สำหรับ เรา มอง การบริหารบ้านเมือง เหมือน การ บริหาร ธุรกิจ นะ
ส่วน การเลือก รัฐบาล ก็ เหมือนกับการ เลือก ซีอีโอ มา บริหารบริษัท ที่เรา มีหุ้นส่วนอยู่
และ การโกง การยักยอกทั้งหลาย ก็ เหมือน การโก่งค่าตัว
เรียกค่า คอมมิซชั่นเพิ่ม ของ ซีอีโอ ที่เก๋าประสบการณ์ อ่ะนะ
ฉะนั้น ถ้า ซีอีโอ มีผลงานเข้าตา ถึงจะ โก่งค่าตัวอัพ ค่า คอม ฯ เราก็ไม่มายด์ หรอกนะ
ตราบเท่าที่ ผลประโยชน์ ของ เรา กับ เหล่า ซีอีโอ ยัง วินวิน ด้วยกัน ทั้ง 2 ฝ่าย
ซีอีโอ บริหารแล้ว บริษัท ได้
ผลกำไร สุทธิ สูง คุ้มค่าต่อการเสี่ยงลงทุนด้วย
( พิจารณาได้จาก เรา ได้รับการดูแล ให้ มีชีวิตเป็น ปกติสุข ที่สะดวกสบาย จาก นโยบาย ประชานิยม ฯลฯ )
หากได้งี้ มันก็ คุ้มกับ ภาษีที่เรายอมจ่ายให้มันเอาไปโกงกินนะ
แต่ถ้า มี ซีอีโอ ห่วย ๆ ค่าแรงถูก มีแต่ความดี ทว่าขาดไม่มีฝีมือในการบริหาร
สร้าง นโยบายประชานิยม ให้เราพอใจ ไม่ได้ เรา จะเก็บ มันไว้ ทำผัว ทำไมล่ะคะ ?
เวลา จะ พิจารณา เรื่องพรรณนี้ น่ะ เขาดูที่ ผลประกอบการ เป็นหลัก
( เชคจาก กำไรขาดทุน สุทธิ
ที่มีผลกระทบต่อตัวเองโดยตรง นะ ไม่ใช่ ดูจาก นามธรรมหลักลอย )
จะยกตัวอย่าง ให้เห็นภาพนะ
เรา ลงทุน จ้าง ซีอีโอมา ในราคา 10 บาท เท่ากัน
ซีอีโอ P. บริหารงาน ให้ กำไรกับบริษัท 30 บาท
แล้วไม่ยักยอก ผลกำไรเลย เราจะได้กำไรสุทธิ 30 บาท
ส่วน ซีอีโอ P ได้ค่าแรง 10 บาท
ซีอีโอ M. บริหารงาน ให้ กำไรกับบริษัท 50 บาท
แล้วยักยอก ผลกำไรไป 10 บาท เราจะได้กำไรสุทธิ 50-10 =40 บาท
ส่วน ซีอีโอ M จะได้ค่าแรง 10+10 = 20 บาท
ซีอีโอ T. บริหารงาน ให้ กำไรกับบริษัท 70 บาท
แล้วยักยอก ผลกำไรไป 20 บาท เราจะได้กำไรสุทธิ 70-20 =50 บาท
ส่วน ซีอีโอ M จะได้ค่าแรง 10+20 = 30 บาท
ถ้าเป็น คุณ คุณจะเลือก ซีอีโอ แบบไหนล่ะ ?
ด้วย สามัญสำนึก ของ
ปุถุชนก็ย่อม ต้องเลือก ซีอีโอ ที สร้างผลกำไร ให้คุณได้มากที่สุด อ่ะดิ
นักลงทุน วีไอ ในตลาดหุ้น น่ะ เขาไม่มายด์ หรอกนะ ว่า
ซีอีโอ คนไหน มันจะ เคราะห์หามยามซรวย เจอ วิกฤติเศรษฐกิจ
และ ต้องเผชิญ ข้อ จำกัด ในการบริหารงาน ยังไง บ้างแต่เขา สนใจ แค่ว่า ซีอีโอ คนไหนมีศักยภาพ สามารถ
ทำกำไร ให้เขาได้มากที่สุด และไม่ทำให้เขาขาดทุนเขาก็จะเลือก ซีอีโอ คนนั้น ล่ะนี่แหล่ะ โลกของ ธุรกิจของการทำมาค้าขาย ล่ะ เข้าใจ๋ ?
ดังนั้น มันจึง ไม่แปลกหรอกนะ
ที่ พรรคเพื่อไทย จะได้ใจ มวลมหาประชาชน ทุกครั้ง ที่เลือกตั้ง
อย่าลืมนะ ว่า แคมเปญ ประชานิยม ทั้งหลาย น่ะ มันมาจาก พรรคไหน เป็นต้นคิด ?
