่อกระทรวงพาณิชย์ลดปริมาณเหลือไม่เกิน 3.5 แสนบาทต่อครัวเรือน จะคิดข้าวเปลือกที่เข้าโครงการจะเหลือ 23.3 ตันต่อราย เมื่อข้าวเปลือกไม่ได้เข้าโครงการทั้งหมด เชื่อว่ารัฐบาลจะมีที่เก็บข้าวเพียงพอ

 

จำนำมาเท่าไหร่ ขายเท่าไหร่  จำนำสูงเกินจริงหรือเปล่า


Edited by Stargate-1, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:26.

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#348 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:25

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

เงินกู้ ถือเป็นรายได้     http://www.cs.ssru.a...conomics/6.html

 

 

 

แล้วกู้เท่าไรมาดูกัน    ดู 2552 นะ เยอะกว่าเค๊าหมดเบยนะ :lol:   ละลายไปหมดอีกต่างหาก

 

%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%

 

 

" และเงินกู้เพื่อรองรับกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ จำนวน 94.000 ล้านบาท  ตามมติ ครม. 17 เมษายน 2552"

 

แล้วมันไปเกี่ยวกับ เช็ค 2000 บาทตรงไหนว๊ะนังแต๋ม

 

หันไปดูข้างบน เศือกบอกให้คนอื่นไปหาข้อมูลอีก

 

โง่ไม่มีขีดจำกัดจริง ๆ

 

โชว์โง่เรื่องข้าวในทู้นี้มาแหมบ ๆ ...นี่เอาอีกแระ

 

:lol:

 

ไอ่งั่งเอ๋ย  แล้วมันไม่เกี่ยวยังไงก็ว่ามาก่อนสิ่

แล้วใครโชว์โง่กันแน่  แต่ละเรื่องนี่เอ็งหน้าแหกทุกรอบ ....  อย่ามาบิดเบือนแบบสรุปเองประโยคเดียวเลย


"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#349 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:27

 

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

เงินกู้ ถือเป็นรายได้     http://www.cs.ssru.a...conomics/6.html

 

 

 

แล้วกู้เท่าไรมาดูกัน    ดู 2552 นะ เยอะกว่าเค๊าหมดเบยนะ :lol:   ละลายไปหมดอีกต่างหาก

 

%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%

 

 

" และเงินกู้เพื่อรองรับกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ จำนวน 94.000 ล้านบาท  ตามมติ ครม. 17 เมษายน 2552"

 

แล้วมันไปเกี่ยวกับ เช็ค 2000 บาทตรงไหนว๊ะนังแต๋ม

 

หันไปดูข้างบน เศือกบอกให้คนอื่นไปหาข้อมูลอีก

 

โง่ไม่มีขีดจำกัดจริง ๆ

 

โชว์โง่เรื่องข้าวในทู้นี้มาแหมบ ๆ ...นี่เอาอีกแระ

 

:lol:

 

ไอ่งั่งเอ๋ย  แล้วมันไม่เกี่ยวยังไงก็ว่ามาก่อนสิ่

แล้วใครโชว์โง่กันแน่  แต่ละเรื่องนี่เอ็งหน้าแหกทุกรอบ ....  อย่ามาบิดเบือนแบบสรุปเองประโยคเดียวเลย

 

 

 

นี่เค้าเรียกว่า โง่แบบไม่รู้ตัว

 

ข้า ฯ ยกไอ้ 94000 ล้าน เพราะเอ็งบอกว่ามันเยอะกว่าทุกปี แล้วเศือกเอาไปเกี่ยวกับ 2000 บาท

 

ส่วนเรื่องที่ว่าเอ็งโง่ขนาดไหน เอ็งไปเช็ค ไทม์ไลน์ดูเอาละกัน

 

เอ็งมันเหลือขอแล้ว....ทำไงก็ไม่หายโง่หรอก

 

ข้าเล่นเอามันส์เฉย ๆ ไม่ได้เล่นให้เอ็งหายโง่ เข้าใจยัง

 

ส่วนไอ้เรื่องใครหน้าแหกเนี่ย...คนในนี้เค้ารู้ดี เอ็งไม่ต้องมั่ว บลัฟหรอก ไอ้กระจอกแต๋ม

 

 

 

 

 

:lol: 


Edited by 55555, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:30.


