ผมจะกล่าวถึงเฉพาะหลัก 46-47 ที่วีระล้ำเข้าไปนะ เพราะถ้าคุยตลอดแนวมีทั้งไทยกินเขมร เขมรกินไทย เดี๋ยวงง
- คุณ ซ อ้างแผนที่ไทยเป็นหลักเพราะกินเข้าไปพื้นที่เขมร การอ้างแบบนี้ก็เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อพวกวีระมากกว่า และต้องการจะบอกว่าต่อให้อ้างแผนที่ไทยที่ได้เปรียบที่สุดก็ยังล้ำ
คุณ ก บอกว่าคุณ ซ อ้างหลักฐานไม่ตรงกับอภิสิทธิ์ ซึ่งคุณ ซ บอกว่าอภิสิทธิ์ยึดตามแนวหลักหมุด ถ้าดูจากรูป ที่คุณ ซ ทำขึ้น (เทียบแนวแผนที่ต่างๆกับแนวหลักหมุด) แนวหลักหมุดทำให้คนไทยล้ำน้อยที่สุด
คุณ ก สรุปว่าคุณ ซ ไม่ควรไปแย้งข้อมูลรัฐบาล และคุณ ก บอกว่าถ้าข้อมูลคุณ ซ ถูกแปลว่ารัฐบาลโกหก
ผมสรุปว่า - คุณ ซ ไม่ได้แย้งอะไรรัฐบาลหรอก แค่ยกข้อมูลหลักฐานอื่นๆมาพิจารณาร่วมเฉยๆ คุณ ซ ต้องการบอกว่าแนวหมุดมันคลาดเคลื่อนเมื่อเทียบกับแผนที่ที่ไทยเคยทำ ถึงแม้เราจะยึดหลักหมุดในการอ้างว่าวีระล้ำไปน้อยที่สุด แต่ก็ไม่ควรนำหลักหมุดปัจจุบันมาเป็นแนวเขตถาวร เพราะหลักหมุดปัจจุบันคลาดเคลื่อนไปจากสาเหตุต่างๆ และบริเวณอื่นถ้าใช้แนวหลักหมุดจะมีที่เขมรได้เปรียบเรา การหาแนวเขตจึงต้องกลับไปพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าควรอยู่ตำแหน่งใด
แต่สำหรับคดีวีระ ก็ควรใช้พยานหลักฐานเท่าที่มีมาช่วย ถึงเราจะรู้ว่าแนวหมุดเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม แต่ถ้ามันเป็นประโยชน์ต่อคนไทยที่ถูกจับก็เอามาอ้างได้ ส่วนต่อไปก็ต้องมาหาว่าตำแหน่งจริงเป็นอย่างไร (ตรงนี้ผมไม่ถือว่ารัฐบาลโกง เพราะไม่ใช่วีระถูกจับเราเลยไปย้ายเขตให้ล้ำน้อยลง แต่เป็นการอ้างหลักฐานที่มีอยู่มาช่วยให้มากที่สุด)
ดังนั้น ข้อมูลที่รัฐนำมาจะใกล้เคียงความจริงหรือไม่ ยังไม่มีใครบอกได้(เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าเขตจริงๆอยู่ไหน ต้องให้กรรมการพิจารณา ซึ่งเป็นเรื่องอนาคต) แต่หน้าที่ของรัฐในการช่วยเหลือก็ต้องอ้างหลักฐานในปัจจุบันที่บ่งชี้ความผิดให้น้อยที่สุด ก็คงเป็นเรื่องมุมมองของแต่ละคนว่าจะเห็นสมควรกับหลักฐานนี้หรือไม่
ส่วนเรื่องเดี๋ยวใช้แผนที่เดี๋ยวใช้หลักเขต มันก็เป็นเรื่องการใช้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายเรามากที่สุด เมื่อมีข้อมูลหลักฐานที่เป็นประโยชน์กว่าก็ต้องอ้างหลักฐานใหม่
ประเด็นต่อมาที่คุณ ก สับสนว่า MOU ทำให้เสียดินแดนหรือไม่
- ขึ้นกับว่าคณะกรรมการสรุปว่าอย่างไรซึ่งเป็นเรื่องอนาคต อาจทำให้เขตแดนเปลี่ยนไปจากแผนที่ที่เคยทำ อาจมีบางส่วนที่ตอนนี้เราได้เปรียบ แต่ตรวจสอบแล้วอาจเป็นของเขมร เช่นเดียวกัน พื้นที่ที่เป็นของเขมรตอนนี้ก็อาจเป็นของไทย
ดังนั้น MOU คือการมาร่วมเจรจาหาข้อยุติโดยสันติ การจะระบุเขตแดนขึ้นกับพยานหลักฐานที่คณะกรรมการจะนำมาใช้ตัดสิน ที่รัฐบาลบอกว่า MOU ไม่ทำให้เสียดินแดนก็เพื่อคัดค้านคำกล่าวหาจาก ASTV ว่า MOU ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ซึ่งนั่นทำให้เสียดินแดนแน่ๆโดยเฉพาะบริเวณเขาพระวิหาร
ผมเลยขอสรุปว่า MOU ไม่ทำให้เสียดินแดน แต่ถ้าการเจรจาโดยคณะกรรมการยุติลงอาจมีพื้นที่ไทยบางส่วน(เล็กน้อย)ไปอยู่เขมรแต่เชื่อว่าเราได้มากกว่าเสียแน่ๆ (โดยเฉพาะเขาพระวิหาร ถ้าคนไทยช่วยกันสู้นะ แต่ถ้าคนไทยยังแตกแยกก็ไม่กล้ารับปาก)
ที่คุณ ก บอกว่าอภิสิทธิ์โกหกคนไทยเรื่อง MOU เรื่องทวิภาคี ตรงนี้ผมไม่เข้าใจว่าโกหกประเด็นไหน
- แต่คุณ ซ แค่ต้องการจะสื่อว่าเขมรต้องการจะยกเลิก(แต่เค้าไม่พูดว่าจะยกเลิกตรงๆหรือขอยกเลิกกับเรา กลับเป็นการให้คนนอกเข้ามาซึ่งมันผิดหลัก MOU ซึ่งเป็นทวิภาคี ก็คือ ไม่เคารพ MOU หรือต้องการละเมิดนั่นเอง)
ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่าอภิสิทธิ์ไม่ออกมาปฏิเสธเรื่องที่ 15thmove กล่าวหา แปลว่ายอมรับ ตรงนี้ไม่ควรไปสรุปแบบนั้น แต่น่าจะเอาประเด็นที่กล่าวหามาวิเคราะห์กันว่าจริงหรือไม่ ไม่งั้นกล่าวหาแล้วคนกล่าวหาไม่รู้เรื่อง หรือขี้เกียจออกมาปฏิเสธ เลยมาสรุปว่ายอมรับ คงไม่เหมาะ
ที่ถามว่าเขมรบิดเบือนจุดถูกจับทำไมในเมื่อถูกจับในเขมรจริง
-เค้าก็คงอยากให้เห็นว่าล้ำมากๆจะได้หาเรื่องไทย (จริงๆมองไปได้หลายแง่ ผมก็ไม่เข้าใจว่าที่ถามประเด็นนี้เพราะอะไร)
Edited by ไร้สีไร้กลิ่น, 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 13:23.