เราเองก็ ผ่านร้อน ผ่านหนาว มาหลาย รัฐบาลแล้วนะ
แต่ ที่ เราสังเกต เห็น ได้ชัด ๆ ก็คือ ในสมัย ของ ซีอีโอ ที่ชื่อ ทักกี้
เรา เสียเงินลงทุนกับ รัฐบาลนี้ (จ่ายภาษี) น้อยลง
ทว่าได้ กำไร ( ความสะดวกสบายทั้งหลาย ) มากมายนะ
ชนิดที่ว่า ต่างจาก ตอน ชวน กับ ม้าก เป็น รัฐบาล แบบ หน้ามือ กับ หลังตรีน เลยว่ะ
ภาษี ก็จ่ายน้อยลง การติดต่อราชการก็มีบริการที่ สะดวกสบาย มากขึ้น
ไม่ต้องไปเฝ้าแหนกราบกราน เหมือนขอทาน เจอการทำงานแบบเช้าชามเย็นชามเวลาไปติดต่อธุระราชการ
เศรษฐกิจก็ โอเค เฟื่องฟูสุด ๆ ตั้งแต่ มี รัฐบาลมา มีแต่ รัฐบาลทักกี้ เท่านั้นมั้ง
ที่มี เครดิตในการบริหาร โอเค สุด ในสายตาเรา
อ้อ ถ้าไม่มี ทักกี้ โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ก็คงไม่มี ด้วยอ่ะ
( อืม....จริง ๆ โครงการนี้ ดีกับ ชาวบ้านรากหญ้า ส่วนใหญ่ นะ
แต่ มันทำให้ศักดินา อย่างเรา เหนื่อยว่ะ คนไข้เยอะอิ๊บอ๋าย โหลดงานตรึมเลย
แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ แม้คนโรงหมอ อย่างเราจะเสียประโยชน์จากการณ์นี้ ไปบ้าง
แต่ ถ้า ส่วนรวม คือ ชาวบ้าน เค้าได้ ลืมตาอ้าปาก พ้นจาก ทุกขโรค ได้มากขึ้น เราก็ยินดีจร้าา )
ซึ่ง ถ้า ไม่มี ทักกี้ มา จุดประกาย โรงการ ประชานิยม เหล่านี้
บอกตรง ๆ เลยว่า น้ำหน้า อย่าง ปชป. อ่ะนะ ก็คงไม่มี ปัญญาจะ คิด ได้หรอกนะ
พรรคนี้ มันพวก อนุรักษ์นิยม ( แปลว่า ดักดาน ) ไม่ใช่พวกหัวก้าวหน้า
อนึ่ง ถ้า บริษัท นั้น เป็น บริษัท ของเรา คนเดียว มันก็คง ตัดสินใจ ได้ง่าย
แต่ถ้า ถ้า คุณ กับเรา และ คนอีก 60 ล้าน คน มี หุ้นใน บริษัท คนละ 1 หุ้น เท่า ๆ กัน ล่ะ
แต่คุณ อยากให้ ด.ช. ม้าก เป็น ซีอีโอ บริหาร บริษัท มากกว่า เฮีย ทักกี้
ส่วนเรา อยากให้ เฮีย ทักกี้ เป็นซีอีโอ มากกว่า ดช.ม้าก ล่ะ
แล้วงี้ จะเอา ใครมาเป็น ซีอีโอ มาบริหารงาน ในบริษัท ได้ล่ะ ถึงจะ โอเค ที่สุด
ถ้าเป็น เรา อ่ะนะ เราก็จะใช้วิธี ให้ ผู้ถือหุ้นทุกคน ในบริษัทมหาชน
โหวตเลือก ซีอีโอ จาก ข้อมูลด้าน ผลประกอบการ ที่ มีอยู่ ในมือนะ
ส่วนผล โหวต จะเป็นไง ถูกใจเราหรือไม่ คนที่มีสามัญสำนึกบกพร่อง อย่างเรา
ก็พร้อมที่จะ ยอมรับ ฉันทามติ ของ มวลมหาประชน ตัวจริง อ่ะ ไม่ใช่ เอาแต่ใจตัวเองแล้วผู้มี สามัญสำนึก บริบูรณ์ดี อย่างคุณล่ะ ?
คุณ เลือกที่จะ เคารพเสียงส่วนใหญ่ แบบเดียวกับเราไหม
และถ้าไม่ คุณจะทำอย่างไร ไหนลองบอกหน่อยดิ๊
ได้โปรด สำแดง สามัญสำนึก เฉกเช่น วิญญูชนพึงมี ของ คุณให้เราได้รับชมด้วยเถิดค่ะ