#350 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:28

 

 

 

 

รอดูมันจะแถทางไหน อีก

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม่แถว่า เงินกู้มา แล้วหรือ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

 

เงินกู้ ถือเป็นรายได้     http://www.cs.ssru.a...conomics/6.html

 

 

 

แล้วกู้เท่าไรมาดูกัน    ดู 2552 นะ เยอะกว่าเค๊าหมดเบยนะ :lol:   ละลายไปหมดอีกต่างหาก

 

%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%

 

 

" และเงินกู้เพื่อรองรับกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ จำนวน 94.000 ล้านบาท  ตามมติ ครม. 17 เมษายน 2552"

 

แล้วมันไปเกี่ยวกับ เช็ค 2000 บาทตรงไหนว๊ะนังแต๋ม

 

หันไปดูข้างบน เศือกบอกให้คนอื่นไปหาข้อมูลอีก

 

โง่ไม่มีขีดจำกัดจริง ๆ

 

โชว์โง่เรื่องข้าวในทู้นี้มาแหมบ ๆ ...นี่เอาอีกแระ

 

:lol:

 

ไอ่งั่งเอ๋ย  แล้วมันไม่เกี่ยวยังไงก็ว่ามาก่อนสิ่

แล้วใครโชว์โง่กันแน่  แต่ละเรื่องนี่เอ็งหน้าแหกทุกรอบ ....  อย่ามาบิดเบือนแบบสรุปเองประโยคเดียวเลย

 

 

ไม่มีไร แค่เอามาแปะ แสกหน้า นังแต๋ม เบา ๆ 

 

1.  เรื่อง การปฏิบัติงานตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ

                        คณะรัฐมนตรีอนุมัติและเห็นชอบในหลักการเพื่อการดำเนินงานตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ  (ในส่วนของผู้ประกันตน) ในประเด็นต่าง ๆ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ  ดังนี้

                        1. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 เพื่อให้ “เช็คช่วยชาติ” เป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ

                                    (1) มีการขีดคร่อมทั่วไปสั่งจ่ายในนามของผู้ประกันตนและระบุเลขที่ประจำตัวประชาชน  โดยไม่ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ออก

                                    (2) มีธนาคารเป็นผู้ดำเนินการลงนามและออก “เช็คช่วยชาติ” ในนามของเจ้าของงบประมาณ คือ สำนักงานประกันสังคม

                        2. อนุมัติให้ยกเว้นระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สำนักงานประกันสังคมเก็บรักษา  “เช็คช่วยชาติ” ไว้เป็นเวลา 90 วัน (ณ สำนักงานคลังจังหวัด หรือตู้นิรภัยของธนาคารสาขาหลักที่ออก “เช็คช่วยชาติ”) กรณีที่ผู้ประกันตนไม่มารับ “เช็คช่วยชาติ” ในวันที่ระบุใน  “เช็คช่วยชาติ”

                        3. เห็นชอบในหลักการตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนผู้ประกันตน รวม 4 ประการ  ดังนี้

                                    3.1 ขอกำหนดคุณสมบัติของผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ  คือจะต้องมีสัญชาติไทยและมีสถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533

                                    3.2 ขอขยายขอบเขตการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตน  ให้รวมถึงผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2551 และยังได้รับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประกันสังคมต่อไปอีก 6 เดือน (เป็นบุคคลตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533)

                                    3.3 ขอใช้ฐานค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม เป็นเกณฑ์ตัดสินการมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตนตามโครงการฯ ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนมีการทำงานมากกว่า 1 แห่งและมีฐานค่าจ้างรวมกันเป็นจำนวนเงินตั้งแต่เดือนละ 15,000 บาทขึ้นไป  จะไม่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ

                                    3.4 กำหนดให้การจ่าย “เช็คช่วยชาติ” มีวิธีดำเนินการ 3 วิธี คือ

                                                                (1) จ่าย “เช็คช่วยชาติ” ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิ ณ สถานประกอบการที่ผู้ประกันตนทำงานอยู่โดยตรง

                                                (2) จ่าย “เช็คช่วยชาติ” ให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิโดยตรง ณ สถานที่ซึ่งสำนักงานประกันสังคมมีประกาศกำหนดนัดหมายไว้ล่วงหน้า

                                                (3) จัดหน่วยงานเคลื่อนที่นำ  “เช็คช่วยชาติ” ไปจ่ายให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิโดยตรงซึ่งพำนักในท้องถิ่นห่างไกล  โดยจะมีประกาศกำหนดนัดหมายไว้ล่วงหน้า

                        4. สนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินงานจ่าย “เช็คช่วยชาติ” ตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐเป็นการเพิ่มเติม รวมจำนวนเงิน 39,638,800 บาท

                        5. อนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินอุดหนุนทั่วไปโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐในส่วนของผู้ประกันตน พ.ศ. 2552  เนื่องจากการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้ประกันตนตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ  

 

 

 

 

นังแต๋ม ช่วยอ่าน ตัวแดง ๆ ใหญ่ ๆทีนะ ว่ามันเป็นงบเหลือ จากปีอะไร

 

รอ ๆ ๆ ๆ ไอ้กากลี เข้ามาก่อน ยังเหลือข้อมูลนิดพอสมควร 


Edited by พอล คุง, 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:29.

ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน