Jump to content


Photo

คำถามวัดระดับความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ครับ ผมไม่รู้ช่วยด้วยครับ


This topic is in the process of being archived.
254 ความเห็นในกระทู้นี้

#151 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 26 มกราคม พ.ศ. 2555 - 23:22


อีกอย่างคอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์ครับสมองคือต้นแบบคอมพิวเตอร์ครับ ไอ้ระบบตรรกะ ที่คุณพูดถึงนั้นและครับคือโปรแกรมตามธรรมชาติดั้งเดิมของธรรมชาติที่สร้างขึ่นมาใช้งานในธรรมชาติ ผมพูดเรื่องจริงๆนะครับ


ผมไม่เห็นด้วยที่บอกว่า สมองคนคือต้นแบบชิบคอมพิวเตอร์ เพราะระบบการทำงานมันไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง :huh:

ถ้าพูดถึงตัวประมวลผลกลางมันก็ใช้วงจรเล็กๆ คอยเปิดและปิด ออกมาเป็นรหัส 0 และ 1 แต่การเก็บข้อมูลของสมองมนุษย์มันไม่ใช้อย่างนั้น


ถ้า คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบมาจากการทำงานสมอง ตามตรรกะของตะกวด
ไหนลองบอกหน่อยซิว่า ส่วนต่างๆของการทำงานในสมองต่อไปนี้ เทียบเป็นชิ้นส่วนในคอมพิวเตอร์คืออะไร
  • neurons ทั้ง sensory และ motor
  • neurotransmitters
  • axon
  • dendrite
  • node of Ranvier
  • myelin sheath
  • central nervous system
  • autonomic nervous system
อีกประการ ตะกวดบอกว่า โปรแกรมคอมชิ้นแรกคือการทำงานของสมอง
จึงขอถามว่า ในภาวะปกติ ที่ไม่มีไวรัสเข้าแทรกแซง มนุษย์สามารถควบคุมโปรแกรมคอมให้ทำงานได้ตามใจหรือไม่

เช่นเดียวกัน ในภาวะปกติที่สมองไม่มีโรคแทรก มนุษย์สามารถควบคุมการทำงานของสมองให้ทำงานได้ตามใจหรือไม่

#152 conservative

conservative

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 762 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2555 - 08:54



อีกอย่างคอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์ครับสมองคือต้นแบบคอมพิวเตอร์ครับ ไอ้ระบบตรรกะ ที่คุณพูดถึงนั้นและครับคือโปรแกรมตามธรรมชาติดั้งเดิมของธรรมชาติที่สร้างขึ่นมาใช้งานในธรรมชาติ ผมพูดเรื่องจริงๆนะครับ


ผมไม่เห็นด้วยที่บอกว่า สมองคนคือต้นแบบชิบคอมพิวเตอร์ เพราะระบบการทำงานมันไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง :huh:

ถ้าพูดถึงตัวประมวลผลกลางมันก็ใช้วงจรเล็กๆ คอยเปิดและปิด ออกมาเป็นรหัส 0 และ 1 แต่การเก็บข้อมูลของสมองมนุษย์มันไม่ใช้อย่างนั้น


ถ้า คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบมาจากการทำงานสมอง ตามตรรกะของตะกวด
ไหนลองบอกหน่อยซิว่า ส่วนต่างๆของการทำงานในสมองต่อไปนี้ เทียบเป็นชิ้นส่วนในคอมพิวเตอร์คืออะไร
  • neurons ทั้ง sensory และ motor
  • neurotransmitters
  • axon
  • dendrite
  • node of Ranvier
  • myelin sheath
  • central nervous system
  • autonomic nervous system
อีกประการ ตะกวดบอกว่า โปรแกรมคอมชิ้นแรกคือการทำงานของสมอง
จึงขอถามว่า ในภาวะปกติ ที่ไม่มีไวรัสเข้าแทรกแซง มนุษย์สามารถควบคุมโปรแกรมคอมให้ทำงานได้ตามใจหรือไม่

เช่นเดียวกัน ในภาวะปกติที่สมองไม่มีโรคแทรก มนุษย์สามารถควบคุมการทำงานของสมองให้ทำงานได้ตามใจหรือไม่


คุณ asawinee ถามยากไปไหมครับ :huh: :huh: :huh:

#153 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2555 - 11:35




อีกอย่างคอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์ครับสมองคือต้นแบบคอมพิวเตอร์ครับ ไอ้ระบบตรรกะ ที่คุณพูดถึงนั้นและครับคือโปรแกรมตามธรรมชาติดั้งเดิมของธรรมชาติที่สร้างขึ่นมาใช้งานในธรรมชาติ ผมพูดเรื่องจริงๆนะครับ


ผมไม่เห็นด้วยที่บอกว่า สมองคนคือต้นแบบชิบคอมพิวเตอร์ เพราะระบบการทำงานมันไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง :huh:

ถ้าพูดถึงตัวประมวลผลกลางมันก็ใช้วงจรเล็กๆ คอยเปิดและปิด ออกมาเป็นรหัส 0 และ 1 แต่การเก็บข้อมูลของสมองมนุษย์มันไม่ใช้อย่างนั้น


ถ้า คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบมาจากการทำงานสมอง ตามตรรกะของตะกวด
ไหนลองบอกหน่อยซิว่า ส่วนต่างๆของการทำงานในสมองต่อไปนี้ เทียบเป็นชิ้นส่วนในคอมพิวเตอร์คืออะไร
  • neurons ทั้ง sensory และ motor
  • neurotransmitters
  • axon
  • dendrite
  • node of Ranvier
  • myelin sheath
  • central nervous system
  • autonomic nervous system
อีกประการ ตะกวดบอกว่า โปรแกรมคอมชิ้นแรกคือการทำงานของสมอง
จึงขอถามว่า ในภาวะปกติ ที่ไม่มีไวรัสเข้าแทรกแซง มนุษย์สามารถควบคุมโปรแกรมคอมให้ทำงานได้ตามใจหรือไม่

เช่นเดียวกัน ในภาวะปกติที่สมองไม่มีโรคแทรก มนุษย์สามารถควบคุมการทำงานของสมองให้ทำงานได้ตามใจหรือไม่


คุณ asawinee ถามยากไปไหมครับ :huh: :huh: :huh:


ในเมื่อตะกวดอวดภูมิ ก็ต้องรับผิดชอบในภูมิของตัวเอง
การเปรียบเทียบของสองสิ่งว่ามีการทำงานคล้ายกัน
ก็ต้องเข้าใจหลักการพื้นฐานของๆทั้งสองสิ่งก่อน

ไม่งั้นมันก็คือการมั่ว เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน จับแพะชนแกะ

#154 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2555 - 21:38




อีกอย่างคอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์ครับสมองคือต้นแบบคอมพิวเตอร์ครับ ไอ้ระบบตรรกะ ที่คุณพูดถึงนั้นและครับคือโปรแกรมตามธรรมชาติดั้งเดิมของธรรมชาติที่สร้างขึ่นมาใช้งานในธรรมชาติ ผมพูดเรื่องจริงๆนะครับ


ผมไม่เห็นด้วยที่บอกว่า สมองคนคือต้นแบบชิบคอมพิวเตอร์ เพราะระบบการทำงานมันไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง :huh:

ถ้าพูดถึงตัวประมวลผลกลางมันก็ใช้วงจรเล็กๆ คอยเปิดและปิด ออกมาเป็นรหัส 0 และ 1 แต่การเก็บข้อมูลของสมองมนุษย์มันไม่ใช้อย่างนั้น


ถ้า คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบมาจากการทำงานสมอง ตามตรรกะของตะกวด
ไหนลองบอกหน่อยซิว่า ส่วนต่างๆของการทำงานในสมองต่อไปนี้ เทียบเป็นชิ้นส่วนในคอมพิวเตอร์คืออะไร
  • neurons ทั้ง sensory และ motor
  • neurotransmitters
  • axon
  • dendrite
  • node of Ranvier
  • myelin sheath
  • central nervous system
  • autonomic nervous system
อีกประการ ตะกวดบอกว่า โปรแกรมคอมชิ้นแรกคือการทำงานของสมอง
จึงขอถามว่า ในภาวะปกติ ที่ไม่มีไวรัสเข้าแทรกแซง มนุษย์สามารถควบคุมโปรแกรมคอมให้ทำงานได้ตามใจหรือไม่

เช่นเดียวกัน ในภาวะปกติที่สมองไม่มีโรคแทรก มนุษย์สามารถควบคุมการทำงานของสมองให้ทำงานได้ตามใจหรือไม่


คุณ asawinee ถามยากไปไหมครับ :huh: :huh: :huh:


คุณ ต้องถาม หมอ แล้วและ เพราะผมไม่ใช่หมอ ผมเป็นคนที่พอมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ แล้วผมก็ บอกทุกคนแล้วว่า ถ้าคุณไม่มีความรู้เรื่องคอมปิ้ว เตอร์ ฮ่าๆ ก็ไม่ต้องมาตอบ ถ้ามีความรู้เรื่องหมอ ก็ช่วยบอกมาด้วยว่า สมองส่วนไหนทำงานยังไงผมจะได้บอกถูกว่าอะไรยังไง
แต่คนที่นี้ก็อยากจะโชว์ผมไม่รู้ว่าไอ้สมองแต่ละส่วนมันจะเรียกว่าอะไรบ่างไม่ได้เรียนหมอ แต่ผมรู้ว่าสมองผมเวลาทำงานมันรู้สึกยังไง
เอาเป็นว่าถ้าไม่มีความรู้ก็ไม่ต้องมาตอบก็ได้ เหนือย เนอะ คุยกับคนที่นี้

#155 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:16

อีกอย่างคอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์ครับ สมองคือต้นแบบคอมพิวเตอร์ครับ


ตะกวดแถอีกล่ะ


ขอยกตัวอย่างที่ใกล้เคียงให้ดู
มีคนบอกว่า นาย ก. เป็นลูก นาย ข.
คุณพิสูจน์ทราบได้ไงว่า เป็นจริง
แค่บอกว่า หน้าตาเหมือนกัน แล้วสรุปได้เลยหรือ
คำตอบคือผิด!!
ในกรณีนี้คุณต้องรู้ ส่วนประกอบของนาย ก. และ นาย ข.
เอาส่วนประกอบของทั้งสองคนมาเทียบกัน ว่ามันมีการซ้ำของส่วนประกอบบ้างไหม
ซึ่งวิทยาการปัจจุบัน ส่วนประกอบของ นาย ก. และ นาย ข. ที่เราใช้พิสูจน์ทราบคือ ดีเอ็นเอ

คอมพิวเตอร์กับสมอง ก็เช่นเดียวกัน
สมองคือ นาย ข.
คอมพิวเตอร์คือนาย ก.
ส่วนประกอบ/ กระบวนการ ที่ซ้ำกันหรือลอกแบบมาคืออะไร

ตะกวดบอกว่ารู้การทำงานของคอมพิวเตอร์
แต่ไม่รู้การทำงานของสมอง
แต่ดันบอกได้เป็นตุเป็นตะว่า



คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์


ถามจริงเหอะ ไอ้ คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์ ที่ตะกวดว่าน่ะ
คิดเอง หรือมีคนค้นคว้าวิจัยไว้แล้ว
ถ้าตะกวดคิดเอง ก็ขอบอกว่า เป็นความคิดที่ปราศจากหลักฐาน เลื่อนลอย อาจถูก อาจผิด หรืออาจถูกบางส่วนก็ได้
ถ้ามีคนค้นคว้าวิจัยไว้แล้ว ก็ควรเอางานวิจัยมาวิพากษ์วิจารณ์ จะดีกว่า
เพราะทั้งคอมพิวเตอร์และการทำงานของสมอง เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ที่ต้องมีการทดลองเพื่อพิสูจน์ทราบ





อีกเรื่องที่ฟังดูตลกมากคือ

แต่ผมรู้ว่าสมองผมเวลาทำงานมันรู้สึกยังไง

  • ตะกวดไม่รู้เรื่องสมองจริงๆ
  • ตะกวดไม่ได้ยึดหลักการ ข้อเท็จจริง การพิสูจน์ ยึดถือแต่ความรู้สึก


#156 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2555 - 23:07

คุณ ต้องถาม หมอ แล้วและ เพราะผมไม่ใช่หมอ ผมเป็นคนที่พอมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ แล้วผมก็ บอกทุกคนแล้วว่า ถ้าคุณไม่มีความรู้เรื่องคอมปิ้ว เตอร์ ฮ่าๆ ก็ไม่ต้องมาตอบ ถ้ามีความรู้เรื่องหมอ ก็ช่วยบอกมาด้วยว่า สมองส่วนไหนทำงานยังไงผมจะได้บอกถูกว่าอะไรยังไง
แต่คนที่นี้ก็อยากจะโชว์ผมไม่รู้ว่าไอ้สมองแต่ละส่วนมันจะเรียกว่าอะไรบ่างไม่ได้เรียนหมอ แต่ผมรู้ว่าสมองผมเวลาทำงานมันรู้สึกยังไง
เอาเป็นว่าถ้าไม่มีความรู้ก็ไม่ต้องมาตอบก็ได้ เหนือย เนอะ คุยกับคนที่นี้


อ้าว ทำไมทำอย่างนี้อีกแล้วล่ะ ผมเอาภาษาอียิปต์โบราณมาให้แล้ว ทำไมไม่อธิบายเสียที ว่าเหมือนภาษาคอมพิวเตอร์อย่างไร เอาให้เต็มที่เลย จะยุ่งยากยังไงเดี๋ยวผมถามเพื่อนก็ได้ ในนี้ก็พอมีผู้รู้อยู่บ้าง เห็นตอบแต่นอกประเด็นหลักกระทู้เรื่อยเลย ผมตามเนื้อหากระทู้มาตลอด ทำไมคุณได้แต่เลี่ยงอย่างนี้ครับ

เจ้าของกระทู้กรุณาชี้ให้เห็นด้วย ว่าภาษาอียิปต์โบราณนั้น เหมือนภาษาคอมพิวเตอร์อย่างไร

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#157 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2555 - 23:38

. . .
คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์


ถามจริงเหอะ ไอ้ คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์ ที่ตะกวดว่าน่ะ
คิดเอง หรือมีคนค้นคว้าวิจัยไว้แล้ว
ถ้าตะกวดคิดเอง ก็ขอบอกว่า เป็นความคิดที่ปราศจากหลักฐาน เลื่อนลอย อาจถูก อาจผิด หรืออาจถูกบางส่วนก็ได้
ถ้ามีคนค้นคว้าวิจัยไว้แล้ว ก็ควรเอางานวิจัยมาวิพากษ์วิจารณ์ จะดีกว่า
เพราะทั้งคอมพิวเตอร์และการทำงานของสมอง เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ที่ต้องมีการทดลองเพื่อพิสูจน์ทราบ


อีกเรื่องที่ฟังดูตลกมากคือ

แต่ผมรู้ว่าสมองผมเวลาทำงานมันรู้สึกยังไง

  • ตะกวดไม่รู้เรื่องสมองจริงๆ
  • ตะกวดไม่ได้ยึดหลักการ ข้อเท็จจริง การพิสูจน์ ยึดถือแต่ความรู้สึก


อยากแชร์อีกมุมมองหนึ่งครับ เค้าอาจจะหมายถึง "ไอเดีย" น่ะครับ ความจริงคอมพิวเตอร์ยุคแรกๆเลยนั้น มันออกแบบมาเพื่อให้ทำงานที่มนุษย์ทำได้ครับ แต่จะใช้เวลานานและน่าเบื่อมาก คือเป็นพวกการคำนวณแบบ recurrence คือทำขั้นที่หนึ่งก่อน แล้วเอาผลที่ได้จากขั้นที่หนึ่งมาหาขั้นที่สองด้วยหลักการที่คล้ายๆกัน แต่เปลี่ยนแค่ input เท่านั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราคิดได้ไม่ยากครับ แต่มันคำนวณนาน แถมโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดก็สูงอีกด้วยถ้ามีหลายขั้นตอนและทศนิยมเยอะๆ ดังนั้นคนเราจึงคิดเครื่องทุ่นแรง ที่ทำงานตามที่เราคิด ต่างตรงที่ว่าเร็วกว่าเราทำเองมาก และความแม่นยำสูงกว่าชนิดเทียบไม่ติด ซึ่งอันนี้ที่ผมยอมรับว่า "ไอเดีย" การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นมาจาก "สมอง" ของมนุษย์ เพราะมันก็แค่เครื่องทุ่นแรงน่ะครับ ทำเหมือนที่เราทำเป๊ะ ต่างกันแค่ความเร็วกับความแม่นยำเท่านั้นเอง ที่คอมพิวเตอร์เหนือกว่า

อย่างไรก็ตาม ไอเดียที่ซับซ้อนขึ้น อย่างที่เราเห็นเป็นเทคโนโลยีทุกวันนี้นั้น ผมไม่มั่นใจครับ ว่าคอมพิวเตอร์มัน "คิด" หรือทำงานเหมือนสมองมนุษย์หรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าไม่ใช่ทั้งหมดแน่ เพราะเรื่อง halting problem ที่ผมบอกล่ะครับ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#158 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 28 มกราคม พ.ศ. 2555 - 12:50


. . .
คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์


ถามจริงเหอะ ไอ้ คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์ ที่ตะกวดว่าน่ะ
คิดเอง หรือมีคนค้นคว้าวิจัยไว้แล้ว
ถ้าตะกวดคิดเอง ก็ขอบอกว่า เป็นความคิดที่ปราศจากหลักฐาน เลื่อนลอย อาจถูก อาจผิด หรืออาจถูกบางส่วนก็ได้
ถ้ามีคนค้นคว้าวิจัยไว้แล้ว ก็ควรเอางานวิจัยมาวิพากษ์วิจารณ์ จะดีกว่า
เพราะทั้งคอมพิวเตอร์และการทำงานของสมอง เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ที่ต้องมีการทดลองเพื่อพิสูจน์ทราบ


อีกเรื่องที่ฟังดูตลกมากคือ

แต่ผมรู้ว่าสมองผมเวลาทำงานมันรู้สึกยังไง

  • ตะกวดไม่รู้เรื่องสมองจริงๆ
  • ตะกวดไม่ได้ยึดหลักการ ข้อเท็จจริง การพิสูจน์ ยึดถือแต่ความรู้สึก


อยากแชร์อีกมุมมองหนึ่งครับ เค้าอาจจะหมายถึง "ไอเดีย" น่ะครับ ความจริงคอมพิวเตอร์ยุคแรกๆเลยนั้น มันออกแบบมาเพื่อให้ทำงานที่มนุษย์ทำได้ครับ แต่จะใช้เวลานานและน่าเบื่อมาก คือเป็นพวกการคำนวณแบบ recurrence คือทำขั้นที่หนึ่งก่อน แล้วเอาผลที่ได้จากขั้นที่หนึ่งมาหาขั้นที่สองด้วยหลักการที่คล้ายๆกัน แต่เปลี่ยนแค่ input เท่านั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราคิดได้ไม่ยากครับ แต่มันคำนวณนาน แถมโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดก็สูงอีกด้วยถ้ามีหลายขั้นตอนและทศนิยมเยอะๆ ดังนั้นคนเราจึงคิดเครื่องทุ่นแรง ที่ทำงานตามที่เราคิด ต่างตรงที่ว่าเร็วกว่าเราทำเองมาก และความแม่นยำสูงกว่าชนิดเทียบไม่ติด ซึ่งอันนี้ที่ผมยอมรับว่า "ไอเดีย" การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นมาจาก "สมอง" ของมนุษย์ เพราะมันก็แค่เครื่องทุ่นแรงน่ะครับ ทำเหมือนที่เราทำเป๊ะ ต่างกันแค่ความเร็วกับความแม่นยำเท่านั้นเอง ที่คอมพิวเตอร์เหนือกว่า

อย่างไรก็ตาม ไอเดียที่ซับซ้อนขึ้น อย่างที่เราเห็นเป็นเทคโนโลยีทุกวันนี้นั้น ผมไม่มั่นใจครับ ว่าคอมพิวเตอร์มัน "คิด" หรือทำงานเหมือนสมองมนุษย์หรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าไม่ใช่ทั้งหมดแน่ เพราะเรื่อง halting problem ที่ผมบอกล่ะครับ



ถ้ามองในมุมของคุณ Gop จริงอย่างที่คุณว่าๆ คอมพิวเตอร์ยุคแรก ออกแบบมาเพื่อเลียนแบบการคำนวณซึ่งเป็นการทำซ้ำๆซึ่งน่าเบื่อ และคอมฯยังมีข้อดีในแง่ความเร้วและความแม่นยำ
ในสมัยก่อน คำบัญญัติภาษาไทยสำหรับ คอมพิวเตอร์คือ "คณิตกล" นั่นคือเครื่องมือที่ใช้ในการคำนวณ แต่ปัจจุบัน เราคงบอกไม่ได้ว่า คอมพิวเตอร์ทำงานเพียงแค่การคำนวณ

และถ้ามองในมุมทางด้านชีววิทยา การคำนวณของมนุษย์คือการใช้สมองซีกซ้าย นั่นคือคอมพิวเตอร์ทำงานเลียนแบบสมองซีกซ้ายเท่านั้น

สมองส่วนอื่นๆเช่น สมองซีกขวา ซึ่งทำงานเกี่ยวข้องกับศิลปะ จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์นั้น คอมพิวเตอร์ลอกแบบจากสมองไม่ได้

สมองบริเวณท้ายทอยยิ่งแล้วใหญ่ มนุษย์เองนั้นไม่สามารถควบคุมการทำงานได้เลย เพราะเป็นการทำงานของสมองซึ่งดูแลการทำงานของอวัยวะสำคัญในร่างกาย เช่น หัวใจ ปอด เราไม่สามารถใช้สมองสั่งให้หัวใจหยุดเต้นได้ เราไม่สามารถหยุดให้ปอดหยุดฟอกอากาศได้

แต่เราสามารถสั่งให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์หยุดทำงานได้

สิ่งที่กล่าวข้างต้น เรามองในเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงาน
นั่นคือ คอมพิวเตอร์สามารถให้ผลลัพธ์ในการทำงานแบบเดียวกับการทำงานของสมอง (ซีกซ้าย)

และถ้ามองในเรื่องของกระบวนการ
เมื่อมองอย่างละเอียด ลงไปถึงระดับเซล เซลประสาทแต่ละตัวจะสื่อสารกันได้ ต้องใช้สารสื่อ (neurotransmitters) ซึ่งมีหลายรูปแบบ แล้วแต่การใช้งาน ตัวอย่างสารสื่อที่เราเคยได้ยินกันบ่อยได้แก่ อดรีนาลีน เอ็นโดรฟิน ในที่นี้ ไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียดการทำงานของสารสื่อแต่ละตัว แต่สารสื่อจะทำปฏิกิริยาทางชีวเคมี และมีปฏิกิริยาทางไฟฟ้าของเซลมาเกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานของเซลประสาท

ในแง่กระบวนการนี้ คอมพิวเตอร์ก็ยังมีความแตกต่างจากสมองมาก

แม้ในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์มีเทคโนโลยีซึ่งทันสมัยมาก แต่ก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับการทำงานของสมองซึ่งซับซ้อนและน่ามหัศจรรย์มาก

ในความเห็นส่วนตัว ขอสรุปว่า โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในยุคแรกๆออกแบบมาเพื่อทำงานคำนวณแทนสมองมนุษย์

มิใช่ คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์

#159 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 30 มกราคม พ.ศ. 2555 - 21:31

ถ้ามองในมุมของคุณ Gop จริงอย่างที่คุณว่าๆ คอมพิวเตอร์ยุคแรก ออกแบบมาเพื่อเลียนแบบการคำนวณซึ่งเป็นการทำซ้ำๆซึ่งน่าเบื่อ และคอมฯยังมีข้อดีในแง่ความเร้วและความแม่นยำ
ในสมัยก่อน คำบัญญัติภาษาไทยสำหรับ คอมพิวเตอร์คือ "คณิตกล" นั่นคือเครื่องมือที่ใช้ในการคำนวณ แต่ปัจจุบัน เราคงบอกไม่ได้ว่า คอมพิวเตอร์ทำงานเพียงแค่การคำนวณ

และถ้ามองในมุมทางด้านชีววิทยา การคำนวณของมนุษย์คือการใช้สมองซีกซ้าย นั่นคือคอมพิวเตอร์ทำงานเลียนแบบสมองซีกซ้ายเท่านั้น

สมองส่วนอื่นๆเช่น สมองซีกขวา ซึ่งทำงานเกี่ยวข้องกับศิลปะ จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์นั้น คอมพิวเตอร์ลอกแบบจากสมองไม่ได้

สมองบริเวณท้ายทอยยิ่งแล้วใหญ่ มนุษย์เองนั้นไม่สามารถควบคุมการทำงานได้เลย เพราะเป็นการทำงานของสมองซึ่งดูแลการทำงานของอวัยวะสำคัญในร่างกาย เช่น หัวใจ ปอด เราไม่สามารถใช้สมองสั่งให้หัวใจหยุดเต้นได้ เราไม่สามารถหยุดให้ปอดหยุดฟอกอากาศได้

แต่เราสามารถสั่งให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์หยุดทำงานได้

สิ่งที่กล่าวข้างต้น เรามองในเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงาน
นั่นคือ คอมพิวเตอร์สามารถให้ผลลัพธ์ในการทำงานแบบเดียวกับการทำงานของสมอง (ซีกซ้าย)

และถ้ามองในเรื่องของกระบวนการ
เมื่อมองอย่างละเอียด ลงไปถึงระดับเซล เซลประสาทแต่ละตัวจะสื่อสารกันได้ ต้องใช้สารสื่อ (neurotransmitters) ซึ่งมีหลายรูปแบบ แล้วแต่การใช้งาน ตัวอย่างสารสื่อที่เราเคยได้ยินกันบ่อยได้แก่ อดรีนาลีน เอ็นโดรฟิน ในที่นี้ ไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียดการทำงานของสารสื่อแต่ละตัว แต่สารสื่อจะทำปฏิกิริยาทางชีวเคมี และมีปฏิกิริยาทางไฟฟ้าของเซลมาเกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานของเซลประสาท

ในแง่กระบวนการนี้ คอมพิวเตอร์ก็ยังมีความแตกต่างจากสมองมาก

แม้ในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์มีเทคโนโลยีซึ่งทันสมัยมาก แต่ก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับการทำงานของสมองซึ่งซับซ้อนและน่ามหัศจรรย์มาก

ในความเห็นส่วนตัว ขอสรุปว่า โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในยุคแรกๆออกแบบมาเพื่อทำงานคำนวณแทนสมองมนุษย์

มิใช่ คอมพิวเตอร์ถูกออกแบบการทำงานจากสมองมนุษย์


แวะมาคุยเรื่องนี้อีกดีกว่า

๑ ผมเห็นด้วยเรื่องความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกด้วย ว่าไม่สามารถมองว่าเป็นการทำงานแบบคอมพิวเตอร์ได้ เพราะลักษณะของคอมพิวเตอร์นั้นอยู่บนพื้นฐานของ "ชุดคำสั่ง" และ input ซึ่งผมเห็นว่าจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์และอารมณ์นั้นยากที่จะอธิบายได้ด้วยชุดคำสั่งไดๆ

๒ แต่ผมกลับเห็นตรงกันข้ามกับเรื่องระบบการทำงานแบบอัตโนวัติ สิ่งเหล่านี้มีการทำงานเหมือนคอมพิวเตอร์มากๆ เพราะมี response จาก input แบบง่ายๆ ผมเชื่อว่านักพัฒนาหุ่นยนต์นั้นกำลังทำเรื่องนี้อยู่(หรืออาจทำสำเร็จแล้วก็ได้) ลักษณะการทำงานโดยสนใจ รูปแบบเฉพาะอย่างนั้นผมเชื่อว่าคอมพิวเตอร์ทำได้หมดครับ เราอาจจะมีหุ่นยนต์ที่สามารถตอบสนองง่ายๆเช่นการทรงตัว การรับรู้ง่ายๆเช่น แสง เสียง หรือ สี (เจ้าหุ่นยนต์ ASIMO น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีครับ) ผมมองว่าเป็นไปได้ครับว่าการทำงานแบบนี้ของคอมพิวเตอร์และสมองจะเหมือนกัน

๓ ผมอยากให้คุณ asawinee มองคอมพิวเตอร์อีกมุมมองหนึ่ง ความจริงแล้วมันเป็นอุปกรณ์ "อะไรก็ได้" ที่เมื่อได้รับ "input" แล้วมีการประมวลผล ที่อยู่บนพื่นฐานของ "ชุดคำสั่ง" ร่วมกับหน่วยความจำภายใน หลังการประมวลผล ก็จะให้ "ouput" ออกมา output เหล่านี้สามารถเปลี่ยนไปเป็นการตอบสนองไดๆก็ได้ เช่นเสียง แสง หรือการเคลื่อนไหว ตัวอย่างง่ายๆเวลาเราจะหยิบจับสิ่งของ เราต้องมองหาสิ่งนั้นให้เจอก่อน การมองหา เราก็มองว่าเป็นการ search จากฐานข้อมูลได้ เมื่อเจอแล้วเราก็ต้องยื่นมือไปจับมัน เราก็ต้องมี input คือตำแหน่งของสิ่งของนั้น เพื่อให้เราสามารถเคลื่อนไหวมือของเราไปจับมันได้ถูกต้อง การรับภาพและนำมาซึ่งการเคลื่อนไหวนี่แหละครับ คือการประมวลผล และ output ซึ่งเกิดขึนหลายครั้งและรวดเร็วมาก เพราะทุกครั้งที่เราขยับ จะต้องมีการประมวลผลอยู่เสมอเพื่อให้เราจับมันได้ถูกในที่สุด เห็นมั้ยครับ การทำงานของสมองนั้นหลายๆอย่างก็มีลักษณะเหมือนคอมพิวเตอร์เช่นกัน แต่เท่าที่ผมรู้ ก็ยังไม่มีคนทราบนะครับ ว่าระบบประสาทของมนุษย์นั้นมันสร้างตัวขึ้นมาจนทำงานอย่างนี้ได้อย่างไร

น่าเสียดาย ที่สุดท้ายคุณตะกวดกากๆ ก็ไม่สามารถอธิบายได้ ว่าอักษรอียิปต์โบราณนั้นเหมือนกับภาษาคอมพิวเตอร์อย่างไร ถ้ามีเรื่องภาษานี้ด้วย ผมว่ากระทู้นี้น่าจดจำมากทีเดียว แต่เจ้าของกระทู้ก็ไม่สามารถทำได้ เศร้า

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#160 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:08


ขอโทษนะครับ ตกลงคุณตะกวด กากๆ ไม่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงเรื่องภาษาอียิปต์โบราณ ที่สามารถทำงานได้เหมือนภาษาคอมพิวเตอร์ใช่มั้ยครับ ผมไม่ได้ว่าคุณโกหกนะครับ แต่ผมไม่สามารถเชื่อคุณได้ด้วยการกล่าวลอยๆแบบนี้ ถ้าผมเจอเพื่อนที่มีความรู้เรื่องนี้จะลองถามดู แต่จะดีมากถ้าคุณให้แหล่งข้อมูลเรื่องนี้นะครับ

คุณไม่เคยดูสาระคดี หรอครับว่าภาษาอียิบโบราณมันเขียนยังไง หาดูง่ายนิครับ อากู๋ วิสกี้ นะ แต่ผมไม่หานะ แต่ถ้าคุณหามาผมก็ยินดีอธิบายครับ


ผมหามาให้แล้วนะครับ รอคุณตะกวดกากๆอธิบาย

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#161 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:15

แล้วไงต่อครับ :wub:

#162 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:20

Ok ขอบคุณครับ

ภาษา ที่คุณ พิมย์มารู้ไหมว่า มันมีที่มาที่ไปยังไงกว่าจะมาเป็นภาษาที่คุณ พิมย์ขึ่นมานิ


คุณหมายถึงการเกิดขึ้นของภาษาพูดและภาษาเขียนของมนุษย์ ใช่มั้ยครับ??

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#163 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:27

ผมรอคำตอบเพื่อความแน่ใจอยู่นะครับ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#164 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:38

คุณไม่เคยดูสาระคดี หรอครับว่าภาษาอียิบโบราณมันเขียนยังไง หาดูง่ายนิครับ อากู๋ วิสกี้ นะ แต่ผมไม่หานะ แต่ถ้าคุณหามาผมก็ยินดีอธิบายครับ


Posted Image


นี่ภาษาอียิปต์โบราณ คุณบอกเองแท้ๆว่าถ้าหามาให้ ก็ยินดีจะอธิบาย ไหนล่ะครับ ไม่เห็นรักษาคำพูดเลย

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#165 ลูกชาวสวน

ลูกชาวสวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 349 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:48

waste you time

He's just an asshole :lol:
" อันความคิดวิทยาดังอาวุธ ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย "

#166 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:49

อะไรเนี่ย ทำไมทิ้งกระทู้อีกแล้ว

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#167 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:53

waste you time He's just an asshole :lol:


ไม่เป็นไรครับ ผมเผื่อใจไว้แล้ว เพียงแต่อยากทำให้มันชัดลงไปเลยว่า สิ่งที่เค้าอ้างนั้นมันอยู่บนพื้นฐานความรู้ที่แท้จริงหรือเปล่า ถ้าเรื่องที่เค้าอ้างมีเหตุผล ผมก็พร้อมจะยอมรับและถือว่าเป็นกำไรชีวิตที่ได้รู้สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน แต่ในทางกลับกัน ถ้าเค้าอ้างโดยปราศจากความรู้ ผู้อ้างก็จะประจานตัวเองออกมา ไม่ว่าออกมาทางไดผมก็จะได้เห็นเต็มตาว่าเขารู้จริงหรือไม่ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#168 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:57

Ok ขอบคุณครับ

ภาษา ที่คุณ พิมย์มารู้ไหมว่า มันมีที่มาที่ไปยังไงกว่าจะมาเป็นภาษาที่คุณ พิมย์ขึ่นมานิ


คุณหมายถึงการเกิดขึ้นของภาษาพูดและภาษาเขียนของมนุษย์ ใช่มั้ยครับ??

ผม หมาย ถึง แบบ นี้แล้วกันผมจะพยามอธิบายให้คุณเข้าใจมากที่สุดเท่าที่ผมทำได้แล้วกันครับ
การจะเขียนโปรแกรม ขึ่นมาสักโปรแกรม มันไม่ใช่แค่อยากเขียนทุกอย่างมันต้องมีเหตุมีผล
ตัววอย่าง แบบ ง่ายๆนะครับ
เราต้องการควบคุมเครื่องจักรกลในโรงงานเราก็ต้องเลือกชนิดของคอมพิวเตอร์ หรือสมองกล ในการควบคุม
ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ คอยพิวเตอร์ ก็มีหลายแบบแล้วแต่หน้าที่การทำงาน ถ้าเทคโนโลยีสูงก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์
คุณภาพสูง ส่วนการเขียนโปรแกรมคุณต้องมีความรู้ด้านวงจรอีเล็คโทนิค เพาะต้องแปลงวงจรพวกนั้นให้เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ โดยใช้วิธีการ แปลงวงจร ให้เป็นดิสจิตรอนแล้วแปลงดิสจิตรอนเป็นภาษา ออเกด แอนเกดแล้วถึงแปลงเป็นภาษาสุดท้ายเป็น โคฉาต บูลีน หรือ แอส แซมบี จนถึงภาษาสั้นสูง เพราะเวลาที่คอมพิวเตอร์คุญกัยติดต่อค้นหาข้อมูลมันจะวิ่งเป็น ภาษา ดิสจิตรอน เป็นรหัถ 1011001111001111 นี้คือรูปแบบการนำส่งข้อมูล
ของคอมพิวเตอร์แต่เมื่อไปถึงหน่วยประมวลมันก็จะแปลงเป็นอีกภาษาหนึ่ง เพื่อส่งต่อข้อมูลและวิเคราะ
เหมือนที่คุณ อยากรู้ว่าโปรกแกรมตู้ เอทีเอ็ม มันก็แบบนี้และครับ คือ จะเขียนโปรแกรมตู้ เอ ที เอ็ม ผม ก็ต้องไปดูวงจรตู้ว่า วงจร เพาเวอร์และคอนโทรน เขียนแบบไหน ใช้ วงจรอะไรบ่าง แล้วถึงใช้สูตรคำนวนออกมาแล้วทำเป็นเลขฐาน ต่างๆ เพื่อเข้าสู้ ดิสจิตรอน แล้ว ถึงแปลงเป็น ออเกด แอนเกด แล้ว ถึงจะเปลี่ยนต่อไปเป็นอีกภาษาหนึ่งเช่น โคฉาด บูลีน แอสแซมบี้
อันนี้คุณเข้าใจหรือป่าว

#169 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 23:08


Ok ขอบคุณครับ

ภาษา ที่คุณ พิมย์มารู้ไหมว่า มันมีที่มาที่ไปยังไงกว่าจะมาเป็นภาษาที่คุณ พิมย์ขึ่นมานิ


คุณหมายถึงการเกิดขึ้นของภาษาพูดและภาษาเขียนของมนุษย์ ใช่มั้ยครับ??

ผม หมาย ถึง แบบ นี้แล้วกันผมจะพยามอธิบายให้คุณเข้าใจมากที่สุดเท่าที่ผมทำได้แล้วกันครับ
การจะเขียนโปรแกรม ขึ่นมาสักโปรแกรม มันไม่ใช่แค่อยากเขียนทุกอย่างมันต้องมีเหตุมีผล
ตัววอย่าง แบบ ง่ายๆนะครับ
เราต้องการควบคุมเครื่องจักรกลในโรงงานเราก็ต้องเลือกชนิดของคอมพิวเตอร์ หรือสมองกล ในการควบคุม
ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ คอยพิวเตอร์ ก็มีหลายแบบแล้วแต่หน้าที่การทำงาน ถ้าเทคโนโลยีสูงก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์
คุณภาพสูง ส่วนการเขียนโปรแกรมคุณต้องมีความรู้ด้านวงจรอีเล็คโทนิค เพาะต้องแปลงวงจรพวกนั้นให้เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ โดยใช้วิธีการ แปลงวงจร ให้เป็นดิสจิตรอนแล้วแปลงดิสจิตรอนเป็นภาษา ออเกด แอนเกดแล้วถึงแปลงเป็นภาษาสุดท้ายเป็น โคฉาต บูลีน หรือ แอส แซมบี จนถึงภาษาสั้นสูง เพราะเวลาที่คอมพิวเตอร์คุญกัยติดต่อค้นหาข้อมูลมันจะวิ่งเป็น ภาษา ดิสจิตรอน เป็นรหัถ 1011001111001111 นี้คือรูปแบบการนำส่งข้อมูล
ของคอมพิวเตอร์แต่เมื่อไปถึงหน่วยประมวลมันก็จะแปลงเป็นอีกภาษาหนึ่ง เพื่อส่งต่อข้อมูลและวิเคราะ
เหมือนที่คุณ อยากรู้ว่าโปรกแกรมตู้ เอทีเอ็ม มันก็แบบนี้และครับ คือ จะเขียนโปรแกรมตู้ เอ ที เอ็ม ผม ก็ต้องไปดูวงจรตู้ว่า วงจร เพาเวอร์และคอนโทรน เขียนแบบไหน ใช้ วงจรอะไรบ่าง แล้วถึงใช้สูตรคำนวนออกมาแล้วทำเป็นเลขฐาน ต่างๆ เพื่อเข้าสู้ ดิสจิตรอน แล้ว ถึงแปลงเป็น ออเกด แอนเกด แล้ว ถึงจะเปลี่ยนต่อไปเป็นอีกภาษาหนึ่งเช่น โคฉาด บูลีน แอสแซมบี้
อันนี้คุณเข้าใจหรือป่าว


อันนี้พอทราบครับ เพราะคอมพิวเตอร์นั้น ส่วนพื้นฐานสุดอยู่ที่ระบบ binary digit แล้วเราสามารถใช้ระบบฐานสองนี้ มาแปลงเป็นภาษาทาง logic ด้วย boolean algebra ได้ เวลาเราอยากให้มันทำงานอะไร เท่าที่ผมจำได้ เราจะแปลงมันให้เป็นภาษา logic ก่อน แล้วจึงค่อยมาเขียนคำสั่งอีกที

ผมเคยเขียนโปรแกรมง่ายๆ เพื่อนให้ช่วยทำน่ะครับ เป็นภาษา C ให้สมมุติว่ามันเป็นโปรแกรมตู้หยอดเหรียญ เราก็ต้องมีเงือนไขทางตรรกกะ เช่นราคาเท่าไหร่ เหลือในตู้เท่าไหร่ หยอดเงินเท่าไหร่ ทอนเงินเท่าไหร่ แล้วจะ return ค่าต่างๆออกมาเป็นอย่างไร ตรงนี้คือภาษาสูงใช่มั้ยครับ

เจ้าภาษาพวกนี้ ก็จะเชื่อมกับการทำงานของ hardware อีกที ซึ่งก็ต้องเขียนโปรแกรมอีกเช่นกัน เพื่อที่จะได้ตอบสนองสัญญาณที่รับมาจากต้นทางได้ และการตอบสนองนี้ก็จะเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าส่งไปยังอุปกรณ์ต่างๆให้ทำงาน เช่นทำให้ตู้มันทอนตังค์ในจำนวนที่ถูกต้อง ทำให้เครื่องดื่มที่เลือกใหลออกมา

แล้วไงต่อครับ มันเกี่ยวกับภาษาอียิปต์โบราณอย่างไร??

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#170 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 23:45



Ok ขอบคุณครับ

ภาษา ที่คุณ พิมย์มารู้ไหมว่า มันมีที่มาที่ไปยังไงกว่าจะมาเป็นภาษาที่คุณ พิมย์ขึ่นมานิ


คุณหมายถึงการเกิดขึ้นของภาษาพูดและภาษาเขียนของมนุษย์ ใช่มั้ยครับ??

ผม หมาย ถึง แบบ นี้แล้วกันผมจะพยามอธิบายให้คุณเข้าใจมากที่สุดเท่าที่ผมทำได้แล้วกันครับ
การจะเขียนโปรแกรม ขึ่นมาสักโปรแกรม มันไม่ใช่แค่อยากเขียนทุกอย่างมันต้องมีเหตุมีผล
ตัววอย่าง แบบ ง่ายๆนะครับ
เราต้องการควบคุมเครื่องจักรกลในโรงงานเราก็ต้องเลือกชนิดของคอมพิวเตอร์ หรือสมองกล ในการควบคุม
ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ คอยพิวเตอร์ ก็มีหลายแบบแล้วแต่หน้าที่การทำงาน ถ้าเทคโนโลยีสูงก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์
คุณภาพสูง ส่วนการเขียนโปรแกรมคุณต้องมีความรู้ด้านวงจรอีเล็คโทนิค เพาะต้องแปลงวงจรพวกนั้นให้เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ โดยใช้วิธีการ แปลงวงจร ให้เป็นดิสจิตรอนแล้วแปลงดิสจิตรอนเป็นภาษา ออเกด แอนเกดแล้วถึงแปลงเป็นภาษาสุดท้ายเป็น โคฉาต บูลีน หรือ แอส แซมบี จนถึงภาษาสั้นสูง เพราะเวลาที่คอมพิวเตอร์คุญกัยติดต่อค้นหาข้อมูลมันจะวิ่งเป็น ภาษา ดิสจิตรอน เป็นรหัถ 1011001111001111 นี้คือรูปแบบการนำส่งข้อมูล
ของคอมพิวเตอร์แต่เมื่อไปถึงหน่วยประมวลมันก็จะแปลงเป็นอีกภาษาหนึ่ง เพื่อส่งต่อข้อมูลและวิเคราะ
เหมือนที่คุณ อยากรู้ว่าโปรกแกรมตู้ เอทีเอ็ม มันก็แบบนี้และครับ คือ จะเขียนโปรแกรมตู้ เอ ที เอ็ม ผม ก็ต้องไปดูวงจรตู้ว่า วงจร เพาเวอร์และคอนโทรน เขียนแบบไหน ใช้ วงจรอะไรบ่าง แล้วถึงใช้สูตรคำนวนออกมาแล้วทำเป็นเลขฐาน ต่างๆ เพื่อเข้าสู้ ดิสจิตรอน แล้ว ถึงแปลงเป็น ออเกด แอนเกด แล้ว ถึงจะเปลี่ยนต่อไปเป็นอีกภาษาหนึ่งเช่น โคฉาด บูลีน แอสแซมบี้
อันนี้คุณเข้าใจหรือป่าว


อันนี้พอทราบครับ เพราะคอมพิวเตอร์นั้น ส่วนพื้นฐานสุดอยู่ที่ระบบ binary digit แล้วเราสามารถใช้ระบบฐานสองนี้ มาแปลงเป็นภาษาทาง logic ด้วย boolean algebra ได้ เวลาเราอยากให้มันทำงานอะไร เท่าที่ผมจำได้ เราจะแปลงมันให้เป็นภาษา logic ก่อน แล้วจึงค่อยมาเขียนคำสั่งอีกที

ผมเคยเขียนโปรแกรมง่ายๆ เพื่อนให้ช่วยทำน่ะครับ เป็นภาษา C ให้สมมุติว่ามันเป็นโปรแกรมตู้หยอดเหรียญ เราก็ต้องมีเงือนไขทางตรรกกะ เช่นราคาเท่าไหร่ เหลือในตู้เท่าไหร่ หยอดเงินเท่าไหร่ ทอนเงินเท่าไหร่ แล้วจะ return ค่าต่างๆออกมาเป็นอย่างไร ตรงนี้คือภาษาสูงใช่มั้ยครับ

เจ้าภาษาพวกนี้ ก็จะเชื่อมกับการทำงานของ hardware อีกที ซึ่งก็ต้องเขียนโปรแกรมอีกเช่นกัน เพื่อที่จะได้ตอบสนองสัญญาณที่รับมาจากต้นทางได้ และการตอบสนองนี้ก็จะเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าส่งไปยังอุปกรณ์ต่างๆให้ทำงาน เช่นทำให้ตู้มันทอนตังค์ในจำนวนที่ถูกต้อง ทำให้เครื่องดื่มที่เลือกใหลออกมา

แล้วไงต่อครับ มันเกี่ยวกับภาษาอียิปต์โบราณอย่างไร??

การ สั่งการ คอมพิวเตอร์ คือภาษา ที่เราเขียนให้มันรับไปทำถูกไหมครับนั้น คือ เราเขียนโปรแกรมให้ตัวมันแล้วเราก็เขียนคำสั่งให้มันไปทำตามเวลาหรือตามที่เราต้องการ ที่ต้อนเราเขียนคำสั่งให้มันเราเขียนเป็นรูปแบบสัณญาลักษ์ เพื่อให้มันสามารคิดข้อมูลอย่างละเอียดและไม่ผิดพลาด
สัญาลักษ์แต่ ละอัน มีคำสั่งให้ทำหลายสิ่งในหลายเหตุผล รูปสามเหลี่ยม หมายถึง การเดินทางของข้อมูลได้สามทางๆก็เชื่อมต่อถึงสัญาลักษ์ต่อไป อันนี้เป็นรูปแบบง่ายๆนะครับ เพระที่นี้มาดู ภาษาอียิบ กัน ก็ใช้ในรูปแบบสัณญาลักษ์เหมือนการ แล้วใช้ในการออกคำสั่งเหมือนกัน เหตุผลเดี่ยวกันก็เพื่อให้คนทำตามคำสั่งนั้น แล้วคนก็รับคำสั่งผ่านสมอง แล้วคนก้สร้างสมองกล แล้วคุณว่ามันมีหลักการเดี่ยวกันไหมครับ

#171 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 23:53

การ สั่งการ คอมพิวเตอร์ คือภาษา ที่เราเขียนให้มันรับไปทำถูกไหมครับนั้น คือ เราเขียนโปรแกรมให้ตัวมันแล้วเราก็เขียนคำสั่งให้มันไปทำตามเวลาหรือตามที่เราต้องการ ที่ต้อนเราเขียนคำสั่งให้มันเราเขียนเป็นรูปแบบสัณญาลักษ์ เพื่อให้มันสามารคิดข้อมูลอย่างละเอียดและไม่ผิดพลาด
สัญาลักษ์แต่ ละอัน มีคำสั่งให้ทำหลายสิ่งในหลายเหตุผล รูปสามเหลี่ยม หมายถึง การเดินทางของข้อมูลได้สามทางๆก็เชื่อมต่อถึงสัญาลักษ์ต่อไป อันนี้เป็นรูปแบบง่ายๆนะครับ เพระที่นี้มาดู ภาษาอียิบ กัน ก็ใช้ในรูปแบบสัณญาลักษ์เหมือนการ แล้วใช้ในการออกคำสั่งเหมือนกัน เหตุผลเดี่ยวกันก็เพื่อให้คนทำตามคำสั่งนั้น แล้วคนก็รับคำสั่งผ่านสมอง แล้วคนก้สร้างสมองกล แล้วคุณว่ามันมีหลักการเดี่ยวกันไหมครับ


ถ้าคุณบอกอย่างนี้ ภาษาเขียนทุกภาษา ก็ถือว่าเข้าข่ายหมดสิครับ

และไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาแบบรูปภาพด้วย ขอแค่เป็นสัญลักษณ์ "อะไรก็ได้" ที่ทำให้เกิดการตอบสนองเท่านั้น ก็ถือว่าใช้ได้สิครับ

ผมว่าถ้าคุณใช้มาตรฐานนี้ มันน่าจะย้อนไปไกลกว่าอียิปต์ก็ได้นะครับ หรือ เอาง่ายๆ แค่ภาษาที่ไม่มีตัวอักษรก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน

เพราะในมุมมองของคุณตะกวด กากๆ นั้น ขอแค่เกิดการตอบสนองตามที่ได้สั่ง ก็ถือว่าใช้ได้แล้วใช่มั้ยครับ??

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#172 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 23:58

ยอมรับว่าประเด็นคุณตะกวด กากๆ น่าสนใจนะ แต่น่าเสียดายที่การสื่อสารนั้นผิดพลาด เพราะการตั้งกระทู้นั้นทำให้คนอ่านนั้นเข้าใจว่าหมายถึงคอมพิวเตอร์ ที่เป็นเครื่องจักรกล

อย่างไรก็ตาม เรื่องภาษานั้นซับซ้อนนะครับ ผมว่ามันไม่ใช่แค่การเอาไว้ "สั่งการ" อย่างเดียวเท่านั้น ความจริงส่วนสำคัญของภาษาคือ "การสื่อสาร" ซึ่งไม่จำเป็นว่าเป็นการออกคำสั่งเสมอ

ไปนี่ครับ การแสดงความรู้สึกต่างๆ เช่นการเขียนบทกวี ก็เป็นอีกด้านหนึ่งของภาษาเหมือนกันนะครับ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#173 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 23:59

วันนี้ผมคงคุยได้แค่นี้นะครับ คุณตะกวด กากๆ อธิบายมาให้เต็มที่เลย รับรองผมติดตามตลอดแน่
ถ้า ตรงไหนที่ไม่เข้าใจ ผมจะไปถามเพื่อนที่มีความรู้ ไม่ต้องกังวลครับ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#174 O2Giant

O2Giant

    โปรแกรมมั่ว

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,135 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 06:13

มัวแต่สนใจทำไมว่ามันมาจากไหน

หลักการของ OOP ข้อนึงบอกไว้ว่า

เอ็งไม่ต้องไปสนหรอก ว่าไอ้ที่มีมาให้น่ะ มันทำงานยังไง

สนใจแค่ว่า จะเรียกใช้งานยังไงก็พอ - -"

ผมเขียนอยู่ java, c#, php ยังไม่เคยคิดจะสนใจเลยว่า ต้นตอหลักมันมาจากไหน

#175 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 10:33


การ สั่งการ คอมพิวเตอร์ คือภาษา ที่เราเขียนให้มันรับไปทำถูกไหมครับนั้น คือ เราเขียนโปรแกรมให้ตัวมันแล้วเราก็เขียนคำสั่งให้มันไปทำตามเวลาหรือตามที่เราต้องการ ที่ต้อนเราเขียนคำสั่งให้มันเราเขียนเป็นรูปแบบสัณญาลักษ์ เพื่อให้มันสามารคิดข้อมูลอย่างละเอียดและไม่ผิดพลาด
สัญาลักษ์แต่ ละอัน มีคำสั่งให้ทำหลายสิ่งในหลายเหตุผล รูปสามเหลี่ยม หมายถึง การเดินทางของข้อมูลได้สามทางๆก็เชื่อมต่อถึงสัญาลักษ์ต่อไป อันนี้เป็นรูปแบบง่ายๆนะครับ เพระที่นี้มาดู ภาษาอียิบ กัน ก็ใช้ในรูปแบบสัณญาลักษ์เหมือนการ แล้วใช้ในการออกคำสั่งเหมือนกัน เหตุผลเดี่ยวกันก็เพื่อให้คนทำตามคำสั่งนั้น แล้วคนก็รับคำสั่งผ่านสมอง แล้วคนก้สร้างสมองกล แล้วคุณว่ามันมีหลักการเดี่ยวกันไหมครับ


ถ้าคุณบอกอย่างนี้ ภาษาเขียนทุกภาษา ก็ถือว่าเข้าข่ายหมดสิครับ

และไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาแบบรูปภาพด้วย ขอแค่เป็นสัญลักษณ์ "อะไรก็ได้" ที่ทำให้เกิดการตอบสนองเท่านั้น ก็ถือว่าใช้ได้สิครับ

ผมว่าถ้าคุณใช้มาตรฐานนี้ มันน่าจะย้อนไปไกลกว่าอียิปต์ก็ได้นะครับ หรือ เอาง่ายๆ แค่ภาษาที่ไม่มีตัวอักษรก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน

เพราะในมุมมองของคุณตะกวด กากๆ นั้น ขอแค่เกิดการตอบสนองตามที่ได้สั่ง ก็ถือว่าใช้ได้แล้วใช่มั้ยครับ??

ก็ใช่ครับ แต่ภาษา ที่ใช้สัณญาลักษ์ มีไม่กี่ภาษาในยุคนั้นๆ มี อียิบ และ ก็ มายา อินคา แต่ถ้าคุณ ศึกษาดีๆ คุณจะเห็น หลักการเดี่ยวกัน ตั้งแต่เทคโนโลยี
ในการสร้าง ปีรามิต อินคา หรือ มายา ก็มีการสร้างปีรามิต เหมือนกับอียิบ แต่รูปลักษ์แตกต่างกัน ใช้หลักการเดี่ยวกันในการสร้าง รวมถึงรูปแบบภาษา
ที่ใช้สัณญาลักษ์ ในการออกคำสั่ง หรือหลักการปฎิบัติ ครับ แล้วผมอธิบายขนาดนี้แล้วคุณ ว่า ภาษา คอมพิวเตอร์กับ ภาษาอียิบ มีหลักการเดี่ยวกันหรือไม่ครับ
ถ้า คุณ บอกว่า ไม่ ช่วยกรุณา ยกตัวอย่างมาด้วยนะครับ เมื่อคืน หลับ ปั๊กหลุด 555หลับเฉยๆเลยงับ

#176 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 12:22

มัวแต่สนใจทำไมว่ามันมาจากไหน

หลักการของ OOP ข้อนึงบอกไว้ว่า

เอ็งไม่ต้องไปสนหรอก ว่าไอ้ที่มีมาให้น่ะ มันทำงานยังไง

สนใจแค่ว่า จะเรียกใช้งานยังไงก็พอ - -"

ผมเขียนอยู่ java, c#, php ยังไม่เคยคิดจะสนใจเลยว่า ต้นตอหลักมันมาจากไหน


ถูกต้องครับ มันไม่ต้องสนใจว่ามันทำงานอย่างไรรู้แค่ว่า เรียกใช้ยังไง เพื่ออะไร พอแล้ว

ทำมาหากินโดยการเขียนโปรแกรม มา สิบกว่าปี ไม่เคยรู้ ภาษาอียิปต์ เลย
ส่วนมายา ก็นึกว่าเป็นโปรแกรมทำ 3d ส่วนเรื่องการสร้างปีรามิด นี่มันทฤษฎีล้วนๆเลยนะ
ไม่มีเอกสารอ้างอิงเลย

ตามอ่านอยู่นะอยากรู้ว่ามันเกี่ยวกันยังไง

#177 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 13:43

ก็ใช่ครับ แต่ภาษา ที่ใช้สัณญาลักษ์ มีไม่กี่ภาษาในยุคนั้นๆ มี อียิบ และ ก็ มายา อินคา แต่ถ้าคุณ ศึกษาดีๆ คุณจะเห็น หลักการเดี่ยวกัน ตั้งแต่เทคโนโลยี ในการสร้าง ปีรามิต อินคา หรือ มายา ก็มีการสร้างปีรามิต เหมือนกับอียิบ แต่รูปลักษ์แตกต่างกัน ใช้หลักการเดี่ยวกันในการสร้าง รวมถึงรูปแบบภาษา ที่ใช้สัณญาลักษ์ ในการออกคำสั่ง หรือหลักการปฎิบัติ ครับ แล้วผมอธิบายขนาดนี้แล้วคุณ ว่า ภาษา คอมพิวเตอร์กับ ภาษาอียิบ มีหลักการเดี่ยวกันหรือไม่ครับ ถ้า คุณ บอกว่า ไม่ ช่วยกรุณา ยกตัวอย่างมาด้วยนะครับ เมื่อคืน หลับ ปั๊กหลุด 555หลับเฉยๆเลยงับ


ผมเห็นว่ามีความต่างนะครับ ภาษาคอมพิวเตอร์นั้น เมื่อป้อนคำสั่งเข้าไปแล้ว การทำงานจะแน่นอนและตายตัว เพราะเป็นกระบวนการแบบจักรกล ที่อยู่บนพื่นฐานของชุดคำสั่งที่เราสร้างรอเอาไว้ ขณะที่ภาษาของมนุษย์นั้น หน้าที่หลักคือการสื่อสาร มันอาจมีส่วนคล้ายกันอย่างที่คุณบอก แต่ผมว่านั่นไม่ใช่หน้าที่หลักและความแตกต่างนั้นเห็นได้ชัด เมื่อคุณสั่งการในคอมพิวเตอร์ที่ทำงานตามปรกติ มันจำทำงานตามที่คุณสั่งทุกประการ แต่กรณีภาษาของมนุษย์นั้น ไม่จำเป็นเสมอไป เช่นคุณสั่งคนให้เอาน้ำมาให้กิน คนคนนั้นอาจเอามาให้หรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนคนนั้นอีกที ดังนั้นการที่คุณสรุปเอาง่ายๆว่า ภาษาที่มนุษย์ใช้ กับภาษาคอมพิวเตอร์นั้นเหมือนกัน จึ่งไม่สมบูรณ์ ความจริงคือ มันมีบางส่วนที่ทำงานเหมือนกัน แต่ภาษามนุษย์นั้นกว้างกว่า คือมีการตอบสนองที่หลากหลายกว่า ไม่ใช่ใช้แค่เพียงการสั่งการเท่านั้น แต่เป็นสิ้่งที่ใช้สื่อสาร และแสดงออกถึงความรู้สึกด้วย

ปล. อ่านที่คุณดราม่าเอามาลงหรือยังครับ ภาษาแรกของโลกเป็นของพวกสุเมเรียนในเมโสโปเตเมีย ถ้านับเรื่องเวลาแล้ว พวกอารยธรรมในทวีปอเมริกานั้นถือว่าใหม่กว่าทาง อียิปต์หรือทางเอเชียอีกนะครับ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#178 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 14:52

ก็ใช่ครับ แต่ภาษา ที่ใช้สัณญาลักษ์ มีไม่กี่ภาษาในยุคนั้นๆ มี อียิบ และ ก็ มายา อินคา แต่ถ้าคุณ ศึกษาดีๆ คุณจะเห็น หลักการเดี่ยวกัน ตั้งแต่เทคโนโลยี ในการสร้าง ปีรามิต อินคา หรือ มายา ก็มีการสร้างปีรามิต เหมือนกับอียิบ แต่รูปลักษ์แตกต่างกัน ใช้หลักการเดี่ยวกันในการสร้าง รวมถึงรูปแบบภาษา ที่ใช้สัณญาลักษ์ ในการออกคำสั่ง หรือหลักการปฎิบัติ ครับ แล้วผมอธิบายขนาดนี้แล้วคุณ ว่า ภาษา คอมพิวเตอร์กับ ภาษาอียิบ มีหลักการเดี่ยวกันหรือไม่ครับ ถ้า คุณ บอกว่า ไม่ ช่วยกรุณา ยกตัวอย่างมาด้วยนะครับ เมื่อคืน หลับ ปั๊กหลุด 555หลับเฉยๆเลยงับ


ผมเห็นว่ามีความต่างนะครับ ภาษาคอมพิวเตอร์นั้น เมื่อป้อนคำสั่งเข้าไปแล้ว การทำงานจะแน่นอนและตายตัว เพราะเป็นกระบวนการแบบจักรกล ที่อยู่บนพื่นฐานของชุดคำสั่งที่เราสร้างรอเอาไว้ ขณะที่ภาษาของมนุษย์นั้น หน้าที่หลักคือการสื่อสาร มันอาจมีส่วนคล้ายกันอย่างที่คุณบอก แต่ผมว่านั่นไม่ใช่หน้าที่หลักและความแตกต่างนั้นเห็นได้ชัด เมื่อคุณสั่งการในคอมพิวเตอร์ที่ทำงานตามปรกติ มันจำทำงานตามที่คุณสั่งทุกประการ แต่กรณีภาษาของมนุษย์นั้น ไม่จำเป็นเสมอไป เช่นคุณสั่งคนให้เอาน้ำมาให้กิน คนคนนั้นอาจเอามาให้หรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนคนนั้นอีกที ดังนั้นการที่คุณสรุปเอาง่ายๆว่า ภาษาที่มนุษย์ใช้ กับภาษาคอมพิวเตอร์นั้นเหมือนกัน จึ่งไม่สมบูรณ์ ความจริงคือ มันมีบางส่วนที่ทำงานเหมือนกัน แต่ภาษามนุษย์นั้นกว้างกว่า คือมีการตอบสนองที่หลากหลายกว่า ไม่ใช่ใช้แค่เพียงการสั่งการเท่านั้น แต่เป็นสิ้่งที่ใช้สื่อสาร และแสดงออกถึงความรู้สึกด้วย

ปล. อ่านที่คุณดราม่าเอามาลงหรือยังครับ ภาษาแรกของโลกเป็นของพวกสุเมเรียนในเมโสโปเตเมีย ถ้านับเรื่องเวลาแล้ว พวกอารยธรรมในทวีปอเมริกานั้นถือว่าใหม่กว่าทาง อียิปต์หรือทางเอเชียอีกนะครับ

คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร
มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ
ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่

#179 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 16:39


ก็ใช่ครับ แต่ภาษา ที่ใช้สัณญาลักษ์ มีไม่กี่ภาษาในยุคนั้นๆ มี อียิบ และ ก็ มายา อินคา แต่ถ้าคุณ ศึกษาดีๆ คุณจะเห็น หลักการเดี่ยวกัน ตั้งแต่เทคโนโลยี ในการสร้าง ปีรามิต อินคา หรือ มายา ก็มีการสร้างปีรามิต เหมือนกับอียิบ แต่รูปลักษ์แตกต่างกัน ใช้หลักการเดี่ยวกันในการสร้าง รวมถึงรูปแบบภาษา ที่ใช้สัณญาลักษ์ ในการออกคำสั่ง หรือหลักการปฎิบัติ ครับ แล้วผมอธิบายขนาดนี้แล้วคุณ ว่า ภาษา คอมพิวเตอร์กับ ภาษาอียิบ มีหลักการเดี่ยวกันหรือไม่ครับ ถ้า คุณ บอกว่า ไม่ ช่วยกรุณา ยกตัวอย่างมาด้วยนะครับ เมื่อคืน หลับ ปั๊กหลุด 555หลับเฉยๆเลยงับ


ผมเห็นว่ามีความต่างนะครับ ภาษาคอมพิวเตอร์นั้น เมื่อป้อนคำสั่งเข้าไปแล้ว การทำงานจะแน่นอนและตายตัว เพราะเป็นกระบวนการแบบจักรกล ที่อยู่บนพื่นฐานของชุดคำสั่งที่เราสร้างรอเอาไว้ ขณะที่ภาษาของมนุษย์นั้น หน้าที่หลักคือการสื่อสาร มันอาจมีส่วนคล้ายกันอย่างที่คุณบอก แต่ผมว่านั่นไม่ใช่หน้าที่หลักและความแตกต่างนั้นเห็นได้ชัด เมื่อคุณสั่งการในคอมพิวเตอร์ที่ทำงานตามปรกติ มันจำทำงานตามที่คุณสั่งทุกประการ แต่กรณีภาษาของมนุษย์นั้น ไม่จำเป็นเสมอไป เช่นคุณสั่งคนให้เอาน้ำมาให้กิน คนคนนั้นอาจเอามาให้หรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนคนนั้นอีกที ดังนั้นการที่คุณสรุปเอาง่ายๆว่า ภาษาที่มนุษย์ใช้ กับภาษาคอมพิวเตอร์นั้นเหมือนกัน จึ่งไม่สมบูรณ์ ความจริงคือ มันมีบางส่วนที่ทำงานเหมือนกัน แต่ภาษามนุษย์นั้นกว้างกว่า คือมีการตอบสนองที่หลากหลายกว่า ไม่ใช่ใช้แค่เพียงการสั่งการเท่านั้น แต่เป็นสิ้่งที่ใช้สื่อสาร และแสดงออกถึงความรู้สึกด้วย

ปล. อ่านที่คุณดราม่าเอามาลงหรือยังครับ ภาษาแรกของโลกเป็นของพวกสุเมเรียนในเมโสโปเตเมีย ถ้านับเรื่องเวลาแล้ว พวกอารยธรรมในทวีปอเมริกานั้นถือว่าใหม่กว่าทาง อียิปต์หรือทางเอเชียอีกนะครับ

คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร
มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ
ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่


ผลที่ได้มีหลากหลายอะครับ คงไม่ได้มีผลเพียงอย่างเดียวแน่นอน

เพราะสมองมนุษย์นอกจากตรรก ยัง มี อารมณ์ และ สัญชาติญาณ ปะปนอยู่ด้วย
มันจึงไม่เหมือน คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องจักรแน่นอน

ตัวอย่างที่ท่านอ้างมา ถ้า ฟาร์โร สั่ง และ ไม่ทำมันจะมีผลยังไง ก็หลากหลายนะ ขึ้นอยู่กับ
อารมณ์ และ เหตุผลของฟาร์โร ตอนนั้นด้วย

เช่น ถ้าสั่งให้ สนมสุดรัก ยกข้าว ยกน้ำมาให้ แล้วสนมไม่ทำ ผลที่ตามมาอาจเป็นแค่ การตบตูด และ จูปตาม
แต่ถ้าสั่ง ทาส บริวาร แล้ว ไม่ทำ ผลที่ได้อาจโดนประหารก็ได้
ส่วนเรื่อง IC เสีย ถอนเปลี่ยนได้ แต่ คนถ้าหายไป เอาคนอื่นมาแทนคงไ่ม่เหมือนเดิม


ปล สมองคนลงโปรแกรม ไม่ได้

Edited by เพลิงสีนิล, 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 16:40.

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#180 O2Giant

O2Giant

    โปรแกรมมั่ว

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,135 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 16:49



ก็ใช่ครับ แต่ภาษา ที่ใช้สัณญาลักษ์ มีไม่กี่ภาษาในยุคนั้นๆ มี อียิบ และ ก็ มายา อินคา แต่ถ้าคุณ ศึกษาดีๆ คุณจะเห็น หลักการเดี่ยวกัน ตั้งแต่เทคโนโลยี ในการสร้าง ปีรามิต อินคา หรือ มายา ก็มีการสร้างปีรามิต เหมือนกับอียิบ แต่รูปลักษ์แตกต่างกัน ใช้หลักการเดี่ยวกันในการสร้าง รวมถึงรูปแบบภาษา ที่ใช้สัณญาลักษ์ ในการออกคำสั่ง หรือหลักการปฎิบัติ ครับ แล้วผมอธิบายขนาดนี้แล้วคุณ ว่า ภาษา คอมพิวเตอร์กับ ภาษาอียิบ มีหลักการเดี่ยวกันหรือไม่ครับ ถ้า คุณ บอกว่า ไม่ ช่วยกรุณา ยกตัวอย่างมาด้วยนะครับ เมื่อคืน หลับ ปั๊กหลุด 555หลับเฉยๆเลยงับ


ผมเห็นว่ามีความต่างนะครับ ภาษาคอมพิวเตอร์นั้น เมื่อป้อนคำสั่งเข้าไปแล้ว การทำงานจะแน่นอนและตายตัว เพราะเป็นกระบวนการแบบจักรกล ที่อยู่บนพื่นฐานของชุดคำสั่งที่เราสร้างรอเอาไว้ ขณะที่ภาษาของมนุษย์นั้น หน้าที่หลักคือการสื่อสาร มันอาจมีส่วนคล้ายกันอย่างที่คุณบอก แต่ผมว่านั่นไม่ใช่หน้าที่หลักและความแตกต่างนั้นเห็นได้ชัด เมื่อคุณสั่งการในคอมพิวเตอร์ที่ทำงานตามปรกติ มันจำทำงานตามที่คุณสั่งทุกประการ แต่กรณีภาษาของมนุษย์นั้น ไม่จำเป็นเสมอไป เช่นคุณสั่งคนให้เอาน้ำมาให้กิน คนคนนั้นอาจเอามาให้หรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนคนนั้นอีกที ดังนั้นการที่คุณสรุปเอาง่ายๆว่า ภาษาที่มนุษย์ใช้ กับภาษาคอมพิวเตอร์นั้นเหมือนกัน จึ่งไม่สมบูรณ์ ความจริงคือ มันมีบางส่วนที่ทำงานเหมือนกัน แต่ภาษามนุษย์นั้นกว้างกว่า คือมีการตอบสนองที่หลากหลายกว่า ไม่ใช่ใช้แค่เพียงการสั่งการเท่านั้น แต่เป็นสิ้่งที่ใช้สื่อสาร และแสดงออกถึงความรู้สึกด้วย

ปล. อ่านที่คุณดราม่าเอามาลงหรือยังครับ ภาษาแรกของโลกเป็นของพวกสุเมเรียนในเมโสโปเตเมีย ถ้านับเรื่องเวลาแล้ว พวกอารยธรรมในทวีปอเมริกานั้นถือว่าใหม่กว่าทาง อียิปต์หรือทางเอเชียอีกนะครับ

คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร
มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ
ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่


ผลที่ได้มีหลากหลายอะครับ คงไม่ได้มีผลเพียงอย่างเดียวแน่นอน

เพราะสมองมนุษย์นอกจากตรรก ยัง มี อารมณ์ และ สัญชาติญาณ ปะปนอยู่ด้วย
มันจึงไม่เหมือน คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องจักรแน่นอน

ตัวอย่างที่ท่านอ้างมา ถ้า ฟาร์โร สั่ง และ ไม่ทำมันจะมีผลยังไง ก็หลากหลายนะ ขึ้นอยู่กับ
อารมณ์ และ เหตุผลของฟาร์โร ตอนนั้นด้วย

เช่น ถ้าสั่งให้ สนมสุดรัก ยกข้าว ยกน้ำมาให้ แล้วสนมไม่ทำ ผลที่ตามมาอาจเป็นแค่ การตบตูด และ จูปตาม
แต่ถ้าสั่ง ทาส บริวาร แล้ว ไม่ทำ ผลที่ได้อาจโดนประหารก็ได้
ส่วนเรื่อง IC เสีย ถอนเปลี่ยนได้ แต่ คนถ้าหายไป เอาคนอื่นมาแทนคงไ่ม่เหมือนเดิม


ปล สมองคนลงโปรแกรม ไม่ได้


ได้ครับ ผมขอเถียงขาดใจ

ท่านคงเคยได้ยินคำเหล่านี้

ชั่งไข่, พันธมิตรปิดสนามบิน, มาร์คกั๊กน้ำ, อำมาตย์สั่งมา, ใครๆ ก็รู้

สิ่งเหล่านี้ถูกลงโปรแกรมไว้เรียบร้อยแล้วครับ

#181 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 16:57




ก็ใช่ครับ แต่ภาษา ที่ใช้สัณญาลักษ์ มีไม่กี่ภาษาในยุคนั้นๆ มี อียิบ และ ก็ มายา อินคา แต่ถ้าคุณ ศึกษาดีๆ คุณจะเห็น หลักการเดี่ยวกัน ตั้งแต่เทคโนโลยี ในการสร้าง ปีรามิต อินคา หรือ มายา ก็มีการสร้างปีรามิต เหมือนกับอียิบ แต่รูปลักษ์แตกต่างกัน ใช้หลักการเดี่ยวกันในการสร้าง รวมถึงรูปแบบภาษา ที่ใช้สัณญาลักษ์ ในการออกคำสั่ง หรือหลักการปฎิบัติ ครับ แล้วผมอธิบายขนาดนี้แล้วคุณ ว่า ภาษา คอมพิวเตอร์กับ ภาษาอียิบ มีหลักการเดี่ยวกันหรือไม่ครับ ถ้า คุณ บอกว่า ไม่ ช่วยกรุณา ยกตัวอย่างมาด้วยนะครับ เมื่อคืน หลับ ปั๊กหลุด 555หลับเฉยๆเลยงับ


ผมเห็นว่ามีความต่างนะครับ ภาษาคอมพิวเตอร์นั้น เมื่อป้อนคำสั่งเข้าไปแล้ว การทำงานจะแน่นอนและตายตัว เพราะเป็นกระบวนการแบบจักรกล ที่อยู่บนพื่นฐานของชุดคำสั่งที่เราสร้างรอเอาไว้ ขณะที่ภาษาของมนุษย์นั้น หน้าที่หลักคือการสื่อสาร มันอาจมีส่วนคล้ายกันอย่างที่คุณบอก แต่ผมว่านั่นไม่ใช่หน้าที่หลักและความแตกต่างนั้นเห็นได้ชัด เมื่อคุณสั่งการในคอมพิวเตอร์ที่ทำงานตามปรกติ มันจำทำงานตามที่คุณสั่งทุกประการ แต่กรณีภาษาของมนุษย์นั้น ไม่จำเป็นเสมอไป เช่นคุณสั่งคนให้เอาน้ำมาให้กิน คนคนนั้นอาจเอามาให้หรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนคนนั้นอีกที ดังนั้นการที่คุณสรุปเอาง่ายๆว่า ภาษาที่มนุษย์ใช้ กับภาษาคอมพิวเตอร์นั้นเหมือนกัน จึ่งไม่สมบูรณ์ ความจริงคือ มันมีบางส่วนที่ทำงานเหมือนกัน แต่ภาษามนุษย์นั้นกว้างกว่า คือมีการตอบสนองที่หลากหลายกว่า ไม่ใช่ใช้แค่เพียงการสั่งการเท่านั้น แต่เป็นสิ้่งที่ใช้สื่อสาร และแสดงออกถึงความรู้สึกด้วย

ปล. อ่านที่คุณดราม่าเอามาลงหรือยังครับ ภาษาแรกของโลกเป็นของพวกสุเมเรียนในเมโสโปเตเมีย ถ้านับเรื่องเวลาแล้ว พวกอารยธรรมในทวีปอเมริกานั้นถือว่าใหม่กว่าทาง อียิปต์หรือทางเอเชียอีกนะครับ

คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร
มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ
ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่


ผลที่ได้มีหลากหลายอะครับ คงไม่ได้มีผลเพียงอย่างเดียวแน่นอน

เพราะสมองมนุษย์นอกจากตรรก ยัง มี อารมณ์ และ สัญชาติญาณ ปะปนอยู่ด้วย
มันจึงไม่เหมือน คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องจักรแน่นอน

ตัวอย่างที่ท่านอ้างมา ถ้า ฟาร์โร สั่ง และ ไม่ทำมันจะมีผลยังไง ก็หลากหลายนะ ขึ้นอยู่กับ
อารมณ์ และ เหตุผลของฟาร์โร ตอนนั้นด้วย

เช่น ถ้าสั่งให้ สนมสุดรัก ยกข้าว ยกน้ำมาให้ แล้วสนมไม่ทำ ผลที่ตามมาอาจเป็นแค่ การตบตูด และ จูปตาม
แต่ถ้าสั่ง ทาส บริวาร แล้ว ไม่ทำ ผลที่ได้อาจโดนประหารก็ได้
ส่วนเรื่อง IC เสีย ถอนเปลี่ยนได้ แต่ คนถ้าหายไป เอาคนอื่นมาแทนคงไ่ม่เหมือนเดิม


ปล สมองคนลงโปรแกรม ไม่ได้


ได้ครับ ผมขอเถียงขาดใจ

ท่านคงเคยได้ยินคำเหล่านี้

ชั่งไข่, พันธมิตรปิดสนามบิน, มาร์คกั๊กน้ำ, อำมาตย์สั่งมา, ใครๆ ก็รู้

สิ่งเหล่านี้ถูกลงโปรแกรมไว้เรียบร้อยแล้วครับ


ลงแล้ว ทำ Write protect เลยเนอะ แก้ไขไม่ได้แล้ว

Posted Image

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#182 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 17:19

คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร
มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ
ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่


ไม่ทราบว่า ภาษาอียิปต์โบราณสร้างมาเพื่อให้ฟาโรห์สั่งการหรือครับ อันนี้มั่วแล้ว ผมบอกคุณว่า ภาษาส่วนหนึ่งนั้นใช้สั่งการ แต่อีกหลายส่วน(ซึ่งเป็นส่วนมากเสียด้วย) ใช้ในการสื่อสารและแสดงออก ซึ่งต่างจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อสั่งอย่างเดียวเท่านั้น และการตอบสนองก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งด้วย

ฟาโรห์มันจะมาโปรแกรมสมองคนได้ยังไงครับ อย่างนี้คิดเอาเองล้วนๆเลย

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#183 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:48


คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร
มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ
ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่


ไม่ทราบว่า ภาษาอียิปต์โบราณสร้างมาเพื่อให้ฟาโรห์สั่งการหรือครับ อันนี้มั่วแล้ว ผมบอกคุณว่า ภาษาส่วนหนึ่งนั้นใช้สั่งการ แต่อีกหลายส่วน(ซึ่งเป็นส่วนมากเสียด้วย) ใช้ในการสื่อสารและแสดงออก ซึ่งต่างจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อสั่งอย่างเดียวเท่านั้น และการตอบสนองก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งด้วย

ฟาโรห์มันจะมาโปรแกรมสมองคนได้ยังไงครับ อย่างนี้คิดเอาเองล้วนๆเลย

กำ มั่ว ซะงั้น หรอคุยมาต้องนาน งั้นคุณรู้ไหมว่า ภาษานี้สร้างมาเพื่ออะไร คุณ ลอง คิดถึง สัญาลักษ์ต่างๆดูเอาสิว่าคุณจะรู้สึกแบบไหนเมื่อคุณเห็นสัญาลักษ์นั้นๆมันง่ายที่คุณจะทดลอง กับตัวคุณ ก็ที่คุณจะแย้ง ทำไมต้องจอง จะขวาง ตลอด ด้วยละ มันเป็นโปรแกรมที่ถูกลงไว้หรอ

#184 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 00:14

คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่

ไม่ทราบว่า ภาษาอียิปต์โบราณสร้างมาเพื่อให้ฟาโรห์สั่งการหรือครับ อันนี้มั่วแล้ว ผมบอกคุณว่า ภาษาส่วนหนึ่งนั้นใช้สั่งการ แต่อีกหลายส่วน(ซึ่งเป็นส่วนมากเสียด้วย) ใช้ในการสื่อสารและแสดงออก ซึ่งต่างจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อสั่งอย่างเดียวเท่านั้น และการตอบสนองก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งด้วย ฟาโรห์มันจะมาโปรแกรมสมองคนได้ยังไงครับ อย่างนี้คิดเอาเองล้วนๆเลย

กำ มั่ว ซะงั้น หรอคุยมาต้องนาน งั้นคุณรู้ไหมว่า ภาษานี้สร้างมาเพื่ออะไร คุณ ลอง คิดถึง สัญาลักษ์ต่างๆดูเอาสิว่าคุณจะรู้สึกแบบไหนเมื่อคุณเห็นสัญาลักษ์นั้นๆมันง่ายที่คุณจะทดลอง กับตัวคุณ ก็ที่คุณจะแย้ง ทำไมต้องจอง จะขวาง ตลอด ด้วยละ มันเป็นโปรแกรมที่ถูกลงไว้หรอ


ผมถามคุณนะ
๑ ภาษาพวกนี้ ฟาโรห์ใช้คนเดียวหรือครับ
๒ ภาษาพวกนี้ ใช้ออกคำสั่งอย่างเดียวหรือครับ

ถ้าไม่ใช่ ข้อเสนอของคุณก็จบแล้วครับ คุณอ้างเองว่ามันใช้สั่งการเหมือนคอมพิวเตอร์
ถ้ามันใช้อย่างอื่น มันก็ไม่ใช่แล้วครับ มันใช้บันทึกเหตุการณ์ แค่นี้ก็ไม่ใช่แล้ว ผมบอก
แล้วว่าภาษานั้นมันใช้เพื่อสื่อสาร การสั่งการมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#185 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 00:18

คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่

ไม่ทราบว่า ภาษาอียิปต์โบราณสร้างมาเพื่อให้ฟาโรห์สั่งการหรือครับ อันนี้มั่วแล้ว ผมบอกคุณว่า ภาษาส่วนหนึ่งนั้นใช้สั่งการ แต่อีกหลายส่วน(ซึ่งเป็นส่วนมากเสียด้วย) ใช้ในการสื่อสารและแสดงออก ซึ่งต่างจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อสั่งอย่างเดียวเท่านั้น และการตอบสนองก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งด้วย ฟาโรห์มันจะมาโปรแกรมสมองคนได้ยังไงครับ อย่างนี้คิดเอาเองล้วนๆเลย

กำ มั่ว ซะงั้น หรอคุยมาต้องนาน งั้นคุณรู้ไหมว่า ภาษานี้สร้างมาเพื่ออะไร คุณ ลอง คิดถึง สัญาลักษ์ต่างๆดูเอาสิว่าคุณจะรู้สึกแบบไหนเมื่อคุณเห็นสัญาลักษ์นั้นๆมันง่ายที่คุณจะทดลอง กับตัวคุณ ก็ที่คุณจะแย้ง ทำไมต้องจอง จะขวาง ตลอด ด้วยละ มันเป็นโปรแกรมที่ถูกลงไว้หรอ


ผมถามคุณนะ
๑ ภาษาพวกนี้ ฟาโรห์ใช้คนเดียวหรือครับ
๒ ภาษาพวกนี้ ใช้ออกคำสั่งอย่างเดียวหรือครับ

ถ้าไม่ใช่ ข้อเสนอของคุณก็จบแล้วครับ คุณอ้างเองว่ามันใช้สั่งการเหมือนคอมพิวเตอร์
ถ้ามันใช้อย่างอื่น มันก็ไม่ใช่แล้วครับ มันใช้บันทึกเหตุการณ์ แค่นี้ก็ไม่ใช่แล้ว ผมบอก
แล้วว่าภาษานั้นมันใช้เพื่อสื่อสาร การสั่งการมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

ถ้าจะไม่เข้าใจจริงๆ จะ จบๆก็จบครับมิมีปัญาหาครับ
คนเรานี้ก็แปลก สื่อสารกับสั่งการ มันต่างกันตรงไหนบ่างละครับ งง จัง ในเมื่อเป้าหมายคือเหตุผลเดี่ยวกัน

#186 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 11:44


คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่

ไม่ทราบว่า ภาษาอียิปต์โบราณสร้างมาเพื่อให้ฟาโรห์สั่งการหรือครับ อันนี้มั่วแล้ว ผมบอกคุณว่า ภาษาส่วนหนึ่งนั้นใช้สั่งการ แต่อีกหลายส่วน(ซึ่งเป็นส่วนมากเสียด้วย) ใช้ในการสื่อสารและแสดงออก ซึ่งต่างจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อสั่งอย่างเดียวเท่านั้น และการตอบสนองก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งด้วย ฟาโรห์มันจะมาโปรแกรมสมองคนได้ยังไงครับ อย่างนี้คิดเอาเองล้วนๆเลย

กำ มั่ว ซะงั้น หรอคุยมาต้องนาน งั้นคุณรู้ไหมว่า ภาษานี้สร้างมาเพื่ออะไร คุณ ลอง คิดถึง สัญาลักษ์ต่างๆดูเอาสิว่าคุณจะรู้สึกแบบไหนเมื่อคุณเห็นสัญาลักษ์นั้นๆมันง่ายที่คุณจะทดลอง กับตัวคุณ ก็ที่คุณจะแย้ง ทำไมต้องจอง จะขวาง ตลอด ด้วยละ มันเป็นโปรแกรมที่ถูกลงไว้หรอ


ผมถามคุณนะ
๑ ภาษาพวกนี้ ฟาโรห์ใช้คนเดียวหรือครับ
๒ ภาษาพวกนี้ ใช้ออกคำสั่งอย่างเดียวหรือครับ

ถ้าไม่ใช่ ข้อเสนอของคุณก็จบแล้วครับ คุณอ้างเองว่ามันใช้สั่งการเหมือนคอมพิวเตอร์
ถ้ามันใช้อย่างอื่น มันก็ไม่ใช่แล้วครับ มันใช้บันทึกเหตุการณ์ แค่นี้ก็ไม่ใช่แล้ว ผมบอก
แล้วว่าภาษานั้นมันใช้เพื่อสื่อสาร การสั่งการมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

ถ้าจะไม่เข้าใจจริงๆ จะ จบๆก็จบครับมิมีปัญาหาครับ
คนเรานี้ก็แปลก สื่อสารกับสั่งการ มันต่างกันตรงไหนบ่างละครับ งง จัง ในเมื่อเป้าหมายคือเหตุผลเดี่ยวกัน


การสื่อสารคือ ทำให้อีกฝ่านเข้าใจในสารที่สื่อออกไป

การสั่งการคือ การออกคำสั่ง ให้ปฎิบัติตาม

ต่างกันนะ ทั้ง จุดประสงค์ และ เป้าหมาย

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#187 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 11:59



คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่

ไม่ทราบว่า ภาษาอียิปต์โบราณสร้างมาเพื่อให้ฟาโรห์สั่งการหรือครับ อันนี้มั่วแล้ว ผมบอกคุณว่า ภาษาส่วนหนึ่งนั้นใช้สั่งการ แต่อีกหลายส่วน(ซึ่งเป็นส่วนมากเสียด้วย) ใช้ในการสื่อสารและแสดงออก ซึ่งต่างจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อสั่งอย่างเดียวเท่านั้น และการตอบสนองก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งด้วย ฟาโรห์มันจะมาโปรแกรมสมองคนได้ยังไงครับ อย่างนี้คิดเอาเองล้วนๆเลย

กำ มั่ว ซะงั้น หรอคุยมาต้องนาน งั้นคุณรู้ไหมว่า ภาษานี้สร้างมาเพื่ออะไร คุณ ลอง คิดถึง สัญาลักษ์ต่างๆดูเอาสิว่าคุณจะรู้สึกแบบไหนเมื่อคุณเห็นสัญาลักษ์นั้นๆมันง่ายที่คุณจะทดลอง กับตัวคุณ ก็ที่คุณจะแย้ง ทำไมต้องจอง จะขวาง ตลอด ด้วยละ มันเป็นโปรแกรมที่ถูกลงไว้หรอ


ผมถามคุณนะ
๑ ภาษาพวกนี้ ฟาโรห์ใช้คนเดียวหรือครับ
๒ ภาษาพวกนี้ ใช้ออกคำสั่งอย่างเดียวหรือครับ

ถ้าไม่ใช่ ข้อเสนอของคุณก็จบแล้วครับ คุณอ้างเองว่ามันใช้สั่งการเหมือนคอมพิวเตอร์
ถ้ามันใช้อย่างอื่น มันก็ไม่ใช่แล้วครับ มันใช้บันทึกเหตุการณ์ แค่นี้ก็ไม่ใช่แล้ว ผมบอก
แล้วว่าภาษานั้นมันใช้เพื่อสื่อสาร การสั่งการมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

ถ้าจะไม่เข้าใจจริงๆ จะ จบๆก็จบครับมิมีปัญาหาครับ
คนเรานี้ก็แปลก สื่อสารกับสั่งการ มันต่างกันตรงไหนบ่างละครับ งง จัง ในเมื่อเป้าหมายคือเหตุผลเดี่ยวกัน


การสื่อสารคือ ทำให้อีกฝ่านเข้าใจในสารที่สื่อออกไป

การสั่งการคือ การออกคำสั่ง ให้ปฎิบัติตาม

ต่างกันนะ ทั้ง จุดประสงค์ และ เป้าหมาย

ผมว่าคุณคิด ดูอีกที่ก่อนจะพิมย์จะดีกว่า ว่า ภาษา ถูกคิดขึ่นมาเพื่ออะไรบ่าง และใช้ทำอะไรได้
ว่าแต่ ท่าน เพริงสีนิจ ถ้า เถียงสู้ผมไม่ได้จะหาเรื่องด่าผมอีกป่าว

#188 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 13:35

เรื่องภาษา รูปแบสัณญาลักษ์ ผมว่ามันเจ๋ง ดีครับ มันมีประสิทย์ภาพสูงดี หนึ่งสัณญาลักษ์ มันทำได้หลายความคิดและเป็นระบบขั้นตอนคิดแบบรอบครอบไม่มีความผิดพลาด มันถึง ถูกนำมาใช้ในภาษาคอมพิวเตอร์ และการทำให้คอมพิวเตอร์รับคำสั่งภาษาได้เราก็ต้อง สอน ภาษาให้มันเพื่อให้มันสื่อสารกับเราได้ และพอมันสื่อสารกับเราได้มันก็รับคำสั่งเราได้ เพื่อไปทำงานตามคำสั่ง จนทุกวันนี้ โปรแกรมอังกอริทึม ยัง ใช้ ภาษาสัณญาลักษ์ ในการสื่อสาร เป็นโปรแกรมที่ทันสมัยสุดในตอนนี้ ยังใช้เทคโนโลยีเดี่ยวกับภาษาอียิบโบราณ เลยครับ
ส่วนเรื่อง สมอง มนุษย์ ที่ผมเอามาอ้าง มันก็เรื่องจริงและครับ ว่า เราเอาระบบสมองส่วน หนึ่ง มาเป็นต้นแบบในการสร้างสมองกล
แต่เรื่องของจริตวิณญาณความรู้ศึก เราสร้างไม่ได้ ขนาดนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าจักกลชีวภาพ อาจมีใช่ในอนณาคต จาก
เทคโนโลยี ที่รักษารางกายมนุษย์ที่ เสีย แขน ขา จากอุบัติเหตุ ในต่างประเทศเค้ากำลังคิดทำเรื่องแขนกลขากลที่จะมาใช้แทนของจริงที่เสียไป ในอนาคตตั้งแต่พรุ่งนี้ไป เทคโนโลยี เป็นสิ่งสำคัญ มันคือความั่นคง ทั้งหมดของประเทศ เราไม่ต้องมีเทคโนโลยีไว้ขายหลอก
แต่เราจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีไว้ช่วยเหลือตัวเอง นี้คือความจำเป็นเร่งด่วน การมีเทคโนโลยี คือมีคนมีความรู้ความสามาร
ที่สามารคิดและสร้างเทคโนโลยี ของตัวเองได้ สิ่งนี้ คือสิ่งที่ขาดหายไปจากสังคมไทย รัฐบาล ไม่เคยสนับสนุนจริงจัง กับเรื่องพวกนี้
ตัวอย่างง่ายๆ ประเทศที่มีเทคโนโลยีสูงจะสามารลด การขาดดุลการค้าได้เพราะไม่จำเป็นต้องนำเข้าเทคโนโลยี และสามารเพิ่มมูลค่าสินค้าตัวเองได้ จาก เทคโนโลยี ที่คิดเอง แต่ สังคมโลกมีแต่เทคโนโลยี ที่ทำลายโลกมากกว่า รักษาโลก เราจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการสรา้งคิดค้นเทคโนโลยี อาหาร น้ำ และเทคโนโลยี จักกล สมองกล ที่ ผสมเข้ากับธรรมชาติ ได้ดีที่สุด เทคโนโลยีแบบนี้ มีตัวอย่างมากมาย
ปลูกผักไร้ดิน อรแกรนิค นาโน แต่ปัญหา คือมันยังพัฒนาได้ไม่ เต็มที่ เราเป็นตัวแทนผู้ส่งออกรถยนต์มากี่ชาติแล้วเราไม่เคยมีรถยต์แบรน์ไทย
ที่นิยมใช้ในประเทศเลย ค่านิยยมแบบนี้มันไม่มีเลย ทั้งที่เราสร้างรถยนต์ได้เอง หรือ สร้างเครื่องยนตร์ ไม่ได้เพราะรับจ้างประกอบอย่างเดี่ยว
แล้วทำไมเราถึงไม่สรางเครื่องยนต์เองสักที่( ไม่เข้าใจ อันนอกประเด็น)
ส่วนเรื่องกระทู้ผมๆ ว่าผมตอบด้วยเหตุและผล ชัดเจน แต่แค่ พวกคุณต้องคิดแบบไม่ยึดติดกับหลักวิชาการ ที่คุณหาข้อมูลมา
แต่คุณต้องคิดมันในรูปแบบของระบบธรรมชาติ เปิดรับความจริงว่าทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนแล้วมีจุดเริ้มต้นจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ่นหรือมนุษย์ สร้างขึ่น ล้วนมี บรรทัดฐานจากธรรมชาติเป็นหลักถ้าคุณเอาหลักวิชาการมายึดติด มันก็จะได้แต่อัคติที่เกิดจากความคิดที่
ไม่เข้าใจ เพราะจะเข้าไม่ถึงระบบที่แท้จริงระบบที่เกิดมาพร้อมโลกนี้ คือความเป็นจริงที่สุด

#189 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 13:47




คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่

ไม่ทราบว่า ภาษาอียิปต์โบราณสร้างมาเพื่อให้ฟาโรห์สั่งการหรือครับ อันนี้มั่วแล้ว ผมบอกคุณว่า ภาษาส่วนหนึ่งนั้นใช้สั่งการ แต่อีกหลายส่วน(ซึ่งเป็นส่วนมากเสียด้วย) ใช้ในการสื่อสารและแสดงออก ซึ่งต่างจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อสั่งอย่างเดียวเท่านั้น และการตอบสนองก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งด้วย ฟาโรห์มันจะมาโปรแกรมสมองคนได้ยังไงครับ อย่างนี้คิดเอาเองล้วนๆเลย

กำ มั่ว ซะงั้น หรอคุยมาต้องนาน งั้นคุณรู้ไหมว่า ภาษานี้สร้างมาเพื่ออะไร คุณ ลอง คิดถึง สัญาลักษ์ต่างๆดูเอาสิว่าคุณจะรู้สึกแบบไหนเมื่อคุณเห็นสัญาลักษ์นั้นๆมันง่ายที่คุณจะทดลอง กับตัวคุณ ก็ที่คุณจะแย้ง ทำไมต้องจอง จะขวาง ตลอด ด้วยละ มันเป็นโปรแกรมที่ถูกลงไว้หรอ


ผมถามคุณนะ
๑ ภาษาพวกนี้ ฟาโรห์ใช้คนเดียวหรือครับ
๒ ภาษาพวกนี้ ใช้ออกคำสั่งอย่างเดียวหรือครับ

ถ้าไม่ใช่ ข้อเสนอของคุณก็จบแล้วครับ คุณอ้างเองว่ามันใช้สั่งการเหมือนคอมพิวเตอร์
ถ้ามันใช้อย่างอื่น มันก็ไม่ใช่แล้วครับ มันใช้บันทึกเหตุการณ์ แค่นี้ก็ไม่ใช่แล้ว ผมบอก
แล้วว่าภาษานั้นมันใช้เพื่อสื่อสาร การสั่งการมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

ถ้าจะไม่เข้าใจจริงๆ จะ จบๆก็จบครับมิมีปัญาหาครับ
คนเรานี้ก็แปลก สื่อสารกับสั่งการ มันต่างกันตรงไหนบ่างละครับ งง จัง ในเมื่อเป้าหมายคือเหตุผลเดี่ยวกัน


การสื่อสารคือ ทำให้อีกฝ่านเข้าใจในสารที่สื่อออกไป

การสั่งการคือ การออกคำสั่ง ให้ปฎิบัติตาม

ต่างกันนะ ทั้ง จุดประสงค์ และ เป้าหมาย

ผมว่าคุณคิด ดูอีกที่ก่อนจะพิมย์จะดีกว่า ว่า ภาษา ถูกคิดขึ่นมาเพื่ออะไรบ่าง และใช้ทำอะไรได้
ว่าแต่ ท่าน เพริงสีนิจ ถ้า เถียงสู้ผมไม่ได้จะหาเรื่องด่าผมอีกป่าว

-*-

เหลิม : ไอ้ปื๊ดลูกเมียเอ็งสบายดีมั๊ยวะ?
ปื๊ด : สบายดีครับเจ้านาย
(อันนี้เรียกถาม)


เหลิม : เมื่อวานโดยเมียด่า โครตเซ็งเลย
ปื๊ด : ....(เงียบรับฟัง)
(อันนี้เรียกบ่นเฉยๆ)

เหลิม : ผมรู้ทุกอย่าง ผมจบ ดร.กฎหมาย รู้ทุกอย่าง Ok
(อันนี้เรียกสื่อสารให้คนฟังเข้าใจ)


เหลิม : ไอ้ปื๊ดไปเก็บตะกวดไปดิ กูอายวะมีแดงโง่ๆแบบนี้
ปี๊ด : ครับเจ้านาย จะนั่งยาง หรือถ่วงน้ำดีครับ
(อันนี้เรียกสั่ง)
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#190 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 13:49

เรื่องภาษา รูปแบสัณญาลักษ์ ผมว่ามันเจ๋ง ดีครับ มันมีประสิทย์ภาพสูงดี หนึ่งสัณญาลักษ์ มันทำได้หลายความคิดและเป็นระบบขั้นตอนคิดแบบรอบครอบไม่มีความผิดพลาด มันถึง ถูกนำมาใช้ในภาษาคอมพิวเตอร์ และการทำให้คอมพิวเตอร์รับคำสั่งภาษาได้เราก็ต้อง สอน ภาษาให้มันเพื่อให้มันสื่อสารกับเราได้ และพอมันสื่อสารกับเราได้มันก็รับคำสั่งเราได้ เพื่อไปทำงานตามคำสั่ง จนทุกวันนี้ โปรแกรมอังกอริทึม ยัง ใช้ ภาษาสัณญาลักษ์ ในการสื่อสาร เป็นโปรแกรมที่ทันสมัยสุดในตอนนี้ ยังใช้เทคโนโลยีเดี่ยวกับภาษาอียิบโบราณ เลยครับ
ส่วนเรื่อง สมอง มนุษย์ ที่ผมเอามาอ้าง มันก็เรื่องจริงและครับ ว่า เราเอาระบบสมองส่วน หนึ่ง มาเป็นต้นแบบในการสร้างสมองกล
แต่เรื่องของจริตวิณญาณความรู้ศึก เราสร้างไม่ได้ ขนาดนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าจักกลชีวภาพ อาจมีใช่ในอนณาคต จาก
เทคโนโลยี ที่รักษารางกายมนุษย์ที่ เสีย แขน ขา จากอุบัติเหตุ ในต่างประเทศเค้ากำลังคิดทำเรื่องแขนกลขากลที่จะมาใช้แทนของจริงที่เสียไป ในอนาคตตั้งแต่พรุ่งนี้ไป เทคโนโลยี เป็นสิ่งสำคัญ มันคือความั่นคง ทั้งหมดของประเทศ เราไม่ต้องมีเทคโนโลยีไว้ขายหลอก
แต่เราจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีไว้ช่วยเหลือตัวเอง นี้คือความจำเป็นเร่งด่วน การมีเทคโนโลยี คือมีคนมีความรู้ความสามาร
ที่สามารคิดและสร้างเทคโนโลยี ของตัวเองได้ สิ่งนี้ คือสิ่งที่ขาดหายไปจากสังคมไทย รัฐบาล ไม่เคยสนับสนุนจริงจัง กับเรื่องพวกนี้
ตัวอย่างง่ายๆ ประเทศที่มีเทคโนโลยีสูงจะสามารลด การขาดดุลการค้าได้เพราะไม่จำเป็นต้องนำเข้าเทคโนโลยี และสามารเพิ่มมูลค่าสินค้าตัวเองได้ จาก เทคโนโลยี ที่คิดเอง แต่ สังคมโลกมีแต่เทคโนโลยี ที่ทำลายโลกมากกว่า รักษาโลก เราจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการสรา้งคิดค้นเทคโนโลยี อาหาร น้ำ และเทคโนโลยี จักกล สมองกล ที่ ผสมเข้ากับธรรมชาติ ได้ดีที่สุด เทคโนโลยีแบบนี้ มีตัวอย่างมากมาย
ปลูกผักไร้ดิน อรแกรนิค นาโน แต่ปัญหา คือมันยังพัฒนาได้ไม่ เต็มที่ เราเป็นตัวแทนผู้ส่งออกรถยนต์มากี่ชาติแล้วเราไม่เคยมีรถยต์แบรน์ไทย
ที่นิยมใช้ในประเทศเลย ค่านิยยมแบบนี้มันไม่มีเลย ทั้งที่เราสร้างรถยนต์ได้เอง หรือ สร้างเครื่องยนตร์ ไม่ได้เพราะรับจ้างประกอบอย่างเดี่ยว
แล้วทำไมเราถึงไม่สรางเครื่องยนต์เองสักที่( ไม่เข้าใจ อันนอกประเด็น)
ส่วนเรื่องกระทู้ผมๆ ว่าผมตอบด้วยเหตุและผล ชัดเจน แต่แค่ พวกคุณต้องคิดแบบไม่ยึดติดกับหลักวิชาการ ที่คุณหาข้อมูลมา
แต่คุณต้องคิดมันในรูปแบบของระบบธรรมชาติ เปิดรับความจริงว่าทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนแล้วมีจุดเริ้มต้นจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ่นหรือมนุษย์ สร้างขึ่น ล้วนมี บรรทัดฐานจากธรรมชาติเป็นหลักถ้าคุณเอาหลักวิชาการมายึดติด มันก็จะได้แต่อัคติที่เกิดจากความคิดที่
ไม่เข้าใจ เพราะจะเข้าไม่ถึงระบบที่แท้จริงระบบที่เกิดมาพร้อมโลกนี้ คือความเป็นจริงที่สุด


เอาหลักฐานมาให้ดูด้วยว่า"โปรแกรมอะไรที่ใช้ภาษาEgyptโบราณ" เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ก็เคยได้ยินจากเอ็งคนแรกนี่แหละ :lol:
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#191 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 17:29




คุณ ก็ ลองนึกดู ว่าสมัยอียิบ โบราณ ฟาร์โร ออกคำสั่งแล้วใครไม่ทำตาม คุณว่ามันจะมีผลเช่นไร มัน ก็ เหมือน ตอนคุณลงโปรแกรมให้เครื่อง ระบบการปกครองของฟาร์โร มันก็คือโปรแกรมที่ลงไว้ในสมอง ของประชาชนทุกคนอยู่แล้วครับ ลองใครไม่ทำตามคำสั่งฟาร์โร ก็มีผลแน่นอนมันก็เหมือน ไอ ซี ในคอมพิวเตอร์เสียงไม่ทำงานตามคำสั่ง ช่างก็ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอาไหล่ใหม่

ไม่ทราบว่า ภาษาอียิปต์โบราณสร้างมาเพื่อให้ฟาโรห์สั่งการหรือครับ อันนี้มั่วแล้ว ผมบอกคุณว่า ภาษาส่วนหนึ่งนั้นใช้สั่งการ แต่อีกหลายส่วน(ซึ่งเป็นส่วนมากเสียด้วย) ใช้ในการสื่อสารและแสดงออก ซึ่งต่างจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อสั่งอย่างเดียวเท่านั้น และการตอบสนองก็ต้องเป็นไปตามคำสั่งด้วย ฟาโรห์มันจะมาโปรแกรมสมองคนได้ยังไงครับ อย่างนี้คิดเอาเองล้วนๆเลย

กำ มั่ว ซะงั้น หรอคุยมาต้องนาน งั้นคุณรู้ไหมว่า ภาษานี้สร้างมาเพื่ออะไร คุณ ลอง คิดถึง สัญาลักษ์ต่างๆดูเอาสิว่าคุณจะรู้สึกแบบไหนเมื่อคุณเห็นสัญาลักษ์นั้นๆมันง่ายที่คุณจะทดลอง กับตัวคุณ ก็ที่คุณจะแย้ง ทำไมต้องจอง จะขวาง ตลอด ด้วยละ มันเป็นโปรแกรมที่ถูกลงไว้หรอ


ผมถามคุณนะ
๑ ภาษาพวกนี้ ฟาโรห์ใช้คนเดียวหรือครับ
๒ ภาษาพวกนี้ ใช้ออกคำสั่งอย่างเดียวหรือครับ

ถ้าไม่ใช่ ข้อเสนอของคุณก็จบแล้วครับ คุณอ้างเองว่ามันใช้สั่งการเหมือนคอมพิวเตอร์
ถ้ามันใช้อย่างอื่น มันก็ไม่ใช่แล้วครับ มันใช้บันทึกเหตุการณ์ แค่นี้ก็ไม่ใช่แล้ว ผมบอก
แล้วว่าภาษานั้นมันใช้เพื่อสื่อสาร การสั่งการมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

ถ้าจะไม่เข้าใจจริงๆ จะ จบๆก็จบครับมิมีปัญาหาครับ
คนเรานี้ก็แปลก สื่อสารกับสั่งการ มันต่างกันตรงไหนบ่างละครับ งง จัง ในเมื่อเป้าหมายคือเหตุผลเดี่ยวกัน


การสื่อสารคือ ทำให้อีกฝ่านเข้าใจในสารที่สื่อออกไป

การสั่งการคือ การออกคำสั่ง ให้ปฎิบัติตาม

ต่างกันนะ ทั้ง จุดประสงค์ และ เป้าหมาย

ผมว่าคุณคิด ดูอีกที่ก่อนจะพิมย์จะดีกว่า ว่า ภาษา ถูกคิดขึ่นมาเพื่ออะไรบ่าง และใช้ทำอะไรได้
ว่าแต่ ท่าน เพริงสีนิจ ถ้า เถียงสู้ผมไม่ได้จะหาเรื่องด่าผมอีกป่าว


ผมตอบไม่ตรงคำถามหรือ
ขยายความให้แล้วนะ ว่า การสื่อสาร กับ สั่งการ มันต่างกันตรงไหน
ถ้าคิดว่าไม่ถูกก็ บอก มาว่าไม่ถูกตรงไหน

ส่วนหาเรื่องด่าหรือไม่ คุยมาดี ผมก็คุยดีด้วย เท่านั้น

Edited by เพลิงสีนิล, 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 17:29.

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#192 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 17:31

ถ้าจะไม่เข้าใจจริงๆ จะ จบๆก็จบครับมิมีปัญาหาครับ คนเรานี้ก็แปลก สื่อสารกับสั่งการ มันต่างกันตรงไหนบ่างละครับ งง จัง ในเมื่อเป้าหมายคือเหตุผลเดี่ยวกัน


สมมุติว่าผมอ่านวรรณกรรมเรื่องพระอภัยมณี ไม่ทราบว่าสุนทรภู่ "สั่ง" อะไรผมหรือครับ คุณตอบได้มั้ย เผื่อผมจะเห็นด้วยกับคุณนะ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#193 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 18:47

เรื่องภาษา รูปแบสัณญาลักษ์ ผมว่ามันเจ๋ง ดีครับ มันมีประสิทย์ภาพสูงดี หนึ่งสัณญาลักษ์ มันทำได้หลายความคิดและเป็นระบบขั้นตอนคิดแบบรอบครอบไม่มีความผิดพลาด มันถึง ถูกนำมาใช้ในภาษาคอมพิวเตอร์ และการทำให้คอมพิวเตอร์รับคำสั่งภาษาได้เราก็ต้อง สอน ภาษาให้มันเพื่อให้มันสื่อสารกับเราได้ และพอมันสื่อสารกับเราได้มันก็รับคำสั่งเราได้ เพื่อไปทำงานตามคำสั่ง จนทุกวันนี้ โปรแกรมอังกอริทึม ยัง ใช้ ภาษาสัณญาลักษ์ ในการสื่อสาร เป็นโปรแกรมที่ทันสมัยสุดในตอนนี้ ยังใช้เทคโนโลยีเดี่ยวกับภาษาอียิบโบราณ เลยครับ

เรื่องภาษาสัญลักษณะ ในการเขีั้ยนโปรแกรมอย่าง การใช้ logic gate ในการแทนคำสั่ง นี่มันก็มีข้อดีขอเสีย คือ การใช้ตัวสัญลักษณะแทนนั้นทำให้ไม่สามารถเขียนโปรแกรมที่มีความซับซ้อนมากๆ ได้ ซึ่งถ้าไปถามโปรแกรมเมอร์เอาจริงๆ logic gate program นั้นเป็น tool ตัวหนึ่งที่ช่วยในการกำหนดตรรกถูกผิด ในวงจร มี true กับ false เท่านัน หากไปทำงานกับ database ใหญ่ ที่ตัวแปรมีตรรกหลากหลาย การใช้ภาษาสัญลักษณะแทบเป็นไปไม่ได้ และถึงจะทำมันก็ต้องมีสัญลักษณะมากมาย จำกันไม่ไหว ยกตัวอย่างเช่น ภาษาจีนที่เป็นภาษาอักษรเดี่ยว มีความยุ่งยากกว่าการใช้ภาษาที่ใช้อักษรผสมเป็นคำ อย่างภาษาอักกฤษ ดังนั้นในการเรียนภาษาจีนจึงต้องมีการกำกับคำอ่านด้วยอักษรที่สามารถนำไปผสมคำได้ เรียนกว่า PINYIN เพื่อให้สามารถอ่านได้ถูกต้อง และจำได้ง่ายขึ้น

อ้างอิง http://www.jiewfudao...rticle&Ntype=16


ส่วนเรื่อง สมอง มนุษย์ ที่ผมเอามาอ้าง มันก็เรื่องจริงและครับ ว่า เราเอาระบบสมองส่วน หนึ่ง มาเป็นต้นแบบในการสร้างสมองกล
แต่เรื่องของจริตวิณญาณความรู้ศึก เราสร้างไม่ได้ ขนาดนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าจักกลชีวภาพ อาจมีใช่ในอนณาคต จาก
เทคโนโลยี ที่รักษารางกายมนุษย์ที่ เสีย แขน ขา จากอุบัติเหตุ ในต่างประเทศเค้ากำลังคิดทำเรื่องแขนกลขากลที่จะมาใช้แทนของจริงที่เสียไป ในอนาคตตั้งแต่พรุ่งนี้ไป เทคโนโลยี เป็นสิ่งสำคัญ มันคือความั่นคง ทั้งหมดของประเทศ เราไม่ต้องมีเทคโนโลยีไว้ขายหลอก
แต่เราจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีไว้ช่วยเหลือตัวเอง นี้คือความจำเป็นเร่งด่วน การมีเทคโนโลยี คือมีคนมีความรู้ความสามาร
ที่สามารคิดและสร้างเทคโนโลยี ของตัวเองได้


ย่อหน้านี้ว่ากันด้วยเรื่อง คอมฯ กับสมอง ที่ไล่ดูจากเม้นแรกๆ ที่โดนสมาชิกท่านอื่นแย้งเพราะไม่ได้ใส่คำว่าส่วนหนึ่งของสมองเข้าไปด้วย และ ถ้าจะว่ากันไปคอมพิวเตอร์เองในยุคแรกๆ ก็ไม่ได้เรียนแบบมาจากสมอง แต่มันเรียนแบบมาจากลูกคิด ของจีนต่างหาก ในยุกแรกของคอมฯ ใช้หลอดสูญญากาศในการประมวลผล มันทำได้เพียงการคำนวณง่ายๆ เท่านั้น เพราะหลอดสูญญากาศมีราคาต้นทุนสูง และมีข้อจำกัดเกี่ยวกัพลังงานที่ต้องใช้ โดยใช้หนึ่งหลอดแทนหนึ่ง bit มีค่าได้เป็น 0 กับ 1 เท่านั้น เช่นใช้หลอดสูญญากาศ 8 อันแทน 8 bit 10010010 = 146 เป็นต้น ส่วนการจะเอาไปคำนวณก็นำเอา ค่าเลขฐานตัวนี้ ไปทำการ and or xor หนุมบิตซ้าย หมุนขวา ตามสูตรการคำนวณ กับข้อมูลใหม่ที่ป้อนเข้ามา

แล้ว คอมฯ ถูกนำไปเทียบกับสมองตอนไหน คือ หลังจากที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไป มีการพัฒนา core ในการประมวลผลที่ทำได้เร็วขึ้น หลากหลายขึ้น และมีการเกิดขึ้นของหน่วยความจำ เป็น ram และ disk คอมฯ สามารถบันทึกคำสั่ง และ ประมวลผมได้หลากหลาย จึงเปรียบ หน่วยประมวลผลกลาย(CPU) ว่าเป็นสมองกล

อ้างอิง http://pioneer.chula...99/histcom.html ย่อหน้าสอง

สิ่งนี้ คือสิ่งที่ขาดหายไปจากสังคมไทย รัฐบาล ไม่เคยสนับสนุนจริงจัง กับเรื่องพวกนี้
ตัวอย่างง่ายๆ ประเทศที่มีเทคโนโลยีสูงจะสามารลด การขาดดุลการค้าได้เพราะไม่จำเป็นต้องนำเข้าเทคโนโลยี และสามารเพิ่มมูลค่าสินค้าตัวเองได้ จาก เทคโนโลยี ที่คิดเอง แต่ สังคมโลกมีแต่เทคโนโลยี ที่ทำลายโลกมากกว่า รักษาโลก เราจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการสรา้งคิดค้นเทคโนโลยี อาหาร น้ำ และเทคโนโลยี จักกล สมองกล ที่ ผสมเข้ากับธรรมชาติ ได้ดีที่สุด เทคโนโลยีแบบนี้ มีตัวอย่างมากมาย
ปลูกผักไร้ดิน อรแกรนิค นาโน แต่ปัญหา คือมันยังพัฒนาได้ไม่ เต็มที่ เราเป็นตัวแทนผู้ส่งออกรถยนต์มากี่ชาติแล้วเราไม่เคยมีรถยต์แบรน์ไทย
ที่นิยมใช้ในประเทศเลย ค่านิยยมแบบนี้มันไม่มีเลย ทั้งที่เราสร้างรถยนต์ได้เอง หรือ สร้างเครื่องยนตร์ ไม่ได้เพราะรับจ้างประกอบอย่างเดี่ยว
แล้วทำไมเราถึงไม่สรางเครื่องยนต์เองสักที่( ไม่เข้าใจ อันนอกประเด็น)


เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ในบ้านเรา คงไปโทษรัฐ ฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกครับ รากฐานของปัญหาคือ สังคมไทยเลือกที่จะเชื่อมากกว่าคิด และ ทดลอง หลักการและเหตุผลต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์เกิดจากการ คิด และ ทดลอง ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนได้ข้อสรุปที่อยู่บนพื้นฐานของความจริง หลักการเหล่านี้ต้องอาศัยเวลา และความอดทน

ส่วนเรื่องค่านิยม จะให้ใครสร้างละครับ ค่านิยมสังคมเป็นคนกำหนด ดูจากเด็กที่ Ent ก็ได้ ส่วนใหญ่เลือกคณะ วิศวะ แพทย์ แต่ วิทย์ และ คณิต กลับต้องง้อให้เขาไปเรียน เพราะอะไร เพราะรายได้ที่ได้มันต่างกัน คนเป็น แพทย์ เงินเดือนเท่าไร นักวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เรียนกันเลือดตากระเด็น จบมาหางานยาก

อ้างอิง http://jusci.net/node/1623

ส่วนเรื่องกระทู้ผมๆ ว่าผมตอบด้วยเหตุและผล ชัดเจน แต่แค่ พวกคุณต้องคิดแบบไม่ยึดติดกับหลักวิชาการ ที่คุณหาข้อมูลมา
แต่คุณต้องคิดมันในรูปแบบของระบบธรรมชาติ เปิดรับความจริงว่าทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนแล้วมีจุดเริ้มต้นจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ่นหรือมนุษย์ สร้างขึ่น ล้วนมี บรรทัดฐานจากธรรมชาติเป็นหลักถ้าคุณเอาหลักวิชาการมายึดติด มันก็จะได้แต่อัคติที่เกิดจากความคิดที่
ไม่เข้าใจ เพราะจะเข้าไม่ถึงระบบที่แท้จริงระบบที่เกิดมาพร้อมโลกนี้ คือความเป็นจริงที่สุด


เรื่องกระทู้ของคุณเขียนมาด้วยเหตุผล ก็เป็นการดีครับ ที่สมาชิกในเสรีไทยจะเสวนาด้วย ส่วนเรื่องพิมพ์ผิด พิมพ์ถูก คงไม่ไปว่ากันอีก หลังจากอ่านกระทู้นี้แล้ว ก็ยังมีครับคำผิด แต่ตั้งใจพิมพ์มาให้ถูกถือว่าเป็นเรื่องดี ภาษาไทย เป็นคนไทยต้องพยายามใช้ให้ถูกต้อง นี่ถึงเรียกว่าเป็นไทยแท้

ส่วนเรื่องหลักการกับธรรมชาติมันเป็นของคู่กัน อย่างที่ผมอธิบายไปแล้ว ยืดติดหรือไม่ดูที่เหตุและผล ผมว่าผมก็ไม่ได้อตติ คุณยกตัวอย่างมาถ้าผมคิดต่างหรือมีเหตุผลที่แตกต่างผมก็แย้งไปก็เท่านั้นเพราะความรู้ ความเข้าใจที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน เอามาคุยกัน มาแชร์กัน ไม่ได้แปลกอะไร ผิดก็ว่านั่นผิด แล้วอย่างไหนถูกก็มาอธิบายกัน


[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#194 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:41

ถ้าจะไม่เข้าใจจริงๆ จะ จบๆก็จบครับมิมีปัญาหาครับ คนเรานี้ก็แปลก สื่อสารกับสั่งการ มันต่างกันตรงไหนบ่างละครับ งง จัง ในเมื่อเป้าหมายคือเหตุผลเดี่ยวกัน


สมมุติว่าผมอ่านวรรณกรรมเรื่องพระอภัยมณี ไม่ทราบว่าสุนทรภู่ "สั่ง" อะไรผมหรือครับ คุณตอบได้มั้ย เผื่อผมจะเห็นด้วยกับคุณนะ

นิทาน กับสิ่งที่ใช่อยู่ในปัจุบันมันเทียบกันได้ไหมละครับ แล้วอีกอย่างมันไม่สำคัญที่คุณจะเชื่อหรือไม่ สิ่งสำคัญคือการแลกเปลี่ยนความคิด ทุกอย่างมันก็เรื่องจริงทั้งหมดมีอันไหนที่ผมโกหก ก็ว่ามาได้ ครับ ชี้ชัดมาได้เลยครับ

#195 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:57


ถ้าจะไม่เข้าใจจริงๆ จะ จบๆก็จบครับมิมีปัญาหาครับ คนเรานี้ก็แปลก สื่อสารกับสั่งการ มันต่างกันตรงไหนบ่างละครับ งง จัง ในเมื่อเป้าหมายคือเหตุผลเดี่ยวกัน


สมมุติว่าผมอ่านวรรณกรรมเรื่องพระอภัยมณี ไม่ทราบว่าสุนทรภู่ "สั่ง" อะไรผมหรือครับ คุณตอบได้มั้ย เผื่อผมจะเห็นด้วยกับคุณนะ

นิทาน กับสิ่งที่ใช่อยู่ในปัจุบันมันเทียบกันได้ไหมละครับ แล้วอีกอย่างมันไม่สำคัญที่คุณจะเชื่อหรือไม่ สิ่งสำคัญคือการแลกเปลี่ยนความคิด ทุกอย่างมันก็เรื่องจริงทั้งหมดมีอันไหนที่ผมโกหก ก็ว่ามาได้ ครับ ชี้ชัดมาได้เลยครับ


ก็คุณอ้างว่าภาษาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ "สั่งการ" นี่ครับ ผมก็แย้งว่ามันแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เป็นหน้าที่ของภาษา ส่วนมากแล้วภาษาคือการสื่อสาร ไม่จำเป็นต้องเป็นคำสั่งเสมอไป ผมแย้งคุณตรงนี้อยู่ไงครับ

สุนทรภู่เขียนวรรณกรรมด้วยภาษา ซึ่งใช้สัญลักษณ์คือตัวอักษรในการสื่อความหมาย สำหรับผม นี่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวในจินตนาการ ไม่ได้มีการ "สั่ง" ไดๆ กับผมทั้งสิ้นนี่ครับ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#196 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 22:18

สุนทรภู่เขียนวรรณกรรมด้วยภาษา ซึ่งใช้สัญลักษณ์คือตัวอักษรในการสื่อความหมาย สำหรับผม นี่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวในจินตนาการ ไม่ได้มีการ "สั่ง" ไดๆ กับผมทั้งสิ้นนี่ครับ
ผม ไม่รู้หลอกครับว่ามัน บอกเล่าหรือ อะไร มันไม่สำคัญตรงไหนเลยครับ สำหลับผม
แค่ คุณ คิดว่า ภาษาที่ใช้เขียนสุนทรภู่ เป็นภาษา แบบไหน แล้วภาษาสัณญาลักษ์แบบอียิบ มันมีวิธีการ หรือการดำเนินงานที่แตกต่างกัน เขียนเพื่อบอกเล่า กับเขียนเป็นบัญณัตไว้มัน
คงสถานะไว้ในตัวเองนะครับ

#197 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 18:05

สุนทรภู่เขียนวรรณกรรมด้วยภาษา ซึ่งใช้สัญลักษณ์คือตัวอักษรในการสื่อความหมาย สำหรับผม นี่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวในจินตนาการ ไม่ได้มีการ "สั่ง" ไดๆ กับผมทั้งสิ้นนี่ครับ
ผม ไม่รู้หลอกครับว่ามัน บอกเล่าหรือ อะไร มันไม่สำคัญตรงไหนเลยครับ สำหลับผม
แค่ คุณ คิดว่า ภาษาที่ใช้เขียนสุนทรภู่ เป็นภาษา แบบไหน แล้วภาษาสัณญาลักษ์แบบอียิบ มันมีวิธีการ หรือการดำเนินงานที่แตกต่างกัน เขียนเพื่อบอกเล่า กับเขียนเป็นบัญณัตไว้มัน
คงสถานะไว้ในตัวเองนะครับ


สนุทรภู่ใช้ภาษาไทยครับ เป็นภาษาแบบอักษรผสม ที่มีรากฐานมาจากบาลี และ สันสกฤต วิธีเขียนเป็นแบบ โครงสุำภาพ มีสัมผัสนอก สัมผัสใน ตามรูปแบบ

ภาษาสัญลักษณ์แบบอียิปโบราณ เป็นภาษาอักษรเดี่ยว หนึ่งตัวอักษรแทนหนึ่งความหมาย มีรากฐานจากการวาดภาพ

อันนี้อธิบายให้แล้ว



ส่วนที่ผมยังติดใจและอยากให้อธิบายให้หน่อย คือ โคฉาด มันเป็นภาษาแบบไหน เอาตัวอย่างมาให้ดูหน่อย

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#198 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 18:06

เขียนโปรแกรมมาตั้งหลายปี ไม่เคยได้ยิน ช่วยเอามา อธิบายให้ฟังหน่อยครับ อยากรู้จริงๆ

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#199 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 18:48


สุนทรภู่เขียนวรรณกรรมด้วยภาษา ซึ่งใช้สัญลักษณ์คือตัวอักษรในการสื่อความหมาย สำหรับผม นี่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวในจินตนาการ ไม่ได้มีการ "สั่ง" ไดๆ กับผมทั้งสิ้นนี่ครับ
ผม ไม่รู้หลอกครับว่ามัน บอกเล่าหรือ อะไร มันไม่สำคัญตรงไหนเลยครับ สำหลับผม
แค่ คุณ คิดว่า ภาษาที่ใช้เขียนสุนทรภู่ เป็นภาษา แบบไหน แล้วภาษาสัณญาลักษ์แบบอียิบ มันมีวิธีการ หรือการดำเนินงานที่แตกต่างกัน เขียนเพื่อบอกเล่า กับเขียนเป็นบัญณัตไว้มัน
คงสถานะไว้ในตัวเองนะครับ


สนุทรภู่ใช้ภาษาไทยครับ เป็นภาษาแบบอักษรผสม ที่มีรากฐานมาจากบาลี และ สันสกฤต วิธีเขียนเป็นแบบ โครงสุำภาพ มีสัมผัสนอก สัมผัสใน ตามรูปแบบ

ภาษาสัญลักษณ์แบบอียิปโบราณ เป็นภาษาอักษรเดี่ยว หนึ่งตัวอักษรแทนหนึ่งความหมาย มีรากฐานจากการวาดภาพ

อันนี้อธิบายให้แล้ว



ส่วนที่ผมยังติดใจและอยากให้อธิบายให้หน่อย คือ โคฉาด มันเป็นภาษาแบบไหน เอาตัวอย่างมาให้ดูหน่อย

หาเอาเองครับ ขี้เกียดหาอ่ะครับ ถ้าไม่เข้าใจ ก็ปล่อยมันไป ว่าเห็นข้อแตกต่างหรือยังครับว่า 2 ภาษานั้นมีข้อแตกต่างยังไง

#200 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 18:52



สุนทรภู่เขียนวรรณกรรมด้วยภาษา ซึ่งใช้สัญลักษณ์คือตัวอักษรในการสื่อความหมาย สำหรับผม นี่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวในจินตนาการ ไม่ได้มีการ "สั่ง" ไดๆ กับผมทั้งสิ้นนี่ครับ
ผม ไม่รู้หลอกครับว่ามัน บอกเล่าหรือ อะไร มันไม่สำคัญตรงไหนเลยครับ สำหลับผม
แค่ คุณ คิดว่า ภาษาที่ใช้เขียนสุนทรภู่ เป็นภาษา แบบไหน แล้วภาษาสัณญาลักษ์แบบอียิบ มันมีวิธีการ หรือการดำเนินงานที่แตกต่างกัน เขียนเพื่อบอกเล่า กับเขียนเป็นบัญณัตไว้มัน
คงสถานะไว้ในตัวเองนะครับ


สนุทรภู่ใช้ภาษาไทยครับ เป็นภาษาแบบอักษรผสม ที่มีรากฐานมาจากบาลี และ สันสกฤต วิธีเขียนเป็นแบบ โครงสุำภาพ มีสัมผัสนอก สัมผัสใน ตามรูปแบบ

ภาษาสัญลักษณ์แบบอียิปโบราณ เป็นภาษาอักษรเดี่ยว หนึ่งตัวอักษรแทนหนึ่งความหมาย มีรากฐานจากการวาดภาพ

อันนี้อธิบายให้แล้ว



ส่วนที่ผมยังติดใจและอยากให้อธิบายให้หน่อย คือ โคฉาด มันเป็นภาษาแบบไหน เอาตัวอย่างมาให้ดูหน่อย

หาเอาเองครับ ขี้เกียดหาอ่ะครับ ถ้าไม่เข้าใจ ก็ปล่อยมันไป ว่าเห็นข้อแตกต่างหรือยังครับว่า 2 ภาษานั้นมีข้อแตกต่างยังไง


เพราะผมคิดว่าคุณ พิมพ์ ผิด มากกว่า

การเอา โคฉาด มาทิ้งไว้เฉยๆ ตรงนี้ จะดีหรือครับ

ข้อแตกต่างอยู่ตรงนี้ครับ


ตรงที่ว่า รู้จริง หรือ รู้ไม่จริง อะครับ

รู้จริง สามารถอธิบายได้ คำว่าขี้เกียจ นี้ ฟังแล้วมันตลก

ไม่รู้ หรือ ว่าพิมพ์มาผิด ก็บอกมาเถอะ ครับ

ไม่ต้อง อาย

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]